การใช้งาน Notebook ในปัจจุบันปี 2020 นี้ ก็ต้องบอกว่าเราใช้งานกันหนักหน่วงและหลากหลายมากยิ่งขึ้น จากการที่ Notebook เองมีสเปกที่แรงลื่น ฟีเจอร์ก็ครบครัน โดยบางรุ่นก็พร้อมพอร์ต Thunderbolt 3 ที่ให้ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อดีที่สุด ทั้งในเรื่องความเร็วและรองรับกับอุปกรณ์ ซึ่งในบทความนี้เราได้มีโอกาสรีวิว Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock อุปกรณ์เสริมที่จะช่วยขยายความสามารถต่างๆ ในการเชื่อมต่อ เพื่อก้าวเข้าสู่การใช้งานระดับมืออาชีพไปอีกขั้น สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 7,900 บาท (259.99 เหรียญสหรัฐ)
โดยพอร์ต Thunderbolt 3 ที่มีฟอร์มหรือหน้าตาภายนอกเหมือนกับ USB Type-C เลย แต่เป็นพอร์ตเทพที่สามารถทำได้ทุกอย่างจากที่กล่าวมาบนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเพราะตัวเครื่องภายในจะมีคอนโทรลเลอร์พิเศษไว้ควบคุมเฉพาะตัว ซึ่งสามารถจ่ายไฟชาร์จได้สูงสุดถึง 100W รับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดถึงระดับ 40GB/s แน่นอนว่าต่อจอแยก 4K ก็ยังได้ และยังสามารถต่อ eGPU หรือกล่องการ์ดจอแยกได้อีกด้วย ปกติแล้วพอร์ตนี้จะอยู่ในเฉพาะ Notebook บางรุ่นเท่านั้น สัญลักษณ์จะใช้เป็นรูปสายฟ้าชัดเจน
สำหรับ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ขยายการเชื่อมต่อต่างๆ ของ Notebook ที่เราใช้งาน โดยเป็นการเพิ่มพอร์ตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น USB-A / USB-C / LAN RJ45 / HDMI / SD Card Reader / ช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าทำให้ Notebook ของเรานั้นมีความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเลยใน MacBook ของ Apple ที่ปกติก็จะมีเพียง Thunderbolt 3 มาให้เท่านั้น หรือ Notebook ที่ใช้ Windows ของแบรนด์ต่างๆ บางรุ่นที่มีความบางมากๆ ก็จะมีเพียงพอร์ต Thunderbolt 3 เช่นกัน
ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock มาตามสไตล์ของแบรนด์ Corsair ที่เชื่อว่าหลายๆ คน น่าจะรู้กันเป็นอย่างดีอยู่ กับอีกหนึ่งผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ ทั้งในส่วนของเคสพีซี อุปกรณ์ Gaming Gear รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่ง Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ก็นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้น ตัวกล่องเองมาในโทนสีเหลืองสลับกับดำ พร้อมข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่บ่งบอกถึงชื่อรุ่นและภาพประกอบชัดเจน
ด้านหลังของกล่อง Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ก็จะบอกถึงฟีเจอร์การใช้งานของพอร์ตต่างๆ ที่ติดตั้งมาในตัวเครื่อง ว่าแต่ละพอร์ตนั้นทำหน้าที่อะไรบ้าง ซึ่งหลักๆ แล้วจะแบ่งเป็นด้านหน้าของตัวเครื่องและด้านหลัง ที่จัดได้ว่ามีพอร์ตใช้งานที่หลากหลาย เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน เรียกได้ว่าขยายการเชื่อมต่อจาก Thunderbolt 3 เดิมๆ ได้มากมายพอตัวทีเดียว
อุปกรณ์ต่างๆ ที่ให้มากับ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ภายในกล่อง แน่นอนว่าประกอบไปด้วยตัวเครื่อง Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ที่เป็นลักษณะเป็น Hub ขยายใหญ่กว่า Hub USB ปกติทั่วไป นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสายเชื่อมต่อเป็น Thunderbolt 3 ความยาว 50 เซ็นติเมตร ซึ่งเพียงพอกับการใช้งาน และอุปกรณ์สุดท้ายคืออแดปเตอร์จ่ายไฟและสายไฟ (แยกสายดิน) ขนาดพอๆ กับอแดปเตอร์ที่ใช้กับ Notebook โดยจ่ายกำลังไฟอยู่ที่ 100 Watt ปิดท้ายด้วยคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock เป็น Hub ที่เลือกใช้วัสดุใช้เป็นอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวมีความโค้งมนตามขอบ ให้ความพรีเมียมสวยงาม อีกทั้งงานประกอบโดยรวมก็มีความเรียบร้อยมากๆ มีความแข็งแรงทนทาน ซึ่งเลือกใช้สีสันตัวเครื่องเป็นเทา Space Grey สมกับเป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Corsair เรียกได้ว่านำไปใช้งานกับ MacBook หรือ Notebook ก็ดูเข้ากันเป็นอย่างดี โดยด้านบนจะเป็นโลโก้ Corsair แบบยิงเลเซอร์ให้ความเรียบง่ายแต่ก็บ่งบอกถึงความเป็น Corsair ได้แบบน้อยแต่มาก รวมๆ แล้วก็จับถือกระชับมือ พอพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ด้วยน้ำหนักประมาณ 200 กรัม +
ด้านหน้าของ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ติดตั้งปุ่ม Power ซึ่งเมื่อเราเชื่อมต่ออแดปเตอร์พร้อมใช้งานแล้ว ก็จำเป็นต้องกดปุ่มค้างเพื่อเปิดเครื่องให้ใช้งานได้ด้วย ซึ่งถ้าเปิดแล้วจะไฟ LED สีขาวขึ้นมา (ไม่ใช้งานก็กดค้างเพื่อปิด) ถัดมาก็จะเป็นส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อ ไล่มาเลยก็จะเป็น USB 3.2 Type-C รองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูงสุด 10 Gbps ไว้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จมือถือได้ ต่อมาก็เป็น SD Card Reader รองรับมาตรฐาน UHS II ไว้ถ่ายโอนไฟล์จากการ์ดจากกล้อง และช่องต่อหูฟัง Headset แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร ที่รองรับทั้งไมโครโฟนและหูฟังในช่องเดียว
ต่อกันที่ส่วนด้านหลังของ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock จะเห็นถึงพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ ที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A รองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูงสุด 5 Gbps จำนวน 2 ช่อง มีไว้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์มาตรฐานเดิมๆ ต่อมาก็จะเป็น Gigabit LAN RJ45 ไว้เชื่อมต่อกับ Network แบบมีสาย ขยับไปอีกก็จะเป็น USB 3.2 Type-C รองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูงสุด 10 Gbps อีกหนึ่งช่อง ถัดไปก็จะเป็น HDMI 2.0 จำนวน 2 ช่อง เพื่อใช้งานกับหน้าจอภายนอก ต่อมาก็จะเป็นพอร์ต Thunderbolt 3 ที่เอาไว้เชื่อมต่อกับ Notebook และช่องเสียบอแดปเตอร์ และปิดท้ายกับ Kensington Security Slot ไว้ล็อกตัวเครื่องกับโต๊ะป้องกันการสูญหายนั่นเอง
ด้านล่างของตัวเครื่อง Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ไม่มีอะไรมาก หลักๆ ก็จะเป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ พร้อมกับยางรองขนาดใหญ่บริเวณซ้ายและขวา ไว้ทำหน้าที่ป้องกันการลื่นไหลขณะที่เราใช้งานบนโต๊ะ รวมไปถึงไม่ให้ตัวเครื่องสัมผัสกับพื้นผิวโดยตรง ซึ่งจากการใช้งานจริงๆ ก็ถือว่าสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี
ทดสอบใช้งานจริงๆ ของ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ก็นับว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่ใช้งาน MacBook หรือ Notebook ที่ใช้งาน Windows ที่บอกได้ว่าใช้งานง่าย เพื่อเชื่อมต่อตัว Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock เปิดปุ่ม Power ให้พร้อมใช้งาน จากนั้นเราก็สามารถใช้เป็น Hub เพื่อเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้ทันที ไว้จะเป็น Flashdrive / External SSD หรือการเชื่อมต่อไปยังหูฟัง และหน้าจอภายนอก ซึ่งแต่ละพอร์ตนั้นก็ออกแบบมาดี คือ ไม่ชิดจนเกินไปนัก ทำให้ในการถอดเข้าถอดออกไม่เป็นอุปสรรคในการใช้งาน
อีกทั้งตัว Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ยังรองรับการชาร์จไฟเข้าไปยัง MacBook หรือ Notebook ที่เราใช้เชื่อมต่ออยู่ด้วย ทำให้เราไม่ต้องชาร์จไฟจากอแดปเตอร์เองแแยกต่างหาก เรียกได้จบครบในเส้นเดียวไปเลย ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับว่าทำให้สะดวกสบายง่ายต่อการใช้งานมากๆ เช่น กรณีที่เราเดินทางไปใช้งานบ่อยๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องพกพาอแดปเตอร์ของ MacBook / Notebook ไปมาเลย เพราะสามารถใช้ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock จ่ายไฟให้ได้ทุกๆ ครั้ง เราเชื่อมต่อ โดยเราจะเลือกนำ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ไว้ที่ทำงาน แล้วเอาอแดปเตอร์ Notebook ไว้บ้าน อันนี้ก็ไม่ว่ากันแล้วแต่จะจัดการได้เลย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องรู้คือ Notebook ปี 2020 เกือบทั้งหมด 100% แม้จะมาพร้อมกับพอร์ตอย่าง USB Type-C ซึ่งถึงแม้จะใช้เป็นฟอร์มนี้ แต่มาตรฐานการรองรับก็จะแตกต่างกันออกไป ที่ถ้าจะให้ชัวร์เราต้องดูจากหน้าสเปกของ Notebook รุ่นนั้นๆ อีกที อีกทั้งยังมี USB Type-C มาตรฐาน 3.1 / 3.2 ที่มีสามารถเอามาต่อจอแยกผ่านสาย Type-C ได้ รวมถึงชาร์จไฟโน๊ตบุ๊คได้ ด้วยฟีเจอร์ PD (Power Delivery) โดยใช้สายเพียงเดียว (โดยปกติส่วนใหญ่จะมีสัญลักษณ์เหมือนรูปด้านขวามากกว่า ตัว D ย่อมาจาก Display Port)
แต่ในการใช้งาน Notebook ร่วมกับ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock จำเป็นต้องเป็น Notebook ที่มาพร้อมกับมาตรฐานการเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 เท่านั้น ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้ง่ายๆ ก็คือเป็นสัญลักษณ์สายไฟตรงพอร์ต (ย้ำก็คือ Notebook ที่เป็นเพียงมาตรฐาน USB Type-C ไม่สามารถใช้งานได้) โดยในการเชื่อมต่อกันระหว่าง Notebook และ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock อาจจะมีการดาว์นโหลดไดร์เวอร์เพิ่มเติมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาในการแต่อย่างใด
ส่วนถ้าใครใช้งาน MacBook หรือ iMac / Mac mini รุ่นใหม่ๆ ที่เป็นมาตรฐาน Thunderbolt 3 อยู่แล้ว อันนี้ก็สามารถใช้งาน Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ได้ทันที แต่ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ก็ต้องอย่าลืมกด Safely remove hardware ออกด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ และปิดท้ายสำคัญมากๆ ก็คือ ก่อนซื้อ Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock ก็ตรวจสอบ Notebook ของเราให้แน่ใจว่าด้วยว่ารองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 หรือไม่ ไม่งั้นอาจจะซื้อมาเสียเงินฟรีๆ ก็เป็นไปได้
สรุปรีวิว Corsair TBT100 Thunderbolt 3 Dock จัดว่าเป็นอุปกรณ์เสริมประเภท Hub ขยายการเชื่อมต่อพอร์ตต่างๆ ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด จากการที่เป็นแบรนด์ Corsair ที่หลายๆ คนเชื่อมั่น และน่าจะเคยใช้อุปกรณ์ของเค้ามาอยู่แล้ว ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าเป็นของดีแน่นอน และจากรายละเอียดอื่นๆ ทั้งดีไซน์งานประกอบ การใช้งานก็ถือว่ายอดเยี่ยมจริงๆ แต่อีกจุดที่ต้องทราบก็คือ มีราคาที่ค่อนข้างสูงหน่อย ซึ่งถ้าใครซื้อไปใช้งานมืออาชีพก็ถือว่ารับได้
ปิดท้ายด้วย ตัวอย่าง Notebook รุ่นต่างๆ ที่รองรับ Thunderbolt 3
Acer Swift 3 ราคา 13,900 – 28,900 บาท
- Core i3-1005G1 / Graphics G1 / RAM 4GB / SSD 512GB / 14″ IPS Full HD ราคา 13,990 บาท
- Core i5-1035G1 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB / 14″ IPS Full HD / Microsoft Office ราคา 20,990 บาท
- Core i7-1065G7 / MX250 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS Full HD / Microsoft Office ราคา 23,990 บาท
- Core i5-1035G1 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS Full HD / Microsoft Office ราคา 23,900 บาท
- Core i7-1065G7 / MX350 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS Full HD / Microsoft Office ราคา 28,900 บาท
Lenovo Yoga Slim 7 14 ราคา 31,990 – 39,990 บาท
- Core i5-1035G1 / MX350 / RAM16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS Full HD / Microsoft Office ราคา 31,990 บาท
- Core i7-1065G7 / MX350 / RAM 16GB / SSD 1TB / จอ 14″ IPS Full HD / Microsoft Office ราคา 39,990 บาท
MSI Prestige 14 ราคา 35,900 – 43,900 บาท
- Core i7-10510U / MX250 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS Full HD ราคา 35,900 บาท
- Core i7-10510U / MX330 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS Full HD / ของพรีเมียมสุดพิเศษ ราคา 38,900 บาท
- Core i7-10710U / GTX 1650 Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 43,900 บาท