เรื่องของเสียงคีย์บอร์ดเวลาที่เล่นเกม ถ้าเล่นสนุกอยู่ในห้องคนเดียวคงไม่เป็นไร แต่ถ้าต้องใช้ห้องร่วมกับคนอื่นที่ไม่ได้เล่นด้วย แล้วคุณใช้คีย์บอร์ดในกลุ่มของ Blue, Red switch แล้ว อาจมีตีกันบ้านพังได้ ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาใช้เกมมิ่งคีย์บอร์ด Mechanical ที่เล่นได้สนุกและเสียงไม่รบกวนชาวบ้านแล้ว วันนี้มีคีย์บอร์ดสวิทช์ใหม่จาก HyperX Alloy มาแนะนำกันครับ
HyperX Alloy Origins ใหม่ ที่มาพร้อมคีย์แคปล่าสุด HyperX Aqua ที่พัฒนาขึ้นมาในรูปแบบของ Tactile แต่จะต่างออกไปจาก Blue switch ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ คือไม่ได้เป็นแบบ Clicky ที่มีเสียงคลิ๊กๆ แบบสองจังหวะให้สะใจคอเกม ที่เน้นเสียงเพิ่มอรรถรสในการเล่น แต่ให้ความนุ่มนวล แต่ก็มีการตอบสนองไวแบบเดียวกับ Red switch โดยพื้นฐานของโครงสร้างมาในแบบ Origins ที่ออกมาก่อนหน้านี้ เกือบทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการวางเลย์เอาท์ปุ่ม ขนาดกระทัดรัด ประหยัดพื้นที่ รองรับฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมครบครัน ระยะ Travel key อยู่ที่ 1.8mm และความทนทานที่ 80 ล้านครั้ง กับแสงไฟ RGB ที่ปรับแต่งได้ตามสไตล์ที่ชื่นชอบ ที่สำคัญยังทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY กับการสร้างโพรไฟล์แสงไฟ และบันทึกลงบนคีย์บอร์ดได้ 3 โพรไฟล์อีกด้วย แต่คีย์บอร์ดรุ่นนี้จะให้ฟิลลิ่งในการกดและการเล่นเกมจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามกันครับ
Specification
- Switch: HyperX Switch
- Type: Mechanical
- Backlight: RGB (16,777,216 colors)
- Light effects: Per key RGB lighting2 and 5 brightness levels
- On board memory: 3 profiles
- Connection type: USB Type-C to USB Type-A
- Anti-ghosting: 100% anti-ghosting
- Key rollover: N-key mode
- LED indicator: Yes
- Media control: Yes
- Game Mode: Yes
- OS compatibility: Windows® 10, 8.1, 8, 7
- Switch: HyperX Aqua
- Operation Style: Linear, Tactile, Clicky
- Actuation Force: 45g, 45g, 50g
- Key Travel Distance: 1.8 mm
- Total Travel: 3.8 mm
- Life Span (Keystrokes): 80 million
- Type: Detachable, Braided
- Length: 1.8 m
- W x D x H: 442.5 mm x 132.5 mm x 36.39 mm
- Weight (Keyboard and cable): 1075 g
การออกแบบและฟังก์ชั่น HyperX Alloy Origins
HyperX Alloy Origins มาในแพ็คเกจที่เรียกว่าแทบไม่ต่างจากเวอร์ชั่นที่ผ่านมา แต่หน้ากล่องจะระบุว่าเป็น AQUA Tactile ที่เป็นคีย์เฉพาะของทาง HyperX ที่พัฒนามาเพื่อคอเกม ที่ชอบ Mechanical keyboard แต่อยากได้เสียงที่เงียบ แต่ความรู้สึกในการกดยังสนุก
สำหรับ HyperX AQUA switch จะให้ฟิลลื่งในการกดได้ไว เสียงเบา ระยะตอบสนองเร็ว ซึ่งเหมาะทั้งการเล่นเกมและการพิมพ์สัมผัส แม้จะเป็น Tactile แต่ไม่ได้เป็น Clicky เหมือนกับ Blue ส่วนความทนทานอยู่ที่ 80 ล้านครั้ง
อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง ประกอบด้วย ตัวคีย์บอร์ด คู่มือ เอกสารแนะนำ และสาย USB-C to Type-A
สายสัญญาณ USB-C to Type-A โดยส่วนที่เป็น Type-C จะต่อกับคีย์บอร์ด ส่วน Type-A จะต่อกับพีซีหรือโน๊ตบุ๊ค
มาดูหน้าตาของคีย์บอร์ด HyperX Alloy Origins กันบ้างทั้งหน้าตาและขนาด ยังคงเป็น Origins แบบเดิม แต่สิ่งที่ต่างก็คือ การใช้คีย์สวิทช์ที่ต่างกันเท่านั้น
แถบด้านขวาบนนี้ จะเป็นจอ LED เล็กๆ สำหรับแจ้งสถานะของ Cap Lock, Num Lock นั่นเอง
และตามที่ได้แจ้งเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่า Alloy Origins นี้ จะเป็นเวอร์ชั่น HyperX AQUA switch ซึ่งออกมาในแบบสีเขียวน้ำทะเลอะไรประมาณนั้น
ส่วนที่เป็นตัวปุ่มจะเป็นพลาสติกที่ผลิตออกมาเป็นอย่างดี มีความทนทานสูง แต่ในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นแบบภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นปกติที่ HyperX จำหน่าย ส่วนถ้าต้องการคีย์ภาษาไทยด้วย อาจจะต้องซื้อ Keycap เพิ่มในภายหลัง
จุดต่อพ่วงสายสัญญาณจะอยู่ทางด้านหลัง ค่อนไปทางขวามือ ตรงโลโก้ HyperX ซึ่งจะเป็นแบบ USB-C
และเมื่อต่อสายสัญญาณเข้ากับพีซี แสงไฟก็พร้อมทำงานตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งบอกได้เลยว่า สีสันจัดจ้านมาก
สังเกตได้ว่า ด้านใต้ของปุ่ม จะมีแสงไฟลอดออกมาด้วย ซึ่งเพิ่มความสวยงามมากขึ้น และที่สำคัญยังปรับความสว่างได้หลายระดับ
มาดูสีสันที่คมชัดของแสงไฟและตัวอักษรบนปุ่ม ที่ออกมาเรียกว่าคมชัดสวยงาม แม้จะในที่แสงมาก ก็ยังออกมาครบทุกตัวอักษร
ให้ดูกันอีกมุม สำหรับแสงไฟที่ลอดออกมาจากตัวคีย์ สีสันสดใสชัดเจน เรียกว่าใครที่ชอบ RGB แบบนี้ เน้นความสว่างไสว จะต้องชอบอย่างแน่นอน
แถบเมนูฟังก์ชั่น ถูกจับมาไว้ที่ด้านบนของคึย์บอร์ด ซึ่งประกอบด้วย Play/ Pause, Volume และ Game mode
ส่วนการปรับแสงสีในเบื้องต้น สามารถทำได้บนปุ่ม F1, F2, F3 ที่เป็น Preset พื้นฐานมาให้ แต่คุณสามารถเข้าไปปรับในซอฟต์แวร์ HyperX NGENUITY เพื่อเลือก 3 Preset ที่คุณสร้างเอาไว้ แล้วบันทึกลงในคีย์บอร์ด มาใช้ได้
แถบด้านบนขวามือ จะมีหน้าจอ LED เล็กๆ สำหรับบอกสถานะของปุ่ม เช่น Cap lock, Num lock เป็นต้น
ปุ่มลูกศร เมื่อใช้ร่วมกับปุ่ม fn จะใช้สำหรับปรับเพิ่มหรือลดความสว่าง ให้กับแสงไฟ RGB บนคีย์บอร์ด
เมื่อเปิดใช้งานในที่มืด ดูแล้วถูกใจสาย Dark ที่ต้องการความอลังการของแสงสี นอกเหนือจากไฟจากเคสสวยๆ ที่จะสร้างอารมณ์ในการเล่นเกมได้ดีทีเดียว
การปรับแต่งแสงไฟ RGB ด้วย HyperX NGENUITY
NGENUITY จัดว่าเป็นซอฟต์แวร์สำคัญที่จะช่วยให้ผู้ใช้เกมมิ่งเกียร์ HyperX สามารถปรับแต่งแสงไฟ และ Macro key ได้ทั้งบนคีย์บอร์ดและเมาส์ รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับซอฟต์แวร์นี้
สำหรับซอฟต์ฺแวร์นี้ เริ่มต้นง่ายๆ กับการปรับแต่ง เอฟเฟกต์ของแสงไฟ ด้วยการเข้าไปที่ Keyboard และเลือกที่ Lights จะเห็นเมนูของแสงสี และตัวคีย์บอร์ด Alloy Origins ขึ้นมาให้ กดที่ปุ่ม Effect ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ แล้วเลือกรูปแบบแสงไฟที่ต้องการ
ตัวเลือกแสงไฟที่มีให้เป็นพื้นฐาน ประกอบด้วย Breathing, Confetti, Swipe, Solid, Twilight, Wave และ Sun แต่ละแบบก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชอบแบบใด ก็คลิ๊กเลือกมาไว้ในเมนูได้เลย
นอกจากนี้ในแต่ละเอฟเฟกต์ คุณยังเลือกสีและความเร็วในการแสดงผล จะให้เคลื่อนไหวช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ
เมื่อปรับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบแล้ว ก็สามารถคลิ๊กที่ Preset ทางมุมบนขวาของโปรแกรม เพื่อบันทึกเอาไว้ใช้งานบนคีย์บอร์ดได้เลย เอาไปใช้ที่ไหนกับเครื่องอื่นๆ ก็ยังสามารถเรียกเอฟเฟกต์เหล่านี้มาใช้ได้
ส่วนคนที่เล่นเกมหรือต้องการปรับแต่งมาโครคีย์ สามารถเลือกที่ปุ่ม Keys สำหรับการเพิ่มฟังก์ชั่น ให้แต่ละปุ่มเป็นคีย์ลัดได้เช่นกัน
เมื่อปรับแต่งแล้ว ก็ลองใช้งานหากยังไม่ถูกใจ ก็ลองปรับแต่งใหม่ได้ ด้วยซอฟต์แวร์นี้ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการแต่งแสงไฟได้อย่างสนุกเลยทีเดียว
ใช้งานจริง
สัมผัสแรกที่ได้จับ บอกได้เลยว่าความรู้สึกต่างจาก Origins เดิมที่เป็น HyperX Red switch อยู่เล็กน้อย ที่พอสัมผัสได้คือ แรงต้านของ AQUA switch มีมากกว่านิดหน่อย แต่ถ้าว่ากันที่ระยะตอบสนอง ก็อาจจะไม่ต่างกัน เพราะตัวเลขสเปคแทบไม่ต่างกัน
ในแง่ของความสนุกในการกดแบบต่อเนื่อง ยังคงกดติดนิ้ว ตอบสนองดีและไว แต่จุดที่เป็นไฮไลต์ น่าจะอยู่ที่เสียงค่อนข้างเงียบ โดยออกไปทางโทนเสียงทึบๆ ไม่ดังแบบ Clicky ซึ่งตรงจุดนี้ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าจะชอบในลักษณะใด แต่ยังคงยืนยันว่า ถ้าใช้ในบ้านหรือห้องที่ต้องอยู่ด้วยกันหลายคน HyperX AQUA ก็ยังคงตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี เสียงรบกวนน้อยมากๆ
ส่วนเรื่องความสนุกในการเล่นเกม HyperX Alloy Origins ยังให้คุณได้ฟินกับการเข้าไปลุยในสมรภูมิต่างๆ ได้อย่างสนุก และกดปุ่มได้สนุกมือ ระยะที่ไวกดเป็นมา เคลื่อนไหวได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแนว Action ด้วย PUBG หรือ Battlefield V ที่เรียกว่าคีย์บอร์ดเป็นสิ่งสำคัญ การเคลื่อนที่บ่อยและการใช้ปุ่มเพื่อสลับเก็บอาวุธและการขับรถ ยังคงแม่นยำ ส่วนในเกมแนว Racing ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี เพราะให้การคอนโทรลที่นุ่มนวลมากกว่า และไม่ต้องมีจังหวะคลิ๊ก เหมือนกับใน Blue switch ที่บางครั้งก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกกดแล้ววืดได้ในบางจังหวะ
Conclusion
ในภาพรวมของ HyperX Alloy Origins การที่ HyperX ส่งคีย์บอร์ดที่ใช้คีย์สวิทช์ที่พัฒนาขึ้นมาเอง ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้ ที่จะได้สัมผัสกับคีย์ทางเลือก นอกเหนือจากคีย์ที่มีในท้องตลาด ซึ่งเกมมิ่งคีย์บอร์ด Alloy Origins นี้ ก็มีให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกันคือ HyperX Red, AQUA และ Blue แต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์ที่ต่างกันไป สำหรับ AQUA นั้น จัดว่ามาในแบบนุ่มนวล ที่ดูเป็นผู้ดีนิดๆ มีแรงต้านหน่อยๆ แต่ก็มีความเกรี้ยวกราดในบางอารมณ์ เพราะตอบสนองได้ไว แต่มีเสียงกดที่เบา ต่างจากในเวอร์ชั่นของ Blue และไม่ได้มีจังหวะที่ซ่อนเร้น หรือเป็นแบบ Clicky ที่ทำให้บางครั้งไม่ค่อยรู้สึกไม่เอื้ออำนวยต่อสภาพโดยรอบ ยิ่งบางคนอยู่ในบ้าน หรือใช้ห้องร่วมกันกับพี่น้องหรือแฟน เสียงที่ดุดันของคีย์แบบประเภท ก็ทำให้รบกวนคนรอบข้างได้ไม่น้อย แต่ถ้าคุณอยู่ในห้อง เล่นคนเดียว ชอบความสะใจก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง
แล้วคีย์บอร์ดนี้จะเหมาะกับใคร กลุ่มผู้ใช้น่าจะมีความหลากหลายพอสมควร เริ่มตั้งแต่เกมเมอร์ ทั้งมือใหม่ ไปจนถึงฮาร์ดคอร์ ต้องการคีย์บอร์ดตอบสนองได้ดี และมีความทนทาน ด้วยความอึดทนต่อการกดระดับ 80 ล้านครั้ง ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับแนวหน้า ไม่แพ้คีย์สวิทช์ค่ายที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด แต่ที่พิเศษคือ เสียงรบกวนที่น้อยมากๆ ทำให้คุณสามารถเล่นเกมได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องของเสียง รองรับการเล่นเกมได้ในทุกรูปแบบ Action, RTS หรือจะเป็น Racing และ Sport กลุ่มที่ใช้พิมพ์งานก็เช่นกัน ด้วยการตอบสนองที่เร็ว จุดรับคำสั่งไม่ลึกมาก จึงให้การพิมพ์สัมผัสได้ดี มีแรงสะท้อนหน่อยๆ เพื่อให้คุณใช้งานได้สะดวกขึ้น พร้อมกันนี้ยังมี Game Mode, 100 % Anti ghosting and Full N Key Rollover ครบครันอีกด้วย
ว่ากันที่เรื่องของแสงสี ความสวยงาม แน่นอนว่า HyperX Alloy แทบจะไม่เป็นรองใคร ในการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ ด้วย NGENUITY ตัวเดียว ก็ช่วยให้ผู้ใช้สนุกกับการปรับลูกเล่นต่างๆ แสงไฟและมาโครได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญยังบันทึกไว้บนคีย์บอร์ด เพื่อนำไปใช้กับเครื่องต่างๆ ได้แบบไม่ต้องซิงก์ข้อมูล นอกจากนี้ยังปรับโพรไฟล์บนคีย์บอร์ดที่เป็นรูปแบบพื้นฐาน เลือกความสว่างสดใสได้ตามใจชอบ ตรงนี้ต้องถือว่าเป็นจุดแข็งของทาง HyperX ที่มอบให้บนคีย์บอร์ดรุ่นนี้
จุดเด่น
บอดี้ออกแบบมาดี งานประกอบแน่นหนา
คีย์สวิทช์ HyperX AQUA กดเบา ตอบสนองไว เหมาะในการเล่นเกม
เสียงคลิ๊กเบา แต่สนุก ไม่มีเสียงรบกวนเกินไป
แสงไฟ RGB สวยงาม ปรับแต่งได้ผ่านซอฟต์แวร์
ปุ่มฟังก์ชั่นพื้นฐาน รองรับการใช้งานได้ดี
ข้อสังเกต
บอดี้ค่อนข้างหนัก อาจไม่เหมาะกับสายพกพา
การตอบสนองที่ไว บางครั้งอาจนิ้วลั่นได้ ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคย
ราคา: 3,xxx บาท (โดยประมาณ)
ติดต่อ/ ข้อมูลเพิ่มเติม: HyperX