Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Asus

รีวิว ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition สเปก Ryzen 9 5900HX + Radeon RX 6800M จอ 15.6″ QHD 165Hz ราคา 59,990 บาท

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition ในรีวิวนี้เป็นเครื่องขายจริงแล้ว จัดว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2021 รุ่นแรก ซึ่งได้สเปกเป็น AMD 100% ทั้งในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอแยก ได้ประสิทธิภาพที่ทรงพลัง ด้วยการทำงานของ Ryzen 9 5900HX รองรับการ OC จับคู่มากับ Radeon RX 6800M (12GB GDDR6) ประสิทธิภาพสูง เน้นความแรงและฟีเจอร์ที่มากกว่า ROG Strix G15 รุ่นปัจจุบัน อีกทั้งมีให้เลือกหลากหลายรุ่น โดดเด่นด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB พร้อม Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง ที่เราสามารถปรับแต่งได้ 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

Advertisement

นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสดใหม่ด้วยระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ทำงานร่วมกับสารโลหะเหลว (Liquid Metal) จากทาง Thermal Grizzly เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผล แทนการใช้ซิลิโคนนำความร้อนแบบปกติ พร้อมด้วยฟีเจอร์ Gaming ต่างๆ ที่ล้ำกว่า Gaming Notebook ทั่วไป สมกับการมาของสเปก Ryzen 5000H + Radeon RX 6000M รุ่นใหม่ล่าสุด อีกทั้งได้หน้าจอเป็น 15.6″ ความละเอียด QHD พาเนล IPS คุณภาพสูงที่ 165Hz ที่ต้องบอกว่าเป็นหน้าจอที่ดีสำหรับเล่นเกมระดับ eSports

VDO review

VDO Live 

NBS Verdict

สรุปแล้ว ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition ถือว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ปี 2021 สเปก AMD สายพันธุ์ 100% ทั้งชิปประมวลผล Ryzen 5000H และการ์ดจอแยก Radeon RX6000M ที่เน้นความเป็น Gaming จริงจังที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้  ดีไซน์คล้ายกับรุ่นสเปก Intel + NVIDIA มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผลระดับสูงและการ์ดจอ Gaming ที่แรงกับทุกเกมในตลาดแน่นอน พร้อมจอพาเนล IPS เกรดสูง sRGB 100% ที่ความละเอียด QHD@165Hz ซึ่งเป็นหน้าจอมาตรฐานที่ดีกว่าของ Gaming Notebook ในตลาดทั่วไป

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 77

โดยชิปประมวลผล Ryzen 9 5900HX เป็นรุ่นที่แรงที่สุด พร้อมรองรับการ Overclock เพิ่มได้ ส่วนการ์ดจอแยกอย่าง Radeon RX 6800M (12GB GDDR6) เองก็เป็นรุ่นท็อปสุด มาพร้อมสถาปัตยกรรมล่าสุดอย่าง NAVI 22 เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตรเหมือนกัน ที่สำคัญฟีเจอร์อื่นๆ ยัดมาให้อย่างแน่นอน ไม่แค่นั้นเรื่องระบบระบายความร้อนก็ทำได้ดี ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง  เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียงกัน โดยคาดว่ารุ่นขายจริงจะมีสเปกให้เลือกซื้อมากกว่านี้ และมีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงจนเกินไป  

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 74

ในส่วนของรุ่นรองลงมา ถ้ามีมาในอนาคตก็คาดว่าจะมีเป็น Ryzen 5 5600H / Ryzen 7 5800H พร้อมพ่วงด้วย Radeon RX 6600M / Radeon RX 6700M รองรับการทำงานพื้นฐานได้สมบูรณ์แบบ หรือจะเอาไปทำงานหนักๆ รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็สบายมากๆ เทียบเท่ากับการ์ดจออีกแบบเจ้าตลาดได้สบายๆ ติดตั้งแรมมาให้ขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ  1TB เรื่องความแรงกับความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับค่าตัว 59,990 บาท ได้ประกัน 3 ปี On-site Service และประกันอุบัติเหตุใน 1 ปีแรกแล้ว ก็น่าว่ามีความน่าสนใจมากๆ 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 81

เรียกได้ว่าใครต้องการ Gaming Notebook ที่ให้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นที่ดีกว่า Gaming Notebook ราคาคุ้มค่าทั่วไป พร้อมความแตกต่างที่ไม่ได้ใช้การ์ดจอเป็น GeForce RTX 30 แล้ว ก็สามารถเลือกซื้อเป็น ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition ได้เลย แน่นอนว่าได้ฟีเจอร์ Gaming อย่างไฟคีย์บอร์ด RGB ไฟ Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง รวมถึงระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ต้องบอกว่าราคาสูงกว่า TUF Gaming Series ในระดับนึง แต่ก็แลกกับฟีเจอร์อะไรที่มากกว่าเยอะเช่นกัน 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 33

สำหรับข้อสังเกต จะเป็นเรื่องดีไซน์เป็นหลัก แม้จะมีลูกเล่นในส่วนของ ROG Cap ที่เราสามารถสไลด์เปลี่ยนไปมาได้ ทั้งสีแดง Challenger Red / สีเงิน Spangle Silver / สีดำโปร่งแสง Translucent Black ซึ่งแตกต่างจาก ROG Strix G15 ทั่วไป แต่ก็ด้วยการใช้พื้นฐานเดียวกัน 100% ทำให้ไม่มีกล้องเว็บแคมมาให้ในตัวเช่นเดิม รวมถึงไม่มี SD Card Reader ติดตั้งมาให้ และมี USB-C เพียงพอร์ตเดียว ถ้าจะใช้งานต้องหาซื้อมาติดตั้งเพิ่มเอง โดยถ้าใครคิดว่าไม่เป็นปัญหาอะไร และเป็นแฟน AMD ตัวจริงเน้นสเปกฮาร์ดแวร์ภายในที่ประสิทธิภาพสูงมากกว่า ก็ตามไปจัดกันได้เลย 

 จุดเด่น ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

  • ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์แฟนๆ ROG สไตล์ปี 2021 พร้อมงานประกอบที่ดี 
  • ประสิทธิภาพสูงด้วย AMD 100% ชิปประมวลผล Ryzen 9 5900HX การ์ดจอแยก Radeon RX 6800M ซึ่งรองรับการ Overclock ด้วย
  • ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB รองรับการติดตั้ง SSD M.2 อีก 1 ตัวได้ทันที 
  • ได้หน้าจอพาเนล IPS เกรดสูง sRGB 100% ความละเอียด QHD ได้ Refresh Rate ที่ 165Hz
  • คีย์บอร์ดมีไฟหลากสีแบบ Per-key RGB พร้อม Surrounded Light Bar ด้วย AURA RGB
  • มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
  • มาพร้อม Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที
  • มีพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน เพียงพอต่อการใช้งาน 
  • ลำโพงดัง 4W x 2 คุณภาพเสียงดีด้วยเทคโนโลยี Smart Amp
  • ระบบระบายความร้อนดีขึ้นด้วยโลหะเหลว (Liquid Metal) และ Vapor Chamber Cooling
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง
  • รองรับการชาร์จไฟผ่านทาง USB-PD (ชาร์จช้าอแดปเตอร์ปกติ)
  • ประกัน 3 ปี On-site Service พร้อมปีแรกมีประกับอุบัติเหตุ ตามมาตรฐานของ ROG Series

ข้อสังเกต ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

  • ดีไซน์โดยรวมใช้พื้นฐานจาก ROG Sritx G15 แต่มีการปรับลวดลายให้สวยยิ่งขึ้น 
  • ไม่มีกล้องเว็บแคมมาให้ในตัว ถ้าจะใช้งานต้องหาซื้อมาติดตั้งเพิ่มเอง
  • ไม่มี SD Card Reader ติดตั้งมาให้ และมี USB-C เพียงพอร์ตเดียว

Specification

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition ตอนนี้เป็นเครื่องขายจริงแล้ว รุ่นที่ได้มารีวิวเป็นสเปกที่แรงมากๆ ในราคาคุ้มค่า คือ ได้ชิปประมวลผลตัวแรงสุดของ AMD อย่าง Ryzen 9 5900HX ความเร็ว 3.30 – 4.60GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ประสิทธิภาพดีที่สุดรองรับการ OC พร้อมการ์ดตัวแรงตัวแรกจาก AMD ในปี 2021 อย่าง Radeon RX 6800M พร้อมที่ก็ข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ 8GB x 2 แถว ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 Home พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก

Asus ROG Strix G15 Advantage Edition GL543QY HQ009T

หน้าจอที่นำมาติดตั้งเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ กับความละเอียด QHD ที่ 2560 x 1440 พิกเซล สัดส่วน 16:9 พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.2 Type-C, HDMI, 3 x USB 3.2 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45, Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX (2×2) ส่วนการรับประกันเป็นแบบ 3 ปี มีบริการ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านด้วย พร้อมประกันอุบัติเหตุอีก 1 ปี 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 29

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition ราคา 59,990 บาท

  • CPU : AMD Ryzen 9 5900HX (8C/16T & 3.30 – 4.60GHz)
  • GPU : AMD Radeon 8 + Radeon RX 6800M (12GB GDDR6)
  • RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
  • DISPLAY: 15.6″ IPS Quad HD @165Hz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 1TB
  • OS : Windows 10 Home
  • Warranty : 3 Years On-site + 1 Year Perfect Warranty

Hardware / Design

ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition เป็น Gaming Notebook ขอบจอบางตัวเครื่องมิติเล็กกระชับทั้ง 3 ด้าน คือ บน ซ้ายและขวา พร้อมตัดกล้องเว็บแคมออกไป มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม มีความบางสุดที่ 22.6 ~ 27.2 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าโดยรวมมาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบ ได้รับ DNA เต็มๆ มาจาก ROG Strix G15 รุ่นปัจจุบันในหลายๆ ส่วน แต่ว่ามีโลโก้ AMD ที่มุมซ้ายล่างของฝาหลัง พร้อมสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ขอบตัวเครื่องได้ อย่างตอนนี้ตามภาพคือติดตั้งเป็นสีแดงอยู่ 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 45

บานพับเป็นแบบ 2 แกนยกตัวขึ้นมา ซึ่งมีความพิเศษสุดๆ คือได้ชุดระบายความร้อนด้านหลังที่รูปแบบ 3 มิติ พร้อมระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling เรียกได้ว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น ได้เรื่องความล้ำสมัยและคำนึงถึงอรรถประโยชน์ในการใช้งานเป็นหลัก ให้ผิวสัมผัสบนตัวเครื่องในส่วนที่ต้องใช้งานมีอุณหภูมิไม่สูงกว่า 40C (ทดสอบที่อุณหภูมิห้อง 25C) วัสดุโดยรวมทั้งหมดเป็นพลาสติกให้สัมผัสที่ดีพรีเมียม และรู้สึกดีกว่าพลาสติกแบบธรรมดาทั่วไป

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 38

พร้อมทำลวดลายโฉบเฉียบตามสไตล์ของ ROG แต่มีการปรับรายละเอียดเล็กน้อยกับลวดลาย ROG เล็กๆ ที่ให้ความเป็น Gaming Notebook ที่จัดเต็มด้วยไฟ RGB มากกว่า อย่างฟีเจอร์ Surrounded Light Bar ที่เป็นขอบตัวเครื่องด้านหน้าทั้งหมด พร้อมกินพื้นที่มาด้านข้างเล็กน้อย ได้เกมมิ่งคีย์บอร์ดแบบ Per-key RGB ให้สามารถปรับแต่งแสงไฟได้ตามสไตล์ของผู้ใช้อย่างอิสระมากถึง 16.7 ล้านสี ผ่านฟีเจอร์ Aura Sync รวมไปถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ที่รองรับ Gaming Gear ของ ASUS เอง เรียกได้ว่าตอบโจทย์ Gamer อย่างแท้จริง 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบบานพับสองแกนดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณ 145 องศา พร้อมเว้นขอบเอาไว้โชว์ไฟแสดงไฟ LED การทำงานต่างๆ ส่วนด้านท้ายและขอบเครื่องซ้ายขวาจะเห็นถึงช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 4 ช่อง อีกทั้งด้วยระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ทำงานร่วมกับดีไซน์ช่องระบายความร้อนแบบ 3D Flow Zone 2 สองพัดลมขนาดใหญ่ ครีบใบ 0.1 มิลลิเมตร ความเร็วสูงแบบ 12V แบบ 84 ใบพัดรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มอัตราการไหลเวียนอากาศได้ดีขึ้น และท่อฮีทไปป์จำนวน 6 ท่อขนาดใหญ่ โดยมี Copper Plate ที่ครอบทับบริเวณชิ้นส่วนที่จะเกิดความร้อน

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

รวมไปถึงระบบกำจัดฝุ่น Anti-Dust Cooling ช่วยให้ความร้อนต่ำและใช้งานตัวเครื่องได้ด้วยความเสถียรอย่างต่อเนื่องอีกทั้งยังได้พัฒนาระบบระบายความร้อนให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเลือกใช้โลหะเหลว (Liquid Metal) จากทาง Thermal Grizzly เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผล แทนการใช้ซิลิโคนนำความร้อนแบบปกติ พร้อมกับท่อน้ำความร้อนพิเศษ Vapor Chamber ช่วยนำพาความร้อนในการถ่ายเทได้เป็นอย่างดี 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 61

ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกมีลวดลาย ROG พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นเป็นแนวยาวใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น รองรับการอัพเกรดแรมได้ 1 แถว, SSD M.2 ซึ่งตัดการรองรับอัพเกรด HDD ออกไปแล้ว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 30

สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุทั้งหมด ทำได้ดีตามมาตรฐานของ ASUS ROG ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ เแม้ว่าดีไซน์จะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า แต่ก็ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ กับมาตรฐานใหม่ของ Gaming Notebook ช่วงต้นปี 2021 ที่ไม่ใช่แค่แรงลื่นล้ำจากสเปกภายใน 

แต่ ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition ได้ฟีเจอร์อื่นๆ และความสดใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งต้องยอมที่จะตัดกล้องเว็บแคมออกไปเลย ถ้าจะใช้ต้องหามาเอง อย่างไรก็ตามสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ ดีไซน์และสเปกแรงๆ ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นเดิมได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากการที่ได้ดีไซน์ สเปก ฟีเจอร์ และราคาที่เหมาะสมที่สุด

Keyboard / Touchpad

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition เป็นคีย์บอร์ดมีไฟหลากสีด้วยเทคโนโลยี AuraRGB ของทาง ROG ที่สามารถปรับแต่งสีไฟเองได้ด้วยซอฟต์แวร์ภายในได้ในแต่ละปุ่ม ให้ความสะดวกด้วยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปพร้อมจังหวะเด้งสุดๆ ให้รูปแบบคีย์บอร์ดที่แตกต่างจาก Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ทั่วไป จากการที่ตัด Numpad ด้านขวาออกไป พร้อมขยายปุ่มคีย์บอร์ดให้มีความกว้างขึ้น

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key Rollover & Anti-Ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง รวมถึงสามารถมีฟังก์ชั่นเพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมค์ ปุ่มปรับโหมดการทำงาน และ ปุ่ม Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility  ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์ ส่วนด้านซ้ายชุดคียบอร์ดก็มี Hot Key ต่างๆ ในการควบคุมมีเดียเช่นกันเล่นเพลงหรือไฟล์ VDO 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 23

ที่สำคัญมีในส่วนของปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดอย่าง F5 หรือ Hot Key ด้านบน ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Turbo Mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด หรือ Balanced mode เพื่อความสมดุลในการใช้งาน ทัชแพดเองขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อน ดีไซน์แบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายขวาแล้ว ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมากกว่ารุ่นก่อนหน้าด้วย

Screen / Speaker

หน้าจอแสดงผลของ ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition มีขนาด 15.6” ความละเอียด Quad HD พาเนล IPS คุณภาพสูงแบบด้าน Anti-glare ด้วย Refresh Rate สูงสุด 165Hz ได้ Response Time ที่ 3msให้ทุกการเล่นเกมคมชัด สมจริง ลื่นไหลและยังแสดงสีได้อย่างแม่นยำสำหรับการทำงานเฉพาะทางอีกด้วย แน่นอนว่ามีดีไซน์หน้าจอขอบจอบางเฉียบทั้งขอบด้านข้างและด้านบน (พร้อมเลือกตัดกล้องเว็บแคมออกไปเลย) ถือว่าเป็นมาตรฐานหน้าจอของ Gaming Notebook ปี 2021ในระดับ Gaming Notebook ตัวจริง 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพที่ดีกว่าหลายๆ รุ่น มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น จึงได้ทำการทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 100% / AdobeRGB ที่ 88% / DCI-P3 ที่ 91% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับที่ดีแบบมาตรฐานที่ควรจะเป็นของโน๊ตบุ๊คราคาช่วงนี้ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 400 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน นับได้มาพัฒนาจากรุ่นปีก่อนได้ยอดเยี่ยม

s1 1

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องแถวล่างมุมซ้ายจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 15% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ส่วนค่าคลาดสี Delta E เฉลี่ยแล้วต่ำเพียง 1.27 เท่านั้น ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว

dolby

ตัวเครื่อง ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition มีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง กำลัง 4W x 2 พร้อม Smart Amp และระบบเสียง Dolby Asmos ปรับแต่งได้หลากหลาย เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ เรื่องของความดังของเสียงถือว่ามากกว่า 2 เท่า เรื่องคุณภาพและความดังจัดว่าประทับใจ ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่องนี้ ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 พอร์ต, และ USB 3.2 Type-C อีกจำนวน 1 พอร์ตมาให้ด้วย ซึ่งรองรับการโอนถ่ายข้อมูล ต่อหน้าจอแยก DisplayPort ชาร์จไฟด้วยมาตรฐาน USB-PD (USB Power Delivery) ทั้งอแดปเตอร์หรือ Power Bank (แนะนำว่าควรใช้รุ่น 65W – 100W เพื่อการชาร์จไฟกลับได้รวดเร็ว) นับได้ว่าในส่วนฟีเจอร์นี้เยี่ยมยอดกับการชาร์จไฟเข้าตัวเครื่องที่สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งชาร์จช้ากว่าอแดปเตอร์หลัก

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, พอร์ต LAN ตัวเต็ม และ HDMI ไว้เชื่อมต่อหน้าจอภายนอกในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX ได้เทคโนโลยี RangeBoost แบบ 2 x 2 ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ไม่มี SD Card Reader ติดตั้งมาให้ด้วย ถ้าจะใช้งาน แนะนำว่าควรหาอแดปเตอร์ที่เป็น USB Hub มาเพิ่ม

ส่วนการพกพาเองก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ โดยมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ตัวอื่นๆ มิติตัวเครื่องโดยรวมมีขนาด 360 x 275 x 21~25.8 มิลลิเมตร อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมในเรื่องการพกพาไปไหนมาไหน แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์ 280 Watt แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 2.7 กิโลกรัม ก็พอที่จะใส่กระเป๋าและเอาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ไม่ยากเย็นอะไร ถือได้ว่าสะดวกสำหรับการเคลื่อนย้ายอยู่ 

Inside / Upgrade

ถ้าใครต้องการจะแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมดประมาณ 10 ตัว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี แต่มีข้อควรระวังก็คือ Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง ซึ่งจะมีสายแพรเชื่อมต่อไว้อยู่ ไม่แนะนำให้ถอดโดดเด็ดขาด ฉะนั้นเมื่อแกะฝาแล้วให้ถอดวางไว้ใกล้ๆ กัน และระมัดระวังมากๆ ขณะที่อัพเกรดหรือทำความสะอาด 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

เมื่อแกะออกมาแล้วจะพบกับหน่วยความจำแรมขนาด 16GB โดยติดตั้งมาแล้ว 8GB x 2 แถว (Dual Channel) มาตรฐาน SO-DIM RAM รองรับการอัพเกรดได้สูงสุด 64GB  และ SSD ขนาด 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด พร้อมรองรับการใส่ SSD M.2 อีก 1 ตัวทันที ที่ต้องบอกว่าสำหรับการใช้งานทั่วไปและใข้งานเล่นเกม AAA แต่ถ้าใช้งานหนักๆ จนไปถึงการสตรีมเกม หรือเปิดโปรแกรมเยอะๆ แนะนำให้อัพเกรดเป็นแรม 32GB จะดีมากๆ

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 84

ระบบระบายความร้อนใช้ในการพัดลมเข้าออกนั้นจะอยู่ที่บริเวณด้านหลังของตัวเครื่อง 2 ช่อง (มีช่องไล่ฝุ่น) ด้านข้างอีก 2 ช่อง โดยการเชื่อมต่อระหว่างส่วนของพัดลมนี้กับชิป CPU / GPU จะทำผ่าน Heat Pipe จำนวน 6 เส้นขนาดใหญ่ ที่สำคัญคือใช้ซิลิโคนแบบพิเศษแตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ด้วยสารประกอบโลหะเหลว Liquid Metal + Vapor Chamber Cooling เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผลและการ์ดจอ ซึ่งการทดสอบเบื้องต้นบอกได้เลยว่าน่าประทับใจมากๆ แม้สเปกจะแรงมาก แต่ความร้อนนั้นถือว่าเย็นทีเดียว

Performance / Software

สำหรับ ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition มาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวท็อปสุดในตลาดของ Gaming Notebook ของ AMD อย่าง Ryzen 9 5900HX เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่า Ryzen 5000H ทุกตัวในตลาด ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 3 โค้ดเนม Cezanne มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 3.30 – 4.60 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 16MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 45W – 54W แน่นอนว่ารองรับการ Overclock จาก ASUS ด้วย ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ มากยิ่งขึ้นไปอีก

มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ 8GB x 2 แถว ซึ่งเป็นแบบ SO-DIMM ซึ่งเราสามารถถอดอัพเกรดเพิ่มได้ทันที กับขนาดแรมที่รองรับสูงสุดที่ 64GB พร้อมกับมี SSD M.2 NVMe PCIe 3.0 ความจุ 1TB x 1 ตัว รองรับการอัพเกรดได้อีก 1 ตัวทันที พร้อมเชื่อมต่อแบบ Raid 0 เพิ่มความแรงไปอีก แน่นอนว่าสามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ใช้งานลื่นไหลทันทีแบบรวดเร็วอย่างที่สุด

c1 1.    c2 1

ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon 8 มีความเร็วในการทำงานที่ 2100MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเป็นหลัก กับหน้าจอความละเอียดสูงให้ความลื่นไหลเป็นอย่างดี ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงจาก AMD เช่นกัน

อย่าง Radeon RX 6800M สถาปัตยกรรม NAVI 22 เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร มี 2,560 Stream Processors ที่ค่า TGP (Total Graphic Power) 145W มีแรม 12GB GDDR6 กับ Memory bus 192-bit  ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ระดับท็อป รองรับเกมระดับ AAA ก็ยังสามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

g1 1.   g2

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / CINEBENCH 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 9 5900HX คะแนนก็อยู่ในระดับสูงมากๆ อย่างน่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Ryzen 5000H เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 9 4900H / Intel Core i9-10980HK ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยก Radeon RX 6800M เองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนสุด ที่เน้นการทำงาน 3D เป็นหลัก

cine15 1.   cine20 1

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว โดยใช้เป็นเกรดสูงสุด ซึ่งทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจมากๆ บนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe PCIe พร้อมรองรับอีก 1 สล็อต ทำให้ทำ Raid เพื่อเพิ่มความเร็วแรงมากกว่า SSD M.2 ทั่วไปก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ  3,155 MB/s และเขียนที่ 1,703 MB/s ที่ต้องบอกว่าเหนือชั้นกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด

ssd 1

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 7,150 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ด้วยการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุด จากชิปประมวลผล Ryzen 9 5900HX มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming ตัวบนสุดอย่าง Radeon RX 6800M ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คตัวท็อปรุ่นปีก่อนๆ มากพอตัวระดับเทียบเท่าการ์ดจอไฮเอนด์อีกค่าย ฉะนั้นการใช้งานพื้นฐานหรือทำงานหนักๆ สอบผ่านได้สบายๆ แต่คาดว่าคะแนนน่าจะทำได้ดีกว่านี้ คาดว่ามาจาก Driver ยังต้องอัพเดทกันต่อไป 

pc10 1

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 10,636 เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน แต่เครื่องนี้เป็นเดโม รวมไปถึงซอฟต์แวร์ยังไม่รองรับเต็มที่ 100% ไว้มีโอกาสได้มาทดสอบกันอีกที 

3dd

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 8 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 90 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil Village / GTA V / Battlefield V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง SCUM / PUBG / DOTA 2 / APEX ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย

ทดสอบเกมทุกๆ เกมก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ (ซึ่งละเอียดกว่า 1920 x 1080 พิกเซล) โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด !!! จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว โดยในส่วนของ Resident Evil Village ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB สมกับตัวการ์ดจอที่ 12GB ทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลน่าประทับใจทีเดียว

game test 1

ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / DOTA 2 / APEX รวมไปถึงเกม SCUM ที่กินสเปก ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 2560 x 1440 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย  ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แต่อย่างเกม SCUM แนะนำให้ปรับกลางๆ น่าจะเหมาะกับการเล่นมากกว่า 

ซอฟต์แวร์ Armoury Crate ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆ ของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆของระบบรวมไปถึงการปรับแต่งไฟด้วย Aura Sync นั้นทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว หรือผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลากหลายโปรไฟล์ ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ

arm

แน่นอนว่า ASUS Notebook รุ่นนี้เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ที่สำคัญยังเลือกเชื่อมต่อกับมือถือสมาร์ทโฟนผ่านทางซอฟต์แวร์ตัวนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ดีตัวนึงเลย ดีกว่าหลายๆ รุ่นที่ไม่มีแน่นอน

myasus

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวได้กว่า 12 ชั่วโมงทีเดียว เรียกได้ว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้นานมากๆ ถ้าเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นต่างๆ ในยุคก่อน คาดว่าจะการที่ตัวเครื่องจัดการพลังงานได้ดีขึ้นจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H รุ่นใหม่ พร้อมกันนั้นยังรองรับ USB-PD ในการชาร์จไฟกลับเข้าเครื่องด้วย 

batt3

ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ตัวเครื่องเมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซียส ส่วการ์ดจอแยกจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ซึ่งอุณหภูมิชิปประมวลผลนี้ดูผ่านทางซอฟต์แวร์ Hardware Monitor เพื่อดูว่าชิปประมวลผล CPU ว่าจะร้อนที่สุดอยู่เท่าไรในการใช้งานจริงๆ

temp

ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องสำหรับชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 95 องศาเซลเซียสเท่านั้น ที่ต้องบอกว่าค่อนข้างเย็นทีเดียวถ้าเทียบความแรงที่ได้จากรุ่นก่อนๆ จากการใช้สารประกอบโลหะเหลว Liquid Metal ช่วยนำพาความร้อนได้เป็นอย่างดี ส่วนที่เป็นการ์ดจอแยก GPU ต้องดูที่ GPU-Z จะอยู่ที่ 75 – 80 องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่ามีความเย็นพอตัว จากที่เป็นการ์ดจอรุ่นใหม่ ส่วนเสียงพัดลมก็ดังขึ้นจากการที่เปิดฟีเจอร์ Turbo แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง

gt

Conclusion / Award

จากประสบการณ์และใช้งานจริงๆ ของ ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition เครื่องขายจริงในไทย สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 9 5900HX ทำงานร่วมกับการ์ดจอ AMD Radeon RX 6800M สนับสนุนทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า ASUS ทำออกมาได้แตกต่างบางส่วนกับ ROG Strix G15 รุ่นปกติ ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า ด้วยลวดลายใหม่ สีสันใหม่ เน้นฟีเจอร์และความพรีเมียมกว่า TUF  มีไฟ RGB จัดเต็ม งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

เรียกได้ว่าเหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ที่มีอยู่ทั่วไป จากการที่เกือบทุกรุ่นในตลาดใช้การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 30 Series โดดเด่นด้วยสเปคประสิทธิภาพสูง ทั้งในการเล่นเกมหนักๆ ระดับ AAA หรือว่าการทดสอบอื่นๆ ที่บอกเลยว่าของจรอง อีกทั้งยังควบคุมความร้อนและจัดการแบตเตอรี่ได้ดีกว่าเดิมมากๆ ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS ขอบเขตสี sRGB 100% ความละเอียด QHD ที่ Refresh Rate 165Hz  กับราคา 59,990 บาท ได้ประกัน On-site 3 ปี ซ่อมฟรีถึงบ้าน และประกันอุบัติเหตุในปีแรก ก็นับว่ามีความคุ้มค่าจริงๆ 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

ที่น่าสนใจอื่นๆ ของ ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition จะเป็นระบบระบายความร้อนอย่าง ROG Intelligent Cooling และ สารประกอบโลหะเหลว Liquid Metal ระดับพรีเมี่ยมจากทาง Thermal Grizzly และ Vapor Chamber Cooling ที่ใส่ทุกอย่างจัดเต็มกว่าทีเคยมีมา ที่แม้สเปกจะแรงขึ้นแต่ก็เย็นกว่าเดิม คีย์บอร์ดมีไฟหลากสีด้วยเทคโนโลยี AuraRGB ของทาง ROG และ Light Bar ที่สามารถปรับแต่งเองได้ด้วยซอฟต์แวร์ภายใน ให้ความสะดวกด้วยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition

การเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.2 Type-C ที่รองรับการชาร์จไฟเข้าเครื่อง และมี USB 3.2 Type-A / Gigabit Ethernet / Bluetooth 5.1 / Wi-Fi 6 AX ASUS RangeBoost ใช้งานได้ครบครัน อย่างไรก็ตามใช่ว่า Gaming Notebook จะไม่มีข้อสังเกตเสียทีเดียว อย่างกล้องเว็บแคมที่ต้องบอกว่า ASUS ใจเด็ด เลือกที่จะตัดออกไปเลย เข้าใจว่า Gamer ใช้งานกันน้อยอยู่แล้ว ส่วนถ้าใครจะสตรีมจริงจังยังไงก็คงต้องซื้อแยกอยู่ดีนั่นเอง แต่ถ้าใครรับได้ตรงจุดนี้ ก็บอกเลยว่ารอจัดกันได้เลย 

ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition Review 35

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Strix G15 Advantage Edition ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Gaming

Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่ได้ความแรงจัดๆ และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น หน้าจอ QHD@165Hz พาเนล IPS ขอบจอบางเฉียบ ระบบระบายความร้อนดีเยี่ยม ผสานการทำงานของซิลิโคนแบบพิเศษเป็นสารประกอบโลหะเหลว Liquid Metal + Vapor Chamber ระดับพรีเมี่ยม ช่วยนำความร้อนเป็นอย่างดี รวมไปถึงซอฟต์แวร์ Armory Crate ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และอื่นๆ อีกมากมาย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมเน้นความคุ้มค่าที่มาพร้อมฟีเจอร์ ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกในตลาด Gaming Notebook ที่ดีรุ่นหนึ่ง ในช่วงราคา 59,990 บาทเท่านั้น 

 award new Gaming 

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS ROG โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ROG Strix + AMD ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วหรูหราตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม เน้นความ eSport ตัวจริง เห็นได้ชัดจากชุดระบายความร้อนด้านหลังที่เป็นครีบคล้ายกับเสื้อสูมมอเตอร์ไซต์ อีกทั้งยังมีไฟ RGB Light Bar รอบตัวอีกด้วย เรียกได้ว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

NBS award 7 Design

Best Performance

ด้วยสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 9 5900HX ตัวท็อปแรงสุด และการ์ดจอแยกตัวแรงสดใหม่ไม่ซ้ำใครอย่าง AMD Radeon RX 6800M ซึ่งรองรับการ Overclock ทั้ง CPU / GPU รวมไปถึงได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz และที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้กว่าสเปกในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย เทียบความแรงกับราคาคุ้มค่ามากๆ

award new performance

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ปีนี้นับเป็นปีที่ซีพียูโน้ตบุ๊กของ AMD มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัด และมีความน่าสนใจในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยที่ยังคุมการใช้พลังงานและความร้อนได้ดี ทำให้เราได้เห็นการนำซีพียู AMD ไปใช้ทั้งในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตั้งแต่สเปคระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับท็อป รวมถึงในกลุ่มเครื่องเกมพีซีพกพาด้วย แต่ที่จะเด่นชัดสุดคงหนีไม่พ้นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีโค้ดเนมว่า AMD Strix Point หรือในชื่อที่ใช้จริงนั่นคือ AMD Ryzen AI 300 series นั่นเอง

Special Story

สำหรับการเล่นเกม แน่นอนว่าพลังประมวลผลกราฟิกจาก GPU คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เพราะจะเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงระดับประสิทธิภาพว่าจะสามารถเรนเดอร์ภาพออกมาได้สวย เฟรมเรตสูง ความหน่วงต่ำขนาดไหน ทำงานร่วมกับ CPU และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในเครื่อง ซึ่งถ้าทั้งระบบสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นไปด้วย นอกจากนี้เหล่าผู้ผลิตเองก็มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพลังกราฟิก โดยที่ยังลดภาระของฮาร์ดแวร์ลงด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ AFMF 2 เทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD นั่นเอง

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก