ASUS TUF Gaming A15 (FA506) เป็นอีกหนึ่งสุดยอด AMD Notebook ที่ทรงพลังในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ในปี 2021 สำหรับการที่เป็น Gaming Notebook ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H ด้วยเทคโนโลยีการผลิต 7nm จับคู่มากับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 30 Series ความแรงที่เหนือชั้นกว่า พร้อมสเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มด้วย
ต่อยอดความสำเร็จมาจาก ASUS TUF Gaming A15 รุ่นปีก่อน ที่ประสบความเร็จเป็นอย่างดี โดยเครื่องเองก็มีความโดดเด่นไม่เหมือนใครทั้งจากดีไซน์ภายนอก ฟีเจอร์ภายใน รวมถึงความแข็งแรงทนทานตามสไตล์ของ TUF Series ด้วย นับว่าเป็น Gaming Notebook ที่ให้ความแรงลื่นทรงพลังที่คุ้มค่าที่สุดในงบประมาณ 3x,xxx – 4x,xxx บาททีเดียว
โดย ASUS TUF Gaming A15 FA506 เครื่องที่เราได้รับมารีวิวนั้น เป็นเครื่องขายจริง ได้ชิปประมวลผล Ryzen 7 5800H การ์ดจอ GeForce RTX 3070 ส่วนสเปกอื่นๆ มีหน่วยความจำแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz และมี SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB มาให้ด้วย โดยราคารุ่นนี้อยู่ที่ 46,900 บาท
ส่วนหน้าจอก็ขนาด 15.6″ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz มีเทคโนโลยี Adaptive Sync ให้ภาพลื่นไหลไม่ฉีกขาด พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ได้ประกัน 2 ปี แบบ Global Warranty และประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty 1 ปีแรก พร้อมบริการด้วย 7-11 droppoint กว่าหมื่นสาขาทั่วประเทศไทย
VDO Review
NBS Verdict
ASUS TUF Gaming A15 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2021 ที่ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000H Series ที่มีความเจ๋งมากมาย มาพร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากการที่ได้เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรมโค้ดเนม Cezanne สุดล้ำหน้า อีกทั้งยังเป็นแรนด์แรกที่ขายตั้งแต่ต้น ปี 2021 นี้ด้วย ดีไซน์ยังมีความเฉียบโดยฝาหลังจอแบบใหม่ ใช้วัสดุเป็นโลหะผสมแบบอลูมิเนียมอัลลอยทั้งชิ้นพร้อมโลโก้ TUF Gaming แบบใหม่บริเวณมุมตัวเครื่องและหมุดยึดสี่มุมตามสไตล์
รวมไปถึง ASUS TUF Gaming A15 โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพสูง sRGB 89% พร้อมทำเลือกรุ่นที่รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing) ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ต้องการหน้าจอดีๆ ในการทำงานด้วย อย่างไรก็ตามถ้าเป็นรุ่น 144Hz จะได้ sRGB ที่ 60% โดยประมาณ
นอกจากนี้มีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra จำลองเสียง 7.1 ในการเล่นเกมได้ พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานอย่าง Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ซึ่งนับว่าเพียงพอต่อการใช้งานที่พื้นฐานเราแน่นอน อีกทั้งยังมีการตัด USB 2.0 Type-A ทางขวาตัวเครื่องออกไปแล้วที่มีในรุ่นก่อนออกไป โดยแทนที่เป็น USB 3.2 Gen 2 Type-A แล้วนั่นเอง
ระบบระบายความร้อน ASUS Intelligent Cooling ของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 สามารถปรับการทำงานได้สามโหมด อีกทั้งยังมี Anti-Dust Cooling ช่องระบายฝุ่นที่อยู่ด้านข้างฮีทซิ้งค์ทั้งสองฝั่ง ซึ่งควบคุมความร้อนได้ดีขึ้นคือไม่เกิน 96 องศาเซลเซียสสำหรับชิปประมวลผล ช่วยให้เครื่องสามารถทำงานได้เสถียรยาวนาน แน่นอนว่าด้วยความที่เป็น TUF Gaming ก็จะได้รับการรับรองตามมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H โดยสามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือน, อุณหภูมิและความชื้นสูง ส่งผลให้มีความทนทานกว่า Gaming Notebook ทั่วไป
สรุปแล้ว ASUS TUF Gaming A15 FA506 มีความน่าใช้ในหลายๆ ส่วน ที่นอกจากเรื่องสเปกภายใน ความคุ้มค่าต่อราคาที่ได้แล้ว ในส่วนของฟีเจอร์อื่นๆ ก็ยังมีความน่าสนใจไม่น้อย อย่างชุมคีย์บอร์ดก็สามารถตอบสนองได้ดีเยี่ยมสมกับการที่เป็น Gaming Notebook เหมือนยกมาจาก ROG Series เลยก็ว่าได้ พร้อมปรับไฟคีย์บอร์ดแบบ RGB Aura โดยเป็นแบบ All Zone แม้อาจจะมีข้อจำกัดหลายๆ ส่วน แต่เข้าเอาจริงด้วย ก็ยังน่าซื้อมาใช้งานอยู่ดี ขึ้นอยู่กับว่าเรารับข้อสังเกตได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง นอกจากนี้ในส่วนของบันเดินเองยังให้สติ๊กเกอร์ TUF เก๋ๆ มาให้ด้วย ไว้สำหรับติดนู้นนี่นั่นเอง
จุดเด่น ASUS TUF Gaming A15
- ดีไซน์ใหม่ถูกใจตามสไตล์ TUF Gaming งานประกอบแน่นวัสดุดี ฝาหลังเป็นโลหะ
- ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน ผ่านมาตรฐานทางการทหาร Military Grade (MIL-STD-810H)
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง AMD Ryzen 7 5800H แรงลื่นกว่า
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 ที่ให้ความแรงลื่นที่มากกว่า GTX Series
- แรมขนาด 16GB Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel จัดเต็ม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง มุมมองกว้าง พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าจัดการได้ดี ไม่ร้อนจนเกินไป ทำงานได้ไม่มีสะดุด
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ด้วย USB 3.2 Type-A / C รองรับ DisplayPort
- รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 เพิ่มอีก 1 ช่อง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 14 – 15 ชั่วโมง
- มีซอฟต์แวร์ Armory Crate และ myASUS เวอร์ชันใหม่มาช่วยปรับแต่งการใช้งาน
- มาพร้อม Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที มีความสเถียร์ของไดร์เวอร์
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม แรงลื่น ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบัติเหตุ 1 ปี
ข้อสังเกต ASUS TUF Gaming A15
- ดีไซน์หลักๆ ยังคล้ายเดิม หลักๆ เปลี่ยนที่ฝาหลังลวดลายใหม่
- ไม่มี SD Card Reader มาให้ใช้งาน ทำให้ต้องหาอุปกรณ์มาเชื่อมต่อ
- หน้าจอ IPS เกรดสูงขึ้น เฉพาะรุ่นสเปก 240Hz ส่วน 144Hz ยังใกล้เคียงรุ่นก่อน
- การ์ดจอเป็นซีรีส์ Max-Q แต่ความแรงก็ไม่เป็นรอง Max-P เท่าไรนัก
Specification
ASUS TUF Gaming A15 FA506 สเปกที่นำมารีวิว มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H สถาปัตยกรรม Zen 3 มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 7 nm โค้ดเนม Cezanne ทำงานที่ความเร็ว 3.20 – 4.40 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีไปอีกขั้นเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้แบบแรงขึ้นในทุกๆ การทำงานหรือเล่นเกม พร้อมผสานกับ APU การ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon 8 ที่เพียงพอกับการใช้งานพื้นฐาน 2 มิติ 3 มิติทั่วไป ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็นรุ่นใหม่ NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6)
ซึ่งแรงลื่นและเย็นกว่า GTX 20 Series ในทุกๆ มิติ พร้อมฟีเจอร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น DLSS / Ray Tracing มาแบบจัดเต็ม รองรับกราฟิกที่สวยงามมากกว่า แต่ก็ได้ความแรงที่มากกว่า RTX 2060 รุ่นก่อน โดยเน้นให้มีความร้อนที่น้อยกว่าและประหยัดพลังงานเข้ากับตัวเครื่องที่บางเบา แรมได้มาขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ Dual Channel (8GB x 2 แถว) มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ที่มีความลื่นไหลทั้งระบบ พร้อมอัพเกรด SSD M.2 ได้อีกตัวทันที
โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าสำหรับสเปกนี้คือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)รวมไปถึงมีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 ได้ด้วย ระบบการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.2 (Dual band)
พร้อมติดตั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 Home และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate รุ่นใหม่ มาให้ในตัว ส่วนการรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม จัดได้ว่าเป็นมาตรฐานการรับประกันของทาง ASUS ปกติ สนนราคาของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 รุ่นใหม่สเปกที่นำมารีวิวอยู่ที่ 46,900 บาท (หรือถูกกว่านั้นในสเปกรองลงไป) จัดว่าคุ้มค่าไม่แพงเมื่อเทียบกับความแรง รวมไปถึงมีรุ่นหน้าจอ 17.3″ อย่าง A17 FA706 เป็นตัวเลือกด้วย
ASUS TUF Gaming A15 FA506 / A17 FA706 รุ่นสเปกที่ขาย
ASUS TUF Gaming A15 FA506QM-HN077T ราคา 34,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : AMD Ryzen 7 5800H
-
GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 GDDR6 6GB
-
RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
-
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD (1920 x 1080) 144Hz
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
-
OS : Windows 10 Home
-
Connector : Wi-Fi 6 AX (2 x 2) + BT5.1
-
Warranty : 2 Years Inter / 1 Year Perfect warranty
ASUS TUF Gaming A15 FA506QR-HN035T ราคา 42,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : AMD Ryzen 7 5800H
-
GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 GDDR6 8GB
-
RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
-
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD (1920 x 1080) 144Hz
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
-
OS : Windows 10 Home
-
Connector : Wi-Fi 6 AX (2 x 2) + BT5.1
-
Warranty : 2 Years Inter / 1 Year Perfect warranty
ASUS TUF Gaming A15 FA506QR-HN035T ราคา 46,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : AMD Ryzen 7 5800H
-
GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 GDDR6 8GB
-
RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
-
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD (1920 x 1080) 240Hz
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 1TB
-
OS : Windows 10 Home
-
Connector : Wi-Fi 6 AX (2×2) + BT5.1
-
Warranty : 2 Years Inter / 1 Year Perfect warranty
ASUS TUF Gaming A17 FA706QR-HX025T ราคา 44,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : AMD Ryzen 7 5800H
-
GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 GDDR6 8GB
-
RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
-
DISPLAY: 17.3″ IPS Full HD (1920 x 1080) 144Hz
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
-
OS : Windows 10 Home
-
Connector : Wi-Fi 6 AX (2 x 2) + BT5.1
-
Warranty : 2 Years Inter / 1 Year Perfect warranty
Hardware / Design
ที่ผ่านมาหลายรุ่นหลายปีสำหรับ ASUS TUF Gaming Series นับว่าเป็น Gaming Notebook ที่ดีมากๆ เป็นการต่อยอดมาโดยตลอด ได้ทั้งความคุ้มค่า ประสิทธิภาพความแรง แบบที่หลายๆ อย่างยกมาจากรุ่นพี่ ROG เลย แต่มาในราคาที่ไม่แพง สามารถจับต้องได้ง่าย โดยที่ผ่านมาเราเห็นกันมาแล้ว อย่าง ASUS TUF Gaming ซึ่งเป็นตัวแรงยอดนิยมสุดๆ
ได้สเปกเป็น AMD Ryzen 5000H กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 30 Seriesในช่วงงบ 3x,xxx – 4x,xxx บาท แทบไม่มี Gaming Notebook รุ่นไหนสู้ได้ทีเดียวในปีก่อน แน่นอนปี 2020 – 2021 ก็จัดเต็มนอกเหนือความแรงแล้ว ก็จะเป็นในส่วนของฟีเจอร์ประสบการณ์ใช้งานอื่นๆ รวมไปถึงดีไซน์ด้วย ให้ความรู้สึกเป็น Gaming Notebook อย่างแท้จริง
โดยการมาของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 มีความน่าสนใจยิ่งกว่าซึ่งนอกเหนือสเปกภายในแล้ว อย่างในเรื่องของขอบหน้าจอบาง slim bezel Nano-Edge นั่นก็ทำให้ตัวเครื่องมิติโดยรวมมีความเล็กกระทัดรัดลง แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ แบบสมัยก่อนๆ มาก
ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade (MIL-STD-810H) ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้
ดีไซน์การออกแบบของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 เรียกได้ว่ายกระดับกว่ารุ่นก่อนหน้านี้มาแบบเหนือชั้น ฝาหลังจอแบบใหม่สีสัน Fortress Gray ใช้วัสดุเป็นโลหะผสมแบบอลูมิเนียมอัลลอยทั้งชิ้นพร้อมโลโก้ TUF Gaming รูปแบบใหม่เน้นความเรียบง่ายแต่ดูดี โดยมี TUF เป็นอักษรขนาดใหญ่ และมีโลโก้เล็กๆ ที่มุมขวาบน พร้อมด้วยหมุดยึดสี่มุมให้ความรู้สึกแข็งแกร่งและเรียบหรูในเวลาเดียวกัน
ส่วนด้านหลังตัวเครื่องออกแบบให้มีช่องระบายความร้อนแบบ 3 ทิศทาง ด้วยสองช่องขนาดใหญ่ด้านหลัง พร้อมอีก 1 ช่องด้านซ้าย ฟินระบายความร้อนเป็นสีทองแดง พร้อมระบบไหลฝุ่นอัตโนมัติ การันตีเรื่องของการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้ตัวเครื่องใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
ฝาด้านล่างตัวเครื่องเป็นพลาสติกโพลีเมอร์ผสมซิลิคอนคาไบด์ สินแร่ที่มักถูกใช้ผสมกับวัสดุอื่นๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มคุณสมบัติการทนทานต่อความร้อน พบได้ในเบรก/คลัทช์ของรถยนต์ และแผ่นเซรามิกในเสื้อเกราะกันกระสุน นอกจากวัสดุที่แข็งแกร่งทนทาน ซึ่งฝาด้านล่างยังถูกออกแบบเพื่อเสริมความแข็งแกร่งอีกขั้น ด้วยรูปทรงหกเหลี่ยมแบบรังผึ้ง (Honeycomb) ที่บริเวณช่องดูดลมเย็นเข้าเครื่องเพื่อช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งโครงสร้างภายในก็ยังเป็นรังผึ้งด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของระบบระบายความร้อนก็ใช้ระบบ Scenario Profiles และ Self-Cleaning Cooling ที่สามารถปรับเร่งรับได้ พร้อมมี Anti-Dust Tunnel สำหรับเป่าฝุ่นออกมาให้อีกด้วย จัดเต็มจริงๆ ให้มาครบไม่มีกั๊ก ส่วนของคีย์บอร์ดจะให้ไฟ RGB แบบ All Zone ปุ่ม WASD ทำไฮไลท์ไว้ สามารถรองรับการกดได้ 20 ล้านครั้ง เชื่อมั่นได้เรื่องของความทนทาน
ได้ Travel Key 1.8 มิลลิเมตร (ระยะที่กดปุ่มลงไปลึก) การวางเลเอาท์จะเหมือนกับคีย์บอร์ดแยกจริงๆ อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
ส่วนด้านในจะเป็นพลาสติกแบบมีลวดลายคล้ายโลหะปัดเสี้ยนให้สัมผัสผิวไม่เรียบ ที่นอกสายสวยงามแล้วคือเป็นลายนิ้วมือได้ยาก นับว่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจมากๆ ทั้งภายนอกและภายใน ที่ดูแล้วลงตัวกว่ารุ่นก่อนหน้าไปอีกขั้น ทางด้านพับตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้เป็นแบบบานพับคู่วัสดุเป็นพลาสติกแข็งแรง พร้อมมีการตัดช่องเป็น V-Sharp ช่วงให้อากาศไหลผ่านได้ดีขึ้น และมีช่องระบายอากาศด้านบนคีย์บอร์ดเพิ่มเข้ามา
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีเยี่ยมสมการมาของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 รุ่นใหม่ปี 2021 ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ Gaming แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ ที่ไม่ใช่แค่แรง แต่แข็งแรงทนทาน ระบบระบายความร้อนดี ขอบจอต้องบางเฉียบ ยกให้เป็น Gaming Notebook ราคาคุ้มค่าที่สุดฟีเจอร์แน่นอนที่สุด
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 มาพร้อมไฟ RGB Aura โดยเป็นแบบ All Zone ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ ได้หลากหลายรูปแบบ รองรับการกดได้ทนทานถึง 20 ล้านครั้ง มีเทคโนโลยี Overstroke จากประสบการณ์ใช้งานจัดว่าเป็นคีย์บอร์ดที่แฝงไว้ด้วยคาแรคเตอร์ของความเป็น Gaming ด้วย 4 ปุ่ม WASD ที่เกมเมอร์คุ้นเคยเสริมความโดดเด่นสวยงาม สามารถสังเกตได้ง่าย จากการที่ปุ่มมีความขาวใส โดยวางนิ้วบนปุ่มได้อย่างรวดเร็ว
ตัวปุ่มกดแบบ Chiclet Switches ที่มีระยะห่างระหว่างปุ่ม 1.8 มิลลิเมตร พร้อมปุ่มมีความโค้ง 0.25 มม. รองรับ N-key Rollover และแยกปุ่มลูกศรชัดเจน อีกทั้งปุ่ม WASD จะมีความพิเศษคือเป็นสีขาวใส รวมถึงมี Numpad แป้นตัวเลขก็มีมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้ แบบแป้นพิมพ์ Full Size ส่วนของทัชแพดที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวเครื่อง ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบแยกปุ่มออกมาชัดเจน และทำไฮไลท์ที่มุมของทัชแพด เข้ากับตัวเครื่องโดยรวมได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้แม่นยำ
Screen / Speaker
ASUS TUF Gaming A15 FA506 มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.5 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบน ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพสูง สีสันตรง มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี
เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 240Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของ Notebook ใช้งานพื้นฐานของปี 2021 ทั่วไปมากทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพมืออาชีพ ที่แน่นอนว่าต้องกว่า TN เรื่องของสีสันและมุมมอง จึงได้ทำการทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 89% และ AdobeRGB 68% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับดีกว่ารุ่นสเปกหน้าจอ 144 Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีตามมาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพหน่อยก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่ 250 cd/m2 แต่สำหรับช่องล่างกลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 12% ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite ชี้วัดได้เป็นอย่างดี
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo แบบช่องเสียงออกสี่ทิศทางถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน อยู่ด้านใต้ตัวเครื่องมุมซ้ายขวา ให้เสียงดังขึ้น 1.8 เท่า และเบสที่ลึกกว่าเดิม 2.7 เท่า พร้อมจำลองเสียงแบบ 7.1 แชแนลผ่านการเชื่อมต่อหูฟัง ระบบเสียง DTS:X ทำให้มีเสียงดังฟังชัด มีน้ำหนักที่มากกว่า ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีกว่ามาตรฐาน Gaming Notebook ทั่วไปพอตัว
Connector / Thin And Weight
ด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS TUF Gaming A15 FA506 ก็จัดว่าครบครันดีขึ้น ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบถ้วนใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตเกือบทั้งหมดจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่อง มีทั้ง USB 3.2 Gen2 Type-C จำนวน 1 พอร์ตโดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 พร้อม USB 3.2 Type-A (Gen 1) จำนวน 3 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, LAN RJ45 และ HDMI ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวา โดยตัวเครื่องจะไม่มี SD Card Reader เหมือนรุ่นก่อนหน้าด้วย
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.2 (2×2) และ Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อนที่เป็น 5 AC รองรับการใช้งานได้แบบสบายๆ ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 359.8 x 256 x 22.8 ~24.7 มม. น้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม ถือว่าอยู่ในเกณ์ที่ดีตามมาตรฐาน Gaming Notebook และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 200 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมกลางๆ ซึ่งสำหรับหนุ่มๆ ก็พกพาไปไหนมาไหนได้สบายๆ แน่นอน
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS TUF Gaming A15 FA506 เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้ว โดยมุมนึงจะมีสกรูแบบพิเศษหนึ่งตัวที่จะช่วยให้การเข้าถึงการอัพเกรดเป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เพียงไขน็อตทุกตัวออกปกติ (ระวังความยาวไม่เท่ากันด้วย) เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่ 2 ตัว แบบ 3 ทิศทาง พร้อมระบายความร้อนที่มี Self-Cleaning Cooling ที่อยู่ในชุดฟินสีทองแดง หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อน
จุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 4 เส้นขนาดใหญ่พาดผ่าน เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD M.2 NVMe PCIe สรุปคือเราสามารถติดตั้ง SSD M.2 NVMe PCIe ได้ 2 ตัวพร้อมกันนั่นเอง แรมให้มาแล้วแบบ 16GB ที่เป็น 8GB x 2 แถว ซึ่งเอาเข้าจริงก็เพียงพอกับการใช้งานทุกๆ อย่างแล้ว แต่สำหรับในอนาคตใครอยากอัพเกรดแรมเป็น 16GB x 2 แถว ก็สามารถทำได้เช่นกัน
Performance / Software
ASUS TUF Gaming A15 FA506 มาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวแรงในตลาดของ Gaming Notebook ของ AMD อย่าง Ryzen 7 5800H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่า Ryzen 4000H ด้วยสถาปัตยกรรม Zen 3 โค้ดเนม Cezanne มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 nm ความเร็ว 3.20 – 4.40 GHz แบบ 8 Core/ 16 Thread ร้อนน้อยกว่า ได้ L3 Cache ที่ 16MB มีค่าอัตราการใช้พลังงานสูงสุด (TDP) ที่ 45W รองรับการทำงานประมวลผลหนักๆ หรือเล่นเกมได้ดีกว่า
ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ มากยิ่งขึ้นไปอีก แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังรวมไปถึงเล่นเกมเป็นหลัก ก็รองรับได้อย่างสบายๆ และดีที่สุดแน่นอน เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen 4000H อย่าง Ryzen 7 4800H แน่นอน พร้อมได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz (8GB x 2) ใช้งานได้ทันที ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon 8 มีความเร็วในการทำงานที่ 2000MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเป็นหลัก กับหน้าจอความละเอียดสูงให้ความลื่นไหลเป็นอย่างดี ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) ซึ่งตรวจสอบแล้วเป็น Max-Q ไม่ใช่ Max-P เน้นความแรงแต่ปลดปล่อยความร้อนที่ต่ำกว่า สถาปัตยกรรม Ampere เทคโนโลยีการผลิต 8 นาโนเมตร โดยเป็น RTX เจนที่ 2 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เทียบเคียงอย่าง GeForce RTX 2070 ได้ดีกว่า ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่าด้วย
เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ทุกประเภท ทั้งตัวหนาหนักและบางเบา รองรับ Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ก็ยังสามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว แม้ว่าจะเป็น Max-Q แต่ความแรงไม่เป็นรองสเปก Max-P เลย
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / CINEBENCH 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงมากๆ อย่างน่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Ryzen 5000H เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H / Intel Core i7-10875H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยก RTX 3070 เองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนสุด ที่เน้นการทำงาน 3D เป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe PCIe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3597 MB/s และเขียนที่ 3022 MB/s สมกับเป็นรุ่นบนๆ ของตลาดจริงๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 6,595 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่ล่าสุดจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 5800H มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming อย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 8,321 และประมวลผลคาดการณ์เกม Apex Legends ปรับสุด Full HD ได้ 140+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 100 – 160 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยกร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง RE 3 / BF V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด จากกราฟตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าเฟรมเรทที่ออกมานั้นมีความลื่นไหลสุดๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้ โดยในส่วนของ RE 3 ซึ่งเป็นเกมออกใหม่ล่าสุด เราปรับกราฟิกในเกมเป็น MAX ที่ใช้แรมการ์ดจอไปกว่า 12GB ซึ่งเกินกว่าตัวการ์ดจอที่ 8GB แต่ก็ยังทำเฟรมเรทได้ลื่นไหลจริงๆ
ต่อกันที่เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็ไม่มีอาการช้าหรือหน่วงเลย
นอกเหนือจากนี้ ASUS TUF Gaming A15 FA506 ยังมี Armory Crate รุ่นใหม่ โดยเป็นซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆ ของระบบร อาทิ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลายโปรไฟล์
ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต ปิดท้ายด้วยซอฟต์แวร์ Utility อีกตัวอย่าง MyASUS รุ่นใหม่ที่ไว้คอยตรวจระยะเวลากรับประกันและอัพเดทไดร์เวอร์ได้ครบถ้วน
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS TUF Gaming A15 FA506 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติขนาด 90Whrs ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 13 – 14 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจมากๆ กับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS TUF Gaming A15 FA506 เมื่อใช้งานแบบปกติ ชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอจะอยู่ที่ 40 – 60 องศาเซลเซียสเช่นกัน ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด
ด้วยการเปิดโหมด Turbo เพื่อเริ่งประสิทธิภาพ จากการทดสอบขณะนี้ดูได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ Hardware Monitor รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถดูข้อมูลได้ละเอียดมากๆ โดย CPU ชิปประมวลผล อยู่ที่ไม่เกิน 96 องศาเซลเซียส ส่วน GPU การ์ดจอจะอยู่ที่ไม่เกิน 78 องศาเซลเซียส ซึ่งต้องยอมรับว่าเย็นกว่ารุ่นก่อนๆ และเย็นกว่าหลายรุ่นในตลาด นับว่าทาง ASUS ทำการบ้านมาดีจริงๆ
โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้ดีในแง่ของความลื่นไหล ไม่มีสะดุด ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึงแต่ไม่ถึงขั้นดังรบกวน จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Windows เพื่อใช้งานทั่วไปก็สามารถทำได้ค่อนข้างเงียบทีเดียว
Conclusion / Award
จาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ ASUS TUF Gaming A15 FA506 ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ล้ำหน้า ขอบจอบาง น้ำหนักเบา มีไฟคีย์บอร์ด RGB งานประกอบและวัสดุที่เยี่ยมยอด ได้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook รุ่นก่อนๆ รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น สเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS เกรดสูง sRGB 89% ที่ Refresh Rate 240Hz ได้สเปกที่รองรับการเล่นเกมได้อย่างสนุกสนานอย่างแท้จริง
ด้วยการรวมตัวของใหม่อย่าง AMD Ryzen 7 5800H ที่มีความแรงที่ดีกว่ารุ่นก่อนแบบไม่กั๊ก ที่สำคัญความร้อนมีไม่มาก พร้อมด้วยการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) แบบ Max-Q และแรม DDR4 ขนาด 16GB ที่ไม่ต้องอัพเกรดแล้ว อีกทั้งยังมี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB แบบความเร็วสูง มาให้พร้อมใช้งาน ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook มีความเป็น TUF Gaming ที่ไม่ใช่แค่สวยงามดุดัน แต่เน้นประสิทธิภาพต่อราคาที่คุ้มค่าด้วย อย่างที่แบรนด์อื่นๆ ไม่สามารถให้ได้
เรื่องของการออกแบบที่ ASUS TUF Gaming A15 FA506 ทำได้ดีมาก ฉีกรูปแบบเดิมๆ ออกไป ด้วยดีไซน์สไตล์ TUG Gaming ที่เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ แต่มีมิติตัวเครื่องพกพาสะดวก ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟแบบพิเศษ ด้วยปุ่ม WASD เป็นแบบโปร่งแสงโดดเด่น ระบบเสียงคุณภาพดีเยี่ยม แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 14 ชั่วโมง !!! ที่สำคัญเครื่องนี้มีระบบป้องกันฝุ่น Self-Cleaning Cooling พร้อมระบบระบายความร้อนจัดเต็ม เหมาะกับคนที่ต้องการ Gaming Notebook ที่แรงและคุ้มค่าอย่างแท้จริง
ปิดท้ายเทียบ ASUS TUF Gaming A15 FA506 รุ่นใหม่ปี 2021 เทียบกับ Gaming Notebook หลายๆ รุ่นในตลาดตอนนี้ที่ขายๆ กันอยู่ ในช่วงราคา 3x,xxx บาทขึ้นไป ตามแต่สเปกหรืองบประมาณที่เราตั้งเอาไว้ ก็ต้องยอมรับว่าน่าซื้อสุดๆ นอกจากได้ชิปประมวลผลที่แรงขึ้นกว่าเดิม การ์ดจอที่แรงลื่นแม้จะเป็นซีรีส์ Max-Q (ปี 2021 นี้ทาง NVIDIA ไม่บอกแล้ว ต้องหาข้อมูลเสริมเอง) ไม่ใช่ Max-P แบบรุ่นก่อนๆ แต่ทาง ASUS ก็ OC เร่งความแรงขึ้นให้ด้วย ทำให้เล่นเกมได้ลื่นกว่าแล้ว ความร้อนต้องบอกว่าเย็นขึ้นได้อีก
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ ในปี 2021 รุ่นใหม่ๆ ได้ทำการส่งสเปกที่ใกล้เคียงนี้มาเหมือนกัน ทั้งสเปกที่เป็น AMD หรือ Intel โดยต้องเปรียบเทียบแล้วก็มีจุดเด่นและข้อสังเกตที่แตกต่างกันออกไป ตรงนี้เพื่อนๆ ต้องลองเปรียบเทียบกันอีกทีว่าชอบแบบไหน เพราะโจทย์ของการใช้งานแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แต่บอกเลยว่าถ้าใครสนใจ ASUS TUF Gaming A15 อยู่แล้วก็จัดได้เลย เพราะขายดีและของหายากจากความต้องการที่สูงและโรงงานผลิตไม่ทัน
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS TUF Gaming A15 FA506 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ASUS TUF Gaming A15 FA506 สเปกใหม่ล่าสุด พร้อมขายก่อนใครเป็น AMD Ryzen 7 5800H + NVIDIA GeForce RTX 3070 + Ram 16GB Bus 3200Hz + SSD M.2 NVMe PCIe 1TB + มี Windows 10 Home ซึ่งทดสอบการใช้งานเล่นเกมจริงแล้วแรงกว่า Gaming Notebook รุ่นก่อนๆ ทั้ง AMD Ryzen / Intel Core i รุ่นก่อนมากๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ หรือเล่นเกมก็ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ TUF Gaming โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS TUF Gaming A15 FA506 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ที่สำคัญคือดีไซน์ให้ความสวยงามดูทนทานกว่ารุ่นก่อนๆ ทั้งหมด จากการใช้สีสันเป็น Fortress Gray ใช้วัสดุเป็นโลหะผสมแบบอลูมิเนียมอัลลอยทั้งชิ้น
Best Durability
ASUS TUF Gaming A15 FA506 มีความทนทานระดับ Military Grade ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาเราจะหาความทนทานระดับ Military Grade ได้ก็พวก Ultrabook ราคาแพงเท่านั้น แต่สิ่งนี้ ASUS จัดเต็มมาให้เลย สำหรับ Gaming Notebook ช่วงราคา 3x,xxx – 4x,xxx บาท นับว่ามีความใจเป็นอย่างมาก มากกว่าแบรนด์อื่นๆ ชัดเจน
Best Gaming
นอกเหนือจากสเปกหลัก ยังให้ความ Gaming โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดคุณภาพดี รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sync ทำให้ภาพไม่ฉีกขาด (Tearing)รวมไปถึงมีลำโพงคุณภาพสูงระบบเสียง DTS:X Ultra พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 1 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 ได้ไฟคีย์บอร์ด RGB และระบบระบายความร้อนที่เยี่ยมยอดด้วย