2-in-1 Notebook ปี 2020 – 2021 สเปก Intel Core i / AMD Ryzen ในช่วงราคาเริ่มต้นที่ 1x,xxx บาท จนไปถึง 2x,xxx บาท โดยรองรับการใช้งานได้หลากหลาย อย่างพับหน้าจอได้ 360 องศา มีโหมดต่างๆ รวมไปถึงมีปากการองรับการขีดเขียนแม่นยำ สูงสุดถึง 4096 ระดับ ทำให้ใกล้เคียงกับปากกาหรือดินสอจริงๆ อย่างที่สุด
พร้อมดีไซน์ที่ให้ความบางเบา พกพาสะดวก หรือบางรุ่นก็ประสิทธิภาพสูง รองรับการใช้งานทั่วไป การใช้งานพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง ทำงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ก็ทำได้อย่างลื่นไหลทั้งหมด ที่สำคัญทุกรุ่นจะได้ Windows 10 มาพร้อมใช้งานทันทีด้วย
สเปกภายในจะได้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 หรือ AMD Ryzen 4000 ที่เน้นแรงประหยัดพลังงาน พร้อมให้ประสิทธิภาพประมวลผลได้หลากหลาย ส่วนการ์ดจอมีทั้งเป็นแบบออนชิปที่รองรับการทำงานทั่วไปเป็นหลัก และการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce หน่วยความจำแรมจะได้เป็นขนาด 4GB – 8GB พร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลมาตรฐานเป็น SSD M.2 ความจุ 256GB – 512GB
น้ำหนักประมาณ 1.3 – 1.6 กิโลกรัม เน้นเรื่องของแบตเตอรี่ที่ยาวนาน โดยใช้งานได้ประมาณ 8 ชั่วโมงขึ้นไป กรณีที่ไม่ต่ออแดปเตอร์ สำหรับความละเอียดหน้าจอทุกรุ่นจะเป็นมาตรฐาน Full HD 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลได้เป็น IPS คุณภาพดี ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม บางรุ่นได้ฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งาน Windows 10 ได้สะดวกรวดเร็วปลอดภัยอีกด้วย
เหมาะกับคนที่ต้องการ Notebook ใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการหน้าจอทัชสกรีน พร้อมมีปากกาไว้ขีดเขียน รองรับการทำงานด้านกราฟิกหรือวาดภาพ จดบันทึก ส่วนการรองรับใช้งานเอกสาร ใช้งานอินเตอร์เน็ตออนไลน์ ส่งอีเมล รวมไปถึงดูหนังฟังเพลง เป็นมาตรฐานที่ต้องทำได้ดี โดยได้รูปแบบประกันดีที่สุดเป็นมาตรฐาน 2 – 3 ปี On-site Servcie ซ่อมฟรีถึงบ้าน ซึ่งจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปชมกันต่อเลย
แนะนำ 2-in-1 Notebook 5 รุ่นน่าซื้อ
- 1. ASUS VivoBook Flip 14 ราคา 15,900 – 16,900 บาท
- 2. Lenovo IdeaPad Flex 5 ราคา 17,900 บาท
- 3. HP ENVY x360 13 ราคา 24,900 บาท
- 4. Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ราคา 29,900 บาท
- 5. Acer Spin 5 SP513-54N ราคา 29,900 บาท
1. ASUS VivoBook Flip 14 ราคา 15,900 – 16,900 บาท
ASUS VivoBook Flip 14 เป็น 2-in-1 Notebook รุ่นใหม่ล่าสุด บาง 17.6 มิลลิเมตร น้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัม ดีไซน์หรูหรากะทัดรัด หน้าจอ 14″ มาพร้อมชิปประมวลผล Intel อย่าง Core i3-8145U หรือ Core i3-10110U ที่แรงลื่นเพียงพอกับการใช้งานพื้นฐาน มาพร้อมกับหน่วยความจำแรมขนาด 4GB / 8GB และแหล่งเก็บข้อมูล SSD M.2 ความจุ 256GB – 512GB พร้อมกับ Windows 10 แท้ในตัว
ตัวเครื่องบางเพียง 17.6 มม. บางกว่าเก่าถึง 11% และเบาเพียง 1.6 กิโลกรัม มาพร้อมกับความเรียบหรูแต่คุ้มค่า เป็นโน๊ตบุ๊คที่บางที่ราคาถูกที่สุดจากทาง ASUS ที่ได้บานพับ 360 องศา หน้าจอสัมผัส Full HD พาเนล TN ขอบบาง 6.15 มิลลิเมตร ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล NanoEdge ที่บางเฉียบเป็นพิเศษ
ทำให้ ASUS VivoBook Flip 14 เหมาะกับจอภาพ Full HD ขนาด 14″ ในตัวเครื่องขนาด 13.3″ โดยมีอัตราส่วนจอภาพมากถึง 82% ของตัวเครื่องเพื่อการรับชมที่สมจริง รองรับการใช้งานหลากหลายโหมดได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง ASUS Active Pen
การเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 2.0 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, 2-in-1 SD และ Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.1 และ Wi-Fi 5 AC ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Fingerprint สแกนลายนิ้วมือเข้าสู่ระบบที่รวดเร็วและง่ายดายโดยผ่านคุณสมบัติของ Windows Hello
สำหรับ ASUS VivoBook Flip 14 รุ่นที่ต่อยอด ASUS VivoBook Flip รุ่นก่อนๆ มาดีไซน์โดยรวมถือว่าคล้ายเดิม ในตระกูลของ 2-in-1 Notebook มีสไตล์นี้มาพร้อมกับกรอบโลหะสุดอลังการ ด้วยสีน้ำเงิน Galaxy Blue บานพับโลหะที่พับได้รอบถึง 360 องศาออกแบบมาเพื่อความทนทาน
ได้รับการทดสอบการเปิดและปิดอย่างทรหดกว่า 20,000 ครั้ง เพื่อให้ได้ความทนทานสูงสุด โดยเหมาะมากๆ สำหรับคนทำงานนักเรียนนักศึกษาที่เน้นใช้งานทั่วไปแต่ลื่นไหล และใช้งานได้หลากหลาย กับราคา 15,900 – 16,900 บาท รองรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ
- Core i3-8145U / UHD 620 / RAM 4GB / SSD 256GB / จอ 14″ TN ราคา 15,900 บาท
- Core i3-10110U / UHD 620 / RAM 4GB / SSD 512GB / จอ 14″ TN ราคา 16,900 บาท
2. Lenovo IdeaPad Flex 5 ราคา 17,900 บาท
Lenovo IdeaPad Flex 5 14 เป็น 2-in-1 Notebook ดีไซน์หรูหรากะทัดรัด หน้าจอทัชสกรีนขนาด 14″ มาพร้อมขุมพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 3 4300U ทำงานด้วยความเร็ม 2.70 GHz – 3.70 GHz ทำงานแบบ 4 คอร์ 4 เธร์ด พร้อมมีการ์ดจอออนชิป Radeon 5 มาให้อีกด้วย
ส่วนสเปกอื่นๆ ก็มาพร้อมกับหน่วยความจำแรมขนาด 8GB และแหล่งเก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมกับ Windows 10 ในตัว ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 17,900 บาท ประกันเป็นระยะเวลา 2 ปี ตามมาตรฐาน Lenovo
ตัวเครื่องบางเพียง 17.9 มิลลิเมตร และเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม มาพร้อมกับความเรียบหรูระดับพรีเมี่ยม เป็นโน๊ตบุ๊คที่บางที่สุดรุ่นนึงจากทาง Lenovo บานพับ 360 องศา หน้าจอสัมผัส Full HD พาเนล IPS ขอบบาง ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล
รองรับการใช้งานหลากหลายโหมดได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Lenovo Active Pen ที่มีเทคโนโลยี Palm-Rejection ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติขณะเขียนเหมือนการเขียนปากกาบนกระดาษ ให้เสียงนุ่มจากลำโพงคุณภาพพร้อมมีเทคโนโลยี Dolby Audio ให้เสียงที่ดี
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย Lenovo IdeaPad Flex 5 14 ใช้หน้าจอขนาด 14″ รองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วมือและปากกา ความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วน 16:9 ขอบจอบางเฉียบ พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา มาพร้อม Windows 10 และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง
พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นค่อนข้างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น USB Type-A 3.1 ที่เป็นมาตรฐาน จำนวน 2 พอร์ต ส่วนอีกพอร์ตจะเป็น USB 3.1Type-C ส่วนช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. และ HDMI ยังมีมาให้ นอกจากนี้ยังมี Fingerprint สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Windows Hello ของ Windows 10 เพื่อล็อกอินโดยใช้การสแกนนิ้วอีกด้วย สำหรับประกันเป็น 2 ปี ตามมาตรฐาน Lenovo
3. HP ENVY x360 13 ราคา 24,900 บาท
HP ENVY x360 13 เป็น 2-in-1 Notebook สเปกชิปประมวล AMD Ryzen 4000U ที่แรงลื่นล้ำกว่ารุ่นก่อนๆ มาก ถือว่าเป็น 2-in-1 Notebook ขนาดหน้าจอ 13.3″ ที่ได้ความบางเบาหรูหราพรีเมียม ฟีเจอร์ครบครัน กับค่าตัวที่ไม่แพงเลย รองรับการใช้งานต่างๆ ได้ลื่นไหลสุดๆ
อีกทั้งยังบันเดิลปากกา Stylus ใช้วาดรูปขีดเขียนรุ่นใหม่ ที่สามารถติดกับตัวเครื่อง พร้อมชาร์จผ่านทาง USB-C ซึ่งบอกเลยว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่น่าซื้อสุดๆ ในราคา 29,900 ได้ประกัน 3 ปี On-site Service และบริการหลังการขาย HP SmartFriend ที่เยี่ยมยอด
สำหรับ HP ENVY x360 13 ชิปประมวลผล Ryzen 5 4500U การ์ดจอออนชิปเป็น Radeon 6 ได้หน่วยความจำแรมขนาด 8GB Bus 3200MHz และที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
รวมไปถึงยังได้ซอฟต์แวร์การทำงาน Office Home & Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่า 4,299 บาทฟรีๆ ด้วย ซึ่งมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ FringerPrint / Privacy Screen / Webcam Kill เรียกได้ว่าเป็น 2-in-1 Notebook ปี 2020 ที่น่าซื้อมากๆ รุ่นหนึ่งทีเดียว
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาตามนี้คือ 2 x USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C, Kensington Lock, Micro SD Card Reader และ Headset 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX แบบ 2×2 ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ในตัว พร้อมบันเดิลHP Active Pen และ USB-C Hub เพื่อขยายการเชื่อมต่อมาให้เลยในกล่องเลย
4. Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ราคา 29,900 บาท
Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ใหม่ล่าสุด และการ์ดจอแยก GeForce MX230 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สไตล์ 2-in-1 Notebook ประจำปี 2020 หน้าจอ 14 นิ้ว รองรับทัชสกรีนและปากกาที่ตอบโจทย์ ดีไซน์ดูหรูหรา มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่บางเบาเล็กกระทัดรัด
ขอบจอก็บางเฉียบ แรมขนาด 8GB DDR4 พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB สำหรับความละเอียดหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS ระดับ Full HD ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง พร้อมใช้งานด้วย Windows 10 และมีซอฟต์แวร์ต่างๆ มากมาย
มาพร้อมขนาดหน้าจอ 14″ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพดีอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง รองรับทัชสกรีน มีปากกาในชุดจัดจำหน่าย แรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX230 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์พอได้
สำหรับฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC และ Bluetooth 5.0 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.65 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางเครื่องก็เพียง 19.74 มิลลิเมตร สีสันสีเงิน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา พร้อมปุ่ม Power มุมขวาบนของคีย์บอร์ดสีดำที่เป็น Fingerprint ในตัว ซึ่งดูสวยงามลงตัวมากๆ
นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และ Fingerprint ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello สนนราคา Dell Inspiron 14 5490 2-in-1 มีราคากลางอยู่ที่ 29,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี แบบ Dell Premium Support และ On-Site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ตามมาตรฐานของ Dell รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้
5. Acer Spin 5 SP513-54N ราคา 29,900 บาท
Acer Spin 5 รุ่นใหม่ล่าสุด จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่ใช้สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ทั้ง i5 / i7 สถาปัตยกรรม Ice Lake (10 นาโนเมตร) ที่ได้การ์ดจอออนชิปเป็น Iris Plus Graphic อย่าง G4 โดดเด่นด้วยการมีหน้าจอขนาด 13.5″ พาเนล IPS เกรดสูง
เป็นสัดส่วน 3:2 ความละเอียด 2K (2256 x 1504 พิกเซล) เน้นใช้งานพื้นที่ที่มากกว่า รองรับการใช้งานปากกา Acer Active Wacom AES Stylus ที่สำคัญคือมีที่เก็บปากกาในตัวเครื่องเลย แน่นอนว่ามาพร้อมกับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 3 ที่แรงและดีที่สุด
Acer Spin 5 ได้หน้าจอเป็น 13.5″ ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด มีความละเอียดระดับ 2K คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้าง รองรับการทัชสกรีนด้วยนิ้ว 10 จุดพร้อมๆ กัน โดยมีน้ำหนักของตัวเครื่องเพียง 1.2 กิโลกรัม มาพร้อมกับ Windows Hello ติดตั้งเป็นแบบ Fingerprint
แน่นอนว่าสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Ice Lake อย่าง Core i5-1035G4 ส่วนของแรมเป็นขนาดสูงสุดที่ 16GB LPDDR4X และ SSD M.2 NVMe PCIe ได้ความจะเป็น 512GB รองรับการชาร์จไฟแบบรวดเร็ว พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 15 ชั่วโมงด้วย
รายละเอียดสเปกอื่นๆ ของ Acer Spin 5รุ่น ปี 2020 เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออย่าง Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 3 ที่ส่งข้อมูลได้เร็วแรงและปลอดภัยที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ถูกมาใช้เป็นมาตรฐานใน Swift 3 / Swift 5 แล้ว ส่วนของระบบเสียงเป็น Acer TrueHarmony และ DTS พร้อมมีคีย์บอร์ดไฟส่องสว่าง มีปากกาที่เขียนได้เหมือนจริงที่สุดอย่าง Acer Active Wacom AES Stylus รองรับแรงกด 4,096 ระดับ
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Acer Spin 5 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.5″ ในแบบยุคก่อนๆ เนื่องด้วยตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ ที่สำคัญขอบจอยังบางเฉียบ ทำให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย
ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ที่สำคัญ 2-in-1 Notebook มีการดีไซน์ที่เก็บปากกาล้ำๆ ของ Acer Active Wacom AES Stylus โดยติดตั้งอยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านล่าง มีความบาง 15.24 มิลลิเมตร และเบาเพียง 1.22 กิโลกรัม