MSI Commart 2020 ขน Notebook มาหลายรุ่นหลายราคา ทั้ง Gaming / Creator พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย อีกทั้งได้ของแถมจัดเต็มสุดๆ หลักๆ แล้วประกอบไปด้วย MSI GE66 Dragonshield Limited Edition / MSI GE66 Raider / MSI GS66 Stealth / MSI GP65 Leopard / MSI Bravo 15 / MSI Bravo 15 / MSI Prestige 15 / MSI Prestige 14 ซึ่งมีราคาที่คุ้มค่ามากๆ
ดูโปรโมชั่น MSI เต็มๆ ได้ที่นี่
MSI Notebook ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 หรือ AMD Ryzen 4000 ตอบสนองประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนฟีเจอร์และดีไซน์ก็ล้ำหน้าไม่แพ้กัน รวมไปถึงมีลูกเล่นที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งเสริมให้เรามีประสบการณ์ใช้งานที่ยอดเยี่ยมสมกับเป็น Notebook เพื่อการทำงานหรือเล่นเกม สมกับที่เป็น MSI ที่ตั้งใจนำเสนอ Notebook ที่เหนือชั้นกว่า เชื่อว่าต้องถูกใจกันซักรุ่นอย่างแน่นอน
โดยบทความนี้ จะเป็นการแนะนำ MSI Notebook ในงาน Commart 2020 รวมโปรโมชั่น Notebook น่าซื้อภายในงาน ทั้ง Gaming แรงลื่น / Creator บางเบา ฟีเจอร์จัดเต็ม ของแถมเพียบบบ ซึ่งภายในงาน Commart 2020 ที่จัดขึ้น ไบเทค บางนา ในวันที่ 26 – 29 พฤศจิกายน สำหรับราคาสามารถต่อลดรจากป้ายได้อีก บางรุ่นลด 1,000 – 2,000 บาทเป็นอย่างต่ำ หรือมากก่านั้น รวมถึงซื้อผ่าน Shopee ลดไป 1,500 บาท / ซื้อผ่าน Lazada ลดไปอีก 1,600 บาท
MSI GE66 Dragonshield Limited Edition เหลือ 72,990 บาท
ที่สุดของ Gaming Notebook ให้ความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร อย่าง MSI GE66 Raider Dragonshield ซึ่งได้รับการต่อยอดมาจาก MSI GE66 Raider รุ่นปกติ แต่มีการทำลวดลายพิเศษ จากนักออกแบบ Colies Wertz เป็นศิลปินแนว Comcept Desin และ VFX ที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ Concet Art และโมเดลสามมิติ
โดยเป็นการผสมผสานการออกแบบระหว่างคอนเซปต์ Sci-Fi รูปทรงภายนอกนั้นมีการนำความเป็นยานอวกาศในโลกอนาคต สื่อถึงเรื่องของประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการใช้งานที่เหนือกว่าใครวัสดุหลักรวมถึงส่วนของฝาพับทำมาจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง สีสันโทนไทเทเนียมเงินแบบด้านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
โดยสเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10875H ผสานการทำงานการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 พร้อมได้แรมขนาด 32GB DDR4 Bus 32000MHz ติดตั้งที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe เกรดสูง ความจุ 1TB หน้าจอเป็น IPS ระดับ 300Hz จัดว่าเป็น Gaming Notebook สุดล้ำและสุดแรงของตลาดเลยก็ว่าได้
อีกทั้งฟีเจอร์ที่เคยมีมาแล้วใน MSI GT76 Titan อย่าง Light Bar ในครั้งนี้นั้นทาง MSI ได้เลือกนำไฟ Mystic Light ที่จัดเต็มยิ่งกว่า ซึ่งติดตั้งที่ขอบตัวเครื่องด้านหน้าเป็นแนวยาววัสดุเป็นอะคริลิคที่รมดำเข้ากับตัวเครื่อง ให้การแสดงผลแบบ Panoramic Aurora
ออกแบบมาเพื่อให้สัมผัสถึงแสงไฟ RGB ที่สวยงาม ที่สามารถปรับแต่งได้ถึง 16.8 ล้านสี แน่นอนว่าทำงานร่วมกับไฟคีย์บอร์ด RGB Pre-Key เป็นอย่างดี พร้อมลำโพง Duo Wave Speaker ระบบเสียง Dynaudio ทั้งหมดนี้ช่วยให้เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- i7-10875H / RTX 2070 / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ IPS 300Hz ราคา 72,990 บาท (ปกติ 80,990 บาท)
แถมฟรีในงาน Commart
- Dragonshield Limited Edition Box Set มูลค่ารวม 7,500 บาท
(Dragonshield Spaceship มูลค่า 4,000 บาท, Dragonshield Mousepad มูลค่า 1,500 บาท, Gaming Mouse Dragonshield Edition มูลค่า 1,500 บาท, Concept Collection Book มูลค่า 500 บาท) - Urban Raider Backpack มูลค่า 1,890 บาท
- Loot Box No.080 มูลค่ารวม 3,100 บาท
(Dragon Figure Keychain มูลค่า 600 บาท, MSI Gaming Ropebag มูลค่า 800 บาท, MSI Dragonshield Gaming Headset มูลค่า 1,700 บาท)
MSI GE66 Raider เหลือ 64,990 – 94,990 บาท
ที่สุดของ Gaming Notebook ขนาด 15.6″ รุ่นล่าสุด อย่าง MSI GE66 Raider ซึ่งบทความนี้เราได้รับเครื่องจริงสเปกจริงมารีวิวแล้ว เป็นชิปประมวลผล Intel Core i9-10980HK / i7-10750H ผสานการทำงานการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 / RTX 2070 Super / RTX 2080 Super จัดว่าเป็น Gaming Notebook สุดล้ำและสุดแรง
โดยเป็นการผสมผสานการออกแบบระหว่างคอนเซปต์ Sci-Fi รูปทรงภายนอกนั้นมีการนำความเป็นยานอวกาศในโลกอนาคต สื่อถึงเรื่องของประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการใช้งานที่เหนือกว่าใคร สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มทั้งหน้าจอ IPS 300Hz พร้อมแรม 16GB – 32GB และ SSD M.2 เกรดสูงความจุ 1TB สนนราคาเพียง 64,900 บาท !!!
วัสดุหลักรวมถึงส่วนของฝาพับทำมาจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง สีสันโทนไทเทเนียมเงินแบบด้านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รูปทรงโดยรวมมีความคล้ายกับ MSI GT76 Titan รุ่นพี่ และในส่วนหลักของแสงที่ส่องสว่างออกมาจากบริเวณด้านหน้าของที่วางมือ ก็คือ Mystic Light แสดงแสงไฟแบบ Panoramic Aurora
วัสดุเป็นอะคริลิคที่รมดำเข้ากับตัวเครื่อง ประกอบกับไฟ Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries หน้าจอเป็น IPS ระดับ 240Hz พร้อมลำโพง Duo Wave Speaker ระบบเสียง Dynaudio ทั้งหมดนี้ช่วยให้เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ทางด้านช่องระบายความร้อนของ MSI GE66 Raider จะมีมาให้ด้วยกันถึง 4 ช่อง ด้านหลังสอง และด้านซ้ายขวาอีกอย่างละหนึ่งช่อง โดยใช้พัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 6 เส้นขนาดใหญ่ที่ดีกว่า ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Cooler Boost 5
ที่ช่วยนำพาความร้อนออกไปอย่างรวดเร็ว มีฟีเจอร์เด็ดที่น่าสนใจอยู่ก็คือปุ่ม F8 ที่ใช้สำหรับเปิดโหมด Turbo ของฟังก์ชัน Cooler Boost ให้พัดลมทำงานด้วยรอบสูงขึ้น เพื่อการระบายความร้อนได้ดีที่สุด
ดีไซน์ด้านในตัวเครื่องเป็นสีดำที่ทำลวดลายแบบรังผึงให้ความโดดเด่นไม่ต่างจากภายนอก แน่นอนว่าด้วยคีย์บอร์ด Full Size จากทาง SteelSeries พร้อมไฟ RGB Pre-Key ที่สวยงามลงตัว
รอบๆ ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมถูกจัดวางในส่วนฝั่งซ้ายและฝั่งขวา รวมไปถึงด้านหลังของตัวเครื่อง
- i9-10980HK / RTX 2080Super Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ IPS 300Hz ราคา 94,990 บาท (ปกติ 104,990 บาท)
- i9-10980HK / RTX 2070S / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ IPS 300Hz ราคา 79,990 บาท (89,990 บาท)
- i7-10875H / RTX 2070 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ IPS 300Hz ราคา 64,990 บาท (72,990 บาท)
แถมฟรีในงาน Commart
- Urban Raider Backpack มูลค่า 1,890 บาท
- Loot Box No.079 มูลค่ารวม 2,190 บาท
( RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท, Lucky Doll Keychain มูลค่า 500 บาท, Gaming Mousepad มูลค่า 400 บาท ) - Loot Box No.080 มูลค่ารวม 3,100 บาท
( Dragon Figure Keychain มูลค่า 600 บาท, MSI Gaming Ropebag มูลค่า 800 บาท, MSI Dragonshield Gaming Headset มูลค่า 1,700 บาท )
MSI GS66 Stealth เหลือ 49,990 – 99,990 บาท
สำหรับ MSI GS66 Stealth มีความพิเศษมากๆ เลยก็คือ เรื่องของดีไซน์ที่ความเบาน้อยลง เพื่อมารองรับประสิทธิภาพที่แรงกว่าเดิม จากการเลือกใช้งานโดยชิปประมวลผลสูงสุดเป็น Core i9-10980HK ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมี Core i7-10875H / Core i7-10750H เป็นตัวเลือก
ในส่วนของการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2080 Super Max-Q และมี RTX 2070 Super Max-Q / GTX 1660 Ti เป็นตัวเลือก ซึ่งมีความแรงประสิทธิภาพที่สูงเพียงพอต่อการเล่นเกมหนักๆ โดยเรื่องประสิทธิภาความแรงนั้นทะลุมาตรฐาน Gaming Notebook ทั่วไปไปไกลทีเดียว
สำหรับฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดของ MSI GS66 Stealth มีการปรับให้เรียบหรูยิ่งขึ้นไปอีก กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีดำตลอดทั้งตัวเครื่อง ที่คาดหลายคนต้องชอบมากกว่าเดิม ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน
ซึ่งดูแล้วแตกต่างจาก Gaming Notebook G Series ของทาง MSI รุ่นอื่น ที่ต้องเป็นสีแดง ให้กลายเป็นสีดำสนิท เน้นเรื่องการพรางตัว สมกับฉายา Stealth แน่นอนว่าจะเอาไปเล่นเกมก็ดุดัน จะเอาไปทำงานก็ลงตัวทีเดียว
มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ความจุ 2TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 32GB แบบ DDR4 Bus 2666MHz ขนาด 16GB จำนวน 2 แถว พร้อมรองรับ Dual Channel
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS สีสดใสมุมมองกว้าง ขอบเขตสีใกล้เคียง sRGB 100% พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ
ที่สำคัญรองรับ Refresh Rate 240Hz – 300Hz ส่งผลให้เล่นเกมได้ลื่นไหลสุดๆ และตัวเครื่องยังมีลำโพงจากแบรนด์ Dynaudio พร้อมซอฟแวร์เสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า มาพร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-C Gen2 และ Thunderbolt 3 (รองรับ DisplayPort / PD charging) อย่างละ 1 ช่อง, 3 x Type-A USB3.1, 1x RJ45, 1x (4K @ 60Hz) HDMI บอกเลยว่าจัดเต็มมากๆ
ส่วนช่องหูฟัง Hi-Res Audio และไมค์แบบแจ็คทอง 3.5 มิลลิเมตรเป็นแบบแยกออกจากกัน เอาใจ Gaming Headset ทีเดียว การเชื่อมต่อไร้สายก็จะมีมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX + Bluetooth 5.1 รวมไปถึงมี Killer Doubleshot Pro ทำให้เล่นเกมได้ไม่สะดุดทั้ง LAN และ Wi-Fi
- Core i9-10980HK / RTX 2080S Max-Q / RAM 32GB / SSD 2TB / จอ IPS 300Hz ราคา 99,990 บาท (ปกติ 114,990 บาท)
- Core i9-10980HK / RTX 2070S Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ IPS 300Hz ราคา 79,990 บาท (ปกติ 89,990 บาท)
- Core i7-10875H / RTX 2070 Max-Q / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ IPS 300Hz ราคา 64,990 บาท (ปกติ 72,990 บาท)
- Core i7-10875H / RTX 2070 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ IPS 240Hz ราคา 59,990 บาท (ปกติ 62,990 บาท)
- Core i7-10750H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 240Hz ราคา 49,990 บาท (ปกติ 52,990 บาท)
แถมฟรีในงาน Commart
- Stealth Trooper Backpack มูลค่า 1,690 บาท (อยู่ในกล่องพร้อมตัวเครื่อง)
- Loot Box No.079 มูลค่ารวม 2,190 บาท
( RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท, Lucky Doll Keychain มูลค่า 500 บาท, Gaming Mousepad มูลค่า 400 บาท ) - Loot Box No.080 มูลค่ารวม 3,100 บาท
( Dragon Figure Keychain มูลค่า 600 บาท, MSI Gaming Ropebag มูลค่า 800 บาท, MSI Dragonshield Gaming Headset มูลค่า 1,700 บาท )
MSI GP65 Leopard เหลือ 41,990 – 54,990 บาท
MSI GP65 Leopard จัดเป็น Gaming Notebook ที่จัดเต็มไม่แพ้รุ่นท็อป แต่ได้ราคาที่คุ้มค่าต่อสเปกสุดๆ โดยรุ่นที่ขายจะมีสเปกทั้งชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H / Core i7-10875H การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti / RTX 2060 / RTX 2070
ได้แรมมาขนาด 16GB DDR4 Bus 2666MHzโดยได้แหล่งเก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (อัปเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA 3 ได้อีก) หน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 และซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
ที่สำคัญ MSI GP65 Leopard ได้ดีไซน์ดุดันตามสไตล์ของ G Series จาก MSI ยังมีฟีเจอร์ Gaming มากมาย อาทิ ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ Per-key RGB แบบปรับแต่งแยกปุ่มอิสระ
มีพอร์ตการเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB-C / A 3.2 และอื่นๆ พร้อมการเชื่อม Wi-Fi 6 AX โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ประกอบกับการใช้หน้าจอที่ขอบบาง ทำให้ตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด สะดวกต่อการพกพามากยิ่งขึ้น มีราคาเริ่มต้นที่ 49,900 บาทเท่านั้น
สำหรับ MSI GP65 Leopard 10SEKเป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ จัดว่าเป็นซีรีส์รองมาจากตระกูล GE / GT โดยรุ่นล่าสุดนี้เน้นความคุ้มค่า โดยมาพร้อมกับการดีไซน์ที่เน้นเรื่องจอใหญ่บางเบาพร้อมกับพกพาได้สะดวกเป็นหลัก
สีสันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สีโทนดำและเทาแบบทูโทนเริ่มจากวัสดุบอดี้ตัวเครื่องฝาหลังจะเป็นอลูมิเนียมสีดำด้าน สัมผัสผิวเรียบหรูสวยงาม ผสานกับโลโก้มังกร MSI มีไฟสว่างสีขาวเมื่อเปิดเครื่อง ดูโดยรวมแล้วเรียบง่ายกว่า ดุดันสไตล์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Hi-End ในราคาคุ้มค่า
ในส่วนของบานพับเป็นแบบ 2 แกนที่ขนาดใหญ่ สามารถกางหน้าจอได้มากถึง 145 องศา ความหนืดของบานพับกำลังพอเหมาะอีกทั้งยังแข็งแรงทนทาน ในส่วนของงานดีไซน์ภายในจะเป็นสีเทา ได้งานประกอบก็ยังทำออกมาเรียบร้อย
ด้วยวัสดุอลูมิเนียมและขั้นตอนในการผลิตทำให้ตัวเครื่องมีความมั่นคงแข็งแรง ไม่รู้สึกไม่มั่นคงในขณะหยิบจับใช้งานแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ที่ต้องยอมรับในเรื่องของงานประกอบที่แน่นหนาอย่างน่าประทับใจจริงๆ
- Core i7-10875H / RTX 2070 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 54,990 บาท (ปกติ 59,990 บาท)
- Core i7-10875H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 49,990 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 144Hz ราคา 41,990 บาท (ปกติ 45,990 บาท)
แถมฟรีในงาน Commart
- Air Backpack มูลค่า 1,490 บาท (อยู่ในกล่องพร้อมตัวเครื่อง)
- Loot Box No.079 มูลค่ารวม 2,190 บาท( RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท, Lucky Doll Keychain มูลค่า 500 บาท, Gaming Mousepad มูลค่า 400 บาท )
- Loot Box No.080 มูลค่ารวม 3,100 บาท (Dragon Figure Keychain มูลค่า 600 บาท, MSI Gaming Ropebag มูลค่า 800 บาท, MSI Dragonshield Gaming Headset มูลค่า 1,700 บาท)
MSI Bravo 17 เหลือ 33,990 – 35,990 บาท
MSI Bravo 17 ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นถัดมาจาก MSI Bravo 15 ที่เป็น AMD Notebook รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ใช้ทั้งชิปประมวลผล Ryzen 4000H และการ์ดจอเป็น AMD Radeon RX5500M โดยมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าที่ 17.3″ แตกต่างจาก MSI Bravo 15 ที่เป็น 15.6″ ให้ความคุ้มค่าไม่แพ้กัน
ความละเอียดเป็น Full HD พาเนล IPS มี Refesh Rate ที่ 144Hz แน่นอนว่ารองรับ FreeSync ให้ภาพไม่ฉีกขาด โดดเด่นด้วยน้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัม ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด นับได้ว่าเป็นหนึ่งใน Gaming Notebook 17.3″ ที่น่าสนใจที่สุดในตลาด
สเปกใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H เป็น CPU ที่ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธรด มีความเร็วอยู่ที่ 2.90 – 4.20GHz โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร เช่นเดียวกับการ์ดจอ Radeon RX5500M ส่งผลให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่ง
พร้อมด้วยความร้อนที่น้อยลงไปอีก และประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิมด้วย มีที่เก็บข้อมูลเป็นมาตรฐาน SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ทั้งแรงและลื่นไหล ในส่วนของแรมมีมาให้ 8GB / 16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB (ใส่ Ram ได้ 2 แถว) นับได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง 1 x HDMI, 3 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 3.1 Type C, Kensington lock slot, Lan RJ-45 , รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน
พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX + Bluetooth 5.0 พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ ซึ่งดูจากราคาก็นับว่ามีความคุ้มค่ามากๆ เริ่มต้นเพียง 33,900 บาท สำหรับรุ่นแรม 8GB และ 35,900 บาทกับรุ่นแรม 16GB รายละเอียดอื่นๆ เหมือนกันหมด
- Ryzen 7 4800H / RX5500M / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 17.3″ IPS 144Hz ราคา 33,990 บาท (ปกติ 35,990 บาท)
- Ryzen 7 4800H / RX5500M / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 17.3″ IPS 144Hz ราคา 35,990 บาท (ปกติ 37,990 บาท)
แถมฟรีในงาน Commart
- Stealth Trooper Backpack มูลค่า 1,690 บาท
- RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท
MSI Bravo 15 เหลือ 28,990 – 32,990 บาท
MSI Bravo 15 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2020 จอ 15.6″ น้ำหนักเบาสุดๆ ที่ 1.96 กิโลกรัม สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H อีกหนึ่งรุ่นในตลาด จากทาง MSI ที่น่าสนใจจริงๆ ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4600H /Ryzen 7 4800H ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด
ล้ำด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม Zen 2 (Renoir) จับคู่มากับการ์ดจอ AMD Radeon RX5500M ซึ่งได้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม RDNA แน่นอนว่าสเปกนี้ทำให้เราเล่นเกมได้แรงลื่น กว่าสเปกก่อนๆ อย่าง Ryzen 3000H + Radeon RX5500M ใน MSI Apha 15 รุ่นพี่ที่ออกมาก่อน
ในส่วนของสเปกอื่นๆ MSI Bravo 15 เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ขอบจอบางเฉียบ พาเนลเลือกใช้เป็น IPS ที่รองรับ Refresh Rate 120Hz ที่ให้ทั้งสีสันที่สวยงามและความลื่นไหลไปพร้อมๆ กัน โดยติดตั้งหน่วยความแรมเป็นขนาด 8GB มาตรฐาน DDR4 Bus 3200Hz
และใส่ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ซึ่งได้ทั้งความลื่นไหลและความจุสูงไปในตัวเดียว โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 28,990 บาทกับรุ่น Ryzen 5 4600H และ 32,990 บาทกับรุ่น Ryzen 7 4800H ซึ่งมีราคาต่างกันที 3,000 บาท
การออกแบบเอง MSI Bravo 15 ต้องบอกว่ามีลักษณะรูปทรงใกล้เคียงกับ MSI GF63 / GF65 ทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้แตกต่างชัดเจนคือส่วนของโลโก้ฝาหลังด้วยนกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเงินมันวาว สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน
โดย MSI Bravo 15 ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม ซึ่งต้องยอมรับว่าโดยรวมนั้นดีอยู่แล้ว มีน้ำหนักที่ใกล้เคียงกับ MSI GF63 / GF65 ที่เบาเพียง 1.96 กิโลกรัม (หนักกว่า 100 กรัม) อีกทั้งตัวเครื่องก็มีความบางสุดที่ 21.7 มิลลิเมตรด้วย ส่งผลให้การพกพาไม่เป็นปัญหาแน่นอน
ม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ แต่มีมิติตัวเครื่องใกล้เคียงกับรุ่น 14″ ซึ่งขอบจอบางมากเพียง 4.9 มม เท่านั้น บางมากๆ จนคิดว่าจอ 14″ จริงๆ ด้วยซ้ำ ใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน ปุ่มเปิดปิดของตัวเครื่องได้ติดตั้งอยู่มุมซ้ายของคีย์บอร์ดดีไซน์ได้เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องเป็นอย่างดี
ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานคือไม่มี Numpad แต่ปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือขึ้น ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านมุมบนขวามือแยกจากคีย์บอร์ด นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมีไฟสีแดง สามารถเปิดปิดได้ 3 ระดับ
- Ryzen 5 4600H / Radeon RX5500M / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 28,990 บาท
- Ryzen 7 4800H / Radeon RX5500M / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 32,990 บาท
แถมฟรีในงาน Commart
- Stealth Trooper Backpack มูลค่า 1,690 บาท
- RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท
MSI Prestige 15 เหลือ 54,990 บาท
MSI Prestige 15 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สาย Content Creator หน้าจอ 15.6″ 4K UHD ตัวเทพในตลาด ที่เบาเพียง 1.6 กิโลกรัม โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพและฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากมาย ซึ่งใช้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 รุ่นล่าสุดอย่าง Core i7-10710U
ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอตัวแรง NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q พร้อมแรมขนาด 32GB และ SSD M.2 ที่ 1TB จัดเต็ม ส่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ทรงพลังอย่างที่สุด สนับสนุนทั้งทำงานและเล่นเกมที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ
สำหรับ MSI Prestige 15 ตัวท็อปได้หน้าจอแสดงผลแบบ True Pixel มาตรฐานความละเอียด Ultra HD ที่จะช่วยติมเต็มประสบการณ์ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานได้มากยิ่งขึ้น จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมสเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ที่แรงที่สุดในตลาดตอนนี้
อีกทั้งได้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครันตามสไตล์ของ MSI ที่จัดเต็ม ไม่เกรงใจใคร ในราคา 54,990 บาท เหมาะกับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นความแรงลื่นและสีสันเที่ยงตรงในน้ำหนักตัวเครื่องเบา พกพาสะดวก การเชื่อมต่อครบครันด้วย Thunderbolt 3 / Wi-Fi 6 AX
ที่สำคัญกับแนวคิดที่ได้ขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งบางเฉียบเพียง 5.6 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ซึ่งการใช้งานจริงมุมมองมันก็จะดู เป็นปกติกว่าโน๊ตบุ๊คบางรุ่นที่ย้ายไปติดตั้งที่อื่น ส่วนความบางสุดๆ ของตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น
ถือว่า MSI นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ เลยครับ สำหรับการเปิดปิดฝาของหน้าจอก็ทำได้ง่ายเพราะขอบตัวเครื่องด้านหน้าได้มีการเว้นร่องเว้าเอาไว้สวยงาม
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 15.6″ ทั่วไปอย่างชัดเจน ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI Prestige 15 ไม่ใช่แค่บางเบาและสเปกดีแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายบางเบาเน้นพกพา แต่มาพร้อมการ์ดจอระดับ GTX 1650 Max-Q สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็ม
ที่แม้ราคาอาจจะสูงกว่าพวก Gaming Notebook แต่ได้น้ำหนักที่เบาและตัวเครื่องที่ดูหรูมาแทน พร้อมบริเวณบานพับก็เป็นช่องระบายความร้อน 2 ช่อง ที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างเรียบเนียน ที่สำคัญ MSI Prestige 15 ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost 3 แบบพัดลม 2 ตัวอยู่ทางด้านหลังของตัวเครื่อง
- Core i7-10710U / GTX 1650 Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / 15.6″ Ultra HD ราคา 54,990 บาท (ปกติ 59,990 บาท)
แถมฟรีในงาน Commart
- Stealth Trooper Backpack มูลค่า 1,690 บาท
- Type C Multi-Port Hub มูลค่า 1,000 บาท
- Prestige Topload Bag มูลค่า 1,290 บาท (อยู่ในกล่องพร้อมตัวเครื่อง)
- Prestige Wireless Mouse มูลค่า 1,000 บาท (อยู่ในกล่องพร้อมตัวเครื่อง)
MSI Prestige 14 Rose Pink เหลือ 35,990 บาท
MSI Prestige 14 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่หน้าจอ 14″ ตัวแรงลื่น สีขาวชมพูโดดเด่น อย่าง Rose Pink โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพจากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 รุ่นล่าสุดอย่าง Core i7-10510U ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce MX330 และฟีเจอร์พอร์ต Thunderbolt 3 / USB PD
ที่สำคัญคือตัวเครื่องมีความพรีเมียมและบางเบาอย่างที่สุด มีน้ำหนักเพียง 1.29 กิโลกรัมเท่านั้น ในส่วนของสเปกแรมได้มาขนาด 16GB และ SSD ที่ 512GB จัดเต็ม ส่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ทรงพลังอย่างที่สุด สนับสนุนทั้งทำงานและเล่นเกมที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ
สำหรับ MSI Prestige 14 ได้หน้าจอแสดงผลแบบ True Pixel พาเนล IPS เกรดสูงสีตรงแม่นยำ มาตรฐานความละเอียด Full HD ที่จะช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์ได้เติมเต็มประสบการณ์ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งได้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครันตามสไตล์ของ MSI ที่จัดเต็ม ไม่เกรงใจใคร ในราคาเพียง 35,990 บาทเท่านั้น จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค Core i Gen 10 หน้าจอขนาด 14″ ที่น่าสนใจมากๆ ทีเดียว
สำหรับ MSI Prestige 14 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงแต่บางเบาขนาดหน้าจอ 14″ รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่งที่ครบเครื่อง ถูกต่อยอดมาจาก MSI Prestige รุ่นก่อนๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก
โดยยังรักษาความเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.29 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันพรีเมียมด้วยวัสดุอลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมตัดขอบเพชรเพิ่มความหรูหรา
พร้อมความทนทานระดับ Military Standard ด้วยการผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ทั้งทนร้อนทนเย็น ความดันอากาษ ความชื้นและฝุ่นต่างๆ ในระดับหนึ่ง โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการเลือกใช้ให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องเป็นลักษณะแบบด้าน
พร้อมตกแต่งรายละเอียดบริเวณขอบด้วยเทคโนโลยี diamond-cutting ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่โน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพต้องดูดำๆ ดีไซน์โบราณ ให้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูน้อยแต่เรียบหรูแทนนั่นเอง
- Core i7-10510U / MX330 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 35,990 บาท (ปกติ 35,990 บาท)
แถมฟรีในงาน Commart
- Prestige 14 Rose Pink Edition Giftbox มูลค่า 2,600 บาท
(Prestige Wireless Mouse Rose Pink Edition มูลค่า 1,150 บาท, Prestige Carry Bag Pink Edition มูลค่า 1,000 บาท, Lucky Dragon Keychain Pink Edition มูลค่า 450 บาท
(อยู่ในกล่องพร้อมตัวเครื่อง)