Notebook RTX 2060 มีประสิทธิภาพความแรงลื่นในการเล่นเกมซึ่งรับประกันได้ว่าสนับสนุนการเล่นเกมทุกเกมบนโลกแน่นอน สำหรับ Gaming Notebook รุ่นใหม่ปลายปี 2020 – ต้นปี 2021 โดยหลักๆ รุ่นที่ปัจจุบันจะมาพร้อมกับสเปกล่าสุด ทั้งในส่วนของชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H และ AMD Ryzen 4000H
ที่แน่นอนว่าได้ความแรงลื่นที่มากกว่าเดิม ได้หน้าจอพาเนล IPS ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ Refresh Rate 144Hz ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท นับได้ว่ามีราคาไม่แพง จนไปถึงรุ่นราคาไม่เกิน 45,000 บาท ที่จัดเต็มเรื่องของฟีเจอร์ Gaming อาทิ ความบางเบา หรือไฟ RGB รวมไปถึงความทนทาน
สำหรับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) การ์ดจอใน Gaming Notebook ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของกราฟิกการ์ดรุ่นก่อนหน้ากับสถาปัตยกรรม Pascal เหนือชั้นกว่า GTX 1650 / GTX 1650 Ti / GTX 1660 Ti
โดยมาพร้อมกับ Tensor cores หรือรองรับกับเทคโนโลยี Ray-Tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากก่อน โดยประสิทธิภาพแรงเทียบเท่ากับ GTX 1070 แต่ร้อนน้อยกว่า ส่งผลให้ในการเลือกซื้อ Gaming Notebook ที่คาดหวังเรื่องความแรงในงบประมาณช่วงนี้ ยังเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่
ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำ Notebook RTX 2060 6 รุ่นน่าซื้อ การ์ดจอแรง ปี 2021 สเปก Core I / Ryzen เริ่มถูกสุด 29,900 บาท ปี 2021 เทียบกับความแรงต่อราคาแล้วคุ้มค่ามากๆ ในส่วนของชิปประมวผลก็มีทั้ง Core i5-10300H / Core i7-10750H และ Ryzen 7 4800H / Ryzen 7 4800HS เป็นตัวเลือก โดยเริ่มต้นเป็น Ryzen 7 3750H
ได้แรมมาเป็นมาตรฐาน DDR4 ที่ขนาด 8GB – 16GB ส่วน SSD M.2 ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน ที่ต้องบอกเลยว่าสเปกเพียงพอต่อทุกๆ การใช้งานพื้นฐานหรือเล่นเกมหนักๆ ก็ทำได้ดีเยี่ยม ติดตั้ง Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที มีประกันดีที่สุดเป็นแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านยาวนาน 3 ปี ซึ่งจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปชมกันต่อเลย
แนะนำ 6 รุ่นน่าซื้อ Notebook RTX 2060
- 1. ASUS TUF Gaming FX505DV ราคา 29,900 บาท
- 2. Acer Nitro 5 AN515 ราคา 33,900 บาท
- 3. Lenovo Legion 5 ราคา 36,900 – 39,900 บาท
- 4. HP OMEN 15 ราคา 41,900 บาท
- 5. MSI GL65 Leopard 10SER ราคา 43,900 บาท
- 6. Dell G5 15 5500 ราคา 44,900 บาท
1. ASUS TUF Gaming FX505DV ราคา 29,900 บาท
โน๊ตบุ๊คเล่นเกม ASUS TUF Gaming FX505DV รุ่นท็อปของตระกูล ASUS TUF Gaming FX505 เมื่อปีก่อน โดดเด่นด้วยสเปก AMD Ryzen 7 3750H + NVIDIA GeForce RTX 2060 ขอบหน้าจอบาง โดยไปทำการตีบวกยัดสเปคจัดเต็ม ฟีเจอร์แน่นๆ ในราคาสุดคุ้มเหมือนเดิม
นับว่าเป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ ที่คุ้มค่าที่สุดในงบประมาณไม่เกิน 30,000 บาท อีกรุ่นที่น่าสนใจจริงๆ จากการที่ได้การ์ดจอเป็นตัวแรงอย่าง RTX 2060 ที่เหนือชั้นกว่า GTX Series แน่นอน น้ำหนักก็อยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก
โดย ASUS TUF Gaming FX505DV สเปกนี้มีหน่วยความจำแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 2400MHz และมี SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มาให้ด้วย พร้อมรองรับการอัพเกรด HDD 2.5″ ได้อีก 1 ตัว ส่วนหน้าจอก็ขนาด 15.6″ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 120 Hz
พร้อม Windows 10 ในราคาเพียง 29,900 บาท การรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็ม
ASUS TUF Gaming FX505DV ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่นๆ อย่างในเรื่องของขอบหน้าจอบาง นั่นก็ทำให้ตัวเครื่องมิติโดยรวมมีความเล็กกระทัดรัดลง แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ แบบสมัยก่อนๆ มาก ส่วนมีความทนทานระดับ Military Grade ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด
เรียกได้ว่าเป็น Notebook RTX 2060 น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของระบบระบายความร้อนก็ใช้ระบบ Hyper Cool สามารถปรับเร่งรับได้ ฟินระบายความร้อนสีแดง พร้อมมี Anti-Dust Tunnel สำหรับเป่าฝุ่นออกมาให้อีกด้วย
ส่วนของคีย์บอร์ดจะให้ไฟ RGB แบบ All Zone ปุ่ม WASD ทำไฮไลท์ไว้ สามารถรองรับการกดได้ 20 ล้านครั้ง Travel Key 1.8 mm การวางเลเอาท์จะเหมือนกับคีย์บอร์ดแยกจริง การเชื่อมต่อก็ครบถ้วนด้วยมาตรฐาน Wi-Fi AC และ Bluetooth 5.0 พร้อมกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว
การเชื่อมต่อก็มีมาให้พอตัวทั้ง HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 2.0, Kensington lock slot, LAN RJ-45, รูหูฟังกับไมค์แบบ Combo ซึ่งพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดจะอยู่ด้านซ้ายมือตัวเครื่อง พร้อมระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้มาให้ในตัว
2. Acer Nitro 5 AN515 ราคา 33,900 บาท
Acer Nitro 5 AN515 เป็น Notebook RTX 2060 ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H จากที่รุ่นก่อนๆ เป็นหนึ่งใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ราคาคุ้มค่า ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นหลากหลาย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม และประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง
ซึ่ง Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาหลายๆ ส่วนแล้ว อาทิ ดีไซน์ภายนอก คีย์บอร์ดไฟ RGB และอื่นๆ เป็นการต่อยอดพร้อมแข่งกันกับ Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ ในราคาถูกสุดที่ 33,900 บาทเท่านั้น ได้สเปก Core i5-10300H + GeForce RTX 2060 แรงลื่นน่าซื้อสุดๆ
ชิปประมวลผล Intel Core i 10H อย่าง Core i5-10300H ที่ทำงานด้วยความเร็ว 2.50GHz – 4.5GHz แบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด กับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) ที่นับว่าเป็นการ์ดจอที่แรงสุดในรุ่น ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 2933MHz ทันทีแบบไม่ต้องอัพเกรดกันให้เสียเวลา
มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง) พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 6 ชั่วโมง
หน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 144Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก
เป็น Notebook RTX 2060 เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra มีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง
มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0
และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย ทดสอบแล้วแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 6 ชั่วโมงต่อเนื่อง บนน้ำหนักตัวเครื่อง 2.3 กิโลกรัม ที่พอพกพาไปไหนมาไหนได้บ้าง
3. Lenovo Legion 5 ราคา 36,900 – 39,900 บาท
Lenovo Legion 5 นับได้ว่าเป็น Notebook RTX 2060 ที่ทรงประสิทธิภาพ ในราคาที่คุ้มค่า ด้วยเทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร ได้ทั้งความแรงขึ้นและร้อนน้อยลง แน่นอนว่าเลือกใช้การ์ดจอแยกที่มีพลังแรงไว้ใจได้ ติดตั้งแรมเป็น 16GB DDR4 Bus 3200MHz ผสานกับ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันทีที่ได้รับความสนใจมากๆ
ดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ มี DNA ที่เป็น Legion Series ชัดเจน รวมถึงมีการใช้สเปกชิปประมวผล AMD Ryzen 4000H เป็นครั้งแรกใน Gaming ของ Lenovo อย่าง Ryzen 5 4600H ทำงานแบบ 6C/12T (3.00 GHz up to 4.00 GHz, 8 MB L3 Cache) และ Ryzen 7 4800H ทำงานแบบ 8C/16T (2.90 GHz up to 4.20 GHz, 8 MB L3 Cache)
สำหรับ Lenovo Legion 5 นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่องเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมขนาดหน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS คถณภาพดี มีตัวเลือกเป็น Refresh Rate ที่ 144Hz ได้ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระชับ ลงตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรับรองได้ว่ามันสามารถที่จะสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบใหม่ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ
นอกจากเล่นเกมได้ดีแล้ว ยังรองรับทั้งการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูง อย่างตัดต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์ 3 มิติ ก็เอาอยู่ สนนราคา 36,900 – 39,900 บาท ได้ประกัน 2 ปี On-site ซ่อมฟรีถึงบ้าน และบริการอื่นๆ อย่างประกันอุบัติเหตุ หรือเครื่องสำรองระหว่างซ่อมด้วย
ติดตั้งกล้องเว็บแคมที่ติดตั้งไว้ด้านบนพร้อม Privacy Shutter และปุ่มทิศทางที่ตำแหน่งดีขึ้น ได้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงมีสเปคประสิทธิภาพสูงจาก เหลือเฟือในการใช้งานพื้นฐาน แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน
ตัวเครื่องก็ร้อนน้อยจากเทคโนโลยี Legion Coldfront 2.0 ชอบมากๆ เลยก็คือการปรับโหมดเพียง Fn + Q เท่านั้น การเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง 1 x USB 3.1 Type-C, HDMI, 4 x USB 3.1 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX
ดีไซน์รวมๆ ของตัวเครื่องมีมิติที่เล็กกระชับ ด้วยความบางเพียง 26.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม ซึ่งเป็นจุดที่สมดุลทั้งในแง่ของประสิทธิภาพในการเล่นเกม และความสามารถในการพกพาได้อย่างลงตัว กับ Notebook RTX 2060 ราคาระดับกลางๆ ที่ไม่ได้เน้นแต่ความคุ้มค่าอย่างเดียว
แต่อยากได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีด้วย วัสดุที่ใช้ในการประกอบตัวเครื่องนั้นจะเป็นพลาสติกทั้งหมดก็จริง โดยเลือกใช้พลาสติกเกรดสูงที่ให้สัมผัสที่ดีอีกทั้งยังทนทานไม่เป็นรอยง่ายๆ งานประกอบรวมก็มีคุณภาพมาตรฐาน
- Ryzen 5 4600H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 36,900 บาท
- Ryzen 7 4800H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 36,900 บาท
4. HP OMEN 15 ราคา 41,900 บาท
OMEN 15 Laptop by HP ปี 2020 อีกหนึ่ง Notebook RTX 2060 รุ่นใหม่ที่มีดีไซน์โดยรวมที่เปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว ทั้งนี้รวมไปถึงในส่วนของสเปกภายในที่พร้อมขายเป็น Intel Core i Gen 10H + GeForce GTX / RTX ด้วย ซึ่งด้านแนวทางการออกแบบจัดได้ว่าพลิกโฉมไปเลย โดยเน้นความเรียบง่ายอย่างที่สุด
ส่วนสีสันก็เป็นดำด้านตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยมีโลโก้ OMEN ที่โดดเด่นซึ่งปรับให้มินิมอลสุดๆ ที่เชื่อได้ว่าแฟนๆ ของ OMEN ต้องถูกใจกับรุ่นใหม่นี้อย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุดในไทยได้พร้อมจำหน่ายแล้ว สนนราคาอยู่ที่ 41,990 บาท ส่วนประกันแบบ On-site 2 ปีตามมาตรฐานของ HP
ซึ่งถ้าเทียบ Notebook RTX 2060 หน้าจอ 15.6″ รุ่นก่อนๆ คงเป็นเรื่องของมิติตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระชับ ขอบจอบาง ที่สำคัญคือตัวเครื่องบางที่ 22.6 มิลลิเมตร พร้อมกับน้ำหนัก 2.35 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้ระดับ 200Watt เข้าไปด้วย
ก็จะมีน้ำหนักที่ประมาณ 2.9 กิโลกรัม ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างดีเลยทีเดียว สำหรับการใช้งานแบตเตอรี่ได้ทำการเคลมว่าใช้งานได้ 12.5 ชั่วโมงทีเดียว
สำหรับสเปก OMEN 15 Laptop by HP ปี 2020 เลือกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H อย่าง Core i7-10750H การ์ดจอเป็น NVDIA GeForce RTX 2060 ส่วนแรมได้มาขนาด 8GB DDR Bus 2933MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญได้หน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS ที่ 144Hz
กับระบบระบายความร้อน OMEN Tempest Cooling และมี OMEN Command Center ปรับแต่งการใช้งานพร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวใช้งาน Video Call ได้อย่างลื่นไหล พร้อมติดตั้ง Windows 10 แท้พร้อมใช้งานได้ทันที พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันที่สุด อย่างที่ Gaming รุ่นอื่นไม่มีกัน ทั้ง 3 x USB 3.2 Type-A
1 x Thunderbolt 3 (USB 3.2 Type-C), HDMI, mini Display Port, Kensington lock slot, ช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ และช่องเสียบไมค์แยกก็มีมาให้ด้วย ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX (2×2)
ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน วัสดุจะเป็นอะลูมิเนียมแบบขัดลายสวยงามให้ความรู้สึกที่แข็งแรง ตัดด้วยไฟสี RGB พร้อมไฮไลน์ปุ่ม WASD ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี อีกทั้งยังมีคำว่า O15 อยู่มุมซ้ายล่างแป้นคีย์บอร์ด
ส่วนด้านซ้ายบนจะเป็นปุ่ม Power มีไฟเมื่อเปิดใช้งาน ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำขอบสีแดง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีขาวโปร่งแสงพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง ขนาด Full Size มาตรฐานปกติ อย่างไรก็ตามมีการตัด Numpad ออกไปเพื่องานดีไซน์ที่ลงตัวนั่นเอง
5. MSI GL65 Leopard 10SER ราคา 43,900 บาท
MSI GL65 Leopard 10SER จัดว่าเป็น Notebook RTX 2060 ประเภท Gaming Notebook ตัวแรง หน้าจอ 15.6″ ที่จัดเต็มไม่แพ้รุ่นท็อป แต่ได้ราคาที่คุ้มค่าต่อสเปกสุดๆ โดยจัดเต็มจากชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H จับคู่มากับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2060 ตัวแรง เล่นเกมลื่นไหล
ได้แรมมาขนาด 8GB / 16GB DDR4 Bus 2666MHz เป็นมาตรฐาน ติดตั้งแหล่งเก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (อัปเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA 3 ได้อีก) หน้าจอ 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz
ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2 ชาแนลแบบ Giant Speaker บนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, USB 3.2 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, SD(XC/HC) card reader
พร้อมช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX ได้ประกัน 2 ปี มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 และซอฟต์แวร์ Dragon Center
MSI GL65 Leopard มาพร้อมกับการดีไซน์สีสันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สีโทนดำสลับแดง ดูโดยรวมแล้วเรียบง่ายกว่า ดุดันสไตล์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Hi-End ในราคาคุ้มค่า มีความบางของตัวเครื่องเพียง 27.5 มิลลิเมตร และเบาเพียง 2.3 กิโลกรัม
รอบๆ ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานต่าง ๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยสนนราคาอยู่ที่ 43,900 บาท ถือว่าเป็น Notebook RTX 2060 ในช่วงราคานี้ที่น่าสนใจมากๆ เพราะได้ทั้งสเปกและฟีเจอร์ที่จัดเต็มเหมือนตระกูล GE / GP ในราคาถูกลงกว่าเดิม
คีย์บอร์ดของ MSI GL65 Leopard เป็น Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Gaming Notebook จาก MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน
โดดเด่นด้วยการกด Fn แล้ว จะมีไฟสีแดงไฮไลท์ขึ้นมา พร้อม Silver Lining Print ขอบโปร่งแสงสวยงาม นอกจากนี้ยังมี Hotkey ตรงมุมขวาบนของชุดแป้นคีย์บอร์ด ไม่ว่าจะเป็นปุ่มเร่งรอบพัดลมและปุ่มเปิด Steelseries Engine 3
6. Dell G5 15 5500 ราคา 44,900 บาท
ปิดท้ายอีกหนึ่งรุ่นสำหรับ Notebook RTX 2060 น่าสนใจไม่แพ้กันกับ Dell G5 15 5500 รุ่นปลายปี 2020 ซึ่งเป็น Gaming Notebook ดีไซน์การมีการปรับใหม่ให้ดูสวยงามเฉียบเรียบยิ่งขึ้น มิติตัวเครื่องดูเล็กกระชับลงจากการที่ขอบหน้าจอบางลงตามเทรนด์ของ Notebook ปี 2020 มาพร้อมสีดำมันวาว Interstellar Dark พร้อมไฟ RGB เส้นยาวที่ขอบตัวเครื่องด้านหน้า
ที่บอกได้เลยว่าดูหรูหราและดู Gaming มากๆ ตามมาตรฐานของ Dell ที่หลายๆ คนชื่นชอบกันอยู่แล้ว วัสดุหลักๆ เป็นพลาสติกคุณภาพดี ที่มีงานประกอบที่แน่นหนา รวมไปถึงระบบระบายความร้อนก็ได้มีการปรับปรุงใหม่ เน้นความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่คุ้มค่าตามสไตล์ของ Dell
สำหรับสเปกหลักๆ ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 10H อย่าง i7-10750H ใส่แรมมาขนาด 16GB รวมไปถึงสนับสนุนการใช้งานทั้งฮาร์ดดิสก์ปกติ 2.5″ และ SSD M.2 NVMe PCIe ตามมาตรฐานความจุ 512GB – 1TB ที่สำคัญการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2060
ที่ต้องบอกว่าสมกับการรอคอยของหลายๆ คน นอกเหนือจากนั้นเรื่องของสเปกหน้าจอก็โดดเด่น ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ Refresh Rate 144Hz สนนราคาที่ 44,900 มาพร้อมการรับประกัน Dell Premium Support (On-site Sevice) ระยะเวลา 2 ปีเต็มด้วย
ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ แล้วจะใช้เป็นพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นพลาสติก ส่งผลให้ตัวเครื่องดีไซน์ออกแบบมาได้มีควมบางเบาเป็นพิเศษ ซึ่งส่วนของฝาหลังเป็นสีสันแบบเทาเข้มๆ เรียบๆ พร้อมใส่โลโก Dell ไว้ตรงกลางสีเป็นสีไทเทเนียมมันวาวเป็นประกาย เปลี่ยนไปตามทิศทางของแสงที่ดูแล้วไม่ซ้ำใคร
สำหรับตัวเครื่องด้านในก็ยังคงในโทนสีดำส่งผลให้ตัวเครื่องเป็นลักษณะทูโทน โดยโลโก้ใต้หน้าจอจะเป็น Dell สีไทเทเนียม โดยสะท้อนแสงเช่นเดียวกับโลโก้ฝาหลัง ส่วนชิ้นส่วนชุดแป้นคีย์บอร์ดไฟ RGB มีลักษณะแยกชิ้นตามสไตล์ของ Dell ที่ใช้กันในหลายๆ รุ่น เข้ากับตัวเครื่องที่มีไฟ RGB เส้นยาวที่ขอบตัวเครื่องด้านหน้า ให้ความรู้สึกเดียวกันกับ Alienware ที่เป็น Gaming Notebook รุ่นพี่เลยทีเดียว