Creative Sound Blaster GC7 DAC (Digital to Analog Converter) คุณภาพสูงรุ่นใหม่ที่ทางบริษัท Creative ผลิตมาเพื่อเกมเมอร์, สตรีมเมอร์และ Content Creator โดยเฉพาะเปิดตัวแล้วกับราคา 169.99 ดอลลาร์ หรือราว 5,000 บาท มีกำหนดวางขายทั่วโลกและดีไซน์เรียกว่าออกแบบมาใช้งานง่าย ตั้งค่าให้ปุ่ม C1-C4 ที่ติดตั้งเอาไว้กดสั่งการแบบพิเศษได้ ไม่ว่าจะอัดคลิปในช่วงที่ต้องการหรือตั้งค่าเปิดสตรีมก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ที่ตัวก็มีพอร์ตเชื่อมต่อเยอะครบครันอีกด้วย
สเปค Creative Sound Blaster GC7
Creative Sound Blaster GC7 จะมีสเปคดังนี้
- DAC รองรับเสียง 24-bit, 192 kHz PCM ขับเสียงให้หูฟังระดั 32-300 โอห์มได้ ซึ่งหูฟังเกมมิ่งทั้งหมดในปัจจุบัน DAC นี้ขับได้สบาย ๆ รองรับเสียงดังสุด 120 เดซิเบล
- ปุ่ม C1-C4 ตั้งค่าให้รันการทำงานเฉพาะ เช่นอัดคลิป, เปิด Live Stream และอื่น ๆ ได้ตามต้องการและมีไฟ RGB อีกด้วย
- มีชิป DSP สองตัวติดตั้งมาให้ เป็น Super X-Fi สร้างเสียงจำลองแบบ 5.1 และ 7.1 แชนแนลได้ แต่ต้องใช้กับหูฟังที่รองรับด้วย และ Acoustic Engine ชิปประมวลผลเสียงแล้วขับทางลำโพงและหูฟังเรา รองรับ Dolby Audio
- สั่งเปิดโหมดเสียง SXFI Battle Mode ให้เสียงในหูฟังแสดงแบบแบ่งทิศและระยะทางให้ได้ยินชัดเจนยิ่งขึ้น เหมาะกับการเล่นเกมแนว FPS
- โหมดเสียง Scout mode แสดงผลเสียงทุกรายละเอียดให้เราได้ยินชัดเจนยิ่งขึ้น
- วงล้อสามวงแบ่งเป็น
- วงล้อซ้ายเอาไว้ปรับเสียงดังเบาให้กับหูฟังตอนใช้เล่นเกม
- วงตรงกลางเป็นวงตั้งค่าพรีเซ็ตของตัว DAC สามารถหมุนเลือก Preset ที่ต้องการได้เลย โดยโปรแกรมจะทำงานแยกออกไปเป็นอีกโปรแกรมไม่เกี่ยวกับเกม รวมทั้งเลือกโหมดเสียงต่าง ๆ ได้ที่ปุ่มรอบ ๆ อีกด้วย
- วงล้อขวาสุดเอาไว้บาลานซ์เสียงในเกมกับเสียงพูดของเพื่อนในโปรแกรมแชตเช่น Discord เป็นต้น
- ตัว DAC มีพอร์ตเชื่อมต่อหลายช่องด้วยกัน โดยแยกเป็น
- ด้านหน้ามีช่องต่อพอร์ตเสียง ใช้งานกับ PC, เครื่องคอนโซลและสมาร์ทโฟนก็ได้ มีช่องไมโครโฟนและหูฟังแยกเฉพาะ
- ด้านหลังมี Line Out, Line In สำหรับสมาร์ทโฟน, สวิตช์ปรับ Gain เสียงว่าต้องการแบบ High หรือ Low, Opt out, Opt in, USB-C, สวิตช์เลื่อนเปลี่ยนโหมดระหว่าง Mobile / Console / PC, สวิตช์เปิดปิดการทำงาน
- รองรับการทำงานได้หลากหลายทั้ง Android, iOS, Windows, macOS, PS4, PS5, Nintendo Switch ก็เชื่อมต่อกับ DAC นี้ได้เช่นกัน
เรียกว่าถ้าใครเป็นเกมเมอร์หรือ Streamer ที่อยากได้ DAC แบบแท่นเอาไว้ปรับเสียงระหว่างใช้งานได้ราบลื่นยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าใช้งานกับ Stream Deck ก็ยิ่งทำให้การสตรีมทำได้ดีและดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นหลายเท่าเลย
ที่มา : Notebookcheck