Acer Aspire 5 A514-54 โน๊ตบุ๊คดีไซน์เด่น เน้นความคุ้มค่า ขนาดหน้าจอ 14″ Full HD พาเนล IPS สวยงาม สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ที่แรงลื่น จากเทคโนโลยี 10 นาโนเมตร สถาปัตกรรม Tiger Lake เน้นประหยัดพลังงาน พร้อมมี AI ในตัว
อีกทั้งได้แรมและที่เก็บข้อมูลพร้อมใช้งานทันที ด้วยราคาที่ไม่แพง แต่ประสิทธิภาพดี ที่สำคัญได้ Windows 10 แท้ และโปรแกรม Office Home & Student 2019 ทำให้ใช้งาน Word / Excel / Power Point ไปใช้งานติดเครื่องไปฟรีๆ ด้วย
Acer Aspire 5 A514-54 ตอนนี้มีสเปกเพียง 1 สเปกเท่านั้น แต่มีให้เลือกถึง 5 สีสัน ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i3-1115G4 พร้อมมีรุ่นการ์ดจอออนชิป Intel UHD Graphics รุ่นใหม่ ส่งผลให้รองรับงาน 2 มิติ และ 3 มิติเบื้องต้น หรือเล่นเกมเบาๆ
ได้แรมขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB รองรับการใส่ HDD SATA 3 เพิ่ม สนนราคาเริ่มต้นที่ 16,990 บาท ได้ประกันเป็น 2 ปี ที่สำคัญมีบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงเมื่อส่งศูนย์ พร้อมมีเครื่องสำรองให้ใช้งานอีกด้วย
NBS Verdict
โดยรวมแล้ว Acer Aspire 5 A514-54 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ พาเนล IPS ความละเอียด Full HD ที่ดีและน่าซื้อมากๆ รุ่นหนึ่งในปี 2021 กับดีไซน์ที่เรียบง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานไม่หนักมาก หรือในบางกรณีจะใช้งานหนักหน่วงก็ทำได้ อาทิ นักเรียนนักศึกษาหรือพนักงานออฟฟิศ รวมไปถึงนักเรียนไว้ใช้เรียนออนไลน์ สำหรับใครก็ตามที่มีงบประมาณหมื่นบาทกลางๆ ที่ได้ทั้งชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ที่แรงลื่นร้อนน้อย ประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อนๆ
พร้อมบันเดิลชุดโปรแกรมเอกสารอย่าง Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาท มาให้ทันทีและฟรีติดเครื่องไปเลยรวมไปถึงได้สเปกอื่นๆ ที่น่าสนใจอย่าง 8GB DDR4 Bus 3200MHZ และที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB จัดว่าคุ้มค่า อีกทั้งยังอัพเกรดใส่ HDD/SSD SATA 3 ได้ด้วย รองรับทั้งการทำงานต่างๆ บันเทิงดูหนังฟังเพลง รวมไปถึงการเล่นเกม House เล็กๆ น้อยๆ ส่วนเกมออนไลน์ต้องปรับกราฟิกต่ำสุดถึงจะพอเล่นได้ ซึ่งจริงๆ ไม่แนะนำให้ซื้อไปเล่นเกมเป็นหลัก
ซึ่งสามารถใช้งานทั่วๆ สนับสนุนการใช้งานได้ยาวๆ กับงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง พร้อมทั้งสามารถนำไปเล่นเกมหนักๆ ตัดต่อวิดีโอก็รองรับได้แบบสบายๆ พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวกว่า 9 ชั่วโมงอย่างไรก็ตามในเรื่องข้อสังเกตก็คือหน้าจอพาเนล IPS ให้ขอบเขตสีที่น้อยลงกว่า IPS ปกติ ซึ่งถ้าใครใช้งานด้านสีสันที่จริงจังแม่นยำ อันนี้ก็ไม่แนะนำเท่าไรนักแต่ถ้าใช้ทั่วไปถือว่าดีมากๆ แล้ว ซึ่งถ้าเทียบกับราคาค่าตัวก็ถือว่ายอมรับได้
เอาเป็นว่าใครชอบโน้ตบุ๊คที่มีตัวเครื่องสวยงามพรีเมียมเกินราคา มีสีสันให้เลือกหลากหลาย ในราคาไม่แพงงบไม่เกิน 20,000 บาท แต่ได้สเปกที่ลื่นไหลพร้อมใช้งานแบบไม่ต้องอัพเกรด หน้าจอสวยงาม ตัวเครื่องบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้กว่า 9 ชั่วโมงล่ะก็ Acer Aspire 5 A514-54 ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว ซึ่งคาดว่าอนาคตอาจจะมีสเปก Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 มาเป็นตัวเลือกก็ได้ ข้อดีคือ แรงกว่า การ์ดจอออนชิปดีกว่า ในราคาที่ขยับไปเป็นเริ่ม 19,990 บาท ก็เป็นไปได้
จุดเด่น Acer Aspire 5 A514-54
- เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ประสิทธิภาพดี จากการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ราคาประหยัด ที่เบาเพียง 1.45 กิโลกรัม พกพาบางเบา
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Aspire 5 มีความเรียบง่ายดูดีเกินราคา มีให้เลือก 5 สี
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมและพลาสติกเกรดดีตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบดี
- มีฟีเจอร์ยางรองด้านหลังจากการยกตัวเครื่องให้สูงยิ่งขึ้น
- สเปกโดยรวมให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหลรวดเร็ว เพียงต่อต่อการใช้งาน
- รองรับการใส่แรมเพิ่มอีก 1 แถว และ HDD 2.5″ SATA 3 อีกหนึ่งตัว
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งมาให้ทันที
- ติดตั้ง Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11 AX ใหม่สุดๆ สมเป็นโน๊ตบุ๊คปี 2021
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานสามารถใช้งานติดต่อกันได้สูงสุดประมาณ 9 ชั่วโมง
- เมื่อใช้งานหนักๆ ตัวเครื่องร้อนน้อย ไม่รบกวนการทำงาน
- ประกัน 2 ปี ส่งเคลมศูนย์ซ่อมไวสุดใน 3 ชั่วโมง
- มีราคาเริ่มต้นเพียง 16,990 บาท คุ้มๆ แทบไม่ต้องอัพเกรด
ข้อสังเกต Acer Aspire 5 A514-54
- ยังมีพอร์ต USB 2.0 Type-A ติดตั้งมาให้อยู่ 1 พอร์ต
- หน้าจอพาเนล IPS เกรดกลางๆ ขอบเขตสีอยู่ในระดับใช้งานทั่วไป
- ไม่เหมาะนำไปเล่นเกมเป็นหลัก สเปกนี้เน้นการทำงานพื้นฐานมากกว่า
Specification
Acer Aspire 5 A514-54 เราได้เครื่องจริงสเปกขายจริง ติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ตัวประหยัดพลังงานรุ่นล่าสุด เป็นสถาปัตยกรรม Tiger Lake เทคโนโลยี 11 นาโนเมตร SuperFin เพิ่มเติมด้วย AI มาช่วยการประมวลผลให้ดียิ่งขึ้น แน่นอนว่ารองรับทุกๆ การทำงานได้ดีขึ้น ทั้งดูหนังฟังเพลง ใช้งานเอกสารอย่าง Word / Excel / Power Point ใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือทำงานโปรแกรม Photoshop / Premiere Pro ก็ทำได้ดีขึ้น
รุ่นที่นำมารีวิวเป็นสเปกชิปประมวลผล Intel Core i3-1115G4 ทำงานแบบ 2 คอร์ 4 เธร์ด มีความเร็วที่ 3.00 – 4.10 GHz ส่วนการ์ดจอเป็นออนชิป UHD Graphics ได้แรมมาตรฐานขนาด 8GB DDR4 Bus 3200 MHz พร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลมาตรฐาน SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ทั้งงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง หรือแม้กระทั่งทำงานหนักหน่อย อย่างตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ มาพร้อมกับ Windows 10 แท้ในเครื่องทันที
ติดตั้งหน้าจอขนาด 14″ ความละเอียด Full HD ที่เพียงพอต่อการใช้งาน พาเนลเป็น IPS เกรดกลางๆ ที่ให้การใช้งานพื้นฐานได้ดี แต่ก็เป็นรองเรื่องของสีสันและมุมมองถ้าเทียบกับ IPS โดยมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.2 Type-C, USB 3.2 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.1 ใหม่ล่าสุด ประกันเป็น 2 ปี พร้อมส่งศูนย์ซ่อมด้วยใน 3 ชั่วโมง ตามมาตรฐานของ Acer กับช่วงราคาโน๊ตบุ๊คนี้
Acer Aspire 5 A514-54-36HR ราคา 16,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : Intel Core i3-1115G4
-
GPU : Intel UHD Graphics
-
RAM : 8GB DDR4 3200 MHz
-
DISPLAY: 14″ IPS Full HD
-
STORAGE : 512GB SSD PCIe M.2
-
OS : Windows 10 Home (64 Bit)
- Software : Office Home & Student 2019
- Warranty : 2 Years
Hardware / Design
Acer Aspire 5 ในเรื่องของการดีไซน์มีความทันสมัย พร้อมสีสันสวยงาม ตามยุคสมัยของโน๊ตบุ๊คปี 2021 ที่เน้นมิติตัวเครื่องที่เล็กกระชับ ด้วยขอบหน้าจอที่บางลง พร้อมตัวเครื่องมีความบางที่ 17.95 มิลลิเมตร ที่ความเบาเพียง 1.45 กิโลกรัมเท่านั้น โดยใช้วัสดุประกอบหลักเป็นพลาสติกและโลหะซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง และบางดูเผินๆ ก็แอบคล้าย Acer Swift 3 / Swift 5 เหมือนกัน ซึ่งส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วเรียบง่าย ไม่หวือวา ไม่สะดุดตานัก พร้อมมียางรองด้านหลังช่วยยกตัวให้สูงขึ้น
ฝาหลังมาพร้อมกับหลากหลายสีสันมีความเป็นทูโทน ไม่ว่าจะเป็น ดำ Charcoal black / ฟ้า Gracier Blue / เงิน Pure Silver / ทอง Safari Gold และชมพู Sakura Pink ดูมีความพรีเมียมดูดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในราคาใกล้เคียงกัน พร้อมโลโก้ Acer สีเงินตรงกลางตามมาตรฐาน สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม ส่วนด้านในตัวเครื่องจะเป็นวัสดุพลาสติกที่จะเป็นสีเงินสีเดียวเท่านั้น
พร้อมกันนั้นยังมีการติดสติกเกอร์บ่งบอกถึงสเปกภายในอย่าง Intel Core i3 Gen 11 และบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมง และฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ ตัวเครื่องบางเบา / Elevated Design เมื่อกางหน้าจอออกตัวเครื่องจะเอียงให้สูงยิ่งขึ้น / ขอบหน้าจอบาง / ฝาหลังวัสดุเป็นอลูมิเนียม / Wi-Fi เป็น MU-MiMO / HDMI 2.0 เรียกได้ว่าให้คุณสมบัติต่างๆ มาเกินราคาค่าตัว มีความคุ้มค่าน่าซื้อสุดๆ
ฝาหลังวัสดุเป็นโลหะที่มีความเรียบเนียนคล้ายๆ กับ Acer Swift 3 ให้ผิวสัมผัสที่ดีไม่ลื่นมือ ดูมีความพรีเมียมกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป พร้อมโลโก้ Acer สีเงินตรงกลางตามมาตรฐาน สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม จุดที่สำคัญเลยสำหรับรุ่นนี้คือ แกนฝาพับหน้าจอที่การใส่โลโก้ Aspire พร้อมโดดเด่นด้วย Elevated Design อาศัยยางรองด้านหลังเหมือนรุ่นพี่ Swift 5 ที่ช่วยทำมุมเอียง ช่วยในการพิมพ์ มุมมองของหน้าจอ การระบายความร้อน และเสียงที่ดีขึ้น
ด้านล่างของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายในโทนสีเดียวกันตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งการแกะอัพเกรดแรมอีก 1 แถว จากการที่แรมเดิมๆ เป็นออนบอร์ดมาแล้ว 8GB (เพิ่มได้สูงสุด 24GB) หรือฮาร์ดดิสก์ 2.5″ สามารถทำได้ง่ายมากเพียงแค่ขันน็อตเพียงหนึ่งตัว ก็สามารถทำการอัพเกรดได้เลย ด้านข้างทั้งสองด้านฝั่งผู้ใช้จะเป็นในส่วนของลำโพง ด้านบนจะเป็นรูช่องดูดระบายความร้อน ซึ่งรุ่นนี้มีพัดลมด้วยกันหนึ่งตัว ส่วนช่องเป่าความร้อนออกจะอยู่บานพับของตัวเครื่อง
สำหรับความบางก็บางลงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมาก พร้อมมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.45 กิโลกรัม ซึ่งถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่ค่อนข้างเบารุ่นหนึ่งเลยทีเดียว (อัพเกรด SSD/HDD SATA 3 ได้ด้วยนะ) ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ โดยเหมาะมากๆ สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค หรือคนทำงานพนักงานออฟฟิศ ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้หรือพื้นฐาน โดยประสิทธิภาพพอตัว และพกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ อย่างไรกังวลเพราะแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
Keyboard / Touchpad
ตัวเครื่อง Acer Aspire 5 A514-54 มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 14″ พร้อมติดตั้งคีย์บอร์ด Full Size แบบตามมาตราฐานโน๊ตบุ๊คทั่วไปให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญด้วยไฟ LED สีขาวสวยงาม ส่วนการสัมผัสแป้นพิมพ์ทำได้ค่อนข้างค่อนข้างนุ่มนวล งานประกอบดีเลยทีเดียว เหมาะแก่การพิมพ์งานสามารถใช้งานได้อย่างราบลื่นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และสำหรับปุ่ม Power ของตัวเครื่องจะติดตั้งอยู่มุมขวาบนของชุคคีย์บอร์ด ดูแล้วสวยงามลงตัวเป็นอย่างดี
ในส่วนของทัชแพดนั้นออกแบบมาดูเรียบๆ เหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไปปกติ ซึ่งเป็นแบบซ่อนปุ้มคลิกซ้ายคลิกขวาเป็นชิ้นเดียวกัน ไม่ได้แยกปุ่มออกชัดเจน การสัมผัสและการคลิกถือว่าทำได้ดี ไม่มีผิดเพี้ยน มีความแม่นยำกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นก่อนๆ และมีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าปกติ รองรับ Gesture Control ใช้งานกับ Windows 10 ได้ดี ลองดูโดยรวมแล้วให้การใช้งานและความรู้สึกก็ถือว่าทำได้ดีในระดับโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไป
Screen / Speaker
ตัวเครื่อวติดตั้งหน้าจอขนาด 14″ แบบขอบจอบางเฉียบ มีพื้นที่ชิ้นส่วนหน้าจอกว่า 81.61% เป็นจอแสดงผล บนความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ให้สีสันและมุมกว้างกว่าตามมาตรฐานโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป แสดงผลในการทำงานได้ดีในระดับหนึ่งอยู่ ซึ่งหน้าจอนี้เพียงพอสำหรับใช้งานทั่วไปโดยมี BluelightShield ลดแสงสีฟ้า ทำให้สบายตาเวลาใช้งานไปนานๆ
สนับสนุนกับงานทั่วไปเป็นอย่างดีและพอเพียงกับการใช้งานต่างๆ อาทิ อย่างเล่นอินเตอร์เน็ต พิมพ์งาน ส่วนขอบบนหน้าจอจะมีกล้อง Webcam ความคมชัดระดับ HD 720p ติดตั้งมาให้ด้วย พร้อมกับไมค์สองตัวแบบตัดเสียงเพื่อใช้งาน Video Call ซึ่งกล้องหน้านี้ก็สามารถตอบสนองได้ดีทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยจากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 63% และ AdobeRGB ที่ 48% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับมาตรฐานในช่วงราคานี้ ไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพ หรือทำ Art Work ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่จริงจังมากก็พอได้อยู่ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 200 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกได้บ้าง
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับแถวมุมขวาล่างและมุมซ้ายล่างลดลงไปที่ระดับ 12% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 3.5 คะแนน
ลำโพงที่ติดตั้งมาให้จะอยู่ที่ใต้ตัวเครื่องด้านหน้าบริเวณมุมฝั่งซ้ายและขวาด้านล่างของตัวเครื่อง ที่ให้เสียงเป็นแบบ Stereo 2.0 ซึ่งด้วยเทคโนโลยี Acer TrueHarmony ที่ให้เสียงเบสนุ่มลึกกว่าและระดับเสียงที่มากขึ้นผ่านดีไซน์ลำโพงล้ำสมัย โดยคุณภาพเสียงที่ได้นั้นถือว่าธรรมดาทั่วไป มีเสียงที่ดังฟังชัด แยกเสียงมิติซ้ายขวาชัดเจน จะนำไปใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ก็สามารถทำได้ดีเลยเดียว
Connector / Thin And Weight
Acer Notebook รุ่นนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คมัลติมีเดียขนาดหน้าจอ 14″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.2 Type-A, 1 x USB 3.2 Type-C, 1 x USB 2.0, HDMI, Lan RJ45 และรูหูฟังกับไมค์แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.1 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่กว่ารุ่นก่อน 3 เท่า ตำแหน่งการวางช่องเสาอากาศอย่างมีระบบช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการพกพาและการทำงานแบบไร้สาย
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่ารุ่นก่อนๆ ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.45 กิโลกรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ไซส์เล็กเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักอยู่ที่ 1.7 กิโลกรัม ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองก็มีขนาดที่เล็กและเบามากๆ โดยรวมแล้วก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่ลำบากในการพกพาเลย เพื่อนๆ น่าจะชอบกัน หยิบใส่กระเป๋าไปใช้งานข้างนอกสบายๆ
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Aspire 5 A514-54 นั้นสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะในส่วนของแรมและฮาร์ดดิสก์เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก (สามารถเจาะทะลุสติ๊กเกอร์ Acer ได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะหลุด) จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง
งานประกอบการจัดวางตำแหน่งดูแล้วเรียบง่าย โดยอาศัยพัดลม 1 ตัว ดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องจากนั้นถ่ายเทความร้อนออกไปให้โดนฮีทไปป์พร้อมฟินทองแดงทางด้านหลังของตัวเครื่อง ที่ซ่อนช่องระบายความร้อนไว้อย่างเรียบเนียน
ซึ่งแรมกับฮาร์ดดิสก์จะแยกส่วนกันอย่างชัดเจน ที่เห็นได้ถึงแรมสามารถติดตั้งได้ 1 แถว โดยติดตั้งขนาด 4GB x 2 (4GB แบบฝังบอร์ด และอีก 4GB เป็นแรมปกติ) ซึ่งเราจะเพิ่มได้สูงสุด 24GB ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe ติดมาแล้วที่ 512GB มีการติดตั้งใกล้ๆ กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
ส่วนอื่นๆ ก็รองรับการอัพเกรดฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ มาตรฐาน SATA 3 หรือจะใส่เป็น SSD 2.5″ SATA 3 จากการที่เว้นว่างเอาไว้ในเราได้อัพเกรดภายหลัง (พร้อมน๊อตยึดในกล่อง) โดยรวมแล้วการแกะตัวเครื่อง Acer Aspire 5 A515-44G เพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่ายและก็สะดวกทีเดียว
Performance / Software
Acer Aspire 5 A514-54 สเปก Core i Gen 11 เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดยเลือกใช้ชิป Intel Core i3-1115G5 ที่มี 2 คอร์ 4 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 3.00 – 4.10 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 12W – 28W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i7 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร Tiger Lake เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin
ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 8GB แบบฝังบอร์ด โดยรองรับการอัพเกรดเป็นแรม 1 แถวปกติซึ่งเราสามารถเพิ่มเป็น 8GB + 8GB หรือ 8GB + 16GB ได้ภายหลัง เป็นมาตรฐาน DDR4 Bus 3200 MHz พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบไร้กังวล
การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกันถ้าเป็นเกมออนไลน์แล้วปรับกราฟิกต่ำหน่อย ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ ซึ่งบอกเลยว่าตอบโจทย์สำหรับการใช้งานพื้นฐานแน่นอน กับการต่อหน้าจอแยก 4K ก็ทำได้ลื่นไหล
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH R15 / R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 อย่าง Core i3-1115G4 คะแนนก็อยู่ในระดับไม่สูงมาก แต่ก็น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลทั่วไปได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง ที่เน้นการทำงานพื้นฐานเป็นหลัก อย่างงานเอกสาร ดูหนังฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2255 MB/s และเขียนที่ 1068 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ระดับกลางค่อนบนสมราคา
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3661 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 อย่าง i3-1115G4 ที่ไม่มีการ์ดจอออนบอร์ดตัวแรงอย่าง Iris Xe Graphics ก็ทำงานทั่วไปได้ลื่นไหล จากการที่มี AI เทคโนโลยี 10 นาโนเมตร SuperFin ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในช่วงราคาใกล้เคียงกันหลายๆ รุ่นเลยทีเดียว
นอกจากนี้ Acer Aspire 5 A514-54 เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาพร้อมใช้งานทันที) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น ที่ความจุ 4000 mAh โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 9 ชั่วโมงแบบต่อเนื่อง ในการใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube ด้วยการปรับเป็น Power Saver Mode พร้อมปรับความสว่างเหลือ 10% และความดังของลำโพงที่ 10% ซึ่งคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร ซึ่งจากผลการทดสอบนับได้ว่าทำได้ดีมากๆ เพราะไม่ใช่แค่แรง แต่ประหยัดพลังงานด้วย
อุณหภูมิภายในของชิปประมวลผล Intel Core i3-1115G4 ล่าสุดได้ทดสอบผ่านทางโปรแกรม Core Temp โดยมีความร้อนสูงสุดคือ 86 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนของเครื่องนี้มีอุณหภูมิที่เย็น ซึ่งส่งผลให้ตัวเครื่องไม่เสียหายหรือเล่นเกมใช้งานมีปัญหาหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็น Notebook รุ่นใหม่ที่จัดการความร้อนได้ดีเยี่ยมทีเดียว
Conclusion / Award
การมาของ Acer Aspire 5 A514-54 ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ในแง่ของประสิทธิภาพความแรงในการทำงาน ด้วยการเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 อย่าง Core i3-1115G4 หน่วยความจำแรมก็เป็นมาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz ขนาด 8GB แบบออนบอร์ด รองรับการใส่ได้อีก 1 แถวปกติ การเข้าถึงข้อมูลได้ไวด้วที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความเร็วสูงที่ความจุ 512GB ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14″ ที่เน้นใช้งานพื้นฐานให้ความลื่นไหลในราคาประหยัด
ที่สำคัญคือได้วัสดุเป็นโลหะอลูมิเนียมซึ่งสวยงามหรูหรากว่า โดยมาพร้อมกับบางเพียง 17.95 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.45 กิโลกรัมเท่านั้น และโปรแกรม Microsoft Office เพื่อใช้งาน Word / Excel / Power Point ไปเลยด้วยฟรีๆ ที่แม้ไม่มีการ์ดจอแยกก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ ในส่วนของการใช้งานพื้นฐานเป็นหลัก อย่างโปรแกรมเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลง ซึ่งจะอัพเกรดแรมหรือ HDD 2.5″ ก็ทำได้ง่ายๆ
สำหรับแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 9 ชั่วโมง ก็เพียงพอต่อการใช้งานนอกสถานที่สบายๆ แน่นอนว่ามาพร้อมการรับประกันเป็นประกัน 2 ปีส่งศูนย์บริการ และมีบริการส่งเคลมศูนย์ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงด้วย อย่างไรก็ตามก็ต้องย้ำว่า Acer Notebook นี้ไม่ได้เน้นไว้ใช้เล่นเกม ถ้าอยากได้สเปกที่เล่นเกมได้ลื่นไหล ลองดูเป็น Acer Nitro 5 น่าจะดีกว่า ส่วนอนาคตก็อาจจะมีสเปก Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 ที่มีการ์ดจอออนชิป Iris Xe Graphics ที่ดีกว่านี้ เป็นตัวเลือกก็มีความเป็นไปได้
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Aspire 5 A514-54 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์การออกแบบที่ไม่เหมือนใคร พร้อมมีสีสันให้เลือกถึง 5 สี รวมถึงมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Acer ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นพลาสติกคุณภาพดีที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามเรียบง่ายอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว
Best Value
ถึงแม้ Acer Notebook รุ่นนี้จะไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาเริ่มต้นที่หมื่นบาทกลางๆ ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง ด้วยราคาขาย 16,990 บาท ถูกกว่ารุ่นก่อน ที่มาพร้อมสเปกใหม่อย่าง Intel Core i3-1115G4 ที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน (เว้นแต่การ์ดจอออชิป) รวมถึงมีแรม 8GB DDR4 และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นความคุ้มค่าด้านสเปก เรียกได้ว่ามีความลื่นไหนในทุกๆ การใช้งานพื้นฐาน เราจึงมอบรางวัล Best Value ไปให้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย