6 Notebook ตัดต่อวีดีโอ สเปคดีไม่แพง มีเงิน 30k ก็ซื้อได้ อัพเกรดนิดหน่อยก็แรงไม่แพ้พีซีแน่นอน

Notebook ตัดต่อวีดีโอดี ๆ สักเครื่อง จะซื้อมาทำคลิปต้องเลือกยังไงถึงจะดีสุดนะ?

Notebook ตัดต่อวีดีโอได้ดีสักเครื่องในยุคนี้เรียกว่าคุ้มและสเปคแรงในราคาที่จับต้องได้แล้ว และข้อดียิ่งกว่านั้น คือโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้จะเอาไปทำงานเน้น ๆ หรือผสมกับการเป็นสตรีมเมอร์แล้วตัดคลิปช็อตเด็ด ๆ มาอัพโหลดขึ้นช่องของตัวเองก็ได้ ไม่ต้องใช้วิธีประกอบเกมมิ่งพีซีสักเครื่องเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ได้ ซึ่งสเปคของโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้อาจจะอยู่ในระดับที่แรงตอบโจทย์ของใครหลาย ๆ คนแล้วก็ได้ หรือบางคนจะเพิ่มแรมหรือเปลี่ยน SSD ให้ความจุมากขึ้นก็เหลือเฟือแล้ว

สำหรับคนที่คิดอยู่ว่าจะเลือกเครื่องสเปคไหน แรมเท่าไหร่หรือมีรายละเอียดเครื่องส่วนไหนควรใส่ใจบ้าง ก็สามารถศึกษาวิธีเลือกสเปค Notebook ตัดต่อวีดีโอเอาไว้เผื่อว่าถ้ามีโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่น ๆ น่าสนใจแล้วอยู่นอกเหนือจากรุ่นแนะนำในบทความนี้แล้ว แล้วมันจะตัดต่อคลิปได้ดีไหมก็สามารถจิ้มเลือกด้วยตัวเองได้เลย

จะเลือก Notebook ตัดต่อวีดีโอสักเครื่อง ต้องสเปคประมาณไหน (หรืออัพเกรดยังไง)

การเลือก Notebook ตัดต่อวีดีโอสักเครื่องนั้น ถ้ามีความเข้าใจเรื่องคอมพิวเตอร์มาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็สามารถตัดสินใจเลือกได้ไม่ยาก แต่ควรมอง Notebook รุ่นนั้น ๆ แยกเป็นส่วน ๆ ว่าเครื่องนั้นใส่ซีพียู, แรม, การ์ดจอสเปคอะไรมาแล้วใช้หลักการประมาณเอา โดยมีวิธีการดูดังนี้

1. ซีพียู – ชิ้นส่วนหัวใจของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง แยกเป็น AMD, Intel แล้วถ้าจะเอามาตัดคลิปก็ควรเลือกเป็นซีพียูแบบ 4 คอร์ขึ้นไป แต่ถ้าเป็น 2 คอร์ 4 เธรด ก็พอใช้ตัดต่อวีดีโอได้ แต่ใช้เวลาประมวลผลเยอะกว่า โดย Intel จะเป็นรุ่น Intel Core i5 หรือ AMD Ryzen 5 ขึ้นไป ส่วน Intel Core i3 กับ AMD Ryzen 3 ที่เป็น 2 คอร์ 4 เธรดไม่ค่อยแนะนำ เพราะทำงานได้ช้ากว่า
2.  แรม – ในส่วนนี้ผู้เขียนเคยกล่าวถึงไปในบทความ “ไขข้อข้องใจ Ram เท่าไหร่ดี 8GB หรือ 16GB ถึงพอใช้ในปัจจุบัน?” แล้ว โดยสรุปคือถ้าใช้ทำงานตัดต่อคลิปวีดีโอ ขั้นต่ำควรอยู่ที่ 8GB ถ้าให้ดีควรเป็น 32GB เผื่อให้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอเรียกใช้งาน โดยทั่วไปแนะนำที่ 16GB ถือว่าไม่มากไม่น้อยเกินไป
3. ฮาร์ดดิสก์ – ใช้เป็น SSD ไม่ว่าจะเป็น SATA III หรือ M.2 NVMe ได้ยิ่งดี เพราะอ่านเขียนข้อมูลได้รวดเร็ว ซึ่งอาจจะมี External SSD สำหรับใส่ไฟล์ดิบที่ถ่ายมาจากกล้องหรือสมาร์ทโฟนเอาไว้แล้วต่อเข้า Notebook ตัดต่อวีดีโอของเราผ่านพอร์ต USB 3.0 หรือ USB-C แล้วให้โปรแกรมตัดต่อกับพื้นที่เซฟคลิปอยู่ใน SSD ภายในเครื่องแล้วค่อยโอนกลับไปใน External SSD ในภายหลังก็ได้ จะทำให้งานเสร็จเร็วยิ่งขึ้น แต่ถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์จานหมุนทั่วไป แนะนำให้เป็นรุ่นที่ความเร็วอ่านเขียน 7200RPM จะดีสุด
4. การ์ดจอ – ใช้ได้ทั้ง AMD Radeon หรือ NVIDIA GEFORCE ก็ได้ ยิ่งถ้าตัดต่อด้วย Adobe Premier Pro หรือ Davinci Resolve ที่รองรับการทำงานกับการ์ดจอทั้งสองยี่ห้อยิ่งดี และควรมีแรมการ์ดจอขั้นต่ำ 2GB ขึ้นไป สำหรับในโน๊ตบุ๊คไม่แนะนำให้ใช้การ์ดจอในตัวซีพียูหรือ NVIDIA GEFORCE MX Series เท่าไหร่นัก
5. หน้าจอ – อาจจะตัดต่อโดยใช้หน้าจอโน๊ตบุ๊คเลยก็ได้ แต่ถ้าให้ดีที่สุดแนะนำต่อหน้าจอแยกที่มีความแม่นยำสี 72% NTSC (National Television Standards Committee) ซึ่งเป็นขอบเขตสีที่กว้างสำหรับการทำงานกับไฟล์วิดีโอต่าง ๆ 

สำหรับคนที่มีโน๊ตบุ๊คเครื่องเก่าแต่สเปคดี ถ้าสงสัยว่าจะอัพเกรดให้ดีพอจะใช้ตัดต่อคลิปได้หรือเปล่าก็ใช้หลักการเลือกเครื่องใหม่นี้มาประยุกต์แล้วอัพเกรดตัวเครื่องเลยก็ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าซีพียูกับการ์ดจอไม่สามารถอัพเกรดได้ ก็เลือกเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สามารถแก้ไขได้อย่างเปลี่ยนแรมกับฮาร์ดดิสก์ให้ดียิ่งขึ้นแล้วต่อหน้าจอแยกตัวใหม่ที่มีขอบเขตสีกว้างแทนก็ได้เช่นกัน

6 Notebook ตัดต่อวีดีโอสเปคดี มีไว้ตัดคลิปยังไงก็เด็ด!

สำหรับ Notebook ตัดต่อวีดีโอสเปคดีที่แนะนำทั้ง 7 รุ่นนี้ จะมีบางรุ่นที่ขายดีแล้วของขาดตลาดไปบ้างก็อาจจะกดใส่รายการสินค้าที่สนใจเอาไว้ แล้วถ้าของกลับมาเติมในสต็อกเมื่อไหร่ก็สามารถเลือกซื้อได้เลย และข้อดีของโน๊ตบุ๊คเหล่านี้ คือนอกจากตัดต่อคลิปดีก็เล่นและสตรีมเกมได้อีกด้วย โดยมีรุ่นแนะนำดังนี้ 

1. Lenovo Legion 5-82B50045TA (27,750 บาท)
2. MSI GL65 Leopard 10SCSR-058TH (28,900 บาท)
3. Asus TUF Gaming FX506LI-HN091T (29,900 บาท)
4. Asus TUF Gaming Dash F15 FX516PE-HN004T (29,900 บาท)
5. Apple Macbook Air ชิป Apple M1 (32,900 บาท)
6. Acer Nitro 5 AN515-45-R313 (34,690 บาท)

1. Lenovo Legion 5-82B50045TA (27,750 บาท)

Notebook ตัดต่อวีดีโอรุ่นแรกที่แนะนำจะเป็น Lenovo Legion 5-82B50045TA ที่สเปคเหมาะกับทั้งเกมเมอร์และคนที่อยากเอาไปทำงานตัดต่อวิดีโอเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าใครจะเริ่มทำช่อง YouTube แล้วหา Notebook สเปคดีคุ้มค่าไปตัดต่อคลิปสักเครื่อง ก็แนะนำให้ซื้อเครื่องนี้ไปใช้งานได้เลย

สเปคใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 4600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.0-4.0 GHz จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti แรมการ์ดจอ 4GB GDDR6 ส่วนแรมในตัวเครื่องมีความจุ 8GB DDR4 บัส 3200 MHz ซึ่งสเปคระดับนี้เราสามารถใช้ตัดต่อคลิปได้แล้ว แต่ถ้าให้ดีกว่านี้แนะนำให้อัพเกรดแรมเป็น 16GB จะดีที่สุด ฮาร์ดดิสก์เป็น SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB มี Windows 10 Home (64-bit) ติดตั้งมาให้ในตัว ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 ด้วย

สเปคของ Lenovo Legion 5-82B50045TA

• ซีพียู AMD Ryzen 5 4600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.0-4.0 GHz
• การ์ดจอ NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti แรม 4GB GDDR6
• แรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
• ฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe ความจุ 512GB
• หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
• เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0
• ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit)
• ราคา 27,750 บาท (Advice)

2. MSI GL65 Leopard 10SCSR-058TH (28,900 บาท)

สำหรับคนที่ชื่นชอบซีพียู Intel และได้ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง จะแนะนำเป็น MSI GL65 Leopard 10SCSR-058TH แทน และจุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือ จะมี DisplayPort ติดตั้งมาคู่กับ HDMI ทำให้ต่อหน้าจอเสริมเพิ่มได้เป็นพิเศษอีก 1 จอ จึงมีพื้นที่สำหรับดู Footage กับหน้าจอเปิดโปรแกรมตัดต่อเยอะขึ้น ไม่ต้องเหลียวไปมาระหว่างหน้าจอแยกกับจอโน๊ตบุ๊คก็ได้

สเปคใช้ Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti มีแรมการ์ดจอ 4GB GDDR6 ซึ่งแรงพอตัดต่อวีดีโอต่าง ๆ ได้สบาย ๆ มีแรม 16GB DDR4 บัส 2666 MHz ซึ่งเยอะเพียงพอแล้วไม่ต้องอัพเกรดเพิ่มเติมก็ได้ ฮาร์ดดิสก์เป็น SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home (64-bit) มาให้ในตัว หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

สเปคของ MSI GL65 Leopard 10SCSR-058TH

• ซีพียู Intel Core i7-10750H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.6-5.0 GHz
• การ์ดจอ NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti แรม 4GB GDDR6
• แรม 16GB DDR4 บัส 2666 MHz
• ฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe ความจุ 512GB
• หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
• เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
• ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit)
• ราคา 28,900 บาท (BaNANA)

3. Asus TUF Gaming FX506LI-HN091T (29,900 บาท)

ถ้าคลิปที่ต้องตัดมันยาว อยากได้ Notebook ตัดต่อวีดีโอที่ซีพียูที่แรงขึ้นไปอีกนิด แนะนำให้ขยับรุ่นขึ้นมาเป็น ASUS TUF Gaming FX506LI-HN091T รุ่นนี้แทน เพราะถึงเป็น Intel Core i7 เหมือนกับ MSI ในข้อที่แล้ว แต่รุ่นนี้จะมีคอร์และเธรดเยอะกว่า ทำให้เรนเดอร์วิดีโอเสร็จเร็วกว่าอย่างแน่นอน

สเปคใช้ซีพียู Intel Core i7-10870H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.2-5.0 GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti แรม 4GB GDDR6 ฮาร์ดดิสก์เป็น SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home (64-bit) มาในตัว แรมตัวเครื่องความจุ 16GB DDR4 บัส 2933 MHz ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1 ซึ่งสเปคนี้ก็จัดว่าแรงและจบในตัว สามารถต่อหน้าจอแยกอีกหนึ่งตัวแล้วเริ่มตัดต่อวีดีโอได้เลย

สเปคของ ASUS TUF Gaming FX506LI-HN091T

• ซีพียู Intel Core i7-10870H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.2-5.0 GHz
• การ์ดจอ NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti แรม 4GB GDDR6
• แรม 16GB DDR4 บัส 2933 MHz
• ฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe ความจุ 512GB
• หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
• เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
• ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit)
• ราคา 29,900 บาท (BaNANA)

4. Asus TUF Gaming Dash F15 FX516PE-HN004T (29,900 บาท)

ส่วน Notebook ตัดต่อวีดีโอที่ตัวเครื่องเรียบหรู พกพาง่ายแต่สเปคดีไม่แพ้เครื่องอื่น จะมี Asus TUF Gaming Dash F15 FX516PE-HN004T เครื่องนี้แทน ซึ่งสเปคเรียกว่าตัดต่อคลิปต่าง ๆ ได้สบาย ๆ รวมทั้งการ์ดจอยังเป็น GEFORCE RTX 3000 Series แล้ว ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดียิ่งขึ้นกว่าซีรี่ส์ GTX อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้ต่อหน้าจอเสริมหรือจะใช้ถ่ายโอนข้อมูลและชาร์จแบตเตอรี่ให้ตัวเครื่องเลยก็ได้เช่นกัน

สเปคใช้ซีพียู Intel Core i5-11300H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.1-4.4 GHz ซึ่งสามารถประมวลผลการทำงานและเรนเดอร์คลิปต่าง ๆ ได้เร็วไม่แพ้ Intel Core i7 หลาย ๆ รุ่นที่คอร์และเธรดเท่ากันอย่างแน่นอน ส่วนการ์ดจอใช้ NVIDIA GEFORCE RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6 ซึ่งประสิทธิภาพนั้นไล่เลี่ยกับ RTX 2070 เลยทีเดียว ส่วนฮาร์ดดิสก์เป็น M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อม Windows 10 Home (64-bit) มีแรมออนบอร์ดมา 8GB DDR4 บัส 3200MHz ซึ่งส่วนนี้ผู้เขียนแนะนำให้เพิ่มอีก 8-16GB ไปเลย ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.1

สเปคของ Asus TUF Gaming Dash F15 FX516PE-HN004T

• ซีพียู Intel Core i5-11300H แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.1-4.4 GHz
• การ์ดจอ NVIDIA GEFORCE RTX 3050 Ti แรม 4GB GDDR6
• แรมออนบอร์ด 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
• ฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe ความจุ 512GB
• หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
• เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
• ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit)
• ราคา 29,900 บาท (JIB)

5. Apple Macbook Air ชิป Apple M1 (32,900 บาท)

Apple MacBook Air ชิป Apple M1 เองก็เป็น Notebook ตัดต่อวีดีโอประสิทธิภาพสูงมากรุ่นหนึ่ง และตอนนี้ก็มีโปรแกรมตัดต่อวีดีโออย่าง Adobe Premier ที่รองรับชิป M1 ให้โหลดไปใช้งานแล้ว หรือจะใช้ Final Cut Pro ของทาง Apple เองก็ได้ ซึ่งถ้าใครเน้นงานตัดต่อคลิปเป็นหลัก ไม่ได้มีแผนจะสตรีมเกมเพิ่มเติม ก็ขอแนะนำให้เลือกรุ่นนี้ไปใช้งานได้เลย

สเปคใช้ซีพียู Apple M1 แบบ 8 คอร์ มีการ์ดจอออนบอร์ด Apple M1 แบบ 7 คอร์ติดตั้งมาในตัว ฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe ความจุ 256GB กับแรม 8GB รันระบบปฏิบัติการ macOS ได้อย่างราบลื่น ส่วนหน้าจอมีขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1600 พิกเซล) พาเนล IPS ให้ภาพสวยคมชัดเจน ให้สีสันที่แม่นยำ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0 

สเปคของ MACBOOK AIR ชิป APPLE M1

• ซีพียู Apple M1 แบบ 8 คอร์
• การ์ดจอ Apple M1 แบบ 7 คอร์
• ฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe ความจุ 256GB
• แรม 8GB
• หน้าจอ 13.3 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1600 พิกเซล) พาเนล IPS
• เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.0
• ระบบปฏิบัติการ macOS
• ราคา 32,900 บาท

6. Acer Nitro 5 AN515-45-R313 (34,690 บาท)

Notebook ตัดต่อวีดีโออีกรุ่นที่สเปคแรงจนผู้ใช้หาซื้อจนขาดตลาดไปอย่าง Acer Nitro 5 AN515-45-R313 เครื่องนี้ก็ถือว่าเป็นสเปคตัวจบน่าสนใจมากเช่นกัน ไม่ว่าจะได้ AMD Ryzen 5000 Series จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE RTX 3000 Series อีกด้วย จึงใช้ตัดต่อวีดีโอและทำงานต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพมาก ๆ

สเปคใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE RTX 3060 แรม 6GB GDDR6 กับแรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz และฮาร์ดดิสก์ M.2 NVMe ความจุ 512GB มี Windows 10 Home (64-bit) ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทันที มีช่อง M.2, SATA III 2.5″ SSD อย่างละ 1 ช่องอยู่ในเครื่องแล้ว พร้อมใส่ฮาร์ดดิสก์เสริมเอาไว้ใส่โปรแกรมหรือ Footage รอตัดต่อได้ด้วย ส่วนหน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1

สเปคของ ACER NITRO 5 AN515-45-R313

• ซีพียู AMD Ryzen 5 5600H แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 3.3-4.2GHz
• การ์ดจอ NVIDIA GEFORCE RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
• ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
• แรม 16GB DDR4 บัส 3200MHz
• หน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144 Hz
• เชื่อมอินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.1
• ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64-bit)
• ราคา 34,690 บาท (Advice)

สรุป – เลือก Notebook ตัดต่อวีดีโอเครื่องไหนไปใช้ดี

สายตัดต่อวีดีโอจะเห็นว่า Notebook ตัดต่อวีดีโอสักเครื่องจะมีตัวเลือกมากมาย และเรทราคาที่ได้สเปคคุ้มค่าที่สุดนั้นจะอยู่ช่วง 2-30,000 บาทด้วยกัน ซึ่งถ้าสรุปสเปคและจุดเด่นหลัก ๆ จะเป็นดังนี้

จะเห็นว่างบประมาณ 2-30,000 บาท ก็สามารถหา Notebook ตัดต่อวีดีโอสเปคดีมาใช้งานได้แล้ว และแต่ละรุ่นที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำนั้นก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไปตามที่ผู้ผลิตเลือกสเปคมาให้ ซึ่งถ้าผู้ใช้คนไหนมองหา Notebook เครื่องใหม่อยู่ก็สามารถเลือกซื้อรุ่นที่แนะนำหรือจะเอาสเปคใกล้เคียงกันก็ได้ ทว่าหลาย ๆ รุ่นก็มีสเปคดีจนสินค้าขาดตลาดอยู่เป็นระยะ ๆ ก็แนะนำให้กดเข้า Wishlist รอเอาไว้ก่อน พอสินค้าเข้ามาก็กดสั่งจ่ายเงินแล้วรอสินค้ามาส่งได้เลย หรือจะรอดูโปรโมชั่น Flash Sale ตามเว็บไซต์ขายของออนไลน์ชั้นนำทั่วไปก็จะช่วยให้ได้เครื่องในราคาที่ถูกลงได้ด้วยเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 9 SSD 1TB สเปคเทพ โหลดฉากไวเกมลื่นไหล เกมเมอร์ห้ามพลาด

• ไขข้อข้องใจ Ram เท่าไหร่ดี 8GB หรือ 16GB ถึงพอใช้ในปัจจุบัน?

• แนะนำ 5 กล้องสตรีมเกม สเปคดีจบในตัวสำหรับเกมเมอร์อยากไลฟ์