หนึ่งในแบรนด์คีย์บอร์ดที่โปรเพลเยอร์เลือกสำหรับการแข่ง หรือสำหรับเกมเมอร์มือหนักเลือกใช้เลยก็คือ Steelseries ที่ขึ้นชื่อเรื่องของความทนทาน และฟังค์ชั่นที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ โดยเฉพาะใน APEX 7 ที่ทีมงานได้มาทดสอบในวันนี้จัดเต็มทั้งฟังค์ชั่น และไฟ RGB ที่ออปชั่นแน่นที่สุด แต่จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปชมกัน
Steelseries APEX 7 เป็นคีย์บอร์ดระดับท๊อปที่มีออปชั่นจัดจ้านมาก ออกแบบเพื่อ E-Sport Player / Pro Player คนชื่นชอบการเล่นเกมส์ ที่รับสัมผัสการกดแบบ Mechanical แท้ๆ และความแข็งแรงเป็นพิเศษ ด้วยวัสดุอลูมิเนียมเช่นเดียวกับยาวอวกาศแบบเดียวกับ SteelSeries Apex Pro ต่างกันที่ สวิทซ์ที่ตัว Apex 7 จะเป็น Mechanical Switch ส่วนเจ้า Apex Pro เป็นแบบ Omni-Point Switch ที่เป็น Optical Switch โดยในประเทศไทยนั้นก็จะมีสวิทซ์ให้เลือกซื้อ 2 สี ได้แก่ SteelSeries Blue Switch และ Red Switch นอกจากนั้นยังมาพร้อมไฟ RGB แบบ Per Key จอ OLED พร้อม ปุ่มมัลติมีเดียที่ออกแบบให้สามารถปรับแต่งที่คีย์บอร์ดโดยตรงได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องผ่านซอฟแวร์ อีกทั้งยังแสดงการแจ้งเตือนต่างๆได้ด้วย
Specifications Steelseries APEX 7
- Top Material : Aircraft Grade Aluminum Alloy Frame
- N-Key Roll Over : 104-Key
- Anti-Ghosting : 100%
- Illumination : Dynamic Per Key RGB Illumination
- Weight : 2.1 lbs
- Height : 403.3 mm
- Width : 17.2 mm
- Depth : 139.2 mm
- Type & Name : SteelSeries QX2 Mechanical RGB Switch
- Switch Actuation : 2 mm
- Total Travel : 4 mm
- Force : 45cN
- Lifetime : 50 Million Keypresses
- OS : Windows, Mac OS X, Xbox, and PlayStation. USB port required
- Software : SteelSeries Engine 3.15+ (coming soon) for Windows (7 or newer) and Mac OSX (10.11 or newer)
กล่องของ Steelseries APEX 7 มาในโทนขาวส้มอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมระบุฟีเจอร์ต่างๆอย่างครบครัน โดยเฉพาะภาษาไทยที่มีพิมพ์มาพร้อมสรรพ ทำให้รู้ถึงฟีเจอร์และความใส่ใจของ Steelseries ที่มีต่อชาวไทย
อุปกรณ์ภายในกล่องหลักๆจะมีตัว Steelseries APEX 7 และที่รองข้อมือ
โดยเจ้าตัว Steelseries APEX 7 ถือว่าออกแบบมาสำหรับคนที่มีพื้นที่ในการใช้คอมค่อนข้างกว้างเพราะตัวคีย์บอร์ดนั้นถือว่าใหญ่พอสมควร แต่ถ้าเทียบกับคีย์บอร์ดยุดก่อนก็ถือว่ากะทัดลงมามาก ด้วยขอบของคีย์บอร์ดที่แทบไม่มีแล้ว โดยมาพร้อมจำนวนปุ่มมาตรฐาน Full Size 104 ปุ่ม
ขนาดปุ่มแต่ละปุ่มนั้นก็สูงขึ้นมาจากตัว Keyboard เล็กน้อยจึงทำให้เห็นตัว switch ค่อนข้างชัด ขนาดของปุ่มนั้นไม่ได้ใหญ่มากนัก ถือว่าเป็นขนาดปกติทั่วไปของตัว Keyboard จับถนัดคล่องมือ ใครที่เพิ่งหันมาใช้ตัว Keyboard Mechanical ก็สามารถปรับตัวได้ไม่ยากนัก วัสดุที่นำมาใช้ผลิตนั้นถือว่าแข็งแรงทนทานด้วยวัสดุอลูมิเนียม และยังช่วยให้คีย์บอร์ดมีน้ำหนักที่เบากว่าคีย์บอร์ดทั่วไป ตัวไฟของ APEX นั้นแสดงออกมาเป็น RGB โดยสามารถแสดงผลได้ถึง 16.8 ล้านสี และนั้นยังมาพร้อมกับ Keycap ที่เป็นภาษาไทยอีกด้วย
นอกจากยั้งยังมีจอ OLED และปุ่มสั่งงานมัลติมีเดียวทางด้านขวา ที่ทำให้คีย์บอร์ดตัวนี้แตกต่างและไม่เหมือนคีย์บอร์ดในรุ่นอื่น
ปุ่มมาโครที่สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ
สายเชื่อมต่อหนาเอาเรื่องเนื่องจากต้องเชื่อมต่อ 2 พอร์ต USB คือพอร์ตของคีย์บอร์ดสำหรับเชื่อมต่อตามมาตรฐาน และ USB Hub สำหรับต่ออุปกรณ์อื่นที่ตัวคีย์บอร์ดได้เช่นเมาส์หรือแฟลชไดร์ฟ
Dedicated Multimedia Controls หรือชุดหน้าจอ OLED และปุ่มมัติมีเดียที่เพิ่มเข้ามา สำหรับโชว์การแจ้งเตือนต่างๆ รวมไปถึงการปรับตั้งค่าคีย์บอร์ดที่สามารถปรับแต่งผ่านปุ่มและหน้าจอตัวนี้ได้เลย และนอกจากนั้นยังทำหน้าที่ควบคุมมัลติมีเดีย เช่นเพิ่มลดเสียง เปิดปิด เปลี่ยนเพลง
ขอบด้านล่างจะเห็นวัสดุของ Steelseries APEX 7 ที่เป็นอลูมิเนียมชัดเจน อีกทั้งยังมีการสกรีนโลโก Steelseries ไว้ด้วย
ขอบด้านบนจะมีส่วนของจอ OLED และปุ่ม Scroll ยื่นมาทางด้านบน พร้อมพอร์ต USB ฝั่งซ้าย
พอร์ต USB ที่ทำหน้าที่เป็น Hub USB ที่เมื่อต่อพร้อมใช้จะมีไฟแสดงขึ้นมา สามารถชาร์ทและเชื่อมต่อเต็มรูปแบบ
ขอบด้านข้างคีย์บอร์ดมีโค้งมน ทำให้คีย์บอร์ดดูเพรียวไม่หนาจนเกินไป
สวิตซ์ที่ทีมงานได้มาทดสอบจะเป็น Red Switch ที่ให้เสียงไม่ดังมาก แต่ยังคงให้อารณ์คีย์บอร์ด mechanical สัมผัสนุ่ม ไม่ดังมาก
ด้านล่างคีย์บอร์ดจะมีจุดให้สายออกได้ 3 จุดตามต้องการ ยางรอง 5 จุด และขาตั้งที่สามารถตั้งได้ 1 ระดับ
ขาตั้งจะกางได้เพียง 1 ระดับนะครับ ไม่สูงมาก แต่ก็อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
Steelseries APEX 7 มาพร้อมที่รองข้อมือคุณภาพดีทีเดียว ผิวเป็นยางกันลื่นอย่างดี พร้อมฐานรองข้อมือจำนวนมาก และที่สำคัญเป็นแม่เหล็กทำให้ติดกับตัวคีย์บอร์ดได้อย่างมั่นคง
การติดที่รองข้อมือก็ง่ายเข้ารูป ไม่เลื่อนหลุดง่ายเพราะมีแม่เหล็กนี่ละครับ
ในส่วนของไฟ RGB Steelseries APEX 7 จัดเต็มมากเพราะปรับได้หลายโหมด หรือกระทั่งกำหนดสีแบบ Per Key หรือแยกแต่ละปุ่มก็ยังได้ จะตั้งโหมดหลัก และให้กดปุ่มใดๆวิ่งเป็นไฟสว่างออกไปจากปุ่ม หรือกระทั่งให้คีย์บอร์ดวิ่งเป็นไฟเวฟตามเสียงดนตรีผ่านแอพเสริมก็ได้
ไฟ RGB จะเป็นดวงอยู่บนสวิตซ์ปุ่ม
ไฟ RGB เมื่อมองจากด้านข้าง ไม่สว่างมาก สวยกำลังดี
อีกหนึ่งไฮไลท์คือจอ OLED ด้านขวาบน ที่ออกแบบมาเพื่อการปรับแต่คีย์บอร์ดได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านซอฟแวร์ในเครื่อง พร้อมหน่วยความจำภายใน รวมไปถึงแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ นอกจากนั้นปุ่มข้างๆก็ยังทำหน้าที่เพิ่มลดเสียง รวมถึงควบคุมมัลติมีเดียต่างๆได้ด้วย
เมนูหลักๆที่ฝังอยู่ในจอ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้เยอะ ทั้งไฟ RGB ปุ่มมาโครต่างๆ
ส่วนการตั้งค่าของคีย์บอร์ด SteelSeries Apex 7จะมีแยกคอนฟิกได้ 5 โพรไฟล์ สำหรับตั้งค่าแยกกันได้ในแต่ละคน
และมี 4 แท็บหลัก แท็บแรกคือ Key Bindings ที่ให้ผู้ใช้สามารถปรับหน้าที่ของแต่ละปุ่มได้อย่างอิสระ เช่น อาจจะแม็ปปุ่ม N บนคีย์บอร์ดให้กดแล้วเป็นตัว G แทนได้ ทั้งยังสามารถทำชุดคำสั่งมาโครแยกแต่ละปุ่ม ตั้งค่าให้มาโครมันวนลูปก็ยังได้
แท็บที่ 2 จะเป็นการมาโครแบบหลายปุ่ม สำหรับเป็นคีย์ลัดต่างๆ เหมือนเวลาเรากด Windows + Alt + Print screen เพื่อบันทึกภาพหน้าจอ เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการใช้คีย์บอร์ดเป็นปุ่มลัด
แท็บที่ 3 คือ Illumination ที่ใช้สำหรับปรับสีไฟ RGB บนคีย์บอร์ด ซึ่งสามารถปรับแบบแยกปุ่มได้อย่างอิสระ จะปรับเป็นโซนหรือเป็นกลุ่มไปก็ได้ รวมถึงสามารถปรับรูปแบบการแสดงสีไฟได้ เช่น ให้แสงไฟไล่ระดับเมื่อกดลงไปบนปุ่ม ให้แสงไฟเปลี่ยนสีแบบเป็นคลื่น ปรับความถี่ของการกระพริบ เรียกได้ว่ามันยืดหยุ่นมาก ๆ
แท็บที่ 4 จะเป็นการตั้งค่าจอ OLED ให้เราอัพโหลดรูปต่างๆที่ต้องการได้ ปรับแต่งได้เหมือนเราใช้ดินสอเขียนเลย แต่จะโชว์ได้เพียงสีขาวและดำเท่านั้น
รูปที่อัพโหลดขึ้นไปแล้ว
สามารถปรับแต่รูปได้เป็นเม็ด pixel สลับสีขาวดำได้
ภาพรวมของตัวคีย์บอร์ดบอกเลยว่าวัสดุดีมาก ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน แต่ก็ยังมากับน้ำหนักที่เบามากเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่อยู่ในระดับเดียวกัน มาพร้อมที่รองข้อมือ กันลื่นได้ดี และยังมี Hub USB ไว้ต่ออุปกรณ์เสริมเช่นเมาส์ได้ด้วย
ทดสอบใช้งาน
- จากการทดสอบใช้งาน ปรกติผมจะใช้คีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คหรือคีย์บอร์ดธรรมดาที่ไม่ได้เป็นสวิตซ์พิเศษอะไร แรกสัมผัสรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวล พิมพ์เร็วๆแล้วไม่เจ็บมือ ที่ช่วยในการรองรับสัมผัสได้เป็นอย่างดี ตอบสนองการใช้งาน โดยเฉพาะการเล่นเกมจากการที่ทดสอบสามารถตอบสนองได้ดี เที่ยงตรงเล่นเกมได้เพลินแม้ในเวลางาน จากการทดสอบกดพร้อมกัน 5-6 ปุ่มพร้อมกันก็ไม่มีอาการ ghost ได้อย่างใด
- การออกแบบเน้นเรียบๆ ดูผ่านๆอาจจะเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป แต่เมื่อได้สัมผัสแล้วก็พบว่าการออกแบบเรียบง่ายแต่ช่วยให้สามารถใช้งานสะดวก วัสดุดี แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้นานโดยไม่เมื่อย ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไป
- ฟังค์ชั่นต่างๆก็ครบครันทั้งการเล่นเกมที่สามารถปรับตั้งค่าได้ รวมถึง Fn ต่างๆที่มาพร้อมตอบสนองการใช้งาน ไฟ RGB เองก็ปรับแต่งได้เยอะมาก น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของท่านที่ต้องการไฟ RGB สวยงาม
- จอ OLED โชว์การแจ้งเตือนได้ แต่อาจจะไม่ครอบคลุมทุกโปรแกรม เพราะต้องซิงค์กับทาง Software ของ Steelseries แต่สะดวกตรงที่ปรับแต่บนคีย์บอร์ดได้เลยโดยไม่ต้องเข้าโปรแกรม ทำให้ไม่จำเป็นต้องสลับหน้าจอไปมาระหว่างใช้งาน อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นปุ่มมัลติมีเดียด้วย
Steelseries APEX 7 สามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งในแง่การใช้งานทั่วไปและการเล่นเกมได้ดี โดยจุดเด่นของตัวที่ทางเรารีวิวก็คือการตอบสนองที่รวดเร็ว ผสานกับเสียงรบกวนที่น้อย ซึ่งมาจากคุณสมบัติของ red switch ภายในตัว การกดหลาย ๆ ปุ่มพร้อมกัน (N-key rollover) ก็ใช้งานได้จริง
นอกจากนั้นยังมาพร้อมฟังค์ชั่นอื่นที่ครบครันมากๆ ทั้งไฟ RGB ที่ยืดหยุ่นปรับแต่งได้เยอะมาก แสงสีสวย มาโครปรับแต่งได้อย่างอิสระ จอ OLED ที่เพิ่มความสะดวกในการตั้งค่าไปจนถึงการโชว์แจ้งเตือน
ตัวคีย์บอร์ดเองก็วัสดุดี น้ำหนักเบา ครบเครื่องทั้งหมดในราคาปรกติ 6,990 บาท แต่มีโปรโมชั่นลดราคาอีกหนึ่งพันเหลือแค่ราว 5,xxx บาท ซึ่งน่าจะเหมาะกับหลายท่านที่เล่นเกมหนักๆ จริงๆจัง ไปจนถึงสายแข่งกับคีย์บอร์ดที่ทนทานเชื่อถือได้
จุดเด่น
- ตัวคีย์บอร์ดแข็งแรงน้ำหนักเบา
- สามารถปรับการทำงานของแต่ละปุ่มได้อย่างละเอียด
- ไฟ RGB สามารถปรับการแสดงผลได้หลากหลายมาก
- สวิตช์แบบ red switch ของ SteelSeries เอง สามารถใช้งานได้ดี
- จอ OLED ช่วยปรับแต่งคีย์บอร์ดพร้อมโชว์การแจ้งเตือนได้
ข้อสังเกต
- สาย USB ใหญ่และหนามาก
- ขาตั้งปรับได้แค่ระดับเดียว
Steelseries APEX 7 จำหน่ายที่
- Banana IT,Advice,IT City,ACE Gamer,speed com,speed gaming,
- Munkonggadget,Power Buy,
Aptsoft,envisimple,Gump,It Friends - Elysium Gadget Ultimate
- Mercular, Shopee,Lazada,His,
JL Gaming,AV Value,VR KEMISTRY - Pro HIFI,JD Central,WTF และ Gadgetthai
ประกันกี่ 1 ปีครับ กรณีเสียสามารถติดต่อรับบริการได้จาก RTB ทางศูนย์บริการหากตรวจสอบอยู่ในเงื่อนไขประกัน หากเสียเปลี่ยนตัวใหม่ให้ครับ