สำหรับ Advice ก็ถือว่าเป็นอีกบูธหนึ่งใน Commart 2020 ที่นำเอาเกมมิ่งพีซี สเปคน่าใช้หลายรุ่นมาเปิดให้จับจองกันในงานนี้ กับสนนราคาไม่ถึงหมื่นบาท ด้วยตัวเลือกที่มีทั้ง Intel และ AMD ก็มีในหลายรุ่นที่เรานำมาให้ชมกัน ซึ่งนอกจากเกมมิ่งพีซีที่มีราคาจับต้องได้ ก็ยังมีการผ่อนหลากหลายรูปแบบ สำหรับคนที่ถือบัตรเครดิตอีกด้วย มาดูกันว่า 7 รุ่นนี้ มีความน่าสนใจอย่างไร?
7 สเปคคอมน่าซื้อใน Advice – Commart 2020
สเปคที่ 1: งบน้อย 9,490 บาท
สำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นกับคอมสักเครื่อง ที่อาจจะไม่ใช่เกมมิ่งพีซีจัดๆ แต่ก็ดูคุ้มค่าน่าใช้ ด้วยซีพียูน้องเล็ก AMD Ryzen 3 3200G แม้จะเป็นน้องเล็ก แต่ก็เป็นแบบ 4 core/ 4 thread ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปได้ดีพอสมควร คู่มากับเมนบอร์ด A320 ตอบรับกับการใช้งานพื้นฐานได้ แต่เพาเวอร์อัพด้วยแรม DDR4 2666 16GB และ SSD 250GB M.2 NVMe ส่วนการ์ดจอจะเป็นแบบ APU ที่มีอยู่ใน Ryzen 3 โดยใช้เพาเวอร์ระดับ 550W และเคสสุดน่ารักไฟพัดลมสวยๆ มาให้
สเปคที่ 2: เกมเมอร์เริ่มต้น 14,990 บาท
สำหรับเกมเมอร์ระดับเริ่มต้น งบประมาณยังไม่มาก เซ็ตนี้ตอบโจทย์คุณได้ ซีพียู Intel Core i3-10100F กับการทำงาน 4 core/ 8 thread ที่เรียกว่ามากพอสำหรับเกมในปัจจุบัน จับคู่มากับเมนบอร์ด H410 และแรม DDR4 2666 มากถึง 16GB และเพื่อให้การเข้าโปแกรม ทำได้ไวขึ้น ยังมี SSD 240GB มาให้ พื้นที่พอกับการติดตั้งเกมได้ 1-2 เกม และโปรแกรมทั่วไปเล็กน้อย แต่ได้ความแรงมากขึ้น ด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1650 SUPER ที่สามารถลุยกับเกมในทุกวันนี้ได้ดี โดยเฉพาะในโหมด Medium ที่พอจะให้ภาพสวยๆ ลื่นไหลได้ในหลายเกม โดยมีเพาเวอร์ระดับ 550W และเคสข้างใสกระจกเทมเปอร์มาด้วย
สเปคที่ 3: เล่มเกมเน้นลื่น 17,990 บาท
แต่ถ้ามีงบเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย ในบูธ Advice ก็ยังมีสเปคของ iWORK ในโปรของ iWANT ที่เป็นการจัดสเปคพีซีน่าใช้มาให้ได้สัมผัสกัน ในราคาที่ย่อมเยา ด้วยซีพียู Intel Core i3-10100 4 core/ 8 thread มาคู่กับเมนบอร์ด H410 มาตรฐาน ใสาแรมมาให้ 8GB แต่เป็น DDR4 3200 มีไฟ RGB บนแรมด้วย รวมถึงการ์ดจอ GTX 1650 SUPER และ SSD M.2 NVMe 250GB มาในเคสสวยข้างใส และเพาเวอร์ 550W 80 Plus อีกด้วย สเปคจะคล้ายกับสเปค 2 แต่ต่างกันตรง ซีรีส์และรุ่นของอุปกรณ์บางอย่างที่นำมาใช้
สเปคที่ 4: ภาพสวย เกมเมอร์เริ่มโปร 22,990 บาท
ในงาน Commart 2020 ปีนี้ แนวโน้มของพีซีประกอบระดับ 20,000-30,000 บาท มีมาให้เลือกกันเยอะขึ้น น่าจะเป็นช่วงที่ประสิทธิภาพและราคาค่อนข้างลงตัวมากที่สุด เรียกว่าไม่ต้องแพงก็แรงได้ เช่นเดียวกกับชุดนี้ ที่มาพร้อมกับซีพียู Intel Core i5-10400F ทำงานในแบบ 6 core/ 12 thread มาคู่กับเมนบอร์ดระดับกลาง B460 และแรม DDR4 2666 16GB และยังได้ SSD M,2 NVMe ตัวแรง 512GB ลงเกม ติดตั้งโปรแกรมสบายๆ ใช้งานไหลลื่น เข้าเกมไว โอนถ่ายข้อมูลสะดวก ให้การ์ดจอ RTX 2060 มาด้วย ช่วยให้การเล่นเกมโหดๆ ไม่อึดอัด สเปคนี้ยังพอเปิด Ray-tracing ได้ มาพร้อมกับเพาเวอร์ 550W และเคสสวยๆ ไฟพัดลม ARGB อลังการ
สเปคที่ 5: เล่นเกมลื่น OC ได้ 23,990 บาท
สเปคนี้ขยับมาที่ 2 หมื่นหน่อยๆ แต่ก็ขยับสเปคขึ้นมาได้น่าสนใจทีเดียว กับซีพียู ระดับ 6 core/ 12 thread บน AMD Ryzen 5 3600 มาบนเมนบอร์ด B450 สำหรับการปรับแต่งที่ยืดหยุ่นขึ้น เสริมความแรงด้วยแรม DDR4 2666 16GB และมี SSD M.2 500GB ลงเกม ลงโปรแกรมได้เพียงพอ พร้อมด้วยการ์ดจอ AMD RX 5600XT ที่แรงสำหรับเกมในปัจจุบันได้ ปรับ Medium, High ก็ยังไหว เพาเวอร์ 550W และเคสสไตล์เท่โชว์ด้านข้างมาด้วย
สเปคที่ 6: สายสตรีมเมอร์ เกมลื่นไหล 44,990 บาท
ขยับมาที่สเปคที่เริ่มฮาร์ดคอร์ขึ้นมาบ้าง ในงบไม่ถึง 5 หมื่นบาท แต่ก็ร้อนแรงด้วย Intel Core i7-10700F 8 core/ 16 thread มาบนเมนบอร์ด Z490 พร้อมกับแรม DDR4 3200 16GB ที่ให้การทำงานของระบบได้ลื่นไหลมากขึ้น และมี SSD 500GB M.2 NVMe ตัวแรงมาอีกด้วย การ์ดจอ RTX 3070 เรือธงตัวคุ้ม ที่มีความสดใหม่ เอาใจทั้งกลุ่มที่เน้นประสิทธิภาพและความสวยงามของเกม ควบคู่กันไป โดยมีเพาเวอร์ 650W 80 Plus มาให้และเคสพัดลมไฟ RGB และกระจกเทมเปอร์สวยๆ
สเปคที่ 7: 79,900 บาท
สุดท้ายกับสเปคฮาร์ดคอร์เกมมิ่งที่แท้จริง ในงาน Commart 2020 นี้ ราคาไม่โหดหิน เคาะที่ 7 หมื่นกว่าบาท สำหรับสเปคนี้ มาจากโปรเจกท์ iWANT ที่เป็นพีซีตัวท็อปสุด และมากับซีพียูซีรีส์ท็อปสุดด้วย Intel Core i9-10850K ทำงานในแบบ 10 core/ 20 thread ความเร็วสูงสุด 5.2GHz พร้อมเทคโนโลยีอัดแน่นมาในตัว ไม่ใช่แค่การเล่นเกม แต่ยังทำงาน กราฟิก ตัดต่อหรือกลุ่มที่อยากก้าวสู่การเป็นยูทูปเบอร์ ก็เหมาะอย่างยิ่ง มาพร้อมกับชุดน้ำปิด AIO สวยๆ มาช่วยระบายความร้อน และมีแรม DDR4 3200 32GB และได้ SSD M.2 NVMe 1TB และยังใส่ฮาร์ดดิสก์ตัวเทพอย่าง WD Black 2TB ให้การเก็บไฟล์งานหรือการโอนถ่ายไฟขนาดใหญ่เป็นไปอย่างรวดเร็ว การ์ดจอตัวรองท็อป GeForce RTX 3080 จูนอัพปรับแต่งกับเกมต่างๆ ได้สบาย เน้นเล่น 2K หรือ 4K ยังลื่น เพาเวอร์ซัพพลาย 850W 80 Plus Gold และเคสอลังการงานสร้าง กระจกเทมเปอร์รอบตัวอีกด้วย