Notebook 2020 รุ่นใหม่ๆ เน้นความบางเบา มีให้เลือกหลายรุ่นจริงๆ จากการมาของสเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen และ Intel Core i รุ่นใหม่ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ จากการที่พัฒนายิ่งขึ้น ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนานกว่า ได้ความสดใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย เรียกได้ว่าประสิทธิภาพงานประมวลผลแรงเทียบเท่าฝั่ง Gaming Notebook เลยก็ว่าได้
Notebook 2020 มีให้เลือกซื้อ หลากหลายหน้าจอหลากหลายสเปกด้วยกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าถ้าอยากได้ Notebook เพื่อเน้นไปทำงานแบบจริงจัง ความบางเบาและวัสดุนั้นเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กับสเปกเลยทีเดียว ซึ่งขนาดหน้าจอที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็จะเป็น 13.3″ – 14″ ที่ต้องบอกว่ามีขนาดมิติตัวเครื่องที่เล็กกำลังดี พกพาไปไหนมาไหนสะดวก
และที่สำคัญคือแบตเตอรี่ต้องใช้งานได้ยาวนานกว่า Notebook ทั่วไป กรณีที่เรานำไปใช้งานนอกสถานที่ตลอดทั้งวัน ซึ่งได้ฟีเจอร์อื่นๆ อย่าง USB PD / Thunderbolt (สเปก Intel Core i บางรุ่น) รวมไปถึงในบางรุ่นยังได้โปรแกรม Microsot Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) ฟรีๆ ด้วย ก็จะดีเยี่ยมมากๆ อีกทั้งมีฟีเจอร์ที่ล้ำหน้าต่างๆ มากมาย อย่างการที่มี AI ช่วยประมวลผลหลายๆ ส่วน
โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Notebook 2020 แนะนำ 5 รุ่นใหม่ ดีไซน์บางเบา สเปก Core i / Ryzen จอ 13.3″ – 14″ พาเนล IPS ที่ความละเอียด FHD – QHD น้ำหนักเบาสุดๆ ที่ 747 กรัม ราคาเพียง 1x,Xxx – 3x,Xxx บาท ประกันดีที่สุดเป็น 2 – 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน จะมีรุ่นไหน ไปชมกันต่อเลย
MSI Modern 14 ราคา 19,990 – 23,590 บาท
MSI Modern 14 เป็น Notebook 2020 สายทำงานรุ่นใหม่หน้าจอ 14″ ตัวแรงลื่น สีดำ Onyx Black เคลือบพื้นผิวด้วยเทคโนโลยี Sandblasting พ่นเนื้อทรายละเอียด ให้สัมผัสที่เรียบเนียน โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพจากชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U รุ่นล่าสุดอย่าง Ryzen 4500U / Ryzen 7 4700U ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอออนชิป Radeon 6 / 7
ที่สำคัญคือตัวเครื่องมีความพรีเมียมและบางเบาอย่างที่สุด มีน้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น ในส่วนของสเปกแรมได้มาขนาด 8GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ที่ 512GB จัดเต็ม ส่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ทรงพลังอย่างที่สุด สนับสนุนทั้งทำงานและเล่นเกมที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ
มิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 5.6 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน รวมถึงยังได้มาตรฐาน Military Grade มีความทนทานในการใช้งานเป็นพิเศษมากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วๆไป ในเรื่องของการทน ฝุ่น ละอองน้ำ และการกระแทก ในส่วนของแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
สำหรับ MSI Modern 14 ได้หน้าจอแสดงผลพาเนล IPS มาตรฐานความละเอียด Full HD ที่จะช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์ได้เติมเต็มประสบการณ์ในด้านการสร้างสรรค์ผลงานได้มากยิ่งขึ้น บางเฉียบโดยมีพื้นที่แสดงผลกว่า 90% จอเป็นแบบด้านที่ให้เรื่องสีสันสดใส รองรับใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี
ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมกางได้ 180 องศา ทำให้นำเสนองานได้อย่างเต็มที่และง่ายขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งได้ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ครบครันตามสไตล์ของ MSI ที่จัดเต็ม ไม่เกรงใจใคร ในราคาเพียง 19,900 บาทเท่านั้น จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค Ryzen 4000U หน้าจอขนาด 14″ ที่น่าสนใจมากๆ ทีเดียว
สเปกที่จัดเต็มตอบโจทย์การใช้งานแบบสุดๆ ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็ครบครันด้วย Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 5.0 เป็นมาตรฐานอีกด้วยพร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ช่วยปรับแต่งการทำงาน พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI
ส่วนความบางตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่า MSI นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ เลยครับ สำหรับการเปิดปิดฝาของหน้าจอก็ทำได้ง่ายเพราะขอบตัวเครื่องด้านหน้าได้มีการเว้นร่องเว้าเอาไว้สวยงาม พร้อม Ergonomics View Design ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น
ส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ที่ช่วยยกตัวให้สูงขึ้นจากพื้นที่ 5 องศา ส่งผลให้พัดลมสามารถดูดลมเย็นเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการเอียงของตัวเครื่องเล็กน้อยนั้น ก็ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง
- Ryzen 5 4500U / Radeon 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 60Hz ราคา 19,990 บาท
- Ryzen 7 4700U / Radeon 7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS 60Hz ราคา 23,590 บาท
ASUS ZenBook 14 UX425 ราคา 27,900 บาท
ASUS ZenBook 14 UX425 เป็น Notebook 2020 รุ่นใหม่ สเปก Intel Core i Gen 11 สายทำงานบางเบารุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมขนาดหน้าจอ 14″ โดดเด่นด้วยความบางเฉียบสุดๆ เพียง 13.9 มม. และเบามากๆ ที่น้ำหนัก 1.17 กก. เท่านั้น เรียกได้ว่ามีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนทั้งหมด โดยมาพร้อมพอร์ทเชื่อมต่อครบครัน โดดเด่นด้วยการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 4 ที่เป็นพอร์ตที่ดีที่สุด 2 พอร์ต
อีกทั้งนำเสนอนวัตกรรมขอบจอบาง 4 ด้าน ให้อัตราส่วนขนาดจอต่อตัวเครื่องที่ 90% พร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 20 ชม. พร้อมดีไซน์ใหม่ในสีเทา อย่าง Pine Grey ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ได้เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนขั้นสูง (AI Noise Cancelation) สำหรับการทำงานระยะไกลและการประชุมวีดีโอ โดยแยกเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการออกจากเสียงพูดซึ่งสามารถกรองและแยกเสียงรบกวนรอบข้าง ดีที่สุด
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของ ASUS ZenBook 14 UX425 ก็คือ บานพับ ErgoLift Hinge นั้นเวลาที่กางออกมาใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คจะทำให้คีย์บอร์ดทำมุม 2.5 องศากับฐานตั้ง พร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 150 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้จากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง
สเปกชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ซึ่งในตอนนี้มีสเปกเดียวคือ Intel Core i5-1135G7 ที่มี AI ช่วยประมวลผล พร้อมการ์ดจอออนชิปใหม่ Intel Iris Xe Graphics ได้หน่วยความจำแรมสูงสุดที่ 8GB LPDDR4X Bus 3200 MHz ส่วนที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB หน้าจอเป็นความละเอียด Full HD พาเนลเกรดสูง IPS สีสันสวยงามมุมมองกว้าง
ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home แท้ใช้งานได้ทันที และโปรแกรม Microsoft Office Home and Student 2019 ทำให้เราใช้งานเอกสาร Word / Excel / Power Point ได้ฟรีๆ ด้วย สนนราคาเพียง 27,990 บาท ได้การรับประกัน 3 ปี On-site Service และประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty ในปีแรกมาให้อีกด้วย แต่ตัวเครื่องเองก็ผ่านการทดสอบเรื่องความทนทานระดับ US MIL-STD 810G military-grade standard มาอยู่แล้ว
ส่วนที่เป็นไฮไลท์ก็คือ ASUS ZenBook 14 UX425 มีแผงปุ่มตัวเลขที่ซ่อนอยู่ในทัชแพดครับ โดยใช้ชื่อเรียกว่า NumberPad 2.0 ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการแตะไอคอนตรงมุมขวาบนของทัชแพดค้างไว้ 1 วินาที เส้นไฟสำหรับแบ่งพื้นที่ของแต่ละปุ่มก็จะปรากฏขึ้นมาให้ใช้งานเป็น Numpad ได้ทันที ซึ่งแม้ว่าจะมีปุ่มขึ้นมาแล้ว ผู้ใช้ก็ยังสามารถใช้ทัชแพดในการเลื่อนเคอร์เซอร์ได้อยู่ แต่หากมีการจิ้มลงบนพื้นที่ของแต่ละปุ่มเพื่อคลิกซ้าย ก็จะเปรียบเสมือนการกดปุ่มตัวเลขด้วย
HP ENVY 13 ราคา 33,900 – 40,900 บาท
HP ENVY 13 จัดว่าเป็น Notebook 2020 สเปกชิปประมวล Intel Core i Gen 11 ที่แรงลื่นล้ำกว่ารุ่นก่อนๆ มาก ถือว่าเป็น Notebook บางเบาขนาดหน้าจอ 13.3″ ที่ได้ความบางเบาหรูหราพรีเมียม ฟีเจอร์ครบครัน กับค่าตัวที่ไม่แพงเลย รองรับการใช้งานต่างๆ ได้ลื่นไหลสุดๆ ในราคา 33,900 – 40,900 บาท ได้ประกัน 3 ปี On-site Service และบริการหลังการขาย HP SmartFriend ที่เยี่ยมยอด
สำหรับ HP ENVY 13 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ ชิปประมวลผล Core i5-1135G7 / Core i7-1165G7 ได้หน่วยความจำแรมขนาด 8GB Bus 3200MHz และที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที โดยตัวเครื่อเบาเพียง 1.17 กิโลกรัมเท่านั้น ตอบโจทย์การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ลงตัวที่สุด
อีกทั้งยังได้ซอฟต์แวร์การทำงาน Office Home & Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่า 4,299 บาทฟรีๆ ด้วย ซึ่งมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ FringerPrint / HP Sure View ติดตั้งไว้ที่ปุ่ม F1 เรียกได้ว่าเป็น Notebook ปี 2020 ที่น่าซื้อมากๆ รุ่นหนึ่งทีเดียว
HP ENVY 13 ปี 2020 เป็น Notebook ขนาดหน้าจอ 13.3″ มาพร้อมกับดีไซน์พรีเมียม หรูหรา เกินราคาค่าตัวไปมาก เห็นแล้วต้องอิจฉาตามชื่อ เรียกได้ว่าเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ที่มีราคาหลายหมื่นบาทอย่าง SPECPTRE ซึ่ง HP ตั้งใจที่จะออกมาให้เป็นแบบนั้นจริงๆ
สังเกตได้จากโลโก้ HP ที่เป็นตัวอักษรแบบที่ใช้งานในซีรีส์ที่สูงกว่าพวก Pavilion งานประกอบก็ถือว่าแข็งแรงสอบผ่านได้สบายๆ เรียกได้ว่าสาวๆ หนุ่มๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบอยากได้เครื่องนี้ไว้ทำงานแน่นอน ได้ขอบหน้าจอที่บางเฉียบทำให้ตัวเครื่องเทียบเท่ารุ่น 12.5″ รุ่นก่อนๆ อีกทั้งยังสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานโน๊ตบุ๊คทั่วไปด้วย
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ประกอบตัวเครื่องทั้งหมดเป็นอะลูมิเนียมที่ตัดผ่านกระบวนการ CNC ทั้งหมด ดีไซน์แบบมินิมอลและพื้นผิวเรียบเนียนตลอดทั้งตัวเครื่องพร้อมกับโลโก้ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit สีขาวมาให้ด้วย ที่สำคัญตัวเครื่องยังบางเฉียบ พกพาได้สะดวก และขาดไม่ได้เลยสำหรับสแกนลายนิ้วมือผ่านทาง Windows Hello ที่ถูกย้ายเข้ามาแทนที่ปุ่ม Crtl นั่นเอง
- Core i5-1135G7 / MX450 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ IPS FHD ราคา 33,900 บาท
- Core i7-1165G7 / MX450 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ IPS FHD ราคา 40,900 บาท
Lenovo Yoga Slim 7i Carbon ราคา 34,990 – 42,990 บาท
Lenovo Yoga Slim 7i Carbon คือ Notebook 2020 ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของไลน์ผลิตภัณฑ์ Yoga มีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์ที่สวยงามและความแข็งแกร่ง ให้ความคล่องตัวในการใช้งานด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 966 กรัมบนหน้าจอขนาด 13.3 นิ้วแบบ 16:10 และบางเพียงแค่ 14.25 มิลลิเมตร ให้ความเหมาะมือจึงสามารถพกพาไปได้ในทุกที่
ตัวเครื่องที่สวยงามเรียบหรูนี้มาพร้อมกับความทนทานด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีขาว Moon White ซึ่งผ่านการทดสอบ 9 อย่างโดยทีมวิศวกรของเลอโนโวถึงความทนทานเทียบได้กับมาตรฐานในระดับ MIL-STD-810Gซึ่งนอกเหนือจากคุณภาพและวัสดุระดับพรีเมียมที่ถูกนำมาใช้ประกอบตัวเครื่องแล้ว กรรมวิธีการผลิตดังกล่าวช่วยลดน้ำหนักวัสดุตัวเครื่องลงไปได้ถึง 47% และเพิ่มความทนทานขึ้นอีก 25% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ Yoga รุ่นก่อนหน้า
สเปกชิปประมวลผลใหม่ล่าสุด Intel Core i Gen 11 จึงให้การทำงานที่เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เทคโนโลยีกราฟฟิก Intel Iris Xe ช่วยให้เครื่องแสดงผลเร็วขึ้น 3 เท่า และสามารถจัดการความร้อนได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และการส่งถ่ายข้อมูลผ่านพอร์ต Thunderbolt 4 ที่มีมาให้ถึง 2 พอร์ต
ความจุแบตเตอรี่สูงถึง 50 วัตต์ ทำให้ Lenovo Yoga Slim 7i Carbon รองรับการเล่นวีดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 15 ชั่วโมง หรือใช้ทำงานทั่วไปได้นานถึง 13 ชั่วโมง อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วอย่าง Rapid Charge Boost ให้ประสิทธิภาพแบตเตอรี่สำหรับใช้งานเพียงพอถึง 2 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 15 นาที
หน้าจอความละเอียดแบบ 2560×1600 Quad HD รองรับการแสดงผลกว่า 4 ล้านพิกเซล และความสว่างขนาด 300 nit ช่วยให้ทุกตัวหนังสือและทุกภาพคมชัดแม้ใช้งานกลางแจ้ง ค่าสีแสดงผลแบบ 100% sRGB colour gamut และรองรับ Dolby Vision HDR ให้สีสันสวยงามสมจริงไม่ว่าคุณจะใช้งานเครื่องเพื่อสร้างหรือดูคอนเทนต์ต่างๆ
ถนอมสายตาด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการรองรับสิทธิบัตร TÜV Rheinland Eye Comfort Certified ว่าสามารถช่วยลดการเมื่อยล้าของตา ในขณะที่ดื่มด่ำไปกับคุณภาพเสียงจากลำโพง 2x2W Dolby Atmos ให้อรรถรสการฟังในแบบ 3 มิติ พร้อมมีเทคโนโลยีการจัดการเครื่องอย่าง Lenovo Q-Control ที่ใช้เทคโนโลยีระบายความร้อน Lenovo Intelligent Thermal System 4.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและจัดการพลังแบตเตอรี่
- Core i5-1135G7 / Iris Xe Graphics / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ 2K ราคา 34,990 บาท
- Core i7-1165G7 / Iris Xe Graphics / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ 13.3″ 2K ราคา 42,990 บาท
Fujitsu LifeBook UH-X 39,990 – 46,990 บาท
Fujitsu LifeBook UH-X เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาของ Notebook 2020 ประเภทพกพาบางเบาอย่างน่าสนใจ จากที่ผ่านมาทาง Fujitsu ได้นำเสนอโน้ตบุ๊คสายพันธ์ญี่ปุ่น Made in Japan เน้นใช้งานแบบพกพาไปทำงานนอกสถานที่มาตลอดยาวนานหลายปี ทั้งด้วยสเปคประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมน่าเชื่อถือแบบมืออาชีพ พร้อมความสเถียรภาพที่สูงกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไปแบบชัดเจน
ล่าสุดด้วยการมาของ Fujitsu LifeBook UH-X จัดเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ ที่เบาสุด แค่ 747 กรัมเท่านั้น กรณีที่เราจับชั่งน้ำหนักจริงๆ ส่วนตามสเปกจะเป็น 778 กรัม จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพที่เบาที่สุดของโลก อีกทั้งแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดตลอดทั้งวัน ประกันก็ดีเยี่ยมเพราะเป็นแบบ On-site Service ระยะเวลา 2 ปี สนนราคา 39,990 – 46,990 บาท
สเปกของ Fujitsu LifeBook UH-X จะถูกแบ่งด้วยกันเป็น 2 รุ่น 2 สเปก หลักๆ คือ Core i5-10210U / Core i7-10510U ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 10 (Comet Lake) ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร ในส่วนของการ์ดจอเป็นออนชิป Intel UHD Graphics 620 ที่เพียงพอกับใช้งานพื้นฐานแน่นอน ทั้งงาน 2 มิติ 3 มิติ อาทิ งานเอกสาร งานตกแต่งภาพ หรือดูหนังฟังเพลง เล่นเกมออนไลน์เบาๆ ความบันเทิงต่างๆ
โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 13.3″แบบด้าน ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง ที่ sRGB ใกล้เคียง 100% ที่ความสว่าง 400 nits แรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB LDDR3 Bus 2133MHz ซึ่งรองรับกับการใช้งานทั่วไปได้สบาย สำหรับฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB / 1TB
ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ด้วย นอกจากนี้ Fujitsu LifeBook UH-X ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call อีกทั้งมี IR Camera ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์แท้
ดีไซน์ตัวเครื่องบางของ Fujitsu LifeBook UH-X บางเพียง 15.5 มม. แต่พอร์ตเชื่อมต่อครบที่สุด โดยใช้วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่เป็นโลหะที่ได้ทั้งความเบาแต่แข็งแรงทนทาน มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ซึ่งแรงลื่นรองรับทุกๆ การใช้งาน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องการสุดยอดโน๊ตบุ๊ค 13.3″ ประสิทธิภาพสูงคู่ใจในการทำงานจริงจัง หรือ Commercial ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูงสุด
- Core i5-10210U / UHD Graphics 620 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 13.3″ IPS ราคา 39,990 บาท
- Core i7-10510U / UHD Graphics 620 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ 13.3″ IPS ราคา 46,990 บาท