MSI Creator 17 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพสุดล้ำ ได้หน้าจอ 17.3″ เทคโนโลยี Mini LED รุ่นแรกของโลก มีความละเอียด 4K UHD รองรับ HDR สเปก Intel Core i7-10875H + NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q / RTX 2070 Super Max-Q ที่บอกเลยว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดเต็มจริงๆ ทั้งสเปก ฟีเจอร์ และในส่วนของดีไซน์หรูหราบางเบาตามสไตล์ของ Creator เหมาะมากๆ กับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เพื่อทำงานสายสร้างสรรค์ขั้นสูง อาทิ ตัดต่อวีดีโอ ทำอนิเมชั่น 3D โปรเซสภาพถ่าย หรือ กราฟิกดีไซน์ รวมไปถึงถ้าจะเล่นเกมก็รองรับได้อย่างสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานของ MSI
การออกแบบ MSI Creator 17 ตัวเครื่องทำมาจากอะลูมิเนียมเกรดสูง ภายใต้ตัวเครื่องที่เบา 2.25 กิโลกรัม และบางเฉียบเพียง 18.95 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าแรงเกินตัวจริงๆ มีหน้าจอขนาดใหญ่ 17.3″ แต่กลับมีความเล็กลงจากมิติตัวเครื่องเล็กลงถึง 60% (ใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ได้เลย) มอบประสบการณ์ใหม่ๆ ในการพกพาได้สะดวกกว่า การเชื่อมต่อครบครันทั้ง Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 แน่นอนว่าได้ Thunderbolt 3 มาอีกด้วย สนนราคาขายจริงอยู่ที่ 95,900 – 119,900 บาท ประกันเป็นแบบ 2 ปี ตามาตรฐานของ MSI ที่แม้ว่าราคาดูสูง แต่ก็เทียบกับทุกๆ อย่าง ที่ได้ ก็สมราคาทีเดียว
VDO Unbox
NBS Verdict
แง่ของการดีไซน์ MSI Creator 17 มีเอกลักษณ์และทันสมัย สมกับเป็นรุ่นพี่ท็อปสุดรุ่นตระกูล Content Creator จาก MSI ด้วยโลหะวัสดุอลูมิเนียมและสีสัน Space Grey และยังมาพร้อมความบาง เบาพกพาง่ายมาก ทั้งราคาและสเปกภายในถือว่ามีความเหนือชั้น รองรับทุกการใช้งานได้ลื่นไหล ได้ทั้งชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 10 รุ่นแรงพิเศษอย่าง i7-10875H และการ์ดจอที่แรงระดับ Gaming ตัวท็อปอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q และแรมที่ขนาด 32GB DDR4 Bus 32000MHz พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 2TB ที่แรงกว่า ยังไงใครต้องการโน๊ตบุ๊คเน้นทำงานขั้นสูงเป็นหลัก หรือจะเล่นเกมหนักๆ ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว เรียกได้ว่าถ้างบถึงแบบไม่ติดขัดก็นับว่าน่าซื้อสุดๆ
ในส่วนของหน้าจอก็จัดได้ว่าเป็นหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดในตลาด ด้วยเทคโนโลยีล้ำกว่า Mini LED ที่ความละเอียด 4K UHD ขนาด 17.3″ ซึ่งสมบูรณ์ด้านการแสดงสีสัน ความสว่าง ความแม่นยำ เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีมากๆ เหมาะกับงานระดับมืออาชีพแบบสุดๆ ขอบหน้าจอก็บางเฉียบตัวเครื่องก็เล็กกระทัดรัด เน้นพกพาสุดๆโดยแบตเตอรี่จากการใช้งานจริงๆ ทดสอบได้ที่ 5:48 ชั่วโมง กับน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัม ที่เบาเทียบเท่ากับรุ่นจอ 15.6″ พร้อมทั้งตัวเครื่องยังมีพอร์ต Thunderbolt 3 ซึ่งเป็น USB-C ที่ต้องบอกว่าเป็นพอร์ตที่ดีที่สุดแล้ว นอกจากนี้การเชื่อมต่อไร้สายยังเป็น Wi-Fi 6 AX ที่ปลอดภัยและแรงกว่าเดิม 3 เท่าอีกด้วย
สรุปง่ายๆ สำหรับการมาของ MSI Creator 17 เหมาะสำหรับคนหรือใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 17.3″ สายทำงาน Content Creator จริงจัง อาทิ Youtuber และ Streamer รวมถึงงานประเภท ทำภาพเคลื่อนไหว 3D ด้วย Ray Tracing, การตัดต่อวีดีโอขั้นสูง 4K, การตกแต่งภาพที่ซับซ้อน, การออกแบบกราฟิกระดับสูง, การสร้างภาพสถาปัตยกรรม และการถ่ายทอดสด (Streaming) เต็มรูปแบบ ก็ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด ในงบประมาณเริ่มต้นไม่เกิน 100,000 บาท ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือถ้าจะเล่นเกมบ้างก็สามารถทำได้ดีลื่นไหล ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สมราคาค่าตัว เหมาะกับคนที่งบถึงเงินถึงและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คสเปกทั่วไป หรือกรณีที่อยากได้สเปกแรงแต่ไม่อยากได้ดีไซน์แบบ Gaming Notebook
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คระดับสูง
- หน้าจอ 17.3″ แต่ตัวเครื่องเบามากๆ โดยมีน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคแรงสุดๆ ด้วย Core i7-10875H และการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Super Max-Q
- หน้าจอแสดงเทคโนโลยี Mini LED ที่ดีกว่า บนความละเอียด 4K Ultra HD
- จัดเต็มเรื่องแรมที่ 32GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe ที่ 2TB ไม่ต้องอัพเกรดอะไรแล้ว
- มี Windows 10 แท้ พร้อมซอฟ์ตแวร์ที่ดี ใช้งานได้ทันที
- ประสิทธิภาพดีทั้งการทำงานและการเล่นเกม
- คีย์บอร์ดใช้งานได้ดี มีไฟส่องสว่างใช้งานได้จริง
- มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6 AX ใหม่ล่าสุด
- ตัวเครื่องทนทานระดับ MIL-STD 810G ทำให้มั่นใจได้เลยว่าตัวเครื่องจะมีความแข็งแรง
- มี Fingerprint สแกนลายนิ้วมือใช้งานผ่านทาง Windows Hello ได้รวดเร็ว ปลอดภัย
- การจัดการความร้อนในส่วนของการ์ดจอทำได้ดี
- ให้พอร์ต Thunderbolt 3 มา 1 พอร์ต รองรับการใช้งานมืออาชีพ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันไม่ว่าจะเป็น USB 3.2, HDMI และ Mini DisplayPort 1.2
ข้อสังเกต
- การแกะงัดทำได้ไม่ง่าย ไม่แนะนำให้ทำเองเพื่ออัปเกรดหรือทำความสะอาด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 5 ชั่วโมง ไม่เหมือนที่เคลมไว้ 7 ชั่วโมง แต่ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว
- ไม่มีช่อง SD Card Reader ที่ช่างภาพมักใช้งานบ่อยๆ ต้องหาอแดปเตอร์เพิ่มเอง
- ราคาค่อนข้างสูง เพราะเป็น Notebook เฉพาะทาง เน้นการทำงานขั้นสูง
- ความร้อนของชิปประมวลผล CPU เมื่อทำงานหนักๆ ต่อเนื่องค่อนข้างสูง
Specification
MSI Creator 17 สเปกแรงล้ำใหม่ล่าสุดด้วยการเลือกใช้ชิปประมวลผลตัวแรง Intel Core i Gen 10H ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง โดยรุ่นราคา 49,900 บาท ที่ได้มารีวิวเป็น Core i7-10875H (2.30 GHz, 16 MB L3 Cache, up to 5.10 GHz) ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด รองรับหลากหลายการใช้งานแบบเหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6) / RTX 2070 Super Max-Q เรียกได้ว่าตอบสนองการทำงานหรือเล่นเกมได้เต็มที่เต็มอารมณ์กว่าสเปกเดิมๆ ที่เป็น Core i Gen 9H และ GTX 10 Series รุ่นก่อนๆ
โดยการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6) / RTX 2070 Super Max-Q กราฟิกการ์ดตัวใหม่ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของกราฟิกการ์ดรุ่นก่อนหน้ากับสถาปัตยกรรม Pascal เหนือชั้นกว่า RTX 2070 ในเรื่องของความร้อนที่เกิดขึ้น โดยมาพร้อมกับ Tensor cores หรือรองรับกับเทคโนโลยี Ray-Tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากก่อน โดยประสิทธิภาพแรงเทียบเท่ากับ GTX 1080 แต่ร้อนน้อยกว่า
หน้าจอขนาด 17.3″ แบบด้าน เทคโนโลยี Mini LED ความละเอียด 4K UHD พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ HDR ได้หน่วยความจำแรมมาขนาด 32GB DDR4 Bus 3200 MHz ที่เพียงพอในการใช้งาน โดยรองรับสูงสุดที่ 64GB และในส่วนของที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe 1TB / 2TB ที่เร็วแรงลื่น และรองรับการอัปเกรดเพิ่ม SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA 3 อีกอย่างละตัวได้เลย ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2 ชาแนลแบบ ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, USB 3.2 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI , ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX น้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.25 กิโลกรัม ได้ประกัน 2 ปี มี Windows 10 แท้ โดยสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 95,900 บาท ส่วนอีกสเปกที่เรานำมาทดสอบนั้น จะได้เลือกใช้การ์ดจอ RTX 2070 Super Max-Q พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 2TB กับราคา 119,900 บาท (บันเดิลได้เมาส์ไร้สายของ MSI มาด้วย) ถือว่าเป็น Notebook Content Crator ในช่วงราคานี้ที่น่าสนใจมากๆ เพราะได้ทั้งสเปกและฟีเจอร์ที่จัดเต็มไม่เป็นรอง Gaming Notebook ตัวท็อปเลย
- Core i7-10875H / RTX 2070 Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 17.3 UHD Mini LED ราคา 95,900 บาท
- Core i7-10875H / RTX 2070 Super Max-Q / RAM 32GB / SSD 2TB / จอ 17.3 UHD Mini LED ราคา 119,900 บาท
Hardware / Design
MSI Creator 17 ก็ได้รับ DNA ส่วนของ Gaming จาก MSI G Series หลายๆ ส่วนมาเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างด้วยโทนของตัวเครื่องจะเป็นแนวโน๊ตบุ๊คสายทำงานมากกว่า สีสันเป็นสีเงินเทา Space Grey ที่ดูแล้วเรียบหรู อยู่ในทิศทางเดียวกับ MSI ซีรีส์ที่เน้นทำงาน ไม่ว่าจะเป็น Modren / Prestige แต่สำหรับ MSI Creator 17 เป็นหน้าจอ 17.3″ โดดเด่นกว่า
เพราะมีหน้าจอระดับสูง 4K UHD ซึ่งได้เทคโนโลยี Mini LED สุดล้ำ ให้ภาพสวยเนียนตากว่ามาตรฐานเดิมๆ แน่นอนว่าเป็นพาเนล IPS เกรดสูงขอบเขตสีที่ sRGB 100% โดยได้ขอบจอที่บางเฉียบ 5.2 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีหน้าจอนี้เลยก็ว่าได้ คาดว่าในอนาคตหลายๆ รุ่นของ MSI จะมีตามมาอีกแน่นอน
สำหรับ MSI Creator 17 ต้องยอมรับว่าใช้พื้นฐานเดียวกันมาจาก MSI GS75 Stealth ที่เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ มาตรฐานใหม่ที่มีความเบาบาง ขอบจอบางที่ได้ความแรงไม่แพง Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ แบบแต่ก่อน โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่เพกพาได้สะดวก ที่รักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัม บางที่ 18.95 มิลลิเมตร
การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง สำคัญกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 4.9 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ โดยตกแต่งรายละเอียดบริเวณขอบด้วยเทคโนโลยี diamond-cutting สีเงินให้ความหรูหรา
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมแบบสีเงินด้านที่สวยงามลงตัว อีกทั้งมีความแข็งแรงทนทาน โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการปรับให้เรียบหรูขึ้น กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีเงินเทาออกแนวสว่างๆ อย่าง Space Grey ตลอดทั้งตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วสวยงามลงตัวเหมาะกัยสายทำงานมืออาชีพมากๆ
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องถูกติดตั้งบริเวณเหนือคีย์บอร์ด พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน โดยอยู่ตรงกลางเหนือคีย์บอร์ด พร้อมการติดตั้งช่องลมโปร่งขนาดใหญ่เพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ส่วนลำโพงติดตั้งไว้ตัวเครื่องด้านล่างมุมหน้าซ้ายขวา เรียกได้ว่าใส่ทุกรายละเอียดสมกับเป็น Creator Series ที่เน้นความพรีเมียมกว่าทุกๆ รุ่น
โดยภายใต้ชิ้นส่วนนี้ใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อน Cooler Boost Trinity + ใช้พัดลม 3 ตัว ตัวละ 47 ใบพัดขนาด 0.1 มิลลิเมตร ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 7 เส้น ที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
นอกจากนี้ยังมีความเจ๋งที่ตัวเครื่องได้รับมาตรฐานทนทาน Military Grade MIL-STD 810G ทำให้รองรับต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คน้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 17.3″ ประสิทธิภาพสูงทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI Creator 17 ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย
เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายทำงานขั้นสูง จัดเต็มเทคโนโลยีหน้าจอสึดล้ำ ช่วงงบประมาณ 100,000 บาท + ก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงแต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่โน๊ตบุ๊คทั่วไปไม่สามารถให้ได้ พร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับมืออาชีพที่ให้ความสำคัญกับความบางเบาเน้นพกพาอีกด้วย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI Creator 17 ให้อารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ได้เป็นอย่างดี มีระยะกดที่ 1.9 มิลลิเมตร พร้อมไฟส่องสว่างสีขาวขอบโปร่งแสงสวยงามลงตัว ส่วน Numpad ยังคงมีอยู่ปกติ ที่แม้ว่าตัวเครื่องมีมิติที่เล็กลงก็จริง แต่ด้วยความเป็นหน้าจอขนาด 17.3″ ทำให้มีพื้นที่มาพอที่จะติดตั้งมาแบบสบายๆ ดูแล้วสะอาดตา พรีเมียมสุดๆ จากการใช้งานจริงถือว่าปุ่มเด้งรับกับนิ้วดีมากๆ รวมไปถึงมี Hotkey แถวบน พร้อมมีปุ่มเรียก Creator Center ไว้ปรับโหมดการใช้งานได้สะดวกที่สุด และพิเศษที่ปุ่ม F12 ที่ช่วยให้พลิกหน้าจอไปฝั่งตรงข้ามได้ กรณีไว้นำเสนองานกับลูกค้า
ทัชแพดมีขนาดใหญ่และกว้างเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป ลักษณะเป็นผืนผ้ายาวดูเป็นเนื้อแบบกระจก ซึ่งมีตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด ให้สัมผัสที่ลื่นติดมือมากๆ โดยมีการตัดขอบด้านบนดูโค้งมน เข้ากับตัวเครื่องสวยงามลงตัว จากการใช้งานจริงๆ ถือว่าเป็นทัชแพดที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่างสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย
Screen / Speaker
สำหรับเทคโนโลยีหน้าจอของ MSI Creator 17 จัดว่าเป็น Mini LED ขนาด 17.3″ ตัวแรกของโลก ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติมาตรฐานการแสดงผลบนหน้าจอของโน๊ตบุ๊คอย่างสิ้นเชิง ด้วยคุณสมบัติรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K, 1000 HDR มาพร้อมความสว่างสูงสุดที่ 1,000 nits ดูมีชีวิตชีวาด้วยไฟ LED ขนาดเล็ก ทำให้เช็ครายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น ถึงระดับขาวดั่งสีของผ้า หรือว่าจะเป็นสีดำที่ทำให้เห็นได้ถึงส่วนที่ลึกที่สุดก็ตาม
เพราะเปิดปิดไฟได้ตามความต้องการ ด้วย LED จำนวน 280 ดวง ให้ความละเอียดของสว่างที่มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยมีมา รวมถึงรองรับช่วงสีที่กว้างถึง 100% DCI-P3 เหนือยิ่งกว่าความสมจริงของสิ่งที่มนุษย์สามารถเห็นได้ เทียบกับหน้าจอรุ่นปัจจุบันเทพกว่าอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับคนที่ทำงานสายภาพถ่ายที่ต้องการรายละเอียดสูงสุดโดยเฉพาะ
ที่สำคัญจากการที่ MSI Creator 17 ยังเคลมเรื่องของคุณภาพหน้าจออีกว่าได้ค่ามาตรฐานสีสันที่ AdobeRGB ใกล้เคียง 100% ซึ่งนับว่าสูงมากๆ เหมาะกับงานทุกๆ ประเภทการทำงาน ที่จริงจังเรื่องสีสัน พร้อมยังแสดงค่าสีที่แม่นยำและเที่ยงตรงจากการที่ ∆E* (delta E) น้อยกว่า 2 นอกจากนี้ด้วยการที่ MSI Creator 17 ผ่านการ Calibrate สีจากโรงงานทุกเครื่องทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าพร้อมใช้งานสุดๆ ปิดท้ายด้วยการได้รับการรับรองโดยมาตรฐานระดับโลกในด้านความแม่นยำของค่าสีจาก CalMAN Color Calibration อีกด้วย
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องบนทั้งหมดจะเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องแถวล่างทางขวาและกลางมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 5% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite จัดเป็นหน้าจอที่มีคุณภาพเหนือมาตรฐานโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพราะมีความคลาดเคลื่อนเรื่องความสว่างที่ต่ำมากๆ
ลำโพง MSI Creator 17 จัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนด้านใต้เครื่อง ออกแบบมาให้ยิงเสียงลงพื้นเพื่อให้สะท้อนกลับขึ้นมา ส่งผลให้ทิศทางของเสียงที่ออกมานั้นมีความกว้างกว่าลำโพงที่ยิงตรงๆ ออกมา ด้วยขนาด 2W x 2 ให้ความดังที่รองรับการใช้งานในห้องได้แบบสบายๆ คุณภาพเสียงที่ดีน่าประทับใจในส่วนของเสียงกลางเสียงแหลมสำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างดูหนังฟังเพลง เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานทั่วไปแน่นอน
Connector / Thin And Weight
MSI Creator 17 จัดว่าเป็น Creator Notebook ตามชื่อรุ่นตรงตัว กับหน้าจอ 17.3″ ซึ่งไซส์เล็กกว่าปกติ จากการที่ได้ดีไซน์ที่ขอบจอบางเฉียบ โดยมีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.1 Type -A , 2 x USB Type-C (แบ่งเป็น Thunderbolt 3 x 1 และ USB 3.2 Type-C ที่รองรับ DP อีก x 1) , 1 x HDMI 1.4, RJ45 และ Mic-in/Headphone-out และ microSD Card Reader อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ มีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX ที่ดีและใหม่ล่าสุด
อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอเพื่อทำงานได้หลากหลายมากๆ แบบรอบทิศทาง จากทั้ง Thunderbolt 3, HDMI และ DisplayPort ส่วนของการพกพา ก็ถือว่าทำได้ดั ด้วยน้ำหนัก 2.25 กิโลกรัม ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 230 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่าเดิมพอตัว ทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ นับว่าเป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังหน้าจอ 17.3″ ที่เหมาะกับการใช้งานตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ มหาวิทยาลัยมากๆ เครื่องหนึ่ง
Inside / Upgrade
ถ้าใครต้องการจะแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ MSI Creator 17 ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมด หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี ระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 3 ตัว ฮีตไปป์ 7 เส้น พร้อมช่องระบายความร้อน 4 ช่อง ซึ่งการทดสอบบอกได้เลยว่าน่าประทับใจ จากการที่ทาง MSI จัดเต็มด้วยระบบ Cooler Boost Trinity + แน่นอนว่ามี Cooler Boost เร่งรอบพัดลมด้วย
อย่างไรก็ตามการเปิดฝาล่างเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดอันนี้ไม่ค่อยแนะนำทำด้วยตนเอง เพราะเมื่อแกะออกมาแล้วเราจะเห็นเพียง SSD แบบ M.2 NVMe PCIe ความจุ 2TB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 NVMe PCIe เพิ่มอีก 1 ตัวด้วย) ส่วนอื่นๆ ถูกปิดทั้งหมดด้วยแผ่นพลาสติก โดยแรมขนาด 32GB จะถูกซ่อนไว้อีกด้าน ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด แน่นอนในการอัพเกรดแรมด้วยตนเอง แนะนำว่าให้ศูนย์ MSI หรือร้านที่ชำนาญทำให้จะปลอดภัยดว่า
Performance / Software
.
สำหรับ MSI Creator 17 มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นยอดนิยมของ Notebook เน้นประสิทธิภาพสูงที่มากกว่า อย่าง Intel Core i Gen 10H อย่าง Core i7-10875H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่ารุ่นยอดนิยมอย่าง Core i7-10750H ที่ใช้กันในหลายแบรนด์ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.30 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 8 Core 16 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 32GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ 16GB x 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ใช้งานลื่นไหลทันทีแบบสบายๆ
.
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน โดยมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q (8GB GDDR6) ที่ต้องบอกว่าแรงกว่า RTX 2070 Max-Q รุ่นก่อน ที่สำคัญคือยังปลดปล่อยความร้อนออกมาน้อยด้วย ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว เรียกว่าสำหรับเกมออนไลน์สามารถทำได้ลื่นไหลแน่นอน แต่ยังไงไปดูผลทดสอบอีกทีดีกว่าด้านล่าง
อีกทั้งเราสามารถใช้งานไดร์เวอร์ Studio Driver แทนที่ GeForce ส่งผลให้การ์ดจอของเราทำงานได้เต็มที่ยิ่งขึ้น อีกทั้งมีปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) มาช่วยจัดการงานต่างๆ ให้ลื่นไหลอย่างที่สุด พร้อมเร่งการแสดงภาพที่เที่ยงตรงโดยการปลดล็อคคุณสมบัติที่ให้รองรับการใช้สี 30 บิต สามารถสร้างเฉดสีกว่า 1,000 ล้านเฉดสี ในแอพพลิเคชั่น OpenGL ให้กับการ์ดจอ GeForce (จากปกติเป็นระบบสี 24 บิต ที่รองรับเฉดสีได้ถึง 16.7 ล้านสี) ซึ่งจะไร้รอยต่อระหว่างไล่เฉดสี ทำให้ได้ภาพที่สวยงาม พร้อมรองรับการงาน HDR ขั้นสูงได้ (High Dynamic Range)
.
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ เป็นที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าพอตัว รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก สมกับเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10875H จริงๆ กับรุ่นที่เน้นความแรงมากว่า i7-10750H ที่ยอดนิยมในตลาด Gaming Notebook จากความแรงที่ได้ในราคาที่สูงกว่า
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 2TB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับสูงจากทาง Samsung ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3408 MB/s และเขียนที่ 2743 MB/s ซึ่งถ้าใครอยากใส่ SSD M.2 NVMe PCIe ก็มีว่างอีก 1 ช่องทันที แน่นอนว่ารองรับการอัพเกรดแบบ Raid ด้วย
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4970 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลที่แรงลื่น ได้การ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q ซึ่งเอาเข้าจริงอาจจะไม่มีผลกับคะแนนส่วนนี้มากนัก เพราะไม่ค่อยใช้งาน 3 มิติ
MSI Creator 17 สเปกรีวิวเป็น Core i7-10875H + GeForce RTX 2070 Super Max-Q ด้วยเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 70 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผลที่สามารถรีดพลังการ์ดจอออกมาได้อย่างเต็มที่ไม่เป็นรอง Core i9 + RTX 2080 Super ประกอบกับยังใช้แรม 32GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ระดับสูงก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (ที่ความละเอียด 4K UHD จะเล่นได้ลื่นแค่บางเกม จึงไม่ได้ทดสอบด้วยมาตรฐานนั้น) โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว พร้อมรองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงาม แต่ก็ต้องแลกกับการกินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย ซึ่งในการทดสอบจะไม่ได้เปิดในส่วนนี้นะครับ
เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 130 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล อย่างไรก็ตามสำหรับ Overwatch มีข้อสังเกตว่าได้เฟรมเรทที่น้อยกว่าที่น่าจะเป็นพอสมควร
ที่สำคัญยังมี Creator Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งคล้ายกับ Dragon Center เป็นโปรแกรมที่เป็นจุดเด่นของ MSI ที่เป็น Gaming Notebook ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI Creator 17 นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- Creator Mode : ศูนย์รวมโปรแกรม ที่ใช้รองรับการทำงานร่วมกับ Creator Center
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Battery Master : ปรับแต่งการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะกับการใช้งาน
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Creator 17 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ พร้อมเลือกโหมด Super Battery ของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 5:48 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวกว่า Gaming Notebook ทั่วไปจริงๆ อย่างไรก็ตามเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่มากกว่านี้ จะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานได้สั้นกว่าเป็นไปได้
นอกจากนี้ทางด้านอุณหภูมิสำหรับ MSI Creator 17 เครื่องนี้ที่Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ช่องระบายความร้อน 4 ช่อง เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดีมากเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยทางทีมงานได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งได้เปิดโหมดเร่งรอบพัดลมสูงสุดไว้ อย่างไรก็ตามต้องบอกก่อนว่าเราจำเป็นต้องดูอุณหภูมิชิปประมวลผลผ่านทาง Core Temp ไปก่อน เพราะซอฟต์แวร์ Hardware Monitor ยังไม่รองรับ
ชิปประมวลผล Core i7-10875H ทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark รวมถึงทำงานและเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 99 – 100 องศาเซลเซียส* (ใช้งานปกติอยู่ที่ประมาณ 50 – 60) เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอด ซึ่งในส่วนของการ์ดจออย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีมาก ร้อนสุดที่ 78 องศาเซลเซียส* (ใช้งานทั่วไปอยู่ที่ 40 – 50) ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว แต่เรื่องเสียงพัดลมดังเวลาเร่งสุดๆ ก็ยอมรับเลยว่าดังเอาเรื่องอยู่ แต่ก็ช่วยระบายความร้อนได้จริงๆ
Conclusion / Award
MSI ได้มีความตั้งใจมุ่งมั่นในการนำเสนอโน้คบุ๊คสายทำงานมืออาชีพระดับสูงออกมาใหม่เรื่อยๆ โดยเน้นประสบการณ์ใช้งานสูงสุด จากการที่ปกติเราจะเห็นแต่สาย Gaming ถึงเวลาที่ MSI จะต้องออกผลิตภัณฑ์ตระกูล Creator ตัวใหม่ จอ 17.3″ สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H ที่ใหม่ล่าสุด พร้อมนำมาประยุกต์เข้ากับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และตัวเองถนัด อย่างการนำข้อดีต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ตระกูล Gaming มาทำให้มีความเป็นมืออาชีพ เหมาะสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาพ และงานกราฟฟิกต่าง ๆ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ใช้ทำงานเป็นหลัก แล้วก็อาจจะไปนำเล่นเกมได้บ้าง
MSI Creator 17 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสเปก Core i Gen 10H ที่แรงที่สุดในตลาดตอนนี้ เหมาะสำหรับมืออาชีพสายต่างๆ อาทิ ยูทูปเบอร์, ช่างภาพ, อนิเมเตอร์ และนักดนตรี ด้วยหน้าจอ 17.3″ ที่ได้เทคโนโลยี Mini LED ความละเอียด 4K UHD ที่ล้ำกว่าใครๆ ดีไซน์ภายนอกมีจุดเด่นเรื่องความบางเบา และมีประสิทธิภาพเยี่ยม ทำให้มันกลายมาเป็น Ultrabook ที่มีขนาดกระทัดรัด ดีไซน์ภายนอกจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงิน เพื่อให้มีความเรียบหรูมากขึ้น และมาพร้อมกับไฟคีย์บอร์ดสีขาว ทัชแพดก็มีขนาดที่ใหญ่โตมากๆ มีที่สแกนลายนิ้วมือด้วย โดยที่วัสดุตัวเครื่องจะทำมาจากอะลูมิเนียม และมีน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัม เบามาก!! ถ้าเทียบกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า 15.6″ แบบตัวทั่วไป
แต่ๆ ถ้าเล่นเกมจริงจังไม่เน้นทำงานที่ต้องอาศัยจอล้ำๆ Mini LED ล่ะก็ ยังไงลองดูเป็น MSI GE66 Raider หรือ MSI GS66 Stealth ดูแล้วน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะได้ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ สเปกหน้าจอที่ได้ ReFresh Rate 240 – 300 Hz แม้ตัวเครื่องจะหนักกว่าเล็กน้อย ที่สำคัญคือได้ฟีเจอร์รวมๆ แล้วเค้าออกแบบมาให้ Gamer จริงๆ นั่นเอง อาทิ หน้าจอ ชุดระบายความร้อน ไฟคีย์บอร์ด RGB เป็นต้น แต่ถ้าอยากได้เอาไปทำงานมากกว่าในหน้าจอ 17.3: ก็จัด MSI Creator 17 ได้เลย เอาว่าสนใจลองไปดูตามหน้าร้านได้เลย
โดยที่ผ่านมาจากยุคสมัยกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป จะเห็นว่าการที่คนจะซื้อ Notebook ซักเครื่องมาเล่นเกมและทำงานในเครื่องเดียวกัน สามารถทำได้แล้วจากสเปกที่แรงลื่นขึ้นกว่ายุคก่อนๆ มาก อีกทั้งในมุมหนึ่งสำหรับบางคนก็นำ Notebook การ์ดจอตระกูล GeForce มาใช้ในการทำงานด้านต่างๆ โดยเฉพาะงาน Content Cretor ได้ เพราะว่าถ้าจะซื้อ Notebook การ์ดจอที่ตระกูล Quadro มาใช้งานอย่างเดียว ก็รู้สึกว่าจะไม่คุ้มเท่าไรในรุ่นที่อยู่ในระดับราคาที่ต้องจ่ายเท่าๆ กัน
รวมไปถึงช่วงหลังๆ ได้มีการเกิดอาชีพใหม่ๆ อย่างเช่น Youtuber และ Streamer แน่นอนว่าถ้าได้ Notebook เครื่องเดียว ที่ได้สเปกการ์ดจอ GeForce ซึ่งเล่นเกม 3 มิติได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งสามารถนำไปทำงานต่างๆ ได้แบบมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นตัดต่อวีดีโอ ประมวลผลไฟล์ ทำกราฟิก แม้แต่การถ่ายทอดสดก็ทำได้ดีเยี่ยมหรือกรณีไม่เล่นเกมเลย แต่นำมาทำงานอย่างเดียว ก็สามารถที่จะเลือกติดตั้ง Studio Driver เพื่อใช้งานซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ อาทิ Autodesk / Photoshop / Lightroom / Premiere Pro / OBS Studio / Unreal Engine 4 ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า MSI Creator 17 สามารถเลือกใช้ Studio Driver ได้ด้วย เพราะได้เงื่อนไข Notebook ที่รองรับ Studio Driver ประกอบไปด้วย
- GPU : ใช้การ์ดจอที่เป็น GeForce RTX 2060, Quadro RTX 3000 ขึ้นไป
- CPU : ใช้ชิปประมวลผลที่เป็น Intel Core i7 (H-series) ขึ้นไป
- RAM : ใช้หน่วยความจำแรมขนาด 16GB ขึ้นไป
- Storage : ใช้ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD ความจุ 512GB ขึ้นไป
- Display : เป็นความละเอียดระดับ Full HD หรือ 4K Ultra HD ขึ้นไป
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3″ ด้วยกัน ซึ่ง MSI Creator 17 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
สเปก MSI Creator 17 เลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น Inte Core i7-10875H ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ประสิทธิภาพแรงเป็นรองเพียง Core i9-10980HK พร้อมการ์ดจอตัวบน Gaming อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q ที่ทั้ง 2 อย่างนี้แรงเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe PCIe โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 2TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 32G DDR4 DDR4 Bus 3200MHz ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล โดดเด่นด้วยหน้าจอ Mini LED ที่ความละเอียด 4K Ultra HD
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI Creator 17 อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3″ ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางที่บางกว่ามตรฐาน และน้ำหนักเบาเพียง 2.25 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2.6 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที เพราะมีความทนทานระดับ Military Grade MIL-STD 810G พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แม้แบตอาจจะใช้งานได้ถึง 5:48 ชั่วโมง
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน MSI Creator 17 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น พร้อมกับใช้สี Space Gray กับตัวเครื่องด้านนอกและสีเทากับตัวเครื่องด้านในตลอดทั้งตัวเครื่อง การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันพรีเมียมด้วยวัสดุอลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง อีกทั้งยังใช้ diamond-cutting สีเงินตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนส่วนมากต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
VDO Unbox
NBS Verdict
แง่ของการดีไซน์ MSI Creator 17 มีเอกลักษณ์และทันสมัย สมกับเป็นรุ่นพี่ท็อปสุดรุ่นตระกูล Content Creator จาก MSI ด้วยโลหะวัสดุอลูมิเนียมและสีสัน Space Grey และยังมาพร้อมความบาง เบาพกพาง่ายมาก ทั้งราคาและสเปกภายในถือว่ามีความเหนือชั้น รองรับทุกการใช้งานได้ลื่นไหล ได้ทั้งชิปประมวลผล Intel Core i7 Gen 10 รุ่นแรงพิเศษอย่าง i7-10875H และการ์ดจอที่แรงระดับ Gaming ตัวท็อปอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q และแรมที่ขนาด 32GB DDR4 Bus 32000MHz พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 2TB ที่แรงกว่า ยังไงใครต้องการโน๊ตบุ๊คเน้นทำงานขั้นสูงเป็นหลัก หรือจะเล่นเกมหนักๆ ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว เรียกได้ว่าถ้างบถึงแบบไม่ติดขัดก็นับว่าน่าซื้อสุดๆ
ในส่วนของหน้าจอก็จัดได้ว่าเป็นหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดในตลาด ด้วยเทคโนโลยีล้ำกว่า Mini LED ที่ความละเอียด 4K UHD ขนาด 17.3″ ซึ่งสมบูรณ์ด้านการแสดงสีสัน ความสว่าง ความแม่นยำ เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีมากๆ เหมาะกับงานระดับมืออาชีพแบบสุดๆ ขอบหน้าจอก็บางเฉียบตัวเครื่องก็เล็กกระทัดรัด เน้นพกพาสุดๆโดยแบตเตอรี่จากการใช้งานจริงๆ ทดสอบได้ที่ 5:48 ชั่วโมง กับน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัม ที่เบาเทียบเท่ากับรุ่นจอ 15.6″ พร้อมทั้งตัวเครื่องยังมีพอร์ต Thunderbolt 3 ซึ่งเป็น USB-C ที่ต้องบอกว่าเป็นพอร์ตที่ดีที่สุดแล้ว นอกจากนี้การเชื่อมต่อไร้สายยังเป็น Wi-Fi 6 AX ที่ปลอดภัยและแรงกว่าเดิม 3 เท่าอีกด้วย
สรุปง่ายๆ สำหรับการมาของ MSI Creator 17 เหมาะสำหรับคนหรือใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 17.3″ สายทำงาน Content Creator จริงจัง อาทิ Youtuber และ Streamer รวมถึงงานประเภท ทำภาพเคลื่อนไหว 3D ด้วย Ray Tracing, การตัดต่อวีดีโอขั้นสูง 4K, การตกแต่งภาพที่ซับซ้อน, การออกแบบกราฟิกระดับสูง, การสร้างภาพสถาปัตยกรรม และการถ่ายทอดสด (Streaming) เต็มรูปแบบ ก็ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุด ในงบประมาณเริ่มต้นไม่เกิน 100,000 บาท ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือถ้าจะเล่นเกมบ้างก็สามารถทำได้ดีลื่นไหล ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง สมราคาค่าตัว เหมาะกับคนที่งบถึงเงินถึงและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คสเปกทั่วไป หรือกรณีที่อยากได้สเปกแรงแต่ไม่อยากได้ดีไซน์แบบ Gaming Notebook
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คระดับสูง
- หน้าจอ 17.3″ แต่ตัวเครื่องเบามากๆ โดยมีน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคแรงสุดๆ ด้วย Core i7-10875H และการ์ดจอ GeForce RTX 2070 Super Max-Q
- หน้าจอแสดงเทคโนโลยี Mini LED ที่ดีกว่า บนความละเอียด 4K Ultra HD
- จัดเต็มเรื่องแรมที่ 32GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe ที่ 2TB ไม่ต้องอัพเกรดอะไรแล้ว
- มี Windows 10 แท้ พร้อมซอฟ์ตแวร์ที่ดี ใช้งานได้ทันที
- ประสิทธิภาพดีทั้งการทำงานและการเล่นเกม
- คีย์บอร์ดใช้งานได้ดี มีไฟส่องสว่างใช้งานได้จริง
- มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6 AX ใหม่ล่าสุด
- ตัวเครื่องทนทานระดับ MIL-STD 810G ทำให้มั่นใจได้เลยว่าตัวเครื่องจะมีความแข็งแรง
- มี Fingerprint สแกนลายนิ้วมือใช้งานผ่านทาง Windows Hello ได้รวดเร็ว ปลอดภัย
- การจัดการความร้อนในส่วนของการ์ดจอทำได้ดี
- ให้พอร์ต Thunderbolt 3 มา 1 พอร์ต รองรับการใช้งานมืออาชีพ
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันไม่ว่าจะเป็น USB 3.2, HDMI และ Mini DisplayPort 1.2
ข้อสังเกต
- การแกะงัดทำได้ไม่ง่าย ไม่แนะนำให้ทำเองเพื่ออัปเกรดหรือทำความสะอาด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 5 ชั่วโมง ไม่เหมือนที่เคลมไว้ 7 ชั่วโมง แต่ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว
- ไม่มีช่อง SD Card Reader ที่ช่างภาพมักใช้งานบ่อยๆ ต้องหาอแดปเตอร์เพิ่มเอง
- ราคาค่อนข้างสูง เพราะเป็น Notebook เฉพาะทาง เน้นการทำงานขั้นสูง
- ความร้อนของชิปประมวลผล CPU เมื่อทำงานหนักๆ ต่อเนื่องค่อนข้างสูง
Specification
MSI Creator 17 สเปกแรงล้ำใหม่ล่าสุดด้วยการเลือกใช้ชิปประมวลผลตัวแรง Intel Core i Gen 10H ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง โดยรุ่นราคา 49,900 บาท ที่ได้มารีวิวเป็น Core i7-10875H (2.30 GHz, 16 MB L3 Cache, up to 5.10 GHz) ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด รองรับหลากหลายการใช้งานแบบเหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6) / RTX 2070 Super Max-Q เรียกได้ว่าตอบสนองการทำงานหรือเล่นเกมได้เต็มที่เต็มอารมณ์กว่าสเปกเดิมๆ ที่เป็น Core i Gen 9H และ GTX 10 Series รุ่นก่อนๆ
โดยการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6) / RTX 2070 Super Max-Q กราฟิกการ์ดตัวใหม่ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของกราฟิกการ์ดรุ่นก่อนหน้ากับสถาปัตยกรรม Pascal เหนือชั้นกว่า RTX 2070 ในเรื่องของความร้อนที่เกิดขึ้น โดยมาพร้อมกับ Tensor cores หรือรองรับกับเทคโนโลยี Ray-Tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากก่อน โดยประสิทธิภาพแรงเทียบเท่ากับ GTX 1080 แต่ร้อนน้อยกว่า
หน้าจอขนาด 17.3″ แบบด้าน เทคโนโลยี Mini LED ความละเอียด 4K UHD พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ HDR ได้หน่วยความจำแรมมาขนาด 32GB DDR4 Bus 3200 MHz ที่เพียงพอในการใช้งาน โดยรองรับสูงสุดที่ 64GB และในส่วนของที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe 1TB / 2TB ที่เร็วแรงลื่น และรองรับการอัปเกรดเพิ่ม SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA 3 อีกอย่างละตัวได้เลย ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2 ชาแนลแบบ ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, USB 3.2 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI , ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX น้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.25 กิโลกรัม ได้ประกัน 2 ปี มี Windows 10 แท้ โดยสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 95,900 บาท ส่วนอีกสเปกที่เรานำมาทดสอบนั้น จะได้เลือกใช้การ์ดจอ RTX 2070 Super Max-Q พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 2TB กับราคา 119,900 บาท (บันเดิลได้เมาส์ไร้สายของ MSI มาด้วย) ถือว่าเป็น Notebook Content Crator ในช่วงราคานี้ที่น่าสนใจมากๆ เพราะได้ทั้งสเปกและฟีเจอร์ที่จัดเต็มไม่เป็นรอง Gaming Notebook ตัวท็อปเลย
- Core i7-10875H / RTX 2070 Max-Q / RAM 32GB / SSD 1TB / จอ 17.3 UHD Mini LED ราคา 95,900 บาท
- Core i7-10875H / RTX 2070 Super Max-Q / RAM 32GB / SSD 2TB / จอ 17.3 UHD Mini LED ราคา 119,900 บาท
Hardware / Design
MSI Creator 17 ก็ได้รับ DNA ส่วนของ Gaming จาก MSI G Series หลายๆ ส่วนมาเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างด้วยโทนของตัวเครื่องจะเป็นแนวโน๊ตบุ๊คสายทำงานมากกว่า สีสันเป็นสีเงินเทา Space Grey ที่ดูแล้วเรียบหรู อยู่ในทิศทางเดียวกับ MSI ซีรีส์ที่เน้นทำงาน ไม่ว่าจะเป็น Modren / Prestige แต่สำหรับ MSI Creator 17 เป็นหน้าจอ 17.3″ โดดเด่นกว่า
เพราะมีหน้าจอระดับสูง 4K UHD ซึ่งได้เทคโนโลยี Mini LED สุดล้ำ ให้ภาพสวยเนียนตากว่ามาตรฐานเดิมๆ แน่นอนว่าเป็นพาเนล IPS เกรดสูงขอบเขตสีที่ sRGB 100% โดยได้ขอบจอที่บางเฉียบ 5.2 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีหน้าจอนี้เลยก็ว่าได้ คาดว่าในอนาคตหลายๆ รุ่นของ MSI จะมีตามมาอีกแน่นอน
สำหรับ MSI Creator 17 ต้องยอมรับว่าใช้พื้นฐานเดียวกันมาจาก MSI GS75 Stealth ที่เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ มาตรฐานใหม่ที่มีความเบาบาง ขอบจอบางที่ได้ความแรงไม่แพง Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ แบบแต่ก่อน โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่เพกพาได้สะดวก ที่รักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัม บางที่ 18.95 มิลลิเมตร
การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง สำคัญกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 4.9 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ โดยตกแต่งรายละเอียดบริเวณขอบด้วยเทคโนโลยี diamond-cutting สีเงินให้ความหรูหรา
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมแบบสีเงินด้านที่สวยงามลงตัว อีกทั้งมีความแข็งแรงทนทาน โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการปรับให้เรียบหรูขึ้น กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีเงินเทาออกแนวสว่างๆ อย่าง Space Grey ตลอดทั้งตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วสวยงามลงตัวเหมาะกัยสายทำงานมืออาชีพมากๆ
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องถูกติดตั้งบริเวณเหนือคีย์บอร์ด พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน โดยอยู่ตรงกลางเหนือคีย์บอร์ด พร้อมการติดตั้งช่องลมโปร่งขนาดใหญ่เพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ส่วนลำโพงติดตั้งไว้ตัวเครื่องด้านล่างมุมหน้าซ้ายขวา เรียกได้ว่าใส่ทุกรายละเอียดสมกับเป็น Creator Series ที่เน้นความพรีเมียมกว่าทุกๆ รุ่น
โดยภายใต้ชิ้นส่วนนี้ใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อน Cooler Boost Trinity + ใช้พัดลม 3 ตัว ตัวละ 47 ใบพัดขนาด 0.1 มิลลิเมตร ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 7 เส้น ที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
นอกจากนี้ยังมีความเจ๋งที่ตัวเครื่องได้รับมาตรฐานทนทาน Military Grade MIL-STD 810G ทำให้รองรับต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คน้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 17.3″ ประสิทธิภาพสูงทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI Creator 17 ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย
เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายทำงานขั้นสูง จัดเต็มเทคโนโลยีหน้าจอสึดล้ำ ช่วงงบประมาณ 100,000 บาท + ก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงแต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่โน๊ตบุ๊คทั่วไปไม่สามารถให้ได้ พร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับมืออาชีพที่ให้ความสำคัญกับความบางเบาเน้นพกพาอีกด้วย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI Creator 17 ให้อารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด ได้เป็นอย่างดี มีระยะกดที่ 1.9 มิลลิเมตร พร้อมไฟส่องสว่างสีขาวขอบโปร่งแสงสวยงามลงตัว ส่วน Numpad ยังคงมีอยู่ปกติ ที่แม้ว่าตัวเครื่องมีมิติที่เล็กลงก็จริง แต่ด้วยความเป็นหน้าจอขนาด 17.3″ ทำให้มีพื้นที่มาพอที่จะติดตั้งมาแบบสบายๆ ดูแล้วสะอาดตา พรีเมียมสุดๆ จากการใช้งานจริงถือว่าปุ่มเด้งรับกับนิ้วดีมากๆ รวมไปถึงมี Hotkey แถวบน พร้อมมีปุ่มเรียก Creator Center ไว้ปรับโหมดการใช้งานได้สะดวกที่สุด และพิเศษที่ปุ่ม F12 ที่ช่วยให้พลิกหน้าจอไปฝั่งตรงข้ามได้ กรณีไว้นำเสนองานกับลูกค้า
ทัชแพดมีขนาดใหญ่และกว้างเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป ลักษณะเป็นผืนผ้ายาวดูเป็นเนื้อแบบกระจก ซึ่งมีตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด ให้สัมผัสที่ลื่นติดมือมากๆ โดยมีการตัดขอบด้านบนดูโค้งมน เข้ากับตัวเครื่องสวยงามลงตัว จากการใช้งานจริงๆ ถือว่าเป็นทัชแพดที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่างสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย
Screen / Speaker
สำหรับเทคโนโลยีหน้าจอของ MSI Creator 17 จัดว่าเป็น Mini LED ขนาด 17.3″ ตัวแรกของโลก ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติมาตรฐานการแสดงผลบนหน้าจอของโน๊ตบุ๊คอย่างสิ้นเชิง ด้วยคุณสมบัติรองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K, 1000 HDR มาพร้อมความสว่างสูงสุดที่ 1,000 nits ดูมีชีวิตชีวาด้วยไฟ LED ขนาดเล็ก ทำให้เช็ครายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น ถึงระดับขาวดั่งสีของผ้า หรือว่าจะเป็นสีดำที่ทำให้เห็นได้ถึงส่วนที่ลึกที่สุดก็ตาม
เพราะเปิดปิดไฟได้ตามความต้องการ ด้วย LED จำนวน 280 ดวง ให้ความละเอียดของสว่างที่มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยมีมา รวมถึงรองรับช่วงสีที่กว้างถึง 100% DCI-P3 เหนือยิ่งกว่าความสมจริงของสิ่งที่มนุษย์สามารถเห็นได้ เทียบกับหน้าจอรุ่นปัจจุบันเทพกว่าอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับคนที่ทำงานสายภาพถ่ายที่ต้องการรายละเอียดสูงสุดโดยเฉพาะ
ที่สำคัญจากการที่ MSI Creator 17 ยังเคลมเรื่องของคุณภาพหน้าจออีกว่าได้ค่ามาตรฐานสีสันที่ AdobeRGB ใกล้เคียง 100% ซึ่งนับว่าสูงมากๆ เหมาะกับงานทุกๆ ประเภทการทำงาน ที่จริงจังเรื่องสีสัน พร้อมยังแสดงค่าสีที่แม่นยำและเที่ยงตรงจากการที่ ∆E* (delta E) น้อยกว่า 2 นอกจากนี้ด้วยการที่ MSI Creator 17 ผ่านการ Calibrate สีจากโรงงานทุกเครื่องทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าพร้อมใช้งานสุดๆ ปิดท้ายด้วยการได้รับการรับรองโดยมาตรฐานระดับโลกในด้านความแม่นยำของค่าสีจาก CalMAN Color Calibration อีกด้วย
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องบนทั้งหมดจะเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องแถวล่างทางขวาและกลางมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 5% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite จัดเป็นหน้าจอที่มีคุณภาพเหนือมาตรฐานโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพราะมีความคลาดเคลื่อนเรื่องความสว่างที่ต่ำมากๆ
ลำโพง MSI Creator 17 จัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนด้านใต้เครื่อง ออกแบบมาให้ยิงเสียงลงพื้นเพื่อให้สะท้อนกลับขึ้นมา ส่งผลให้ทิศทางของเสียงที่ออกมานั้นมีความกว้างกว่าลำโพงที่ยิงตรงๆ ออกมา ด้วยขนาด 2W x 2 ให้ความดังที่รองรับการใช้งานในห้องได้แบบสบายๆ คุณภาพเสียงที่ดีน่าประทับใจในส่วนของเสียงกลางเสียงแหลมสำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างดูหนังฟังเพลง เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐานทั่วไปแน่นอน
Connector / Thin And Weight
MSI Creator 17 จัดว่าเป็น Creator Notebook ตามชื่อรุ่นตรงตัว กับหน้าจอ 17.3″ ซึ่งไซส์เล็กกว่าปกติ จากการที่ได้ดีไซน์ที่ขอบจอบางเฉียบ โดยมีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.1 Type -A , 2 x USB Type-C (แบ่งเป็น Thunderbolt 3 x 1 และ USB 3.2 Type-C ที่รองรับ DP อีก x 1) , 1 x HDMI 1.4, RJ45 และ Mic-in/Headphone-out และ microSD Card Reader อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้ มีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX ที่ดีและใหม่ล่าสุด
อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอเพื่อทำงานได้หลากหลายมากๆ แบบรอบทิศทาง จากทั้ง Thunderbolt 3, HDMI และ DisplayPort ส่วนของการพกพา ก็ถือว่าทำได้ดั ด้วยน้ำหนัก 2.25 กิโลกรัม ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 230 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่าเดิมพอตัว ทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ นับว่าเป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังหน้าจอ 17.3″ ที่เหมาะกับการใช้งานตามร้านกาแฟ ออฟฟิศ มหาวิทยาลัยมากๆ เครื่องหนึ่ง
Inside / Upgrade
ถ้าใครต้องการจะแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของ MSI Creator 17 ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ไขน็อตทั้งหมด หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้ไม่ยากเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี ระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 3 ตัว ฮีตไปป์ 7 เส้น พร้อมช่องระบายความร้อน 4 ช่อง ซึ่งการทดสอบบอกได้เลยว่าน่าประทับใจ จากการที่ทาง MSI จัดเต็มด้วยระบบ Cooler Boost Trinity + แน่นอนว่ามี Cooler Boost เร่งรอบพัดลมด้วย
อย่างไรก็ตามการเปิดฝาล่างเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดอันนี้ไม่ค่อยแนะนำทำด้วยตนเอง เพราะเมื่อแกะออกมาแล้วเราจะเห็นเพียง SSD แบบ M.2 NVMe PCIe ความจุ 2TB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 NVMe PCIe เพิ่มอีก 1 ตัวด้วย) ส่วนอื่นๆ ถูกปิดทั้งหมดด้วยแผ่นพลาสติก โดยแรมขนาด 32GB จะถูกซ่อนไว้อีกด้าน ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด แน่นอนในการอัพเกรดแรมด้วยตนเอง แนะนำว่าให้ศูนย์ MSI หรือร้านที่ชำนาญทำให้จะปลอดภัยดว่า
Performance / Software
.
สำหรับ MSI Creator 17 มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นยอดนิยมของ Notebook เน้นประสิทธิภาพสูงที่มากกว่า อย่าง Intel Core i Gen 10H อย่าง Core i7-10875H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่ารุ่นยอดนิยมอย่าง Core i7-10750H ที่ใช้กันในหลายแบรนด์ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.30 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 8 Core 16 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 32GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ 16GB x 2 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ใช้งานลื่นไหลทันทีแบบสบายๆ
.
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน โดยมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q (8GB GDDR6) ที่ต้องบอกว่าแรงกว่า RTX 2070 Max-Q รุ่นก่อน ที่สำคัญคือยังปลดปล่อยความร้อนออกมาน้อยด้วย ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว เรียกว่าสำหรับเกมออนไลน์สามารถทำได้ลื่นไหลแน่นอน แต่ยังไงไปดูผลทดสอบอีกทีดีกว่าด้านล่าง
อีกทั้งเราสามารถใช้งานไดร์เวอร์ Studio Driver แทนที่ GeForce ส่งผลให้การ์ดจอของเราทำงานได้เต็มที่ยิ่งขึ้น อีกทั้งมีปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) มาช่วยจัดการงานต่างๆ ให้ลื่นไหลอย่างที่สุด พร้อมเร่งการแสดงภาพที่เที่ยงตรงโดยการปลดล็อคคุณสมบัติที่ให้รองรับการใช้สี 30 บิต สามารถสร้างเฉดสีกว่า 1,000 ล้านเฉดสี ในแอพพลิเคชั่น OpenGL ให้กับการ์ดจอ GeForce (จากปกติเป็นระบบสี 24 บิต ที่รองรับเฉดสีได้ถึง 16.7 ล้านสี) ซึ่งจะไร้รอยต่อระหว่างไล่เฉดสี ทำให้ได้ภาพที่สวยงาม พร้อมรองรับการงาน HDR ขั้นสูงได้ (High Dynamic Range)
.
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ เป็นที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าพอตัว รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก สมกับเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10875H จริงๆ กับรุ่นที่เน้นความแรงมากว่า i7-10750H ที่ยอดนิยมในตลาด Gaming Notebook จากความแรงที่ได้ในราคาที่สูงกว่า
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 2TB แบบ M.2 NVMe PCIe ระดับสูงจากทาง Samsung ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3408 MB/s และเขียนที่ 2743 MB/s ซึ่งถ้าใครอยากใส่ SSD M.2 NVMe PCIe ก็มีว่างอีก 1 ช่องทันที แน่นอนว่ารองรับการอัพเกรดแบบ Raid ด้วย
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4970 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปการใช้งานพื้นฐานโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีชิปประมวลผลที่แรงลื่น ได้การ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q ซึ่งเอาเข้าจริงอาจจะไม่มีผลกับคะแนนส่วนนี้มากนัก เพราะไม่ค่อยใช้งาน 3 มิติ
MSI Creator 17 สเปกรีวิวเป็น Core i7-10875H + GeForce RTX 2070 Super Max-Q ด้วยเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 70 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผลที่สามารถรีดพลังการ์ดจอออกมาได้อย่างเต็มที่ไม่เป็นรอง Core i9 + RTX 2080 Super ประกอบกับยังใช้แรม 32GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ระดับสูงก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Resident Evil 3 Remake / Battlefield V / FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (ที่ความละเอียด 4K UHD จะเล่นได้ลื่นแค่บางเกม จึงไม่ได้ทดสอบด้วยมาตรฐานนั้น) โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว พร้อมรองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงาม แต่ก็ต้องแลกกับการกินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย ซึ่งในการทดสอบจะไม่ได้เปิดในส่วนนี้นะครับ
เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 130 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล อย่างไรก็ตามสำหรับ Overwatch มีข้อสังเกตว่าได้เฟรมเรทที่น้อยกว่าที่น่าจะเป็นพอสมควร
ที่สำคัญยังมี Creator Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งคล้ายกับ Dragon Center เป็นโปรแกรมที่เป็นจุดเด่นของ MSI ที่เป็น Gaming Notebook ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI Creator 17 นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- Creator Mode : ศูนย์รวมโปรแกรม ที่ใช้รองรับการทำงานร่วมกับ Creator Center
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Battery Master : ปรับแต่งการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะกับการใช้งาน
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Creator 17 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ พร้อมเลือกโหมด Super Battery ของ MSI แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 5:48 ชั่วโมงโดยประมาณ ซึ่งจากการทดสอบล่าสุดพบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวกว่า Gaming Notebook ทั่วไปจริงๆ อย่างไรก็ตามเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่มากกว่านี้ จะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานได้สั้นกว่าเป็นไปได้
นอกจากนี้ทางด้านอุณหภูมิสำหรับ MSI Creator 17 เครื่องนี้ที่Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ช่องระบายความร้อน 4 ช่อง เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่มีการระบายความร้อนได้ดีมากเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% โดยทางทีมงานได้ทำการเล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ ซึ่งได้เปิดโหมดเร่งรอบพัดลมสูงสุดไว้ อย่างไรก็ตามต้องบอกก่อนว่าเราจำเป็นต้องดูอุณหภูมิชิปประมวลผลผ่านทาง Core Temp ไปก่อน เพราะซอฟต์แวร์ Hardware Monitor ยังไม่รองรับ
ชิปประมวลผล Core i7-10875H ทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark รวมถึงทำงานและเล่นเกมต่อเนื่อง เพื่อทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลย โดยอยู่ที่ 99 – 100 องศาเซลเซียส* (ใช้งานปกติอยู่ที่ประมาณ 50 – 60) เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ทำหน้าที่ได้เยี่ยมยอด ซึ่งในส่วนของการ์ดจออย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีมาก ร้อนสุดที่ 78 องศาเซลเซียส* (ใช้งานทั่วไปอยู่ที่ 40 – 50) ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว แต่เรื่องเสียงพัดลมดังเวลาเร่งสุดๆ ก็ยอมรับเลยว่าดังเอาเรื่องอยู่ แต่ก็ช่วยระบายความร้อนได้จริงๆ
Conclusion / Award
MSI ได้มีความตั้งใจมุ่งมั่นในการนำเสนอโน้คบุ๊คสายทำงานมืออาชีพระดับสูงออกมาใหม่เรื่อยๆ โดยเน้นประสบการณ์ใช้งานสูงสุด จากการที่ปกติเราจะเห็นแต่สาย Gaming ถึงเวลาที่ MSI จะต้องออกผลิตภัณฑ์ตระกูล Creator ตัวใหม่ จอ 17.3″ สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H ที่ใหม่ล่าสุด พร้อมนำมาประยุกต์เข้ากับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และตัวเองถนัด อย่างการนำข้อดีต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ตระกูล Gaming มาทำให้มีความเป็นมืออาชีพ เหมาะสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาพ และงานกราฟฟิกต่าง ๆ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ใช้ทำงานเป็นหลัก แล้วก็อาจจะไปนำเล่นเกมได้บ้าง
MSI Creator 17 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสเปก Core i Gen 10H ที่แรงที่สุดในตลาดตอนนี้ เหมาะสำหรับมืออาชีพสายต่างๆ อาทิ ยูทูปเบอร์, ช่างภาพ, อนิเมเตอร์ และนักดนตรี ด้วยหน้าจอ 17.3″ ที่ได้เทคโนโลยี Mini LED ความละเอียด 4K UHD ที่ล้ำกว่าใครๆ ดีไซน์ภายนอกมีจุดเด่นเรื่องความบางเบา และมีประสิทธิภาพเยี่ยม ทำให้มันกลายมาเป็น Ultrabook ที่มีขนาดกระทัดรัด ดีไซน์ภายนอกจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเงิน เพื่อให้มีความเรียบหรูมากขึ้น และมาพร้อมกับไฟคีย์บอร์ดสีขาว ทัชแพดก็มีขนาดที่ใหญ่โตมากๆ มีที่สแกนลายนิ้วมือด้วย โดยที่วัสดุตัวเครื่องจะทำมาจากอะลูมิเนียม และมีน้ำหนักเพียง 2.25 กิโลกรัม เบามาก!! ถ้าเทียบกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า 15.6″ แบบตัวทั่วไป
แต่ๆ ถ้าเล่นเกมจริงจังไม่เน้นทำงานที่ต้องอาศัยจอล้ำๆ Mini LED ล่ะก็ ยังไงลองดูเป็น MSI GE66 Raider หรือ MSI GS66 Stealth ดูแล้วน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะได้ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ สเปกหน้าจอที่ได้ ReFresh Rate 240 – 300 Hz แม้ตัวเครื่องจะหนักกว่าเล็กน้อย ที่สำคัญคือได้ฟีเจอร์รวมๆ แล้วเค้าออกแบบมาให้ Gamer จริงๆ นั่นเอง อาทิ หน้าจอ ชุดระบายความร้อน ไฟคีย์บอร์ด RGB เป็นต้น แต่ถ้าอยากได้เอาไปทำงานมากกว่าในหน้าจอ 17.3: ก็จัด MSI Creator 17 ได้เลย เอาว่าสนใจลองไปดูตามหน้าร้านได้เลย
โดยที่ผ่านมาจากยุคสมัยกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป จะเห็นว่าการที่คนจะซื้อ Notebook ซักเครื่องมาเล่นเกมและทำงานในเครื่องเดียวกัน สามารถทำได้แล้วจากสเปกที่แรงลื่นขึ้นกว่ายุคก่อนๆ มาก อีกทั้งในมุมหนึ่งสำหรับบางคนก็นำ Notebook การ์ดจอตระกูล GeForce มาใช้ในการทำงานด้านต่างๆ โดยเฉพาะงาน Content Cretor ได้ เพราะว่าถ้าจะซื้อ Notebook การ์ดจอที่ตระกูล Quadro มาใช้งานอย่างเดียว ก็รู้สึกว่าจะไม่คุ้มเท่าไรในรุ่นที่อยู่ในระดับราคาที่ต้องจ่ายเท่าๆ กัน
รวมไปถึงช่วงหลังๆ ได้มีการเกิดอาชีพใหม่ๆ อย่างเช่น Youtuber และ Streamer แน่นอนว่าถ้าได้ Notebook เครื่องเดียว ที่ได้สเปกการ์ดจอ GeForce ซึ่งเล่นเกม 3 มิติได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งสามารถนำไปทำงานต่างๆ ได้แบบมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นตัดต่อวีดีโอ ประมวลผลไฟล์ ทำกราฟิก แม้แต่การถ่ายทอดสดก็ทำได้ดีเยี่ยมหรือกรณีไม่เล่นเกมเลย แต่นำมาทำงานอย่างเดียว ก็สามารถที่จะเลือกติดตั้ง Studio Driver เพื่อใช้งานซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ อาทิ Autodesk / Photoshop / Lightroom / Premiere Pro / OBS Studio / Unreal Engine 4 ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า MSI Creator 17 สามารถเลือกใช้ Studio Driver ได้ด้วย เพราะได้เงื่อนไข Notebook ที่รองรับ Studio Driver ประกอบไปด้วย
- GPU : ใช้การ์ดจอที่เป็น GeForce RTX 2060, Quadro RTX 3000 ขึ้นไป
- CPU : ใช้ชิปประมวลผลที่เป็น Intel Core i7 (H-series) ขึ้นไป
- RAM : ใช้หน่วยความจำแรมขนาด 16GB ขึ้นไป
- Storage : ใช้ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD ความจุ 512GB ขึ้นไป
- Display : เป็นความละเอียดระดับ Full HD หรือ 4K Ultra HD ขึ้นไป
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3″ ด้วยกัน ซึ่ง MSI Creator 17 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
สเปก MSI Creator 17 เลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น Inte Core i7-10875H ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ประสิทธิภาพแรงเป็นรองเพียง Core i9-10980HK พร้อมการ์ดจอตัวบน Gaming อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q ที่ทั้ง 2 อย่างนี้แรงเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe PCIe โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 2TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 32G DDR4 DDR4 Bus 3200MHz ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล โดดเด่นด้วยหน้าจอ Mini LED ที่ความละเอียด 4K Ultra HD
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI Creator 17 อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3″ ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางที่บางกว่ามตรฐาน และน้ำหนักเบาเพียง 2.25 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2.6 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที เพราะมีความทนทานระดับ Military Grade MIL-STD 810G พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แม้แบตอาจจะใช้งานได้ถึง 5:48 ชั่วโมง
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน MSI Creator 17 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น พร้อมกับใช้สี Space Gray กับตัวเครื่องด้านนอกและสีเทากับตัวเครื่องด้านในตลอดทั้งตัวเครื่อง การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันพรีเมียมด้วยวัสดุอลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง อีกทั้งยังใช้ diamond-cutting สีเงินตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนส่วนมากต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน