คำถามยอดฮิตของคนที่จะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ ยังไงก็หนีไม่พ้นคำถามว่า “จะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี” หรือ “โน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี” เพราะปัจจุบันนี้ในประเทศไทยมีโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์ชั้นนำหลากหลายรุ่นวางขายอยู่เต็มร้าน หลากหลายชื่อหลายดีไซน์ไปหมดจนคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวหรืออยู่ในวงการไอทีแบบจริงจังก็พลอยจะสับสนเอาได้ง่าย ๆ ว่าทั้ง ๆ ที่เป็นโน๊ตบุ๊คแบบฝาพับเหมือนกันแท้ ๆ แต่ก็มีรุ่นให้เลือกเยอะไปหมด
ดังนั้นวิธีง่านที่สุดคือการเข้าใจว่าแบรนด์นั้นมีโน๊ตบุ๊ครุ่นย่อยอะไรบ้างแบบคร่าว ๆ ก็จะทำให้เราจำกัดกลุ่มแล้วเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คได้ตรงการใช้งานของเรายิ่งขึ้น เวลาไปร้านหรือเปิดเว็บไซต์หาซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่จะได้ทำได้ง่ายและเร็วยิ่งกว่าเดิมแล้วไม่ต้องคอยเดินวนสงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีนะ?
วางอยู่หลายแบบหลายรุ่น แต่ซื้อเครื่องไหนไปใช้ดีหว่า?
โน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีแล้วโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีถึงจะเหมาะกับการใช้งานของเรา?
เพราะสินค้ารุ่นเดียวไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกคน ดังนั้นแบรนด์หนึ่งจึงมีสินค้ารุ่นย่อย อย่างน้อยก็ต้องมีสัก 2 รุ่นขึ้นไปให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากขึ้นและเอามาเปรียบเทียบกันได้ แต่พอมีรุ่นย่อยมากเข้าและทำสเปคมาใกล้เคียงกันก็ยิ่งทำให้ผู้ใช้สับสนเข้าไปอีก เพราะเชื่อว่าถ้าสเปคใกล้เคียงกันมาก ๆ ก็เชื่อว่าผู้ใช้จะซื้อรุ่นราคาถูกกว่าอย่างแน่นอน และเป็นต้นเหตุของคำถามว่าเราจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี ถึงจะคุ้มกับเงินที่เราจ่ายที่สุด?
เช่นในภาพนี้ ถ้าเราค้นหาโน๊ตบุ๊คในระบบค้นหาโน๊ตบุ๊คของทางเว็บไซต์แล้วตั้งค่าเลือกซีพียูกับการ์ดจอแบบเดียวกัน จะเห็นว่า ASUS TUF Gaming กับ ASUS VivoBook ในภาพนี้เป็นสเปคเดียวกันคือใช้ Intel Core i5 กับการ์ดจอ GEFORCE GTX 1650 เหมือนกันทั้งคู่ มีแรมเท่ากันอีก ก็เชื่อว่าหลายคนอาจจะเลือก ASUS VivoBook เพราะราคาถูกกว่าแต่ได้สเปคไม่แพ้กับ ASUS TUF Gaming เลย
ซึ่งถ้าโจทย์เป็นการใช้งานทั่วไปก็ไม่มีปัญหาเพราะสเปคนั้นก็ถือว่าดีไล่เลี่ยกัน แต่กลับกันหากเน้นเล่นเกมหรือ Live Stream ด้วย ASUS VivoBook ถึงจะทำได้แต่ก็จะไม่ได้ระดับ ASUS TUF Gaming ที่ออกแบบมาเน้นด้านนี้และมีโปรแกรมปรับแต่งการทำงานให้ตัวเครื่องให้เหมาะกับการเล่นเกมโดยเฉพาะ รวมทั้งเรื่องการรับประกันของทั้งสองรุ่นนี้ก็จะแตกต่างกันอีกด้วย
โน๊ตบุ๊คแต่ละยี่ห้อมีรุ่นย่อยอะไรบ้าง?
แบรนด์โน๊ตบุ๊คชั้นนำในประเทศไทยในอดีตนั้นมีอยู่หลากหลายแบรนด์ แต่เมื่อทำตลาดมาเรื่อย ๆ แล้วผู้ใช้ไม่ให้ความนิยม, บริษัทแม่เลิกทำตลาดไปหรือแม้แต่ขายส่วนของกิจการให้บริษัทอื่นทำตลาดต่อก็มีเช่นกัน แต่ในระยะหลังมานี้แบรนด์โน๊ตบุ๊คชั้นนำในประเทศไทยจะมีแบรนด์ยืนพื้นอยู่ 9 แบรนด์ด้วยกัน และต่างก็มีรุ่นย่อยให้ผู้ใช้เลือกมากมาย ได้แก่
1. Apple
ในตอนนี้ถ้าถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ยักษ์ใหญ่จาก Cupertino อย่าง Apple นั้นก็เป็นตัวเลือกเด่นในใจของใครหลาย ๆ คนไปโดยปริยายแม้ราคาจะค่อนข้างสูง แต่แลกกับดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียบง่ายแต่ประสิทธิภาพดีไว้ใจได้ และได้รับการอัพเดทต่อเนื่องก็ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่ชอบเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คใหม่บ่อย ๆ ตัดสินใจซื้อได้ง่าย และเมื่อเปิดตัว MacBook ชิป Apple M1 ประสิทธิภาพสูงเข้าไป ก็ยิ่งทำให้ผู้ใช้ให้ความสนใจและเลือกซื้อ MacBook มากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งมีข่าวลือเรื่อง MacBook รุ่นใหม่พร้อมชิป M1X เข้าไปก็ยิ่งกระพือความสนใจเข้าไปอีก
ถ้าถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี สำหรับรุ่นย่อยของ MacBook นั้นถือว่าน้อยและชัดเจนกว่าแบรนด์อื่น ๆ พอสมควร เพราะมีเพียง 3 รุ่นหลักเท่านั้น คือ MacBook Air, MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว และรุ่น 16 นิ้ว และ Apple เองก็แบ่งกลุ่มผู้ใช้อย่างชัดเจนมากอย่างที่เคยนำเสนอไปในบทความเลือก MacBook เมื่อก่อนหน้านี้ แต่หากให้จำกัดกลุ่มผู้ใช้ให้กับ MacBook แต่ละรุ่นแล้ว จะเป็นดังนี้
MacBook Air ถือเป็น MacBook รุ่นเริ่มต้นที่ราคาถูกสุดในปัจจุบัน โดยออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเริ่มใช้งาน MacBook และพกติดตัวไปทำงานได้สะดวก รวมทั้งแบตเตอรี่ก็ใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงด้วย แต่ด้วยชิป Apple M1 เองก็มีประสิทธิภาพสูง จึงสามารถใช้ตัดต่อวิดีโอและแต่งภาพได้ดีไม่แพ้โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงเครื่องอื่นเลย ซึ่งคนที่สงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีแล้วอยากใช้ Apple ล่ะก็ MacBook Air ก็เป็นรุ่นเริ่มต้นที่ดีเช่นกัน
รุ่นเริ่มต้นราคา 32,900 บาท จะมี GPU เพียง 7 คอร์ ส่วนรุ่นราคา 41,400 บาทจะมี GPU เพิ่มเป็น 8 คอร์เหมือนรุ่น MacBook Pro แต่ถ้าไม่ได้ใช้งานกราฟฟิคแบบหนักหน่วงมากก็อาจจะไม่เห็นผลชัดเจนนัก ซึ่ง MacBook Air จะเหมาะกับกลุ่มนักศึกษา, พนักงานออฟฟิศทั่วไป, คนทำงานกราฟฟิคและช่างภาพฟรีแลนซ์เป็นหลัก
MacBook Pro 13 นิ้ว เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ใช้ที่ทำงานกราฟฟิคแบบจริงจัง เช่นนักศึกษาที่เรียนอนิเมชั่นหรือถ่ายภาพ, ช่างภาพมืออาชีพ เพราะ MacBook Pro นั้นจะติดตั้งพัดลมระบายความร้อนมาให้ในเครื่องช่วยระบายความร้อนให้ตัวชิปเมื่อประมวลผลหนัก ๆ ได้ดีกว่า MacBook Air และใช้ทำงานด้วยแบตเตอรี่อย่างเดียวได้นานกว่า MacBook Air อีกด้วย ซึ่งถ้าคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีถึงจะเหมาะกับการเอามาทำงานสร้างสรรค์ ก็เลือ MacBook Pro ได้เลย
MacBook Pro 16 นิ้ว นั้นเป็นรุ่นสูงสุดของกลุ่ม MacBook ในตอนนี้แต่ยังเป็นชิป Intel Core i7 และ i9 จับคู่กับการ์ดจอ AMD Radeon Pro เน้นผู้ใช้ที่ต้องทำงานประมวลผลหนัก เช่น โปรแกรมเมอร์, ศิลปิน และโปรดักชั่นเฮ้าส์ย่อม ๆ ที่คิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีแล้วจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีถึงจะแรงตอบโจทย์การทำงานของเราแล้วสนใจ MacBook อยู่ ก็เลือก Apple MacBook Pro 16 นิ้ว ไปใช้ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม MacBook รุ่นนี้จะมีราคาเริ่มต้นสูงถึง 75,900 บาท แต่ถ้าปรับแต่งสเปคจนแรงสุดก็อยู่หลักแสนบาททีเดียว
ผู้สนใจสามารถเลือกดู MacBook ทุกรุ่นได้ที่นี่
2. Acer
นอกจากจะถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี สำหรับ Acer แล้วต้องถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีของ Acer ด้วย เพราะมีรุ่นย่อยและแบรนด์รองแยกอยู่หลายรุ่นทีเดียว ถ้าแบ่งให้เข้าใจง่าย ๆ คือกลุ่มโน๊ตบุ๊คสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เป็นซีรี่ส์ Aspire, Swift, Spin ส่วนเกมเมอร์มี Nitro เป็นรุ่นเริ่มต้นและ Predator เป็นรุ่นจัดเต็ม ถ้าเป็นกลุ่มครีเอเตอร์จะมีตระกูล ConceptD ให้เลือกซื้อ โดยแต่ละซีรี่ส์จะแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้แบบง่าย ๆ ดังนี้
กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและพนักงานออฟฟิศ
Acer Aspire
จัดเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นเมื่อคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีและราคาถูกสุดอีกด้วย เน้นเรื่องราคากับความคุ้มค่าเป็นหลัก เน้นผู้ใช้งานทั่วไป ได้แก่ นักเรียนนักศึกษา, พนักงานออฟฟิศที่หาโน๊ตบุ๊คเอาไว้ทำงานทั่วไป ไม่ค่อยได้พกออกไปข้างนอกบ่อยนักและมีฟีเจอร์ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันครบถ้วน เช่นพอร์ต USB 3.2 และบางรุ่นมี Microsoft Office Home & Student 2019 ติดตั้งมาแบบครบ ๆ ซึ่งทาง Notebookspec ก็มีรีวิวซีรี่ส์นี้ออกมาเป็นระยะ ๆ เช่นกัน สามารถอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้
ถ้าใครกำลังสงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีในซีรี่ส์ Acer Aspire ผู้เขียนมีรุ่นแนะนำดังนี้
Acer Aspire 3 A314-22-R81D
- AMD Ryzen 5 3500U
- AMD Radeon RX Vega 8
- RAM 4 GB DDR4 Onboard 2666 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 14″ FHD พาเนล TN
- Windows 10 Home
- ราคา 14,900 บาท
Acer Aspire 5 A515-44-R1VS
- AMD Ryzen 7 4700U
- AMD Radeon RX Vega 7
- RAM 8 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล TN
- Windows 10 Home
- ราคา 21,990 บาท
Acer Aspire 7 A715-42G-R113
- AMD Ryzen 7 5700U
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650
- RAM 8 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 23,990 บาท
Acer Swift Series
ถ้าโจทย์ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีต้องบางพกพาสะดวก แบตเตอรี่ทนทานใช้งานได้หลายชั่วโมง ซึ่งซีรี่ส์ Swift นั้นตัวเครื่องเบาราวหนึ่งกิโลกรัมเท่านั้น แต่แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง โดยจะแบ่งรุ่นย่อยไล่ตั้งแต่ Swift 1, Swift 3, Swift 5, Swift 7 ไล่ตามสเปค, ฟีเจอร์และความบาง โดยทั่วไปถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศ, AE ที่ออกไปติดต่องานนอกบริษัทบ่อย ๆ จะเหมาะกับ Swift 3 และ 5 เป็นส่วนใหญ่ เพราะราคาเข้าถึงง่ายและคุ้มค่าที่สุด
นอกจากนี้ยังมี Swift 3x เป็นรุ่นติดตั้งการ์ดจอแยก Intel Iris Xe Max Graphics มาโดยเฉพาะ ส่วนแฟนคลับแดง AMD จะมีรุ่น Swift 3 AMD แยกออกไป เพราะซีรี่ส์ Swift จะใช้ซีพียู Intel เป็นหลัก ซึ่งทาง Notebookspec ก็มีรีวิวโน๊ตบุ๊ค Acer Swift Series ออกมาเป็นระยะ ๆ เช่นกัน หากสนใจรายละเอียดก็สามารถอ่านได้ที่นี่
ส่วนคนที่อยากรู้ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีในซีรี่ส์ Acer Swift ผู้เขียนมีรุ่นแนะนำดังนี้
Acer Swift 3 SF314-42-R5H1
- AMD Ryzen 7 4700U
- AMD Radeon RX Vega 7
- RAM 8 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 14″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 24,900 บาท
Acer Swift 5 SF514-54T-75YN
- Intel Core i7-1065G7
- Intel Iris Plus Graphics G7
- RAM 8 GB DDR4 2400 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 14″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 28,790 บาท
Acer Swift 7 SF714-52T-71M0
- Intel Core i7-8500Y
- Intel UHD Graphics 615
- RAM 16 GB DDR3L 2133 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 14″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 49,990 บาท
Acer Spin
เรียกว่าตรงตามชื่อเพราะว่าซีรี่ส์นี้จะเป็นรุ่นที่มีดีไซน์ล้ำ ๆ และฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาเพียบรวมทั้งเป็นโน๊ตบุ๊คที่เป็น Intel EVO ซึ่งตัวเครื่องบางเบาแล้วยังแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้นาน พับจอกลับได้ 360 องศาและใช้ปากกา Wacom วาดเขียนลงบนหน้าจอได้ด้วย ซึ่งผู้ใช้ที่เป็นครีเอเตอร์หรือศิลปินแล้วสนใจว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีแล้วใช้โน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี ก็มี Acer Spin เป็นตัวเลือก โดยแบ่งเป็น Acer Spin 1, Spin 3, Spin 5 และรุ่นสูงสุด Spin 7 ตัวแหวกแนวใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 8cx อีกด้วย
ส่วนใครที่มองหาอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีของสาย Acer Spin มีรุ่นแนะนำดังนี้
Acer Spin 5 SP513-54N-50LA
- Intel Core i5-1035G4
- Intel Iris Plus Graphics G4
- RAM 8 GB DDR4 Onboard 2133 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 13.5″ QHD (2256×1504) พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 29,900 บาท
Acer Spin 5 SP513-54N-70Y9
- Intel Core i7-1065G7
- Intel Iris Plus Graphics G7
- RAM 16 GB DDR4 Onboard 2133 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอสัมผัส 13.5″ QHD (2256×1504) พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 39,190 บาท
Acer Porsche Design
Acer Porsche Design นั้นเป็นกลุ่มพิเศษจากความร่วมมือของ Acer กับ Posche Design บริษัทลูกในเครือ Porsche ที่ทำรถสปอร์ตสุดหรูนั่นเอง โน๊ตบุ๊ครุ่นนี้นอกจากเป็นดีไซน์พิเศษแล้วยังขายเป็นแพ็คเกจพิเศษพร้อมสเปคระดับไฮเอนด์อีกด้วย ถ้าคิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีแล้วอยากได้ความเรียบง่ายดูดีเป็นหลักและสเปคก็แรง สามารถลองอ่านรีวิวจากทาง Notebookspec ได้ที่นี่
กลุ่มเกมเมอร์
Acer Nitro
กลุ่มเกมมิ่งของ Acer นั้นจะมี 2 ซีรี่ส์หลัก ๆ ซึ่งถ้าใครกำลังคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีแล้วโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีที่เล่นเกมได้แรงและคุ้มเกินราคาล่ะก็ Acer Nitro ก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจรุ่นหนึ่งทีเดียว และในตระกูล Nitro จะมีรุ่นย่อยอีก 2 ตัวด้วยกัน คือ
Nitro 5
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นของ Acer ที่หาซื้อได้ง่ายในปัจจุบัน แต่ในประเทศไทยจะมีเพียง Nitro 5 รุ่นธรรมดาเท่านั้น แต่ต่างประเทศมี Nitro 5 Spin ที่สเปคแรงไม่แพ้กันเลย แต่พับหน้าจอกลับได้แบบ 2-in-1 คือพับเครื่องกลับ 360 องศาได้ด้วย เรียกว่าเป็นโน๊ตบุ๊คตอบโจทย์คนที่คิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีมาเล่นเกม โดยผู้เขียนมีรุ่นแนะนำดังนี้
Acer Nitro 5 AN515-55-52HQ
- Intel Core i5-10300H
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti (4 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 2933 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 28,900 บาท
Acer Nitro 5 AN515-44-R28F
- AMD Ryzen 5 4600H
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti (4 GB GDDR6)
- RAM 8 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 25,990 บาท
Acer Nitro 5 AN515-44-R2A6
- AMD Ryzen 7 4800H
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti (4 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 30,900 บาท
Nitro 7
เป็นรุ่นท็อปสุดของ Acer Nitro เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคแรงเหลือเฟือรุ่นหนึ่ง ติดตั้งซีพียู Intel Core i7 กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE RTX มาและดีไซน์เกมมิ่งแบบจัดเต็มและคีย์บอร์ด RGB อีกด้วย เป็นรุ่นที่สร้างมาเอาใจเกมเมอร์ที่มีงบระดับหนึ่งอย่างเต็มที่รวมทั้งนำไปทำงานกราฟฟิคสามมิติและอนิเมชั่นได้ด้วย แต่ปัจจุบันนี้ทาง Acer ประเทศไทยมีขายอยู่เพียงรุ่นย่อยเดียวเท่านั้น และสเปคนั้น Nitro 5 หลายรุ่นก็แรงกว่าแล้วด้วย ดังนั้นผู้เขียนยังไม่แนะนำซีรี่ส์นี้มากนัก
Acer Predator
ถ้า DELL มี Alienware ทาง Acer ก็มี Acer Predator เป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกันเพราะว่าสเปคระดับจัดเต็มและมีรุ่นย่อยสองระดับคือ Predator Helio เช่นในภาพด้านบน เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับแทนเกมมิ่งพีซีได้ (Desktop Replacement Laptop) ดีไซน์ล้ำ พร้อมสเปคจัดหนัก เช่นรุ่น Helios 700 จะใช้ Intel Core i9 รุ่นที่ 10 ที่โอเวอร์คล็อกตัวซีพียูได้กับ NVIDIA GEFORCE RTX 2080 SUPER แรม 64GB และดีไซน์ระบบระบายความร้อนให้รองรับการโอเวอร์คล็อกได้ด้วย มี 3 รุ่นย่อย คือ Helios 300, 500, 700 ซึ่งถ้าใครสงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีมาแทนเกมมิ่งพีซีที่บ้าน Acer Predator ก็น่าซื้อเช่นกัน
ถ้าเป็น Predator Triton จะมีแยก 4 รุ่นคือ 300, 500, 700, 900 ออกแบบให้ตัวเครื่องบางเป็นพิเศษและมีดีไซน์ล้ำ ๆ ด้วย เช่น รุ่น 900 จะแยกก้านจับหน้าจอกับตัวจอออกจากกัน ทำให้เกมเมอร์ตั้งองศาหน้าจอให้เข้ากับการนั่งและการเล่นเกมของเราได้เต็มที่ ซึ่งถ้าใครคิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีในซีรี่ส์ Triton ผู้เขียนมีรุ่นแนะนำดังนี้
Acer Predator Triton 300 PT315-52-71W1
- Intel Core i7-10750H
- NVIDIA GEFORCE RTX 2060 (6 GB GDDR6)
- RAM 32 GB DDR4 2933 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- Keyboard 4-Zone RGB
- ราคา 50,900 บาท
Acer Predator Triton 300 PT315-52-73K9
- Intel Core i7-10750H
- NVIDIA GEFORCE RTX 2070 (8 GB GDDR6)
- RAM 32 GB DDR4 2933 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- Keyboard 4-Zone RGB
- ราคา 55,000 บาท
Acer Predator Helios 700 PH717-72-900T
- Intel Core i9-10980HK
- NVIDIA GEFORCE RTX 2080 SUPER (8 GB GDDR6)
- RAM 64 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 2 TB
- หน้าจอ 17.3″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz G-SYNC
- Windows 10 Home
- ราคา 129,900 บาท
Acer ConceptD
ขึ้นชื่อว่าเป็น ConceptD เมื่อไหร่ นั่นคือโน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์จาก Acer แน่นอน เป็นรุ่นตอบโจทย์สายงานครีเอทีฟที่กำลังคิดว่าจะหาโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีมาทำงาน มีรุ่นย่อยเป็นเลขตัวเดียวคือ 3 Pro, 5 Pro, 7 Pro, 9 Pro ถ้ามีคำว่า Ezel ในชื่อคือรุ่นที่หน้าจอพลิกกลับได้เช่นในภาพด้านบน
ส่วน ConceptD 9 Pro ในภาพบนจะพลิกหน้าจอได้แม้จะไม่มีคำว่า Ezel ซึ่งในตระกูล ConceptD จะเน้นการทำงานครีเอทีฟสำหรับครีเอเตอร์ จึงใช้การ์ดจอ NVIDIA Quadro และหน้าจอได้รับการรับรองความแม่นยำสีจาก PANTONE Validated, 100% Adobe RGB และค่า Delta-E < 2 หรือ 1 เพื่อความแม่นยำสีสูงสุดนั่นเอง
นอกจากนี้ในกลุ่ม ConcenptD จะมีเครื่อง Desktop กับหน้าจอสำหรับครีเอเตอร์ขายด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อได้ตามการใช้งานของเราเช่นกัน ส่วนรีวิวและข่าวของ Acer ConceptD สามารถอ่านได้ที่นี่ ส่วนใครคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีในซีรี่ส์ ConceptD ผู้เขียนมีรุ่นแนะนำดังนี้
Acer ConceptD 3 Pro CN315-71P-55AD
- Intel Core i5-9300H
- NVIDIA Quadro T1000 (4 GB GDDR5)
- RAM 16 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 45,990 บาท
Acer ConceptD 5 Pro CN517-71P-76BH
- Intel Core i7-9750H
- NVIDIA Quadro RTX 3000 (6 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอสัมผัส 17.3″ 4K UHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 79,900 บาท
Acer ConceptD 7 Ezel CC715-91P-X5YM
- Intel Xeon W-10885M
- NVIDIA Quadro RTX 5000 (16 GB GDDR6)
- RAM 32 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 2 TB
- หน้าจอสัมผัส 15.6″ 4K UHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 159,900 บาท
3. ASUS
เชื่อว่า ASUS ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งในหัวของผู้ใช้ที่คิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี และปัจจุบันนี้บริษัทผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คจากไต้หวันรายนี้ก็มีสินค้าหลากหลายรุ่นและออกแบบมาเพื่อผู้ใช้แทบทุกคน แต่ถ้าให้แยกโดยคร่าว ๆ จะมี 2 กลุ่มหลักด้วยกัน คือ กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปและหาเครื่องเอาไว้ทำงานกับกลุ่มเกมเมอร์นั่นเอง ซึ่งซีรี่ส์หลักที่มีขายในปัจจุบันนี้คือ
กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและพนักงานออฟฟิศ
โน๊ตบุ๊คกลุ่มทำงานของ ASUS นั้น เรียกว่ามีเยอะมากจนหลายคนอาจจะสงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี และยังมีรุ่นที่เป็นชื่อเฉพาะอีกด้วย โดยแบ่งเป็นรุ่นย่อยดังนี้
- ZenBook – เน้นความบางเบาและดีไซน์สวยงาม สเปคดีเหมาะสมกับราคา
- VivoBook – โน๊ตบุ๊คดีไซน์เรียบง่ายและใช้งานได้ทุกวัน สเปคคุ้มค่าราคาที่จ่าย เป็นคู่แข่งของ Acer Aspire
- ASUSPRO – โน๊ตบุ๊คออกแบบมาเป็นโน๊ตบุ๊คทำงานธุรกิจโดยเฉพาะ สามารถอัพเกรดตัวเครื่องได้ง่ายและมีพอร์ตจัดว่าครบและรองรับอุปรณ์ได้หลากหลายเช่นพอร์ต VGA และช่อง DVD-RW เป็นต้น
- ExpertBook – เป็นกลุ่มเดียวกับ ASUSPRO ที่เน้นงานธุรกิจแต่ตัวเครื่องจะบางเบาพกพาง่าย เน้นให้ผู้ใช้เครื่องดูดี เหมาะกับคนที่ต้องพกโน๊ตบุ๊คติดตัวไปติดต่อลูกค้าอยู่เป็นประจำ
- ASUS ProArt – โน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์ สเปคสำหรับงานศิลปะและอนิเมชั่นโดยจะมีรุ่นย่อยหลายรุ่นซึ่งจะติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA มาให้ มีทั้งการ์ดจอ GEFORCE RTX และ Quadro ด้วย หน้าจอได้รับการรับรองความแม่นยำสี PANTONE, Delta-E น้อยกว่า 2 หรือ 1.5 มี 100% Adobe RGB อีกด้วย
- ASUS ซีรี่ส์ที่เป็นตัวอักษร – เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นและราคาเข้าถึงง่าย มีพอร์ตกับฟีเจอร์ครอบคลุมการใช้งานในปัจจุบัน ซึ่งทาง ASUS มีโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์นี้ 12 รุ่นย่อยและใส่ฟีเจอร์มาแตกต่างกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง ASUS จะมี EeeBook ที่เป็น Netbook สเปคไม่แรงมาก เน้นการพกพาและเปิดอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก แต่ถูกยกเลิกไปนานแล้วเมื่อโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ ๆ ดีไซน์และบีบตัวเครื่องให้บางจนน้ำหนักเหลือเพียง 1 กิโลกรัมหรือน้อยกว่านั้นได้แล้ว
สำหรับคนที่อยากได้โน๊ตบุ๊ค ASUS แล้วสงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี ผู้เขียนมีรุ่นแนะนำดังนี้
ASUS VivoBook S15 D533IA-BQ016TS
- AMD Ryzen 7 4700U
- AMD Radeon RX Vega 7
- RAM 8 GB DDR4 Onboard 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล TN
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 23,590 บาท
ASUS ZenBook 13 UX334FLC-A4085T
- Intel Core i5-10210U
- NVIDIA GEFORCE MX250
- RAM 8 GB DDR3L Onboard 2133 MHz
- M.2 SSD 512 GB หน้าจอ 13.3″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- กล้องสแกนใบหน้า
- ราคา 25,990 บาท
ASUS ExpertBook B9 B9450FA-BM0377R
- Intel Core i5-10210U
- Intel UHD Graphics 620
- RAM 8 GB DDR3L Onboard 2133 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 14″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- กล้องสแกนใบหน้า
- ราคา 39,990 บาท
กลุ่มเกมเมอร์
ถ้าในประเทศไทยเมื่อถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีมาเล่นเกม เกมเมอร์หลายคนน่าจะออกปากแนะนำเป็น ROG “Republic Of Gamers” ออกมาบ้างอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้มีขายอยู่ 2 ซีรี่ส์ใหญ่ได้แก่กลุ่ม ASUS ROG และ ASUS TUF Gaming ซึ่งคอนเซปท์ของทั้งสองรุ่น คือ
- ASUS ROG – เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่เน้นดีไซน์แปลกและล้ำสมัย มีสเปคแรงระดับเป็นโน๊ตบุ๊คที่แทนเกมมิ่งพีซีได้ (Desktop Replacement Laptop) และใช้โลหะเหลว (Liquid Metal) เป็นตัวระบายความร้อนให้ซีพียูและการ์ดจอ รุ่นย่อยแยกออกไป 4 รุ่นคือ
- ROG Strix SCAR จะเป็นรุ่นสูงสุดและใส่สเปคแรงสุดในปัจจุบันลงไป ใช้คีย์บอร์ดแบบลูกผสม Optical Mechanical Keyboard ตอบสนองเร็วเน้นเกมเมอร์สาย Esport
- ROG Zephyrus G15 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คลูกผสมดีไซน์เรียบง่ายแต่มีลูกเล่นใช้เป็นโน๊ตบุ๊คทำงานสเปคแรงก็ได้และงานประกอบแข็งแรงฝาหลังของตัวเครื่องรุ่นบนจะมี AniMe Matrix เป็นลูกเล่นหลอดไฟด้านหลังจอเปลี่ยนเป็นภาพหรือคำต่าง ๆ ตามที่เราต้องการ และรุ่น Zephyrus Duo จะมีสองหน้าจอแยกกัน โดยมีหน้าจอหลักหนึ่งตัวกับหน้าจอรองเหนือแถบคีย์บอร์ดใช้เป็นหน้าจอเสริมเพิ่มความสะดวกเวลาทำงาน
- ROG Strix GL15 GL543 – เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูง ดีไซน์เกมมิ่งชัดเจนและสวยงามแต่ไม่มีกล้อง Webcam ติดตั้งมาในตัว Notebookspec ได้รีวิว ASUS ROG Strix G15 GL543 ไปแล้ว สามารถอ่านได้ที่นี่
ส่วนเกมเมอร์ที่คิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีมาเล่นเกมแล้วชอบดีไซน์ของ ASUS ROG Series ผู้เขียนจะมีรุ่นแนะนำดังนี้
ASUS ROG Zephyrus G14 GA401II-HE046T
- AMD Ryzen 7 4800HS
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti (4 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 14″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 120 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 33,900 บาท
ASUS ROG Zephyrus Duo 15 SE GX551QR-HF069T
- AMD Ryzen 9 5900HX
- NVIDIA GEFORCE RTX 3070 (8 GB GDDR6)
- RAM 32 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 120 Hz
- Windows 10 Home
- Per-key RGB Lighting
- ราคา 89,900 บาท
ASUS ROG Strix Scar 17 G743QS-HG130T
- AMD Ryzen 9 5900HX
- NVIDIA GEFORCE RTX 3080 (16 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 17.3″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 300 Hz
- Windows 10 Home
- Optical Mechanical Keyboard Per-Key RGB
- ราคา 94,900 บาท
ASUS TUF Gaming – เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คดีไซน์เรียบร้อยและราคาเข้าถึงได้ง่ายแต่สเปคเหมาะกับการเล่นเกมรวมทั้งนำไปทำงานที่ใช้การประมวลผลต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่นการตัดต่อวิดีโอได้ดีเพราะการดีไซน์ทางลมนั้นจะดึงอากาศจากช่องรังผึ้งใต้เครื่องเข้ามาแล้วระบายออกทางช่องระบายอากาศรอบตัวเครื่อง ซึ่ง Notebookspec ก็รีวิวโน๊ตบุ๊คในซีรี่ส์นี้ไปหลายรุ่นแล้ว ถ้าสนใจสามารถอ่านข้อมูลและรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่
ถ้าเกมเมอร์ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าแล้วคิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีในซีรี่ส์ ASUS TUF Gaming จะมีรุ่นแนะนำ 3 รุ่นดังนี้
ASUF TUF Gaming Dash F15 FX516PR-HN033T
- Intel Core i7-11370H
- NVIDIA GEFORCE RTX 3070 (8 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 44,990 บาท
ASUS TUF Gaming Dash F15 FX516PR-AZ019T
- Intel Core i7-11370H
- NVIDIA GEFORCE RTX 3070 (8 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 240 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 48,900 บาท
ASUS TUF Gaming A17 FA706QR-HX025T
- AMD Ryzen 7 5800H
- NVIDIA GEFORCE RTX 3070 (8 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 17.3″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 44,990 บาท
4. DELL
ถ้า DELL คือคำตอบของคำถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี เราอาจจะนึกถึงโน๊ตบุ๊คสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เช่น DELL Inspiron สำหรับทำงานทั่วไปและนักศึกษา, Dell XPS ที่เป็นโน๊ตบุ๊คดีไซน์พรีเมียมและมีตัวเลือกเป็นรุ่น 2-in-1 พับหน้าจอกลับได้ 360 องศาหรืออาจจะเป็น DELL G Series ที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ แต่จริง ๆ แล้ว DELL นั้นแบ่งโน๊ตบุ๊คออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ
1. กลุ่มผู้ใช้ทั่วไป (For Home)
กลุ่มโน๊ตบุ๊คสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป DELL จะมีโน๊ตบุ๊คให้เลือกใช้ 4 กลุ่มย่อยถ้าคำถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีมีคำตอบเป็น DELL โดยแบ่งตามการใช้งานของผู้ใช้ คือ
Inspiron & 2-in-1
ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานทั่วไปและ Home Office มีฟีเจอร์พื้นฐานครบครันและราคาไม่แพงเกิน โดยซีรี่ส์นี้จะแบ่งออกเป็น 3 ซีรี่ส์ย่อยอีก คือ ซีรี่ส์ 3000, 5000, 7000 โดยแต่ละซีรี่ส์จะมีจุดเด่นดังนี้
- 3000 Series – เป็นโน๊ตบุ๊คใช้งานในชีวิตประจำวัน มีฟีเจอร์พื้นฐานของโน๊ตบุ๊คมาครบ น้ำหนักเบาและ DELL จะเน้นอัพเกรดและติดตั้งซีพียูรุ่นใหม่มาให้เสมอ แยกรหัสย่อยเป็น 3501 ที่ใช้ซีพียู Intel และ 3505 ใช้ซีพียู AMD ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊ค DELL ราคาเข้าถึงง่ายสุดถ้ามีคำถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี
- 5000 Series – จะมีรหัสย่อย 4 รุ่น เน้นดีไซน์สวยแปลกใหม่และมีตัวเลือกอัพเกรดเยอะที่สุดโดยเน้นว่าให้มีฟีเจอร์ใช้งานครบเครื่องที่สุดในกลุ่ม Inspiron ด้วยกัน สำหรับรหัสย่อยได้แก่
- 5301 – เป็นโน๊ตบุ๊ค 13 นิ้ว บางเบาพกพาง่าย ติดตั้งซีพียู Intel รุ่นใหม่ล่าสุด มี ExpressCharge ช่วยย่นเวลาชาร์จแบตเตอรี่และระบบสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power ด้วย เหมาะกับกลุ่ม AE ที่พกโน๊ตบุ๊คออกไปติดต่องานลูกค้า
- 5402 – เป็นโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้ว พกพาง่ายเหมือนกันแต่ใช้ซีพียูประสิทธิภาพสูงของ Intel มีเซนเซอร์จับการกางหน้าจอและเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้และฟีเจอร์ชาร์จเร็ว ExpressCharge และมีสีสันให้เลือกหลายสี ซึ่งเหมาะกับพนักงานออฟฟิศและนักศึกษาเพราะว่าทั้งบางเบาและประสิทธิภาพดี
- 5406 – เป็นโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสดีไซน์ 2-in-1 พับหน้าจอกลับได้ 360 องศา ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว Full HD (1920×1080 พิกเซล) ใส่ฟีเจอร์รักษาความเป็นส่วนตัวมาครบครันทั้งชัตเตอร์ปิด Webcam, เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือตรงปุ่ม Power, ฟีเจอร์ชาร์จไว ExpressCharge เหมาะกับคนที่ต้องอ่านเอกสารต่าง ๆ แล้วไม่อยากพกแท็บเล็ตไปไหนมาไหนด้วยก็เหมาะกับรุ่นนี้เป็นอย่างมาก
- 5502 – โน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่ขนาด 15.6 นิ้ว แต่ดีไซน์ตัวเครื่องให้บาง มี Numpad เหมาะกับการใช้ทำงานเต็มรูปแบบ มีฟีเจอร์ทั้ง ExpressCharge และสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power เช่นกัน ดีต่อพนักงานออฟฟิศที่ทำงานกับเอกสารและตัวเลข ดังนั้นธุรการและฝ่ายบัญชีควรมองเครื่องนี้ไว้ใช้งาน
- 7000 Series – รุ่นสูงสุดของกลุ่ม Inspiron ซึ่ง DELL เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงมาประกอบตัวเครื่อง ให้สัมผัสการใช้งานแข็งแรงพรีเมี่ยมเป็นหลัก ซึ่งแยกออกเป็น 3 รุ่นย่อย คือ
- 7306 – โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 จอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว ให้ดีไซน์เรียบหรูดูดีและหน้าจอมีความแม่นยำสี 100% sRGB และเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel EVO เครื่องบางแบตเตอรี่อึด ใช้งานต่อเนื่องได้นานและประสิทธิภาพสูงด้วย
- 7400 – โน๊ตบุ๊ค 14.5 นิ้ว อัตราส่วนจอ 16:10 เน้นความบางและเบาเป็นหลัก เน้นหน้าจอที่สวยงาม ความละเอียด QHD (2560×1600 พิกเซล) 100% sRGB และหน้าจอองศาการมองเห็นกว้าง ตัวเครื่องเป็นแม็กนีเซียม อัลลอยด์ เน้นความหรูหราและพกพาสะดวก
- 7501 – โน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้ว ใช้ซีพียู Intel H-Series ที่ประสิทธิภาพสูงกับการ์ดจอ NVIDIA GTX 1650 Ti หน้าจอ 100% sRGB มี Numpad ติดตั้งมาให้ เน้นการใช้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเหมาะกับคนที่หาโน๊ตบุ๊คตัดต่อวิดีโอไปใช้งานแล้วคิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี
สำหรับคนที่เจาะจงว่าโจทย์โน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีต้องเป็น DELL Inspiron ล่ะก็ ผู้เขียนมีรุ่นแนะนำดังนี้
DELL Inspiron 3593-W566055254BTHW10
- Intel Core i5-1035G1
- Intel UHD Graphics G1
- RAM 8 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 256 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล TN
- Windows 10 Home
- ราคา 18,990 บาท
DELL Inspiron 5490-W56605325THW10
- Intel Core i7-10510U
- NVIDIA GEFORCE MX230
- RAM 8 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 14″ FHD พาเนล TN
- Windows 10 Home
- ราคา 28,490 บาท
DELL Inspiron 7501- W56711013THW10
- Intel Core i7-10750H
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti (4 GB GDDR5)
- RAM 8 GB DDR4 2933 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 35,980 บาท
G Series
G Series กับ Alienware ในเครือ DELL ด้วยกันนั้นแยกกลุ่มลูกค้ากันชัดเจน เนื่องจาก G Series เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงแต่ใส่ฟีเจอร์จำเป็นของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คมาครบ เป็นเครื่องเริ่มต้นสำหรับเกมเมอร์ ผิดกับ Alienware ซึ่งราคาสูงมากแต่ก็คุ้มค่าเช่นกัน โดยแบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 3 ตัวคือ
- DELL G3 15 – เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นของ G Series ติดตั้งซีพียู Intel Core i5 หรือ i7 รุ่นล่าสุดในซีรี่ส์ H มาให้และจับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA และใช้ Wi-Fi 6 AX201 ของ Intel ให้คนที่อยากนำไป Live stream ทำได้อย่างลื่นไหลยิ่งขึ้น และตัวเครื่องออกแบบมาแข็งแรงและระบายความร้อนได้ดี แถมหยิบฟีเจอร์ Alienware Command Center มาจากรุ่นใหญ่ในค่ายไว้สั่งเปิด Game Shift technology ที่สั่งให้พัดลมทำงานเต็มที่ได้ด้วย
- DELL G5 15 – ถ้า G3 เป็นรุ่นเริ่มต้น G5 คือรุ่นสเปคจัดเต็มของ G Series ซึ่งจะใช้ Intel Core i7 และการ์ดจอ NVIDIA รุ่นใหม่และสเปคสูงสุด โดย G5 รุ่นใหม่ล่าสุดใช้ Intel Core i7-10750H กับ NVIDIA GEFORCE GTX 1660Ti เป็นรุ่นเริ่มต้น เลือกไปได้ถึง RTX 2070 Max-Q ซึ่งประสิทธิภาพสูงและระบายความร้อนได้ดีด้วย
- DELL G5 15 SE – ถ้า G5 มีคำว่า SE ตามหลังเมื่อไหร่จะเป็นสเปค AMD ซึ่งแชร์เทคโนโลยีกับ Intel ด้วย แต่มี AMD SmartShift ซึ่งทำให้การแสดงผลสามมิติในเกมทำได้ดียิ่งขึ้น, AMD Radeon Image Sharpening (RIS) ให้ภาพคมกว่าเดิม, AMD Radeon Anti-Lag ช่วยให้ซีพียูยังทำงานเต็มประสิทธิภาพเสมอและเสถียรตลอดเวลา, AMD FreeSync ช่วยให้ภาพที่แสดงขึ้นบนหน้าจอมีความต่อเนื่องสวยงามและไม่ฉีกขาดระหว่างเล่น โดยสเปคปัจจุบันเลือกได้ตั้งแต่ AMD Ryzen 5 4600H จนถึง Ryzen 9 4900H จับคู่กับการ์ดจอ AMD Radeon RX 5600M รุ่นประสิทธิภาพสูงมาก และเล่นเกม AAA ในปัจจุบันได้ทุกเกมแน่นอน ซึ่งถ้ากำลังคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีมาเล่นเกม DELL G Series ก็เป็นอีกตัวเลือกเด็ดไม่แพ้กลุ่มอื่นแน่นอน
ส่วนคนที่คิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีในกลุ่ม DELL G Series จะมีรุ่นแนะนำ 2 รุ่นให้เลือกซื้อคือ
DELL G5 15SE-W56657000ATHW10
- AMD Ryzen 9 4900H
- AMD Radeon RX 5600M (6 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 120 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 42,990 บาท
DELL G5 15 5500-W56656500THW10
- Intel Core i7-10750H
- NVIDIA GEFORCE RTX 2070 (8 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 2933 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 300 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 51,990 บาท
XPS & 2-in-1
เป็นโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสบการณ์การใช้งานที่ดีมากสำหรับผู้ใช้ เน้นความคมชัดของภาพหน้าจอสูง, งานประกอบระดับพรีเมี่ยมและวัสดุประกอบตัวเครื่องในระดับน่าประทับใจและฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยแบ่งเป็น 3 รุ่นหลักคือ
- XPS 13 – ถ้าใครสงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีแล้วมีโจทย์เป็นความแข็งแรงและเรียบหรู DELL XPS เป็นซีรี่ส์แนะนำซึ่งดีไซน์สวยพรีเมี่ยมและพกพาสะดวกมาก เพราะเป็นหน้าจอ 13 นิ้วทั้งหมด มีแยกเป็น 3 รหัสย่อย คือ
- XPS 13 9300 – รุ่นเริ่มต้นตัวบางพกง่ายและดีไซน์เรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพดีและติดตั้ง Intel Core รุ่นที่ 10 มาในเครื่องด้วย โดยหน้าจอขนาด 13.4 นิ้ว มีตัวเลือกสองแบบคือ Ultra HD+ ความละเอียด 4K (3840×2400 พิกเซล) มีค่า HDR400, 100% sRGB, DCI-P3 90% ถ้าเป็นรุ่นจอ Full HD จะมีแต่ 100% sRGB เท่านั้น ส่วนสเปคในเครื่องอยู่ในระดับจัดเต็มทั้ง Killer Wireless ให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทำได้อย่างลื่นไหล และออกแบบระบบระบายความร้อนได้ดีเป็นพิเศษ และฟีเจอร์เอื้อการททำงานเป็นพิเศษ
- XPS 13 9310 2-in-1 – เหมือนกับซีรี่ส์ 9300 แต่เป็นโน๊ตบุ๊คจอพับได้แบบ 2-in-1 แทน ตัวบางและวัสดุแข็งแรงมาก ถ้าผู้ใช้ที่สงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีแล้วอยากได้วัสดุแข็งแรงและพรีเมี่ยมพร้อมทั้งพับหน้าจอกลับ 360 องศาได้ก็ควรมอง XPS 13 2-in-1 ตัวนี้ไว้ด้วย
- XPS 13 9310 – เป็น 9300 ที่เปลี่ยนซีพียูเป็น Intel Core รุ่นที่ 11 และยังให้ดีไซน์บางเบาแข็งแรงและพอร์ตจำเป็นใช้ยังมีติดตั้งไว้เหมือนเดิม
ถ้าใครคิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีในตระกูล DELL XPS จะมีรุ่นแนะนำดังนี้
DELL XPS 13 9300-W5672400PTHW10
- Intel Core i5-1135G7
- Intel Iris Xe Graphics G7
- RAM 8 GB On Board DDR4 4267 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 13.4″ FHD+ (1920×1200) พาเนล IPS
- กล้องสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง
- Windows 10 Home
- ราคา 56,900 บาท
DELL XPS 13 9310-W5671500PTHW10
- Intel Core i7-1165G7
- Intel Iris Xe Graphics G7
- RAM 16 GB On Board DDR4 4267 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 13.4″ FHD+ (1920×1200) พาเนล IPS
- กล้องสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง
- Windows 10 Home
- ราคา 72,590 บาท
Alienware
ในตอนแรก Alienware ไม่ได้เป็นแผนกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของ DELL มาก่อนแต่เป็นบริษัทผลิตเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ High-End ซึ่งราคาแพงมากและก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1996 แต่เพิ่งมาอยู่ในเครือของ DELL เมื่อ 22 มี.ค. 2006 ซึ่งเกมเมอร์ที่มีคำถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งยี่ห้อไหนดีต้องบอกว่า Alienware นั้นเป็นสเปคที่ใช้คำว่าอลังการได้และมีขายในประเทศไทยด้วย ซึ่งทาง Notebookspec เคยทำรีวิวไปแล้ว ได้แก่ Alienware M15 R2 และ Alienware 17 R4 ปัจจุบันนี้มี 2 รุ่นย่อยได้แก่
- Alienware M15 – เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวเริ่มต้นของ Alienware ที่เพิ่ม Voltage Phase ทำให้ตัวเครื่องจ่ายไฟให้การ์ดจอได้เต็มที่ยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลตอนเล่นเกมให้ดีขึ้นและค่า Refresh Rate 144-300Hz ขึ้นอยู่กับรุ่น โดยผู้ใช้เลือกปรับแต่งที่หน้าเว็บไซต์ของ Alienware ได้เลย
- Alienware Area-51m R2 – คอนเซปท์คือ “เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพเท่าเครื่องพีซี” หน้าจอขนาด 17 นิ้ว ใส่ซีพียู Intel Core i7-10700K หรือ i9-10900K รุ่นเดสก์ท็อปกับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE RTX 2070-2080 SUPER และสามารถโอเวอร์คล็อกการ์ดจอได้ด้วย ประสิทธิภาพระดับเดสก์ท็อปต้องอายกันไปข้างหนึ่ง ซึ่งถ้าใครมีงบประมาณเหลือแล้วอยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คไว้เล่นเกม
2. กลุ่มธุรกิจ (For Business)
โน๊ตบุ๊คกลุ่มธุรกิจของ DELL จะแบ่งออกเป็น 3 รุ่นเท่านั้น คือ Vostro, Latitude และ Precision เน้นผู้ใช้ที่มีข้อมูลสำคัญของกิจการให้มีความปลอดภัยสูงสุด โดยทั้งสองรุ่นจะมีชิป TPM 2.0 รักษาความปลอดภัยข้อมูลในตัวเครื่องซึ่งปลอดภัยกว่า TPM 2.0 แบบซอฟท์แวร์มาก รักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Power ด้วย โดยจุดแตกต่างของทั้งสามรุ่นคือ
- Vostro – โน๊ตบุ๊คงานธุรกิจรุ่นเริ่มต้นเมื่อมีคำถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี เป็นซีรี่ส์คลาสสิคของ DELL ใส่ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยทั้งชิป TPM 2.0 และระบบสแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Power เอาไว้ให้รักษาความปลอดภัยของข้อมูลในเครื่อง
- Latitude – ซีรี่ส์อัพเกรดจาก Vostro นอกจากระบบรักษาความปลอดภัยข้างต้นแล้วจะเพิ่มฟีเจอร์ ProDeploy โดยจะมีทีม TechDirect ของ DELL เข้ามาซัพพอร์ตการจัดการข้อมูลของเรา, ProSupport บริการช่วยดูแลและให้คำปรึกษาตัวเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ที่ใช้ภาษาเดียวกับเราช่วยดูแล และ ProSupport Plus ที่จะเปลี่ยนเครื่องของเราให้กรณีตัวเครื่องเกิดปัญหาเสียหาย ทั้งน้ำหกใส่และไฟกระชากด้วย
- Precision – กลุ่มโน๊ตบุ๊คสำหรับงานครีเอทีฟ เน้นประสิทธิภาพการทำงานด้านกราฟิคและอื่น ๆ ติดตั้งการ์ดจอ AMD Radeon Pro ช่วยให้การประมวลผลกราฟฟิคทำได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับคนที่คิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีไปใช้ทำงาน จะมี DELL รุ่นแนะนำดังนี้
DELL Vostro 3400-W568154015THW10
- Intel Core i7-1165G7
- NVIDIA GEFORCE MX330
- RAM 8 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 256 GB
- หน้าจอสัมผัส 14″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 25,490 บาท
DELL Latitude 3410-SNS3410022
- Intel Core i5-10210U
- Intel UHD Graphics 620
- RAM 16 GB DDR4 2667 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 14″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 30,690 บาท
5. HP
HP หรือ Hewlett-Packard เองก็เป็นอีกแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทยที่มีโน๊ตบุ๊คเข้ามาขายหลากหลายรุ่น แต่ในซีรี่ส์ที่คุ้นหูสุดน่าจะไม่พ้น Pavillion ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นราคาไม่แพงแต่สเปคคุ้มค่าใช้งานได้รอบด้านตั้งแต่ทำงานทั่วไปจนเล่นเกมก็ยังได้ แต่จริง ๆ แล้ว HP นั้นจะมีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและพนักงานออฟฟิศ
HP นั้นจัดว่ามีชื่อเสียงด้านโน๊ตบุ๊คสำหรับทำงานและธุรกิจมากไม่แพ้กับ DELL ทีเดียว ถ้าใครมีปัญหาว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีแล้วเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี บอกเลยว่า HP ก็เป็นอีกตัวเลือกเด่นที่ไม่ควรมองข้าม โดยซีรี่ส์แบบพรีเมียมจะเป็นโลโก้ HP แบบเส้นขีดแนวเฉียง 4 เส้น ส่วนรุ่นทั่วไปจะเป็นโลโก้ HP ทรงกลมเหมือนปกติ
HP SPECTRE
โน๊ตบุ๊คสายธุรกิจเน้นการพกพาสะดวกและการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมทั้งตัวเพื่อความแข็งแรงและพรีเมี่ยมเป็นหลัก ใส่ฟีเจอร์รักษาความเป็นส่วนตัวทั้งสวิตช์เปิดปิดกล้อง Webcam และ HP Sure View ช่วยจำกัดการมองเห็นภาพบนหน้าจอทำให้คนอื่นมองจากมุมอื่นมาแล้วไม่เห็นช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น สำหรับซีรี่ส์ SPECTRE ที่ต่างประเทศจะเลือกรุ่นใส่ซิมเชื่อมต่อ 4G LTE ได้ด้วย ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาหา Wi-Fi ให้เหนื่อย และมีรุ่นย่อยในซีรี่ส์รหัส x360 สามารถพับหน้าจอกลับได้ 360 องศา แต่ในอดีตจะมีรุ่น Folio ที่ใช้ปากกา Wacom เขียนบนหน้าจอได้ด้วย แต่ปัจจุบันนี้ฟีเจอร์นี้ย้ายไปอยู่กับ HP รุ่นอื่นแล้ว ซึ่งถ้าใครสงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีแล้วมี HP SPECTRE อยู่ในช้อยส์ด้วย สามารถอ่านรีวิวโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ได้ที่นี่
ส่วนคนที่คิดอยู่ว่าอยากได้ HP SPECTRE แต่คิดไม่ออกว่าในซีรี่ส์นี้จะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี ผู้เขียนมีรุ่นแนะนำดังนี้
HP Spectre x360 13-aw0199TU
- Intel Core i5-1035G4
- Intel Iris Plus Graphics G4
- RAM 8 GB DDR4 On board 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 13.3″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- กล้องปลดล็อคตัวเครื่องด้วยใบหน้า
- ราคา 41,900 บาท
HP Spectre x360 13-aw2092TU
- Intel Core i7-1165G7
- Intel Iris Plus Graphics G7
- RAM 16 GB DDR4 On board 3200 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอสัมผัส 13.3″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- กล้องปลดล็อคตัวเครื่องด้วยใบหน้า
- ราคา 55,900 บาท
HP ENVY
จุดเด่นของ HP ENVY คือเรื่องความเบาพกพาสะดวกเป็นหลักแต่สเปคก็จัดเต็มไม่แพ้กับโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องพกโน๊ตบุ๊คติดตัวไปไหนมาไหนบ่อย ๆ เพราะตัวเครื่องหนักเพียงหนึ่งกิโลกรัมนิด ๆ เท่านั้นและสเปคก็ถือว่าจัดเต็มไม่แพ้เครื่องอื่นเพราะติดตั้ง AMD Ryzen 5 4500U หรือ Ryzen 7 4700U มาให้ โดยปัจจุบันนี้จะมีเป็นรุ่น ENVY x360 ซึ่งพับหน้าจอกลับได้ 360 องศา เป็นหน้าจอสัมผัสที่ใช้ปากกาสไตลัสเขียนบนหน้าจอได้ด้วย จัดเป็นโน๊ตบุ๊คน่าสนใจเช่นกันถ้ากำลังคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี สำหรับผู้สนใจสามารถอ่านรีวิวได้ที่นี่
ส่วนคนที่คิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีในซีรี่ส์ HP ENVY ผู้เขียนจะมีรุ่นแนะนำดังนี้
HP ENVY x360 13-ay0001AU
- AMD Ryzen 5 4500U
- AMD Radeon RX Vega 6
- RAM 8 GB DDR4 On board 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 13.3″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 29,900 บาท
HP ENVY x360 13-ay0081AU
- AMD Ryzen 7 4700U
- AMD Radeon RX Vega 7
- RAM 8 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 13.3″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 32,900 บาท
HP ELITE
สำหรับ HP ELITE เป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลระดับจัดเต็ม เช่นเจ้าของธุรกิจที่มีเอกสารและข้อมูลสำคัญในตัวเครื่องมากมาย เพราะ HP ใส่ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยมาในเครื่องแบบจัดเต็มทั้ง HP Essential Security, HP Pro Security, HP Enterprise Security ช่วยป้องกันการถูกเจาะระบบทั้งแบบฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ มี HP Sure Sense ที่ทำงานด้วยระบบ AI Deep Learning สำหรับดักจับมัลแวร์ต่าง ๆ ที่จะบุกเข้ามาในเครื่อง ติดตั้ง Windows 10 Pro มาในเครื่อง เพื่อใช้งานฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยของ Windows และมี Intel vPro ช่วยรักษาความปลอดภัยยิ่งขึ้น มีรุ่นย่อยในกลุ่ม ELITE ดังนี้
- HP Elite Dragonfly – ที่ตัวเครื่องบางเบา มีน้ำหนักไม่ถึงกิโลกรัมและเป็น Intel EVO สามารถใช้งานต่อเนื่องโดยไม่ชาร์จแบตเตอรี่ได้นานสุด 24.5 ชั่วโมง ใช้ปากกาสไตลัสที่แถมมาให้ในเครื่องเขียนบนหน้าจอได้ และ HP ออกแบบบานพับหน้าจอให้พับกลับได้ 360 องศาอีกด้วย นอกจากนี้โมเดลต่างประเทศมีตัวเลือกให้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย 5G ได้
- HP EliteBook x360 – โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ตัวเครื่องบางเบาพกพาง่าย พับหน้าจอกลับได้ 360 องศา สำหรับใช้งานเป็นโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตก็ได้ตามสถานการณ์ หน้าจอเป็นแบบสัมผัส แยกเป็น 2 รุ่นย่อยคือรุ่น 1030 G8 สเปครองจาก Elite Dragonfly และ 1040 G8 รุ่นเริ่มต้นของ EliteBook
- HP Elite x2 G8 – โน๊ตบุ๊คถอดแยกหน้าจอกับแป้นคีย์บอร์ดมาใช้งานแบบแท็บเล็ตได้และด้านหลังหน้าจอจะมีขาตั้งหน้าจอติดตั้งมาใช้กางเครื่องเวลาตั้งบนโต๊ะ ในแพ็คเกจจะมีปากกสไตลัสแถมมาให้ใช้เขียนหน้าจอได้
ZBook By HP
โน๊ตบุ๊คที่เน้นกลุ่มผู้ใช้งานด้านวิศวกรรมและสถาปนิกโดยเฉพาะ โดยติดตั้งซีพียู Intel รุ่นที่ 11 กับการ์ดจอ NVIDIA Quadro มาเพื่อการเรนเดอร์งานโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมี Software Certification ซึ่งเป็นการทดสอบความเข้ากันได้ระหว่างตัวเครื่องกับ ZBook เครื่องนี้ด้วย ให้โปรแกรมกับเครื่องทำงานได้อย่างราบลื่นไม่เกิดปัญหาระหว่างการทำงาน ซึ่งถ้าใครสงสัยว่าจะหาโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีไปทำงานหนัก ๆ ก็ควรดู ZBook เอาไว้ใช้งานได้เลย ส่วนรุ่นย่อยดังนี้
- ZBook Firefly – โน๊ตบุ๊ค Workstation ที่เน้นความแม่นยำสีบนหน้าจอเป็นหลัก เหมาะกับผู้ใช้ที่ทำงานด้านภาพและวิดีโอ
- ZBook Create – โน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์ที่เน้นเรื่องการตัดต่อวิดีโอและพัฒนาเกมทั้งแบบธรรมดาและเกม VR
- ZBook Studio G7 – โน๊ตบุ๊ค Workstation สำหรับงานวิศวกรรมและงานเฉพาะทางเช่นการออกแบบชิ้นส่วนเครื่องจักร ซึ่งทาง Notebookspec เคยทำรีวิวไปก่อนหน้านี้แล้วด้วย
- ZBook Power G7 – โน๊ตบุ๊ค Workstation รุ่นเริ่มต้นราคาไม่แพงแต่ประสิทธิภาพดี สำหรับนักศึกษาที่เรียนด้านวิศวกรรมอาคารและสถาปนิก รวมไปถึงนักพัฒนาสินค้าด้วย
6. ProBook – เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นสำหรับใช้งานด้านธุรกิจของ HP ซึ่งตัวเครื่องออกแบบมาแข็งแรงเป็นพิเศษ แม้จะทำพลาดตกกระแทกพื้นก็ไม่เสียหายง่าย ๆ รวมทั้งมีระบบรักษาความปลอดภัยตัวเครื่องติดตั้งมาครบและถ้าตัวไบออสของเครื่องมีปัญหาขึ้นมา ตัวเครื่องจะมีระบบซ่อมแซมตัวเองให้กลับมาใช้งานได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย
HP ProBook แยกออกเป็น 2 รุ่นใหญ่ ๆ คือ ProBook 400 Series รุ่นเริ่มต้น สามารถพับหน้าจอกลับ 360 องศาได้ และเมื่อต่อ USB-C ระหว่างเครื่องกับหน้าจอแล้วจะสลับเป็น Desktop Mode ด้วย ส่วนรุ่น 600 จะเพิ่มฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยระดับองค์กรมาให้ด้วย ถ้าใครคิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีที่มีฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยติดมาด้วย แนะนำให้ดูซีรี่ส์นี้ไว้ใช้งานได้เลย
ส่วน HP ProBook จะมีรุ่นแนะนำ 1 รุ่นคือ HP ProBook 440-G7 สเปค Intel Core i5-10210U / Intel UHD Graphics 620 / RAM 8 GB DDR4 On board 2666 MHz / M.2 SSD 512 GB / หน้าจอ 14″ HD พาเนล TN / Windows 10 Home / กล้องปลดล็อคตัวเครื่องด้วยใบหน้า / ราคา 24,900 บาท
Pavilion Series
โน๊ตบุ๊ครุ่นที่ผู้ใช้ทั่วไปรู้จักดีสุดเมื่อมีคำถามว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี โดย Pavillion จะมีหลายระดับราคาและครอบคลุมการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลง, เล่นเน็ตและทำงานออฟฟิศรวมทั้งเรียนและสเปคก็จัดว่าดีเช่นกัน
สำหรับคนที่คิดอยู่ว่าจะซื้อ HP Pavillion แล้วคิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี จะมีซีรี่ส์ย่อย 2 กลุ่มคือ
Pavilion
โน๊ตบุ๊คทำงานทั่วไป มีฟีเจอร์ HP QuickDrop ใช้โอนภาพจากมือถือเข้าโน๊ตบุ๊ค HP โดยไม่ต้องต่อสาย USB คีย์บอร์ดมีไฟ LED Backlit ช่วยให้พิมพ์ในที่แสงน้อยได้สะดวกขึ้นกับลำโพงคู่ รองรับการสแกนลายนิ้วมือปลดล็อคเครื่องและหลาย ๆ รุ่นจะแถม Microsoft Office Home & Student 2019 มาให้ในเครื่องพร้อมใช้งาน ซึ่งทางเว็บไซต์ได้รีวิวรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง HP Pavilion 15 (2021) ไว้แล้ว สามารถอ่านได้ที่นี่ และถ้าคิดว่าจะซื้อ HP Pavillion แล้วไม่แน่ใจว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี จะมีรุ่นแนะนำดังนี้
HP Pavilion 15-eh0001AU
- AMD Ryzen 5 4500U
- AMD Radeon RX Vega 6
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 20,990 บาท
HP Pavilion 15-eh0004AU
- AMD Ryzen 7 4700U
- AMD Radeon RX Vega 7
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 24,990 บาท
Pavilion Gaming
ด้าน Pavilion Gaming เป็นกลุ่มย่อยของ Pavilion เน้นการเล่นเกมเป็นพิเศษ ดีไซน์จะอิงกับ Pavilion รุ่นหลักแต่ปรับรายละเอียดบางส่วนและสีให้เข้ากับเกมเมอร์มากยิ่งขึ้นแต่ไม่ออกเกมมิ่งมากเกินไปให้อารมณ์เหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานออฟฟิศที่ตัวเครื่องเป็นสีดำและคีย์บอร์ดมีไฟ Backlit สีเขียวเท่านั้น สำหรับรีวิวสามารถอ่านได้ที่นี่ และถ้าคิดอยู่ว่าอยากได้ Pavilion Gaming แต่ไม่แน่ใจว่าในซีรี่ส์นี้จะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี จะมีรุ่นแนะนำดังนี้
HP Pavilion Gaming 15-ec1028AX
- AMD Ryzen 7 4800H
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Ti (4 GB GDDR6)
- RAM 8 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 29,990 บาท
HP Pavilion Gaming 16-a0057TX
- Intel Core i7-10750H
- NVIDIA GEFORCE GTX 1660 Ti (6 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 2933 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 16.1″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 31,900 บาท
กลุ่มเกมเมอร์
ถ้าพูดถึงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของ HP จริง ๆ จะไม่ใช่แค่ Pavilion Gaming เพราะ HP ก็มีกลุ่มเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวชูโรงอย่าง HP OMEN อยู่แล้ว ซึ่งเป็นคู่แข่งกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์อื่นโดยตรง โดยจุดเด่นจะเป็นหน้าจอขอบบางกับค่า Refresh Rate 300 Hz และลำโพง Bang & Olufsen และระบบระบายความร้อน 3 ทิศทางในตัวเครื่อง กับโปรแกรม OMEN Command Center สำหรับปรับแต่งการทำงานทั้งหมดของตัวเครื่อง ทั้งสลับโหมดใช้งานทั่วไปกับเกมมิ่ง, แสงไฟบนคีย์บอร์ด, อินเตอร์เน็ต ฯลฯ และจะมีรุ่นย่อยทั้งหมด 2 รุ่นคือ
- OMEN 15 – เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นของ OMEN มีฟีเจอร์ทั้งหมดข้างต้น ใช้ซีพียู Intel Core i7 รุ่นที่ 10 กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE RTX 2070 SUPER Max-Q ซึ่งประสิทธิภาพสูงแต่การ์ดก็ไม่ร้อนเกินไปด้วย
- OMEN X 2S – รุ่นสูงสุดของ HP OMEN สเปคจัดเต็มโดยขยับการ์ดจอเป็น RTX 2080 และมีหน้าจอ 2 จอเหมือนกับ ASUS Zephyrus Duo แต่ก็สลับไปเป็นสายทำงานได้เพราะตัวเครื่องจะติดตั้งไดรเวอร์ระดับ NVIDIA Studio ซึ่งเสถียรและเหมาะกับครีเอเตอร์เพราะจะเกิดปัญหาระหว่างใช้งานน้อยกว่าไดรเวอร์แบบธรรมดา ซึ่งไดรเวอร์เวอร์ชั่นนี้โน๊ตบุ๊คหรือพีซีรุ่นนั้น ๆ ต้องรองรับด้วยถึงจะติดตั้งได้
แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่ม HP OMEN นั้นไม่มีขายในประเทศไทยในตอนนี้ ซึ่งไม่แน่ใจว่า HP Thailand จะมีแผนนำเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้เข้ามาขายหรือเปล่า รวมถึงเกมมิ่งเกียร์ด้วยและเมื่อเร็ว ๆ นี้ HP ก็ทุ่มเงินซื้อแบรนด์ HyperX จาก Kingston มาอยู่ในเครือแล้ว ซึ่งถ้าใช้โอกาสนี้นำเกมมิ่งเกียร์ในแบรนด์ OMEN มาขายในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นก็น่าจะมีตัวเลือกให้เกมเมอร์มากกว่าเดิมด้วย
6. MSI
เมื่อพูดถึงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเมื่อคิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนมาใช้ดี ชื่อของ MSI ก็น่าจะมีหลุดปากของเกมเมอร์ออกมาบ้างอย่างแน่นอน เพราะทางบริษัทเองก็สร้างเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงออกมาวางขายตลอดและได้รับความนิยมไม่ขาดสาย และมีแฟนคลับไม่น้อยเลย ทว่าในช่วงไม่กี่ปีนี้ MSI ก็มีโน๊ตบุ๊คสำหรับใช้งานทั่วไปออกมาวางจำหน่ายเช่นกัน สำหรับซีรี่ส์ของโน๊ตบุ๊คในเครือ MSI จะแยกออกเป็นสองกลุ่มดังนี้
กลุ่มเกมเมอร์
ซีรี่ส์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของ MSI นั้นมีรุ่นย่อยมากถึง 8 รุ่นด้วยกัน ซึ่งตีตลาดเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลากหลายราคาตั้งแต่ 2 หมื่นกลางที่เคยแนะนำไปในบทความโน๊ตบุ๊คเล่นเกม 2021 ที่ผ่านมาไปจนถึงราคาหลักแสนให้สเปคจัดเต็ม ซึ่งถ้าใครคิดอยู่ว่าอยากเล่นเกมแล้วสงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี ก็มี MSI เป็นตัวเลือกน่าสนใจรุ่นหนึ่ง โดยรุ่นย่อยสายเกมมิ่งจะมีดังนี้
- GT Series – ปัจจุบันนี้จะมีแต่ GT76 Titan รุ่นเดียว ราคา 169,900 บาท ที่เคยมีรีวิวไปก่อนหน้านี้ สเปคจับคู่ Intel Core i9-9900K กับ NVIDIA GEFORCE RTX 2080 มีแรม 64GB และ SSD 2TB เป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับเกมเมอร์กลุ่ม Esport ต้องการสเปคจัดเต็ม
- GS Series – สเปคใกล้เคียงกับ GT Series แต่ราคาถูกกว่าและตัวเครื่องบางลงพร้อมคำว่า Stealth มาให้เพื่อแสดงความบางและดีไซน์ลดความเกมมิ่งลงบ้าง สเปคแรงและใช้ซีพียู Intel Core i9 รุ่นที่ 10 กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE RTX 2080 มาให้ เหมาะกับเกมเมอร์และครีเอเตอร์เอาไปใช้งานได้ด้วย
- GE Series – เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องบางดูดี มีไฟ RGB สเปคแรงไม่แพ้ GT Series แต่ราคาถูกกว่ามาก โดยสเปคปัจจุบันติดตั้ง Intel Core i9 รุ่นที่ 10 กับ NVIDIA GEFORCE RTX 3000 Series มาด้วย เหมาะกับเกมเมอร์ที่อยากปรับกราฟฟิคในเกมให้สวยเป็นพิเศษ
- GP Series – เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเน้นงานประกอบดีและสเปคลดลงจาก GE เล็กน้อยเพราะรุ่นแรงสุดลดลงมาใช้ Intel Core i7 เท่านั้นแต่จับคู่กับ NVIDIA GEFORCE RTX 3000 เหมือนกัน ดีไซน์ตัวเครื่องบางทำให้พกพาง่ายและตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์และคนทำงาน
- GL Series – เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คขยับสเปคลงมาให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยราคาหลัก 3-4 หมื่นบาท เหมาะกับคนที่คิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีแล้วอยากได้ MSI ไปใช้งาน ดีไซน์เกมมิ่งแต่บีบตัวเครื่องให้บางลงไม่หนามาก ส่วนสเปคจะลดมาเป็น Intel Core i7 รุ่นที่ 8 กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE GTX 1660 Ti
- GF Series – กลุ่ม GF มักจะเป็นดีไซน์แบบ Thin หรือตัวเครื่องบางลงกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของ MSI รุ่นอื่น แต่สเปคก็ยังจัดเต็มอยู่โดยใช้ Intel Core i7 รุ่นที่ 10 กับ NVIDIA GEFORCE RTX 2000 Series ด้วย ดีไซน์จะดูเรียบหรูไม่เกมมิ่งมาก
- Alpha Series – ซีรี่ส์นี้จะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปค AMD ทั้งซีพียูและการ์ดจอ หน้าจอ 15.6 นิ้ว รองรับ AMD FreeSync ช่วยป้องกันภาพฉีกขาดระหว่างเล่นเกมด้วย และราคาปัจจุบันนี้ไม่เกิน 30,000 บาท แต่ยังเป็น AMD Ryzen 3000 Series อยู่ ซึ่ง Alpha Series นี้ตอบโจย์คนที่สงสัยว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีแล้วเน้นเล่นเกมและราคาไม่แพง และถ้าสนใจรีวิวสามารถอ่านได้ที่นี่
- Bravo Series – เหมือน Alpha Series แต่หน้าจอจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 17.3 นิ้ว ส่วนซีพียู AMD เป็น Ryzen 4000 Series แล้ว
ส่วนใครคิดว่าอยากได้โน๊ตบุ๊ค MSI ไปเล่นเกมและทำงานแต่ไม่มั่นใจว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี จะมีรุ่นแนะนำดังนี้
MSI GF75 Thin 10SER-222TH
- Intel Core i7-10750H
- NVIDIA GEFORCE RTX 2060 (6 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 17.3″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 120 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 42,900 บาท
MSI GE66 Raider 10SFS-222TH
- Intel Core i9-10980HK
- NVIDIA GEFORCE RTX 2070 SUPER (8 GB GDDR6)
- RAM 32 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 240 Hz
- Windows 10 Home
- Per-Key RGB Backlight
- ราคา 82,900 บาท
MSI GE76 Raider 10UH-450TH
- Intel Core i9-10980HK
- NVIDIA GEFORCE RTX 3080 (16 GB GDDR6)
- RAM 32 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 2 TB
- หน้าจอ 17.3″ 4K UHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 159,900 บาท
กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและพนักงานออฟฟิศ
จริง ๆ แล้ว MSI ไม่ได้ทำแต่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะปัจจุบันนี้ก็มีโน๊ตบุ๊คสำหรับคนทำงานและผู้ใช้ทั่วไปที่คิดว่าโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีถึงจะเหมาะกับการงานทั่วไปรวมจนถึงการทำงานหนัก ๆ ก็เลือกซื้อเป็น MSI ทั้งสามรุ่นย่อยนี้ได้เหมือนกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
MSI Summit
โน๊ตบุ๊คสำหรับการทำงานโดยเฉพาะ ซึ่ง MSI ออกแบบมาเพื่อบริษัทแบบ Cloud-based และ Virtual Business เน้นเรื่องความแข็งแรงทนทานและใช้งานได้เสถียร มีชิป TPM รักษาความปลอดภัยติดตั้งมาให้ด้วย สำหรับรีวิวสามารถอ่านได้ที่นี่
MSI Prestige
โน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์ ตัวเครื่องบางเบาแต่สเปคแรงพอจะเปิดโปรแกรมที่กินทรัพยากรตัวเครื่องหนัก ๆ ได้สบาย ๆ และมีรุ่น Intel EVO ทำให้ใช้งานได้หลายชั่วโมง ซึ่งทางเว็บไซต์ก็เคยรีวิวรุ่นนี้ไปแล้วเช่นกัน
MSI Modern
โน๊ตบุ๊คบางเบาเน้นการพกพาและใช้ทำงานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง นอกจากนี้ตัวเครื่องยังใช้โลหะอัลลอยด์ทำให้ตัวเครื่องแข็งแรงขึ้น โดย MSI ออกแบบมาเน้นพนักงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษาเป็นหลัก สำหรับรีวิวสามารถอ่านได้ที่นี่
สำหรับคนที่คิดว่า MSI สายทำงานทั้งสามรุ่นเป็นโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของเราแต่ไม่แน่ใจว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีถึงจะเหมาะกับเราล่ะก็ ผู้เขียนมีโน๊ตบุ๊ครุ่นแนะนำดังนี้
MSI Modern 15 A10RAS-248TH
- Intel Core i7-10510U
- NVIDIA GEFORCE MX330
- RAM 8 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 28,990 บาท
MSI Prestige 15 A10SC-016TH
- Intel Core i7-10710U
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650 (4 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 47,900 บาท
MSI Summit E15 A11SCST-219TH
- Intel Core i7-1185G7
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650 Max-Q (4 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 15.6″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Pro
- ราคา 54,400 บาท
7. Lenovo
ชื่อชั้นของ Lenovo กับโน๊ตบุ๊คใส่สเปคสุดคุ้มมาให้เสมอและมีดีไซน์ล้ำ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ จนทำให้คนที่สับสนว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีก็อาจจะมาจบกับ Lenovo ได้ง่าย ๆ โดย Lenovo จะมีโน๊ตบุ๊คสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ทำงานออฟฟิศและเกมเมอร์ให้เลือกหลายรุ่นทีเดียว ดังนั้นถ้าใครกำลังคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีจะเติม Lenovo เอาไว้ในช้อยส์ก็ถือว่าน่าสนใจเช่นกัน
กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและพนักงานออฟฟิศ
สำหรับโน๊ตบุ๊คสายทำงานของ Lenovo จะมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ด้วยกัน คือ
ThinkPad
เป็นอดีตแบรนด์โน๊ตบุ๊คในเครือ IBM ที่ผันตัวไปเน้นงาน Service และ Cloud เป็นหลักแล้วในปัจจุบัน โดยกลุ่ม ThinkPad จะเน้นงานธุรกิจเป็นหลักและมีดีไซน์ใหม่ ๆ และตัวเครื่องน้ำหนักเบาพิเศษออกมาเรื่อย ๆ ในซีรี่ส์นี้มีรุ่นย่อยออกแบบมาโดยเฉพาะหลายรุ่น ได้แก่
- X1 – และใช้วัสดุพรีเมี่ยมมาทำตัวเครื่องเช่นคาร์บอนไฟเบอร์และไทเทเนียมเป็นต้น
- Yoga – เป็น ThinkPad แบบพับหน้าจอกลับ 360 องศาได้
- X – เน้นความเบาเป็นพิเศษและแบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานได้นาน
- T – จะเน้นความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษและประสิทธิภาพดี
- E – ประสิทธิภาพดีเน้นความทนทาน ใช้งานต่อเนื่องได้ทั้งวันและราคาเริ่มต้นไม่แพง
- L – เน้นการใช้งานด้านธุรกิจและราคาไม่แพง มีดีไซน์ Yoga พับหน้าจอกลับ 360 องศาได้ด้วย
- P – โน๊ตบุ๊คสาย Workstation เน้นความเสถียรและทนทาน พกพาออกไปทำงานในไซต์งานได้
ThinkBook
เหมาะกับผู้ใช้งานออฟฟิศและธุรกิจ สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่ปิดเครื่องได้และไม่เกิดปัญหาระหว่างการทำงาน ติดตั้งฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยมาให้ในเครื่อง ดีไซน์เรียบง่ายและราคาไม่แพง เหมาะกับคนที่หาโน๊ตบุ๊คทำงานแล้วคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี
IdeaPad
เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดี มีซีพียูทั้ง Intel และ AMD ให้เลือกซื้อตามความชอบ โดยราคาเริ่มต้นไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท มีรุ่นย่อยพร้อมดีไซน์หลายแบบทั้ง Slim ดีไซน์เครื่องบาง, Duet ซึ่งแยกคีย์บอร์ดกับหน้าจอได้ ส่วน Flex จะเหมือน Yoga ที่พับหน้าจอกลับเป็นแท็บเล็ตได้ด้วย ซึ่งมี 4 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ
- S Series – กลุ่มราคาไม่แพง เริ่มต้นไม่เกินหมื่นและเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเอาไว้ทำงานทั่วไปเช่นดูหนังฟังเพลง
- L Series – โน๊ตบุ๊คใช้งานทั่วไปราคาเริ่มต้นไม่เกินหมื่น มีรุ่นย่อยที่เล่นเกมได้ด้วยแต่ราคาก็จะเพิ่มไประดับสองหมื่นบาท ใช้เล่นเกมออนไลน์และเกมอินดี้ทั่วไปได้
- D Series – โน๊ตบุ๊คแบบแยกหน้าจอเป็นแท็บเล็ตได้ด้วย
- Flex – โน๊ตบุ๊คแบบพับหน้าจอกลับ 360 องศาได้ เน้นเรื่องความบันเทิงทั่วไปเช่นดูหนังฟังเพลง
สำหรับคนที่คิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีในซีรี่ส์กลุ่ม ThinkPad, ThinkBook และ IdeaPad จะมีรุ่นแนะนำดังนี้
Lenovo ThinkPad T14-20UDS02000
- AMD Ryzen 7 Pro 4750U
- AMD Radeon RX Vega 7
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 14″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- กล้องปลดล็อคด้วยใบหน้า
- ราคา 31,990 บาท
Lenovo ThinkBook 13s G2 ITL-20V9005NTA
- Intel Core i7-1165G7
- Intel Iris Xe Graphics G7
- RAM 16 GB DDR4 On board 4266 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 13.3″ QHD พาเนล IPS / Windows 10 Home / ราคา 32,100 บาท
Lenovo Ideapad S540 13-81XA003KTA
- Intel Core i7-10710U
- NVIDIA GEFORCE MX250
- RAM 16 GB DDR4 2666 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 13.3″ QHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- กล้องปลดล็อคด้วยใบหน้า
- ราคา 41,990 บาท
Yoga
เรียกว่าเป็นตัวชูโรงอีกรุ่นของ Lenovo ซึ่งนอกจากจะพับหน้าจอกลับ 360 องศาได้แล้ว ยังมีปากกาสไตลัสแถมมาให้ใช้เขียนบนหน้าจอทัชสกรีนของตัวเครื่องได้อีกด้วย โดยจะมีรุ่นย่อย 2 รุ่นดังนี้
- C Series – โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 เครื่องบางเบาเน้นความบันเทิงและงานประกอบแน่นหนา มักใส่ดีไซน์และฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาในซีรี่ส์นี้
- S Series – 2-in-1 เวอร์ชั่นบางเบาเป็นพิเศษกว่า C Series แต่งานประกอบแข็งแรงด้วย
ถ้าใครคิดอยู่ว่าอยากได้ Lenovo Yoga มาใช้สักตัวแต่ไม่รู้ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดี จะมีรุ่นแนะนำดังนี้
Lenovo Yoga 6 13ARE05-82FN005CTA
- AMD Ryzen 5 PRO 4650U
- AMD Radeon RX Vega 6
- RAM 8 GB DDR4 On board 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 13.3″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 27,990 บาท
Lenovo Yoga Slim 7 14ARE05-82A2008STA
- AMD Ryzen 7 4700U
- AMD Radeon RX Vega 7
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 14″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- กล้องปลดล็อคตัวเครื่องด้วยใบหน้า
- ราคา 29,900 บาท
Lenovo Yoga Slim 7 14ARE05-82A200DFTA Orchid
- AMD Ryzen 7 4800U
- AMD Radeon RX Vega 8
- RAM 16 GB DDR4 4266 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 14″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- กล้องปลดล็อคตัวเครื่องด้วยใบหน้า
- Microsoft Office Home & Student 2019
- ราคา 30,900 บาท
กลุ่มเกมเมอร์
ถ้าถามว่าโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีที่เน้นเล่นเกมแล้วชอบแบรนด์ Lenovo ก็ต้องเป็น Legion Series ซึ่งเหมาะทั้งเล่นเกมและใช้งานเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์ได้ด้วย เพราะสเปคในเครื่องจัดว่าคุ้มและออกแบบระบบระบายอากาศมาได้ดี ทำให้เล่นเกมต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง ซึ่งทางเว็บไซต์ก็มีรีวิวตระกูล Legion ออกมาเรื่อย ๆ เช่นกัน โดยรุ่นย่อยจะมีดังนี้
- Legion Y – ปัจจุบันมีแต่ Y540 เท่านั้น ใช้ซีพียูเป็น Intel Core i7 รุ่นที่ 9 กับ NVIDIA GEFORCE GTX 1650 ประสิทธิภาพดี มีราคาไม่แพงมากเพียง 2 หมื่นบาทต้น ๆ เท่านั้น
- Legion 5 – เป็นซีรี่ส์ใหม่ของ Legion อัพเกรดสเปคจาก Legion Y ดีไซน์ภายนอกเรียบง่ายเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานทั่ว ๆ ไปเท่านั้นแต่สเปคจัดว่าเป็นคู่แข่ง Acer Nitro 5 โดยตรง แบ่งออกเป็นซีพียู Intel เช่นในรุ่น 3i, 5i และ AMD จะเป็นตัวเลขอย่างเดียวไม่มีตัว i ตามหลัง
- Legion 7 – รุ่นใหญ่สาย Legion ที่สเปคจัดเต็ม เลือกใส่ NVIDIA GEFORCE RTX 2060 ได้ด้วย เป็นคู่แข่งของ Acer Nitro 7 โดยตรง ซึ่งก่อนหน้านี้จะใช้ซีพียู Intel Core รุ่นที่ 10 เท่านั้น แต่ตอนนี้มีซีพียู AMD Ryzen ติดตั้งมาแล้วและเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงด้วย
สำหรับเกมเมอร์ที่หาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสาย Lenovo ไปใช้แต่ไม่รู้ว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีเพราะมี Legion ให้เลือกมากมายไปหมด จะมีรุ่นแนะนำดังนี้
Lenovo Legion 5-82B5001GTA
- AMD Ryzen 5 4600H
- NVIDIA GEFORCE GTX 1650 (4 GB GDDR6)
- RAM 8 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 15.6″ FHD พาเนล IPS Refresh Rate 144 Hz
- Windows 10 Home
- ราคา 27,900 บาท
Lenovo Legion 5 Pro 16ACH6H-82JQ0075TA
- AMD Ryzen 7 5800H
- NVIDIA GEFORCE RTX 3060 (6 GB GDDR6)
- RAM 16 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 16″ QHD (2560×1600) พาเนล IPS Refresh Rate 165 Hz G-SYNC, 100% sRGB
- Windows 10 Home
- ราคา 49,900 บาท
Lenovo Legion 7 16ACHG6-82N6000YTA
- AMD Ryzen 9 5980HX
- NVIDIA GEFORCE RTX 3080 (16 GB GDDR6)
- RAM 32 GB DDR4 3200 MHz
- M.2 SSD 2 TB / หน้าจอ 16″ QHD (2560×1600) พาเนล IPS Refresh Rate 165 Hz G-SYNC, 100% sRGB
- Windows 10 Home
- ราคา 89,900 บาท
8. Huawei
ถ้าใครใช้สมาร์ทโฟนของ Huawei อยู่แล้วและจะหาซื้อโน๊ตบุ๊คยี่ห้อไหนดีถึงจะใช้งานกับสมาร์ทโฟน Huawei ได้ดีที่สุด ต้องเป็น Huawei MateBook ทั้ง 2 รุ่นนี้ ได้แก่ Huawei MateBook 14 กับ Huawei MateBook X Pro ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะแตกต่างกันเรื่องสเปคหน้าจอกับซีพียูที่เลือกใช้เป็นหลัก แต่ฟีเจอร์หลัก ๆ อย่าง Huawei Share ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Huawei และนำภาพบนสมาร์ทโฟนมาเล่นบนหน้าจอได้เลยจะมีเหมือนกัน, สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power, และกล้อง Webcam แบบซ่อนอยู่บนแนวคีย์บอร์ดจะมีเหมือนกันหมด
ด้านผู้ใช้ทั่วไปที่ใช้โน๊ตบุ๊คทำงานพื้นฐานต่าง ๆ เช่นทำงานเอกสาร, เข้าเว็บ, เขียนบล็อก, แต่งภาพ สามารถใช้ Huawei MateBook 14 ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก MateBook D14 ได้เลย โดยสเปคเป็นซีพียู AMD Ryzen 5 4600H หรือ Ryzen 7 4800H ส่วนหน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 2K (2160 x 1440 พิกเซล) อัตราส่วน 3:2 พาเนล IPS นั้นสามารถใช้งานได้ดีทีเดียว และรองรับการแตะหน้าจอได้ 10 จุด
Huawei MateBook X Pro จะเป็นรุ่นพรีเมียมราคาสูงกว่าและอัพเกรดสเปคขึ้น เปลี่ยนไปใช้ซีพียู Intel Core i7-10510U การ์ดจอ NVIDIA GEFORCE MX250 หน้าจอ 13.9 นิ้ว ความละเอียด 3000×2000 พิกเซล อัตราส่วน 3:2 พาเนล LTPS (Low Temperature PolySilicon LCD) นั้น เป็นพาเนลเกรดสูงกว่า IPS ที่แสดงผลได้เร็วและดีกว่าอย่างชัดเจน รองรับการแตะสัมผัสหน้าจอ 10 จุดเช่นกัน
ถ้าให้แบ่งกลุ่มกันแล้ว ถ้าใครเน้นใช้งานทั่วไปและเน้นความคุ้มค่าอาจเลือก Huawei MateBook 14 ไปใช้งานก็ได้ เพราะเหมาะกับบล็อกเกอร์, พนักงานออฟฟิศและนักศึกษาอย่างแน่นอน แต่ถ้ามีงบประมาณสูงและต้องการพาเนลหน้าจอเกรดพิเศษไว้ใช้แต่งภาพทำงานกราฟฟิคและสเปคระดับตัดต่อคลิปลง YouTube ได้สบาย ๆ อาจขยับมาใช้ Huawei MateBook X Pro จะดีกว่า
ด้านผู้ใช้ที่คิดว่าจะซื้อ Huawei MateBook อยู่แล้วแต่ไม่แน่ใจว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีเพราะมีรุ่นย่อยซอยสเปคอยู่พอควร ซึ่งถ้าให้แนะนำจะมีตัวเลือกทั้งหมด 2 รุ่นดังนี้
Huawei MateBook 14
- AMD Ryzen 7 4800H
- AMD Radeon RX Vega 7
- RAM 16 GB DDR4 On board 2666 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอสัมผัส 14″ ความละเอียด 2K (2160×1440) อัตราส่วน 3:2 พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- ราคา 29,990 บาท
Huawei MateBook X Pro
- Intel Core i7-10510U
- NVIDIA GEFORCE MX250
- RAM 16 GB LPDDR3 2133 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอสัมผัส 13.9″ ความละเอียด 3K (3000×2000) อัตราส่วน 3:2 พาเนล LTPS
- Windows 10 Home
- ราคา 49,900 บาท
9. Fujitsu
หลายคนน่าจะได้ยินชื่อโน๊ตบุ๊คจากญี่ปุ่นแบรนด์นี้มาบ้างไม่มากก็น้อย เพราะ Fujitsu ก็เคยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อนานมาแล้วและเลิกทำตลาดไประยะหนึ่ง แต่ปัจจุบันนี้เริ่มกลับมาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว โดยนำรุ่น Fujitsu UH-X-4ZR1A99235 เข้ามาขายกับราคาเริ่มต้นที่ 31,990 บาท โดยจุดเด่นของ Fujitsu คือตัวเครื่องเบามากเพียง 770 กรัมเท่านั้น สำหรับสองรุ่นแนะนำที่มีขายในประเทศไทยตอนนี้คือ
Fujitsu LifeBook UH-X-4ZR1A99235
- Intel Core i5-10210U
- Intel UHD Graphics 620
- RAM 16 GB LPDDR3 2133 MHz
- M.2 SSD 512 GB
- หน้าจอ 13.3″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- กล้องปลดล็อคตัวเครื่องด้วยใบหน้า
- ราคา 31,990 บาท
Fujitsu LifeBook UH-X-4ZR1A99236
- Intel Core i7-10510U
- Intel UHD Graphics 620
- RAM 16 GB LPDDR3 2133 MHz
- M.2 SSD 1 TB
- หน้าจอ 13.3″ FHD พาเนล IPS
- Windows 10 Home
- กล้องปลดล็อคตัวเครื่องด้วยใบหน้า
- ราคา 45,990 บาท
โน๊ตบุ๊คของ Fujitsu จะใช้ชื่อเป็น LIFEBOOK ร่วมกันทั้งหมด แต่จะมีซีรี่ส์ย่อย 3 รหัส เท่านั้นคือ
- U Series – เป็นกลุ่มโน๊ตบุ๊คบางเบาพิเศษ หน้าจอ 13.3 นิ้ว ติดตั้งซีพียู Intel Core รุ่นที่ 11 เอาไว้ เน้นการพกพาและใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานได้หลายชั่วโมง งานประกอบจะพิถีพิพันเป็นพิเศษเพื่อให้สัมผัสออกมาดีที่สุด มีการทดสอบความแข็งแรงตัวเครื่องทั้งการกดทับและตกจากความสูงราวหนึ่งฟุตว่าโน๊ตบุ๊คไม่มีปัญหาและสามารถใช้งานได้ตามปกติ
- E Series – โน๊ตบุ๊คสำหรับพนักงานออฟฟิศที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพดีเอาไว้ทำงานต่าง ๆ ได้โดยไม่มีปัญหา ใส่ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยเอาไว้ในเครื่องด้วย เช่นระบบสแกนใบหน้าและตัวสไลด์ปิดกล้องหน้า บางรุ่นของ E Series จะมีชิป TPM 2.0 ติดตั้งมาด้วย
- S Series – เน้นแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 21 ชั่วโมงเป็นมาตรฐาน แต่เลือกเพิ่มแบตเตอรี่ลูกที่สองเข้าไปได้จะทำให้ใช้งานได้นานขึ้นเป็น 27 ชั่วโมง ทำให้ผู้ใช้ที่เดินทางไปไหนมาไหนแล้วไม่ค่อยได้ชาร์จโน๊ตบุ๊คบ่อยสามารถใช้งานได้นานขึ้นและมีรุ่นหน้าจอสัมผัสและมีตัวเลือกอัพเกรดให้รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ได้อีกด้วย
จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊คทั้ง 9 แบรนด์นี้ จะมีรุ่นย่อยแยกกันไปหลายรุ่นเพื่อตอบรับความต้องการของผู้ใช้ที่ชื่นชอบแบรนด์ของตนให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงานหรือเกมเมอร์ที่อยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คใหม่ก็มีให้เลือกเช่นกัน แต่บางแบรนด์ที่วางกลุ่มตลาดของตัวเองเป็นกลุ่มพิเศษและมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางอยู่แล้วก็อาจจะมีโน๊ตบุ๊คเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นก็มีเช่นกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการวางแผนของฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาดของแบรนด์นั้น ๆ
ด้านผู้ใช้เช่นเรานั้น ถ้าเข้าใจรุ่นย่อยทั้งหมดของแบรนด์นั้น ๆ แล้วก็สามารถเลือกซื้อรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองและได้สเปคที่ดีอย่างแน่นอน ซึ่งสามารถเลือกดูจากรุ่นแนะนำในบทความได้เลยหรือจะใช้ระบบค้นหาโน๊ตบุ๊คของทาง Notebookspec ค้นหาโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์ที่สนใจดู ก็อาจจะถูกใจรุ่นอื่นนอกเหนือจากในบทความนี้ก็ได้