LG 32GP850-B UltraGear สนุกทุกแนวเกม 32″ NANO IPS 165Hz สีสดใส รองรับ HDR มี G-Sync
LG 32GP850-B UltraGear จอเกมมิ่งสำหรับคอเกมไซส์ใหญ่พิเศษ 31.5″ ที่ให้อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz บนความละเอียด 1440p หรือ 2K และเทคโนโลยี Nano IPS ให้ภาพที่คมชัดสีสันสดใส ขอบจอบางเฉียบทั้ง 3 ด้าน และค่า DCI-P3 98% เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานให้กับเหล่านักสร้างคอนเทนต์ด้วยขอบเขตสีที่กว้างมากขึ้น รองรับ HDR10 กับมิติของสีสันที่ลึกล้ำ และการสนับสนุน nVIDIA G-Sync รวมถึง AMD FreeSync Premium กับการดีไซน์ที่ล้ำสมัย โดดเด่น ให้การปรับแต่งที่ง่ายดาย ผ่านทางปุ่มด้านหลังจอ ปรับเลื่อนระดับของจอภาพได้ตามต้องการ รวมถึงการปรับ Pivot ได้แบบ 90 องศา เหมาะกับคอเกมที่เล่นได้ในทุกแนว ทั้งภาพ ความละเอียด รวมถึงการตอบสนองที่เร็วเช่นนี้ จะช่วยให้การเล่นเกมสนุกขึ้นอย่างไร ไปติดตามชมกันครับ
LG 32GP850-B UltraGear จอเกมมิ่ง 2K 144Hz
จุดเด่น
- จอภาพขนาดใหญ่ถึง 31.5″
- ให้อัตรารีเฟรชเรตสูง 165Hz
- ปรับเลื่อนจอได้หลายรูปแบบ
- รองรับ nVIDIA G-Sync
- ขอบจอบาง ให้ภาพได้เต็มตา
- เหมาะทั้งเกม Action FPS และ MOBA
- OSD ปรับได้ค่อนข้างละเอียด
- รองรับ HDR สีสดใส
ข้อสังเกต
- ปรับหันซ้ายขวาไม่ได้
- Game Mode มีให้เลือกไม่มาก แต่มีให้ตั้งค่าและบันทึกไว้ใช้เอง
Specification
LG 32GP850-B UltraGear | |
Display size | 31.5 Inch |
Aspect Ratio | 16:9 |
Panel Type | IPS |
Color Gamut (Typ.) | DCI-P3 98% (CIE1976) |
Response Time | 1ms |
Resolution | 2560 x 1440 |
Brightness (Typ.) | 350 cd/m² |
Viewing Angle | 178º(R/L), 178º(U/D) |
FEATURES | HDR 10, Black Stabilizer, RADEON FreeSync™ |
CONNECTIVITY | HDMI, DisplayPort, Headphone out |
Display Position Adjustments | Tilt/Height/Pivot |
Dimension with Stand | (W x H x D) 714.7 x 600.3 x 292.1 |
Weight with Stand | 7.2Kg |
Price | 17,990 บาท |
Unbox
สำหรับใครที่เคยได้เห็นกล่องแพ๊คเกจของจอค่ายนี้ อาจจะแปลกตาไปบ้าง สำหรับ UltraGear ในรุ่นนี้ เพราะทาง LG ใส่ความเป็นเกมมิ่งมาอย่างชัดเจน พร้อมกับโลโก้ที่ดูสะดุดตา
แกะกล่องดูอุปกรณ์ที่อยู่ภายในกัน เริ่มตั้งแต่จอภาพขนาด 31.5″ ที่มาพร้อมกับขาตั้งในแบบ 4 เหลี่ยม และมีตัวล้อคเข้ากับด้านหลังของจอ และสุดท้ายคือ ฐานในแบบ V shape ซึ่งขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก ต้องมาดูความมั่นคงหลังจากที่ประกอบเสร็จอีกครั้งหนึ่ง
ตัวฐาน LG ออกแบบมาได้ดีทีเดียว โดยเป็นก้านโลหะแบบตัว V ยื่นออกไปทางซ้าย-ขวา ด้านใต้มีวัสดุนุ่มคล้ายยาง เอาไว้ยึดเกาะกับพื้นโต๊ะ และน็อตที่ใช้ยึดกับขาตั้งจัดมาให้ถึง 2 ตัวด้วยกัน จึงมั่นใจได้ว่าไม่ทำให้ตัวจอสั่นคลอนได้ง่ายแน่นอน
อแดปเตอร์ของจอ LG รุ่นนี้ ขนาดกระทัดรัด ประมาณฝ่ามือเท่านั้น ในรุ่น ADS-65FAI-19 เป็นแบบ Input 1.5A และ Output 3.42A (19V) 64,98 W
บรรดาสายต่างๆ ที่มีมาให้ ประกอบด้วย DisplayPort, HDMI และ USB Type-B to Type-A
คู่มือแนะนำ และเอกสารประกอบการใช้งาน รวมถึงรายละเอียดของตัวจอที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
Install
การติดตั้งจอ LG UltraGear รุ่นนี้ ค่อนข้างง่ายทีเดียว เชื่อว่ามือใหม่หรือจะเป็นสุภาพสตรีก็สามารถติดตั้งเองได้ ไม่ซับซ้อน โดยเราจะเห็นช่อง สำหรับการต่อสายสัญญาณ และมี VESA Mount ในแบบ 100 x 100 มาให้ ตรงช่องนี้จะให้เราใส่แป้นที่เป็นขาตั้ง
แค่วางแป้นของขาตั้งในลงไปตรงช่อง ตามที่จัดวางพื้นที่มาให้ จากนั้นกดลงไปตรงๆ ให้ดัง “คลิ๊ก” ไม่ต้องใช้ไขควงหรืออุปกรณ์อื่นใด ลองขยับดูว่าแน่นหรือไม่ก็พอ
มาที่ฐานของจอกันบ้าง จากตรงที่ขาตั้งที่เราใส่ลงไปด้านหลังจอแล้ว ปลายอีกด้าน จะให้เราใส่ฐานของจอ ให้หันด้านที่เป็นขาที่กว้างออกไป ยื่นไปทางด้านหน้าของจอ จะมีช่องของน็อตไว้ให้เราใส่ได้พอดี แล้วหมุนน็อตที่ใต้ฐานของจอให้แน่นหนาทั้ง 2 ตัว เท่านั้น
เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการในการประกอบขาตั้งและฐานของจอ LG 32GP850-B รุ่นนี้ ไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ
และหลังจากที่ติดตั้งและประกอบเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมทำการตรวจเช็คความแน่นหนาในบริเวณที่เป็นจุดต่อพ่วง ไม่ว่าจะเป็นด้านหลังจอและตัวฐานให้แน่นหนา จากนั้นก็พร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว
Design
มาดูหน้าตาของเกมมิ่งมอนิเตอร์จาก LG รุ่นนี้กันก่อน จะเห็นได้ชัดว่า ขอบจอทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านบน และด้านซ้าย-ขวานั้น มีความบางเป็นพิเศษ โดยขอบด้านล่าง จะมีความหนาเล็กน้อย พร้อมโลโก้ LG และ nVIDIA G-Sync ทางด้านมุมขวาของหน้าจอ และขาตั้งที่ดูแน่นหนา
มุมด้านซ้าย-ขวา ความยาวของหน้าจออยู่ที่ประมาณ 72-72cm ถือว่าเป็นมิติที่อาจไม่ได้ใหญ่นัก เมื่อเทียบกับจอเกมมิ่ง 32″ ทั่วไป ด้วยการออกแบบทำให้ดูกระชับมากขึ้น
ขอบทั้ง 3 ด้านอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ว่าขอบด้านบนและซ้าย-ขวา บางเป็นพิเศษ ส่วนขอบด้านล่างหนาเล็กน้อย พร้อมโลโก้ LG และ nVIDIA G-Sync
ฐานเป็นรูปตัว V แบบที่นิยมใช้กันบนจอเกมมิ่งหลายๆ รุ่น ซึ่งทาง LG ใส่เป็นโทนสีดำ ตัดด้วยเส้นสายสีแดง ทำให้มีความเป็นเกมมิ่งมากขึ้น ความกว้างของขา V ที่กางออกมานี้ อยู่ที่ประมาณ 30cm
บริเวณด้านหลังของฐานมาพร้อมโลโก้ UltraGear ดูเป็นเอกลักษณ์ดีทีเดียว
ขยับมาด้านบนเล็กน้อย จะมีช่องเล็กๆ ซึ่งคาดว่าจะใช้ในการคาดสายไฟและสายสัญญาณ เพื่อไม่ให้รู้สึกเกะกะ เมื่อติดตั้งสายต่างๆ ลงไปบนตัวจอ
มิติของจอ ดูจากบริเวณด้านข้าง ค่อนข้างเรียบร้อย ให้ความบางและดูสอดคล้องกันดี โดยเฉพาะในเรื่องของสมดุล
เราวัดความบางของตัวหน้าจอมาให้ เอาเฉพาะขอบด้านนอก หนาประมาณ 2.4cm เท่านั้น
ด้านหลังทำออกมาได้ล้ำสมัยเลยทีเดียว ด้วยพื้นสีดำ ที่ตัดกับขอบโค้งสีแดง ที่เป็นเส้นโดยรอบ และมีจุดที่ใช้ติดตั้งพอร์ตแสดงผลในแบบต่างๆ รวมถึงพอร์ต USB อย่างไรก็ดี จอรุ่นนี้จะไม่ได้มาพร้อมแสงสี RGB แต่อย่างใด เน้นความเป็นเส้นสายที่ตัดกันได้อย่างลงตัว
บริเวณด้านหลังของจอ ไม่ใช่เป็นเพียงจุดที่ใช้ปรับเลื่อนเท่านั้น แต่ยังใช้ติดตั้งพอร์ตต่อพ่วงและการแสดงผลที่เป็น Input จากอุปกรณ์ต่างๆ อีกด้วย
พอร์ตต่อพ่วงอยู่ทางด้านหลังทั้งหมด ประกอบไปด้วย USB Type-B ที่ต่อเข้ากับ Type-A บนพีซี รับหน้าที่เป็น USB Hub ซึ่งมีพอร์ต USB Type-A มาให้ 2 พอร์ต และพอร์ตแสดงผล DisplayPort รวมถึง HDMI จำนวน 2 พอร์ต พร้อมทั้งแจ๊คหูฟังและ DC-in จากอแดปเตอร์
ต้องถือว่า LG จะค่อนข้างแตกต่างไปจากจอหลายรุ่นที่เราได้เคยทดสอบ เพราะเลือกที่จะวางพอร์ตให้เป็นแนว 90 องศา ไม่ได้เป็นระนาบเดียวไปกับตัวจอ ข้อดีที่เราเห็นได้ชัดก็คือ เวลาที่ติดตั้งสายสัญญาณ หรือพอร์ตต่างๆ ทำได้ง่ายมากๆ เพราะแทบจะไม่ต้องไปมุดดูว่า พอร์ตอะไรอยู่ตรงไหน หันจอกลับมาเล็กน้อย ก็พอจะเสียบได้ตรงพอร์ตแล้ว ตัดปัญหากวนใจ คนที่ต้องต่อสายบ่อยๆ ไปได้เยอะเลย
Adjustable
ในการปรับเลื่อนจอรุ่นนี้ พอจะให้ปรับกันได้อยู่บ้าง โดยเฉพาะการปรับความสูง-ต่ำและมุมก้ม-เงย (Tilt) โดยระดับความสูงจะปรับได้ประมาณ 11cm ดังจะเห็นได้จากภาพทางด้านบนนี้
มาเปรียบเทียบกับเคสคอมในแบบ mini-Tower กันบ้าง เมื่อปรับกดลงมาสุด เรียกว่าแทบจะติดพื้นล่างกันเลย ขอบล่างห่างจากพื้นโต๊ะประมาณ 7cm และ เมื่อปรับความสูงขึ้นไป ก็ราวๆ ครึ่งหนึ่งของเคส จะนั่งบนเก้าอี้หรือจะยืน ก็ใช้งานได้สะดวก
มองจากมุมด้านข้างกันบ้าง จะเห็นได้ว่าเมื่อปรับให้ต่ำลงสุด และปรับความสูงให้มากสุด มีความต่างมากพอสมควร
มาดูที่การปรับมุมก้ม-เงย (Tilt) กันบ้าง ในมุมก้มจะอยู่ประมาณ -5 และเงยได้ที่ระดับ 20 องศา อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ใครที่มีอิริยาบทในการใช้งานหลากหลายในแต่ละวัน ก็ใช้งานได้สะดวก
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลต์บนจอ LG UltraGear รุ่นนี้กันบ้าง นั่นคือ การปรับ Pivot 90 องศา ซึ่งให้ผู้ใช้สะดวกในการใช้งานมากกว่าการเล่นเกมเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพรีวิวภาพ ร่วมกับโปรแกรมแต่งภาพ หรือการท่องเว็บ ไปจนถึงการใช้วางฟุตเทจ สำหรับ Content Creator ที่ช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็วมากขึ้น แต่จะปรับได้เพียงทางเดียวเท่านั้น
ส่วนภาพรวมในการปรับเลื่อนบนจอ LG 32GP850-B รุ่นนี้ จัดว่าทำได้ค่อนข้างดี หากมองในแง่ของความสะดวก แต่ก็จะขาดอยู่เล็กน้อยก็คือ ไม่สามารถหันซ้าย-ขวาหรือ Swivel ได้เท่านั้นเอง แต่โดยส่วนตัวมองว่า ในจอเกมมิ่งขนาดใหญ่ ความละเอียดสูงแบบนี้ แทบจะไม่จำเป็น เพราะสามารถมองเห็นจากมุมด้านข้างได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว
OSD settings
ในการปรับตั้งค่า OSD settings บนจอ LG 32GP850-B UltraGear รุ่นนี้ ถือว่าเป็นการออกแบบที่จัดมาให้เกมเมอร์ได้ใช้งานกันอย่างเหมาะสมทีเดียว เพราะใช้เพียงนิ้วเดียวกด เลื่อน เลือก แค่นี้เลย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายค่าย หันมาใช้การปรับแต่งแนวนี้กันเยอะมากขึ้น โดยส่วนตัวมองว่า บางครั้งการจะต้องจดจำปุ่มหลายๆ ปุ่ม ว่าจะทำหน้าที่ Enter, Cancel, Up-Down หรือจะเป็น Left-Right อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ใครที่เคยใช้แบบอื่นมา อยากจะให้ลองใช้งานสิ่งนี้ เมื่อกดปุ่มลงไป เราจะเห็นเป็นหน้าแรก ตามภาพด้านบน นั่นคือ ถ้าเลื่อนขึ้นจะเป็นการกด Settings, เลื่อนลงมาจะ Exit ออกจากหน้านี้ ดันไปทางซ้าย จะเป็นตัวเลือก Input สัญญาณ และดันมาทางขวาจะเป็น Game Mode ในเบื้องต้น หากจะปรับแต่งสิ่งต่างๆ แนะนำให้เลื่อนไปที่ Settings
เมื่อเข้ามายังหน้าปรับแต่งแล้ว เมนูด้านบนจะรายงานสถานะว่า จอทำงานที่ 165Hz, ใช้งาน Adaptive-Sync ในโหมด Basic, และปิดการทำงาน HDR อยู่ รวมถึง Response Time อยู่ในโหมด Fast และปิด Motion Blur และ 1ms motion… ตรงนี้ เพื่อให้ภาพที่ได้คมชัดในทุกการเคลื่อนไหวนั่นเอง ไม่มีเงาหรือ Ghost มาปรากฏในการเล่นเวลาที่เคลื่อนไหวภาพในเกมอย่างรวดเร็ว
Crosshair
และในหน้านี้จะมีให้เลือก Game Mode เพื่อให้ใช้งานตามความเหมาะสมกับเกมที่คุณเล่น มีให้เลือกทั้ง Gamer 1 และ Gamer 2 ที่ให้คุณตั้งค่าแสงสีต่างๆ ได้ตามชอบ หรือถ้าใครชอบแนวแอ็คชั่น ก็มี FPS ให้เลือก ส่วนที่เป็น RTS สำหรับเกมวางแผน ที่ปัจจุบันจะมีตัวเลือกให้เล่นน้อยลง แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ไม่เสื่อมคลายหลายเกม และยังมี Vivid, Reader, HDR Effect และ sRGB สำหรับการทำงานและการสร้างคอนเทนต์ เช่น การทำวีดีโอเป็นต้น เพราะต้องบอกก่อนว่าจอ LG รุ่นนี้ แม้จะเป็นจอเกมมิ่ง แต่ก็มีค่า DCI-P3 สูงถึง 98% เลยทีเดียว ให้คุณนำมาใช้ในงาน Content Creator ได้ดีในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ FPS Counter หรือใช้ในการนับค่าเฟรมเรต หรือแสดงข้อมูล FPS ในระหว่างที่เล่นเกมได้อีกด้วย
ในหัวข้อ Picture Adjust ให้ปรับค่าความสว่าง ความคมชัด อุณหภูมิสีและ RGB ได้ครบเครื่อง แต่ต้องไม่อยู่ในโหมด Game Mode โดยเลือกปรับจากส่วนนี้ แล้วบันทึกค่าเอาไว้ใช้งานได้บน Gamer 1 และ Gamer 2
Input เป็นช่องทางในการเชื่อมต่อสัญญาณแสดงผลจากคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คเข้ามา ผ่านช่องทาง HDMI หรือ DisplayPort เป็นต้น แต่ไม่มีส่วนที่เป็น USB-C
และสุดท้ายก็คือ General หรือการปรับแต่งค่าทั่วไปของจอ ไม่ว่าจะเป็น ภาษา การตั้งค่าฮอตคีย์ ระยะการสแตนบายและอื่นๆ ค่อนข้างละเอียดพอสมควร
Performance
PUBG
ใครที่ชื่นชอบเกม PUBG นี้ บอกเลยว่า LG จัดมาให้เต็มๆ ในการเล่นได้อย่างสนุกสนาน ว่ากันตั้งแต่จอภาพขนาดใหญ่แบบนี้ ทำให้มองเห็นพื้นที่ในบริเวณต่างๆ ของจอภาพได้อย่างชัดเจน แนะนำว่าถ้าใช้กับคอมที่แรงอยู่ระดับหนึ่ง เปิดในโหมด 1440p หรือ 2K และเพิ่มค่า Render scale ในเกมไปให้สุด ส่วนเรื่อง Detail ให้ตั้งเป็น High แต่ถ้าแรงไม่พอได้ประมาณ 80fps ให้ลองตั้งเป็น Medium และเปิดการทำงาน G-Sync ในไดรเวอร์ของ nVIDIA จากนั้นตั้งค่า Adaptive Sync ของตัวจอ ก็จะได้ภาพที่สวย ลื่นและมองเห็นศัตรูที่อยู่ไกลได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
และใน OSD settings ให้เลือก Game Mode เป็น FPS ได้เลย แต่ถ้าอยากได้สีสดๆ โหมด HDR effect ก็ตอบโจทย์คุณได้เช่นกัน และอย่าลืมหากต้องการตัวช่วยในการเล็งหรือถ้าคุณเป็นสายสไนป์ ตั้งค่า Crosshair เอาไว้ด้วย เพิ่มจุดตัดของจุดเล็งยิงให้ชัดเจนมากกว่าเดิม เท่านี้ก็สนุกกับเกม PUBG นี้ได้อีกเยอะ
Battlefield V
สำหรับคอเกมแอ็คชั่นที่เล่นเกมแนวนี้ น่าจะได้สัมผัสประสบการณ์ดีๆ จากจอ LG 32GP850-B UltraGear ได้ไม่ยาก กับเกม Battlefield V นี้ ก็น่าจะเป็นตัวแทนของการเล่นเกมแอ็คชั่นในปัจจุบันได้ในหลายๆ เกม ไม่ว่าจะเป็น COD: Warzone, Day Light หรือจะเป็นแนวเกมเดียวกันอีกมากมาย ตัวอย่างเกมนี้ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์บนจอ LG UltraGear รุ่นนี้ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Crosshair, Black Stabilizer หรือจะเป็น HDR ก็ตาม ตัวอย่างภาพที่ปรากฏบนเกมนี้ ในเบื้องต้นเราเล่นเกมในโหมด FPS พื้นฐาน ภาพที่ได้ก็สวยงาม และให้รายละเอียดได้ดี ซึ่งเราตั้งความละเอียดไว้ที่ 1440p หรือ 2K และใช้ Detail: High เพราะได้ซีพียู Intel Core i5 และ RTX3060 ตัวแรง มารีดเฟรมเรต และแทบจะไม่ต้องเปิด V-Sync เราก็ได้ภาพที่ไหลลื่นสวยงามในการเล่น แต่ถ้าใครปรับโหมดที่สูงกว่านี้ ก็สามารถเปิดใช้ได้ เพื่อความลื่นไหลต่อเนื่อง
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การที่เปิดใช้การทำงาน HDR ซึ่งมีให้ปรับบนตัวเกม และเราก็เปิด HDR mode บนระบบปฏิบัติการเอาไว้ให้อีกด้วย ซึ่งภาพที่ได้ยิ่งทำให้ดูกลมกลืน การไล่แสงเฉดไฟและสิ่งต่างๆ ดูมีสีสันสดใส และเกลี่ยสีได้อย่างน่าตื่นเต้นขึ้นอีกไม่น้อย สังเกตได้จากเปลวไฟและแสงที่กระทบมายังกระบอกปืน ทำให้ความรู้สึกในการเล่น ต่างออกไปจากเดิมไม่น้อยเลย
ภาพเอฟฟเกต์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแสงไฟสะท้อนในน้ำ แรงระเบิดที่เกิดขึ้นใกล้ตัว จากแรงของกระสุนปืนใหญ่รถถัง และประกายไฟจากปากกระบอกปืน สร้างความเร้าใจได้มากขึ้น รายละเอียดของรุ่นปืน ที่อยู่บนกระบอก เห็นได้ชัดเจน จนอาจทำให้คุณเล่นจนวางมือไม่ลง เมื่อเล่นบนจอ LG รุ่นนี้
Black Stabilizer เป็นฟีเจอร์หนึ่งบนจอ LG 32GP850-B รุ่นนี้ ที่ช่วยให้คุณสร้างความได้เปรียบในการเล่นมากพอสมควร เพราะช่วยปรับความสว่างของภาพ ให้มองเห็นรายละเอียดในฉากที่มืดได้แบบไม่เสียอรรถรสในการเล่น จากตัวอย่างที่เรานำมาให้ดูนี้ ภาพด้านบนจะเป็นฉากมุมตึก ที่ถูกบดบังไปด้วยเงาของอาคาร และสมรภูมินี้ก็มีแสงน้อย ภาพแรกเป็นการตั้งค่า Black Stabilizer ไว้ที่ 5% แม้ว่าจะเป็นการปรับให้โหมดนี้ทำงานแล้ว ก็ยังเห็นสิ่งต่างๆ ได้ไม่ชัด ขยับมาภาพล่างที่ 50% เราสามารถมองเห็นใบไม้ได้ชัดขึ้น แต่ผนังยังคงมีความมืดอยู่พอสมควร และภาพสุดท้ายเราลองปรับเป็น 100% จะเห็นได้ว่า ทั้งใบไม้ และพื้นผิวของผนัง เผยออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน
DOTA2
และตัวแทนของเกมแนว MOBA อย่าง DOTA2 ที่ยังคงเป็นตำนานของเกม ที่คงได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยจอ LG รุ่นนี้ ก็ตอบสนองการเล่นได้เป็นอย่างดี สิ่งแรกที่ควรทำคือ ตั้งค่าใน OSD ให้เป็น RTS คุณจะได้ฉากที่มีความสดใสมากขึ้น และปรับโทนสีได้เข้ากับตัวเกมไม่น้อย และด้วยพื้นที่แสดงผลระดับ 31.5″ บนความละเอียด 1440p นับว่าเป็นตัวจบในการเล่นเกมแนวนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถมองเห็นการเคลื่อไหนจาก Map ที่ใหญ่ขึ้น และเพิ่มความสว่างให้มองเห็นศัตรูได้ชัดเจน ที่สำคัญเอฟเฟกต์ที่เป็นเวทย์ชุดใหญ่จากฮีโร่ สร้างความเร้าใจให้กับการเล่นได้ไม่น้อยเลย เกมนี้แทบจะไม่ต้องตั้งค่าอื่นใดมาก แต่หากคอมคุณไม่แรงมาก แนะนำปรับให้ Detail อยู่กลางๆ แต่ไม่ต้องปรับลด Resolution ลง เพื่อความสวยงามของภาพที่ดีนั่นเอง
จากมุมมองทั้งทางด้านซ้ายและขวา จะเห็นว่ามีความคมชัดทีเดียว ทำให้ผู้ใช้สามารถนั่งเอียงไปทางใด ก็จะยังเห็นคอนเทนต์ในจอภาพได้ชัด และสามารถแบ่งปันให้ผู้ที่อยู่รอบข้างได้ชมอีกด้วย
Horizon Zero Dawn
สำหรับเกมนี้ สีสันที่สดใส และภาพที่มีรายละเอียดสูง จะทำให้การเล่นมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น ซึ่งปกติบน Resolution 1080p ก็ตอบโจทย์ได้ดีอยู่แล้ว แต่บนจอ LG 32GP850-B UltraGear รุ่นนี้ การปรับเล่นบน 1440p และเปิด Detail Ultra บนเครื่องที่แรงๆ แล้ว ก็ช่วยเพิ่มความสวยงามและการเล่นที่ต่อเนื่องได้ ด้วยการเปิด V-Sync และเพิ่มความสดใส ด้วยการใช้โหมด FPS หรือลองเลือกเป็นตั้งเอง แล้วบันทึกเอาไว้ใช้งานก็ได้ ด้วยการตั้งค่าสีกับค่า Brightness และอื่นๆ ผสมผสานกันดู รวมถึงการเปิด HDR เอาไว้ ก็จะได้ทั้งความสดใสและภาพที่ต่อเนื่อง
โดยในเกมนี้ เราเองก็ไม่ได้เซ็ตค่าอื่นใดมากมายนัก เพราะแค่ปรับตามที่ว่ามา ก็ได้ทั้งความจัดจ้านของสี เพิ่มขึ้นมาอีก และความไหลลื่นของภาพ แม้จะซูมไปใกล้ๆ ก็ยังเห็นรายละเอียดของภาพได้อย่างชัดเจน
HDR Off HDR Off
HDR On HDR On
และจากตัวอย่างด้านบนนี้ เอาใจคอบันเทิงที่ชอบการสตรีมมิ่งวีดีโอ และการชมภาพยนตร์ ซึ่งเรานำความแตกต่างระหว่างการปิดและเปิด HDR มาให้ชมกัน ซึ่งภาพและความสดใสในส่วนต่างๆ ก็ค่อนข้างจะเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นสีสันจากบนตัวอาคารหรือน้ำทะเล ที่มีความเข้มและสดใสที่ต่างกันอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ว่าแบบไหนที่ลงตัวกับความชอบมากที่สุด
Conclusion
หลังจากที่เราได้ใช้งานจอเกมมิ่ง LG 32GP850-B UltraGear รุ่นนี้มาสักระยะหนึ่ง สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ พื้นที่แสดงผลที่กว้างใหญ่ ตอบโจทย์การใช้งานในหลายๆ อย่างได้ นอกเหนือจากการเล่นเกมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการท่องเน็ตหรือการสตรีมมิ่ง แทบจะเอามาแทนจอทีวีได้เลย หรือจะใช้แบ่งหน้าจอทำงานก็ยังได้ เพราะมาพร้อม Resolution 1440p จึงทำให้เพิ่มพื้นที่ในการพรีวิวภาพ ขณะที่ตัดต่อวีดีโอ หรือการทำงานเอกสารที่ต้องเปรียบเทียบกัน แบ่งครึ่งหน้าจอก็สะดวกมากๆ แต่เรื่องที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ นั่นคือ สีสันที่ออกมาได้สดใสทีเดียว และการเกลี่ยสีของจอ ก็ทำให้รู้สึกลื่นและสบายตาจากเทคโนโลยี NANO IPS มีโหมดให้ปรับแต่งใช้งานได้จาก OSD การเล่นเกมก็ยังมี G-Sync และ FreeSync มาให้ใช้ ปรับเล่นกับเกมต่างๆ ได้ลื่นไหล ไม่มีอาการภาพขาดมากวนใจ โดยหากคุณเล่นเกมในโหมด 2K แต่เครื่องไม่แรงมาก ก็ปรับ Detail High ได้ และตั้ง V-Sync เอาไว้ การปรับแต่งหลายๆ อย่างอยู่ใน OSD ที่เป็นปุ่มใต้จออยู่แล้ว ปรับสิ่งไหนก็สะดวก แม้จะไม่ได้มีเรื่องของสีสันไฟ RGB เพิ่มมาให้ดูหรูหรา แต่ก็เชื่อว่าดีไซน์ของจอที่ดูเกมมิ่ง ก็ดูดีพอสมควรอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังปรับเลื่อนได้สะดวกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นมุมใดก็ตาม กับสนนราคาโปรโมชั่นที่ 17,990 บาทนี้ ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย สำหรับคอเกมที่ต้องการอัพเลเวลความสนุกในการเล่นเกมให้สมจริงมากยิ่งขึ้น
ไปช้อปกันได้ที่:
ราคา 17,990 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม LG