แนะนำแอพอัดเสียงร้องเพลงบนมือถือ ทั้ง iOS และ Android โหลดฟรี ใช้ง่ายสุดๆ
การใช้แอพอัดเสียงบนมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการอัดเสียงจากการเรียน การทำงาน เสียงพากย์ เสียงบรรยาย หรือแม้กระทั่งการอัดเสียงร้องเพลงของตัวเองในยุคนี้ ก็สามารถใช้แอพอัดเสียงบนสมาร์ทโฟน ที่เราใช้งานอยู่ได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปซื้อเครื่องอัดเสียงมาเพิ่ม เพียงแค่มีมือถือสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ก็ใช้แทนไมค์ หรืออุปกรณ์อัดเสียงได้แล้ว
การอัดเสียงบนมือถือสมาร์ทโฟนในสมัยนี้ ถึงแม้ว่าในระบบจะมีแอพที่สามารถอัดเสียงได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบนระบบ iOS หรือ Android แต่จะทำได้เพียงแค่การอัดแบบปกติ ก็คืออัดได้แค่เพียงเสียงอย่างเดียว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย อย่างน้อยก็ยังสามารถตัดต่อ และแก้ไขเสียงที่บันทึก หรือแชร์เสียงที่อัดได้อยู่บ้าง แต่จะไม่ได้มีฟีเจอร์นอกเหนือไปจากการใช้งานทั่วไปเลย การมีแอพที่ถูกพัฒนาให้มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย จึงเป็นตัวเลือกที่น่าใช้งานมากขึ้น ยิ่งเป็นแอพที่อัดเสียงร้องเพลงได้ด้วย ก็จะยิ่งช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ แถมบางแอพยังสามารถร้องคาราโอเกะกับคนอื่น ๆ ได้อีกด้วย ทีมงาน NotebookSPEC เลยจะมาแนะนำ 7 แอพสำหรับอัดเสียง ทั้งเสียงร้องเพลง และอัดเสียงเพื่อไปใช้งานอย่างอื่นได้ด้วย
7 แอพอัดเสียงร้องเพลงบนมือถือ ทั้ง iOS และ Android
สำหรับแอพที่เราจะเอามาแนะนำกันในวันนี้ทั้ง 7 แอพนั้น จะเป็นแอพที่รวมระหว่างแอพอัดเสียงร้องเพลง และแอพอัดเสียงแบบทั่วไป ซึ่งคุณสมบัติหลัก ๆ เลยก็คือการอัดเสียง เพื่อให้ได้เสียงที่ดีและชัดเจนที่สุดทั้งบน iOS และ Android ส่วนเรื่องของการตัดเสียงรบกวนภายนอก ส่วนใหญ่แอพตัวแอพทุกอัน ก็จะทำออกมาได้ดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสียงลมหรือเสียงซ่า แต่ก็ต้องระวังไว้ด้วยว่า การอัดเสียงนั้นจะต้องอย่ในสถานที่ที่เงียบอยู่แล้ว เพราะบางแอพก็ออกแบบมาเพื่อแทนเสียงไมค์ ที่อยู่ภายในห้องอัดเสียงเลย ไม่ว่าจะเป็นเสียงก๊อกแก๊กเบา ๆ ก็จะเก็บเข้าไปด้วยทั้งหมด ดังนั้นก่อนจะอัดเสียงเพื่อร้องเพลง หรืออัดเสียงเพื่อไปทำคลิปต่าง ๆ ก็ต้องระวังตรงนี้ด้วยเหมือนกัน ส่วนแอพทั้ง 7 แอพนั้นจะมีอะไรบ้าง ก็ตามไปดูกันเลย
1. Joox
มาเริ่มกันที่แอพตัวแรกกันเลย เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกันดีกับแอพนี้อยู่แล้ว เพราะว่าเป็นแอพฟังเพลงที่ฮิตมาก เป็นอันดับต้น ๆ ในเมืองไทยเราเลย ซึ่งแต่ก่อนตอนช่วงแรก ๆ Joox ยังคงเป็นแอพที่สตรีมมิ่งเพลงอย่างเดียว แต่ต่อมาเริ่มมีคนใช้งานกันมากขึ้น จึงได้มีการพัฒนาให้คนที่ใช้งาน สามารถร้องเพลงได้ด้วย เราจะมาพูดถึงตรงส่วนนี้กัน ไม่ได้พูดถึงเรื่องการฟังเพลงปกตินะ โดยฟีเจอร์สำหรับอัดเสียงร้องเพลงนั้น จะต้องเข้าไปยังเมนู Buzz ก่อน และจะมีอยู่หลักๆ 2 ฟีเจอร์ ก็คือฟีเจอร์ที่เป็นหน้าฟีดสำหรับตัวเราเอง ซึ่งจะเป็นคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่คนในแอพได้ทำขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง ดวลร้องเพลง หรือการทำคลิปสั้น ๆ (ออกแนวคล้าย TikTok)
ส่วนอีกฟีเจอร์นึงก็คือ ฟีเจอร์ที่ให้เราร้องเพลงได้ ไม่ว่าจะเป็นการร้องเดี่ยว หรือว่าร้องคู่ ที่แอพจะหาคนที่ต้องการร้องคู่แบบเดียวกับเรา และสุ่มมาจับคู่ให้เพื่อโชว์พลังเสียงกัน หรือเราจะเข้าไปเลือกร้องคู่กับศิลปินที่มีอยู่ในแอพก็ได้นะ ถ้าคิดว่าไม่อยากจะร้องกับคนอื่น ส่วนเพลงที่ร้องนั้นก็สามารถเลือกได้เช่นกัน ว่าจะร้องแค่ท่อนฮุค หรือร้องทั้งเพลง เลือกได้ด้วยว่าจะเปิดกล้อง หรือจะอัดแค่เสียงอย่างเดียว หลังจากที่ร้องและอัดเสียงเรียบร้อยแล้ว จะบันทึกไว้ฟังคนเดียว หรือจะโพสต์ลงเป็น Story ในแอพ หรือแชร์ลง IG ได้ด้วย ถือว่าเป็นแอพสำหรับคนที่อยากอัดเสียงร้องเพลงตามจังหวะดนตรีได้ดีมากๆ เลย ใครสนใจก็ลองโหลดไปฝึกร้องเพลงกันได้เลย
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Android: ดาวน์โหลดแอพ Joox
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน iOS: ดาวน์โหลดแอพ Joox
2. StarMaker
แอพต่อมาก็เป็นแอพที่ฮิตมากเหมือนกัน เพราะว่าเป็นแอพอัดเสียงร้องเพลงโดยตรงเลย ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ทำออกมาเพื่อคนที่ชอบร้องเพลงโดยเฉพาะ ซึ่งแอพนี้ก็ไม่ได้จำกัดการเล่น หรือดูได้แค่เพียงของคนไทย แต่คนต่างชาติก็สามารถเข้ามาเล่น หรือให้เราเข้าไปดูได้ด้วยเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนไทย กับเพื่อนบ้านเรานี่แหละ ฟีเจอร์ของแอพนี้จะแบ่งเป็น 4 ฟีเจอร์หลัก ก็คือฟีเจอร์ที่เราสามารถเข้าไปดูคนอื่น ๆ ได้บนไทม์ไลน์ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอที่คนร้องเพลง และมียอดคนดูเยอะ หรือว่าเพลงใหม่ๆ ที่เข้ามาในแอพ ส่วนต่อมาก็คือ การร้องเพลงแบบ Party ที่ให้เราสามารถเข้าไปร้องเพลงร่วมกับคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องนั้น และร้องเป็นกลุ่มๆ ได้
แต่ฟีเจอร์ที่ให้เราอัดเสียง และร้องเพลงได้นั้นจะแยกออกมาเลย โดยที่เราจะเลือกได้ว่าอยากร้องแบบคู่ หรือแบบเดี่ยว ไลฟ์โชว์ก็ได้นะ ซึ่งการร้องเพลงในแอพ ก็จะเหมือนการร้องคาราโอเกะเลย ที่มีดนตรีขึ้นมา พร้อมกับเนื้อเพลงให้ร้องตาม ถ้าร้องถูกคีย์ก็จะได้เกรดที่ดี หลังจากนั้นจะบันทึกออกมา หรือว่าแชร์ไปยังที่อื่นได้ด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแอพที่เอาไว้อัดเสียงร้องเพลงได้ และยังเก็บเอาไว้ฝึกเสียงกับทำนองที่ถูกต้องได้ด้วย ใครอยากฝึกร้องเพลงจะโหลดมาลองก็ได้นะ
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Android: ดาวน์โหลดแอพ StarMaker
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน iOS: ดาวน์โหลดแอพ StarMaker
3. WeSing
มาที่แอพตัวต่อไปกันเลย ซึ่งยังคงอยู่กับแอพอัดเสียงร้องเพลง ที่ออกแนวคาราโอเกะอยู่เหมือนเดิม โดยการใช้งานของแอพนี้ ก็จะเหมือนแอพตัวข้างบนเลย ตรงที่เราสามารถเข้าไปฟังเพลงที่คนอื่นร้องได้ทั่วโลก แต่อันนี้จะมีฟีเจอร์ ที่ทำให้เราหาคนที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อเข้าไป Follow กับเค้าได้ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ ที่ให้เราได้เข้าไปร่วมร้องแบบ Party กับคนอื่น ๆ หรือจะเข้าไปดูแบบ KTV, Live และร้องเดี่ยวโชว์ได้เช่นกัน ส่วนการอัดเสียงร้องเพลงแบบหลัก ๆ ก็คือการร้องแบบคู่ Acappella หรือร้องแบบเดี่ยว ที่เราสามารถหาเพลงมาร้องเป็นคาราโอเกะ
แต่แอพนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีแค่ท่อนฮุคให้เลือก ต้องร้องเต็ม ๆ เพลงไปเลย แต่สามารถกดหยุดได้ทุกเมื่อที่ต้องการนะ เมื่ออัดเสียงร้องเรียบร้อยแล้ว จะเอามาแต่งเสียงใส่เอฟเฟคเข้าไปด้วย เพื่อทำให้เสียงดูไม่สดจนเกินไป ก็ทำได้ด้วยเหมือนกัน หลังจากนั้นก็โพสต์ลงไปเก็บไว้ในหน้าของเราเอง แต่ก่อนจะเก็บได้ก็ต้องร้องเพลงให้ได้คะแนนสงระดับนึงก่อนด้วย ไม่งั้นจะไม่สามารถบันทึกได้ ใครที่อยากฝึกร้องเพลง ลองโหลดแอพนี้มาใช้งานก็พอได้อยู่ แต่ถ้าใครที่อยากฝึกแบบสั้น ๆ แอพนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะต้องร้องทั้งเพลงเลย แต่ถ้าใครชอบการ Live จะร้องให้คนอื่นฟังไปด้วยก็ได้นะ
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Android: ดาวน์โหลดแอพ WeSing
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน iOS: ดาวน์โหลดแอพ WeSing
4. Dolby On : Record Audio & Music
มาที่แอพอัดเสียงจริง ๆ กันบ้างดีกว่า สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบร้องให้คนอื่นฟัง หรือว่าไม่ได้อยากจะร้องเข้าสังคม ถึงขั้นขนาดแอพที่เป็นคาราโอเกะแบบแอพก่อนหน้านี้ ซึ่งนี้ทำขึ้นมาอย่างเป็นทางการของ Dolby เลย ถ้าใครที่เป็นสายดูหนังน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ฟีเจอร์หลัก ๆ ของแอพอัดเสียงตัวนี้จะมีอยู่ 3 อย่าง แบบแรกก็คือการอัดวิดีโอที่เหมือนกับกล้องทั่วไป และการสตรีมที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกับ Twitch เว็บสตรีมชื่อดัง โดยทาง Dolby ได้บอกเองเลยว่าให้ใช้ไมค์จากแอพนี้ และใช้งานกับ Stream จะทำให้เสียงที่ออกมาโปรมาก ๆ เลย
แต่ถ้าใครไม่ได้จะเอาไปสตรีม ก็สามารถใช้ฟีเจอร์อัดเสียงจากทางแอพได้เลย เมื่ออัดเสียงเสร็จแล้ว จะสามารถเปลี่ยนเสียงใส่เอฟเฟค หรือทำการตัดต่อเสียงได้จากในแอพเลย แถมยังแชร์ออกไปยัง Social Media ต่าง ๆ ได้ด้วย สะดวกต่อการใช้งานค่อนข้างมาก โดยแอพนี้จะเน้นไปที่เสียงเราเป็นหลักทำให้เสียงที่ออกมาชัดเจน ไม่มีเสียงรบกวนแทรก แต่แนะนำว่าควรอยู่ในที่ ที่ค่อนข้างเงียบหน่อย เพราะว่าตัวแอพจะเก็บเสียงได้ดีมาก จึงทำให้ทุกเสียงที่ดังออกมา นอกจากเสียงพูดสามารถเข้าไปได้ง่าย โดยรวมแล้วเป็นแอพที่อัดเสียงได้เทพหนึ่งแอพเลย
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Android: ดาวน์โหลดแอพ Dolby On : Record Audio & Music
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน iOS: ดาวน์โหลดแอพ Dolby On : Record Audio & Music
5. Smart Recorder – High-quality voice recorder
แอพอัดเสียงยอดนิยมตัวต่อมานี้ ได้รับการดาวน์โหลดมาแล้วมากกว่า 40 ล้าน และยังได้คะแนนรีวิวที่ดีมาก ๆ อีกด้วย เนื่องจากตัวแอพนั้นใช้งานได้ง่าย เพียงแค่กดแอพเข้ามาก็จะเจอกับหน้า ที่เอาไว้สำหรับอัดเสียงเลย เหมาะมากกับคนที่ต้องการ นำแอพไว้เพื่ออัดเสียงขณะประชุม หรือว่าเอาอัดเสียงตอนเรียน ก็สามารถใช้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลามาคอยหาฟีเจอร์อัดเสียงเลย ความยาวในการอัดเสียง ก็ขึ้นอยู่กับว่ามือถือที่ใช้งานอยู่นั้น มีความจุเหลือมากน้อยแค่ไหน คุณภาพเสียงที่ทำออกมา ก็ทำออกมาได้ใสมาก ๆ ถ้าได้อัดในห้องที่เงียบ ๆ ถ้าต้องการอัดเสียงเพื่อทำคลิป หรือว่าร้องเพลงก่อนเอาไปตัดต่อ แอพก็นี้ก็ทำเสียงออกมาได้ดีมากเลยด้วย
นอกจากนี้ภายในแอพยังสามารถตั้งค่าได้อีกด้วย ทั้งการตั้งค่าเสียงตั้งแต่ 8kHz (Phone), 22kHz (FM radio) ถึง 44.1kHz (CD) กันเลยทีเดียว ไม่ต้องห่วงเลยว่าคุณภาพเสียงที่ออกมาจะดีมากแค่ไหน ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือฟีเจอร์ที่สามารถปิดการรบกวนได้ หากมีคนโทรเข้ามาขณะที่อัดเสียงอยู่ หรือว่าจะให้หยุดอัดขณะที่มีคนโทรเข้ามาก็ได้ ช่วยให้การอัดเสียงมีความหลากหลาย และใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ไม่ชอบจด และชอบใช้เสียงในการบันทึกแทน แอพนี้ตอบโจทย์การใช้งานที่สุดแล้ว แต่ตอนนี้แอพมีให้ใช้งานแค่เพียงบนระบบ Android เท่านั้น ของ iOS ยังไม่มีออกมา ถึงแม้ว่าจะมีชื่อที่คล้ายกันก็ตาม
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Android: ดาวน์โหลดแอพ Smart Recorder – High-quality voice recorder
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน iOS: ไม่มีแอพพลิเคชันสำหรับดาวน์โหลด
6. บันทึกเสียง Pro – อัดเสียง
มาที่ฝั่ง iOS กันบ้าง กับแอพอัดเสียงที่มียอดดาวน์โหลดแล้วมากกว่า 60 ล้านเครื่อง และยังติดอันดับต้น ๆ ของแอพที่ช่วยอำนวยความสะดวกอีกด้วย (ในด้านอัดเสียงนะ) ด้วยความที่แอพตัวนี้ สามารถใช้งานได้ง่าย และสะดวกมาก สำหรับคนที่ใช้ระบบ iOS อยู่ เพราะว่าตัวแอพไม่ได้ทำออกมาให้ใช้งานได้เฉพาะมือถือของ Apple เท่านั้น แต่ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อกัน เพื่อใช้ในการอัดเสียงได้ด้วย อย่างเช่น iPad, iPod หรือแม้กระทั่ง Apple Watch ก็เชื่อมต่อได้เหมือนกัน ก็คือแค่โหลดแอพนี้ไว้ในตัวเครื่อง ในทุกอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ รวมถึง Apple Watch เพียงเท่านี้เราก็สามารถกดอัดเสียงได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว เมื่ออัดเรียบร้อยแล้ว จะนำมาตัดต่อเสียงภายในแอพก็ทำได้ด้วย
ความเทพของแอพไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะยังมีฟีเจอร์การอัดอีก 4 แบบ แบบแรกก็คือการอัดพร้อมกับเสียงเบื้องหลัง หรือว่าเสียงเพลงที่เปิดขึ้นมา และให้เราร้องเพื่อให้เข้ากับจังหวะก็ได้ แบบที่สองคือการตั้งเวลาในการอัดเสียง ที่เราสามารถกำหนดความยาวของการอัดเสียงได้ แบบที่สามจะเป็นการอัดเสียง โดยผ่านการใช้งาน Bluetooth อย่างเช่น AirPods หรืออุปกรณ์ที่เชื่อต่อ Bluetooth กับเครื่องได้ และแบบสุดท้ายคือการอัดเสียงเฉพาะเมื่อเราพูดเท่านั้น แอพนี้สามารถเปลี่ยนรูปแบบการบันทึกไฟล์ได้ด้วยนะ ไม่ได้จำกัดเพียง MP3 อย่างเดียว เผื่อใครอยากได้ไฟล์เสียงไปใช้ในการตัดต่องานในระดับสูงๆ ก็ทำได้ เหมาะสำหรับทุกการใช้งานอย่างแท้จริง
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Android: ไม่มีแอพพลิเคชันสำหรับดาวน์โหลด
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน iOS: ดาวน์โหลดแอพ บันทึกเสียง Pro – อัดเสียง
7. Voice Changer Voice Recorder
มาถึงแอพตัวสุดท้ายกันแล้ว แอพนี้จะมีแค่เพียงบนระบบ Android เท่านั้นนะ ซึ่งแอพนี้ค่อนขางเป็นแอพที่ได้รับความนิยม และได้คะแนนรีวิวดีมากเช่นกัน เนื่องจากมีฟีเจอร์ที่เจาะจงต่อการใช้งานไปเลย ว่าไม่ใช่มีดีเพียงแค่การอัดเสียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถทำเสียงให้เป็น Auto Tune สำหรับคนที่อยากร้องเพลงได้ด้วย หรือมากไปกว่านั้นก็คือ ทำเสียงให้เป็นเสียงที่แตกต่างจากเดิมมาก ๆ ไปเลย อย่างเช่น เสียงเอเลี่ยน หุ่นยนต์ มินเนี่ยน เสียงคาราโอแกะ เสียงคอรัส เสียงเครื่องเล่นเก่า และเสียงอื่น ๆ อีกเยอะพอสมควรเลย แต่ถ้ายังไม่ถูกใจ ก็สามารถ Custom เสียงของตัวเองก็ได้นะ อัดเสียงเรียบร้อยแล้วก็บันทึกมาใช้งานได้เลย
นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มเสียงจากในมือถือเรา หรือใส่เสียงเพิ่มเข้าไปในแอพได้ด้วย และฟีเจอร์อีกอย่างก็คือ Voice Message ที่จะมีไอคอนขึ้นมาข้างหน้าจอมือถือ เพื่อให้เรากดอัดเสียงได้อย่างรวดเร็ว สะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลามาเข้าแอพ แค่เพียงกดจากไอคอนก็อัดเสียงได้เลย แต่ถ้าอัดเสียงไว้อยู่แล้ว และต้องการส่งไปให้คนอื่นฟัง ก็กดที่ไอคอนนี้และทำการส่งไปได้ในทันที เป็นอีกตัวเลือกในการอัดเสียง สำหรับคนที่ต้องการความหลากหลายในการอัดเสียงมากขึ้น
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน Android: ดาวน์โหลดแอพ Voice Changer Voice Recorder
- ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน iOS: ไม่มีแอพพลิเคชันสำหรับดาวน์โหลด
ตารางเปรียบเทียบแต่ละแอพพลิเคชัน
แอพพลิเคชัน | ระบบที่รองรับ | สิ่งที่น่าสนใจ |
---|---|---|
1. Joox | Android, iOS | – เป็นแอพที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในไทย – เป็นแอพสำหรับฟังเพลงที่อัดเสียงร้องเพลงได้ด้วย ทำให้มีเพลงให้เลือกเป็นจำนวนมาก – สามารถดวลกับผู้ใช้งานคนอื่นๆ ได้ด้วย – ร้องเดี่ยวและร้องคู่ได้ |
2. StarMaker | Android, iOS | – เป็นแอพสำหรับอักดเสียงร้องเพลงโดยเฉพาะ – สามารถเข้าไปดูผู้ใช้งานอื่นได้ – สามารถร้องเพลงร่วงกับคนอื่นๆ ได้แบบ Party รวมไปถึงการร้องกลุ่ม – มีฟีเจอร์การไลฟ์ร้องเพลง |
3. WeSing | Android, iOS | – มีความคล้ายคลึงกับการร้องคาราโอเกะ – มีฟีเจอร์หาคนที่อยู๋ใกล้ๆ เพื่อเข้าไป Follow ได้ – มีฟีเจอร์การร่วมร้องเพลงแบบ Party – มีฟีเจอร์การไลฟ์ร้องเพลง – สามารถแต่งเสียงใส่เอฟเฟคได้ |
4. Dolby On : Record Audio & Music | Android, iOS | – เป็นแอพพลิเคชันจาก Dolby โดยตรง – สามารถทำงานร่วมกับ Twitch, Stream ได้ – สามารถใส่เอฟเฟคเสียงได้ – เน้นเสียงของเราเป็นหลัก ทำให้เสียงออกมาชัดเจน |
5. Smart Recorder – High-quality voice recorder | Android | – เหมาะสำหรับการอัดเสียงร้องเพลง อัดเสียงขณะประชุม ฯลฯ – ใช้งานได้ง่าย กดอัดได้เลย ไม่ซับซ้อน – สามารถอัดได้นานตามต้องการ – สามารถตั้งค่าเสียง ตั้งแต่ 8kHz (Phone), 22kHz (FM radio) ถึง 44.1kHz (CD) – มีฟีเจอร์ปิดการรบกวน |
6. บันทึกเสียง Pro – อัดเสียง | iOS | – สามารถเชื่อมต่อได้กับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น iPad, iPod หรือ Apple Watch – สามารถตัดต่อเสียงได้ภายในแอพ – สามารถอัดพร้อมเสียงพื้นหลัง อัดแบบตั้งเวลา อัดเสียงผ่านการใช้ Bluetooth และอัดเสียงเฉพาะเมื่อเราพูด |
7. Voice Changer Voice Recorder | Android | – สามารถทำเสียงให้เป็น Auto Tune ได้ – สามารถใส่เอฟเฟคเสียงได้ ไม่ว่าจะเป็น เสียงหุ่นยนต์ เอเลี่ยน มินเนียน ฯลฯ – สามารถ Custom เสียงของตัวเองได้ – มีฟีเจอร์ Voice Message เพื่อให้สามารถกดอัดเสียงได้อย่างรวดเร็ว |
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นแอพอัดเสียงทั้ง 7 แอพที่เราได้เอามาฝากกัน จะเห็นได้ว่าแต่ละแอพก็จะมีข้อดีที่แตกต่างกันไป อย่างแอพ 3 แอพแรกนั้นจะเน้นไปทางเรื่องของการร้องเพลง ร้องคาราโอเกะเป็นส่วนใหญ่ จึงอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ต้องการอัดเสียงไปใช้งานจริง ๆ หรือเอาไปอัดเสียงขณะเรียน หรือประชุมได้ จะทำได้ก็เพียงแค่การอัดเสียงเพื่อร้องเพลงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถ้าใครที่อยากนำไปใช้เพื่ออัดเสียงปกติ หรืออัดเพียงแค่เสียง และนำไปตัดต่อเข้ากับเพลง หรือตัดต่อกับงานหลังจากที่อัด ก็ให้เลือกเป็นแอพที่สามารถใช้งานทางด้านนี้โดยเฉพาะ ที่ไม่ได้จำกัดแค่ร้องเพลงอย่างเดียว เช่น Dolby และแอพที่มีเฉพาะระบบทั้งหลาย ที่เราได้แนะนำไปทั้งหมดนี้
ความจริงแล้ว ยังมีแอพที่สามารถอัดเสียงได้อีกเยอะมาก จากทั้งสองระบบ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีแค่การอัดเสียงแบบปกติ ที่ไม่ค่อยต่างจากตัวแอพที่มีบนเครื่องอยู่แล้ว เราจึงคัดเลือกมาเพียงแค่แอพที่มีการใช้งานอย่างหลากหลาย เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้งานของทุกคนให้มากที่สุด