Notebook 2020 สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 (Tiger Lake) ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่แบบ 10 นาโนเมตรเหมือนชิปประมวลผลของ Intel ในรุ่น Core i Gen 10 (Ice Lake) แต่ต่างกันตรงที่การผลิตจะใช้สถาปัตยกรรมใหม่อย่าง Willow Core ซึ่งเป็นการผลิตชิปประมวลผลแบบ 10 nm ด้วย SuperFin Design ซึ่งลดการใช้พลังงานให้น้อยลงแต่ดึงศักยภาพโดยรวมของชิปประมวลผลให้เพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งด้านกราฟิกได้อัพเกรดการ์ดจอออนชิปเป็น Intel Iris Xe รุ่นใหม่ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 2 – 3 เท่า โดยทาง Intel ยืนยันว่านี่จะเป็นการเปิดยุคสมัยใหม่ของคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กให้สามารถทำงานทุกอย่างได้ครบถ้วนทั้งการตัดต่อ การเล่นเน็ต ไปจนถึงการดูหนังฟังเพลงและเล่นเกม จบครบในเครื่องเดียว อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
รวมไปถึงการที่ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 มี AI ในตัว ทำให้รองรับซอฟต์แวร์หลายตัวที่สนับสนุนงาน AI อย่าง อาทิ Microsoft Office : Word / Excel / Power Point หรือ Adobe อย่าง Photoshop / Lightroom / Premiere Pro ทำให้รวดเร็วพวกสเปก Core i Gen 10H ซึ่งเป็น Gaming เครื่องหนาๆ หนักๆ เสียอีกในบางกรณีของการทำงาน อีกทั้งยังได้มาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 4 อีกด้วย
ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Notebook 2020 จำนวน 6 รุ่นใหม่ Intel Core i Gen 11 มี AI ในตัว ช่วยทำงานลื่นไหลกว่าเดิม เน้นพกพาบางเบาด้วยหน้าจอ 13.3″ – 14″ พาเนล IPS การ์ดจอตัวแรงทั้ง Intel Iris Xe / Iris Xe Max หรือบางรุ่นได้การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce MX350 / MX450 พร้อมแรม 8GB และ SSD 512GB เป็นมาตรฐาน กับราคาเริ่ม 22,900 บาท จะมีรุ่นอะไรบ้างนั้นไปชมกันต่อเลย
ASUS VivoBook 14 S413 ราคา 22,900 – 26,900 บาท
ASUS VivoBook 14 S413 เป็น Notebook 2020 รุ่นใหม่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 สถาปัตยกรรม “Tiger Lake” สถาปัตยกรรมขนาด 10nm SuperFin Willow Cove ที่แรงลื่นทรงพลังยิ่งกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ พร้อมมี AI เข้าช่วยไปอีกขั้น ทั้งทำงานและความบันเทิงดีขึ้น ดีไซน์สวยด้วยหน้าจอ 14″ IPS Full HD
มีความบาง 17.9 ม.ม. และเบาเพียง 1.4 ก.ก. วัสดุเป็นโลหะอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ให้ความพรีเมียมดูดีเกินราคา เจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์
สำหรับ ASUS VivoBook 14 S413 เครื่องนี้ได้รับการออกแบบที่เหมือนกับรุ่นสเปก Core i Gen 10 ซึ่งแม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แล้ว สเปคเน้นประสิทธิภาพที่มากว่า มาพร้อมกับความแตกต่างและสีสันไม่ซ้ำใครแน่นอน โดดเด่นด้วยสีสัยหลากหลายและได้ปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง
โดยหลักๆ แล้วประกอบไปด้วยสเปก Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 การ์ดจออนชิปเป็น Intel Iris Xe ประสิทธิภาพดีขึ้นไปอีก หรือรุ่นการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX350 ก็มีเป็นตัวเลือก ได้แรมขนาด 8GB และ SSD 512GB มี Windows 10 แท้ ส่วนประกันเป็นประกัน 2 ปี + ประกันอุบัติเหตุ 1 ปีตามมาตรฐานของ ASUS
บางงานทำได้ดีกว่า Gaming Notebook เจากการที่ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ซึ่งมี AI ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด AIPT (ASUS Intelligent Performance Technology) ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ดีขึ้นมากกว่า 70% เมื่อเทียบกับเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า และกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ Intel Iris Xeมอบประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ 8K หรือการตัดไฟล์วิดีโอที่ลื่นไหลยิ่งขึ้นพร้อมพอร์ทเชื่อมต่อที่ครบครันก็ทำได้เยี่ยมยอดด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้าและไมโครโฟนรองรับการใช้งาน VDO Call ตามมาตรฐาน มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง Thunderbolt (USB 3.2 Type-C), USB 3.2 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก แน่นอนว่าได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ และโปรแกรม Office Home and Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่ากว่า 4,299 บาท ใช้งานติดเครื่องไปเลยฟรีๆ ด้วย
- Core i5-1135G7 / Iris Xe Graphics / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS FHD ราคา 22,900 บาท
- Core i5-1135G7 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS FHD ราคา 24,900 บาท
- Core i7-1165G7 / Iris Xe Graphics / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS FHD ราคา 26,900 บาท
MSI Modern 14 ราคา 24,900 บาท
MSI Modern 14 เป็น Notebook 2020 หน้าจอ 14″ ตัวแรงลื่นราคาคุ้มค่า มาพร้อมกับประสิทธิภาพจากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 รุ่นล่าสุดครั้งแรกใน MSI อย่าง Core i5-1135G7 ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอออนชิป Intel Iris Xe ที่สำคัญคือตัวเครื่องมีความพรีเมียมและบางเบาอย่างที่สุด มีน้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น อีกทั้งได้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครันตามสไตล์ของ MSI ที่จัดเต็ม
ในส่วนของสเปกแรมได้มาขนาด 8GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ที่ 512GB จัดเต็ม ส่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ทรงพลังอย่างที่สุด สนับสนุนทั้งทำงานที่มากกว่าและเล่นเกมที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ รวมถึงยังได้มาตรฐาน Military Grade มีความทนทานในการใช้งานเป็นพิเศษมากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วๆไป ในเรื่องของการทน ฝุ่น ละอองน้ำ และการกระแทก ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างคล่องตัว
สำหรับ MSI Modern 14 ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมสีดำ Carbon Gray เคลือบพื้นผิวด้วยเทคโนโลยี Sandblasting พ่นเนื้อทรายละเอียด ให้สัมผัสที่เรียบเนียน หน้าจอแสดงผลพาเนล IPS ความละเอียด Full HD บางเฉียบ โดยมีพื้นที่แสดงผลกว่า 90% ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมกางได้ 180 องศา ทำให้นำเสนองานได้อย่างเต็มที่และง่ายขึ้นกว่าเดิม
ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็ครบครันด้วย Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 5.1 ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็มีทุกรูปแบบทั้ง USB 3.2 Type-A / Thunderbolt 4 (USB 3.2 Type-C) / HDMI / Micro-SD Card Reader / ช่องต่อหูฟังและไมค์ 3.5 มิลลิเมตร เป็นมาตรฐานอีกด้วยพร้อม Windows 10 แท้และซอฟต์แวร์ Creator Center ช่วยปรับแต่งการทำงาน พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่แม้ว่าจะดูง่ายๆ แต่ได้ใช้จริง คือการกางหน้าจอได้ 180 องศา พร้อมกดปุ่ม F12 กับการใช้งานฟีเจอร์พิเศษ Flip-n-Share ช่วยกลับหน้าจอไปฝั่งตรงข้ามได้ ช่วยในกรณีที่นำเสนองาน แล้วสามารถหมุนจอไปฝั่งตรงข้ามได้ทันที ส่งผลให้คนนั่งฝั่งตรงข้ามที่เรากำลังนำเสนองานดูได้อย่างสะดวกที่สุด นับว่าเป็นอีกหนึ่งความใสใจที่ MSI ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
Acer Swift 3X ราคา 26,900 บาท
Acer Swift 3x (Acer Swift 3X) เป็น Notebook 2020 โดยมาพร้อมสเปกใช้ชิป Intel Core i Gen 11 Tiger Lake สถาปัตยกรรม 10nm SuperFin มี AI ช่วยทำงานในตัว ใช้การ์ดจอออนชิปตัวพิเศษที่แรงที่สุดอย่าง Intel Iris Xe Max (DG1) ซึ่งตอนนี้มีอยู่เพียงสเปกเดียวคือ Core i5-1135G7 ที่ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธรด ที่ความเร็วสูงสุด 4.2 GHz รองรับการทำงานหนักๆ แบบมืออาชีพได้สบายๆ
cer Swift 3x มาพร้อมหน้าจอ 14″ หน้าจอความละเอียด FullHD พาเนล IPS แบบจอด้าน โดยมีน้ำหนักเพียง 1.37 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ครบครันทั้งแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB รองรับการทำงานที่เต็มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ความบันเทิง หรืองานประมวลผลหนักๆ ก็พอได้เลย เหมาะกับคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่บางเบาพกพาสะดวก แต่ได้ประสิทธิภาพที่สูง
เรียกได้ว่า Acer เสนอ Acer Swift 3x ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบารูปแบบใหม่อย่าง Ultrabook มาสู่ท้องตลาด ไม่ใช่แค่บางเบาแบบสุดๆ แต่ยังได้ยกระดับการใช้งานได้สเปกที่แรงลื่นขึ้นจากการที่เป็น Intel Core i Gen 11 Tiger Lake โดดเด่นด้วยได้พอร์ต Thunderbolt 4 ที่ดีที่สุดโอนไฟล์ไว ชาร์จไฟได้ ต่อจอแยกก็ได้ สนนราคา 26,990 บาท
สำหรับตัวเครื่อง Acer Swift 3x วัสดุเป็นอลูมิเนียมคุณภาพสูง ตัวเครื่องบางเบาพกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 1.37 กิโลกรัม ขนาดบางเฉียบ ได้ดีไซน์ขอบจอบางเฉียบ Screen-to-Body น่าประทับใจสูงสุดกว่า 84% เป็นหน้าจอแสดงผล ทำให้ตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด พร้อมเพิ่มสีสันให้เลือกอีก 2 สี Safari Gold / Steam Blue ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างไม่ซ้ำใคร
แบตเตอรี่ของ Acer Swift 3x ใช้งานยาวนานสามารถชาร์ตได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมงในการชาร์ต 30 นาที หรือถ้าชาร์จแบตเตอรี่เต็มๆ 100% ก็จะสามารถใช้งานได้ 17.5 ชั่วโมงทีเดียว ส่วนอแดปเตอร์แทบไม่ต้องพกติดไปด้วย นับได้ว่าเป็นการเปลี่ยนความรู้สึกแบบแต่ก่อน ที่เราต้องคอยพกพาโน๊ตบุ๊คน้ำหนักกิโลกว่า หรือถ้ารวมอแดปเตอร์ด้วยก็จะมีน้ำหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัมเท่านั้นเอง
Dell Inspiron 13 5301 ราคา 30,400 – 33,400 บาท
Dell Inspiron 13 5391 เป็น Notebook 2020 หน้าจอ 13.3″ ขอบบางเฉียบ เน้นพกพา มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบๆ แต่แฝงความหรูหรา ได้สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ใหม่ล่าสุด และการ์ดจอแยก GeForce MX350 เป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่เบาสุดๆ ที่ 1.23 กิโลกรัม เล็กกระทัดรัดบางสุดเพียง 15.85 มิลลิเมตร
แนวคิดโดยรวม Dell Inspiron 13 5301 ถอดแบบมาจาก Dell XPS 13 ที่เป็นรุ่นท็อปสุดได้เป็นอย่างดี ทำให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน รับกับมือเวลาจับถือพกพา ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย เมื่อกางหน้าจอใช้งานจากการที่ขอบเครื่องด้านหลังช่วยยกตัวให้สูงยิ่งขึ้น
พร้อมด้วยสีที่ดูสะอาดตา จากสีสันสีเงินที่ดูแล้วหรูหรา สง่างาม เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นภาพลักษณ์ไว้ใช้งาน พร้อมปุ่ม Power มุมขวาบนของคีย์บอร์ดสีเดียวกับตัวเครื่องที่เป็น Fingerprint ในตัว ซึ่งดูสวยงามลงตัวมากๆ
ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ แล้วจะใช้เป็นอลูมิเนียมสำหรับฝาหลัง และพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบอื่นๆ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป ที่สำคัญคือพื้นผิววัสดุทั้งหมดเป็นแบบด้านส่งผลให้เป็นรอยนิ้วมือได้ยากอีกด้ว
สนนราคา Dell Inspiron 13 5301 ไม่แพงเลย สำหรับสเปก Core i5-1135G7 อยู่ที่ 30,400 บาท และรุ่น Core i7-1165G7 ที่ 33,400 บาท ส่วนสเปกอื่นๆ เหมือนกันทั้งหมด แรมขนาด 8GB DDR4 Bus 4267 MHz พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB สำหรับความละเอียดหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS ระดับ Full HD ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง
พร้อมใช้งานด้วย Windows 10 และมีซอฟต์แวร์ต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และ Fingerprint ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 AC (2×2) และ Bluetooth 5.0 ด้วย
สำหรับคอมพิวเตอร์แบรนด์ Dell ได้รับความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนานและเป็นที่นิยมในการใช้งานกับองค์กรและภาคธุรกิจอย่างมากมาย ทั้งมาตรฐานการบริการ Dell Premium Support และ On-site Service “บริการซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก 1 วันทำการ” ถึง 2 ปีด้วยกัน
- Core i5-1135G7 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ IPS FHD / ราคา 30,400 บาท
- Core i7-1165G7 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ IPS FHD / ราคา 33,400 บาท
HP ENVY 13 ราคา 33,900 – 40,900 บาท
HP ENVY 13 จัดว่าเป็น Notebook 2020 สเปกชิปประมวล Intel Core i Gen 11 ที่แรงลื่นล้ำกว่ารุ่นก่อนๆ มาก ถือว่าเป็น Notebook บางเบาขนาดหน้าจอ 13.3″ ที่ได้ความบางเบาหรูหราพรีเมียม ฟีเจอร์ครบครัน กับค่าตัวที่ไม่แพงเลย รองรับการใช้งานต่างๆ ได้ลื่นไหลสุดๆ ในราคา 33,900 – 40,900 บาท ได้ประกัน 3 ปี On-site Service และบริการหลังการขาย HP SmartFriend ที่เยี่ยมยอด
สำหรับ HP ENVY 13 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ ชิปประมวลผล Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 ได้หน่วยความจำแรมขนาด 8GB Bus 3200MHz และที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
อีกทั้งยังได้ซอฟต์แวร์การทำงาน Office Home & Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่า 4,299 บาทฟรีๆ ด้วย ซึ่งมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ FringerPrint / HP Sure View ติดตั้งไว้ที่ปุ่ม F1 เรียกได้ว่าเป็น Notebook ปี 2020 ที่น่าซื้อมากๆ รุ่นหนึ่งทีเดียว
HP ENVY 13 ปี 2020 เป็น Notebook ขนาดหน้าจอ 13.3″ มาพร้อมกับดีไซน์พรีเมียม หรูหรา เกินราคาค่าตัวไปมาก เห็นแล้วต้องอิจฉาตามชื่อ เรียกได้ว่าเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ที่มีราคาหลายหมื่นบาทอย่าง SPECPTRE ซึ่ง HP ตั้งใจที่จะออกมาให้เป็นแบบนั้นจริงๆ
สังเกตได้จากโลโก้ HP ที่เป็นตัวอักษรแบบที่ใช้งานในซีรีส์ที่สูงกว่าพวก Pavilion งานประกอบก็ถือว่าแข็งแรงสอบผ่านได้สบายๆ เรียกได้ว่าสาวๆ หนุ่มๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบอยากได้เครื่องนี้ไว้ทำงานแน่นอน ได้ขอบหน้าจอที่บางเฉียบทำให้ตัวเครื่องเทียบเท่ารุ่น 12.5″ รุ่นก่อนๆ อีกทั้งยังสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานโน๊ตบุ๊คทั่วไปด้วย
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ประกอบตัวเครื่องทั้งหมดเป็นอะลูมิเนียมที่ตัดผ่านกระบวนการ CNC ทั้งหมด ดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวเรียบเนียนตลอดทั้งตัวเครื่องพร้อมกับโลโก้ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบ พกพาได้สะดวก และขาดไม่ได้เลยสำหรับสแกนลายนิ้วมือผ่านทาง Windows Hello ที่ถูกย้ายเข้ามาแทนที่ปุ่ม Crtl นั่นเอง
- Core i5-1135G7 / MX450 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ IPS FHD ราคา 33,900 บาท
- Core i7-1165G7 / MX450 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ IPS FHD ราคา 40,900 บาท
Lenovo YOGA Slim 7i Pro ราคา 34,990 – 41,990 บาท
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo Yoga Slim 7i 14 นั้นจะดูเล็กกว่า Lenovo Notebook หน้าจอ 14″ แบบสมัยก่อนอยู่พอสมควร เนื่องด้วยขอบจอที่บางกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กพอๆ กับโน๊ตบุ๊คจอ 13.3″ ส่งผลให้ Lenovo Yoga Slim 7i 14 เป็นอีกหนึ่ง Lenovo Notebook ที่ดูเล็กกระทัดที่สุด โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.45 ด้วยดีไซน์ออกมาได้ขอบหน้าจอบาง
ส่วนของตัวเครื่องทั้งหมดจะใช้เป็นอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหราให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ Lenovo จะมีอยู่ 2 จุดเท่านั้น คือ มุมบนฝาหลังด้านซ้าย และมุมใต้หน้าจอด้านซ้ายเท่านั้น ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน
สเปกของ Lenovo Yoga Slim 7i 14 ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 11 อย่าง Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 ส่วนการ์ดจอออนชิปเป็น Intel Iris Xe และการ์ดจอ NVIDIA GeForce MX450 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz
และที่เก็บข้มูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB / 1TB ที่ทั้งมีพื้นที่เยอะและลื่นไหล เพียงพอกับการใช้งานแน่นอน ได้ระบบเสียงเป็น Dolby Atmos ที่ไพเราะ มาพร้อม Windows 10 และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย Lenovo Yoga Slim 7i 14 ใช้หน้าจอขนาด 14″ ความละเอียดระดับ 2240 x 1400 พิกเซล อัตราส่วน 16:10 ขอบจอบางเฉียบ พาเนลจอแบบ IPS เกรดสูง รองรับ HDR ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา พร้อม Wi-Fi 6 AX (2 x 2)
นอกจากนี้ยังมี 3D IR Camera สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Windows Hello ของ Windows 10 เพื่อล็อกอินโดยใช้การสแกนใบหน้า สำหรับประกันเป็น 3 ปี ตามมาตรฐาน Lenovo ที่ทุกคนมั่นใจ ปิดท้ายเรื่องความคุ้มค่าพร้อมใช้งานทันทีด้วย โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ด้วย
- Core i5-1135G7 / MX450 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS QHD ราคา 34,990 บาท
- Core i7-1165G7 / MX450 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ 14″ IPS QHD ราคา 41,990 บาท