Corsair HS70 PRO Wireless แค่ 3 พันกว่าบาท หูฟังไร้สาย เล่นเกมเสียง 7.1
CORSAIR HS70 PRO Wireless จัดว่าเป็นหูฟังไร้สายเล่นเกม ราคาประมาณ 3 พันต้นๆ ที่มีฟังก์ชั่นจัดเต็ม พร้อมดีไซน์ที่ดูสบายตา เพิ่มความ Comfort ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียม ที่มีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และครอบหูฟังในแบบเมมโมรีโฟม ให้ความกระชับ พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง 7.1 channel แต่ที่น่าสนใจคือ การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ลดข้อจำกัดให้กับเกมเมอร์ ให้สามารถเคลื่อนไหวหรือใช้งานได้สะดวกมากกว่าเดิม รวมถึงการสื่อสารร่วมกับทีมได้อย่างคล่องตัว แม้ขณะที่เดินไปยังจุดต่างๆ ภายในบ้าน หรือในระหว่างช่วง รวมไปถึงกลุ่มที่ Work from Home หรือการชมภาพยนตร์บนหน้าจอใหญ่ๆ ก็สะดวกสบายกว่า ไม่ต้องยึดติดอยู่กับโต๊ะเพียงอย่างเดียว
จุดเด่น
- ครอบหูฟังนุ่มนวล สวมสบาย
- น้ำหนักเบา ไม่เกะกะ
- เสียงกลางแน่น เสียงแหลมเด่นชัด
- เชื่อมต่อไร้สาย เคลื่อนไหวอิสระ
- ใช้งานได้นาน ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- ปรับระดับเสียงได้จากหูฟัง
ข้อสังเกต
- การปรับเลื่อนครอบศีรษะทำได้ไม่เยอะ
- ข้อต่อปรับหมุน 90 องศาไม่ได้
- เชื่อมต่อ WiFi เพียงอย่างเดียว ไม่มี Bluetooth
CORSAIR HS70 PRO Wireless หูฟังไร้สาย
Specification
- Connector: USB Type-A
- Wireless Range: upto 40 feet (12m)
- Battery Life: 16 Hours
- Headphone Type: Custom Neodymium
- Frequency Response: 20Hz – 20kHz
- Impedance: 32 Ohms @ 1kHz
- Sensitivity: 111dB
- Drivers: 50mm
- Microphone Type: Unidirectional
- Impedance: 2.0k Ohms
- Frequency Response: 100Hz – 10kHz
- Sensitivity: -40dB
Unbox
ตัวกล่องด้านหน้ามาในโทนสีดำ พร้อมกับโลโก้ CORSAIR เด่นชัด และใส่กราฟิกของตัวหูฟังมาอย่างชัดเจน เรียกว่าเห็นทุกด้านไม่ต้องไปลุ้นในกล่อง ซึ่งภาพรวมของแพ๊คเกจ ยังคลุมโทนเดิมที่มีมาในหลายๆ รุ่น
ส่วนด้านหลังและด้านข้าง ก็มีเพียงสโลแกน และฟีเจอร์เล็กน้อยมาให้ ต่างจากหูฟังในหลายๆ ค่าย ที่มักจะใส่สเปคมาให้เห็นชัดเจน
มาแกะกล่องดูด้านในกันบ้าง ประกอบไปด้วย ตัวหูฟัง อยู่ในกล่องพลาสติกใสกันกระแทก คู่มือแนะนำ ไมโครโฟนแบบถอดได้, USB Receiver และ สายชาร์จ USB Type-A to micro-USB
Design
ยังคงรูปลักษณ์ในซีรีส์ HS ไว้อย่างเหนียวแน่น พูดง่ายๆ คือ ตั้งแต่ HS50, HS60 และมาจนถึงรุ่นนี้ ดีไซน์ตั้งแต่บอดี้ ครอบศีรษะ ไปจนถึง Earcup ด้วยวัสดุที่เป็นพลาสติกคุณภาพสูง ครอบบนโครงสร้างอะลูมิเนียม เพื่อความยืดหยุ่น ยังคงคล้ายคลึงกัน ซึ่งการใช้เส้นสายลวดลาย ก็ทำให้บางครั้งดูละมุน มากกว่าความดุดันตามสไตล์หูฟังเกมมิ่งทั่วไป
เมื่อมองเต็มๆ จาก Earcup ด้านข้าง จะเป็นตะแกรงสีดำปิดทับอีกชั้นหนึ่ง และมีโลโก้ CORSAIR ไว้อย่างชัดเจน บนโทนสีดำเกือบจะทั้งบอดี้
มาดูที่อีกด้านกันบ้าง จะเห็นได้ว่ามิติไม่ได้หนาจนทำให้เทอะทะ แม้จะมีบรรดาคอนโทรลต่างๆ มาใส่เอาไว้ และแบตเตอรี่ในตัว เนื่องจากเป็นหูฟังไร้สาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้หนาขึ้นจากหูฟังทั่วไปแต่อย่างใด
หูฟัง HS70 PRO รุ่นนี้ จะไม่ได้มีแสงสีเอฟเฟกต์ตระการตามาให้แต่อย่างใด แต่จะมีเส้นสายเงาๆ เล็กๆ ตัดกับโทนสีดำสนิท ทำให้ดูสะดุดตาในบางโอกาส
มาดูที่คาดศีรษะกันบ้าง ด้านนอกมาในโทนสีดำด้าน วัสดุเป็นแบบหนังสังเคราะห์ และโลโก้พิมพ์คาดมาให้ดูเท่ๆ ไม่ได้ให้ความหวือหวามากมาย เหมาะกับคนที่ชอบความเรียบง่าย ส่วนด้านในบริเวณครอบศีรษะจะเป็นเมมโมรีโฟม หุ้มมาด้วยวัสดุแบบหนังสีครีม ไม่หนามาก แต่ก็สวมได้ง่าย
หูฟังปรับเลื่อนได้พอสมควร ตามรูปแบบของหูฟังเกมมิ่งทั่วไป รองรับกับศีรษะผู้ใช้ได้หลายขนาด เพียงแต่จะมีแน่นมากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของศีรษะแต่ละบุคคล แต่ด้วยความที่น้ำหนักค่อนข้างเบา จึงทำให้การสวมใส่สบายมากขึ้น
บรรดาชุดควบคุมต่างๆ ที่อยู่บนหูฟัง CORSAIR HS70 PRO ทางด้านซ้าย ประกอบด้วย ปุ่ม Mute (เปิด-ปิดไมโครโฟน), micro-USB สำหรับชาร์จไฟ และสไลด์ปรับเลื่อนระดับเพิ่ม-ลดเสียง รวมถึงช่องต่อไมโครโฟนที่ถอดแยกได้
ส่วนทางขวามือ จะมีเพียงปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิด-ปิดการใช้งาน ซึ่งการใช้งาน
มาที่เมมโมรีโฟมที่ครอบหูฟังกันบ้าง ความหนาไม่มาก แต่ความนิ่มจัดอยู่ในเกณฑ์ที่น่าใช้สำหรับหูฟังเกมมิ่งเลยทีเดียว ใครที่ขี้รำคาญกับหูฟังแบบ Close-cup แบบนี้ จะไม่เจอปัญหาบน HS70 PRO กับความนุ่มนวลที่หุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง ที่มีความนุ่มนิ่ม น่าสัมผัส เท่าที่ลองก็กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีในระดับหนึ่ง รวมถึงยังไม่ทำให้อึดอัดหูมากนัก
ไม่โครโฟนเป็นแบบ Unidirectional เก็บรายละเอียดเสียงในมุมต่างๆ ได้ดี อีกทั้งเป็นแบบถอดออกได้ เชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตที่อยู่บนหูฟังด้านซ้าย ปรับพับงอได้ตามตำแหน่งของปากผู้ใช้ เพื่อให้ได้ระดับเสียงที่ดีที่สุด ทำงานคู่กับปุ่ม Mute บนหูฟัง
Connection
ตัวรับ-ส่งสัญญาณ USB Type-A จะต่อเข้ากับด้านหลังคอมหรือด้านหน้าก็ได้เช่นกัน สำหรับเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง รองรับได้ในระยะประมาณ 12 เมตร ซึ่งระยะทำการให้นิ่งๆ อยู่ที่ราว 10 เมตร เพื่อตัดปัญหาเรื่องของอุปสรรค เช่น ผนังและฝ้าในบ้าน แต่ก็พอให้เดินไปห้องครัว ห้องน้ำได้สะดวก
เมื่อต่อเข้ากับพอร์ต USB และวินโดว์ 10 ตรวจเช็คเสร็จสิ้น ก็จะขึ้นมาใน Device ของ Sound เท่าที่ก็พร้อมสำหรับใช้งาน ไม่ได้ซับซ้อนยุ่งยากแต่อย่างใด
Software
นอกจากนี้สำหรับคนที่ต้องการใช้งานหรือปรับแต่งเสียง ก็ยังมีซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า iCUE
มีให้ปรับ Side tone ซึ่งให้ผู้ใช้สามารถปรับระดับเสียงพูดของตนเองได้ ขณะที่เรามอนิเตอร์ เสียงจะไม่ดีเลย์ เราจะได้ยินเสียงพร้อมๆ กับเพื่อนได้เลย เหมาะกับคนที่เล่นเกม
ปรับระบบเสียง 7.1-surround หรือจะเลือกปิดได้
เลือกปรับ Equalizer ได้ มีให้เลือกทั้งแบบ Clear chat, Boost Base, FPS Competition, Movie Theatre และ Pure Direct ด้วยการเลือกเปิดหรือปิดการทำงานในบางโหมด เพื่อให้เข้ากับการใช้งานในปัจจุบัน
Game Test
พูดถึงความรู้สึกในการสวมใส่กันก่อน ความกระชับ นุ่มสบาย HS70 PRO Wireless รุ่นนี้ได้คะแนนค่อนข้างดี เพราะน้ำหนักเบา และเมมโมรีโฟม ให้ความนุ่มนวล กระชับสบายหู ไปหนีบศีรษะจนแน่นเกินไป และใครที่ใบหูใหญ่ ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะครอบหูโอบได้สบาย อีกทั้งตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีไม่น้อยเลย
มาดูมุมด้านหลังกัน จะเห็นว่าตัวหูฟัง CORSAIR HS70 PRO Wireless ไม่ได้ใหญ่โตเกินไป รวมถึงเมมโมรีโฟม ไม่ได้ถูกกดหรือหนีบมากนัก และกระจายแรงไปยังจุดต่างๆ ได้ จึงทำให้ศีรษะไม่ต้องแบกภาระมากเกินไป หรือไม่ต้องกลัวจะหนีบใบหูจนน่ารำคาญ สำหรับคนที่ใช้เล่นเกม ดูหนังนานๆ น่าจะชื่นชอบแนวนี้
มาถึงการทดสอบใช้งาน CORSAIR HS70 PRO Wireless กันบ้าง เรื่องแรก การปรับจูน เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งโดยปกตินั้น การใช้งานหูฟังแบบพื้นฐาน ก็ตอบโจทย์การใช้งานและความบันเทิงทั่วไปได้ดีพอสมควร แต่ถ้าต้องการสิ่งที่มากกว่า รายละเอียด หรือย่านเสียงให้อยู่ในระดับที่ต้องการหรือชื่นชอบได้ ก็อยู่ที่การปรับแต่งของผู้ใช้เองด้วย เลือกปรับได้ 2 ทางง่ายๆ คือ Equalizer บนวินโดว์ และโพรไฟล์บนซอฟต์แวร์ iCUE ทั้งสองส่วน จะช่วยให้ผู้ใช้เต็มอิ่มกับการใช้งานหูฟังรุ่นนี้มากยิ่งขึ้น
ในแง่ของความบันเทิงทั่วไป Sound stage อาจไม่ได้กว้างมากนัก แต่สิ่งที่ได้มาคือ ความคมชัดของเสียงที่อิ่มขึ้น ชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้การดูหนัง เล่นเกม เป็นไปอย่างสนุกสนาน เริ่มกันที่การชมภาพยนตร์ หากปรับเป็น 7.1-surround บนซอฟต์แวร์ iCUE เสียงจัดว่าออกรสชาด โดยเฉพาะกับเอฟเฟกต์ที่อยู่รายล้อมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น การเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนร่างจากคิลเลอร์บีหรือออพติมัส ที่เสียงเหล็กกระทบกัน อันเป็นเอกลักษณ์จัดมาให้แบบครบเครื่อง หรือฉากเครื่องบินทิ้งบอมบ์ โจมตีในทะเลทราย ที่พระเอกเกือบไม่รอดไปช่วยออพติมัสไพรม์ ก็ออกมาได้สมจริง จัดจ้าน ระเบิดจากขวาไปซ้าย ให้อารมณ์ได้อย่างเต็มที่ หรือจะเป็นฉากการโจมตีจากเรือรบใน Battleship’s ไปยังยานเอเลี่ยน เสียงกระทบจากหัวกระสุนก็ยังสะใจ บอกทิศทางซ้ายขวา ให้อารมณ์ตื่นเต้นในการชม มากกว่าหูฟังเดิมๆ ทั่วไป
ในการเล่นเกม ว่ากันตั้งแต่ PUBG หรือ Battlefield V รวมไปถึง NFS ที่จะได้อานิสงในเรื่องของเสียงรอบทิศทางอย่างชัดเจน โดยเฉพาะใน PUBG นั้น ถือว่าสร้างสรรเกมได้ดีทีเดียว เพราะได้ลุ้นอยู่ตลอด จนบางทีได้ยินรอบตัว จนบางครั้งอยากจะปิดฟีเจอร์นี้เลย เพราะตื่นตัวมากเกินไป แต่ก็ทำให้เรามีความแม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็ม เรียกว่ายังพอให้ได้แก้ไขสถานการณ์ได้ รวมถึงสร้างโอกาสในการโจมตีได้มากขึ้น นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีในการเล่นเกม นอกเหนือจากจอภาพใหญ่ๆ ความละเอียดสูงๆ
นอกจากนี้เรายังรวบรวมหูฟังไร้สายสำหรับคอเกมไว้ให้ในบทความ 10 อันดับ หูฟังไร้สาย 2021 ในงบไม่เกิน 5,000 บาท ไว้ให้อีกด้วย
Conclusion
มาสรุปการใช้งานหูฟัง CORSAIR HS70 PRO Wireless ที่ได้รับมาทดสอบรุ่นนี้กัน ในสิ่งที่ชอบที่สุด คงจะเป็นเรื่องความสะดวกสบาย เรียกว่าความเบาและความนุ่มนวลในการเลือกใช้วัสดุที่ค่อนข้างถูกจริตกับหูฟังแนวนี้ เนื่องจากขนาดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของหูฟังแนว Close-cup ครอบหูได้พอดี ไม่แน่นจนเกินไป การกระจายน้ำหนักก็ไม่ได้เป็นภาระกับส่วนใดมากเกินไปนัก มีเพียงวัสดุที่หุ้มเมมโมรีโฟม ที่อาจจะเป็นความชื่นชอบของใครหลายคน แต่บางคนก็อาจจะรู้สึกอุ่นๆ อยู่บ้าง เมื่อใช้งานไปนาน แต่ก็แลกมากับการลดเสียงจากภายนอกได้ดี นอกจากนี้การเป็นหูฟังไร้สาย ก็ช่วยให้สะดวกมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่เมื่อย ต้องลุกจากเก้าอี้บ่อยๆ เมื่อเล่นเกม ก็ไม่ต้องกังวลสายหูฟัง จะมาดึงรั้ง ยิ่งคนใช้โน๊ตบุ๊ค ถ้าใช้แบบสาย เผลอเมื่อใด ก็อาจจะลากโน๊ตบุ๊คหล่นมาพังได้ง่ายๆ
ด้านการเล่นเกม และชมภาพยนตร์บนหูฟัง CORSAIR HS70 PRO Wireless บอกเลยว่าสายบันเทิงน่าจะชอบ เพราะเสียงที่ได้ จัดจ้านมาเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเสียงเอฟเฟกต์ที่ดุดเดือด คอเกมแอ็คชั่น FPS ประเภทระเบิดภูเขาเผากระท่อม จะได้อินไปกับเสียงระเบิด ห่ากระสุนหรือจะเป็นการโจมตีอื่นๆ อย่างสะใจ และที่ขาดไม่ได้คือ ระบบเสียงรอบทิศทาง ที่แค่ปรับจากฟีเจอร์นี้จากซอฟต์แวร์ iCUE ก็เริ่มสนุกได้เลย นอกจากนี้ยังมีโพรไฟล์ ให้ได้เลือกใช้ ร่วมกับความบันเทิงในแนวต่างๆ ส่วนใครที่เล่นเกมเป็นปาร์ตี้ ไมโครโฟน ก็ตอบสนองได้ดี และยังมีให้เลือกปรับเสียงได้ชัด ไม่ว่าจะให้ได้ยินพร้อมเสียงในเกมหรือจะลดเสียงก็ได้ตามความเหมาะสม
อย่างไรก็ดี ยังมีบางจุดที่อาจจะทำให้คอเกมรู้สึกว่าขาดไปบ้าง นั่นคือ เรื่องของการเชื่อมต่อแม้จะเป็น WiFi และแทบจะไม่มีการดีเลย์เลยก็ตาม แต่ไม่ได้รองรับสัญญาณ Bluetooth ซึ่งก็อาจจะยังเป็นความต้องการของเกมเมอร์สายโมบายอยู่ด้วย อีกเรื่องก็คือ ใครที่ชื่นชอบความมีสีสัน แสงไฟ RGB หูฟังรุ่นนี้ อาจจะไม่ใช่แนวของคุณ เพราะมาในโทนสีที่เรียบง่าย มีให้เลือก 2 แนวคือ Cream และ Black เท่านั้น มีเพียงลวดลายที่ขอบ Head band และ Earcup นิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งก็ดูจะลงตัวกับคนที่อยากจะใช้ในหลายๆ โอกาส
ราคา ประมาณ 3,500 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม Corsair
5 วิธีเลือกหูฟังเล่นเกมไร้สาย
หูฟังเกมมิ่งแบบไร้สาย จัดว่าเป็นหูฟังอีกรูปแบบหนึ่งที่คอเกมให้ความสนใจอย่างมากในเวลานี้ ด้วยความสะดวกในการใช้งาน ไม่ต้องยึดติดกับสายที่รั้งติดกับเครื่อง จะลุกไปห้องน้ำ หรือไปหาของว่างในตู้เย็น ก็ต้องถอดวาง ซึ่งเกมเมอร์ส่วนใหญ่ก็ไม่อยากพลาดการติดต่อกับเพื่อนๆ ภายในเกม อีกทั้งหูฟังแบบไร้สายในเวลานี้ ยังออกแบบได้สวยงาม ขนาดพอเหมาะ สวมใส่สบาย ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนาน จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เกมเมอร์ให้ความสนใจ แต่จะเลือกหูฟังไร้สายนี้อย่างไร?
1.รูปลักษณ์ ขนาด สวมใส่สบาย: การออกแบบเป็นสิ่งที่เกมเมอร์พิจารณาเป็นอันดับแรกๆ เพราะต้องสวมใส่ในการเล่นเกมเป็นเวลานานๆ หูฟังจึงต้องมีความนุ่มนวล สวมใส่สบาย กระชับ ไม่บีบรัดจนเกินไป มีความยืดหยุ่นในการปรับระดับให้เข้ากับศีรษะได้ง่าย และไม่หนักจนเกินไป จึงทำให้ใช้เล่นเกมได้ยาวนานมากขึ้น
2.ความง่ายและรวดเร็วในการเชื่อมต่อ: ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคอเกมได้เช่นกัน หูฟังไร้สายสำหรับการเล่นเกม ต้องรองรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ให้พร้อมสำหรับการใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะใช้ร่วมกับสัญญาณ WiFi หรือ Bluetooth ก็ตาม เช่นการเชื่อมต่อแบบไร้สายความถี่ 2.4Ghz ทำให้คุณยืดระยะจากจุดที่เล่นได้ไกลถึง 12 เมตร จึงช่วยให้คุณเดินไปทานอาหาร เข้าห้องน้ำหรือทำธุระส่วนตัวภายในบ้านได้สะดวกมากขึ้น
3.ใช้งานได้ยาวนาน: เมื่อเป็นแบบไร้สาย จึงมีข้อจำกัดด้านระยะเวลาในการใช้งาน ดังนั้นจึงต้องเลือกหูฟังที่มีแบตเตอรี่ภายในสามารถให้การใช้งานได้ยาวนานต่อการชาร์จในแต่ละครั้ง เพื่อจะได้ไม่ขัดจังหวะขณะที่กำลังเล่นเกมอยู่อย่างสนุกสนาน หูฟังไร้สายบางรุ่น ให้ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 10-20 ชั่วโมงต่อการชาร์จ จึงทำให้คุณสนุกสนานไปกับเกมที่ชื่นชอบได้นานขึ้น
4.ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ ให้เสียงที่ทรงพลัง: เพื่อความสนุกสนานในการเล่นเกม พลังเสียงก็เป็นเรื่องสำคัญ หูฟังเกมมิ่งแบบไร้สาย ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ บางรุ่นมาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 50mm ที่ช่วยเพิ่มความเร้าใจในการเล่นเกม ด้วยการปรับปรุงให้ถ่ายทอดเสียงเบสได้ดีขึ้น ให้เสียงกลางที่คมชัด และเสียงต่ำที่ไพเราะ ให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับการเล่นเกม
5.รองรับการใช้งานได้หลากหลาย: หูฟังไร้สายบางรุ่นออกแบบมาให้รองรับการใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม เพื่อความบันเทิงที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเกมคอนโซลหรือสมาร์ทโฟนก็ตาม หูฟังไร้สายแบบ Bluetooth ที่ออกแบบมาเพื่อการดูหนัง, ฟังเพลง และสนทนาด้วยเสียง และความบันเทิงได้ขณะเดินทางได้ดี
Wireless Headset | Wire Headset | |
การเคลื่อนไหว | คล่องตัว | ติดสายหูฟัง |
การเชื่อมต่อ | ต้อง Pair กับตัวรับ | ต่อสายใช้ได้เลย |
ระยะเวลาการใช้งาน | ต้องชาร์จไฟ เมื่อแบตหมด | ไม่ต้องชาร์จไฟ ใช้ได้ต่อเนื่อง |
น้ำหนัก | เบา | เบา |
ระยะห่างจากคอม | ห่างตามระยะสัญญาณ | สั้นตามระยะของสาย |
การตอบสนอง | ไว | ไว |
การเชื่อมต่อ | Wireless/ Bluetooth | สาย Cable |
Related Topics
10 อันดับ หูฟังไร้สาย 2021 เล่นเกมสะใจ ไม่เกิน 5,000.-
10 อันดับ หูฟังเกมมิ่ง เสียงสะใจ เล่นเกมสนุก ใส่สบาย ดีไซน์สวย แค่ 2,000
10 อันดับหูฟังไร้สาย เดือน พฤษภาคม 2564
หูฟัง HyperX Cloud MIX เล่นเกมไร้สาย เบา เสียงสะใจ ได้ทุกแพลตฟอร์ม