ASUS จัดวาง AiO V222FAK-BA194T หรือที่เรียกว่า All-In-One PC รุ่นนี้ ในรูปแบบของคนทำงาน ผู้ใช้ในบ้าน และผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ ชื่นชอบความสวยงาม ใช้พื้นที่น้อย และเข้ากับเฟอร์นิเจอร์รอบๆ ได้อย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม โครงสร้างและการออกแบบที่ทันสมัย ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป แต่ให้พลังในการทำงานมา สำหรับแอพพลิเคชั่นในปัจจุบันได้ ทั้งด้านของงานเอกสาร ความบันเทิง กับหน้าจอ 21.5″ ขุมพลัง Intel Core i3 Gen10 และแรมระบบ DDR4 พร้อมกับ Storage 1TB กับระบบเสียงภายใน ซึ่งใช้ในด้านความบันเทิงได้ดีทีเดียว
ในแง่ของประสิทธิภาพ ด้วยซีพียู Intel Core i3-10100U กับการทำงานในแบบ 2 core/ 4 thread ความเร็วสูงสุด 4.1GHz เรียกว่ารองรับการใช้งานทั่วไปได้ไม่ยาก ส่วนการเชื่อมต่อมีพอร์ต USB มาให้ 4 พอร์ต และ Gigabit LAN พร้อมกล้องเว็บแคม ไมโครโฟน ที่อยู่ด้านล่าง รองรับการประชุมไร้สาย และเปิดคำสั่งใช้งานเสียงด้วย Cortana ได้อีกด้วย โดยมีคีย์บอร์ดและเมาส์ไร้สายมาให้พร้อม เอาใจคนไม่ชอบความเทอะทะ ด้วยอแดปเตอร์ขนาดเล็ก วางซ่อนได้ไม่เกะกะ ประกันแบบ On-site service อุ่นใจ
Specification
ASUS AiO V222FAK-BA194T – Intel I3-10110U/DDR4 4G/1TB HDD/UMA/21.5 FHD/EXTERNAL DVD/WIN10/Wireless KB&MOUSE/3rd year on site service ราคา 15,990 บาท
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย ดูมีไลฟ์สไตล์ เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านและที่ทำงาน
- ซีพียู Intel Core Gen 10 รับกับแอพพลิเคชั่นในปัจจุบันได้ดี
- มีพอร์ต Gigabit LAN มาให้
- หน้าจอขนาด 21.5″ ให้มุมมองกว้าง
- มีเมาส์และคีย์บอร์ดไร้สายมาให้
- รับประกัน On-site 3 ปี
ข้อสังเกต
- แรมให้มา 4GB ค่อนข้างแน่นไป แต่ยังอัพเกรดได้
- เสียงค่อนข้างดังดี แต่ไม่เน้นไปในเรื่องรายละเอียดเสียงมากนัก
ASUS All-in-One PC
Hardware / Design
ในเรื่องของรูปลักษณ์ ทาง ASUS ออกแบบ All-in-One PC มาโดยใส่ความคลาสสิคลงไปใน AiO รุ่นนี้ ทั้งในเรื่องของเส้นสายและสีสัน ที่มาในโทนสีเงิน Silver ทั้งบอดี้ ที่ว่ากันตั้งแต่ ขอบจอด้านหน้าที่บางพิเศษ ซึ่งทาง ASUS ระบุมาในรายละเอียดว่าให้สัดส่วนของหน้าจอที่มากถึง 87% จึงดูแล้วได้พื้นที่เต็มๆ ขอบน้อย เห็นภาพได้เต็มที่ และยังทำให้บอดี้ดูเล็กและบางลงอีกด้วย ถัดลองมาจะเป็นขอบล่างของจอภาพ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการติดตั้งฟังก์ชั่นต่างๆ ไว้อย่างครบครัน
ฐานและขาตั้ง ที่ดูแข็งแรงและใช้พื้นที่น้อย ฐานเป็นแบบโลหะชิ้นเดียว หน้ากว้างประมาณ 18cm และลึกเพียง 17cm เท่านั้น เมื่อดูในภาพรวมแล้วใช้พื้นที่น้อยมาก เรียกว่าสามารถตั้งบนโต๊ะทำงานหรือโต๊ะสตูในบ้าน ที่มีขนาดเล็กได้ หรือจะใช้เป็นคอมหน้าเคาเตอร์ของร้านยังสะดวก ซึ่งหากเป็นโต๊ะคอมทั่วไป เรียกว่าหาพรินเตอร์ออลอินวันขนาดย่อมๆ มาวางคู่กันได้อีกด้วย
สัดส่วนด้านข้างจะเห็นว่ากินพื้นที่บนโต๊ะไปเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งหากวัดในจุดที่หนาสุดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ราว 4cm และถ้าวัดกันที่ความลึกของขาตตั้งจะอยู่ที่ราว 17-18cm เท่านั้น สิ่งที่จะมาทำให้เกะกะ ก็น่าจะเป็นเรื่องของสายสัญญาณหรือสายไฟ แต่ถ้าเน้นไปที่อุปกรณ์ต่อพ่วงไร้สาย ก็ถือว่าโต๊ะโล่งขึ้นอีกเยอะ
ด้านหลังกับความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยโทนสีดำตัดกับตัวเครื่องด้านหน้า และมีพื้นผิวให้สัมผัสได้ถนัดมือ สำหรับการเคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวก พร้อมโลโห้ ASUS หล่อๆ
ถัดมาตรงมุมด้านล่าง จะมีโลโก้ Windows 10 ที่ติดเครื่องมาด้วย พร้อมกับสัญลักษณ์ Perfect Warranty กับการรับประกันที่มั่นใจได้
ดูจากมุมด้านหลัง ต้องบอกว่าดีไซน์ที่อาจจะดูเรียบง่าย แต่ก็ให้ความเข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หรือที่ทำงาน รวมถึงการจัดวางลงบนพื้นที่ต่างๆ ได้สะดวก เพราะค่อนข้างกระทัดรัด น้ำหนักตัวอยู่ที่ราว 4.8 กิโลกรัมเท่านั้น
บรรดาอุปกรณ์ที่มีมาในกล่อง ประกอบด้วย สายไฟ อแดปเตอร์ตัวแปลง คู่มือ และยังมี ODD ที่เป็นแบบต่อภายนอกมาให้ ODD หรือ Optical drive ที่มีให้นี้เป็นแบบ DVD-ROM 8X ในแบบ Slim ไดรฟ์ DVD ขนาดใหญ่กว่ากระเป๋าสตางค์เล็กน้อย ใช้งานในแบบต่างๆ ได้สะดวกขึ้น เช่น การดูหนัง ฟังเพลง ผ่านแผ่นดีวีดี
ตัวแปลงหรืออแดปเตอร์ขนาด 19V 4.74A 90W ไซส์ประมาณอุ้งมือ พร้อมสาย AC ที่ต่อจากปลั๊กมายังตัวแปล และมีสาย USB Type-A to Micro USB สำหรับใช้กับตัวไดรฟ์ DVD ที่มีมาให้ด้วย
Keyboard / Touchpad
ASUS All-in-One PC รุ่นนี้มีเมาส์และคีย์บอร์ดมาให้ผู้ใช้ พร้อมสำหรับการทำงานได้เลย โดยเป็นแบบไร้สาย สามารถเสียบตัวส่งสัญญาณด้านหลังเครื่อง เมื่อระบบตรวจสอบ ก็พร้อมใช้งานได้ทันที
ตัวรับ-ส่งสัญญาณ USB receiver ขนาดเล็กกระทัดรัด ใช้งานร่วมกันกับ เมาส์และคีย์บอร์ด 2-in-1 ทำให้ไม่เสียพื้นที่พอร์ต USB ไปเพิ่ม ยังเหลืออีก 3 พอร์ต สำหรับทำอย่างอื่นได้สบาย
เมาส์ไร้สายที่ให้มาด้วยนี้ จัดว่าเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ตอบสนองได้ดี แต่ใครที่มือใหญ่ๆ อาจจะไม่คุ้น เพราะค่อนข้างเรียบแบน ลักษณะการจับจะเน้นแนบไปตัวเมาส์ แต่ก็ช่วยให้วางมือได้ง่ายดี ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA 1 ก้อน เหมาะกับคนที่เน้นการ Scroll mouse ท่องเว็บ คลิ๊กได้แม่น และใช้งานซอฟต์แวร์ออฟฟิศได้สะดวกทีเดียว
ส่วนคีย์บอร์ด ก็ยังคงทำมาได้สอดคล้องกับเมาส์ ดูเป็นธีมเดียวกัน วางบนโต๊ะทำงานแล้วดูกลมกลืนไปเลย โดยเป็นคีย์บอร์ดแบบพื้นฐาน เสียงรบกวนน้อย กดไม่ต้องแรง เป็นแบบ Full-size ที่มาพกับ Numpad และบางเฉียบ ปรับระดับได้ มีคีย์ภาษาไทยมาให้ ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้งานไม่ได้ ส่วนตัวค่อนข้างชอบ เพราะปุ่มแยกจากกันพอสมควร กดได้แม่นขึ้น และยังมีปุ่มมัลติมีเดียฟังก์ชั่น ที่เป็นแถวบนมาให้ อย่างน้อยๆ สลับใช้งานกับปุ่มปกติก็ยังง่ายกว่า ใช้แบตเตอรี่ AAA 2 ก้อน เท่านั้น
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอสำหรับ All-in-One PC รุ่นนี้มาในขนาด 21.5″ ซึ่งก็จัดว่าเป็นจอขนาดมาตรฐาน เน้นกระทัดรัด สำหรับงานทั่วไป และความบีนเทิงในบ้านได้ แต่เป็นพาแนลแบบ IPS ให้มุมมองที่กว้าง ดูสบายตา ความคมชัดจัดว่าดีเลย ความละเอียด Full-HD ที่ใช้ได้ทั้งการทำงานเอกสาร หรือจะดูภาพ แต่งภาพแบบง่ายๆ ก็ยังทำได้สะดวก สีสันก็ดูสดใสทีเดียว ถึงแม้ว่าขนาดจอจะเล็กไปบ้าง แต่ก็แลกมากับการใช้พื้นที่น้อยลง ยิ่งถ้าใช้งานคนเดียว ก็กว้างมากพอในการทำงานได้ดีแล้ว จุดเด่นอยู่ที่การเป็นจอแบบ Anti-Glare ลดแสงสะท้อนได้ดี ใช้ในบ้านหรือสำนักงาน ก็แทบจะไม่ต้องรำคาญจากบรรดาหลอดไฟที่สะท้อนมาจากด้านหลังมากนัก
แต่ในแง่ของความยืดหยุ่น ด้วยความที่เป็น AiO ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ได้ให้การปรับแต่งที่หวือหวามามากนัก เพราะเน้นการใช้งานเป็นหลัก การปรับมุมทำได้เล็กน้อย ด้วยการปรับก้ม-เงย (Tilt) ได้ประมาณ -5 -22 องศา เรียกว่าพอให้ขยับได้บ้างในบางโอกาส แต่ก็จัดว่าดีกว่าตายตัวปรับไม่ได้เลย เพราะโอกาสที่จะต้องใช้ปรับให้สอดคล้องกับการทำงานในปัจจุบันก็พอมี แต่ที่ชอบเป็นการส่วนตัวคือ ฐานออกแบบมาได้แน่นทีเดียว เวลาปรับเลื่อนหน้าจอ ก็แทบจะไม่ส่งผลกระทบให้จอเลื่อนไปมาให้เสียอารมณ์อีกด้วย
ในเรื่องของเสียงต้องจัดว่าเป็นทีเด็ดของ ASUS All-in-One PC รุ่นนี้ เพราะว่าเสียงค่อนข้างดี และปรับระดับเสียงได้ดังพอสมควร โดยลำโพงมีด้วยกัน 2 ชุดด้านใต้ของจอ เป็นแบบ 3W พร้อมกับระบบเสียง SonicMaster Premium ให้คุณภาพเสียงที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ซึ่งจากการทดลองใช้งาน กับการเปิดยูทูป ให้อารมณ์ของเสียงที่เอาใจสายบันเทิง ทั้งเสียงของออพติมัสไพรม์ ที่กำลังโจมตี เสียงเร่งเครื่องยนต์ใน The Fast รวมถึงเสียงห่ากระสุนที่กำลังถล่มในฉากของ Black Hawk Down นับว่าทาง ASUS จัดเตรียมไว้ให้สายบันเทิงได้แบบเต็มอิ่ม หรือจะฟังเพลงสบายๆ ในช่วงเวลาว่างๆ ก็ให้เสียงกลางและแหลมได้ไม่ธรรมดาเช่นกัน
นอกจากนี้คุณยังเลือกปรับ Equalizer ในแบบที่ต้องการได้ด้วยซอฟต์แวร์ Audio Wizard ที่มีให้คุณปรับจูนได้อย่างสนุก และยังมีโพรไฟล์มาตรฐานให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น Movie, Music หรือจะปรับแต่งแล้วบันทึกไว้เป็นโพรไฟล์ที่ชอบได้เช่นเดียวกัน
Connector / Thin And Weight
มาดูเรื่องของมิติ และความบางกันบ้าง จะเห็นได้ว่า ทางด้านซ้ายและขวา ASUS ทำออกมาให้บางพอสมควร แม้จะไม่แบนจนเรียบสนิท เหมือนในบางรุ่น แต่จุดหนาสุดของเครื่องนี้ ก็อยู่ที่ 4cm เท่านั้น จึงทำให้น้ำหนักสุทธิอยู่ที่ 4.84Kg ก็เรียกว่ายังเบากว่าเคสคอมหลายๆ รุ่น เคลื่อนย้ายสะดวก
พอร์ตเชื่อมต่อถูกวางไว้ด้านหลังเครื่องทั้งหมด ประกอบด้วย USB 3.1 Type0A จำนวน 4 พอร์ต สำหรับต่อพ่วงบรรดา Ext.Drive หรือ Flash drive และอื่นๆ ในแบบ Type-A นอกจากนี้ก็เป็น LAN RJ-45 และ HDMI-Out สำหรับการต่อจอภายนอกเพิ่มเติมได้
ปุ่มเพาเวอร์สำหรับเปิด-ปิดการทำงาน รวมถึงสติ๊กเกอร์ Windows, Energy Star และ ASUS Perfect Warranty
ในส่วนของฐานทาง ASUS ก็ยังมีแนวคิดมาจากอักษรจีน ที่แปลว่าคน ซึ่งเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความอ่อนช้อย แต่ดูแข็งแรง สัดส่วนดูลงตัว และสามารถรับน้ำหนักของจอได้ ไม่ว่าจะตั้งก้มหรือเงยจอได้อย่างสมดุล
Performance / Software
มาเริ่มต้นก่อนการทดสอบ ด้วยซอฟต์แวร์ตรวจเช็ค CPU-z ระบุมาว่า ใช้ซีพียู Intel Core i3-10100U ทำงานในแบบ 2 core/ 4 thread ซีพียูรุ่นนี้ ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 2,10GHz แต่บูสท์ไปได้สูงสุดถึง 4.10GHz ใช้พลังงานต่ำ ประหยัดไฟ แม้เปิดใช้ยาวนาน
โดยมาพร้อมกับแรม DDR4 2666 4GB ซึ่งจุดนี้อาจจะค่อนข้างน้อยไปบ้าง แต่ก็พอจะใช้งานพื้นฐานทั่วไปได้ ส่วนใครที่อยากจะใช้ซอฟต์แวร์ที่หนักขึ้น อาจจะอัพเกรดเพิ่มเติมอีก 8GB ในสล็อตที่เหลือก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ส่วนกราฟิกที่มาด้วยนั้นเป็น Intel® UHD Graphics รองรับในด้านของงานทั่วไป เน้นงานเอกสาร และความบันเทิง รวมถึงการดูภาพ ดูหนัง มากกว่าการเล่นเกม แต่ก็ยังพอเล่นได้ หากไม่ใช่เกมที่ดึงทรัพยากรมาก หรือบางเกมขึ้นอยู่กับการปรับความละเอียดและคุณภาพของภาพด้วยเช่นกัน
การทดสอบแรกด้วย PCMark10 แม้ว่าจะมาพร้อมสเปคเบาๆ แต่ก็สามารถรันโปรแกรมทดสอบนี้ได้จนจบ กับคะแนนที่เรียกว่าอยู่ในเกณฑ์พื้นฐาน เพราะถ้าดูจากสเปคจะเห็นได้ว่าตัวเลขที่ได้มาประมาณ 2,150 ก็ถือว่าค่อนข้างดีแล้ว โดยสามารถผ่านการทดสอบทั้งในแง่ของการใช้งานทั่วไป ซอฟต์แวร์สำนักงานและในด้านมัลติมีเดียครบถ้วน
มาถึงการทดสอบที่ค่อนข้างโหดหิน ซึ่งความจริงควรจะใช้ในการทดสอบกับเครื่องสายโหด แม้ว่าจะไม่ได้เหมาะเจาะจงกับ ASUS AiO นี้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงการทำงานของซีพียู ที่มีต่อซอฟต์แวร์กราฟิกสามมิติเหล่านี้ ด้วยตัวคะแนนที่ไม่ได้สูงมากนัก เพราะเป็นซีพียูน้องเล็ก แต่ก็ทำให้เห็นว่า ทำงานร่วมกันกับโปรแกรมเหล่านี้ได้ แต่ก็อาจจะไม่ได้ตอบสนองรวดเร็วทันใจ ซึ่งต้องใช้เวลาในการทำงานมากขึ้น อย่างที่กล่าวไปในตอนต้น ASUS ออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไป และซอฟต์แวร์ในชีวิตประจำวันเป็นหลัก
แต่การใช้งานหนึ่งที่หลายคนอาจจะอยากรู้ กับการทดสอบด้วยการเปิดเว็บเบราว์เซอร์ สำหรับคนที่เน้นการท่องอินเทอร์เน็ต ด้วยการเปิดแท็ปบน MS Edge มีทั้งการเปิดวีดีโอและหน้าเว็บทั่วไปสลับกัน จำนวน 11 แท็ป แบบที่ยังทำงานได้ไม่สะดุด และเมื่อเช็ค Process จะเห็นได้ว่าใช้ RAM ไปประมาณ 80%
ส่วนสุดท้ายเป็นการทดสอบเกม ด้วยเกม DOTA2 ที่น่าจะเป็นตัวแทนได้ดีสำหรับคอมสเปคพื้นฐานนี้ ซึ่งในการทดสอบใช้ค่ากราฟิกพื้นฐานที่เป็น Default ของเกม ในโหมด Fastest กับความละเอียด Full-HD ซึ่งผลที่ได้ ช่วงที่เป็นการโจมตีธรรมดา คลีฟยังไม่เยอะ ก็ยังพอลื่นไหลไปได้ ไม่สะดุดมากนัก แต่เมื่อมีการร่ายเวทย์ใหญ่หรือการโจมตีพร้อมๆ กันในฉาก ก็มีสะดุดให้เห็นพอสมควร การเล่นอาจจะต้องปรับ Resolution ให้น้อยกว่านี้ แต่ถ้าเป็นเกมง่ายๆ 2D/3D ที่ไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากนัก ก็เล่นได้ลื่นๆ ตามปกติ
ซอฟต์แวร์ MyASUS ซอฟต์แวร์มาช่วยอำนวยความสะดวก และอินเทอร์เฟสที่ให้ความเป็นกันเอง และให้ประโยชน์ในการใช้งาน สำหรับเป็นการตรวจสอบตรวจเช็ค ความร้อน ความเร็ว ให้คุณตรวจเช็คความผิดปกติในเบื้องต้น ซึ่งหากเจอสิ่งผิดปกติ ก็สามารถใช้ยูทิลิตี้มาแก้ไขได้ รวมไปถึงการเช็คสถานะของระบบ และสอบถามข้อมูล ปัญหาในเบื้องต้น ค่อนข้างใช้ง่ายเลยทีเดียว
Battery / Heat / Noise
แม้เรื่องความร้อนอาจไม่ได้เป็นปัญหาน่าซีเรียส ที่จะต้องถึงกับทดสอบ เพราะโดยพื้นฐานก็เป็นคอมพิวเตอร์พีซี ไม่ใช่โน๊ตบุ๊ค อีกทั้งด้วยขนาดพื้นที่ก็ไม่ได้เล็กจนน่าเป็นห่วง แต่ก็เพื่อให้ผู้ที่กำลังสนใจได้พอประเมินเรื่องของพื้นที่ตั้ง และอุณหภูมิในห้องใช้งาน ซึ่งการทดสอบเราอยู่ในห้องปรับอากาศประมาณ 25 องศาเซลเซียส โดยเน้นที่ซีพียูเป็นหลัก ด้วยการใช้โปรแกรม OCCT ในการเร่งความเร็วซีพียูไประดับ 100% ให้ทำงานเต็มที่ทุกคอร์เธรด ซึ่งผลที่ได้อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 74 องศาเซลเซียสเท่านั้น เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างปกติพื้นฐาน และในความเป็นจริงคงไม่ค่อยมีโปรแกรมใด ที่จะทำให้ซีพียูทำงานเต็มที่แบบนี้ในชีวิตประจำวัน จุงไม่ต้องไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนบน ASUS AiO รุ่นนี้ รวมถึงไม่มีเสียงอื่นใด มารบกวนขณะทำงานอีกด้วย
Conclusion / Award
มาดูบทสรุปของ ASUS AiO V222FAK-BA194T รุ่นนี้กันดีกว่าครับ โดยส่วนตัวค่อนข้างให้เครดิตที่ดีสำหรับ AiO หลายๆ รุ่นในปัจจุบัน เพราะถ้ามองว่าการก้าวข้ามมาในแต่ละครั้ง กับพัฒนาการเมื่อเทียบกับ AiO ในอดีต มาในวันนี้น่าใช้มากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเทคโนโลยีมีการปรับเปลี่ยนไปมาก ความเร็วเพิ่มขึ้น ไม่ช้าอืดเหมือนในอดีต แม้จะมีบางรุ่นที่ยังคงผสมผสานฮาร์ดแวร์ ที่ไม่ได้ใหม่ทั้งหมด แต่ก็เพื่อให้ลงตัวกับความสามารถและราคา ผู้ใช้จะได้ไม่ต้องจ่ายแพงเกินไป เช่นเดียวกับ ASUS รุ่นนี้ ที่มีฮาร์ดแวร์สำหรับใช้งานในเบื้องต้นได้พอเหมาะ เพราะเมื่อเทียบกับสนนราคาประมาณ 15,990 บาท แต่สิ่งที่ได้คือ หน้าจอ IPS 21.5″ กว้างพอสมควร กับซีพียูระดับ Intel Core Gen10 และมีฮาร์ดดิสก์ 1TB ให้เมาส์กับคีย์บอร์ดไร้สาย พร้อม Windows 10 และการรับประกัน 3 ปี นี่ก็ถือว่าจัดหนักให้แล้ว
ในแง่ของดีไซน์ก็จัดว่าพรีเมียม อีกวัสดุที่ใช้ก็ไม่ได้เป็นแบบโลว์เกรด แต่ให้ความหรูหราในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลังก็ตาม ยิ่งเมื่อดูจากฐานวาง ที่สร้างสมดุลในการใช้งานได้ดี หน้าจอปรับมุมก้มเงยได้ และพอร์ตที่มีให้ต่อครบครัน สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบอกถึงความพิถีพิถันในการออกแบบได้ดี
ประสิทธิภาพอย่างที่ได้กล่าวไปว่า ถ้าคุณเน้นใช้งานทั่วไป ซอฟต์แวร์ออฟฟิศ Word, Excel, PowerPoint หรือจะเป็นการท่องอินเทอร์เน็ต การปรับแก้งานพื้นฐาน ASUS เครื่องนี้ตอบโจทย์คุณได้ และขยับถึงความบันเทิง ที่ให้คุณดูหนัง ฟังเพลงได้เต็มอิ่ม เพราะจอขนาดที่ว่านี้ เป็นแบบ IPS คมชัดทุกมุม สีสันก็ดูสดใส จากที่ได้ลองก็นั่งดูกันแบบเพลินๆ ได้ทั้งวัน ระบบเสียงที่ให้มาด้วยก็ดูจะเอาใจคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดีครับ
มีเพียงเรื่องเดียวที่อาจจะทำให้อึดอัดไปบ้างคือ ถ้าใส่แรม 8GB มาให้ ก็น่าจะช่วยปลดล็อคในสิ่งต่างๆ ของระบบได้ดีกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ลื่นมากกว่าจะต้องไปฝากข้อมูลหรือ Swap บางสิ่งไว้กับฮาร์ดดิสก์หรือช่วยแบ่งเบาภาระ การค้นหาไฟล์หรือการ Cache ข้อมูล ให้ทำงานได้ลื่นขึ้นกว่านี้ได้เลย ซึ่งเท่าที่เช็คก็น่าจะพอมีสล็อตให้อัพเกรดบน All-in-One PC เพิ่มได้บ้าง ใครที่อยากจะสัมผัสความลื่นไหลใช้งานได้ไม่อึดอัดเกินไปนัก ก็อาจจะต้องลองอัพเกรดกันดู
Award
แม้จะดูเรียบง่าย แต่ก็ให้ความพรีเมียมมาในตัว ในราคาที่หลายคนคว้าหาซื้อมาใช้ได้ แบบไม่สะเทือนกระเป๋าเงินมากนัก เพราะถ้าได้สัมผัสจะรู้สึกได้ว่า All-in-One PC จาก ASUS เครื่องนี้ เค้ามีจุดยืนเป็นของตัวเองพอสมควร โดยเฉพาะการจัดสรรค์สิ่งต่างๆ ให้กับผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ ที่อาจดูเรียบง่าย แต่ก็มีฟังก์ชั่นให้คุณได้ใช้อย่างเต็มที่ สเปคพื้นฐาน รองรับงานในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน สำนักงานหรีอจะเป็นในห้องเรียนก็ตาม ความคุ้มค่าที่น่าสนใจยังอยู่ที่ Functional ต่างๆ ที่มีอยู่ครบ ทั้งเรื่องของภาพ เสียง การประมวลผลและพอร์ตต่อพ่วง ไม่เยอะแต่ดูมินิมอล กับรางวัลนี้ลงตัวครับ