Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

รีวิว ASUS ZenBook 13 UX325 จอ OLED 13.3″ ดีที่สุด สเปก i5-1135G7 แรงลื่นพกพาสะดวก ได้ Office แท้ ประกัน 3 ปี On-site ราคาคุ้ม 28,990 บาท

ASUS ZenBook 13 UX325 เป็น Intel Notebook รุ่นใหม่ สเปก Core i Gen 11 Tiger Lake สายทำงานบางเบารุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 13.3″ ราคาถูกที่สุด โดดเด่นด้วยความบางเฉียบสุดๆ เพียง 13.9 มม. และเบามากๆ ที่น้ำหนัก 1.11 กก. เท่านั้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์การพกพาแต่รองรับการใช้งานรอบด้าน มาพร้อมพอร์ทเชื่อมต่อครบครัน

โดดเด่นด้วยการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 4 ที่เป็นพอร์ตที่ดีที่สุด 2 พอร์ต โดยมีราคาเพียง 28,990 บาท อีกทั้งนำเสนอนวัตกรรมขอบจอบาง 4 ด้าน ให้อัตราส่วนขนาดจอต่อตัวเครื่องที่ 88% พร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 19 ชม. พร้อมดีไซน์ใหม่ในสีเทา อย่าง Pine Grey ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร 

Advertisement

ASUS ZenBook 13

สเปกชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ซึ่งในตอนนี้มีสเปกเดียวคือ Intel Core i5-1135G7 ที่มี AI ช่วยประมวลผล พร้อมการ์ดจอออนชิปใหม่ Intel Iris Xe Graphics ได้หน่วยความจำแรมสูงสุดที่ 8GB ส่วนที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 ความจุ 512GB หน้าจอเป็นความละเอียด Full HD พาเนล OLED สีสันสวยงาม ขอบเขตดีที่สุดในราคาใกล้เคียงกัน

ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home แท้ใช้งานได้ทันที และโปรแกรม Microsoft Office Home and Student 2019 ทำให้เราใช้งานเอกสาร Word / Excel / Power Point ได้ฟรีๆ ด้วย ได้การรับประกัน 3 ปี On-site Service และประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty ในปีแรกมาให้อีกด้วย แต่ตัวเครื่องเองก็ผ่านการทดสอบเรื่องความทนทานระดับ US MIL-STD 810G military-grade standard มาอยู่แล้ว

NBS Verdict

ASUS ZenBook 13 UX325 เป็นโน๊ตบุ๊คสายบางเบาจอดีจอสวยที่สุดจากการที่เป็นพาเนล OLED ซึ่งดีกว่า IPS แน่นอน ได้สเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake รุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง Core i5-1135G7 เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร SuperFin ซึ่งมาพร้อมความแรงที่มากขึ้นและพลัง AI ช่วยทำงานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ อาทิ Word, Excel, Power Point หรือ Photoshop / Premiere Pro ที่ทำให้งานที่เราทำนั้นลื่นไหลและไวกว่าเดิม

อีกทั้งมีการ์ดจอออนชิป Intel Iris Xe Graphics ที่ประสิทธิภาพใกล้เคียงการ์ดจอแยก ทำงานร่วมกับแรมขนาด 8GB LPDDR4X และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ที่ทำงานได้รวดเร็ว ซึ่งเพียงพอกับการใช้งาน อีกทั้งยังได้โปรแกรม Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่ากว่า 4,299 บาท รวมไปถึงได้ประกันเทพๆ อย่าง 3 ปี On-site Service พร้อมประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty 1 ปีแรก กับราคาเพียง 28,990 บาท นับว่ามีความคุ้มค่าน่าซื้อมากๆ 

ASUS ZenBook 13

ได้หน้าจอขนาด 13.3″ ทำให้เล็กกระทัดรักพกพาสะดวก ที่สำคัญเครื่องยังเบาเพียง 1.11 กิโลกรัม และตัวเครื่องบางสุดที่ 13.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ตอบโจทย์การใช้งานนอกสถานที่อย่างออฟฟิศ ร้านกาแฟ หรือ Co Working Space อย่างแท้จริง รวมไปถึงแบตเตอรี่เองก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 19 ชั่วโมง ได้ความปลอดภัยด้วยการสแกนใบหน้า 3D IR Camera ใช้งานผ่านทาง Windows Hello ที่สะดวกและง่ายกว่าการกรอกรหัสผ่านแบบเดิมๆ

ASUS ZenBook 13

ที่นอกจากได้เรื่องของสเปกฮาร์ดแวร์ที่ดีแล้ว ยังได้ตัวเครื่องที่พรีเมียมหรูหรา โดดเด่นด้วยความทนทานระดับ MIL-STD-810G ทำให้มั่นใจได้เลยว่าพกพาไปใช้งานไปไหนมาไหนเผื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นเครื่องก็ไม่พังง่ายแน่นอน  อีกทั้งยังได้ Numper Pad 2.0 แป้นตัวเลขที่ทัชแพดทำให้ใช้งานสะดวก พอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันเท่าที่ตัวเครื่องจะให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A และ Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ตัดช่องต่อหูฟังออกไป แต่ก็ยังดีมีสายแปลงแถมมาให้ด้วย 

ASUS ZenBook 13

จุดเด่น ASUS ZenBook 13 UX325

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ OLED ขนาด 13.3″ จัดว่าเป็น รุ่นที่จอดีจอสวยที่สุดในรุ่นที่ใกล้เคียงกัน
  • น้ำหนักเบากแค่ 1.11 กิโลกรัม บางสุด 13.9 มิลลิเมตร วัสดุเครื่องคุณภาพสูงทั้งตัว
  • ดีไซน์พิเศษบานพับ ErgoLift Hinge ช่วยให้ใช้งานดีขึ้น ในหลายๆ ส่วน
  • หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD พาเนล OLED ขอบเขตสี 100% sRGB จริงๆ
  • ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
  • ใช้งานจริงลื่นไหลด้วย Intel Core i Gen 11 Tiger Lake การ์ดจอ Iris Xe Graphics
  • ใช้งานทั่วไปลื่นไหลสบายมาก เล่นเกม 3 มิติ หรือตัดต่อวีดีโอได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ 
  • ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ทนทานต่อการใช้งาน
  • ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง
  • มาพร้อม 3D IR Camera ใช้งานผ่านทาง Windows Hello
  • มาพร้อม ASUS NumberPad 2.0 ที่เปลี่ยนทัชแพดธรรมดาเป็นปุ่มกดตัวเลข LED
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 19 ชั่วโมง
  • อแดปเตอร์เป็นมาตรฐาน USB-C แล้ว ใช้สะดวกพกพาง่าย
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งานทันที
  • ประกัน 3 ปี On-site Service พร้อมประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty 1 ปีแรก
  • มีอุปกรณ์เสริมอย่างซองเคสใส่เครื่องและสายแปลง USB-C to หูฟัง 3.5 ให้ทันที
  • ราคาคุ้มค่า ประสิทธิภาพดี เมื่อเทียบรุ่นก่อนๆ 

ข้อสังเกต ASUS ZenBook 13 UX325

  • มีการตัดพอร์ตช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรออกไป 
  • หน่วยความจำเป็นแบบฝังบอร์ดมาเลย และไม่รองรับการอัพเกรด 
  • น่าจะเบาได้มากกว่านี้อีกหน่อย เพราะเบากว่ารุ่น 14″ เพียง 600 กรัม

Specification

ASUS ZenBook 13 UX325 มีอยู่ 1 สเปกในตอนนี้ คือ Intel Core i5-1135G7 ราคา 28,990 บาท ที่เป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม Tiger Lake มาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ 11 nm SuperFin ที่แรงขึ้นมากพร้อมด้วย AI ช่วยทำงานบางอย่างในตัว เพิ่มเติมด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน การ์ดจอเป็นออนชิปรุ่นใหม่ที่ดีขึ้นมากอย่าง Intel Iris Xe Graphic  ได้แรม 8GB LPDDR4X Bus 4266 MHz แบบฝังบอร์ด และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB 

ASUS ZenBook 13 UX325

หน้าจอขนาด 13.3 เป็นพาเนล OLED ความละเอียด Full HD แบบจอด้านลดแสงสะท้อน พร้อมได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส มีกล้องเว็บแคมและมีไมค์ดิจิตอลในตัว รองรับการใช้งาน VDO Call พร้อมกล้อง 3D IR Camera ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ไว้สแกนใบหน้าเพื่อเข้าใช้งาน ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้  ที่สำคัญคือได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยตรงจุดนี้

มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง Thunderbolt 4 (USB 3.2 Type-C), USB 3.2 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด การรับประกัน 3 ปี On-site Service รวมถึงถ้าลงทะเบียนในเว็บไซต์ ปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุมาให้ด้วย (Perfect Warranty) หน้าสเปกเต็มๆ ของ ASUS ZenBook 14 UX425 ได้ตามนี้เลย 

ASUS ZenBook 13 UX325 ราคา 28,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : Intel Core i5-1135G7 (4C/8T : 2.40 – 4.20 GHz)
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics
  • RAM : 8GB LPDDR4X 4266 MHz 
  • DISPLAY: 13.3″ Full HD OLED 60Hz
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 Home (64 Bit)
  • Warranty : 3 Years On-site Service + 1 Year Perfect Warranty

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 1

Hardware / Design

ด้วยการออกแบบตัวเครื่องที่เน้นเป็นสุดยอดโน๊ตบุ๊คที่หรูหราบางเบา จอดีที่สุดในตลาดด้วยพาเนล OLED แต่ก็ยังมาพร้อมความคุ้มค่าทำให้ ASUS ZenBook 13 UX325 มีความบางเบาที่สุด โดยบางเพียง 13.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักแค่ 1.11 กิโลกรัม สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ

โดยเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คระดับสูง หรือคนทำงานพนักงานออฟฟิศที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ที่สำคัญคือได้ภาพลักษณ์ด้วย พร้อมฟีเจอร์ที่ครบครันมากกว่าแบรนด์อื่นๆ อย่างชัดเจน

ASUS ZenBook 13 UX325

วัสดุหลักเป็นอลูมิเมียมเกรดสูงแบบ Unibody ที่ไร้รอยต่อ ผสานกับลวดลายการออกแบบอันเป็นแบบฉบับของ ZenBook ด้วยสีสันอย่างสีเทา อย่าง Pine Grey พร้อมรายละเอียดรอบนอกเครื่องแบบโค้งมน รวมไปถึงด้านในอย่างตัวอักษรคีย์บอร์ด มีความโดดเด่นขึ้นมาอีกขั้น กับราคาก็ไม่แพงด้วยจากการที่สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5 Gen 11 และ Iris Xe Graphics ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมกว่ารุ่นก่อนๆ

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 29

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift Hinge นั้นเวลาที่กางออกมาใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คจะทำให้คีย์บอร์ดทำมุม 2.5 องศากับฐานตั้ง พร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 150 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้จากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง

ซึ่งมุม 3 องศาที่ว่านี้นั้นทาง ASUS ได้ทำการวิจัยออกมาเป็นอย่างดี ว่ามันจะช่วยให้เราใช้งานโน๊ตบุ๊คนั้นสามารถที่จะพิมพ์ได้อย่างสบาย แถมเวลาที่กางบานพับออกมานั้นมันจะทำให้ส่วนของฐานคีย์บอร์ดมีระยะห่างกับฐานตั้งซึ่งทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในส่วนของตัวเครื่องนั้นมีการดูดลมเย็นเข้าไปช่วย พร้อมกันนั้นยังให้เสียงที่ดีขึ้นด้วย เรียกได้ว่าด้วยฟีเจอร์บานพับเดียวนี้ ทำให้การใช้งานดีขึ้นทั้ง 3 ด้านเลย

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 41

ฝาหลังเป็นลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ให้ผิวสัมผัสที่ดีมีความพรีเมียม พร้อมโลโก้ ASUS ตามมาตรฐานที่มีรัศมี Zen ที่เป็น DNA สำหรับขอบตัวเครื่องมีความสวยงามเรียบง่ายแต่ดูแพง ส่วนด้านในก็จะเป็นอลูมิเนียมแบบด้านที่ดูหรูหราไม่แพ้ด้านนอกทีเดียว ให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี

อีกทั้งตัวเครื่องก็ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีการทดสอบในหลากหลายด้าน เช่น ทดสอบการตกหล่น ทดสอบการสั่นสะเทือน ทดสอบการทำงานในสภาวะอุณหภูมิต่าง ๆ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถใช้งานตัวเครื่องนี้ได้ในแทบทุกสภาพแวดล้อมอย่างแน่นอน เรียกว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาหรูหราซึ่งมิติตัวเครื่องเทียบเท่ากับกระดาษ A4 เท่านั้นเอง

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 40

ในส่วนของชุดบันเดิลที่ให้กับ ASUS ZenBook 13 UX325 มีทั้งในส่วนของซอฟต์เคสที่ดูดีลงตัวกับเครื่อง อีกทั้งได้ตัวแปลง USB-A to LAN RJ45 มาให้ใช้งานได้ทันที ตอบโจทย์คนที่ต้องการหรือจำเป็นใช้งานเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบสาย LAN อยู่เช่นตามที่ทำงานรวมไปถึงองค์กรต่างๆ โดดเด่นด้วยอแดปเตอร์ชาร์จไฟ ที่เป็นมาตรฐาน USB-C แบบ USB PD

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 58

ทำให้ในการใช้งานร่วมกับตัวเครื่องได้สะดวกสบาย เพราะเราสามารถนำอแดปเตอร์นี้ไปชาร์จมือถือรุ่นใหม่ๆ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้แทบทั้งหมด อาทิ กล้องดิจิตอล หรือ Power Bank นับได้ว่า ASUS ZenBook 14 UX425 เป็นการมาของ Intel Notebook หน้าจอ 14″ สายทำงานบางเบาที่ครบเครื่อง มีดีที่สเปกแรงลื่น ราคาคุ้มค่า ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นก่อนๆ ได้เป็นอย่างดี ยืนยันได้เลยว่า ASUS ใส่ใจในการออกแบบ รายละเอียด เพื่อการรองรับใช้งานจริงของคนรุ่นใหม่จริงๆ 

Keyboard / Touchpad

ปุ่มคีย์บอร์ดของ ASUS ZenBook 14 UX425 มีขนาดใหญ่เป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง จัดว่าอยู่ในขนาดพอตัวเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ 14″ ทำให้พอมีพื้นที่เว้นว่างบ้าง โดยมีระยะการกดที่ 1.4 มิลลิเมตร ซึ่งให้สัมผัสในการกด การเด้งของปุ่มที่ดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด

ส่วนไฟ LED ที่คีย์บอร์ดก็จะเป็นสีขาวตัวอักษรเป็นสีขาวเข้ากัน พร้อมไฟส่องสว่างทำให้เราใช้งานในที่แสงน้อยหรือมืดๆ ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก

ASUS ZenBook 13 UX325

ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ มาก เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่องโดยรวมที่มีเล็กกระทัดรัดถือว่าจัดเต็มเรื่องของการใช้งานจริง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกโดยเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีการเล่นสีสันเป็นสีมันวาวสะดุดตา การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชร่วมกับ Windows 10 ได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด เรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องมีเมาส์มาต่อเพิ่มเลยก็ว่าได้

ส่วนที่เป็นไฮไลท์ก็คือ ASUS ZenBook 14 UX425 มีแผงปุ่มตัวเลขที่ซ่อนอยู่ในทัชแพดครับ โดยใช้ชื่อเรียกว่า NumberPad 2.0 ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการแตะไอคอนตรงมุมขวาบนของทัชแพดค้างไว้ 1 วินาที เส้นไฟสำหรับแบ่งพื้นที่ของแต่ละปุ่มก็จะปรากฏขึ้นมาให้ใช้งานเป็น Numpad ได้ทันที ซึ่งแม้ว่าจะมีปุ่มขึ้นมาแล้ว ผู้ใช้ก็ยังสามารถใช้ทัชแพดในการเลื่อนเคอร์เซอร์ได้อยู่ แต่หากมีการจิ้มลงบนพื้นที่ของแต่ละปุ่มเพื่อคลิกซ้าย ก็จะเปรียบเสมือนการกดปุ่มตัวเลขด้วย

Screen / Speaker

หน้าจอของ ASUS ZenBook 13 UX325 เป็นจอด้าน แบบขอบบางทั้ง 4 ด้าน ให้ความละเอียด Full HD พาเนล OLED ที่ดีกว่า IPS ในทุกๆ ด้าน ให้ภาพคมชัดด้วยอัตราการตอบสนองที่เร็วถึง 0.2 ms สวยงามสมจริงทุกมุมมอง เมื่อประกอบกับขอบจอที่บางเฉียบ ตามสไตล์ NanoEdge Display โดยให้พื้นที่หน้าจอถึง 88% เป็นหน้าจอแสดงผล มาพร้อมกับ TÜV Rheinland certified eye care ช่วยถนอมสายตา และป้องกันแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา นอกจากนี้ยังได้รับการตรวจสอบความถูกต้องของสีจาก PANTONE Validated

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 7

ทำให้ไม่ว่าจะการใช้งานทั่วไป การเปิดหน้าเว็บ การชมภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมถึงการเล่นเกมดูเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น โดยสามารถกางหน้าจอได้สูงสุดที่ 150 องศา ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า รวมถึงยังมีหลอดไฟ LED สำหรับแสดงสถานะว่ากล้องทำงานอยู่ เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง

อีกทั้งแม้ขอบหน้าจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam และไมโครโฟนแบบคู่มาปกติที่ขอบด้านบน ได้เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนขั้นสูง (AI Noise Cancelation) สำหรับการทำงานระยะไกลและการประชุมวีดีโอ โดยแยกเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการออกจากเสียงพูดซึ่งสามารถกรองและแยกเสียงรบกวนรอบข้าง ดีที่สุด

พร้อมด้วย 3D IR Camera ไว้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ด้วย ส่งผลให้เราสามารถใช้งานได้สะดวกสบาย ไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป รวมถึงมีความปลอดภัยด้วย นอกจากนี้ยังมีการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ฉะนั้นมั่นใจเรื่องความแข็งแรงทนทานได้เลย

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite  โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 100% และ AdobeRGB ที่ 99% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ พอตัว ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีที่สูง รองรับการทำงานที่เน้นกราฟิก หรืองานด้านการถ่ายได้ระดับมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 350 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับกลางๆ ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในที่ต่างๆ ได้แบบสบายๆ ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้มาตรฐานระดับมืออาชีพเลยทีเดียว ส่งผลให้มีคะแนนรวมอยูท่ี 4.5 คะแนน ถือว่าสูงกว่าโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปี 2021 นี้ เมื่อเทียบกับราคายิ่งจัดว่าคุ้มค่า

ASUS ZenBook 13 UX325

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง 2 ตัว 2W x 2 ระบบเสียง Harman/Kardon ให้ที่เสียงที่ดีมากทั้งความดังและคุณภาพ ผ่านตัวซอฟต์แวร์ ASUS SonicMaster ทั้งในเรื่องของเสียงเบสที่มีน้ำหนัก เสียงกลางที่สมดุล และเสียงแหลมที่ออกมาใสๆ

พร้อมทั้งความดังและกังวาลที่มากกว่า เมื่อกางบานพับจอแบบ ErgoLift ออกมา ฐานเครื่องก็จะยกขึ้นเพื่อให้เสียงจากลำโพงสะท้อนกับพื้นเพิ่มมิติของทิศทางเสียง  ซึ่งตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น 2 ตัว ทำให้เสียงที่ออกมามีเสียงดังฟังชัด

Connector / Thin And Weight

ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครันตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คบางเบา ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.2 Type-A จำนวน 1 พอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว โดดเด่นด้วยการติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4 มาให้ 2 พอร์ต แน่นอนว่ารองรับการชาร์ไฟเข้าเครื่องทั้ง 2 พอร์ต ทั้งอแดปเตอร์อื่นๆ ที่เป็น PD หรือ Power Bank รวมถึงต่อหน้าจอแยก 4K / 8K อีกด้วย 

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 42

ทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมี HDMI มาให้ ส่วนช่องอ่าน micro-SD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง อย่างไรก็ตามเป็นโมเดลตัวเครื่องที่ทาง ASUS เลือกตัดช่องเชื่อมต่อหูฟังแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออกไป (เหมือนกับ ASUS ZenBook 13 UX425 รุ่นหน้าจอ 14″) แต่ก็ยังดีที่มีตัวแปลงสาย USB-C to 3.5mm มาให้ด้วย อย่างไรก็ตามเป็นได้ต้องหาซื้อ USB-C Hub มาเพิ่มเติมก็จะดีมากๆ 

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 41

ขนาดของตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.11 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ 1.3 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 13″ รุ่นก่อนๆ แค่ตัวเครื่องก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.3 กิโลกรัมขึ้นไปแน่นอน  ซึ่ง ASUS ZenBook 14 UX425 ตอบสนองในเรื่องของการพกพาใส่กระเป๋าไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ

ASUS ZenBook 13 UX325 สเปก Core i Gen 11 เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดยเลือกใช้ชิป Intel Core i5-1135G7 ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 2.40 – 4.20 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 12W – 28W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i5 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร อย่าง Tiger Lake เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin Willow Cove

ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 8GB แบบฝังบอร์ด เป็นมาตรฐาน LPDDR4X 4266 MHz ตามเทคโนโลยีของ Intel Core i Gen 11 ที่ผ่านการปรับแต่งให้เหนือชั้น  พร้อมให้ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบลื่นไหลอย่างที่สุด ในทุกๆ การทำงาน

c1 5.   c2 5

การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับที่ก้าวกระโดดกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส  ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที

g1 5.   g2 4

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอที่อัพเกรดใหม่ที่เน้นการทำงาน 3 มิติที่ดียิ่งขึ้น

cine15 5.   cine20 5

 

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำผลทดสอบเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับสูง แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3509 MB/s และเขียนที่ 2942 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจมากๆ

ssd 5 

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,378 คะแนน (ใกล้เคียง Gaming Notebook ยิ่งขึ้นไปอีก) ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ ส่วนถ้าเอาไปใช้งานหนักๆ เช่นงานประมวลผล ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ภาพความละเอียดสูง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ซึ่งก็พอได้ แต่คงตอบสนองได้ไม่เท่าพวก Gaming Notebook หรือโน๊ตบุ๊คแรงๆ ที่ใช้ Core i ตระกูล H และการ์ดจอ GTX

pc10 4

ทดสอบเกมได้เฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 เกมออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Core i5-1135G7 ที่ทำงานร่วมกับการ์ดจอ ออนชิปอย่าง Iris Xe Graphics ได้ดีเยี่ยม ประกอบกับใช้แรม 8GB LPDDR4x4266 MHz รวมไปถึง SSD ก็ส่งผลช่วยด้วย

สำหรับเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 43 แต่ฉากตะลุมบอนกันก็เฟรมเรทลดลงไปที่ 21 (อยากลื่นกว่านี้ก็ปรับกลางๆ ได้) และในส่วนของเกม Overwatch ที่ปรับ Low ทดสอบแล้วจะมีเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 67 ซึ่งต่ำสุดอยู่ที่ 20 เฟรมเรทก็ทำออกมาได้ลื่นไหลกว่าที่คาดไว้พอตัว อย่างไรก็ตามด้วยตัวเครื่องที่บางเบาสุดๆ ทำให้เป็นข้อจำกัดอยู่บ้าง

game

ASUS ZenBook รุ่นนี้เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง MyASUS (โดยเปิดเครื่องมาเจอเลยพร้อมมี Hotkey ให้กดใช้งาน) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน รวมไปถึงโหมดพัดลมและโปรไฟล์สีการแสดงผลอีกด้วย

my 1

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ตัวเครื่องเป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปีปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาดประมาณ 4200 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ19 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) ด้วยการทดสอบปรับเป็น Power Saver Mode แล้วดู Youtube ยาวๆ พร้อมกับลดแสงและเสียงเหลือ 10%

ซึ่งคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร อย่างถ้าใช้ Microsoft Edge ก็จะใช้งานได้ยาวนานกว่า Chrome นั่นเอง อีกทั้งมีฟังก์ชั่นชาร์จเร็ว ที่สามารถชาร์จไฟกลับคืนให้กับแบตเตอรี่ 0 ไปจนถึง 60% ในเวลาเพียง 49 นาที ทำให้เครื่องกลับมาพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็วด้วย

batt 4

อุณหภูมิภายในของชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ล่าสุดได้ทดสอบดูผ่านทางโปรแกรม Hardware Monitor โดยมีความร้อนสูงสุดคือ 91 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมและประมวลผลงานต่อเนื่อง ซึ่งถ้าใช้งานทั่วไปจะอยู่ที่ 30 – 50 องศาเซลเซียสโดยประมาณ ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 – 27 องศาเซลเซียส

เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนของ ASUS โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มีอุณหภูมิที่ไม่ถึงกับเย็นมาก เพราะจากการที่ตัวเครื่องเน้นความบางสุดๆ อย่างไรก็ตามไม่ได้ส่งผลให้ตัวเครื่องเสียหายหรือมีปัญหาหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็น Intel Notebook รุ่นใหม่ที่จัดการความร้อนได้ดีในระดับที่เราไม่ต้องกังวลแล้ว

temp 4

โดยตัวเครื่องมีความรู้สึกว่าร้อนอยู่บ้างเวลาใช้งานหนักๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวลมากนัก เพราะเวลาใช้งานจริงๆ เราคงไม่ได้เอาไปเล่นเกมหรือประมวลผลงานหนักๆ ต่อเนท่องยาวนานอยู่แล้ว จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คพกพาบางเบา ไม่ใช่ Gaming Notebook

Conclusion / Award

จัดว่าโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS ZenBook 13 UX325 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล ZenBook ได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าจอ OLED ที่ดีที่สุด และราคาถูกที่สุดในตลาด พร้อมดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ความทนทานที่ยอดเยี่ยมเหนือชั้นมากกว่า มาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีความทนทานมากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน

รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพจากการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake โดยมี Intel Iris Xe Graphics ที่ทั้งแรงขึ้นพร้อมมี AI ช่วยทำงานส่งเสริมประสบการณ์ใช้งานโปรแกรมต่างๆ ที่สนับสนุน สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาระดับสูงของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับ กับค่าตัว ASUS ZenBook 13 UX325 ถือว่าเป็นที่สุดของความคุ้มค่า สนนราคาที่ 27,990 บาท

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 17

 ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องฟีเจอร์ที่ครบเครื่องมากกว่าคู่แข่งอื่นๆ ในกลุ่มที่ใกล้เคียงกัน ทั้ง NumberPad 2.0 และ 3D IR Camera ใช้งานผ่านทาง Windows Hello อีกทั้งด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบและมีหน้าจอขนาด 13.3″ แต่มิติรูปทรง น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 13.3″ ทั่วไป เทียบเท่ากระดาษ A4 เลยก็ว่าได้ ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.11 กิโลกรัมและบางเพียง 13.9 มิลลิเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการทดสอบตาม

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 14

เอาเป็นว่าสมแล้วที่จะเป็นสุดยอดโน๊ตบุ๊คบางเบาได้หน้าจอ OLED ในราคาคุ้มค่า แต่ก็จัดเต็มทุกๆ อย่าง ที่โดดเด่นเลยก็คือ มาตรฐาน Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ตที่ดีที่สุด จากการที่สเปกเป็น Intel Core i Gen 11 พร้อมชูนวัตกรรม ErgoLift ของคีย์บอร์ดที่ทำมุม 3 องศา ช่วยให้การพิมพ์งานง่ายกว่าเคย

พร้อมระบายความร้อนดีขึ้น ระบบเสียงดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้ชิปประมวลผล แรม SSD และโปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ไปใช้งานฟรีๆ ติดเครื่องไปใช้งานยาวๆ ได้เลย ส่วนข้อสังเกตอาจมีบ้างอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้อยู่

ASUS ZenBook 13 UX325

สรุปรีวิว ASUS ZenBook 13 UX325  ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงเหมาะกับการทำงานทั่วไป หรือหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอ ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือถ้าจะเล่นเกมบ้างก็สามารถทำได้ดีลื่นไหล ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สมราคา การรับประกันก็ตามมาตรฐานของ ASUS ที่อัพเกรดเป็นมาตรฐานประกันแบบ 3 ปี On-site Service ซ้อมฟรีถึงบ้าน รวมไปถึงในปีแรกแค่เราลงทะเบียนก็จะได้ประกันอุบัติเหตุในปีแรก อย่าง Perfect Warranty แล้วด้วย

ASUS ZenBook UX325 Core i Gen 11 Review 62

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook 13 UX325  ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Mobility

ปัจจัยสำคัญของด้านของพกพา ก็คือขนาดที่กะทัดรัด เบาแค่ 1.11 กิโลกรัมเท่านั้น ตอบโจทย์การใช้งานสาย Mobility ได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเฉียบ ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุที่ผ่านการทดสอบความทนทานตามมาตรฐานระดับกองทัพ ดังนั้นจึงหายห่วงเรื่องความทนทานได้เลย ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 19 ชั่วโมงอีกด้วย เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์ไปด้วยเลย หรือจะพกไปก็เล็กมากๆ

NBS award 4 Mobility

Best Design

ฟีเจอร์โดยรวมของ ASUS ZenBook 13 UX325 เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3″ มีความโดดเด่นในทุกๆ มิติ  อีกทั้งได้เป็น OLED คุณภาพสูงให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ให้มิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม  ไปจนถึงบานพับ ErgoLift ที่ช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งานได้เป็นอย่างดี รายละเอียดรอบนอกเครื่องดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ วัสดุหลักเป็นอลูมิเมียมเกรดสูงแบบ Unibody ที่ไร้รอยต่อ ผสานกับลวดลายการออกแบบอันเป็นแบบฉบับของ ZenBook ด้วยสีสันอย่างสีเทา (Pine Grey) ที่หรูหราพรีเมียม

NBS award 7 Design

Best Value

จัดเป็นโน๊ตบุ๊คสายบางเบาพกพาสะดวก แต่ราคาก็จัดว่าไม่แพง จัดว่าคุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ ด้วยราคาขาย 28,990 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่าง Intel Core i Gen 11 รวมถึงมีแรม 8GB LPDDR4x 4266 MHz และที่เก็บข้อมูลมาตรฐานแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB แถมมีสแกนใบหน้า 3D IR Camera และฟีเจอร์อื่นๆ จัดเต็ม เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาเหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นหลากหลาย ดีไซน์ก็พรีเมียม แถมได้ Office แท้ เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ที่สำคัญประกันยังมีระยะถึง 3 ปี On-site + Perfect Warranty ในปีแรกด้วย

award new value

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

เล่นเกมด้วย Intel Core Ultra 5 245K กับ 7 เกมยอดนิยมบนการ์ดจอบนซีพียู Intel ไหวมั้ย ลื่นรึเปล่า? Intel Core Ultra 5 245K เป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งปล่อยลงสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา นอกจากเรื่องความแรงและประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งด้านการประมวลผล หรือปัจจุบันก็มีเรื่องของ...

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

CONTENT

ในปัจจุบัน นอกเหนือจากโน้ตบุ๊กที่เป็นดีไซน์แบบฝาพับอย่างที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวเครื่องยังมีการพัฒนารูปทรงเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการพกพา และอรรถประโยชน์ในการใช้งานให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมก็คือการทำออกมาเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 โดยใช้หน้าจอสัมผัสที่สามารถพลิกจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอพับ AMD ในรูปแบบ 2-in-1 ที่น่าใช้กันครับ ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงาน ไปจนถึงการเล่นเกมได้เลยในบางรุ่น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก