ถMSI Creator Z16P พร้อมจำหน่ายแล้วในไทยกับราคา 8x,xxx บาท จัดว่าเป็นอีกหนึ่ง Notebook หน้าจอ 16″ QHD+ ที่ 165Hz เพื่อการทำงานมืออาชีพ สาย Content Creator ระดับสูงของปี 2022 ที่น่าสนใจมากๆ เพราะได้มีการต่อยอดในหลายๆ ส่วน เรียกได้ว่ามีฟีเจอร์ล้ำๆ มากมาย สำหรับการมาของ MSI Creator Series นั้น เป็น เน้นงานสร้างสรรค์งานดิจิตอลต่างๆ ระดับสูงแบบมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น Youtuber / Streamer / VDO Editor / Photographer / 3D Animator / Graphic Designer หรือ Metaverse รวมไปถึงยังรองรับการเล่นเกมได้ลื่นไหลด้วย
ได้สเปกเป็นชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง Intel Core i Gen 12H Series จับคู่มากับการ์ดจอแยกทรงพลังอย่าง NVIDIA GeForce RTX 30 Series รุ่นใหม่ พร้อมทั้งได้หน้าจอสัดส่วน 16:10 พาเนลคุณภาพสูงที่ค่าขอบเขตสี 100% DCI-P3 ให้สีสันที่คมชัดและเหมาะกับการทำงานด้านกราฟิก มัลติมีเดีย ด้วยความละเอียดระดับ 2560 × 1600 พิกเซล พร้อมรองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วและปากกา ได้ Refresh Rate ที่ 165Hz และค่าคลาดสีเพียง Delta-E <2 พร้อมเทคโนโลยี True Color ช่วยปรับโปรไฟล์สีต่างๆ ตามลักษณะการใช้งาน เรียกได้ว่าอัปเกรดจากรุ่นปีก่อนอย่าง MSI Creator Z16 หลายๆ ส่วนทีเดียว
VDO Introduction
NBS Verdict
หน้าตาดีไซน์ภายนอก MSI Creator Z16P แม้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากจากรุ่นก่อนอย่าง MSI Creator Z16 แต่ก็ยังคงมีเอกลักษณ์และทันสมัย สมกับเป็นรุ่นพี่ท็อปสุดรุ่นตระกูล Content Creator จาก MSI ด้วยโลหะวัสดุอลูมิเนียมและสีสัน Lunar Gray และยังมาพร้อมความบาง เบาพกพาง่ายมาก เมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ ทั้งราคาและสเปกภายในถือว่ามีความเหนือชั้น รองรับทุกการใช้งานได้ลื่นไหล ได้ทั้งชิปประมวลผล Intel Core i Gen 12 รุ่นแรงพิเศษอย่าง i7-12700H หรือ i9-11290H
และการ์ดจอที่แรงระดับ Gaming ตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3060 / RTX 3070 Ti / RTX 3080 Ti และแรมที่ขนาด 16GB – 128GB DDR5 Bus 4800MHz พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB – 2TB ที่แรงกว่ารุ่นก่อนๆ เชื่อได้ว่าใครต้องการโน๊ตบุ๊คเน้นทำงานขั้นสูงเป็นหลัก หรือจะเล่นเกมหนักๆ บ้างหลังจากเลิกงาน รวมไปถึงการใช้งานเกี่ยวกับ Metaverse ทั้งงานสร้างหรืองานเสพก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว เรียกได้ว่าถ้างบถึงแบบไม่ติดขัดก็นับว่าน่าซื้อสุดๆ
ในส่วนของหน้าจอก็จัดได้ว่าเป็นหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดในตลาดรุ่นหนึ่ง ด้วยความละเอียด Quad HD+ ที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสม ขนาด 16″ ซึ่งสมบูรณ์ด้านการแสดงสีสันเที่ยงตรง ความแม่นยำสูงแบบมือโปร ที่ 165Hz ความสว่างสูงสุด 1000 nit เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีมากๆ เหมาะกับงานระดับมืออาชีพแบบสุดๆ ขอบหน้าจอก็บางเฉียบตัวเครื่องก็เล็กกระทัดรัด พร้อมรองรับการทัชกรีนทั้งนิ้วมือและปากกาเพื่องานสร้างสรรค์ในทุกรูปแบบอีกด้วย อีกทั้งกางหน้าจอได้ 180 องศา มีฟีเจอร์ Flip-n-Share ช่วยกลับหน้าจอไปฝั่งตรงข้ามได้ ด้วยปุ่ม F12
เน้นพกพาสุดๆโดยแบตเตอรี่จากการใช้งานจริงๆ ได้ตลอดทั้งวัน กับน้ำหนักเพียง 2.4 กิโลกรัม ที่เบาเทียบเท่ากับรุ่นจอ 15.6″ พร้อมทั้งตัวเครื่องยังมีพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต ซึ่งเป็น USB-C ที่ต้องบอกว่าเป็นพอร์ตที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนพอร์ตอื่นๆ ก็จัดมาครบครัน นอกจากนี้การเชื่อมต่อไร้สายยังเป็น Wi-Fi 6E แบบ Killer ที่ปลอดภัยและแรงกว่าเดิม พร้อมการจัดการที่เยี่ยมยอดในการส่งถ่ายข้อมูลแบบไม่มีสะดุด และที่โดดเด่นจะเป็นเรื่องของชุดระบายความร้อน Vapor Chamber Cooler ที่นำพาความร้อนออกไปได้ดีกว่าเดิม
สรุปง่ายๆ สำหรับการมาของ MSI Creator Z16P เหมาะคนคนหรือใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 17.3″ สายทำงาน Content Creator จริงจัง ไม่ว่าจะเป็นงาน 2 มิติ, 3 มิติ อาทิ Youtuber และ Streamer รวมถึงงานประเภท ทำภาพเคลื่อนไหว 3D ด้วย Ray Tracing, การตัดต่อวีดีโอขั้นสูง, การตกแต่งภาพที่ซับซ้อน, การออกแบบกราฟิกระดับสูง, การสร้างภาพสถาปัตยกรรม รวมไปถึงโลกเสมือน Metaverse ที่กำลังมาตามเทรนของโลก ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรที่สูงกว่าที่เคยมีมาเป็นการรวมของ VR + AR เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด
สำหรับคนที่กำลังจะซื้อโน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานสร้างสรรค์ระดับสูงในงบประมาณเริ่มต้น 8x,xxx บาท ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือถ้าจะเล่นเกมบ้างก็สามารถทำได้ดีลื่นไหล ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สมราคาค่าตัว กับคนที่งบถึงเงินถึงและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คสเปกทั่วไป ที่สำคัญคือได้งานประกอบพรีเมียม และฟีเจอร์ที่เหนือชั้นกว่า หรือกรณีที่อยากได้สเปกแรงแต่ไม่อยากได้ดีไซน์แบบ Gaming Notebook ในส่วนของ MSI Creator Z16P ก็สามารถเป็นตัวเลือกแรกๆ ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม ติดตามชมรอผลทดสอบของ MSI Creator Z16P ตัวขายจริง
จุดเด่น MSI Creator Z16P
- ดีไซน์การออกแบบพรีเมียม งานประกอบแน่นวัสดุดี สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คระดับสูงสาย Creator
- หน้าจอ 16″ แต่ตัวเครื่องเบาเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ โดยมีน้ำหนักเพียง 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น
- ประสิทธิภาพแรงก้าวกระโดด สเปกสูงสุดด้วย Core i9-12900H การ์ดจอแยก RTX 3080 Ti
- หน้าจอแสดงผลพาเนล IPS เกรดสูง sRGB 100% ที่ความละเอียด Quad HD+ ทัชกรีนได้
- หน้าจอกางได้ 180 ฟีเจอร์พิเศษ Flip-n-Share และมี MSI Pen มาให้ในบันเดิล
- แรมสูงสุดที่ 128GB มาตรฐานใหม่ DDR5 และ SSD M.2 NVMe Gen 4 ที่ 2TB
- มี Windows 11 Home พร้อมใช้งานและ ซอฟ์ตแวร์ MSI Center Pro ที่ดีเยี่ยมในการปรับแต่ง
- ประสิทธิภาพดีทั้งการทำงานด้วยโปรแกรม Adobe และการเล่นเกม 3 มิติหนักๆ ได้สบาย
- คีย์บอร์ดใช้งานได้ดี มีไฟส่องสว่าง ทำงานแบบ Per-key RGB พร้อมเพิ่ม Numpad
- มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6E ใหม่ล่าสุด แบบ Killer ดีกว่าก่อนหน้า
- ตัวเครื่องทนทานระดับ MIL-STD 810G ทำให้มั่นใจได้เลยว่าตัวเครื่องจะมีความแข็งแรง
- มี Fingerprint + IR Camera ใช้ผ่าน Windows Hello ได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
- กล้องเว็บแคม Full HD ให้ความคมชัดกว่ารุ่นทั่วไป ในการ VDO Call ต่างๆ
- ติดตั้ง Ambient Light Sensor ช่วยปรับแสงหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม
- ลำโพงแบรนด์ DYNAUDIO จำนวน 4 ตัว ให้เสียงดีทีคุณภาพ ได้มิติกว่าลำโพง 2 ตัว
- การจัดการความร้อนได้ดีด้วยชุดระบายความร้อนใหม่ Vapor Chamber Cooler
- ให้พอร์ต Thunderbolt 4 มา 2 พอร์ต รองรับการใช้งานมืออาชีพครบถ้วน
- มีช่อง SD Card Reader ที่ช่างภาพ ช่างวีดีโอ สาย Content มักใช้งานบ่อยๆ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันไม่ว่าจะเป็น USB-A, HDMI และ SD Card Reader
จุดอัปเกรด MSI Creator Z16P จากรุ่นก่อน
- ติดตั้ง SD Card Reader แทนที่ micro-SD Card Reader
- มีแป้นตัวเลข Numpad ติดตั้งมาให้ใช้งานแล้ว
- ระบบระบายความร้อนเปลี่ยนเป็น Vapor Chamber Cooler
- มี MSI Pen ที่เป็นปากกาสไตลัสมาให้ในบันเดิล
- ติดตั้ง Ambient Light Sensor จากเดิมที่ไม่มี
Specification
MSI Creator Z16P ในบทความนี้เป็นเครื่องเดโม ใช้ชิปประมวลผลตัวแรงรองท็อปอย่าง Core i7-12700H รูปแบบการทำงานใหม่ด้วยไฮบริด ความเร็ว Efficient-core Max Turbo ที่ 3.50 และ Performance-core Max Turbo ที่ 4.70 ทำงานแบบ 14 คอร์ 20 เธร์ด ประสิทธิภาพสูงไว้ใจได้แน่นอน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม Alder Lake (Intel 7) เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร พร้อมการ์ดจอออนชิปอย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่บรรจุไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายล้ำหน้า ในการทำงานขั้นสูงแบบมืออาชีพ
พร้อมการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ที่แรงลื่นและร้อนน้อยสุดๆ อย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti มีแรมการ์ดจออยู่ที่ 8GB GDDR6 (90W Maximum Graphics Power with Dynamic Boost) สถาปัตยกรรม Ampere ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Gaming Desktop หรือทำงานสายไฮเอนด์แล้ว มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe PCIe Gen 4 จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ความจุ 2TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR5 Bus 4800 MHz มาตรฐาน SO-DIM RAM รองรับ Dual Channel พร้อมอัปเกรดได้สูงสุด 128GB
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 16″ ที่ใหญ่กว่าและสัดส่วนมากกว่า 15.6″ โดยเป็น 16:10 ซึ่งเป็น Golden Ratio 1.618 พร้อมมีสเปกที่รองรับการทัชสกรีน 10 จุดด้วยนิ้วมือ รวมไปถึง MSI Pen ที่บันเดิลมาให้ในชุด ได้ขอบเขตสีระดับ 100% DCI-P3 อีกทั้งมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า True Pixel ที่เป็นการรวมความสุดยอดด้านสีสันของหน้าจอ รวมถึงมีการรับรองมาตรฐานด้านค่าสีต่างๆจากทาง Calman ผ่านการคาลิเบรตแสงและสีจากทางโรงงานทีละตัว ให้เราสร้างสรรค์ผลงานได้สมบูรณ์แบบที่สุด ให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีขึ้นกว่ายุคก่อน ทั้งหมดนี้พร้อมรองรับ Metaverse ด้วยมาตรฐาน Meta Ready อีกด้วย
ส่วน MSI Pen เป็นปากกาสไตลัสที่รองรับแรงกด 4096 ระดับ ทำให้สมจริงในการใช้งาน มาพร้อมกับเทคโนโลยี MPP2.0 ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงดีไซน์ยังมีความสวยงามพรีเมียมเข้ากับตัวเครื่องเป็นอย่างดี พร้อมมีแม่เหล็กในตัวจึงสามารถแนบติดไปกับตัวเครื่องของ MSI Creator Z16P ได้ ส่วนการชาร์จไฟก็สะดวกเพราะรองรับการชาร์จแบตผ่านทางพอร์ต USB-C และที่โดดเด่นก็คือนอกจากการขีดเขียนแล้วยังใช้งานเป็น Presentation Remote ได้ด้วย เป็นปากกาที่จะยกระดับการจดบันทึกรูปแบบเก่าให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
MSI Creator Z16P ราคาคาดการณ์ 8x,xxx บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : Intel Core i7-12700H (14C/20T, 3.80 – 5.00GHz)
-
GPU : Intel Iris Xe + NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti (8GB GDDR6)
-
RAM : 16GB DDR5 Bus 4800 MHz (8GB x 2)
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 2TB
- DISPLAY : 16″ Touch IPS QHD+ @165Hz
- Keyboard : Mini LED Per-Key Backlight
- Connection : Killer Wi-Fi 6E + BT5.2
-
OS : Windows 11 Home
- Warranty : 2 Years (1 Year for Battery and Adapter)
Hardware / Design
สำหรับการออกแบบ MSI Creator Z16P มีความสดใหม่ตลอดทั้งตัวเครื่องเมื่อเทียบกันรุ่นหน้าจอ 15.6″ โดยสีสันเป็นสีออกเงินๆ พื้นผิวแบบด้าน ชื่อว่า Lunar Gray โดดเด่นด้วยความพิเศษ ก็คือ เรื่องของดีไซน์ที่บางเบา ที่บางสุดแค่ 19 มิลลิเมตร และเบาเพียง 2.4 กิโกลกรัม ทำให้พกพาหยิบจับได้สะดวกแน่นอน แต่อัดแน่นเรื่องของสเปกฮาร์ดแวร์ภายใน ส่งผลให้เรื่องประสิทธิภาความแรงนั้นทะลุมาตรฐานโน๊ตบุ๊คมาตรฐานปกติไปไกลทีเดียว รวมไปถึงทำให้เราพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาด้วย กับแบตเตอรี่ความจุใหญ่ถึง 90WHr ที่ให้ใช้งานได้ยาวนานสุดๆ ตลอดทั้งวัน
วัสดุทั้งหมดตลอดตัวเครื่องของ MSI Creator Z16P ใช้เป็นอะลูมิเนียมขึ้นรูปที่ทั้งสวยงามทนทานผ่านกระบวนการ CNC พร้อมงานประกอบทุกชิ้นส่วยสุดเนี๊ยบ ใส่ใจทุกๆ รายละเอียด อย่างโลโก้ฝาหลังจะเป็นการยิงเลเซอร์ลงไป สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ตระดับมืออาชีพสาย Content Creator ปุ่มเปิดปิดเครื่องถูกติดตั้งบริเวณมุมขวาบนของคีย์บอร์ด พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน (ไฟขาวใช้การ์ดจอออนชิป / ส้มใช้การ์ดจอแยก) เหนือคีย์บอร์ดติดตั้งช่องลมโปร่งขนาดใหญ่เพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม อีกทั้งได้มาตรฐานความแข็งแรงทนทาน MIL-STD-810G Military Standard ด้วย
ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่าหลายๆ รุ่น พร้อมใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อน Vapor Chamber Cooler แผ่นทองแดงขนาดใหญ่นำพาความร้อน ขจัดความร้อนที่สะสมได้ดีกว่ารุ่นก่อน – 2 องศา เพิ่มเติมด้วยการระบายอากาศที่ดีขึ้นถึง 76% ประสิทธิภาพดีขึ้น 60% เน้นความบางด้วยพัดลม 2 ตัวขนาดใหญ่ แต่ดีไซน์บางเฉียบ เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผลและการ์ดจอแยก หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิที่สูงขึ้นเมื่อทำงานหนักๆ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยะยาวไม่ว่างานหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
รวมถึงยังมีดีไซน์ขอบหน้าจอด้านหลังที่สูงขึ้นเมื่อกางหน้าจอออกเพื่อใช้งานปกติ และฟีเจอร์พิเศษ Flip-n-Share กับคนทำงานที่ต้องการนำเสนองานต่างๆ ให้คนที่ต้องนั่งอยู่ตรงข้าม คือการกางหน้าจอได้ 180 องศา และกดปุ่ม F12 แล้วสามารถหมุนจอไปฝั่งตรงข้ามได้ทันที ส่งผลให้คนนั่งฝั่งตรงข้ามที่เรากำลังนำเสนองานดูได้อย่างสะดวกที่สุด นับว่าเป็นอีกหนึ่งความใสใจที่ MSI ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากการนำเสนอแล้ว จัดว่าเมื่อใช้งานกับ MSI Pen ก็มีความลงตัว ยังเหมาะสมกับเป็นโน้ตบุ๊คเพื่อการทำงานพร้อมนำเสนองานอย่างแท้จริง
โดยรวมแล้ว MSI Creator Z16P ไม่ใช่แค่สเปกภายในใหม่ให้ประสิทธิภาพแรงแต่ได้อัปเกรดฟีเจอร์หลายๆ ส่วนทั้งหน้าจอ มีปากกาและเก็บได้ในตัว ระบบระบายความร้อน พร้อมเพิ่มแป้นตัวเลข ที่แม้ราคาดูสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ในตลาด แต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่ Creator Notebook ทั่วไปไม่สามารถให้ประสบการณ์การใช้งานแบบนี้ได้ ต่อยอดความสำเร็จของ MSI Modern / MSI Prestige ขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตามมีรุ่นราคาเริ่มต้นที่ 8x,xxx บาท จนไปถึง 1xx,xxx บาท ซึ่งต้องยอมรับว่าราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊ตทั่วไป แต่ก็อย่าลืมว่าเราก็ได้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นด้วย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI Creator Z16P ติดตั้งมาเป็นแบรนด์ SteelSeries ให้อารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ได้เป็นอย่างดี พร้อมไฟ Mini LED backlit แบบ Per-key RGB ส่องสว่างสีเดียวหรือหลากสีสันได้อย่างสวยงามลงตัว ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ SteelSeries Engine รวมไปถึง Gaming Gear อื่นๆ โดยที่น่าสนใจคือการอัปเกรดจากรุ่นก่อน (Creator Z16) คือได้มีการติดตั้ง Numpad แป้นตัวเลขมาให้ใช้งานแล้ว ทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงปุ่ม Power เองก็ทำหน้าที่ไฟสถานะการใช้งานการ์ดจอ
ทัชแพดมีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้นพิเศษที่ 50% ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด พร้อมพื้นผิวกระจกที่เรียบลื่นซึ่งช่วยเพิ่มการตอบสนองต่อการใช้งานได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับลงตัว ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ แทบไม่ต้องมีเมาส์มาใช้งานเลยก็ได้ ส่วน Fingerprint แสกนนิ้วจะอยู่ใต้แป้นคีย์บอร์ก เพื่อใช้งานผ่านทาง Windows Hello ส่งผลให้เราสามารถใช้งานได้สะดวกสบาย ไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป รวมถึงมีความปลอดภัย
Screen / Speaker
MSI Creator Z16P มีหน้าจอแสดงผลขนาด 16″ แบบจอกระจกรองรับการทัชกรีน ซึ่งรุ่นทดสอบเป็นความละเอียด Quad HD+ (2560 x 1600 ที่ความหนาแน่น 220 PPI) ดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ รองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่เคยมีมา พร้อมได้เป็นพาเนล IPS คุณภาพสูง โดยให้มุมมองที่กว้างสุดๆ สีสันก็สดใสสมจริง เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานและเล่นเกม ส่วนบานพับก็แข็งแรงมั่นคง พร้อมกางได้เรียบกับพื้นถึง 180 องศา เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง
อีกทั้งแม้ขอบหน้าจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้งเว็บแคมที่ความละเอียดที่สูงกว่าอย่าง Full HD ให้ความคมชัด และไมโครโฟนแบบคู่ช่วยในเรื่องของงาน VDO Call อย่างประชุมออนไลน์ได้เป็นอย่างดี โดดเด่นด้วยการติดตั้ง Ambient Light Sensor ช่วยปรับแสงหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์งานด้านสีสัน นอกจากนี้ยังมีการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ฉะนั้นมั่นใจเรื่องความแข็งแรงทนทานได้เลย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐานที่โปรกว่าอย่าง PCI-P3 ที่ 100% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันที่ดีมากๆ ได้ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 500 nit และสามารถเร่งไปได้ถึง 1000 nit ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม เอาไปทำงานข้างนอกหรือตามสตูดิโอ สู้แสงสว่างๆ สบายๆ เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก รวมไปถึงมีค่า Delta-E การคลาดสีเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ไม่เกิน 2 เท่านั้น ใครที่จริงจังด้านสีสันถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจรุ่นนึงทีเดียว
ระบบเสียง MSI Creator Z16P ก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพงแบรนด์ DYNAUDIO จำนวน 4 ตัวที่ติดตั้งมุมของตัวเครื่องด้านใน โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง DTS Sound สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมจากฝรั่งเศส ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน เต็มรูปแบบในการสร้างงานหรือใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปเสียงต่างหาก
Connector / Thin And Weight
MSI Creator Z16P จัดว่าเป็น Creator Notebook หน้าจอ 16″ ปี 2022 ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 1 ช่อง เน้นการเชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์ที่เป็น Type-A ที่โดดเด่นคือได้พอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต ที่โอนถ่ายข้อมูลสูงสุดที่ 40Gbps รองรับ DisplayPort ที่ความละเอียด 4K, 8K รวมไปถึง PD Charging ในตัว และ Mic-in/Headphone-out ขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร นอกเหนือจากนั้นยังมีการเพิ่มเติมส่วนของ SD Card Reader มาตรฐานเทคโนโลยี SD Express เรียกได้ว่าถูกใจสายงานที่ต้องโหลดไฟล์จากกล้องมืออาชีพแน่นอน
อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ แต่ก็เข้าใจได้แค่ต้องระวังในการเชื่อมต่อหลายๆ พอร์ตหน่อยเท่านั้นเอง ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Bluetooth 5.2 และ Wi-Fi 6E ที่ดีที่สุดในปี 2022 ก็ถือว่าทำได้ดี ด้วยน้ำหนัก 2.4 กิโลกรัม ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 230 Watt นั้น หัวเป็นสี่แหลี่ยมตามสไตล์ MSI มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่า Gaming Notebook ทั่วไปในสเปกแรงพอๆ กันเลยทีเดียว รวมๆ กันแล้วหนักเพียง 3.1 โลนิดๆ เท่านั้น จัดได้ว่ามีความสะดวกสบายในการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่มากๆ
Inside / Upgrade
การแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ MSI Creator Z16P สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตไม่กี่ตัว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ เห็นได้ชัดถึง Vapor Chamber Cooler รูปแบบการระบายความร้อนแบบใหม่ ที่ดีกว่าเดิมที่เป็นฮีทไปป์ในทุกมิติ ซึ่งเป็นลักษณะของแผ่นทองแดง พร้อมพัดลม 2 ตัว เป่าออก 4 ทิศทาง ทำให้ความร้อนที่เกิดจากทำงานหนักๆ MSI เคลมว่าดีกว่ารุ่นก่อน – 2 องศา เพิ่มเติมด้วยการระบายอากาศที่ดีขึ้นถึง 76% ประสิทธิภาพดีขึ้น 60% ซึ่งที่เรามองเห็นก็จะมีแผ่นพลาสติกสีดำปิดกั้นเอาไว้อยู่ 1 ชั้น
พร้อมเห็นว่าช่องติดตั้งแรมที่ใส่มาแล้ว 8GB x 2 แถว มาตรฐาน DDR5 Bus 4800MHz ดีไซน์แบบมีฝาครอบโลหะ ซึ่งถ้าจะอัปเกรดเพิ่มก็สามารถทำได้ แต่ต้องถอดของเดิมออกก่อน โดยสูงสุดเพิ่มได้ถึง 128GB (64GB x 2 แถว) ก็สามารถทำได้ทันที รวมไปยังมีที่เก็บข้อมูลมาตรฐาน SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 จำนวน 2 ช่อง ซึ่งในเครื่องนี้ติดตั้งมาแล้วเป็น SSD ความจุ 1TB จำนวน 2 ตัว ดีไซน์แบบมีแผ่นพลาสติกกั้น พร้อมกับทำ Raid 0 อยู่ เพื่อพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ที่ต้องบอกว่าสำหรับการใช้งานทั่วไปเหลือเฟือมากๆ ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 5922 mAh หรือ 90Wh
Performance / Software
MSI Creator Z16P เครื่องเดโมนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยผลการทดสอบใดๆ ได้ โดยฮาร์ดแวร์ภายในมาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นยอดนิยมของ Gaming Notebook อย่าง Intel Core i Gen 12H (Alder Lake) เน้นนำไปใช้งานมืออาชีพ อัปกรดมาใช้สถาปัตยกรรมไฮบริด คอร์ใหญ่ผสมกับคอร์เล็ก เพื่อรองรับโหลดงานที่หลากหลาย โดยแบ่งเป็น Performance Core (P-core) เน้นงานเธรดเดี่ยว ที่ต้องการประสิทธิภาพในงานประมวลผลขั้นสูงอย่างทำงานที่ซับซ้อนหรือเล่นเกม และ Efficient Core (E-core) ที่ใช้กับงานทั่วไป รวมไปถึงงานที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง
ติดตั้งมาเป็นรุ่นล่าสุดอย่าง Core i7-12700H โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 3.50 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.70 GHz เป็นซีพียูแบบ 14 Core (P6 + E8) / 20 Threads ซึ่งถ้าดูจากคะแนนผลการทดสอบด้านต่างๆ คือเหนือชั้นกว่า Core i7-11800H ขึ้นไปอีก การ์ดจอออนชิปเป็น Intel Iris Xe Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีแบบพื้นฐาน รองรับการทำงานได้ในระดับทั่วไปเป็นหลัก มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR5 Bus 4800MHz แบบ 8GB x 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 11 Pro ที่มีมาให้ในเครื่องเดโมนี้แบบสบายๆ
ได้การ์ดจอแยกรุ่นใหม่ตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti (8GB GDDR6) แบบ Max-Q กับค่า TGP 90W ที่ต้องบอกว่าแรงกว่า RTX 30 Series อย่าง RTX 3070 ที่สำคัญคือยังปลดปล่อยความร้อนออกมาน้อยด้วย ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว เรียกว่าสำหรับเกมออนไลน์สามารถทำได้ลื่นไหลแน่นอน ซึ่งด้วยสเปกภายในทั้งหมดนี้ (i9-12900H + RTX 3080 Ti) โดยทาง MSI เคลมผลทดสอบด้วยหลายๆ โปรแกรม ว่าในส่วนของ MSI Creator Z16P มีความแรงที่มากกว่าชิปประมวลผลของ Apple M1 Max ใน MacBook Pro 16 เสียอีก
ที่สำคัญยังมี MSI Center Pro เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งคล้ายกับ MSI Center ฝั่งของ Gaming โดยเป็นโปรแกรมที่เป็นจุดเด่นของ MSI Gaming Notebook ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI Creator Z16P นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูสามารถใช้งานง่ายๆ พร้อมสามารถปรับโหมดการใช้งานได้สะดวก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์โน๊ตบุ๊คที่ทำในส่วนของซอฟต์แวร์ติดเครื่องได้ดี
ล่าสุดทาง NVIDIA ผู้ผลิตการ์ดจอ (GPU) รายใหญ่และผู้นำด้านนวัตกรรมด้านคอมพิวเตอร์ไอทีของโลก ได้มีการนำเสนอแพลตฟอร์มอย่าง NVIDIA Studio ที่จะเปลี่ยนให้ Notebook ที่ใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce ที่ปกติแล้วใช้ทำงานหรือเล่นเกม สามารถขับเคลื่อนได้เทียบเท่า Notebook การ์ดจอ NVIDIA Quadro ที่เป็น Workstation ระดับสตูดิโอที่ซับซ้อน ด้วยการเพิ่มพลังการประมวลผล การแสดงภาพได้สีสันที่มากกว่า รองรับการทำงานหน่วยความจำและพื้นที่จัดเก็บที่รวดเร็วได้รวดเร็วขึ้น เพื่อให้เราสร้างสรรค์งานคุณภาพได้จากที่ทุกๆ ที่
ส่งผลให้ MSI Creator Z16P รุ่นนี้สามารถที่จะเลือกติดตั้ง Studio Driver เพื่อใช้งานซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ อาทิ Autodesk / Photoshop / Lightroom / Premiere Pro / OBS Studio / Unreal Engine 4 ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถเทียบประสิทธิภาพจากวีดีโอด้านล่างนี้ได้เลย (ซอฟต์แวร์ที่รองรับดูเพิ่มเติมได้) สำหรับการที่เราใช้งานเป็น Studio Driver แทนที่ ส่งผลให้ MSI Creator Z16P ทำงานได้เต็มที่ยิ่งขึ้น อีกทั้งมีปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) มาช่วยจัดการงานต่างๆ ให้ลื่นไหลอย่างที่สุด พร้อมเร่งการแสดงภาพที่เที่ยงตรงโดยการปลดล็อคคุณสมบัติที่ให้รองรับการใช้สี 30 บิต
สามารถสร้างเฉดสีกว่า 1,000 ล้านเฉดสี ในแอพพลิเคชั่น OpenGL ให้กับการ์ดจอ GeForce (จากปกติเป็นระบบสี 24 บิต ที่รองรับเฉดสีได้ถึง 16.7 ล้านสี) ซึ่งจะไร้รอยต่อระหว่างไล่เฉดสี ทำให้ได้ภาพที่สวยงาม พร้อมรองรับการงาน HDR ขั้นสูงได้ (High Dynamic Range) แน่นอนว่า MSI Creator Z16P รองรับการใช้งาน Studio Driver ได้ทันที โดยสามารถเลือกใช้งานไดร์เวอร์ได้ตามความต้องการนั่นเอง ซึ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้เป็นความร่วมมือกันระหว่าง NVIDIA ที่พัฒนาต่อยอดร่วมกับแบรนด์คอมพิวเตอร์อย่าง MSI นั่นเอง
ทำให้เมื่อเราใช้งาน MSI Creator Z16P ก็จะมีความรวดเร็วแม่นยำขึ้นแบบชัดเจน อย่างงานตัดต่อวีดีโอ โดยสามารทำได้ลื่นไหลกว่าเดิม ตัวอย่างเช่นการสนับสนุนการถอดรหัสวิดีโอในโปรแกรม Premiere Pro ที่มีดึงพลังการประมวลผลของการ์ดจอมาช่วยชิปประมวลผลด้วย ในด้านการทำงานต่างๆ ก็ทำให้ประสิทธิภาพของมันดีขึ้นกว่าการใช้ Game Ready Driver แบบเดิมๆ นอกจากนี้การที่เราใช้งาน Studio Driver การ์ดจอจะจัดการความร้อนได้ดีขึ้น ทำให้เย็นลงไปกว่าก่อนหลายองศาเซลเซียสทีเดียว
Conclusion / Award
MSI Creator Z16P จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 16″ ประสิทธิภาพสูง ฟีเจอร์เพียบ ดีไซน์น้ำหนักเบาพกพาสะดวก เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น แถมได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 12H อย่าง i7-12700H หรือ i9-12900H และการ์ดจอแยก GeForce RTX 3070 Ti – RTX 3080 Ti จัดเต็มด้วยแรมขนาด 16 – 32 GB DDR5 พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความเร็วสูงความจุ 1 – 2TB โดยเป็นสาย Content Creator ซีรีส์ท็อปสุด (รองลงมาจะเป็น Prestige / Modern ตามลำดับ) มาพร้อมคุณสมบัติอันเหมาะสมในการใช้งานผ่านซอฟต์แวร์ในสร้างสรรค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงาน 2 มิติ 3 มิติที่ซับซ้อน รวมไปงาน Metaverse
ดีไซน์ตัวเครื่องออกแบบ MSI Creator Z16P ตอบโจทย์โดนใจสุดๆ จากการที่วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์สีเทาเงิน ซึ่งดูแล้วมีความลงตัวกว่ารุ่นก่อนๆ เน้นความเรียบง่ายที่เชื่อว่าหลายคนต้องชื่นชอบ ซึ่งแตกต่างจากรุ่น MSI Creator Z16 ที่อัปเกรดส่วนของ Numpad และมี MSI Pen ในตัว โดย MSI Creator Z16P จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 16″ Quad HD+ ที่ 2560 x 1600 พิกเซล รองรับการทัชสกรีน ขอบเขตสี 100% sRGB ลำโพงเลือกเทคโนโลยีลำโพง DYNAUDIO จำนวน 4 ตัว ได้คีย์บอร์ดใช้งานได้ดี มีไฟส่องสว่าง ทำงานแบบ Per-key RGB ตัวเครื่องทนทานระดับ MIL-STD 810G ทำให้มั่นใจได้เลยว่าตัวเครื่องจะมีความแข็งแรง
จัดการความร้อนได้ดีด้วยชุดระบายความร้อนใหม่ Vapor Chamber Cooler พร้อมช่องระบายความร้อน 4 ช่องหมดห่วงเรื่องตัวเครื่องร้อน แม้ว่าใช้งานจริงๆ ก็อาจจะมีความร้อนสูงหน่อยเวลาใช้งานหนักๆ แต่ไม่มีผลต่อการใช้งาน มี Fingerprint + IR Camera ใช้ผ่าน Windows Hello ได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย กล้องเว็บแคม Full HD ให้ความคมชัดกว่ารุ่นทั่วไป ในการ VDO Call ต่างๆ ติดตั้ง Ambient Light Sensor ช่วยปรับแสงหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม นอกจากนี้มาพร้อมกับ Windows 11 Home พร้อมใช้งานอีกด้วย ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันหายห่วงทั้ง Thunderbolt 4 x 2 และ ช่อง SD Card Reader ที่ช่างภาพ ช่างวีดีโอ สาย Content มักใช้งานบ่อยๆ
ปิดท้ายที่มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6E ใหม่ล่าสุด แบบ Killer ดีกว่าก่อนหน้าในทุกๆ มิติ โดยราคาของ MSI Creator Z16P สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 8x,xxx บาทพร้อมประกัน 2 ปีเต็ม จัดได้ว่าเป็น Creator Notebook ระดับโปร สไตล์บางเบาพกพาสะดวกในขนาด 16″ จอดีสีตรงจากโรงงาน ที่ราคาอยู่ในระดับสูง ซึ่งถ้าเทียบกับประสิทธิภาพ รวมไปถึงประสบการณ์การทำงานได้สมบูรณ์แบบ หรือถ้าเอาไปเล่นเกมก็ตอบสนองได้เยี่ยมยอด ที่แม้ว่าจะดูสูงกว่า Notebook ทั่วไป แต่เชื่อได้เลยว่าจะสเปกและฟีเจอร์ต่างๆ ตอบโจทย์การใช้งานแบบมืออาชีพอย่างไม่ผิดหวังแน่นอน เรียกได้ว่าใครที่กำลังมีแผนจะซื้อ MacBook Pro 16 ก็สามารถรอเทียบกับ MSI ตัวขายจริงรุ่นนี้ได้เลย