กลายเป็นเรื่องเด่นประเด็นร้อนในชั่วข้ามคืน เมื่อเรื่องราวเกี่ยวกับการบล็อกกลุ่ม ‘Royalist Marketplace (รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส)’ ใน Facebook ซึ่งเป็นกลุ่มที่แสดงออกความคิดเห็นทางการเมืองและมีสมาชิกกว่า 1 ล้านคน โดยเว็บไซต์ CNN ได้รายงานว่า ทาง Facebook นั้น กำลังดำเนินตามกระบวนการทางกฎหมาย ในการที่จะฟ้องรัฐบาลไทยในเรื่องของการพยายามที่จะบล็อกและแบนกลุ่มนี้
กลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เกตเพลสนี้ก่อตั้งขึ้นโดย ดร.ปวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ นักวิชาการไทยที่ขณะนี้กำลังพำนักอาศัยลี้ภัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านี้โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ดำเนินคดีกับแอดมินและผู้เกี่ยวข้องกับเพจรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส กรณีเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง
ซึ่งภายหลังที่ได้มีการบล็อกกลุ่มนี้เกิดขึ้นนั้น ทางโฆษกของ Facebook ได้เปิดเผยกับสำนักข่าว CNN ว่า “หลังจากประเมินกรณีที่มีการร้องเรียนอย่างระมัดระวัง Facebook ได้พิจารณาแล้วว่าเราถูกบังคับให้จำกัดการเข้าถึงเนื้อหาซึ่งรัฐบาลไทยมองว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย”
ด้านดร.ปวินระบุว่าการที่เฟซบุ๊กจะเดินหน้าฟ้องร้องรัฐบาลไทยจากคำสั่งบล็อกเพจของตนนั้น ตนมองว่าเป็นการก้าวเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
“เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งที่เราทุกคนพึ่งมีเช่นกัน โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่ซึ่งสิ่งนี้เป็นของหายาก การที่เฟซบุ๊กตอบรับคำขอของรัฐบาลไทยเพื่อบล็อกการเข้าถึงในประเทศไทย เฟซบุ๊กกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขัดขวางความเป็นประชาธิปไตยในประเทศของผม และส่งเสริมการเซ็นเซอร์ข้อมูล การตัดสินใจของเฟซบุ๊กถือเป็นภัยต่อทั้งสิทธิในการแสดงออกอย่างอิสระและประชาธิปไตยในภูมิภาคนี้”
ข้อความนี้คัดลอกมาจากเว็บไซต์ The Verge
“หลังจากการตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้ว Facebook ได้พิจารณาแล้วว่าเราถูกบังคับให้จำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่รัฐบาลไทยถือว่าผิดกฎหมาย ” โฆษกของ Facebook กล่าว และเขายังบอกด้วยว่า คำขอเช่นนี้ขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และขัดต่อการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน
อย่างไรก็ตามนั้น แม้ว่าทาง Facebook จะทำการบล็อกการเข้าถึงกลุ่มนี้ตามที่ทางรัฐบาลไทย แต่ทางบริษัทก็จะยังเตรียมดำเนินการทางกฎหมายและจะฟ้องร้องรัฐบาลไทยต่อไป ทางโฆษกของ Facebook ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลไทยให้จำกัดเนื้อหาทางการเมืองบางประเภทในประเทศไทย โดยรัฐบาลขู่ว่าจะดำเนินคดีอาญากับตัวแทนของ Facebook ในประเทศไทยด้วย ซึ่งคำขอในลักษณะนี้นั้นผิดต่อกฏหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และส่งผลกระทบต่อสิทธิในการแสดงออกของบุคคลอีกด้วย โดยทาง Facebook จะปกป้องสิทธิ์ของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตและพร้อมที่จำดำเนินการทางกฏหมายกับรัฐบาลไทย
