GPD ผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาขนาดเล็กที่เน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะได้ออกมาทำการเปิดตัว GPD Win 3 อย่างเป็นทางการหลังจากที่ประกาศจะนำขึ้นในเว็บร่วมทุน Indiegogo ไปก่อนหน้านี้(ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา) งานนี้บอกเลยว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับผู้ที่อยากเล่นเกมในระบบปฎิบัติการ Windows 10 แบบพกพาไปไหนมาไหนก็ได้เพราะตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับดีไซน์ที่คล้ายกับ Nintendo Switch เป็นอย่างมาก นอกไปจากนั้นแล้วสเปคของตัวเครื่องยังแรงอีกด้วยต่างหาก
GPD Win 3
ดีไซน์ของ GPD Win 3 นั้นจะอยู่ในรูปแบบของคอมพิวเตอร์ PC แบบหน้าจอสไลด์ซึ่งหากท่านมีอายุมากหน่อยนั้นน่าจะรู้สึกคุ้นเคยดีไซน์ของตัวเครื่องมาจาก Sony Vaio VGN-UX(ตามรูปด้านล่าง)
แม้ว่าดีไซร์จะค่อนข้างเหมือนกันแต่ทว่า GPD Win 3 นั้นจะมีส่วนผสมของดีไซน์จาก Nintendo Switch เข้ามาด้วยเพื่อเพิ่มความเหมาะสมในการเล่นเกมซึ่งเป็นสิ่งที่ทาง GPD มีความถนัดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตัวเครื่องนั้นจะมีรายละเอียดดีไซน์และปุ่มต่างๆ รวมถึงพอร์ตการเชื่อมต่อดังต่อไปนี้
จะเห็นได้ว่าตัวเครื่อง GPD Win 3 นั้นหากไม่สไลด์คีย์บอร์ดออกมาแล้วค่อนข้างจะคล้ายกับ Nintendo Switch มากพอดู สำหรับสเปคนั้นต้องบอกเลยว่าแรงสุดๆ เพราะใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i5 และ i7 Gen 11 ที่มาพร้อมกับชิปกราฟิกแบบฝังสถาปัตยกรรม Intel Xe ซึ่งมีการพิสูจน์ออกมาค่อนข้างมากแล้วว่าสามารถที่จะเล่นเกมได้เป็นอย่างดี สำหรับรายละเอียดของสเปคทั้งหมดของ GPD Win 3 นั้นจะมีดังต่อไปนี้
งานนี้นั้น GPD จัดเต็มจริงๆ หากจะให้เสียดายแล้วล่ะก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหน้าจอที่ให้มาแค่ 5.5 นิ้วและรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 720p เท่านั้น(แต่ก็เข้าใจได้ว่าต้องการที่จะลดน้ำหนักของตัวเครื่องไม่ให้มากเกินไป) ทั้งนี้ตามข้อมูลนั้นระบุเอาไว้ว่า GPD Win 3 สามารถเล่นเกมระดับ AAA อย่าง GTA V, Monster Hunter World, Battlefield 1 และ Borderlands 3 ปรับกราฟิกไปที่ High ได้ที่ 50FPS+ แบบสบายๆ
ถึงแม้ว่าทาง GPD จะไม่ได้ให้ข้อมูลของความจุแบตเตอรี่เอาไว้ ทว่าทาง GPD ให้สัญญาเอาไว้ว่าตัวเครื่องสามารถที่จะเล่นเกมแบบหนักๆ ได้ต่อเนื่อง 2 – 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว(ใช้งานทั่วไปจะอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 11 ชั่วโมง)
ยังไม่เพียงเท่านั้น ด้วยความที่ GPD Win รุ่นเก่ามีปัญหาค่อนข้างมากในเรื่องของความร้อน งานนี้ GPD ก็เลยยกระดับเรื่องการระบายความร้อนภายในใหม่ทั้งหมด แถมยังได้เพิ่มฟีเจอร์สำหรับปรับระดับการใช้พลังงานตัวเครื่องไว้บน BIOS ให้ผู้ใช้สามารถเลือกเอาเองได้อีกว่าอยากจะแรงเต็มเหนี่ยวหรือจะกลางๆ แต่เครื่องไม่ร้อนมากจนเกินไปได้อีกด้วย(ปรับระดับการระบายความร้อนได้ 3 ระดับคือ 15-18W, 18-22W และ 22-28W)
สำหรับราคานั้นต้องบอกเลยว่าน่าสนใจเอามากๆ เพราะในรุ่นเริ่มต้นที่มากับหน่วยประมวลผล Core i5 นั้นจะอยู่ที่ $799 หรือประมาณ 23,950 บาทเท่านั้น
ที่มา : gsmarena