โน๊ตบุ๊คเล่นเกม หรือ Gaming Notebook เป็นโน๊ตบุ๊คประเภทที่ขายดีที่สุดในงาน Commart 2020 นี้แน่นอน ส่วนมากในตลาด จะมาพร้อมกับสเปกต่อราคาที่คุ้มค่า แน่นอนว่าได้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H ที่แรงลื่นเป็นหลัก โดยแบ่งออกเป็น Core i5-10300H ที่เป็นรุ่นเริ่มต้น รองรับการเล่นเกมที่ลื่นไหลและทำงานได้หลากหลาย
อีกทั้งรุ่นที่เน้นความแรงยิ่งขึ้นไปอีก จะเป็นในส่วนของ Core i7-10750H เพราะได้ทั้งประสิทธิภาพจากความเร็วในการทำงาน รวมไปถึงจำนวนคอร์และเธร์ดที่มากกว่า อีกยังได้ L3 Cache ที่ใหญ่กว่าอีกด้วย แน่นอนว่าส่งผลต่อการทำงานทุกๆ อย่าง ที่พร้อมๆ กัน และการเล่นเกมโดยตรงด้วย
- Core i5-10300H : 4 Cores 8 Threads / 2.50 – 4.50 GHz GHz / 8 MB L3 Cache
- Core i7-10750H : 6 Cores 12 Threads / 2.60 – 5.00 GHz GHz / 12 MB L3 Cache
บทความนี้ก็เลยจะมาจัดอันดับ Gaming Notebook น่าซื้อในงาน Commart 2020 สเปก Intel Core i5-10300H / i7-10750H แรงลื่นสะใจ ฟีเจอร์จัดเต็ม คุ้มค่าราคาเริ่ม 25,900 บาท โดยเป็นเทคโนโลยี Intel Core i Gen 10H ที่มีประสิทธิภาพสูง จับคู่มากับการ์ดจอรุ่นต่าง ๆ อาทิ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti / GTX 1660 Ti / RTX 2060 ที่แรงลื่นเพียงพอต่อการเล่นเกม 3 มิติทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในปัจจุบันแน่นอน เทียบกับความแรงต่อราคาแล้วคุ้มค่า
ในส่วนของได้แรมมาเป็นมาตรฐาน DDR4 ที่ขนาด 8GB – 16GB ส่วน SSD ได้ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน หน้าจอขนาด 15.6″ / 16.1″ / 17.3″ ความละอียด Full HD พาเนล IPS ที่ 120Hz – 144Hz ที่ต้องบอกเลยว่า สเปกเพียงพอต่อทุกๆ การใช้งานพื้นฐานหรือเล่นเกมหนักๆ ก็ทำได้ดีเยี่ยม ติดตั้ง Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที มีประกันดีที่สุดเป็นแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านยาวนาน 3 ปี ราคาเริ่มต้นถูกที่สุดที่ 25,900 บาทเท่านั้น ซึ่งจะมีรุ่นอะไรบ้างนั้น ไปชมกันต่อเลย
Dell G3 15 ราคา 25,900 – 36,900 บาท
Dell G3 15 เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ราคาถูกสุดประจำปี 2020 ที่เป็นน้องเล็กสุดของแบรนด์ Dell ดีไซน์ดูบางเบา ซึ่งมีความบางตัวเครื่องเพียง 21.6 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม ตัวเครื่องสีดำเทาแซมฟ้าในแนวเดียวกับ G Series ซึ่งสเปกหลักๆ แล้วเน้นประสิทธิภาพต่อความคุ้มค่า สำหรับการ์ดจอเป็น NVIDIA GTX 1650, GTX 1660 Ti ประกบคู่กับชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง i5-10300H และ i7-10750H ที่เป็น Core i Gen 10H รุ่นล่าสุด รองรับการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลกว่ารุ่นก่อนๆ แน่นอน
โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6″ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS รองรับ Refesh Rate ที่ 120Hz ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB / 16GB DDR4 Bus 2933MHz ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน พร้อมด้วย SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB สำหรับฮาร์ดดิสก์รองรับการอัพเกรดในอนาคต ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ด้วย อกจากนี้ในส่วนของกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนแบบคู่รองรับการใช้งาน VDO Call และแน่นอนว่าได้ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ที รวมถึงมีซอฟต์แวร์คอยจัดการมากมาย
การเชื่อมต่อหลักๆ แล้วถือว่าเป็น Gaming Notebook มีความครบครันระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.2 Type-A จำนวน 1 พอร์ต ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูล และพอร์ต USB 2.0 Type-A อีก 2 พอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน รวมไปถึงยังมี USB 3.1 Type-C ที่เป็น DisplayPort ได้ในตัว นอกจากนั้นก็มีช่องเชื่อมต่อไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องอ่าน SD Card และ LAN RJ45 อีกด้วย
ดีไซน์การออกแบบของ Dell G3 15 Gaming Notebook นั้นจะดูกระทัดรัดกว่าโน๊ตบุ๊คเล่นเกมขนาดหน้าจอ 15.6″ อื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีการใช้ตัวเครื่องเหมาะกับการพกพา เทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมาตรฐานแบบเดิมๆ ที่ต้องดูหนาและหนัก ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ มาพร้อม 2 สีสัน อย่างสีดำ Eclipse Black และสีขาว Alpine White ซึ่งโดดเด่นไม่ซ้ำใคร สนนราคา Dell G3 15 Gaming Notebook อยู่ที่ 25,900 – 37,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี แบบ Dell Premium Support และ On-Site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ตามมาตรฐานของ Dell ที่เราทุกคนในเรื่องของการบริการที่ประทับใจ
- Core i5-10300H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB + HDD 1TB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 25,900 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 36,900 บาท
Lenovo IdeaPad Gaming 3i ราคา 25,990 – 30,990 บาท
Lenovo IdeaPad Gaming 3i เป็น Gaming Notebook เน้นความคุ้มค่าประจำปี 2020 เป็นโน๊ตบุ๊คสเปกแรงที่สามารถเอาไปเล่นเกมได้สบายๆ โดดเด่นด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H รุ่นใหม่อย่าง Core i5-10300H / Core i7-10750H พร้อมด้วยการ์ดจอระดับ Gaming อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti รุ่นใหม่ อีกทั้งได้ดีไซน์ใหม่ขอบจอที่บางและน้ำหนักเครื่องที่ไม่หนักจนเกินไป รวมๆ มีความเรียบง่าย โดยมาพร้อมกับโทนสีดำ Onyx Black พร้อมแซมด้วยสีฟ้า ที่ดูแล้วสวยงามและแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน วางตำแหน่งเป็นซีรีส์ Gaming เริ่มต้นของทาง Lenovo
สำหรับ Lenovo IdeaPad Gaming 3i นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่อง เป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอ ขนาดหน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz ด้วยแรมขนาด 8GB และได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB มี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที สร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมหรือทำงานกับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ ที่เด็ดที่สุด ความคุ้มค่าราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 27,990 บาท ที่สำคัญได้การรับประกัน On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน 2 ปีด้วย และได้ประกันอุบัติเหตุด้วย รวมไปถึงบริการหลังการขายอื่นอื่นๆ อีกมากมายด้วย
พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) พร้อม Privacy Shutter และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, HDMI, 2 x USB 3.1 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น ประกัน 2 ปี แบบ On-Site Service โทรแจ้งช่างมาซ่อมได้ถึงที่ รวมไปถึงมีประกันอุบัติเหตุและบริการอื่นๆ อย่างเครื่องสำรองระหว่างรอซ่อมด้วย
สำหรับน้ำหนักและความหนาของตัวเครื่อง Lenovo IdeaPad Gaming 3i ถือว่าเป็นเบาตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คปี 2020 ที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้าในหลายๆ ส่วน แม้จะมีขนาดหน้าจอใหญ่ที่ 15.6″ แต่ก็มีน้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้พกพาไปไหนมาไหนสะดวกสบายมาก โดยรวมแล้วการดีไซน์ของ Lenovo IdeaPad Gaming 3i รุ่นใหม่นี้ถือทำได้ดีมาก ใครจะเอาไปทำงานก็ดูเรียบๆ หรือใครจะเอาไปเล่นเกมก็ตอบสนองได้ดีเป็นรองตระกูล Legion เลย เชื่อได้เลยว่าจะเป็น Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นที่ทำให้ตลาดคึกคักทีเดียว
- Core i5-10300H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 25,990 บาท
- Core i5-10300H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 27,990 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 29,990 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 30,990 บาท
HP Pavilion Gaming 16 ราคา 30,990 – 34,990 บาท
HP Pavilion Gaming 16 รุ่นล่าสุด เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมขนาดหน้าจอ 16.1″ รุ่นแรกของโลก แบบ New Normal กันไปเลย ที่ในตอนนี้พร้อมขายในไทยแล้ว ได้สเปกใหม่ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H อย่าง i7-10750H หรือ Core i5-10300H กับการที่เป็น Gaming Notebook คุ้มค่า จับคู่มากับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 16 Series คุณภาพเยี่ยมอย่าง GTX 1650 Ti ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว ในดีไซน์ที่แตกต่างไปจาก Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ ออกแบบโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวย ทันสมัยให้ความแข็งแรง ทนทาน เพิ่มความโดดเด่น ใช้งานง่ายและสะดวก
ความโดดเด่นยังเป็นเรื่องหน้าจอที่ได้เป็นพาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ได้ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ใช้งานทันที (พร้อมรองรับการอัพเกรด HDD 2.5″ SATA 3 ได้ภายหลัง) มาพร้อมแรมขนาด 8GB DDR4 Bus 2933MHz มี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที สนนราคาขายจริงสเปกนี้อยู่ที่ 30,900 – 34,900 บาท (ต่างกันที่สเปกชิปประมวลผลเท่านั้น) การรับประกันที่เป็นแบบ On-site Service ระยะเวลา 2 ปี
HP Pavilion Gaming 16 รุ่นนี้ยังคงใช้ดีไซน์เดิมเหมือนกับสเปกก่อนหน้า แต่ได้มีการขยับขยายตัวเครื่องให้ใหญ่ขึ้น แน่นอนมีน้ำหนักที่มากขึ้นด้วยเป็น 2.35 กิโลกรัม ได้ช่องระบายความร้อนที่ใหญ่ขึ้นใต้ตัวเครื่องก็มีช่องดูดลมเย็นที่ใหญ่ขึ้น เรียกได้มีความเฉียบและใช้งานได้จริงในเรื่องของการจัดการความร้อน ลำโพงจะอยู่ที่ด้านบนตัวเครื่องเหนือชุดคีย์บอร์ดทำเป็นลายแปดเหลี่ยมพื้นผิวนูนต่ำให้เสียงที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว ที่สำคัญและโดดเด่นกว่ารุ่นไหนในท้องตลาดตอนนี้คือเป็น Gaming Notebook ขอบจอบางที่ดูแล้วสวยงามลงตัวอีกรุ่นนึงในตลาด
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP Pavilion Gaming 16 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับประมาณนึง ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A, USB 3.1 Type-C จำนวน 2 พอร์ต และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แบบแยกไมค์หูฟังหรือไมค์อย่างเดียว แน่นอนว่ามี SD Card Reader เป็นมาตรฐาน อีกทั้งยังมี LAN RJ45 โดดเด่นกว่า Gaming Notebook ทั่วไปตรงที่ทาง HP ได้มีการเล่นสีสันเหมือนกับโทนตัวเครื่องด้วย สัญลักษณ์พอร์ตต่างๆ ก็จะเป็นสีเขียวไปด้วย ดูแล้วลงตัวจริงๆ
- Core i5-10300H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 16.1″ IPS 144Hz ราคา 30,900 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 16.1″ IPS 144Hz ราคา 34,900 บาท
Acer Nitro 5 15 / 17 ราคา 29,990 – 41,990 บาท
Acer Nitro 5 AN515 เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ และ Acer Nitro 5 AN517 เป็น Gaming Notebook ขนาดจอ 17.3″ ได้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H ตอนนี้พร้อมขายอย่างเป็นทางการหลากหลายรุ่นแล้ว โดยผสานความแรงร่วมกับการ์ดจอ GeForce รุ่นล่าสุด ซึ่ง Acer Nitro 5 AN515 / Acer Nitro 5 AN517 เป็นหนึ่งใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ / 17.3″ ราคาคุ้มค่า หนัก 2.3 / 2.7 กิโลกรัม ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นหลากหลาย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม และประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง
สำหรับ Acer Nitro 5 AN515 / Acer Nitro 5 AN517 ใช้ชิปประมวลผล Core i5-10300H / Core i7-10750H เป็นขุมพลังหลัก ทำงานร่วมกับการ์ดจอระดับ Gaming อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti / GTX 160 Ti / RTX 2060 ที่แรงลื่นกว่าเดิมแน่นอน ในส่วนของแรมจัดเต็มมาให้เลยที่ 16GB DDR4 Bus 2933MHz ส่วนที่เก็บข้อมูลให้มามาตรฐาน SSD M.2 NCMe PCIe ความจุ 512GB หน้าจอเป็นพาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลทั้งการเล่นเกมหรือทำงาน แน่นอนว่าได้ Windows 10 ใช้งานได้ทันที
Acer Nitro 5 AN515 / Acer Nitro 5 AN517 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ดีไซน์มีการปรับปรุงใหม่ให้มีความโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม ด้วยเส้นสายลวดลายที่ดูดุดันกว่าที่เคย โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.7 กิโลกรัม และที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo
ติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ พร้อมกับการตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. ติดตั้งปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีแดง รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นไฮไลน์เด่นออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ RGB แบบ 4 โซน ดูแล้วเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความติดมือ ดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน จะเอาไปเล่นเกมหรือทำงานก็ตอบสนองได้ดีเยี่ยม
Acer Nitro 5 AN515 / Acer Nitro 5 AN517 มาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
- Core i5-10300H / GTX 1650 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 29,900 บาท
- Core i5-10300H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 31,990 บาท
- Core i5-10300H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 34,990
- Core i5-10300H / RTX 2060/ RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 35,990
- Core i7-10750H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 39,900 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 17.3″ IPS 144Hz ราคา 41,900 บาท
Lenovo Legion 5i ราคา 32,990 – 46,490 บาท
Lenovo Legion 5i จัดว่าเป็นอีกหนึ่ง Gaming Notebook สเปก Intel Core i Gen 10H ประจำปี 2020 ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ด้วยความโดดเด่นอย่างดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ มี DNA ที่เป็น Legion Series ชัดเจน เลือกใช้ชิปประมวลผล Core i5-10300H / Core i7-10750H ที่ทรงพลังในราคาที่เหมาะสม ได้ทั้งประสิทธิภาพความแรงขึ้นและร้อนน้อยลง แน่นอนว่าเลือกใช้การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti / RTX 2060 ที่มีพลังแรงไว้ใจได้ ติดตั้งแรมเป็น 8GB/16GB DDR4 Bus 2933MHz ผสานกับ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
คีย์บอร์ด Lenovo Legion TrueStrike แม่นยำ นุ่มนวล หนักแน่น พร้อม 4-zone RGB รองรับ anti-ghosting 100% และตอบสนองได้รวดเร็วใน 1ms ทนทานมากขึ้นด้วยการเคลือบสารให้คุณสมบัติต้านทานการเสียดสีและการสึกกร่อน และแบตเตอรี่ที่ปรับใหม่ให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Advanced Optimus และ Hybrid Mode อีกทั้งสามารถเลือกปรับโหมดได้เองระหว่างโหมดการรักษาอุณหภูมิ Quiet, Balance และ Performance นอกจากนี้ยังสามารถเร่งความแรงได้ด้วยการเปิด Dual Burn เพื่อดัน CPU และ GPU ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไปพร้อมๆ กัน
สำหรับ Lenovo Legion 5i นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่องเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมขนาดหน้าจอ 15.6″ หรือ 17.3″ พาเนล IPS คถณภาพดี มีตัวเลือกเป็น Refresh Rate ที่ 144Hz ได้ขอบจอบางเฉียบ นอกจากเล่นเกมได้ดีแล้ว ยังรองรับทั้งการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูง อย่างตัดต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์ 3 มิติ สนนราคาที่ 32,990 – 46,490 บาท ประกันก็เป็นแบบ 2 ปี On-site Service พร้อมบริการหลังการขายอื่นๆ อาทิ ประกันอุบัติเหตุแบบเคลม 100% มีเครื่องสำรองระหว่างรอเครื่องเคลม หรือบริการโทรศัพท์ Call Center 24/7 อีกด้วย
ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบนั้นมีความน่าประทับใจ ได้กล้องเว็บแคมที่ติดตั้งไว้ด้านบนพร้อม Privacy Shutter และปุ่มทิศทางที่ตำแหน่งดีขึ้น ได้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงมีสเปคประสิทธิภาพสูงจาก เหลือเฟือในการใช้งานพื้นฐาน แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน ตัวเครื่องก็ร้อนน้อยจากเทคโนโลยี Legion Coldfront 2.0 ชอบมากๆ เลยก็คือการปรับโหมดเพียง Fn + Q เท่านั้น ด้วยความบางเพียง 26.3 มิลลิเมตร รุ่น 15.6″ มีน้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม ซึ่งเป็นจุดที่สมดุลทั้งในแง่ของประสิทธิภาพในการเล่นเกม และความสามารถในการพกพาได้อย่างลงตัว กับ Gaming Notebook ราคาระดับกลางๆ ที่ไม่ได้เน้นแต่ความคุ้มค่าอย่างเดียว แต่อยากได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีด้วย
ซึ่ง Lenovo Legion 5i รุ่นหน้าจอ 15.6″ และ 17.3″ จะใช้ชื่อรุ่นเดียวกัน สเปกหลักๆ ในส่วนของการ์ดจอเหมือนกันหมด เพราะเราคะดมาเฉพาะรุ่น GTX 1650 Ti และได้แรม 8GB DDR4 (Bus 2933MHz) พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ไม่ต่างกัน แน่นอนว่าในส่วนของประสิทธิภาพก็มีความโดดเด่นไม่เป็นรองกันด้วย รวมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ ก็มีความเหมือนกันอีกด้วย แต่สำหรับรุ่นหน้าจอ 17.3″ ตัวเครื่องก็จะมีน้ำหนักที่มากกว่าด้วย ที่ 2.98 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ Gaming Notebook จอใหญ่แบบนี้
- Core i5-10300H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ 144Hz ราคา 32,990 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ 144Hz ราคา 36,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2060 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ 144Hz ราคา 42,990 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 17.3″ 144Hz ราคา 39,990 บาท
- Core i7-10750H / GTX RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 17.3″ 144Hz ราคา 46,490 บาท
HP OMEN 15 ราคา 39,900 – 49,900 บาท
OMEN 15 Laptop by HP ปี 2020 มีดีไซน์โดยรวมที่เปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว ทั้งนี้รวมไปถึงในส่วนของสเปกภายในที่พร้อมขายเป็น Intel Core i Gen 10H + GeForce GTX / RTX ด้วย ซึ่งด้านแนวทางการออกแบบจัดได้ว่าพลิกโฉมไปเลย โดยเน้นความเรียบง่ายอย่างที่สุด ส่วนสีสันก็เป็นดำด้านตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยมีโลโก้ OMEN ที่โดดเด่นซึ่งปรับให้มินิมอลสุดๆ ที่เชื่อได้ว่าแฟนๆ ของ OMEN ต้องถูกใจกับรุ่นใหม่นี้อย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุดในไทยได้พร้อมจำหน่ายแล้ว สนนราคาอยู่ที่ 39,990 บาท ส่วนประกันแบบ On-site 2 ปีตามมาตรฐานของ HP
ซึ่งถ้าเทียบ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ รุ่นก่อนๆ คงเป็นเรื่องของมิติตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระชับ ขอบจอบาง ที่สำคัญคือตัวเครื่องบางที่ 22.6 มิลลิเมตร พร้อมกับน้ำหนัก 2.35 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้ระดับ 200Watt เข้าไปด้วย ก็จะมีน้ำหนักที่ประมาณ 2.9 กิโลกรัม ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างดีเลยทีเดียว สำหรับการใช้งานแบตเตอรี่ได้ทำการเคลมว่าใช้งานได้ 12.5 ชั่วโมงทีเดียว
สำหรับสเปก OMEN 15 Laptop by HP ปี 2020 เลือกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H อย่าง Core i5-10300H / Core i7-10750H การ์ดจอเป็น NVDIA GeForce GTX 1660 Ti / RTX 2060 / RTX 2070 Max-Q ส่วนแรมได้มาขนาด 8GB DDR Bus 2933MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB พร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญได้หน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS ที่ 144Hz กับระบบระบายความร้อน OMEN Tempest Cooling และมี OMEN Command Center ปรับแต่งการใช้งาน
พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวใช้งาน Video Call ได้อย่างลื่นไหล พร้อมติดตั้ง Windows 10 แท้พร้อมใช้งานได้ทันที พอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันทั้ง 3 x USB 3.2 Type-A, 1 x Thunderbolt 3 (USB 3.2 Type-C), HDMI, mini Display Port, Kensington lock slot, ช่องเสียบหูฟังกับไมค์แบบคอมโบ และช่องเสียบไมค์แยกก็มีมาให้ด้วย ส่วนมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX (2×2)
ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน วัสดุจะเป็นอะลูมิเนียมแบบขัดลายสวยงามให้ความรู้สึกที่แข็งแรง ตัดด้วยไฟสี RGB พร้อมไฮไลน์ปุ่ม WASD ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี อีกทั้งยังมีคำว่า O15 อยู่มุมซ้ายล่างแป้นคีย์บอร์ด ส่วนด้านซ้ายบนจะเป็นปุ่ม Power มีไฟเมื่อเปิดใช้งาน ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำขอบสีแดง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีขาวโปร่งแสงพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง ขนาด Full Size มาตรฐานปกติ อย่างไรก็ตามมีการตัด Numpad ออกไปเพื่องานดีไซน์ที่ลงตัวนั่นเอง
- Core i5-10300H / GTX 1660 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 39,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2060 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 44,990 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2070 Max-Q / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 49,990 บาท
ASUS ROG Strix G15 GL542 ราคา 32,900 – 46,900 บาท
ASUS ROG Strix G15 GL542 / G17 GL742 เป็น Gaming Notebook ที่มีสเปกอัพเดทเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H เน้นความคุ้มค่าและฟีเจอร์ที่มากกว่า โดดเด่นด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB พร้อม Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง ที่เราสามารถปรับแต่ได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสดใหม่ด้วยระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ทำงานร่วมกับสารโลหะเหลว (liquid metal) จากทาง Thermal Grizzly เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผล แทนการใช้ซิลิโคนนำความร้อนแบบปกติ
สำหรับ ASUS ROG Strix G15 GL542 / G17 GL742 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมจอ 15.6″ / 17.3″ สเปกระดับบนในราคาคุ้มค่า ได้ชิปประมวลผลตัวแรง Intel Core i5-10300H / Core i7-10750H พร้อมด้วยการ์ดจอประสิทธิภาพสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti / GTX 1660 Ti / RTX 2060 (6GB GDDR6) ได้แรมขนาด 8GB / 16GB DDR4 Bus 2933MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB อีกทั้งได้หน้าจอเป็นพาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, HDMI, 3 x USB 3.1 Type-A, Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45, Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX (2×2) แน่นอนว่าได้ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันทีตั้งแต่เปิดเครื่องในครั้งแรก กับราคาเพียง 32,900 – 46,900 บาท ที่บอกได้เลยไม่แพงเลย ถ้าดูจากสเปกและฟีเจอรที่ติดตั้งมาให้แล้ว โดยได้ประกัน 2 ปี ที่สามารถเคลมผ่าน 7-11 ได้ ปีแรกมีประกันอุบัติเหตุด้วย
ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ROG Strix G15 / GL542 / G17 GL742 เป็น Gaming Notebook ขอบจอบางตัวเครื่องมิติเล็กกระชับทั้ง 3 ด้าน คือ บน ซ้ายและขวา พร้อมตัดกล้องเว็บแคมออกไป มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.3 / 2.85 กิโลกรัม มีความบางสุดที่ 21~25.8 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าโดยรวมมาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบ ได้รับ DNA เต็มๆ มาจาก ASUS ROG Strix รุ่นก่อน ซึ่งมีความพิเศษสุดๆ คือได้ทาง BMW Designworks Group มาร่วมออกแบบด้วย เห็นได้ชัดจากชุดระบายความร้อนด้านหลังที่เป็นครีบคล้ายกับเสื้อสูมมอเตอร์ไซต์จาก BMW เรียกได้ว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น
- Core i5-10300H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 32,900 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1650 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 36,900 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 42,900 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 46,900 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 17.3″ IPS 144Hz ราคา 46,900 บาท
- Core i7-10750H / RTX 2070 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 17.3″ IPS 144Hz ราคา 54,900 บาท
MSI GL65 ราคา 33,900 – 36,900 บาท
MSI GL65 Leopard จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่จัดเต็มไม่แพ้รุ่นท็อป แต่ได้ราคาที่คุ้มค่าต่อสเปกสุดๆ โดยจัดเต็มจากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H และการ์ดจอ Gaming จากทาง NVIDIA ได้แรมมาขนาด 16GB DDR4 Bus 2666MHz เป็นมาตรฐาน ติดตั้งแหล่งเก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB / 1TB (อัปเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA 3 ได้อีก) หน้าจอ 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 และซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
ที่สำคัญ MSI GL65 Leopard ได้ดีไซน์ดุดันตามสไตล์ของ G Series จาก MSI ยังมีฟีเจอร์ Gaming มากมาย อาทิ ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟสีแดง แบบปรับแต่งแยกปุ่มอิสระ มีพอร์ตการเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB-C / A 3.2 และอื่นๆ พร้อมการเชื่อม Wi-Fi 6 AX โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัมเท่านั้น ประกอบกับการใช้หน้าจอที่ขอบบาง ทำให้ตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด สะดวกต่อการพกพามากยิ่งขึ้น
MSI GP65 Leopard รุ่นใหม่ล่าสุดด้วยชิปประมวลผลตัวแรง ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีราคาตั้งแต่ 33,900 – 36,900 บาท สเปกเป็น Core i7-10875H (2.30 GHz, 16 MB L3 Cache, up to 5.10 GHz) ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด หรือ Core i7-10750H (2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1650 Ti เรียกได้ว่าตอบสนองการเล่นเกมได้เต็มที่ตามความคุ้มค่า
ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2 ชาแนลแบบ Giant Speaker บนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, USB 3.2 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX น้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม ได้ประกัน 2 ปี มี Windows 10 แท้ มาพร้อมกับการดีไซน์สีสันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สีโทนดำและเทาแบบทูโทนจากวัสดุบอดี้ตัวเครื่องฝาหลังจะเป็นอลูมิเนียมสัมผัสผิวเรียบหรูสวยงาม ผสานกับโลโก้มังกร MSI มีไฟสว่างสีขาวเมื่อเปิดเครื่อง ดูโดยรวมแล้วเรียบง่ายกว่า ดุดันสไตล์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Hi-End ในราคาคุ้มค่า มีความบางของตัวเครื่องเพียง 27.5 มิลลิเมตร รอบๆ ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานต่าง ๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- Core i7-10750H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 33,900 บาท
- Core i7-10750H / GTX 1650 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 36,900 บาท
MSI GF75 Thin ราคา 42,900 – 44,900 บาท
MSI GF75 Thin เป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ใช้สเปก Core i Gen 10 H ตัวแรงลื่นเน้นประสิทธิภาพ ทำงานเต็มที่ร่วมกับการ์ดจอ GeForce RTX Series มีหน้าจอขนาด 17.3″ ดีไซน์ขอบบางพิเศษ ทำให้มิติตัวเครื่องเทียบกับรุ่นหน้าจอ 15.6″ เท่านั้น ใหม่ล่าสุดด้วยสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ที่ความเร็ว 2.60 – 5.00 GHz และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) / RTX 2060 (6GB GDDR6)
หน้าจอขนาด 17.3″ แบบด้าน ให้ความรู้สึกที่เต็มอารมณ์กว่า 15.6″ บนความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนลบนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ส่วนของแรมมีขนาด 16GB DDR4 Bus 2666MHz แบบ 8GB x 2 (Dual Channel) มีที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB พร้อมรองรับการอัพเกรดด้วย HDD 2.5″ อีก 1 ตัวด้วย
หน้าตาการออกแบบเอง MSI GF75 Thin มีความโดดเด่นทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม ซึ่งมีดีไซน์และแนวทางการออกแบบคล้ายกับ MSI GF63 ซึ่งเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 17.3″ ที่เน้นความบางเบาเช่นเดียวกัน ซึ่งด้วยน้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม และมีความบางที่ 22~23.1 มิลลิเมตร
ทำให้เป็น Gaming Notebook หน้าจอใหญ่ ที่เล็ก บางเบา กระทัดรัด ที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดตอนนี้เลย แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน พร้อม Ergonomics View Design ที่ช่วยยกตัวให้สูงขึ้นจากพื้น ส่งผลให้พัดลมสามารถดูดลมเย็นเข้าไปได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งการเอียงของตัวเครื่องเล็กน้อยนั้น ก็ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง
ระบบระบายความร้อนเป็น Cooler Boost 5 ฮีทไปป์ 7 เส้น ด้านฐานล่างใช้วัสดุพลาสติก ABS งานประกอบแน่นหนาแข็งแรง มียางรอง 4 มุม ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ในจุดนี้สามารถถอดอัพเกรดได้ไม่ยาก รวมถึงซ่อมบำรุงรักษาทำความสะอาดเครื่องในระยะยาวได้สะดวกสมเป็น Gaming Notebook ตัวแรงใช้งานยาวๆ อย่างที่เราไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทาน