Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

รีวิว Fujitsu LifeBook UH-X โน้ตบุ๊คจอ 13.3″ เบาที่สุด แค่ 747 กรัม Made in Japan สเปกลื่นไหล Core i Gen 10 ประกัน 2 ปี On-site เริ่ม 39,990 บาท

Fujitsu LifeBook UH-X เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาของโน๊ตบุ๊คประเภทพกพาบางเบาอย่างน่าสนใจ จากที่ผ่านมาทาง Fujitsu ได้นำเสนอโน้ตบุ๊คสายพันธ์ญี่ปุ่น Made in Japan เน้นใช้งานแบบพกพาไปทำงานนอกสถานที่มาตลอดยาวนานหลายปี ทั้งด้วยสเปคประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมน่าเชื่อถือแบบมืออาชีพ พร้อมความสเถียรภาพที่สูงกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไปแบบชัดเจน

Fujitsu LifeBook UH X Review 5

Advertisement

ล่าสุดด้วยการมาของ Fujitsu LifeBook UH-X จัดเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ ที่เบาสุด แค่ 747 กรัมเท่านั้น กรณีที่เราจับชั่งน้ำหนักจริงๆ ส่วนตามสเปกจะเป็น 778 กรัม จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพที่เบาที่สุดของโลก อีกทั้งแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดตลอดทั้งวัน ประกันก็ดีเยี่ยมเพราะเป็นแบบ On-site Service ระยะเวลา 2 ปี สนนราคา 39,990 – 46,990 บาท

ดีไซน์ตัวเครื่องบางของ Fujitsu LifeBook UH-X บางเพียง 15.5 มม. แต่พอร์ตเชื่อมต่อครบที่สุด โดยใช้วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่เป็นโลหะที่ได้ทั้งความเบาแต่แข็งแรงทนทาน มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ซึ่งแรงลื่นรองรับทุกๆ การใช้งาน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักธุรกิจหรือคนที่ต้องการสุดยอดโน๊ตบุ๊ค 13.3″ ประสิทธิภาพสูงคู่ใจในการทำงานจริงจัง หรือ Commercial ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูงสุด 

VDO Review

NBS Verdict

สรุปแล้วสำหรับ Fujitsu LifeBook UH-X ถูกออกแบบมาเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับมือาชีพหน้าจอ 13.3″ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และความบางเบาขั้นสุด อีกทั้งได้ความครบถ้วนในทุกๆ ทาง เน้นความทนทานในระดับนึง ปลอดภัยไว้ใจได้ มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงเหมาะกับการทำงานทั่วไป หรือหนักๆ (ที่ไม่ใช่เล่นเกมหรืองาน 3 มิติ) สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก แบตเตอรี่ยาวนานสุดๆ ที่ประมาณ 7 – 9 ชั่วโมงจากการทดสอบจริง

ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สมราคาค่าตัว โดย Fujitsu LifeBook UH-X เน้นเข้ามาบุกตลาดระหว่างองค์กร, ธุรกิจขนาดกลาง รวมถึงคนที่ต้องการความแตกต่าง ชูจุดแข็งเรื่องดีไซน์เครื่องความบาง รวมถึงเบาสุดๆ ในตลาดประเทศไทย พร้อมประสิทธิภาพการทำงานขั้นสูง หรือถ้าคนทั่วไปอยากได้โน๊ตบุ๊คบางเบามาตรฐานสูงก็สามารถหาซื้อมาใช้งานเช่นเดียวกัน รวมไปถึงได้พอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันที่สุด 

Fujitsu LifeBook UH X Review 52

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง Fujitsu LifeBook UH-X ที่ต่อยอดความสำเร็จของโน๊ตบุ๊คตระกูลสายธุรกิจระดับมืออาชีพได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่โดดเด่นเหนือชั้นกว่าเรื่องความปลอดภัยโดยมี IR Camera เพื่อสแกนหน้าเข้าใช้งาน ได้ความรวดเร็วและปลอดภัยอีกด้วย 

สำหรับข้อสังเกตของ Fujitsu LifeBook UH-X ก็มีอยู่เล็กน้อย ซึ่งเป็นในส่วนของราคาที่ดูสูงกว่าโน๊ตบุ๊คที่เป็นสเปกที่ใกล้เคียงกัน รวมไปถึงอุณหภูมิของชิปประมวลผลขณะที่ทำงานหนักๆ ก็จะมีความร้อนที่สูงหน่อย แต่ก็ไม่มีผลกับการใช้งานแต่อย่างใด และสุดท้ายกับเรื่องของดีไซน์หน้าตาที่ดูมีความอนุรักษ์นิยมตามสไตล์ของโน้ตบุ๊คแบรนด์ญี่ปุ่นมากๆ ซึ่งหลายคนอาจจะชอบหรือเฉยๆ หรือบางคนอาจจะไม่ชอบก็เป็นไปได้ แต่ส่วนตัวที่รีวิวแล้วก็ดูเรียบง่ายและสวยดีนะครับ

Fujitsu LifeBook UH X Review 36

จุดเด่น

  • โน้ตบุ๊คสายพันธ์ญี่ปุ่น Made in Japan 
  • ตัวเครื่องทั้งหมดใช้วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ (Magnesium Alloy) ซึ่งดีกว่าโลหะทั่วไปทั้งเบาและแข็งแรง
  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 12.5″ เพราะขอบจอบางเฉียบ
  • มีความเบาสุดๆ ที่ 747 กรัม ซึ่งนับว่าเบาที่สุดในโลก และบางเพียง 15.5 มิลลิเมตรเท่านั้น
  • ดีไซน์พิเศษบานพับแบบพิเศษช่วยให้ใช้งานดีขึ้น ในหลายๆ ส่วน
  • หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสีใกล้เคียง 100% sRGB
  • ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
  • ใช้งานจริงลื่นไหลแบบสุดๆ ด้วย Core i7-10510U + RAM 16GB + SSD 1TB
  • ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน ต่อการตกกระแทกและละอองน้ำระดับนึง
  • มาพร้อม IR Camera ใช้งานผ่านทาง Windows Hello 
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครันที่สุดในรุ่น 13.3″ ทั้ง USB-C / USB-A / LAN / HDMI 
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งานทันที มีซอฟต์แวร์ Fujitsu ช่วยจัดการ
  • ระบบคามปลอดภัยระดับองค์กรครบเครื่อง สไตล์ Commercial 
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 7 – 9 ชั่วโมง
  • ประกันเป็น On-site Service ทั่วโลกระยะเวลา 2 ปี
  • ราคาคุ้มค่า ประสิทธิภาพดี เมื่อเทียบแบรนด์อื่นๆ

ข้อสังเกต

  • ดีไซน์ออกแนวแบรนด์ญี่ปุ่นแท้ๆ บางคนอาจจะชอบ บางคนอาจจะมองว่าเชย
  • ถ้าเทียบแต่สเปก จะเห็นว่ามีราคาที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊คในตลาดรุ่นอื่นๆ ประมาณนึง
  • ความร้อนที่เกิดขึ้นสูงสุดที่ 100 องศาเซลเซียส ถือว่าสูงแต่ก็ไม่รบกวนการใช้งาน

Specification

สเปกของ Fujitsu LifeBook UH-X จะถูกแบ่งด้วยกันเป็น 2 รุ่น 2 สเปก หลักๆ คือ Core i5-10210U / Core i7-10510U ซึ่งในครั้งนี้แอดมินโป้งได้มาเป็นสเปก Core i7 ซึ่งด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-10510U ความเร็ว 1.80 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.80 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด

ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 10 (Comet Lake) รุ่นล่าสุด ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร ในส่วนของการ์ดจอเป็นออนชิป Intel UHD Graphics 620 ที่เพียงพอกับใช้งานพื้นฐานแน่นอน ทั้งงาน 2 มิติ 3 มิติ อาทิ งานเอกสาร งานตกแต่งภาพ หรือดูหนังฟังเพลง เล่นเกมออนไลน์เบาๆ ความบันเทิงต่างๆ 

Fujitsu LifeBook UH X Review 16

โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 13.3″แบบด้าน ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง ที่ sRGB ใกล้เคียง 100% ที่ความสว่าง 400 nits แรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB LDDR3 Bus 2133MHz ซึ่งรองรับกับการใช้งานทั่วไปได้สบาย สำหรับฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB / 1TB

ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ด้วย นอกจากนี้ Fujitsu LifeBook UH-X ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call อีกทั้งมี IR Camera ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์แท้

สนนราคา Fujitsu LifeBook UH-X รุ่นที่มารีวิวสเปก i7 มีราคาอยู่ที่ 46,990 บาท ส่วนสเปก i5 จะมีราคาอยู่ที่ 39,990 บาท การรับประกันมีระยะ 2 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ซึ่งใครที่สนใจก็สามารถสั่งออนไลน์ได้ผ่านทางร้าน BaNANA ได้เลย ส่งฟรีถึงบ้านใน 3 ชั่วโมงด้วย 

โดยซื้อในช่วงนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษ รับฟรีของแถม 4,180 บาท ไม่ว่าจะเป็น

  • กระเป๋า UNIQ CAVALIER 2 in 1 มูลค่า 1,290 บาท
  • Microsoft 365 Family มูลค่า 2,890 บาท

Hardware / Design

ดีไซน์การออกแบบของ Fujitsu LifeBook UH-X นั้นจะดูกระฉับกระเฉงกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3″ เนื่องด้วยมีขอบจอที่บางมากทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพาสุดๆ  แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก น้ำหนักเบาที่สุดเพียง 747 กรัม แบบชั่งน้ำหนักจริงๆ (ตามสเปก 778 กรัม) ซึ่งนั้นก็เบากว่ารุ่นหน้าจอขนาดเท่ากันมากๆ ทีเดียว ส่วนความบางที่ 15.5 มิลลิเมตร จัดว่าบางมากๆ อีกด้วย 

เรียกได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊ตที่ให้ความสบายในการนำติดตัวไปใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาที่ดีที่สุดรุ่นนึงในตลาดประเทศไทยประจำปี 2020 นี้ทีเดียว อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าโดยรวมแล้วมีความเป็นเอกลักษณ์นิยมแบบญี่ปุ่นตามสไตล์ของ Fujitsu มากๆ แต่นั่นก็ทำให้มีความแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจนเหมือนกัน

Fujitsu LifeBook UH X Review 45

เรียกได้ว่ามิติตัวเครื่อง Fujitsu LifeBook UH-X มีความกระทัดรัดเหมาะต่อการพกพา ด้วยดีไซน์ของขอบจอที่บางเฉียบ ส่วนฝากหลังจะเป็นโลโก้ Fujitsu ที่โดดเด่นแต่เรียบง่าย ที่สำคัญบานพับระหว่างจอภาพและตัวเครื่องด้วยฟีเจอร์ยางรองขอบด้านหลังทำหน้าที่เสมือนฐานรองรับ ทำให้คีย์บอร์ดทำมุมกับระนาบ

เมื่อกางหน้าจอประมาณ 145 องศา (กางได้มากสุดที่ 180 องศา) ทำให้การพิมพ์ง่ายและสบายยิ่งขึ้น ช่วยลดอาการปวดข้อมือ ปวดตามลำตัว และคอ ที่เกิดจากการพิมพ์เป็นระยะเวลานานไปได้เลย นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความใส่ใจที่เน้นว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เน้นการใช้งานระดับมืออาชีพ

Fujitsu LifeBook UH X Review 7

ตัวเครื่องโดยรวมจะทั้งหมดใช้วัสดุที่ดีที่สุดอย่างแมกนีเซียมอัลลอยด์ซึ่งดีกว่าโลหะทั่วไปอย่าง อลูมิเนียมอัลลอยด์ ไม่ว่าจะเป็นฝาหลัง ตัวเครื่องด้านใน และใต้ตัวเครื่อง ทำให้มีทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบาที่ดีกว่า อีกทั้งพื้นผิวเองก็มีการออกแบบให้จับได้กระชับมือไม่เป็นรอยนิ้วมือง่ายๆ ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป 

ตรงนี้มีความเหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นใกล้เคียงกันแบบรู้สึกได้ทันที พร้อมใช้สีสันดำด้านให้ความเป็นทางการเวลาใช้งานแบบจริงจัง หรือใครจะเอาไปใช้งานทั่วไปอันนี้ก็แล้วแต่สะดวกไม่ติดอะไร อีกทั้งเรื่องความทนทานเรื่องของการตกกระแทก รวมถึงฝุ่นและละอองน้ำ เรียกได้ว่ามีความเชื่อมั่นที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในตลาดแน่นอน ซึ่งติดตั้งช่องระบายความร้อนไว้ที่ขอบตัวเครื่อง 1 ช่อง

Fujitsu LifeBook UH X Review 32

นับได้ว่า Fujitsu LifeBook UH-X เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานเน้นความบางเบาที่ครบเครื่องในทุกๆ ด้าน มีสเปกที่ดี แรงลื่น จัดเต็มด้วยพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ รวมถึงใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียดจริงๆ ตอบโจทย์คนที่จริงจังด้านการทำงานระดับมืออาชีพ ด้วยน้ำหนักเบาสุดในตลาด ตัวเครื่องที่บางมากๆ

ซึ่งนับได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3″ ที่เบาที่สุดในไทย ณ ตอนนี้ก็ว่าได้ ตอบสนองการพกพาไปใช้งานทุกที่ทุกเวลาอย่างที่สุด สามารถใส่ในกระเป๋าถือ หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่เดินทางอยู่ตลอดเวลา ยิ่งสาย Commercial ตามองค์กรต่างๆ นี่เหมาะสมอย่างที่สุดเลยล่ะ

Keyboard / Touchpad

ทางด้านของ Fujitsu LifeBook UH-X ตัวแป้นคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำที่สกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี คีย์บอร์ดมีระยะห่างกำลังดี เป็นระยะห่างที่พิสูจน์แล้วว่าพิมพ์ได้สบายนิ้วมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น แป้นคีย์บอร์ดให้สัมผัสปลายนิ้วที่นุ่มนวลพร้อมกับระยะกดที่เหมาะสม มีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ

ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวาพร้อมไฟ LED แสดงสถานะของการใช้งานคีย์บอร์ด โดดเด่นด้วยสีสันที่แตกต่างเป็นสีเงินมันวาวแบบปุ่มเดียวเมื่อเทียบกับแป้นคีย์บอร์ดทั้งหมด อีกทั้งแป้นพิมพ์ที่กันน้ำหกสามารถปกป้องตัวเองจากอุบัติเหตุเล็กน้อย โดยไม่เกิดความเสียหาย และเราสามารถเช็ดทำความสะอาดได้โดยง่าย 

ตัวทัชแพดมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบมีปุ่มแยกคลิกซ้ายคลิกขวา การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่การสัมผัสเลื่อนนิ้วไปมาจะดูลื่นๆ สักหน่อย ส่วนตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร เรียกได้ว่าใช้งานได้เยี่ยมยอดกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบชัดเจน 

Fujitsu LifeBook UH X Review 20

Screen / Speaker

หน้าจอ Fujitsu LifeBook UH-X เป็นพื้นผิวแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อนได้ดี พร้อมขอบบางทั้ง 4 ด้าน ให้ความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ที่ให้ภาพคมชัด สวยงามทุกมุมมอง ทำให้ไม่ว่าจะการใช้งานทั่วไป การเปิดหน้าเว็บ การชมภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมถึงการเล่นเกมดูเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า รวมถึงยังมีหลอดไฟ LED สำหรับแสดงสถานะว่ากล้องทำงานอยู่ เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง

Fujitsu LifeBook UH X Review 69

อีกทั้งแม้ขอบหน้าจอจะบางแต่ก็ยังติดตั้ง Webcam และไมโครโฟนแบบ 2 ตัว มีระบบตัดเสียงรบกวนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการประชุมแบบวิดีโอ (Video Conference) พร้อมด้วย IR Camera ไว้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello ด้วย ส่งผลให้เราสามารถใช้งานได้สะดวกสบาย ไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ  รวมถึงมีความปลอดภัยด้วย นอกจากนี้ยังมีการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ

Fujitsu LifeBook UH X Review 64

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Fujitsu LifeBook UH-X ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite  โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 90% และ AdobeRGB ที่ 69% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ พอตัว ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง

ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 400 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับที่ดีเยี่ยม ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้มาตรฐานระดับมืออาชีพเลยทีเดียว ส่งผลให้มีคะแนนรวมอยูท่ี 3.5 คะแนน ถือว่าคะแนนอยู่ในระดับกลางๆ คาดว่าจากการความสว่างของจอไม่ค่อยสม่ำเสมอนั่นเอง

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพงให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง ที่ถึงแม้จะมีความบางความเบาของตัวเครื่องอย่างที่สุด แต่ก็ได้คุณภาพทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องขอบตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น

ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี รวมๆ แล้วถือว่าในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้แบบสบายๆ

Connector / Thin And Weight

มาดูในส่วนของรอบๆ ตัวเครื่อง Fujitsu LifeBook UH-X กันต่อ สำหรับพอร์ตถือว่าให้มาครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะมีพื้นที่ด้านข้างแล้ว ด้วยการติดตั้งพอร์ต USB 3.2 Type-C มาให้จำนวน 2 พอร์ตด้วยสำหรับการรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ ซึ่งมี 1 ช่องรองรับการชาร์จไฟเป็น USB PD ด้วย รวมไปถึงยังมีพอร์ต USB-A และ HDMI ตัวเต็มปกติ ซึ่งไว้เชื่อมต่อกับหน้าจอภายนอก แม้ตัวเครื่องจะบางเฉียบ

Fujitsu LifeBook UH X Review 33

แน่นอนว่ายังมี ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรก็ยังมีอยู่เช่นเดิม รวมไปถึง Card Reader เองก็เป็นแบบ SD Card ซึ่งรองรับการใช้งานที่มากกว่า และที่น่าสนใจที่สุดจะเป็นในส่วนของ LAN RJ45 ที่ตัวเครื่องบางๆ แบบนี้สามารถติดตั้งมาได้ ดีไซน์แบบดึงออกมาแล้วกางออกเพื่อขยายช่อง ปิดท้ายด้วยพอร์ตชาร์จไฟปกติที่ใช้งานร่วมกับอแดปเตอร์ ส่วนด้านหน้าจะเป็นไฟ LED สถานะการทำงาน

Fujitsu LifeBook UH X Review 28

น้ำหนักตัวเครื่องตามสเปกอยู่ที่ 778 กรัม แต่เมื่อชั่งจริงๆ จะอยู่ที่ 747 กรัมเท่านั้น และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็กจ่ายไฟที่ 65W หัวแบบปกติ ซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 1 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 13.3″ จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง 

Inside / Upgrade

การแกะฝาล่างของเครื่อง Fujitsu LifeBook UH-X นั้นสามารถทำได้ง่ายมากๆ จากการที่ฝาหลังเป็นโลหะทำให้ค่อนข้างแข็งแต่ยืดหยุ่นพอสมควร เอาจริงๆ คือขอแค่มีไขควงสี่แฉกขนานพอดี ก็สามารถไขได้แล้ว (แต่น๊อตจะไม่เท่ากัน) ซึ่งหลังจากถอดน็อตทุกตัวเสร็จหมดแล้ว เราสามารถใช้มือค่อยๆ แกะออกที่ละส่วนได้เลย แต่ก็ต้องทำแบบใจเย็น ซึ่งเมื่อเปิดถึงภายในเครื่องแล้วจะเห็นการวางรูปแบบของฮาร์ดแวร์เครื่องนี้ทำได้ดูดีสมกับเป็นโน๊ตบุ๊คระดับมืออาชีพ 

Fujitsu LifeBook UH X Review 1

เรื่องระบายความร้อนตัวเครื่องมี Heat Pipe จำนวน 1 เส้น วางพาดชิปประมวลผล ส่วนพัดลมเครื่องนี้ก็มีมาให้ 1 ตัว โดยลมร้อนเป่าออกทางด้านหลังของตัวเครื่อง นอกจากนั้นแรมที่ติดตั้งมาขนาด 16GB จะเป็นแบบฝังบอร์ด ทำให้ไม่สามารถอัพเกรดได้ภายหลังตามสไตล์ของ Ultrabook โดยจะเห็นถึง SSD M.2 NVMe PCIe จำนวน 1 สล็อตซึ่งก็ติดตั้งมาแล้ว อย่างไรก็ตามเราจะเห็นว่าตัวเครื่องยังเหลือพื้นที่อีกพอสมควร คาดว่าในต่างประเทศอาจจะมีสเปกที่มีแบตเตอรี่ก้อนใหญ่กว่านี้ให้เลือกก็เป็นไปได้

Performance / Software

Fujitsu LifeBook UH-X ที่ได้รับมารีวิวเป็นสเปกขายจริง ได้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับสูงอย่าง Intel Core i7-10510U สถาปัตยกรรม Comet Lakeใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.80 – 4.80 GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 10 – 15 – 25Watt

ที่เน้นประสิทธิภาพความแรงกว่า Ice Lake 10 นาโนเมตร รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ (ไม่มี AI) ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 16GB LPDDR3 2133 MHz แบบออนบอร์ดที่เพียงพอต่อการใช้งานทันที อีกทั้งได้ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ 

  c1 5.   c2 4

การ์ดจอเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel UHD Graphics 620 ไม่ต่างจาก Core i Gen 8 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้น แต่ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา

แน่นอนว่าตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่

g1 5

ส่วนการทดสอบพลังประมวลผลด้วยโปรแกรม Cinebench ทั้ง 15 และ 20 ก็ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดีตามระดับของ Core i7 Gen 10U สถาปัตยกรรม Comet Lake ซึ่งประสิทธิภาพดีกว่า Core i7 Gen 10U สถาปัตยกรรม Ice Lake เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก แน่นอนว่าถ้าเอาไปใช้งานทั่วไปพื้นฐานก็มีความลื่นไหลไร้ปัญหาแน่นอน และแม้ว่าจะเป็นการ์ดจอออนชิปแต่ก็พอใช้งานได้ 3 มิติได้บ้าง

cine15 4.   cine20 4 

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำผลทดสอบเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 1TB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับกลางค่อยสูง แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด

เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2396 MB/s และเขียนที่ 1043 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ระดับที่ความเร็วดีมากๆ แล้ว แม้ว่าอาจจะไม่เร็วสุดในตลาดก็ตาม

ssd 6

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,901 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ  จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 รุ่นใหม่ ทำให้รองรับการใช้งานที่หลากหลายและเปิดโปรแกรมได้มากมายอีกด้วย จากการที่ติดตั้งแรมมาขนาด 16GB

pc10 4

Fujitsu LifeBook UH-X เองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Function Manager ที่เราสามารถตั้งค่าบางอย่างของเครื่องเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จไฟผ่านทาง USB-C โหมดการใช้งานของพัดลม และ Function Key ต่างๆ ของคีย์บอร์ด ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย รวมไปถึงก็ยังสามารถจัดการการใช้งานแบตเตอรี่ได้ในระดับนึงอีกด้วย  

fu

Battery / Heat / Noise

ทดสอบการใช้งานแบตเตอรี่ Fujitsu LifeBook UH-X ซึ่งเป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายรุ่น กับความจุประมาณ 3500 mAh โดยสามารถใช้งานจริงต่อเนื่องยาวนานได้เกือบๆ 7 – 9 ชั่วโมงต่อเนื่อง ในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงตามการใช้งานของแต่ละคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร

แน่นนอว่าในการทดสอบครั้งนี้ก็ได้ปรับเป็น Power Saver Mode พร้อมปรับแสงสว่างและระดับเสียงเหลือ 10% ซึ่งจากการทดสอบใช้งานจริงๆ ก็ถือว่ายาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปประมาณนึง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ของ Ultrabook อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟผ่านทาง USB-C ที่เป็น USB PD (Power Delivery) ที่ไม่ว่าจะเป็นอแดปเตอร์ชาร์จหรือ Power Bank ก็รองรับทั้งหมด 

batt 4

ทดสอบอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 80 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าชิปประมวลผลจะร้อนที่สุดที่ 100 องศาเซลเซียส นับว่าระบบระบายความร้อนของ Fujitsu LifeBook UH-X เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีแทนที่กายภาพทำได้ เทียบกับโน๊ตบุ๊คสายทำงานสเปกแรงๆ หลายๆ รุ่น นับว่าพัดลมตัวเดียวถือว่าน่าประทับใจในระดับนึงเพราะร้อนไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส

ซึ่งจากตามหลักการทำงานก็คือ ถ้าเกิน 100 องศา ระบบจะลดความเร็วชิปประมวลผลลงมาเพื่อความปลอดภัยอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องกังวลไป ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 Comet Lake ที่ 14 นาโนเมตรเหมือน Gen 8 อีกทั้งยังเครื่องยังบางเบาสุดๆ แต่โดยรวมแล้วก็สามารถใช้งานแบบไร้กังวล ประสิทธิภาพดีไม่มีอาการหน่วงเลย

temp 3

Conclusion / Award

มีความน่าสนใจอย่างที่สุด สำหรับโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับมืออาชีพหน้าจอ 13.3″ ที่เบาที่สุด พร้อมได้สเปกจัดเต็มอีกหนึ่งรุ่น ที่เชื่อว่าทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง Fujitsu LifeBook UH-X ที่ตอกย้ำแบรนด์ Fujitsu LifeBook ได้เป็นอย่างดี มาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน

สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ค Commercia ของทาง Fujitsu โดยเครื่องบางเพียง 15.5 มิลลิเมตร เบาที่สุดในตลาดที่ 747 กรัมเท่านั้น ซึ่งมาพร้อมกับสเปก Ultrabook ระดับสูง ได้ดีไซน์ดูเรียบๆ แต่ว่าได้ประสิทธิภาพขั้นสูง รองรับทุกๆ การใช้งาน (ที่ไม่ใช่การเล่นเกม 3 มิติ) ที่โดดเด่นนำหน้าใครๆ ด้วยพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันอย่างที่หาในโน๊ตบุ๊ครุ่นหน้าจอ 13.3″ เครื่องอื่นๆ ไม่ได้แน่นอน

Fujitsu LifeBook UH X Review 58

สเปกของ Fujitsu LifeBook UH-X ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-10510U ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 10 (Comet Lake) รุ่นล่าสุด ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร หรือรุ่นเริ่มต้นจะเป็น Core i5-10210U โดยรวมอื่นๆ ก็ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแรมมาขนาดใหญ่ 16GB อีกทั้งยังใส่ SSD M.2 มาตรฐานความเร็วสูง ที่ความจุ 512GB – 1TB

เหลือเฟือกับการใช้งานทั่วๆ ไป หรืองานหนักๆ ที่ไม่ใช่งาน 3 มิติก็รองรับได้แบบสบายๆ เน้นเรื่องของการใช้งานพื้นฐานและการพกพาไปใช้งานนนอกสถานที่เป็นหลัก แบบแทบไม่ต้องพกพาอแดปเตอร์เลย หรือจะชาร์จไฟจริงๆ ก็รองรับเป็น USB PD ซึ่งตัวอแดปเตอร์ติดเครื่องเองก็ชาร์จไฟได้ทั้ง มือถือ และ Gadget อื่นๆ ได้ทั้งหมด

Fujitsu LifeBook UH X Review 37

รวมถึงหน้าจอก็มีดีไซน์ที่บางเฉียบเป็นพาเนล IPS คุณภาพสูงได้ sRGB 90% ที่ความละเอียด Full HD แบบจอด้านเรียบเนียนตา ที่สำคัญมีกล้องอินฟราเรด IR Camera ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Windows Hello เรียกได้ว่าได้ความสะดวกและปลอดภัยอย่างที่ควรต้องมีในโน้ตบุ๊คสายทำงาน อีกทั้งแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน 7 – 9 ชั่วโมง เพียงพอต่อการใช้งานทั้งวันแบบสบายๆ

การออกแบบดีไซน์ของ Fujitsu LifeBook UH-X ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่อง งานประกอบก็เรียบร้อย มิติตัวเครื่องก็เล็กกระชับบางเบา พกพาสะดวก แต่ก็ต้องยอมรับว่าหน้าตาออกไปเป็นแนวอนุรักษ์นิยมตามทิศทางของโน๊ตบุ๊คแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นมากๆ ซึ่งส่วนตัว ถือว่าทำได้ดีมีเอกลักษณ์ แต่ก็เชื่อว่ามีหลายคนอาจจะเห็นว่ามันเชยไปหน่อยก็เป็นไปได้เหมือนกัน แต่ก็เจ๋งตรงที่เป็นโน้ตบุ๊คสายพันธ์ญี่ปุ่น Made in Japan

โดย Fujitsu LifeBook UH-X เน้นเข้ามาบุกตลาดระหว่างองค์กร, ธุรกิจขนาดกลาง และกลุ่มครีเอเตอร์มืออาชีพ ชูจุดแข็งเรื่องดีไซน์เครื่อง ความบางเบา และประสิทธิภาพการทำงานขั้นสูง หรือถ้าคนทั่วไปอยากได้โน๊ตบุ๊คบางเบามาตรฐานสูง ก็สามารถหาซื้อมาใช้งานเช่นเดียวกัน ปิดท้ายด้วยการรับประกันเป็นแบบ On-site Serice ซ่อมฟรีถึงบ้าน ยาวนานถึง 2 ปี สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ Banana ได้เลย

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Fujitsu LifeBook UH-X ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Mobility

ปัจจัยสำคัญของด้านของพกพา เพราะเบาสุดเพียง 747 กรัม อีกทั้งมีขนาดมิติตัวเครื่องที่เล็กกะทัดรัดมากๆ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 7 – 9 ชั่วโมง อีกทั้งชาร์จไฟผ่านทาง USB-PD ได้ และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง Fujitsu LifeBook UH-X ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความทนทานในระดับนึง สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจัง  ดังนั้นจึงหายห่วงเรื่องความทนทานได้เลย 

NBS award 4 Mobility  

Best Design

ดีไซน์โดยรวมของ Fujitsu LifeBook UH-X มีความโดดเด่นเรื่องสีสันสีดำด้าน วัสดุเป็นแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่ทั้งเบาและแข็งแรง ให้พื้นผิวแบบด้านมีพื้นผิวไม่เรียบจับถือสะดวกเป็นรอยนิ้วยาก รวมถึงหน้าจอขอบบางที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 13.3″ ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ให้มิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม  ไปจนถึงบานพับที่ช่วยเสริมประสบการณ์การใช้งานได้เป็นอย่างดี เพิ่มสีสันให้กับรายละเอียดรอบนอกเครื่องแบบโค้งมน ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนเน้นทำงานระดับมือาชีพหรือองค์กร 

NBS award 7 Design

Best Ultrabook

จัดเต็มด้วยฟีเจอร์จริงๆ สำหรับ Fujitsu LifeBook UH-X สำหรับประเภท Ultrabook ระดับสูงที่ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาราคา 39,990 – 46,990 บาท ที่มาพร้อมสเปคอย่างชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 สถาปัตยกรรม Comet Lake รวมถึงมีแรม 16GB LDDR3 Bus 2133MHz และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB ซึ่งมี IR Camera ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ ที่บางเบาที่สุดในประเทศไทย เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเน้นหลากหลาย ดีไซน์ก็พรีเมียม เรียกได้ว่าหาได้ยากสำหรับโน๊ตบุ๊คบางเบาแบบนี้ 

NBS award 1 Ultrabook

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

เล่นเกมด้วย Intel Core Ultra 5 245K กับ 7 เกมยอดนิยมบนการ์ดจอบนซีพียู Intel ไหวมั้ย ลื่นรึเปล่า? Intel Core Ultra 5 245K เป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งปล่อยลงสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา นอกจากเรื่องความแรงและประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งด้านการประมวลผล หรือปัจจุบันก็มีเรื่องของ...

INTEL

โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series ใหม่ล่าสุด ส่งมอบประสิทธิภาพการเล่นเกมและการประมวลผลอันเหนือชั้นสำหรับเดสก์ท็อปพีซี พร้อมประหยัดพลังงานมากกว่าที่เคย กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 11 ตุลาคม 2567 –  ประเด็นสำคัญ: อินเทล ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series...

รีวิว Asus

ASUS ZenBook S 14 UX5406SA พร้อม Intel Core Ultra Series 2 สุดทรงพลัง แบตฯ ทนถึงใจ 18 ชม. ได้สบาย! ในงาน IFA Berlin เมื่อไม่นานนี้ Intel ก็เปิดตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Intel...

รีวิว MSI

ถ้าคิดว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจะต้องใหญ่และหนัก เชิญพบกับไลท์เวทหมัดหนักอย่าง MSI Cyborg 14 A13V ข้อดีของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ก็ต้องยกให้เรื่องสเปคแรงพอจะทำงานได้ดีเล่นเกมได้ลื่นแต่ก็แลกกับน้ำหนักตัวระดับ 2 กก. ขึ้นไป แต่ก็มี MSI Cyborg 14 A13V รุ่นย่อขนาดจาก Cyborg 15 เดิมให้เครื่องเล็กลงนิดน้ำหนักเบาลงหน่อย ฉีกกฏเดิมว่าถ้าอยากแรงก็ต้องหนักกลายเป็นว่าไม่ต้องหนักสเปคก็แรงได้ ภายในตัวเครื่องขนาด 14 นิ้ว...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก