Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

รีวิว ASUS VivoBook 15 D533UA สเปก Ryzen 5000U ราคา 21,990 บาท โน้ตบุ๊คทำงานจอ 15.6″ IPS แรงคุ้มสุดๆ ได้ Office แท้

ASUS VivoBook 15 D533UA รุ่นที่เรานำมาทดสอบนี้เป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องขายจริง ที่ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000U สถาปัตยกรรม Zen 3 โค้ดเนม “Cezanne” สถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร ที่แรงลื่นทรงพลังยิ่งกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ ทั้งทำงานและความบันเทิงดีขึ้น โดยแบตเตอรี่ยังสามารถใช้งานได้ยาวนาน ดีไซน์สวยด้วยหน้าจอ 15.6″ ปี 2021 มีความบางและเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม

ASUS VivoBook 15

Advertisement

วัสดุเป็นโลหะอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ให้ความพรีเมียมดูดีเกินราคา เจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์ สำหรับ ASUS VivoBook 15 D533UA เครื่องนี้ได้รับการออกแบบที่เหมือนกับรุ่นสเปก Ryzen 4000U เมื่อปีก่อน ซึ่งแม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แล้ว สเปคเน้นประสิทธิภาพที่มากกว่า

มาพร้อมกับความแตกต่างและสีสันหลากหลาย และได้ปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง โดยสเปกที่ได้รับมารีวิวในครั้งนี้เป็น AMD Ryzen 5 5500U การ์ดจออนชิปเป็น Radeon 7 ประสิทธิภาพดีขึ้นไปอีก ได้แรมขนาด 8GB และ SSD 512GB จอ 15.6″ IPS Full HD มี Windows 10 แท้ พร้อมมีโปรแกรม Office Home & Student 2019 ใช้งานติดเครื่องยาวๆ ส่วนประกันเป็นประกัน 2 ปี + ประกันอุบัติเหตุ 1 ปีตามมาตรฐานของ ASUS

VDO Review 

NBS Verdict

สรุปแล้ว ASUS VivoBook 15 D533UA ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคา 20,000 บาทต้นมากๆ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงเหมาะกับการทำงานทั่วไป หรือหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอ ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือถ้าจะเล่นเกมบ้างก็สามารถทำได้ดีลื่นไหล ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง กับราคา 21,990 บาท สำหรับรุ่น Ryzen 5 5500U เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานโน๊ตบุ๊คที่ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่ารุ่นเริ่มต้นทั่วไป

หรือถ้าใครอยากขยับงบขึ้นมาเป็น 26,990 บาท ก็ได้สเปกที่แรงกว่า อย่าง Ryzen 7 5700U พร้อมทั้งได้แรมมาเป็น 16GB ซึ่งมาก ส่วนตัวถึงว่าถ้างบถึงก็ซื้อเผื่อได้เลย เพราะเราไม่สามารถที่อัพเกรดแรมภายหลังได้เพราะเดิมๆ มาเป็นออนบอร์ดเท่านั้น จากสิ่งที่ได้ทั้งหมดนับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าไม่แพงแต่ได้สเปกที่ดีของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นในช่วงต้นปี 2021 ที่น่าซื้อไปใช้งานจริงๆ

ASUS VivoBook 15

โดยตัวเครื่องมีขนาดเล็กขอบจอบางเทียบและมีหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่มีมิติตัวเครื่อง น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมและบางเพียง 16.1 มิลลิเมตรเท่านั้น มีสีสัน Indie Black, Gaia Green, Resolute Red, Dreamy White โดยที่เราได้รับมารีวิวเป็นสีเขียว Gaia Green ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลืองโดดเด่น เรียกได้ว่าจะถูกใจวัยรุ่นเรื่องการสร้างสรรค์งานทีเดียว

เน้นเจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์ ใช้งานประมวลผลหนักๆ ได้ด้วย โดยบางงานทำได้ดีกว่า Gaming Notebook อย่างแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 12 – 13 ชั่วโมง การเชื่อมต่อก็เป็น Wi-Fi 6 AX ที่โดดเด่นสุดๆ เรื่องของคามคุ้มค่าพร้อมใช้งานก็คือ มีโปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 ทำให้ทำงานพวกงานเอกสารผ่านทาง Word / Excel / Power Point ได้ทันทีอีกด้วย 

ASUS VivoBook 15

จุดเด่น ASUS VivoBook 15

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14 นิ้ว
  • น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง วัสดุดี มีให้เลือก 4 สีสัน ตามสไตล์การใช้งาน
  • หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD พาเนล IPS ให้สีสันดีกว่า TN
  • ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
  • ใช้งานจริงลื่นไหลด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 5000U รุ่นใหม่ล่าสุดที่ดีกว่าทุกด้าน
  • สเปกอื่นๆ มีความแรงลื่นพร้อมใช้งานด้วยแรม 8GB / 16GB + SSD 512GB
  • ประสิทธิภาพดีขึ้นทั้งการทำงาน หรือเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล จากผลการทดสอบ
  • ลำโพง Harman Kardon เสียงคุณภาพดีกว่าทั่วไปแบบรู้สึกได้
  • เทคโนโลยี Fast Charging ที่ให้แบตเตอรี่เต็ม 60% ได้ใน 49 นาที
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดกว่า 12 – 13 ชั่วโมง
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งานทันที
  • ประกัน 2 ปีเคลมผ่าน 7-11 ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก

ข้อสังเกต ASUS VivoBook 15

  • หน้าจอพาเนล IPS อยู่ในระดับกลางๆ
  • แรมเป็นแบบฝังบอร์ด อัพเกรดเองไม่ได้เลย
  • ยังมีพอร์ต USB 2.0 Type-A มาให้ 2 ช่อง 
  • USB 3.2 Type-C ยังไม่รองรับการชาร์จไฟ

Specification

สเปกภายในของตัว ASUS VivoBook 15 D533UA ปี 2021 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นในราคาคุ้มค่า ด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 5500U ความเร็ว 2.10 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.00 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 6 คอร์ 12 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน และ Ryzen 7 5700U ที่ความเร็ว 1.80 – 4.3 ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธรด

เป็นสถาปัตยกรรม Zen 3 เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร  ซึ่งอัพเกรดหลายๆ ส่วนเมื่อเทียบกับ Ryzen 4000U ในส่วนของการ์ดจอออนชิป Radeon 7 ความเร็ว 1800 MHz ติดมากับ Ryzen 5 5500U ส่วน การ์ดจอออนชิป Radeon 8 ความเร็ว 1900 MHz ให้โดยจากความแรงของชิปประมวลผลที่ดีขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดีกว่า เล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหลกว่าเดิมอีกด้วย 

ASUS VivoBook 15

โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพดีอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 178 องศา พื้นผิวเป็นแบบด้านลดแสงสะท้อน ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB / 16GB DDR4 Bus 3200Hz ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน  สำหรับที่เก็บข้อมูลหลักเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB  อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น

นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.2 Type-C, USB 3.2 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Intel Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด 

ASUS VivoBook 15 D533UA-BQ001TS ราคา 21,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : AMD Ryzen 5 5500U (6C/12T & 2.10 – 4.00GHz)
  • GPU : AMD Radeon 7
  • RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
  • DISPLAY: 15.6″ Full HD IPS
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 Home
  • Software : Office Home & Student 2019
  • Warranty : 2 Years  + 1 Year Perfect Warranty

ASUS VivoBook 15 D533UA ราคา 26,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : AMD Ryzen 7 5700U (8C/16T & 1.80 – 4.30GHz)
  • GPU : AMD Radeon 8
  • RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
  • DISPLAY: 15.6″ Full HD IPS
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 Home
  • Software : Office Home & Student 2019
  • Warranty : 2 Years + 1 Year Perfect Warranty

Hardware / Design

ASUS VivoBook 15 D533UA รุ่นปี 2021 ยังคงมีโมเดลเหมือนกับรุ่นปี 2020 โดดเด่นด้วยสีสันสดใสรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 16.1 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีตามมาตรฐานสำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ปี 2020 – 2021 ที่ได้ความบางเบาที่มากกว่า

ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปใช้งานนอกสถานที่ก็ทำได้คล่องตัว ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอลูมิเนียมที่ให้ความพรีเมียมและแข็งแรงทนทาน ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS รุ่นนี้ จะมีฝาหลังและตัวเครื่องด้านในคนละสีกัน ตามสไตล์ของ VivoBook Series ที่มีความสวยงามตามสไตล์ทูโทนเน้นตอบโจทย์วัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่

ASUS VivoBook 15

โดยชิ้นส่วนใต้ตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ได้ดีไซน์ใหม่และสีสันใหม่ โดดเด่นด้วย 4 สี 4 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น สีดำ Indie Black, สีแดง Resolute Red, สีเขียว Gaia Green, สีขาว Dreamy White ซึ่งรุ่นที่เราได้รับมารีวิวนั้นเป็นสี Gaia Green ที่เป็นสีเขียวมรกตเล่นสีกับแสงที่สะท้อนมา ตรงนี้ถึงว่าเป็นจุดเด่นกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน

พร้อมดีไซน์ภายในแบบทูโทนโดยเป็นสีเงิน  ที่ตัวเครื่องยังมีขอบหน้าจอบางเฉียบ NanoEdge วัสดุเป็นพลาสติกสีดำที่ดูแล้วลงตัวกับงานประกอบอื่นๆ ส่งผลให้ ASUS VivoBook 15 D533UA มีขนาดตัวเครื่องที่กะทัดรัดกว่า ด้วยน้ำหนักเบาตัวเครื่องที่บาง สามารถใส่ในกระเป๋า หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ง่าย เหมาะกับสาวๆ หรือว่าหนุ่มๆ ทั้งหมด 

ASUS VivoBook 15 D533UA Review 3

นอกจากนั้นแล้วยังโดดเด่นด้วยปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ที่แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะกดปุ่ม Enter เพื่อบอกโลกถึงความเป็นตัวตนของเรา เรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่แตกต่างจาก Notebook รุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน เป็นการให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่สุดๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่มากมาย นับได้ว่าเป็นดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใครมาก่อน ซึ่งให้ความพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทุกๆ รุ่น เรียกได้ว่าเน้นตั้งใจตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ อย่างนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน โดยเฉพาะ

ส่วนของฝาหน้าจอที่เป็นอลูมิเนียมอัลลอยที่ดูแข็งแรงและสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามีโลโก้ ASUS VivoBook อย่างโดดเด่น ซึ่งชิ้นส่วนด้านล่างก็จะเป็นอลูนิเมียม ทำให้แม้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบากว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแต่ก็แข็งแรงทนทานเช่นกัน ส่วนตัวเครื่องด้านในก็เป็นอลูมิเนียมเช่นเดียวกันแต่สีสันต่างออกไป มีการนำเสนอพื้นผิวแบบเรียบเนียนสัมผัสดี

ASUS VivoBook 15 D533UA Review 37

สำหรับช่องระบายความร้อนถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าจอบริเวณบานพับ โดยเป็นการใช้งานพัดลมระบาย 1 ตัว ช่วยนำพาความร้อนชิปประมวลผลและการ์ดจอออนชิป ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าเอาอยู่ไม่ต้องกังวลมาก  ที่มีช่องดูดลมเย็นด้านล่างตัวเครื่องทำหน้าที่ร่วมกันเป็นอย่างดี ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ

ทำให้ไม่รบกวนการทำงานของเราขณะใช้งาน และออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็แทบไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย นับได้ว่า ASUS VivoBook 15 D533UA สเปก AMD Ryzen 5000U เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่มีสเปกที่ดี แรง คุ้ม ที่คาดว่าราคาไม่แพง แต่ ASUS ใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียดจริงๆ

 

Keyboard / Touchpad

ในส่วนของคีย์บอร์ดของตัวเครื่องติดตั้งเป็นปุ่มพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีเทา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือตัดขอบมน ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น พร้อมไฟส่องสว่างสีขาวทำให้เราใช้งานในที่แสงน้อยหรือมืดๆ ได้ดีกว่าไม่มี ซึ่งนับว่ากลายเป็นมาตรฐานที่ควรจะเป็นของโน๊คบุ๊คยุคนี้แล้ว 

ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก พร้อมแป้นตัวเลข Numpad ก็มีให้ใช้งานปกติ

ASUS VivoBook 15

ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีการเล่นสีสันเป็นสีมันวาวสะดุดตา พร้อมตัวทชแพดเองจะมีสีเข้มกว่าตัวเครื่องด้วย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชร่วมกับ Windows 10 ได้ลื่นไหลพอสมควร

Screen / Speaker

ASUS VivoBook 15 D533UA ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 15.6″ มีขอบที่บางมากเพียง 5.2 มม. ตามสไตล์ NanoEdge โดยให้พื้นที่หน้าจอถึง 86% ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS คุณภาพดีมุมมองกว้าง สีสันสดใส ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว

ASUS VivoBook 15 D533UA Review 5

แต่ถ้ามองมุมขึ้นลงหรือซ้ายขวาก็จะเห็นถึงความต่าง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″ ที่ให้สีจอที่ดีทีเดียว แน่นอนว่าแม้จะขอบจอบาง พร้อมติดตั้ง Webcam พร้อมไมโครโฟนไว้ตำแหน่งด้านบนตามปกติ

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS เครื่องนี้ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 61% และ AdobeRGB ที่ 46% 

เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับมาตรฐานในช่วงราคานี้ อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่จริงจังมากก็พอได้อยู่ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอ 2W x 2 เลือกใช้แบรนด์ Harman Kardon ให้เสียงที่ดีกว่าลำโพงทั่วไป มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนักบางๆ ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

ASUS VivoBook 15 D533UA ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.2 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ต (น่าจะให้มาสักสองพอร์ตก็จะดีมากๆ) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ตรงนี้นับว่าไม่ไดเรับการอัพเกรดไปจากรุ่นก่อนหน้าเลย

ASUS VivoBook 15

และมีพอร์ต USB 3.2 Type-C มาให้อีกหนึ่งพอร์ต ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน microSD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง แต่หากใครที่ต้องการใช้พอร์ท Lan คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง USB to Lan เอาเอง

ขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.8 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลกรัมนิดๆ ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 15.6″ แค่ตัวเครื่องก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไปแน่นอน

Inside / Upgrade

แกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ ASUS เครื่องนี้เพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมด หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี ระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 1 ตัว ฮีตไปป์ 1 เส้น พร้อมช่องระบายความร้อน 1 ช่อง ซึ่งดูแล้วอาจจะธรรมดา แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 5500U เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร ที่ร้อนน้อยแต่แรงลื่นอยู่แล้ว

ASUS VivoBook 15

เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นการติดตั้งแรมฝังบอร์ดมาแล้วขนาด 8GB แบบฝั่งบอร์ด มาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz ที่ไม่รองรับการอัพเกรดเพิ่มแต่อย่างใด รวมไปถึงเราเห็น SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่นอกจากนั้นยังมีอีก 1 สล็อตเพื่อรองรับการอัพเกรดเพิ่มด้วย กรณีที่ต้องการความจุเพิ่มเพื่อเก็บข้อมูลในอนาคต สเปกทั้งหมดนี้ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 4200mAh แน่นอนว่าเป็นส่วนให้ใช้แบตเตอรี่ได้ต่อเนื่องยาวนานด้วย

Performance / Software

ASUS VivoBook 15 D533UA สเปก Core i Gen 11 เครื่องขายจริงนี้เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลย เลือกใช้ชิป AMD Ryzen 5 5500U ที่มี 6 คอร์ 12 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 2.10 – 4.00 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 10W – 25W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิปในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรม Zen 3 เทคโนโลยีการผลิตที่ระดับ 7 นาโนเมตร

c1 3.   c2 3

กราฟิการ์ดหรือการ์ดจอนั้นเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon 7 มีความเร็วในการทำงานที่ 1800MHz มาตรฐานแรม DDR4 ขนาด 512MB ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ

g1 3   g2 3

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่า รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลรุ่นใหม่จริงๆ

cine151.   cine20 3

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจในระดับกลางๆ กับความเร็วในการอ่านและเขียนที่ Read: 2277 MB/s – Write: 1443 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุน HDD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ ทั้งการใช้งานทั่วไป และการใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการเล่นเกมต่างๆ อย่างไรก็ตามถือว่าให้ SSD สเปกความเร็วน้อยกว่าตระกูล ZenBook แต่ถ้าเทียบกับราคาถือว่าเหมาะสมแล้ว

ssd 3

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5,135 คะแนน (เทียบเท่ากับ Gaming Notebook ยิ่งขึ้นไปอีก) ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ ส่วนถ้าเอาไปใช้งานหนักๆ เช่นงานประมวลผล ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ภาพความละเอียดสูง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ซึ่งก็พอได้ แต่คงตอบสนองได้ไม่เท่าพวก Gaming Notebook หรือโน๊ตบุ๊คแรงๆ ที่ใช้ Ryzen ซีรีส์ H และการ์ดจอ GTX / RTX

pc10 3

จัดเต็มการทดสอบเกม คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 5500U ที่สามารถรีดพลังการ์ดจอออนชิป Radeon 7 ได้ดีกว่าเดิม ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD 512GB ก็ส่งผลช่วยด้วย

game test 2

ทดสอบเกมออนไลน์กินทรัพยากรอย่าง Overwatch / PUBG ปรับเป็น Low ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้น่าพอใจ อีกเกมเป็น DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบ Max Setting ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทพอได้เลย ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่

myasus

นอกจากนี้ทาง ASUS โน๊ตบุ๊คทุกรุ่นก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญยังเลือกปรับโหมดพัดลม การชาร์จ หน้าจอ และ Hotkey ได้อีกด้วย

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ ASUS VivoBook 15 D533UA เครื่องนี้เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 4200 mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้กว่า 12 – 13  ชั่วโมงต่อเนื่อง ในการปรับเป็น Power Saver Mode ใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร

ซึ่งจากผลการทดสอบนับได่ว่าทำได้ดีมากๆ เพราะไม่ใช่แค่แรง แต่ประหยัดพลังงานด้วย อย่างไรก็ตามปัจจัยในการใช้งานจริงอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ กรณี อย่างเช่นสภาพแวดล้อมหรือลักษณะการใช้งานด้วย มาพร้อมเทคโนโลยี Fast charging ที่ให้แบตเตอรี่เต็ม 60% ได้ใน 49 นาที

batt2 1

ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 60 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่ด้วยการเล่นเกมยาวๆ ทั้ง DOTA 2 / Overwatch / PUBG จะเห็นว่า CPU จะร้อนที่สุดที่ระดับ 96 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนเครื่องนี้ทำออกมาได้ดีประมาณนึง ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก ASUS ที่ออกแบบมาค่อนข้างดีด้วยพัดลมเพียง 1 ตัว รวมไปถึงชิปประมวลผลจาก AMD Ryzen ก็ควบคุมความร้อนได้ดีไม่ให้ความร้อนมีอุณหภูมิสูงจนเกินไป ทำให้การใช้งานจริงยาวนานต่อเนื่องแทบไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนเลย

temp 2

Conclusion / Award

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS VivoBook 15 D533UA ปี 2021 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล VivoBook รุ่นปีก่อน ที่เป็นสเปก AMD Ryzen 5000U ซึ่งมีความสดใหม่ในทุกๆ ด้าน ที่จะมาพร้อมกับการ์ดจอ Radeon ที่แรงขึ้นในทุกมิติ รวมไปถึงการเล่นเกมออนไลน์ด้วย พร้อมแบตเตอรี่การใช้งานที่มากยิ่งขึ้น 

ออกแบบมาเพื่อ Notebook ในรุ่นบางเบา ซึ่งตอบสนองอย่างยิ่งกับการสร้างคอนเทนต์ โดยสามารถเพิ่มความเร็วในด้านการทำงานออฟฟิศได้ดีขึ้น ด้วย AIPT (ASUS Intelligent Performance Technology) พร้อมความสามารถในการประมวลผลให้ประสบการณ์ใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากการที่ทดสอบใช้งานจริงนับได้ว่าเรื่องของประสิทธิภาพโดยรวมมีความประทับใจมากๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าดีไซน์ของฟีเจอร์หลายๆ จุดไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นก่อนหน้าเลย

ASUS VivoBook 15

ด้วยงานดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ยังเหมือนกันรุ่นสเปก Ryzen 4000U ซึ่งก็มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน พร้อมปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง ซึ่งมีความสวยงามลงตัว แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ชัดเจน แต่ก็ยังไม่ต่างจากรุ่นปีก่อนๆ ซึ่งถ้าใครไม่คิดอะไรก็ข้ามส่วนนี้ไปได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีหน้าจอที่คุณภาพขอบเขตสีอยู่ในเกณฑ์เดิม คือ เน้นสำหรับการใช้งานพื้นฐาน กับราคา 21,990 บาท เน้นการใช้งานที่ประสิทธิภาพต่อราคาคุ้มค่า สำหรับนักเรียนนักศึกษาคนทำงานอยู่แล้ว ก็ถือว่ายอมรับได้

ASUS VivoBook 15 D533UA Review 26

การรับประกันก็ตามมาตรฐานของ ASUS ที่แม้ว่าจะไม่ออนไลน์อย่างหลายๆ แบรนด์ แต่ก็สามารถเคลมผ่านทาง 7-11 ได้ระยะเวลา 2 ปี หรือจะส่งซ่อมศูนย์ฝากร้านเองก็สามารถทำได้สะดวกไม่แพ้กัน รวมไปถึงในปีแรกแค่เราลงทะเบียนก็จะได้ประกันอุบัติเหตุในปีแรก อย่าง Perfect Warranty แล้ว ถือว่าได้อยู่เพราะก็มีจุดเด่นต่างกันออกไป ให้เราได้ตัดสินใจเลือกอีกที

ปิดท้ายข้อสังเกตก็มีเล็กน้อยคือเรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อที่ยังให้ USB 2.0 Type-A มา 2 พอร์ต รวมถึงมีแรมติดเครื่องเป็นออนบอร์ด ทำให้ไม่สามารถอัพเกรดได้ และ SSD ที่ติดเครื่องความเร็วน้อยไปหน่อย อีกทั้งเรื่องของความร้อนเมื่อใช้งานหนักๆ ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างสูงก็จริง แต่ในแง่ของการใช้งานแล้ว ไม่มีผลอะไรต้องกังวล เอาเป็นว่าในงบ 20,000 ต้นๆ จัดว่า ASUS VivoBook 15 D533UA เป็นตัวเลือกแรกๆ เลยก็ว่าได้สำหรับโน๊ตบุ๊คบางเบาเน้นความคุ้มค่าหน้าจอ 15.6″ 

ASUS VivoBook 15

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS VivoBook 15 D533UA ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Performance

ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 5000U ประสิทธิภาพแรงเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป ได้ทั้งตวามแรงที่มากขึ้น ความร้อนที่ลดน้อยลง โดยมีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB DDR4 Bus 3200MHz แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไรสำหรับการใช้งานพื้นฐาน ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลสำหรับเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรไม่มาก หรือว่าที่เกมที่เก่าหน่อย

award new performance

Best Mobility

การพกพาของ ASUS VivoBook เครื่องนี้อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางและน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม บางที่ 16.1 มิลลิเมตร ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวกให้มิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แบตเตอรี่ก็ยาวนานกว่าเกือบ 13 ชั่วโมงทีเดียว ซึ่งในการนำไปใช้งานนอกสถานที่อย่างจริงจัง เชื่อได้ว่าหลายๆ คนส่วนมากต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน

award new mobility

Best Value

ด้วยราคาค่าตัวที่เริ่มต้น 21,990 บาท แต่ได้ในส่วนของสเปกและฟีเจอร์ที่ครบถ้วนสำหรับการเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานบางเบาขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่ต้องบอกว่าเมื่อเทียบกับสิ่งได้ นับว่ามีความคุ้มค่าน่าซื้อมากๆ อีกทั้งได้ในเรื่องของความพรีเมียมและเรียบหรูมากกว่าหลายๆ รุ่นในราคาใกล้เคียง และด้วยการสีสันให้เลือกถึง 4 เฉด ทำให้เราเลือกตามไลฟ์สไตล์ได้เลย ที่สำคัญนอกจากได้ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานแล้ว ยังได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 ที่ประกอบไปด้วย Word / Excel / Power Point เรียกได้ว่าเหมาะกับนักเรียนนักศึกษามากๆ เพราะไม่ต้องไปเสียเงินไปซื้อเพิ่มแต่อย่างใด

award new value

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ปีนี้นับเป็นปีที่ซีพียูโน้ตบุ๊กของ AMD มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัด และมีความน่าสนใจในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยที่ยังคุมการใช้พลังงานและความร้อนได้ดี ทำให้เราได้เห็นการนำซีพียู AMD ไปใช้ทั้งในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตั้งแต่สเปคระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับท็อป รวมถึงในกลุ่มเครื่องเกมพีซีพกพาด้วย แต่ที่จะเด่นชัดสุดคงหนีไม่พ้นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีโค้ดเนมว่า AMD Strix Point หรือในชื่อที่ใช้จริงนั่นคือ AMD Ryzen AI 300 series นั่นเอง

Special Story

สำหรับการเล่นเกม แน่นอนว่าพลังประมวลผลกราฟิกจาก GPU คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เพราะจะเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงระดับประสิทธิภาพว่าจะสามารถเรนเดอร์ภาพออกมาได้สวย เฟรมเรตสูง ความหน่วงต่ำขนาดไหน ทำงานร่วมกับ CPU และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในเครื่อง ซึ่งถ้าทั้งระบบสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นไปด้วย นอกจากนี้เหล่าผู้ผลิตเองก็มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพลังกราฟิก โดยที่ยังลดภาระของฮาร์ดแวร์ลงด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ AFMF 2 เทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD นั่นเอง

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก