Bang & Olufsen ขอเสนอ Beoplay EQ หูฟัง True Wireless รุ่นแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ Adaptive Active Noise Cancellation ที่ช่วยกำจัดเสียงรบกวนโดยรอบออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณดื่มด่ำกับคุณภาพเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bang & Olufsen ได้อย่างเต็มอิ่ม หูฟังสุดหรูรุ่นนี้รังสรรค์มาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ความสบายและความทนทาน ตลอดจนเสียงสนทนาที่คมชัดเหนือกว่าใครจากเทคโนโลยี Beamforming ที่วิเคราะห์และจับเสียงสนทนาได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำงานจากที่บ้าน เดินทางไปทำงาน หรือท่องเที่ยวพักผ่อน Beoplay EQ จะเป็นเพื่อนคู่หูที่คุณพกพาไปได้ทุกที่ โดยไม่ต้องกังวลกับเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเลย
“ตอนเราสร้าง Beoplay EQ เราตั้งปณิธานว่าจะมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าพวกเขาจะนำไปใช้งานระหว่างเดินทาง ทำธุรกิจ หรือพักผ่อนหย่อนใจก็ตาม เราจึงออกแบบหูฟังให้รับกับสรีระเพื่อความสบายในการใช้งานและให้เสียงคมชัดทรงพลัง ตอบโจทย์ของคนรักงานออกแบบและเสียงเพลงได้เป็นอย่างดี และด้วยตลับชาร์จอลูมิเนียมแข็งแรงทนทานและเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ Adaptive Active Noise Cancellation Beoplay EQ จึงปฏิวัติประสบการณ์ในการฟังได้ทุกที่ทุกเวลาครับ” Christoffer Poulsen รองประธานอาวุโสฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen กล่าว
คุณภาพเสียงและเทคโนโลยี ANC ชั้นเลิศ
เพื่อประสิทธิภาพสุดสุดในการตัดเสียงรบกวน Bang&Olufsen เลือกใช้เทคโนโลยี Adaptive ANC ที่ผสานการตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancellation เข้ากับการออกแบบหูฟังที่ตัดเสียงแบบ Passive อันยอดเยี่ยม ทำให้สกัดกั้นเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างเหนือชั้น นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบชิป ANC DSP และไมโครโฟน 6 ตัว ที่ช่วยปรับระดับ ANC โดยอัตโนมัติ เพื่อประสบการณ์ด้านคุณภาพเสียงที่ราบรื่นไร้ที่ติ อีกทั้งไมโครโฟนเหล่านี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Directional Beamforming ที่จับทิศทางของเสียงพูด แล้วทำให้คมชัดขึ้น ในขณะที่ตัดเสียงรบกวนรอบข้างออก ส่งผลให้การสนทนาชัดเจนยิ่งขึ้น
Beoplay EQ ผ่านการปรับและออกแบบโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงของ Bang & Olufsen จึงมอบประสบการณ์การรับฟังที่เพลิดเพลินและเต็มอิ่มอย่างแท้จริง ผู้ใช้งานสามารถท่องไปกับเสียงดนตรีได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง รวมเวลาใช้งานจากการชาร์จในตลับ และใช้งานได้ 6.5 ชั่วโมงเมื่อเปิดใช้งาน ANC ด้วยฟีเจอร์ชาร์จเร็วของ Bang & Olufsen หูฟัง Beoplay EQ สามารถชาร์จเร็วเพียง 20 นาที และสามารถเล่นเพลงได้นานถึง 2 ชั่วโมง
ดีไซน์หรูหรา
หูฟังมีให้เลือกสองสี ได้แก่ Black Anthracite และ Sand Gold Tone ซึ่งหูฟัง Beoplay EQ ทั้งสองสีมีความสวยหรู ทว่าใช้งานได้จริง เหมาะกับสรีระและสวมใส่สบาย เนื่องจากรูปทรงมีขนาดเล็กและออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ อีกทั้งยังกันเหงื่อและกันน้ำ โดยมาพร้อมกับปลอกหุ้มหูฟังหลายขนาดที่สามารถถอดเปลี่ยนและเลือกให้เหมาะสมกับหูของผู้สวมใส่ จึงตอบโจทย์สำหรับคนที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา และสวมหูฟังนาน ๆ อีกทั้งตลับชาร์จไร้สายผ่านยังผ่ายการรับรองมาตรฐาน Qi ผลิตจากอลูมิเนียมเกรดที่ใช้กับอากาศยาน มอบความหรูหราและความทนทานให้กับผลิตภัณฑ์ ตัวตลับออกแบบมาให้มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้พกใส่กระเป๋าไปได้ทุกที่
เชื่อมต่อไม่มีสะดุด
สเปคทางเทคนิคอันยอดเยี่ยมของ Beoplay EQ มอบประสบการณ์แบบไร้สายที่ราบรื่นไม่มีสะดุดด้วยเทคโนโลยี aptX Adaptive, Bluetooth 5.2 ใหม่ล่าสุดและมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่น IP54 การตั้งค่าก็ง่ายดาย ไม่ว่าจะบนอุปกรณ์ Android และ Apple เนื่องจากมีใบอนุญาต Microsoft Swift Pair และ Made for iPhone ในตัว
ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
Beoplay EQ ราคาขายปลีกที่แนะนำ 15,900 บาท จะวางจำหน่ายในร้าน Bang & Olufsen เกสรวิลเลจ, Crystal Veranda, BeTrend Paragon และ ร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาต Dotlife, Studio7, iStudio by Copperwired, iStudio by SPVI, iBeat by Copperwired, MunkongGadget, Beyond d Box, Power Buy, Power Mall, Banana IT, Discovery Retail/ Digital Lab, Bb Move, AV Value และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ Mercular.com, 425 Degree, His.in.th, Central Online, JD.co.th, Lazada, Shopee และ Gadgetthai.net และร้านค้าปลีกอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตตั้งแต่วันนี้ 30 กรกฎาคม 2564 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดตามเราผ่านทาง @bangolufsen บน Instagram, Facebook, Twitter และ YouTube โดยใช้แฮชแท็ก #BeoplayEQ
###################
เกี่ยวกับ BANG&OLUFSEN
Bang & Olufsen เจ้าของแบรนด์ไลฟ์สไตล์สุดหรูที่เป็นที่นิยมในทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2468 ในเมือง Struer ประเทศเดนมาร์ก โดย Peter Bang และ Svend Olufsen ที่ทั้งความทุ่มเทและวิสัยทัศน์ของทั้งคู่ยังคงเป็นรากฐานของบริษัทสืบต่อมา สิ่งที่ถ่ายทอดมาคือความมุ่งมั่นที่จะผลิตสินค้าเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับเทคโนโลยีด้านเสียง ช่วยให้บริษัทยังยืนอยู่แถวหน้าในเรื่องนวัตกรรมด้านเสียง ปัจจุบัน สินค้าทั้งหมดของ Bang & Olufsen ยังคงได้ชื่อว่าเป็นส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวระหว่างเสียงที่เต็มอิ่มสมจริง งานออกแบบที่เข้ากับทุกยุคทุกสมัย และงานฝีมืออันโดดเด่นเหนือใคร บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านเสียงชั้นเยี่ยมอันนำสมัยทั่วโลกจากภายในร้านโมโนแบรนด์ของ Bang & Olufsen รวมถึงจำหน่ายแบบออนไลน์ และในร้านชั้นนำอีกมากมาย บริษัทมีพนักงานประมาณ 900 คน และดำเนินกิจการในกว่า 70 ตลาดทั่วโลก หุ้นของบริษัท Bang & Olufsen จดทะเบียนใน NAS DAQ Copenhagen A/S
เกี่ยวกับ Design Collection
Design Collection Denmark (เดิมคือ MJ Group) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 ในประเทศสิงคโปร์ เมื่อบริษัทเข้ามาดูแลงานบริหารและการค้าปลีกของแฟล็กชิพสโตร์ของ Bang & Olufsen ที่ประจำอยู่ใน Grand Hyatt Singapore และนับจากนั้น บริษัทได้ขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกเพิ่มเติม พร้อมจัดการและดำเนินการด้านเครือข่ายจัดจำหน่ายที่ขยายครอบคลุมใน 3 ทวีปและอีกกว่า 30 ตลาดทั่วโลก โดย Design Collection Denmark (DCD) ยังคงมีสถานะเป็นบริษัทเอกชนและดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ที่ต้องการนำพาแบรนด์ดีไซน์สัญชาติเดนมาร์กสู่ตลาดโลก เครือข่ายค้าปลีกที่ครอบคลุมและคอนแทร็คมาร์เก็ตทั่วโลกของ DCD ได้รับการสนับสนุนในเชิงกลยุทธ์จากสำนักงานที่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ เดนมาร์กและออสเตรเลีย สินค้าภายใต้แบรนด์ของ DCD รวมถึง Bang & Olufsen, Georg Jensen, Ro Collection, Silkeborg Uldspinderi, By Lassen, Menu, Lemus และ ONE A