Connect with us

Hi, what are you looking for?

TOP CONTENT

แนะนำ Gaming Notebook ระดับเทพตัวท็อป ปี 2020 ชิปประมวลผล Intel Core i9-10980HK / i9-10900K จับคู่มาสเปกสูงสุด RTX 2080 Super + RAM 64GB + SSD 2TB ราคา 84,900 – 169,900 บาท

สำหรับคนที่ต้องการที่สุดของ Gaming Notebook ประจำปี 2020 ที่ได้ประสิทธิภาพทรงพลังที่สุดพร้อมฟีเจอร์จัดเต็มที่สุด ทั้งหมดจะติดตั้งมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i9-10980HK ที่เป็น CPU ของ Notebook ที่แรงที่สุดในตลาด รวมไปถึงมีบางรุ่นเลือกติดตั้ง Core i9-10900K ที่เป็น CPU ตัวท็อปของ Desktop PC ด้วย

สำหรับคนที่ต้องการที่สุดของ Gaming Notebook ประจำปี 2020 ที่ได้ประสิทธิภาพทรงพลังที่สุดพร้อมฟีเจอร์จัดเต็มที่สุด ทั้งหมดจะติดตั้งมาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i9-10980HK ที่เป็น CPU ของ Notebook ที่แรงที่สุดในตลาด รวมไปถึงมีบางรุ่นเลือกติดตั้ง Core i9-10900K ที่เป็น CPU ตัวท็อปของ Desktop PC ด้วย เรียกได้ว่าถ้าเทียบความแรงกับ Core i7-10750 หรือ i7-10875H แล้ว แรงแบบก้าวกระโดดทีเดียว

โดยผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอแยก (GPU) อย่าง NVDIA GeForce RTX / RTX Super จากเทคโนโลยีการผลิตสถาปัตยกรรม Turing ที่ดีเยี่ยม รองรับการเล่นเกมทุกๆ เกมบนโลกแบบลื่นไหลสุดๆ อีกทั้งให้ความสำคัญเรื่องความสวยงามด้วย โดยมีรุ่น RTX 2070 / RTX 2080 / RTX 2070 Super / RTX 2080 Super เน้นไปที่ Gaming Notebook ที่ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมระดับสูงโดยเฉพาะ

Advertisement
ASUS ROG Zephyrus Duo 15 i9

โดยชิปประมวลผลที่ทรงพลังที่ของ Gaming Notebook อย่าง Intel Core i9-10980HK เป็นสถาปัตยกรรม Core i Gen 10H (Comet Lake H) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ได้ความเร็วระดับ 2.40 – 5.30 GHz ที่เป็น ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ที่แรงลื่นกว่ารุ่นก่อน รวมไปถึงมีรุ่นแรงกว่าเพราะเป็นชิปประมวลผล Desktop โดยเฉพาะอย่าง Core i9-10900K มีความเร็วระดับ 3.70 – 5.30 GHz ที่เป็น ทำงานแบบ 10 คอร์ 20 เธร์ด ที่จัดว่าเป็นชิปประมวลผลที่แรงยิ่งกว่า

พร้อมติดตั้งหน่วยความจำแรมขนาดจัดเต็มที่ 32GB – 64GB และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB – 2TB ฉะนั้นแล้วใครจะซื้อ Gaming Notebook ระดับสูง ชิปประมวลผลของ Intel ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างแน่นอนที่สุด โดยมีผู้ผลิตทุกค่ายไม่ว่าจะเป็น ASUS / MSI / Lenovo / Dell ในการนำเสนอ Gaming Notebook ระดับสูง ที่จับคู่มากับชิปประมวลผลและการ์ดจอแยกระดับไฮเอนด์ ได้หน้าจอเกรดสูงทั้งหมด สนนราคาตั้งแต่ 84,900 – 169,900 บาท จะมีรุ่นอะไรบ้าง ไปชมกันต่อเลย

MSI GT76 Titan ราคา 169,900 บาท

MSI GT76 Titan ที่เป็นรุ่นใหญ่สุดประจำ Gaming Notebook ปี 2020 สำหรับสเปกก็แรงที่สุด โดยเป็นชิปประมวลผลสูงสุดอย่าง Intel Core i9-10900K ที่ยกมาจาก Desktop ส่วนการ์ดจอก็เป็นตัวประสิทธิภาพสูงสุดด้วย NVIDIA GeForce RTX 2080 Super (8GB GDDR6) แรมการ์ดจอ GDDR6 8 GB รองรับแรมได้ 4 ช่อง โดยในเครื่องติดตั้งเอาไว้ที่ 64GB (16GB x 4) ให้ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 2TB พร้อมฮาร์ดดิสก์อีก 1TB หน้าจอขนาด 17.3″ ที่ความละเอียด 4K Ultra HD พร้อมขอบเขตสีระดับเทพ 100% AdobeRGB ด้วยพาเนล IPS เกรดดีที่สุด มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันทีและ ซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่ ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

GT76 Titan DT f i9

ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ MSI Cooler Boost Titan ที่มีพัดลมถึง 4 ตัว และฮีตไปป์ 11 เส้น เอาอยู่แน่นอนกับชิปประมวลผลระดับ Desktop คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมระบบปรับไฟ RGB ได้รายปุ่ม และไฟ Mystic Light ที่ตัวเครื่อง ระบบเสียง Dynaaudio รองรับ Hi-Res มี Killer Wi-Fi 6 ระบบแลน Killer DoubleShot Pro มีช่อง Thunderbolt 3 สเปคนี้จัดเต็มสุดๆ เลยสำหรับ MSI GT76 Titan กับน้ำหนักตัวเครื่อง 4.2 กิโลกรัม โดยบอกตรนี้เลยว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นของโลกที่แรงที่สุดขณะนี้ก็ว่าได้ สนนราคาที่ 169,900 บาท

โดยการ์ดจอ GeForce RTX 2080 Super การ์ดจอตัวใหม่ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของการ์ดจอรุ่นก่อนหน้า อย่าง GeForce RTX 2080 แน่นอนว่าเหนือชั้นกว่า RTX ทุกๆ รุ่น โดยมาพร้อมกับ Tensor cores หรือรองรับกับเทคโนโลยี ray-tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากก่อน ที่ไม่ใช่แค่ลื่นไหล แต่กราฟิกปรับได้สวยงามอย่างที่สุดด้วย

GT76 Titan DT bo i9

หน้าจอขนาด 17.3″ แบบด้าน ความละเอียด 4K Ultra HD พาเนล IPS เกรดดีที่สุด รองรับ Refresh Rate ที่ 60Hz แน่นอนว่าทุกเกมที่ปรับความละเอียดนี้มีความลื่นไหลทั้งหมดแน่นอน ที่สำคัญตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.1 ชาแนลแบบ Giant Speaker บนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วน

ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 4 ช่อง, USB 3.1 Type-C อีก 2 ช่อง (1 ช่องเป็นมาตรฐาน Thunderbolt 3), HDMI, mini-DisplayPort, micro SD card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 พร้อม KILLER SHIELD ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX ที่ทำงานร่วมกัน LAN เป็น Killer Doubleshot Pro  มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 4.2 กิโลกรัม ประกัน 2 ปี มี Windows 10 แท้ 

ASUS ROG Zephyrus Duo 15 ราคา 149,900 บาท

ปฏิวัติวงการ Gaming Notebook อีกครั้ง สำหรับการมาของ ASUS ROG Zephyrus Duo 15 ที่สุดของ Gaming Notebook ประจำปี 2020 ซึ่งจัดว่าเป็นรุ่นพี่ใหม่สุดล้ำที่สุดของตระกูล ROG โดดเด่นด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i9-10980HK และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2080 Super พร้อมจัดเต็มด้วยฟีเจอร์มากมาย แต่ที่เป็นจุดเด่นที่สุดก็คือนวัตกรรมหน้าจอที่สอง ROG ScreenPad Plus ที่ถูกยกมาจาก ASUS ZenBook Pro Duo UX581 ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการเล่นเกมและทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบ มีความพิเศษที่เมื่อกางหน้าจอหลักขึ้นมา จอที่สองก็ยกตัวให้สูงยิ่งขึ้นทำให้ได้มุมมองใช้งานลงที่สุด

ROG Zephyrus Duo 15 l i9

ASUS ROG Zephyrus Duo 15 เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ ระดับสูง 4K sRGB 100% (หรือ Full HD 300Hz) + หน้าจอที่สอง ROG ScreenPad Plus โดยทำงานร่วมกันอย่างลงตัวสุดๆ นอกจากนี้ยังได้เรื่องของระบบระบายความร้อน AAS Plus amplifies airflow ที่ให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้นกว่า 30% อีกทั้งทั้งทำงานร่วมกับซิลิโคนนำความร้อนขั้นเทพอย่าง Liquid Metal จากทาง Thermal Grizzly ที่เป็นส่วนหนึ่งในการจัดการความร้อน ที่ก่อนหน้านี้เคยใชใน ASUS ROG Mothership GZ700 ไปแล้ว ในส่วนของไฟ RGB คีย์บอร์ด, ระบบเสียง, และการเชื่อมต่ออื่นๆ ก็จัดเต็มที่สุด สมกับเป็นหนึ่งในที่สุดของ Gaming Notebook ปี 2020 จริงๆ

สำหรับสเปกภายในเลือกใช้ชิปประมวลผลตัวท็อปสุดเป็น Intel Core i9- 10980HK ความเร็ว 2.40 – 5.30 GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมการ์ดจอรุ่นใหม่ที่แรงลื่นและร้อนน้อยสุดๆ อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2080 Super Max-Q (8GB GDDR6) โดยแรงกว่า RTX 2080 Max-Q รุ่นก่อนหน้า ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Gaming Desktop ตัวไฮเอนด์ มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ความจุ 2TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 32GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz ขนาด 16GB จำนวน 2 แถว พร้อมรองรับ Dual Channel

ROG Zephyrus Duo 15 bk i9

ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ROG Zephyrus Duo 15 ดูเป็น Gaming Notebook ที่ได้รับ DNA จาก ASUS ROG มาอย่างเต็มเปี่ยม โดยมีน้ำหนักเบาทเพียง 2.4 กิโลกรัม และเนื่องด้วยมีขอบจอที่ค่อนข้างบาง ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพาสะดวกสบาย แม้จะไม่ได้เบาที่สุดๆ แต่ได้ฟีเจอร์จัดเต็มแบบไร้คู่แข่ง เพราะในตลาดตอนนี้แนวคิดหน้าจอที่สองขนาดใหญ่โตระดับ 14.1″ แบบนี้มีเพียง ASUS เท่านั้น ได้ความละเอียดเป็น 3840 x 1100 พิกเซล พาเนล IPS เกรดสูง รองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วและปากกา แบบนี้มีเพียง ASUS เท่านั้น

ซึ่งการออกแบบออกมาได้ดูทันสมัยและเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของมุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบมุมเป็นเหลี่ยม มิติโดยรวมเป็นแบบสี่เหลี่ยมตัดขอบสวยงามให้ผิวสัมผัสที่ดีอารมณ์ซีรีส์ StudioBook ลักษณะสีเงินพร้อมสลับด้วยสีดำลงไปที่ไม่เหมือนใคร ส่วนวัสดุงานประกอบจะเป็นอลูมิเนียมเกรดสูงทั้งหมด สำหรับตำแหน่งของคีย์บอร์ดที่แตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นทั่วไปอย่างชัดเจน จากการที่เลื่อนชุดแป้นคีย์บอร์ดมาไว้ด้านล่างสุด และขยับในส่วนของทัชแพดออกไปด้านข้าง จากการที่ด้านบนเหนือคีย์บอร์ดได้มีการติดตั้ง ROG ScreenPad Plus เอาไว้นั่นเอง

Dell Alienware m15 R3 ราคา 124,900 บาท

Dell Alienware m15 R3 ที่สุดของ Gaming Notebook ประจำปี 2020 จากทาง Dell สเปกสุดแรงดีไซน์สุดล้ำ หน้าจอขนาด 15.6″ มีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงจากการที่ขอบจอบาง เล็กกว่ารุ่นก่อนๆ โดยมีน้ำหนักแค่ 2.16 กิโลกรัมเท่านั้น และมีความบางสุดๆ ของตัวเครื่องเพียง 17.9 มิลลิเมตร กับสเปกที่จัดเต็มด้วยชิปประมวลผล Intel Core i9-10980HK ความเร็ว 2.40 – 5.30 GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2080 Super Max-Q สนนราคาขายจริงอยู่ที่ 124,990 บาท  ซึ่งในส่วนของประกันเป็นแบบ 2 ปี เป็นบริการ Dell Premium Support ซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก 1 วันทำการ (On-site Sevice) ที่หลายคนประทับใจกันอยู่แล้ว 

ในส่วนของสเปกและฟีเจอร์อื่นๆ ของ Dell Alienware m15 R3 ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มาพร้อมกับแรมขนาด 32GB และ SSD M.2 NVMe PCie ความจุ 1TB ได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD (1920 x 1080) มี Refresh Rate ที่ 300Hz กับความสว่างสูงถึง 300-nits ได้ค่าขอบเขตสี sRGB 100% color gamut รวมไปถึงมี Tobii Eyetracking ที่เราสามารใช้ดวงตาในการเล่นเกมอีกด้วย ส่วนการเชื่อมต่อก็จัดเต็มด้วย Killer Wi-Fi 6 AX1650 (2×2) และ Bluetooth 5.0 มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที

20200513 Alienware m15 R3 01 i9

สำหรับ Dell Alienware m15 R3 เป็น Gaming Notebook ที่หลายคนจับมอง จากความสวยงามหรูหราเกินหน้าเกินตา และเป็น Gaming Notebook ระดับบนของทาง Dell ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสเปกแรงลื่น นอกจากนี้ยังได้ฟีเจอร์ไฟ RGB ล้ำๆ อย่าง AlienFX Lighting Zones  ที่ปรับแต่งได้รอบตัว และ Tobii Eye Tracker ไว้เล่นเกมด้วยดวงตา ส่งผลให้มีความเหนือชั้นมากกว่า Gaming Notebook ในระดับราคาช่วงเดียวกัน

ตัวเครื่องโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดต่างๆ ที่สวยงามตามสไตล์ Alienware ที่สำคัญด้วยเทคโนโลยี Advanced Alienware Cryo-Tech v3.0 ได้ชุดระบายความร้อนก็มีขนาดที่ใหญ่มาก โดยได้พัดลม 2 ตัวขนาดใหญ่ ดูดอากาศเย็นจากใต้ตัวเครื่องพร้อมเปล่าออกผ่านทางฮีทไปป์และฟินขนาดใหญ่ไปทางด้านหลังและด้านข้างออกตัวเครื่อง เชื่อได้เลยว่า Dell Alienware m15 R3 ตัวนี้ต้องจัดการอุณหภูมิได้ดีอย่างแน่นอน

20200513 Alienware m15 R3 02 i9

มาพร้อมกับไฟ RGB 16.8 ล้านสี ด้วย AlienFX Lighting Zone ตามสไตล์ของ Alienware ที่เราสามารถปรับแต่งได้ดั่งใจ ทั้งส่วนของคีย์บอร์ดที่ดูแล้วสวยงาม อีกทั้งด้านหลังตัวเครื่องที่เป็นการแยกชุดระบายความร้อนออกมาตามสไตล์ของ Alienware ก็ยังมีการติดตั้งไฟ RGB เอาไว้ ทั้งโลโก้หลังและปุ่ม Power ที่ยอมรับเลยว่าตรงนี้ดูเก๋มากๆ โดดเด่นแบบสุด ให้อารมณ์ด้วยรวมของตัวเครื่องแบบรถยุโรปราคาแพงทีเดียว ที่สำคัญช่องระบายความร้อนก็เป็นแบบรังผึ้งที่ลงตัวสุดๆ ทั้งขอบด้านหลังและเหนือชุดคีย์บอร์ด เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นความแรง งานประกอบ ดีไซน์ที่ดุดัน และการรับประกันเทพๆ แล้วล่ะก็ Dell Alienware m15 R3 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว

Lenovo Legion 7i ราคา 99,990 บาท

Lenovo Legion 7i ที่สุดของ Gaming Notebook ประจำปี 2020 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่เกมเมอร์มองหาใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ตัวเครื่องภายนอกผลิตด้วยโลหะเฉดสี Slate Grey ตัดด้วยเส้นแสงไฟ RGB สุดล้ำ ให้น้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม แต่ภายในนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังชิปประมวลผลสูงสุดอย่าง Intel Core i9-10980HK ความเร็ว 2.40 – 5.30 GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด พร้อมด้วยการ์ดจอที่ดีที่สุดอย่าง NVDIA GeForce RTX 2080 Super Max-Q (8GB GDDR6) อัดแรมได้มากสุดๆ ที่ 32GB DDR4 แบบ Dual Channel โดยติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB ที่ทำงานร่วมกัน Intel Optane 32GB อีกด้วย

จุดเด่นคือได้หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ความสว่าง 500 nitts ความแม่นยำสี Adobe sRGB สูง 100% และ VESA DisplayHDR 400 เพื่อการแสดงรายละเอียดของภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น ลดเวลาการตอบสนองให้เหลือน้อยกว่า 1ms ผ่าน OverDrivesupport อีกทั้งด้วยฟีเจอร์ G-SYNC ที่ทำงานร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA ให้ภาพลื่นไหลไม่ฉีกขาด พร้อมเทคโนโลยี Dolby Vision และ Dolby Atmos Speaker System เพื่อประสบการณ์ความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ

Legion 7 f 1 i9

โดดเด่นด้วยระบบระบายความร้อนเต็มไปด้วยนวัตกรรมขั้นสูง Lenovo Legion Coldfront 2.0ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการอุณหภูมิ มาพร้อม Vapor Chamber และเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน 6 ตัว และพัดลมแบบ liquid crystal polymer ช่วยเพิ่มการไหลเวียนอากาศและถ่ายเทความร้อนสี่จุดรอบตัวเครื่อง อีกทั้งระบบ Dual Burn ที่จัดการ การทำงานของ CPU  และ GPU ให้ทำงานร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด อัพเกรดให้ทุกสัมผัสบนแป้นพิมพ์ตอบโจทย์การเล่นได้ดียิ่งกว่าเดิม ด้วย Lenovo Legion TrueStrikeKeyboardรองรับ anti-ghosting ตอบสนองรวดเร็วในระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาที ให้สัมผัสของการลงปุ่มกดที่นุ่มนวลแต่หนักแน่นเสมือนใช้ปุ่มกดจากแป้นคีย์บอร์ดสำหรับเกมมิ่ง ดีไซน์ขอบโค้งรับกับนิ้วมือ ปรับแต่งเฉดสีได้มากถึง 16 ล้านเฉด ด้วยระบบ CorsairiCUE

Legion 7 bk 1 i9

คีย์บอร์ดของ Lenovo Legion ทุกรุ่นแข็งแรงทนทานผ่านการเคลือบเพื่อต้านทานการเสียดสีและการสึกกร่อนอีกด้วย Lenovo Legion 7i มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 80WHr สามารถให้พลังงานได้นานถึง 8 ชั่วโมง อะแดปเตอร์ขนาดเล็กลง เพิ่มความยืดหยุ่นในการพกพา และระบบ Rapid Charge Pro ช่วยชาร์จแบตเตอรี่ถึง 50% ได้ภายใน 30 นาที อีกทั้งได้ประกัน 2 ปี On-site Service พร้อมบริการที่สามารถโทรแจ้งช่างมาซ่อมได้ถึงที่ รวมไปถึงมีประกันอุบัติเหตุโดยนำเครื่องเข้าซ่อมได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง หากเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ พร้อมการสนับสนุนด้านชิ้นส่วนและบริการ 100% และบริการอื่นๆ อย่างเครื่องสำรองระหว่างรอซ่อมด้วย รวมไปถึงมีบริการ Call Center 24/7 

MSI GS66 Stealth ราคา 89,900 บาท

MSI GS66 Stealth ที่สุดของ Gaming Notebook ประจำปี 2020 มีรายละเอียดต่างจากรุ่นก่อนมากมาย ทั้งสเปกและดีไซน์พรีเมียม โดยเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่เน้นความบางเบาหรูหรา ด้วยสีสันตัวเครื่องที่ดำด้านสนิทตลอดทุกส่วน โดดเด่นด้วยโลโก้ MSI ฝาหลังเป็นแบบการยิงเลเซอร์ฝังลงไป ให้ความพรีเมียมเรียบเนียนอย่างที่สุด ได้ความแรงไม่เป็นรอง Gaming Notebook เครื่องหนักๆ หนาๆ โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ที่พกพาได้สะดวก ที่รักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 2.1 กิโลกรัม บางที่ 19.8 มิลลิเมตร

GS66 Stealth 10SE l i9

ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 รหัส H อย่าง Core i9-10980HK ความเร็ว 2.40 – 5.30 GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ส่วนการ์ดจอก็เป็น NVIDIA GeForce RTX 2080 Super Max-Q (8GB GDDR6) ได้แรมขนาด 32GB และ SSD ต้องจัดเต็มที่ 1TB มาพร้อมการเชื่อมต่อที่ครบครันด้วย Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 3 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในขณะนี้ ที่สำคัญคือได้หน้าจอเป็นพาเนล IPS เกรดสูง ความละเอียด Full HD ที่รองรับ Refresh Rate ที่สูงถึง 240Hz ทีเดียว เรียกได้ว่าส่วนสเปกฮาร์ดแวร์จัดเต็มแบบสุดๆ ไปเลย ได้คีย์บอร์ด SteelSeries ที่การันตีว่าของดีแน่นอน ด้วย Per-Key RGB Gaming Keyboard พร้อมแป้นแบบใหม่สวยงามเข้ากับตัวเครื่อง

ตัวเครื่องยังมีลำโพงจากแบรนด์ Dynaudio พร้อมซอฟแวร์เสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า มาพร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-C Gen2 และ Thunderbolt 3 (รองรับ DisplayPort / PD charging) อย่างละ 1 ช่อง, 3 x Type-A USB3.1, 1x RJ45, 1x (4K @ 60Hz) HDMI บอกเลยว่าจัดเต็มมากๆ ส่วนช่องหูฟัง Hi-Res Audio และไมค์แบบแจ็คทอง 3.5 มิลลิเมตรเป็นแบบแยกออกจากกัน เอาใจ Gaming Headset ทีเดียว การเชื่อมต่อไร้สายก็จะมีมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX + Bluetooth 5.1 รวมไปถึงมี Killer Doubleshot Pro ทำให้เล่นเกมได้ไม่สะดุดทั้ง LAN และ Wi-Fi

GS66 Stealth 10SE bk i9

MSI GS66 Stealth ใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อน MSI Cooler Boost Trinity+ ขจัดความร้อนได้ดีกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยการระบายอากาศที่ดีขึ้นถึง 10% เน้นความบางด้วยการนำใบพัดขนาด 0.1 มม. มาใส่ไว้ ทำให้ได้อุณหภูมิที่ดีที่สุดในขณะเล่นเกม ด้วยพัดลม 3 ตัวที่แตกต่างกัน เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผลและการ์ดจอ หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานราวๆ 9 ชั่วโมง ถือว่ายาวนานมากสำหรับ Gaming Notebook แรงลื่นขนาดนี้

MSI GE66 Raider ราคา 89,900 บาท

ที่สุดของ Gaming Notebook ประจำปี 2020 ขนาดหน้าจอ 15.6″ รุ่นล่าสุด อย่าง MSI GE66 Raider ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2020 จัดว่าเป็น Gaming Notebook สุดล้ำ ออกแบบมาสำหรับยุคอนาคต โดยเป็นการผสมผสานการออกแบบระหว่างคอนเซปต์ Sci-Fi รูปทรงภายนอกนั้นมีการนำความเป็นยานอวกาศในโลกอนาคตมาปรากฏอยู่บนรูปทรงของตัวเครื่อง สื่อถึงเรื่องของประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการใช้งานที่เหนือกว่าใคร สเปกภายในเป็น Intel Core i Gen 10H ที่ดีที่สุด ผสานการทำงานกับ NVIDIA GeForce RTX 2070 Super สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มทั้งแรมและ SSD M.2 เกรดสูง

วัสดุหลักรวมถึงส่วนของฝาพับทำมาจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง สีสันโทนไทเทเนียมเงินแบบด้านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รูปทรงโดยรวมมีความคล้ายกับ MSI GT76 Titan รุ่นพี่ และในส่วนหลักของแสงที่ส่องสว่างออกมาจากบริเวณด้านหน้าของที่วางมือ ก็คือ Mystic Light แสดงแสงไฟแบบ Panoramic Aurora วัสดุเป็นอะคริลิคที่รมดำเข้ากับตัวเครื่อง ประกอบกับไฟ Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries หน้าจอเป็น IPS ระดับ 240Hz พร้อมลำโพง Duo Wave Speaker ระบบเสียง Dynaudio ทั้งหมดนี้ช่วยให้เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

GE66 Raider f 1 i9

MSI GE66 Raider ใช้ชิปประมวลผลตัวท็อปสุดเป็น Intel Core i9-10980HK ความเร็ว 2.40 – 5.30 GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด ที่สุดแสนจะทรงพลังในการทำงาน พร้อมการ์ดจอรุ่นใหม่ที่แรงลื่นและร้อนน้อยสุดๆ อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super (8GB GDDR6) ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Gaming Desktop ตัวระดับบน รองรับการเล่นเกมได้ดีที่เยี่ยมสุดๆ มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ความจุ 1TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 32GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz พร้อมรองรับ Dual Channel จัดเต็มไม่เป็นรองใคร

MSI GE66 Raider i9

สำหรับ MSI GE66 Raider จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งมีทั้ง 3 x USB 3.2 Type-A, 2 x USB 3.2 Type-C, HDMI, Mini DisplayPort, LAN, SD Card Reader, รูหูฟังและไมค์โครโฟน 3.5 mm และช่องเสียบอแดปเตอร์เหมือน MSI GT76 Titan การเชื่อมต่อแบบไร้สายแบบ Killer ac Wi-Fi 6 (AX)+ Bluetooth 5.0 ซึ่งตัวเครื่องมาพร้อมฟีเจอร์ Killer Doubleshot Pro จัดลำดับความสำคัญให้กับการเชื่อมต่อของเกมมาเป็นอันดับแรก ทำให้มีความเสถียรของอินเตอร์เน็ตมากกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นพอสมควร

ASUS ROG Strix SCAR 17 G742L ราคา 84,900 บาท

ASUS ROG Strix SCAR 17 G742L เป็นที่สุดของ Gaming Notebook ประจำปี 2020 ที่มีสเปกอัพเดทเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H เน้นความพรีเมียมใน ราคาที่คุ้มค่า และได้ฟีเจอร์ที่มากกว่า โดดเด่นด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB พร้อม Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง ที่เราสามารถปรับแต่ได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสดใหม่ด้วยระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ทำงานร่วมกับสารโลหะเหลว (liquid metal) จากทาง Thermal Grizzly เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผล แทนการใช้ซิลิโคนนำความร้อนแบบปกติ

ที่โดดเด่นและไม่เคยมีมาก่อน Gaming Notebook แบรนด์ๆ ก็คือ ROG Keystone กุญแจ NFC ส่วนตัวที่จะทำให้เราสามารถบันทึกโปรไฟล์การตั้งค่าการทำงานต่างๆ ของตัวเครื่องให้เป็นรูปแบบเฉพาะสำหรับเราเท่านั้น และที่สำคัญที่สุดคือฟังก์ชั่น Shadow Drive เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้มากยิ่งขึ้นกับไดรฟ์ที่จะถูกเข้ารหัสและปรากฎขึ้นมาให้เข้าถึงได้ก็ต่อเมื่อเสียบใช้งาน Keystone เท่านั้น ซึ่งในบันเดินจะมาพร้อมพ่วงกุญแกจที่เก็บด้วย เรียกได้ว่าเจ๋งดีจริงๆ กับการใส่ฟีเจอร์นี้เข้ามาใน Gaming Notebook

ROG Strix SCAR 17 bk i9

สำหรับ ASUS ROG Strix SCAR 17 G742L โน๊ตบุ๊คเล่นเกมจอ 17.3″ สเปกระดับบนในราคาคุ้มค่า ได้ชิปประมวลผลตัวแรง Intel Core i9-10980HK ความเร็ว 2.40 – 5.30 GHz ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด พร้อมด้วยการ์ดจอประสิทธิภาพสูงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 Super (8GB GDDR6) ได้แรมขนาด 16GB DDR4 และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB อีกทั้งได้หน้าจอเป็น 17.3″ Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 300Hz แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน

ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, HDMI, 3 x USB 3.0, Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45, Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX (2×2) แน่นอนว่าได้ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันทีตั้งแต่เปิดเครื่องในครั้งแรก กับราคาเพียง 84,900 บาท ที่บอกได้เลยไม่แพงเลย ถ้าดูจากสเปกและฟีเจอรที่ติดตั้งมาให้แล้ว โดยได้ประกัน 2 ปี ที่สามารถเคลมผ่าน 7-11 ได้ ปีแรกมีประกันอุบัติเหตุด้วย

ROG Strix SCAR 17 r i9

ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ROG Strix SCAR 17 G742L เป็น Gaming Notebook ขอบจอบางตัวเครื่องมิติเล็กกระชับทั้ง 3 ด้าน คือ บน ซ้ายและขวา พร้อมตัดกล้องเว็บแคมออกไป มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.85 กิโลกรัม มีความบางสุดที่ 21~25.8 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าโดยรวมมาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบ ได้รับ DNA เต็มๆ มาจาก ASUS ROG Strix รุ่นก่อน ซึ่งมีความพิเศษสุดๆ คือได้ทาง BMW Designworks Group มาร่วมออกแบบด้วย เห็นได้ชัดจากชุดระบายความร้อนด้านหลังที่เป็นครีบคล้ายกับเสื้อสูมมอเตอร์ไซต์จาก BMW เรียกได้ว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

เล่นเกมด้วย Intel Core Ultra 5 245K กับ 7 เกมยอดนิยมบนการ์ดจอบนซีพียู Intel ไหวมั้ย ลื่นรึเปล่า? Intel Core Ultra 5 245K เป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งปล่อยลงสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา นอกจากเรื่องความแรงและประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งด้านการประมวลผล หรือปัจจุบันก็มีเรื่องของ...

INTEL

โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series ใหม่ล่าสุด ส่งมอบประสิทธิภาพการเล่นเกมและการประมวลผลอันเหนือชั้นสำหรับเดสก์ท็อปพีซี พร้อมประหยัดพลังงานมากกว่าที่เคย กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 11 ตุลาคม 2567 –  ประเด็นสำคัญ: อินเทล ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series...

รีวิว Asus

ASUS ZenBook S 14 UX5406SA พร้อม Intel Core Ultra Series 2 สุดทรงพลัง แบตฯ ทนถึงใจ 18 ชม. ได้สบาย! ในงาน IFA Berlin เมื่อไม่นานนี้ Intel ก็เปิดตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Intel...

รีวิว MSI

ถ้าคิดว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจะต้องใหญ่และหนัก เชิญพบกับไลท์เวทหมัดหนักอย่าง MSI Cyborg 14 A13V ข้อดีของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ก็ต้องยกให้เรื่องสเปคแรงพอจะทำงานได้ดีเล่นเกมได้ลื่นแต่ก็แลกกับน้ำหนักตัวระดับ 2 กก. ขึ้นไป แต่ก็มี MSI Cyborg 14 A13V รุ่นย่อขนาดจาก Cyborg 15 เดิมให้เครื่องเล็กลงนิดน้ำหนักเบาลงหน่อย ฉีกกฏเดิมว่าถ้าอยากแรงก็ต้องหนักกลายเป็นว่าไม่ต้องหนักสเปคก็แรงได้ ภายในตัวเครื่องขนาด 14 นิ้ว...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก