Connect with us

Hi, what are you looking for?

Buyer's Guide

แนะนำ 6 โน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C สเปคเริ่ม i5, Ryzen 5 งบ 30k

โน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C ได้กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมันสามารถใช้ปลั๊กของสมาร์ทโฟนที่รองรับการชาร์จไว 65W เสียบเข้าช่อง USB-C ที่รองรับ Power Delivery 3.0 หรือพอร์ต Thunderbolt 3 ก็สามารถชาร์จโน๊ตบุ๊คได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งปลั๊กโน๊ตบุ๊คอันใหญ่อีกต่อไป และผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คหลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มนำฟีเจอร์นี้มาติดตั้งในโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกินสามหมื่นบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ใช้แบบเราจ่ายเงินไม่เยอะมากก็ได้ฟีเจอร์แสนสะดวกนี้มาใช้เช่นกัน

เมื่อฟีเจอร์นี้เริ่มแพร่หลายมากขึ้น เราก็สามารถหาโน๊ตบุ๊คในงบประมาณไม่เกิน 30,000 บาท แล้วชาร์จผ่าน USB-C มาใช้งานได้ง่าย ๆ สเปคจัดว่าดีจนใช้ทำงานได้หลากหลายตั้งแต่งานเอกสารทั่วไปจนถึงงานตัดต่อวิดีโอหรือกราฟฟิคได้สบาย ๆ รวมทั้งมีน้ำหนักเบาและใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงอีกด้วย

Advertisement

โน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C

โน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C ดูอย่างไร

mba thunderbolt
พอร์ต Thunderbolt 3 ข้าง MacBook Air, MacBook Pro ก็หน้าตาเหมือน USB-C

ถึงเราจะเห็นว่าโน๊ตบุ๊คหลาย ๆ เครื่องมีพอร์ต USB-C เหมือนกัน แต่พอเสียบปลั๊กของสมาร์ทโฟนที่ชาร์จ 65W ได้เข้าไปโน๊ตบุ๊คก็ไม่ชาร์จซักที เพราะว่าพอร์ต USB-C หน้าตาเดียวกันแต่มีหลายสเปค จึงทำให้ผู้ใช้สับสนอยู่พอควร ดังนั้นจะดูแค่ว่าเครื่องนี้มี USB-C แล้วฟันธงว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ชาร์จผ่านพอร์ต Type-C ทันทีไม่ได้ เราจึงจำเป็นต้องดูควบคู่กับสัญลักษณ์ที่เขียนเอาไว้ข้าง ๆ พอร์ตนั้นด้วย ว่าเป็น USB-C มาตรฐานไหน

kensington usb c table updated
รวมมิตรโลโก้พอร์ต USB-C หลายแบบหลายสไตล์

จากภาพข้างบนจะเห็นว่าสัญลักษณ์ของพอร์ต USB-C มีเยอะมาก โดยแต่ละสัญลักษณ์ไล่จากด้านบนลงล่างจะมีความหมายดังนี้

  1. มีเครื่องหมายสามง่าม USB อย่างเดียว – เป็นพอร์ต USB-C มาตรฐาน USB 2.0 ความเร็วในการรับส่งข้อมูลแค่ 480 Mb/s เท่านั้น
  2. เครื่องหมายสามง่าม USB มีตัวอักษร SS – เป็น USB-C มาตรฐาน USB 3.1 รับส่งข้อมูลได้เร็ว 5 Gb/s ส่วนตัวอักษร SS แปลว่า SuperSpeed เป็นชื่อเต็มของ USB 3.0
  3. เครื่องหมายสามง่ามกับเลข 10 และมีตัวอักษร SS – เป็น USB-C มาตรฐาน USB 3.1 รับส่งข้อมูลได้เร็ว 10 Gb/s
  4. เครื่องหมายสามง่าม USB ในแบตเตอรี่ – เป็น USB-C รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นด้วย (Power Delivery) แต่รับส่งข้อมูลมาตรฐาน USB 2.0 มีความเร็วรับส่งข้อมูลแค่ 480 Mb/s 
  5. เครื่องหมายสามง่ามในแบตเตอรี่กับตัวอักษร SS – เป็น USB-C รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้โน๊ตบุ๊คและรับส่งข้อมูลมาตรฐาน USB 3.1 ความเร็ว 5 Gb/s
  6. เครื่องหมายสามง่ามในแบตเตอรี่กับตัวอักษร SS มีเลข 10 – เป็น USB-C รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้โน๊ตบุ๊คและรับส่งข้อมูลมาตรฐาน USB 3.1 ความเร็ว 10 Gb/s
  7. เครื่องหมายสามง่าม USB มีตัวอักษร SS และเลข 10 ด้านขวามีตัวอักษร D – เป็น USB-C รองรับการรับส่งข้อมูลมาตรฐาน USB 3.1 ความเร็ว 10 Gb/s และรองรับการต่อ DisplayPort Alt Mode ได้ด้วย แต่ไม่รองรับการชาร์จผ่านพอร์ตนี้
  8. เครื่องหมายสามง่ามในแบตเตอรี่ มีตัวอักษร SS และเลข 10 ด้านขวามีตัวอักษร D – เหมือนกับข้อ 7 แต่รองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ด้วย มีข้อสังเกตคือสัญลักษณ์ทั้งหมดอาจจะไม่ได้เรียงแบบในภาพตัวอย่าง แต่ถ้ามีครบก็ถือว่ารองรับเช่นกัน
  9. เครื่องหมายสายฟ้าสีขาวด้านข้าง USB-C – เป็นพอร์ต Thunderbolt 3 รองรับการรับส่งข้อมูลได้เร็ว 40 Gb/s สามารถรับส่งสัญญาณภาพวิดีโอ, เสียง และใช้ชาร์จโน๊ตบุ๊คได้ด้วย แต่ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คบางราย เช่น Apple จะไม่เขียนเอาไว้ และโน๊ตบุ๊คบางรุ่นแม้จะมีสัญลักษณ์สายฟ้าของ Thunderbolt 3 ก็ตาม แต่อาจรองรับแค่รับส่งสัญญาณภาพวิดีโอและเสียงเพื่อต่อหน้าจอแยกเท่านั้นและไม่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ตนี้
  10. พอร์ต USB 3.0 สีฟ้า มีสัญลักษณ์สามง่ามกับตัวอักษร SS และสายฟ้าสีดำ – เป็น USB 3.0 ที่ใช้แบตเตอรี่ของโน๊ตบุ๊คเพื่อชาร์จอุปกรณ์พกพาเช่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ เป็น Fast Charging จ่ายกระแสไฟ 2.1-2.4 แอมป์

หมายเหตุของข้อ 4-6 เกี่ยวกับกระแสไฟที่ใช้กับโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C นั้น ขึ้นอยู่กับสเปคของผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คแบรนด์นั้น ๆ ว่ารองรับการชาร์จกระแสไฟเท่าไหร่ แต่โน๊ตบุ๊คโดยทั่วไปจะรองรับการชาร์จกับอะแดปเตอร์ที่จ่ายกระแสไฟ 65W อยู่แล้ว

port spec en por spec thai

ส่วนวิธีการเช็คว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นนั้นเป็นโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C ได้หรือเปล่า ให้เข้าเว็บไซต์ของโน๊ตบุ๊ครุ่นที่สนใจ เลื่อนมาดูหัวข้อ “พอร์ต / สล็อต (Ports / Slots)” ว่าพอร์ต USB-C มีรายละเอียดเขียนเอาไว้ว่า “พร้อม Power Delivery” (บางครั้งเขียนว่า PD) หรือเปล่า ถ้ามีก็สามารถชาร์จโน๊ตบุ๊คผ่านพอร์ต USB-C ได้

6 โน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C รุ่นแนะนำในงบประมาณ 30,000 บาท

โน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C ในงบประมาณ 30,000 บาท ในปัจจุบันนี้มีตัวเลือกอยู่หลายรุ่น มีสเปคที่ดีและรองรับการทำงานได้หลากหลายแบบ ตอบโจทย์ทั้งการทำงานเอกสารไปจนถึงงานตัดต่อวิดีโอ มีซีพียูประสิทธิภาพสูงและบางรุ่นก็มีการ์ดจอแยกประสิทธิภาพสูงพร้อมใช้เล่นเกมได้สบาย ๆ ช่วยให้เราทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น

สำหรับโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C แนะนำทั้ง 6 รุ่นจะมีดังนี้

  1. Lenovo ThinkPad E14-20RAS00500 (23,500 บาท)
  2. Acer Swift 3 SF314-59-511W (23,990 บาท)
  3. HP ENVY x360 13-ar0127AU (24,900 บาท)
  4. Lenovo IdeaPad Flex 5 14IIL05-81X100K3TA (25,900 บาท)
  5. ASUS ROG Zephyrus G14 GA401IH-BM016T (27,900 บาท)
  6. Huawei MateBook 14 (25,990 บาท)
1. Lenovo ThinkPad E14-20RAS00500 (23,500 บาท)

thinkpad e14

Lenovo ThinkPad E14-20RAS00500 เป็นโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C ได้ในตระกูล ThinkPad ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง, ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูดี มีฟีเจอร์ความปลอดภัยครบทั้งตัวสไลด์ปิดกล้องเว็บแคม ThinkShutter กับชิป dTPM 2.0 สำหรับรักษาความปลอดภัยข้อมูลภายในเครื่อง ผ่านมาตรฐานความแข็งแรง US MIL-STD 810G และระบบเสียง Dolby Audio กับลำโพงจาก Harman/Kardon อีกด้วย

สเปครุ่นแนะนำใช้ซีพียู Intel Core i5-10210U มีความเร็ว 1.6-4.2 GHz กับการ์ดจอ Intel UHD Graphics 620 มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz แต่ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบธรรมดาความจุ 1TB เท่านั้นและไม่มี Windows 10 ติดตั้งมาให้ จึงต้องหาระบบปฏิบัติการมาติดตั้งเอง แต่มีพอร์ต M.2 Combo ในเครื่อง 1 ช่อง ทำให้เจ้าของเครื่องสามารถเลือกซื้อ SSD M.2 ความจุ 512GB-1TB มาติดตั้งเพิ่มเติมได้ หน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล)

ตัวเครื่องมีพอร์ต USB 2.0 Type-A x 1 ช่อง, USB 3.2 Type-A x 2 ช่อง, HDMI x 1 ช่อง และพอร์ต USB 3.2 Type-C x 1 ช่อง รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้โน๊ตบุ๊คแบบ Power Delivery ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 ตัวเครื่องหนัก 1.77 กิโลกรัม

สำหรับ Lenovo ThinkPad E14-20RAS00500 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C ที่เหมาะกับคนทำงานทุกกลุ่ม เหมาะกับการทำงานเอกสารและนำเสนองานกับลูกค้าและตัวเครื่องถือว่าไม่หนักเกินไป จึงสามารถพกติดตัวไปไหนมาไหนได้ง่ายอีกด้วย 

สเปคของ Lenovo ThinkPad E14-20RAS00500

  • Intel Core i5-10210U (ความเร็ว 1.6-4.2 GHz มี L3 Cache 6MB)
  • การ์ดจอ Intel UHD Graphics 620
  • ฮาร์ดดิสก์ 1TB ความเร็ว 5400RPM มีช่อง M.2 Combo x 1 ช่อง
  • แรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอ 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล)
  • เว็บแคม HD Camera พร้อมตัวสไลด์ปิดกล้อง ThinkShutter
  • พอร์ตเชื่อมต่อรองรับ USB 2.0 Type-A x 1 ช่อง, USB 3.2 Type-A x 2 ช่อง, HDMI x 1 ช่อง และพอร์ต USB 3.2 Type-C x 1 ช่อง รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้โน๊ตบุ๊คแบบ Power Delivery
  • เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.0
  • ระบบเสียง Dolby Audio กับลำโพง Harman Kardon 
  • ผ่านมาตรฐานความแข็งแรง US MIL-STD 810G
  • ติดตั้งชิปรักษาความปลอดภัยข้อมูล dTPM 2.0
  • น้ำหนักเครื่อง 1.77 กิโลกรัม
  • ราคา 23,500 บาท (Advice)
2. Acer Swift 3 SF314-59-511W (23,990 บาท)

acer swift 3

Acer Swift 3 SF314-59-511W เป็นโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C น้ำหนักเบาเพียง 1.19 กิโลกรัม และตัวเครื่องบางแต่แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 17 ชั่วโมงและชาร์จผ่านพอร์ต USB-C เพียง 30 นาทีก็ใช้งานต่อได้อีก 4 ชั่วโมง และรองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ตัวเครื่องและดีไซน์ให้บานพับยกตัวเครื่องขึ้นเล็กน้อยเมื่อกางหน้าจออีกด้วย

สเปคใช้ซีพียู Intel Core i5-1135G7 ความเร็ว 2.4-4.2 GHz กับการ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics G7 สำหรับประมวลผลกราฟฟิคต่าง ๆ ใช้เปิดภาพยนตร์ความละเอียด 4K และตัดต่อวิดีโอได้ด้วย ฮาร์ดดิสก์เป็น M.2 ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home (64 bit) และ Microsoft Office Home & Student 2019 มาให้พร้อมใช้งานทันที มีแรม 8GB DDR4 บัส 4266 MHz หน้าจอขนาด 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ใช้กระจก Antimicrobial Corning Gorilla Glass ป้องกันแบคทีเรียจับตัวบนหน้าจอ

ตัวเครื่องมีพอร์ต USB 2.0 Type-A, USB 3.2 Type-A, USB 3.2 Type-C ที่รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery และ HDMI อย่างละ 1 ช่อง ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Wi-Fi 6 (GiG+) มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องบางน้ำหนักเบาพกพาง่าย เหมาะกับนักเรียนและพนักงานออฟฟิศตำแหน่งที่ต้องออกไปพบลูกค้าบ่อย ๆ แล้วมองหาโน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบาพกพาง่าย แบตเตอรี่ใช้งานได้นานหลายชั่วโมงเป็นอย่างมาก

สเปคของ Acer Swift 3 SF314-59-511W

  • Intel Core i5-1135G7 (ความเร็ว 2.4-4.2 GHz L3 Cache 8MB)
  • การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics G7
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 ความจุ 512GB
  • แรม 8GB DDR4 บัส 4266 MHz
  • หน้าจอ 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ใช้กระจก Antimicrobial Corning Gorilla Glass ป้องกันแบคทีเรียจับตัวบนหน้าจอ
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 Type-A, USB 3.2 Type-A, USB 3.2 Type-C รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery และ HDMI อย่างละ 1 ช่อง
  • เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 (GiG+) และ Bluetooth 5.0
  • ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64 bit) และ Microsoft Office Home & Student 2019 ไว้ในเครื่อง
  • ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือเอาไว้บนเครื่อง
  • น้ำหนักเครื่อง 1.19 กิโลกรัม
  • ราคา 23,990 บาท
3. HP ENVY x360 13-ar0127AU (24,900 บาท)

hp envy

HP ENVY x360 13-ar0127AU เป็นโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C และสามารถพับกลับ 360 องศาเป็นแท็บเล็ตได้ ทำให้เราสามารถพับเครื่องไปใช้หน้าจออย่างเดียวเพื่อดูหนังแล้วใช้แป้นคีย์บอร์ดเป็นฐานตั้งเครื่องหรือจะพับกลับจนเป็นแท็บเล็ตก็ได้ ส่วนหน้าจอสัมผัสปิดด้วยกระจก Corning Gorilla Glass NBT ลำโพงปรับแต่งเสียงด้วย Bang & Olufsen เพิ่มอรรถรสระหว่างดูหนังฟังเพลงมากยิ่งขึ้น

สเปคของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 5 3500U มีความเร็ว 2.1-3.7 GHz กับการ์ดจอ AMD Radeon RX Vega 8 สำหรับประมวลผลกราฟฟิค ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ M.2 ความจุ 512GB พร้อม Windows 10 Home (64 bit) มาให้ มีแรม 8GB DDR4 บัส 2400 MHz ส่วนหน้าจอสัมผัสมีขนาด 13.3 นิ้ว เป็นพาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) 

พอร์ตบนตัวเครื่องถือว่าค่อนข้างน้อยเพราะมีแค่ USB 3.1 Type-A x 2 ช่อง กับ USB 3.1 Type-C ที่รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery อีก 1 ช่อง เท่านั้น การเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac กับ Bluetooth 5.0 ตัวเครื่องหนักเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น

สำหรับ HP ENVY x360 เครื่องนี้จะเหมาะกับนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงพนักงานออฟฟิศที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบาและสามารถพับกลับเป็นแท็บเล็ตเพื่ออ่านเอกสาร PDF อยู่บ่อย ๆ เป็นอย่างมาก เพราะตัวเครื่องเบาเพียง 1.3 กิโลกรัมและมีขนาดเพียง 13.3 นิ้วเท่านั้น จึงสามารถพกติดตัวไปใช้งานทุกวันได้สบาย ๆ

สเปคของ HP ENVY x360 13-ar0127AU

  • AMD Ryzen 5 3500U (ความเร็ว 2.1-3.7 GHz L3 Cache 4MB)
  • การ์ดจอ AMD Radeon RX Vega 8
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 ความจุ 512GB
  • แรม 8GB DDR4 บัส 2400 MHz
  • หน้าจอสัมผัส 13.3 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) Corning Gorilla Glass NBT
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.1 Type-A x 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery x 1 ช่อง
  • เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 5 และ Bluetooth 5.0
  • ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64 bit)
  • ลำโพงปรับแต่งเสียงด้วย Bang & Olufsen
  • น้ำหนักเครื่อง 1.3 กิโลกรัม
  • ราคา 24,990 บาท (JIB)
4. Lenovo IdeaPad Flex 5 14IIL05-81X100K3TA (25,900 บาท)

ideapad

Lenovo IdeaPad Flex 5 14IIL05-81X100K3TA ก็เป็นโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C น่าใช้อีกรุ่นหนึ่งที่มีปากกา Stylus ให้ใช้งานพร้อมกับพับหน้าจอกลับ 360 องศาได้เช่นเดียวกับ HP ENVY x360 แต่ Lenovo ได้เปรียบกว่าเพราะใช้ปากกาได้พร้อมกับตัวสไลด์เลื่อนปิดกล้องหน้าติดตั้งมาให้เลื่อนปิดเมื่อไม่ได้ใช้งานอีกด้วย ดังนั้น IdeaPad Flex 5 เครื่องนี้จึงเหมาะกับนักเรียนนักศึกษา, นักวาดและศิลปินรวมไปถึงพนักงานที่ทำงานด้านสัญญาและเอกสารต่าง ๆ จะได้ใช้ประโยชน์จากเครื่องนี้ได้เต็มที่

สเปคของเครื่องนี้ติดตั้ง Intel Core i5-1035G1 ความเร็ว 1.0-3.6 GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE MX330 แรมการ์ดจอ 2GB GDDR5 ฮาร์ดดิสก์เป็น M.2 ความจุ 512GB พร้อม Windows 10 Home (64 bit) พร้อมใช้งานทันที ส่วนแรมมี 8GB DDR4 บัส 3200 MHz หน้าจอสัมผัส พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) 

พอร์ตเชื่อมต่อรองรับ USB 3.1 Type-A x 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery x 1 ช่อง และ HDMI x 1 ช่อง รองรับ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac และ Bluetooth 4.2 แต่ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับเครื่องอื่นแล้วอาจจะมีน้ำหนักอยู่บ้าง ถ้าต้องการพกติดตัวไปใช้งานควรใส่กระเป๋าโน๊ตบุ๊คไปจะดีที่สุด

สเปคของ Lenovo IdeaPad Flex 5 14IIL05-81X100K3TA

  • Intel Core i5-1035G1 (1.00-3.60 GHz มี L3 Cache 6MB)
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce MX330 (2GB GDDR5)
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 ความจุ 512GB
  • แรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอสัมผัส 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล)
  • พอร์ตเชื่อมต่อมี USB 3.1 Type-A x 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery x 1 ช่อง, HDMI x 1 ช่อง
  • เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 5 และ Bluetooth 4.2
  • ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64 bit)
  • แถมปากกา Stylus Lenovo Digital Pen มาให้ในกล่อง
  • มีตัวสไลด์ปิดกล้อง Webcam ติดตั้งมาให้
  • น้ำหนักเครื่อง 2 กิโลกรัม
  • ราคา 25,900 บาท (JIB)
5. ASUS ROG Zephyrus G14 GA401IH-BM016T (27,900 บาท)

zephyrus g14r2

ASUS ROG Zephyrus G14 GA401IH-BM016T เป็นโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C สเปคแรงประสิทธิภาพสูง หน้าจอได้รับการรับรองความแม่นยำสีจาก PANTONE มีค่า sRGB 100% และมีสเปคแรงเพียงพอจะเล่นเกมและทำงานกราฟฟิคและงานเกี่ยวกับสีสันได้อย่างมั่นใจ ดีไซน์ตัวเครื่องให้บานพับยกตัวเครื่องขึ้นเล็กน้อยจึงใช้คีย์บอร์ดพิมพ์งานได้สะดวกยิ่งขึ้นและรองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเปิดเครื่อง ส่วนคีย์บอร์ดออกแบบมาเพื่อเล่นเกมมี N-Key Rollover กดหลายปุ่มพร้อมกันได้ มีปุ่ม Hotkeys เรียกคำสั่งลัดขึ้นมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แต่รุ่นนี้จะไม่มีฝาหลังแบบ AniMe Matrix เหมือนรุ่นราคาสูงกว่าแต่ถ้าเน้นใช้งานเป็นหลักก็ไม่จำเป็นนัก

สเปคใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 4600HS ความเร็ว 3.0-4.0 GHz กับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE GTX 1650 มีแรมการ์ดจอ 4GB GDDR6 รองรับการทำงานกราฟฟิค, ตัดต่อวิดีโอและเล่นเกมได้ดีไม่มีปัญหา ฮาร์ดดิสก์เป็น M.2 ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home (64 bit) มาพร้อมใช้งาน มีแรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz หน้าจอมีขนาด 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) รีเฟรชเรท 120Hz ทำให้แสดงผลตอนเล่นเกมได้ลื่นยิ่งขึ้น

พอร์ตเชื่อมต่อที่ตัวเครื่องมี USB 3.1 Type-A x 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C x 2 ช่อง รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery, HDMI x 1 ช่อง รองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.0 น้ำหนักเครื่องเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C สเปคแรง น้ำหนักเบาและหน้าจอคุณภาพดีมากอีกรุ่นหนึ่งที่ควรพิจารณาเป็นอย่างมาก

สเปคของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA401IH-BM016T

  • AMD Ryzen 5 4600HS (3.00-4.0 GHz มี L3 Cache 8MB)
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR6)
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 ความจุ 512GB
  • แรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz
  • หน้าจอสัมผัส 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ได้รับการรับรองความแม่นยำสีจาก PANTONE แล้ว มีค่า sRGB 100%
  • พอร์ตเชื่อมต่อมี USB 3.1 Type-A x 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery x 2 ช่อง, HDMI x 1 ช่อง
  • เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.0
  • ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64 bit)
  • สแกนลายนิ้วมือได้ที่ปุ่มเปิดเครื่อง
  • คีย์บอร์ดมี N-Key Rollover
  • มีปุ่ม Hotkeys สำหรับเรียกคำสั่งลัดขึ้นมาใช้งานได้
  • น้ำหนักเครื่อง 1.6 กิโลกรัม
  • ราคา 27,900 บาท (JIB)
6. Huawei MateBook 14 (25,990 บาท)

Huawei Matebook 14

Huawei MateBook 14 เป็นโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C อีกรุ่นที่เหมาะกับการใช้ทำงานเพราะหน้าจอเป็นอัตราส่วน 3:2 ซึ่งแตกต่างจากหน้าจอแบบ 16:9 คือมีพื้นที่หน้าจอแนวตั้งมากกว่าแนวนอน ทำให้เวลาใช้งานท่องเว็บไซต์หรือทำงานเอกสารจะมีพื้นที่แสดงผลมากยิ่งขึ้นและมีฟีเจอร์ Huawei Share สำหรับเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลและใช้สมาร์ทโฟน Huawei บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ทันที ซึ่งผู้ใช้สมาร์ทโฟน Huawei จะได้ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้อยู่บ่อย ๆ แน่นอน นอกจากนี้ทางเว็บไซต์ก็ได้รีวิว Huawei MateBook รุ่นก่อนอย่าง MateBook D14 ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้สนใจรายละเอียดเชิงลึกสามารถอ่านได้ที่นี่

สเปคเลือกใช้ซีพียู AMD Ryzen 5 4600H ความเร็ว 3.0-4.0 GHz กับการ์ดจอ AMD Radeon RX Vega 6 ฮาร์ดดิสก์เป็น M.2 ความจุ 512GB ติดตั้ง Windows 10 Home (64 bit) มาพร้อมใช้งานกับแรม 16GB DDR4 บัส 2666 MHz ส่วนหน้าจอขนาด 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด 2K (2160×1440 พิกเซล)

พอร์ตเชื่อมต่อบนตัวเครื่องมี USB 3.2 Type-A x 2 ช่อง, USB 3.2 Type-C x 1 ช่อง รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery และ HDMI x 1 ช่อง เชื่อมต่อไร้สายได้ด้วย Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac กับ Bluetooth 5.0 ตัวเครื่องหนัก 1.49 กิโลกรัมเท่านั้น นับเป็นโน๊ตบุ๊คสเปคดีที่เหมาะกับคนหลากหลายกลุ่มเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ใช้สมาร์ทโฟน Huawei ก็จะใช้ประโยชน์จาก Huawei MateBook 14 ได้อย่างเต็มที่

สเปคของ Huawei MateBook 14

  • AMD Ryzen 5 4600HS (3.00-4.0 GHz มี L3 Cache 8MB)
  • การ์ดจอ AMD Radeon RX Vega 6 
  • ฮาร์ดดิสก์แบบ M.2 ความจุ 512GB
  • แรม 16GB DDR4 บัส 2666 MHz
  • หน้าจอ 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด 2K (2160×1440 พิกเซล) อัตราส่วนหน้าจอ 3:2
  • พอร์ตเชื่อมต่อมี USB 3.2 Type-A x 2 ช่อง, USB 3.2 Type-C รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery x 2 ช่อง, HDMI x 1 ช่อง
  • เชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi 5 และ Bluetooth 5.0
  • ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home (64 bit)
  • ฟีเจอร์ Huawei Share รองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน Huawei
  • น้ำหนักเครื่อง 1.49 กิโลกรัม
  • ราคา 25,900 บาท
สรุป – โน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C เครื่องไหนจะตอบโจทย์เราที่สุด?

สำหรับสเปคและจุดเด่นของโน๊ตบุ๊คแต่ละรุ่นจะมีดังนี้

รุ่น / สเปค Lenovo ThinkPad E14 Acer Swift 3 HP ENVY x360 Lenovo IdeaPad Flex 5 ASUS ROG Zephyrus G14 Huawei MateBook 14
ซีพียู Intel Core i5-10210U ความเร็ว 1.6-4.2 GHz Intel Core i5-1135G7 ความเร็ว 2.4-4.2 GHz AMD Ryzen 5 3500U ความเร็ว 2.1-3.7 GHz Intel Core i5-1035G1 ความเร็ว 1.0-3.6 GHz AMD Ryzen 5 4600HS ความเร็ว 3.00-4.0 GHz AMD Ryzen 5 4600HS ความเร็ว 3.00-4.0 GHz 
การ์ดจอ Intel UHD Graphic 620 Intel Iris Xe Graphics G7 AMD Radeon RX Vega 8 NVIDIA GEFORCE MX330 (2GB GDDR5) NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR6) AMD Radeon RX Vega 6 
ฮาร์ดดิสก์ 1TB 5400RPM

มีช่อง M.2 Combo x 1 ช่อง
M.2 512GB M.2 512GB M.2 512GB M.2 512GB M.2 512GB
แรม 8GB DDR4 บัส 3200 MHz 8GB DDR4 บัส 4266 MHz 8GB DDR4 บัส 2400 MHz 8GB DDR4 บัส 3200 MHz 8GB DDR4 บัส 3200 MHz 16GB DDR4 บัส 2666 MHz
หน้าจอ 14 นิ้ว IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) 14 นิ้ว IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) จอสัมผัส 13.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) จอสัมผัส 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) 14 นิ้ว IPS ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) 14 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด 2K (2160×1440 พิกเซล)
พอร์ต
เชื่อมต่อ
USB 2.0 Type-A x 1

USB 3.2 Type-A x 2

USB 3.2 Type-C x 1

HDMI x 1
USB 2.0 Type-A x 1

USB 3.2 Type-A x 1

USB 3.2 Type-C x 1

HDMI x 1
USB 3.1 Type-A x 2

USB 3.1 Type-C x 1 
USB 3.1 Type-A x 2

USB 3.1 Type-C x 1

HDMI x 1
USB 3.1 Type-A x 2

USB 3.1 Type-C x 2

HDMI x 1
USB 3.2 Type-A x 2

USB 3.2 Type-C x 2

HDMI x 1
เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0
Wi-Fi 6 (GiG+)

Bluetooth 5.0
Wi-Fi 5

Bluetooth 5.0
Wi-Fi 5

Bluetooth 4.2
Wi-Fi 6

Bluetooth 5.0
Wi-Fi 5 Bluetooth 5.0
ฟีเจอร์เด่น ตัวสไลด์ปิด Webcam
ThinkShutter

ชิปรักษาความปลอดภัยข้อมูล dTPM 2.0
ระบบสแกนลายนิ้วมือ หน้าจอสัมผัส

ลำโพง Bang & Olufsen
ใช้ปากกา Lenovo Digital Pen เขียนบนหน้าจอได้ (แถมมาในกล่อง) หน้าจอได้รับการรับรองความแม่นยำสีจาก PANTONE Huawei Share รองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน Huawei
ระบบปฏิบัติการ Dos Windows 10 Home (64 bit)

Microsoft Office Home & Student 2019
Windows 10 Home (64 bit) Windows 10 Home (64 bit) Windows 10 Home (64 bit) Windows 10 Home (64 bit)
น้ำหนัก 1.77 กิโลกรัม 1.19 กิโลกรัม 1.3 กิโลกรัม 2 กิโลกรัม 1.6 กิโลกรัม 1.49 กิโลกรัม
ราคา 23,500 บาท 23,990 บาท 24,990 บาท 25,900 บาท 27,900 บาท 25,900 บาท

สุดท้ายแล้วโน๊ตบุ๊คชาร์จ Type-C แต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นแตกต่างไปตามที่ผู้ผลิตสร้างขึ้นมาและตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้แต่ละกลุ่มแตกต่างกัน ซึ่งการนำสเปคของแต่ละรุ่นมาเทียบกันว่ารุ่นนั้นมีฟีเจอร์อะไรเด่นหรือด้อยกว่าอีกรุ่นหนึ่งก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเลือกซื้อเท่านั้น ดังนั้นถ้าเราเข้าใจว่าการใช้งานของเราเน้นเรื่องไหนเป็นหลักและนำสเปคทั้งหมดนี้ไปเทียบเพื่อหารุ่นที่ตอบโจทย์เราเป็นวิธีการที่ดีและเหมาะสมที่สุด

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

แม้ตัวเครื่องจะเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา ออกแบบมาเน้นให้น้ำหนักเบาพกพาง่ายแบตเตอรี่ทนทาน แต่ถ้าเครื่องนั้นใช้ซีพียู AMD Ryzen 8000 Series นอกจากทำงานออฟฟิศได้ลื่นไหลและมี NPU เข้ามาช่วยเร่งการประมวลผล AI ในโปรแกรมต่างๆ ยังช่วยปรับแต่ง Workloads ให้ดีขึ้นด้วย การปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมเป็น AMD Zen 4 ซึ่งนอกจากพลังประมวลผลต่อคอร์จะดีขึ้น เทียบกับ Zen 3 ใน...

รีวิว Huawei

HUAWEI MatePad 11.5 S แท็บเล็ตสายทำงานพร้อม HUAWEI Smart Magnetic Keyboard กับ HUAWEI M-Pencil ให้จดก็ง่าย วาดภาพก็สะดวก! หาก HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition เป็นแท็บเล็ตเพื่องานเอกสารและคนรักการอ่าน HUAWEI MatePad 11.5...

Buyer's Guide

ถ้าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คถูกสร้างมาเพื่อครีเอเตอร์หรือเกมเมอร์แล้ว นักศึกษา, พนักงานออฟฟิศไปจนนักธุรกิจก็มีโน๊ตบุ๊คบางเบาซึ่งดีไซน์มาให้เหมาะกับการพกคอมติดกระเป๋าไปพบลูกค้าเจรจาธุรกิจกัน ดีไซน์จะสวยเรียบร้อยไม่หวือหวาแล้วใส่ฟังก์ชั่นรักษาความปลอดภัยมาครบเครื่อง ไม่ว่าจะเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าพร้อมสเปคระดับสูงทรงพลังให้ใช้ทำงานออฟฟิศตั้งแต่งานเอกสารทั่วไปจนตัดต่อวิดีโอและทำกราฟิคประกอบการนำเสนองานก็ยังได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ร้อยแปดมาเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีก ขึ้นชื่อว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา ผู้ผลิตแต่ละเจ้าก็แข่งกันออกแบบโครงสร้างเครื่องให้เล็กและบางลง ลดน้ำหนักด้วยวิธีต่างๆ ให้เบาแตะหลัก 1 กก. หรือน้อยกว่านั้น ให้มันไม่เบียดพื้นที่ใส่เอกสารและอุปกรณ์ต่างๆ ในกระเป๋าเกินไปด้วย Advertisement เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโน๊ตบุ๊คบางเบา โน๊ตบุ๊คบางเบาในปัจจุบัน ตัวเครื่องจะบางกว่า 0.8 นิ้ว และเบากว่า 1.5 กก....

Buyer's Guide

คนชีพจรลงเท้ารู้กันดีว่าถ้าพกของใช้เอาไว้เยอะมันก็ต้องหนัก มีคอม, แท็บเล็ตและอุปกรณ์เสริมแม้จะทำงานได้ดี แต่ถ้ารวมมันเข้าด้วยกันเป็นโน๊ตบุ๊คพับจอได้สักเครื่องนอกจากจะพกสะดวกแล้วยังได้ข้อดีของอุปกรณ์สองแบบในชิ้นเดียว ทั้งทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตามแบบฉบับโน๊ตบุ๊คทั่วไปพร้อมรันตั้งแต่งานเอกสารทั่วไป, การเปิดเว็บไซต์และเปิดโปรแกรมใหญ่เรนเดอร์งานหนักร้อยแปดได้สบายๆ แล้ว ก็พับเป็นแท็บเล็ตแล้วเอาปากกาสไตลัสขึ้นมาเขียนจดเน้นข้อความและเซ็นเอกสารได้รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องย้ายอุปกรณ์ไปมาให้วุ่นวายแม้แต่น้อย สามารถจบงานทั้งหมดในเครื่องเดียวได้เลย นอกจากพกพาง่ายและทำงานได้ทุกแบบแล้ว ต้องรวมถึงเรื่องการแสดงผลหน้าเว็บไซต์และ UI ซึ่งถ้าใช้แท็บเล็ตเปิดโปรแกรมหรือเว็บไซต์บางอย่าง มันจะเปิดทำงาน Mobile site ให้เข้ากับการใช้งานแบบทัชสกรีนและหลายๆ ฟีเจอร์จะเปิดเรียกใช้งานไม่ได้ จะสลับเข้า Desktop site การแสดงผลก็จะเพี้ยนจนใช้งานไม่สะดวก ไม่มีการเซฟ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก