เวสเทิร์น ดิจิตอล (NASDAQ: WDC) ประกาศเปิดตัวในวันนี้ว่าบริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีของฮาร์ดดิสก์และต่อยอดการเป็นผู้นำตลาดในเรื่องขนาดพื้นที่ความจุของผลิตภัณฑ์กลุ่มโซลูชันสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับปริมาณข้อมูลที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้อย่างทันถ่วงที ปัจจุบัน ฮาร์ดดิสก์ตระกูล WD Gold ที่บันทึกข้อมูลในรูปแบบ Conventional Magnetic Recording (CMR) ใหม่มีความจุขนาด 16TB และ 18TB เป็นฮาร์ดดิกส์ที่นำนวัตกรรมจากแพลตฟอร์มเทคโนโลยี Ultrastar 18TB และ 20TB มาพัฒนาต่อยอด นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม Ultrastar จัดเก็บข้อมูลที่รองรับ JBOD และเซิร์ฟเวอร์ Ultrastar จัดเก็บข้อมูลแบบไฮบริดรุ่นอัพเกรดของที่มาพร้อมฮาร์ดดิสก์ Ultrastar แบบ CMR ขนาด 16TB และ 18TB อีกด้วย
“กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันฮาร์ดดิสก์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ของเวสเทิร์น ดิจิตอล ที่มีอยู่หลายรุ่นนั้นช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่มีอยู่มากมายของลูกค้าได้ ซึ่งจะทำให้พวกเขาเป็นบริษัทอันดับต้นๆ ที่ได้ประโยชน์จากการใช้คลาวด์และลูกค้า OEM มาเป็นฮาร์ดดิสก์ขนาด 18TB และแม้กระทั่งลูกค้าที่ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดดิสก์เทคโนโลยี SMR ขนาด 20TB ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างเต็มที่” นาย จอห์น เฉิน รองประธานบริษัท TRENDFOCUS กล่าวและเสริมว่า “ฮาร์ดดิสก์ระดับองค์กรจะยังคงครองตลาดสตอเรจเก็บข้อมูลแบบเนียร์ไลน์ (Nearline) และหน่วยความจำรอง (Secondary storage) อย่างต่อเนื่องเนื่องจากยังไม่มีสิ่งทดแทนที่มีประสิทธิและคุ้มราคาสำหรับปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้เราคาดว่าอัตราการส่งมอบฮาร์ดดิสก์ระดับเอ็กซาไบต์จะเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 32.5% ซึ่งจะแตะไปถึง 1.9 เซตตะไบต์ภายในปี 2567”
นวัตกรรมเทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ของเวสเทิร์น ดิจิตอล ที่มาพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ขนาด 18TB และ 20TB
เวสเทิร์น ดิจิตอล ยังคงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ บนเทคนิคเชิงเวกเตอร์หลายอย่างเช่น การประหยัดพลังงานการออกแบบทางกลไก วัสดุ และเทคโนโลยีการบันทึก ฮาร์ดดิสก์ Ultrastar DC HC650 แบบ host-managed SMR ขนาด 20TB และ Ultrastar DC HC550 แบบ CMR ขนาด 16TB และ 18TB ที่ถูกเปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายน 2562 และมีการจัดส่งไปยังลูกค้าอยู่ในปัจจุบัน ฮาร์ดดิสก์เหล่านี้เป็นการนำเอาเทคโนโลยี EAMR มาใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม และเมื่อมาประกอบกับการเทคโนโลยี HelioSeal ที่เวสเทิร์น ดิจิตอล ออกแบบมาเพื่อชูประสิทธิภาพการใช้พลังงานและนวัตกรรมทางกลไกที่โดดเด่น เช่น เป็นรายแรกของอุตสาหกรรมที่ใช้หัวอ่านแบบ TSA เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวางตำแหน่งของหัวอ่านและมอบพื้นที่ความจุที่สามารถรองรับข้อมูลได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ฮาร์ดดิสก์เหล่านี้ยังสามารถรองรับความหนาแน่นของจำนวนของข้อมูลที่หลากหลาย ฮาร์ดดิสก์ทั้งเก้าตัวนี้ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดเตรียมและปรับขนาดสภาพแวดล้อมของดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังมีต้นทุนการเป็นเจ้าของที่ดีที่สุดแบบที่ไม่มีใครเทียบได้
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทดลองใช้ Ultrastar ขนาด 18TB ฮาร์ดดิสก์ตัวใหม่ล่าสุดที่น่าเชื่อถือและมีนวัตกรรมด้านความจุจากเวสเทิร์น ดิจิตอล และเรายังมุ่งที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้แก่ลูกค้าของเรา” นาย โจ คาร์ฟาลโล (Joe Carvalho) รองประธานฝ่ายวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่ Datto บริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีระบบคลาวด์ชั้นนำระดับโลกผ่านให้บริการลูกค้าแบบองค์รวม (managed service provider หรือ MSP)
การเพิ่มขนาดความจุของผลิตภัณฑ์ตระกูล WD Gold ด้วยฮาร์ดดิสก์ระดับองค์กรขนาด 16TB และ 18TB
เวสเทิร์น ดิจิตอล ได้ขยายขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์ในตระกูล WD Gold ให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้นอีกครั้งเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มแชนแนล อย่างฮาร์ดดิสก์แบบ CMR ขนาด 16TB และ 18TB ที่ต่อมาจาก WD Gold NVMe SSDs ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ฮาร์ดดิสก์ WD Gold แบบ CMR ตัวใหม่ได้รับการออกแบบมาสำหรับใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กรและระบบจัดเก็บข้อมูลที่สำหรับรองรับเวิร์คโหลดที่มีขนาดใหญ่และแอพพลิเคชันข้อมูลที่มีชุดข้อมูลขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ปัจจุบันมีวางจำหน่ายแล้วพร้อมการรับประกันแบบจำกัดเงื่อนไขเป็นระยะเวลา 5 ปี
WD Gold มอบความน่าเชื่อถือและความทนทานที่เพิ่มขึ้นด้วยอายุการใช้งานเฉลี่ยของฮาร์ดดิสก์ (MTBF) กว่า 2.5 ล้านชั่วโมง รวมถึงเทคโนโลยีป้องกันการสั่นสะเทือนเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ต่อเนื่องและดียิ่งขึ้น WD Gold ออกแบบมาเพื่อรองรับปริมาณเวิร์คโหลดสูงสุด 550TB ต่อปี ซึ่งเป็นหนึ่งในฮาร์ดดิสก์ ขนาด 3.5 นิ้วที่จุสูงที่สุด ฮาร์ดดิสก์ WD Gold ตัวใหม่นี้ยังมีเทคโนโลยี HelioSeal ของเวสเทิร์น ดิจิตอล ที่ทำให้ฮาร์ดดิสก์มีพื้นที่ความจุที่สูงและใช้พลังงานต่ำ
แพลตฟอร์ม Ultrastar และเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่มาพร้อมฮาร์ดดิสก์ Ultrastar แบบ CMR ขนาด 16TB และ 18TB
นอกจากนี้ ของเวสเทิร์น ดิจิตอล ยังเปิดตัวแพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูลรองรับ JBOD อย่าง Ultrastar Data60 และ Data102 และเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูล Serv60+8 ที่ได้รับการอัพเกรดเพื่อให้ใช้งานกับฮาร์ดดิสก์ระดับองค์กร Ultrastar DC HC550 แบบ CMR 16TB และ 18TB ในวันนี้ แพลตฟอร์มใหม่เหล่านี้มีวางจำหน่ายแล้วและมาพร้อมการรับประกันแบบจำกัดเงื่อนไขเป็นระยะเวลา 5 ปี มีความจุรวมสูงสุด 1.836 เพตะไบต์บนพื้นที่ขนาด 4U แพลตฟอร์ม Ultrastar พร้อมฮาร์ดดิสก์ที่อัพเกรดเป็น Ultrastar DC HC650 แบบ SMR ขนาด 20TB คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายในไตรมาสหน้า
Ultrastar Data60 และ Data102 เป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานของการจัดเก็บข้อมูลแบบแยกออกจากกันรุ่นต่อไปและสตอเรจที่เอาซอฟต์แวร์มาจัดการแบ่งสรร (SDS) ส่วน Ultrastar Serv60+8 เป็นเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลแบบไฮบริดที่มีความจุสูงพร้อมการคำนวณ แพลตฟอร์ม Ultrastar นี้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ลูกค้าประเภท OEM ผู้ให้บริการคลาวด์ และให้บริการด้านการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายและเทคโนโลยีที่ต้องการฮาร์ดดิสก์ความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูลและแชร์ข้อมูลหรือพื้นที่จัดเก็บแบบไฮบริด Data60 และ Data102 สามารถรองรับการทำงานร่วมกันของฮาร์ดดิสก์ (HDD) และโซลิดสเตตไดร์ฟ (SSD) สูงสุดถึง 24 ตัวที่กำหนดค่าด้วย SSD ขณะที่ Serv60+8 ให้ตัวเลือกในเรื่องของ CPU หน่วยความจำและไดรฟ์ ทั้งหมดนี้ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างความสมดุลในเรื่องความจุ ประสิทธิภาพการทำงาน และต้นทุน
เวสเทิร์น ดิจิตอล ได้นำความรู้ในเรื่องคุณสมบัติของไดร์ฟและระบบมาใช้ในการออกแบบนวัตกรรมให้กับแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล เทคโนโลยี IsoVibe™ ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของเวสเทิร์น ดิจิตอล จะช่วยแยกการสั่นสะเทือนทำช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ต่อเนื่องแม้ในสภาวะการทำงานที่เวิร์คโหลดหนัก นอกจากนี้ เทคโนโลยีการระบายความร้อน ArcticFlow™ ที่เป็นนวัตกรรมของเวสเทิร์น ดิจิตอล ยังช่วยให้ไดรฟ์ทำงานได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่าและต่อเนื่องกว่าระบบเดิม ส่งผลให้พัดลมระบายความร้อนทำงานลดลง ลดลงการสั่นสะเทือน ใช้พลังงานน้อยลง ทำงานเงียบยิ่งขึ้น และน่าเชื่อถือสูงสุด การผสานการทำงานของเทคโนโลยี IsoVibe และ ArcticFlow นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าลดการทำงานของไดรฟ์ลง 62% เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มก่อนหน้าของ Western Digital1
“ด้วยคุณสมบัติของทั้ง IsoVibe และ ArcticFlow ทำให้เวสเทิร์น ดิจิตอล สามารถจัดการนำเอาองค์ความรู้ที่ที่มากมายเกี่ยวกับไดรฟ์มาไว้ในแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อช่วยให้เทคโนโลยีทั้งสองตัวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในสภาพการทำงานนั้นๆ องค์กรไอทีที่ทันสมัยต่างก็ต้องพิจารณานวัตกรรมเหล่านี้ประกอบการประเมินฮาร์ดแวร์สำหรับจัดเก็บข้อมูล” นาย สกอตต์ ซินแคลร์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ ESG กล่าวว่าและเพิ่มเติมอีกว่า “แพลตฟอร์มไดรฟ์ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังที่สามารถช่วยให้องค์กรลดต้นทุนการจัดเก็บข้อมูลที่ซ่อนอยู่”
“ผู้ให้บริการคลาวด์และ SI ในปัจจุบันมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ พวกเขาต้องการกลยุทธ์การจัดเก็บสถาปัตย์กรรมแบบมัลติเทียร์ (multi-tiered) ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีหลากหลายเพื่อจัดการกับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของข้อมูลที่มีค่าและความเวิร์คโหลดที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เวสเทิร์น ดิจิตอล ผู้พัฒนา ผู้ผลิต และจำหน่าย NAND, SSD, HDD และแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ไม่เหมือนผู้ขายรายอื่นในแวดวงเดียวกัน” ยูซุฟ จามาล (Yusuf Jamal) รองประธานอาวุโส กลุ่มดีไวซ์และธุรกิจแพลตฟอร์มของเวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าว “ชนิดและรุ่นที่หลากหลายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดาต้าเซ็นเตอร์ทำให้เราสามารถส่งมอบนวัตกรรมเพื่อรองรับลูกค้าประเภทดาต้าเซ็นเตอร์ของเราตั้งแต่ลูกค้าคลาวด์ ระดับไฮเปอร์สเกล ไปจนถึงองค์กรและ SMB ให้สามารถแก้ปัญหาที่เกิดจากความท้าทายโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่สำคัญที่สุดได้ในเวลาที่เหมาะสม”
เวสเทิร์น ดิจิตอล ยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และพยายามผลักดันให้มีการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงสร้างพื้นฐานของข้อมูลและประสิทธิภาพการทำงานพร้อมช่วยทำให้มีต้นทุนการเป็นเจ้าของที่ดีที่สุด กลุ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ้มดาต้าที่มีอยู่มากมาย ซึ่งประกอบด้วย ตระกูล ฮาร์ดดิสก์ Ultrastar และ SSD; ฮาร์ดดิสก์ WD Gold และ SSD; OpenFlex™ NVMe-oF™ โครงสร้างพื้นฐานแบบเปิดผสม แพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูล Ultrastar; RapidFlex™ NVMe-oF controllers และสตอเรจตระกูล Ultrastar memory extension drive นอกจากนี้ เวสเทิร์น ดิจิตอล ยังเป็นครองอันดับใน Zoned Storage ซึ่งเป็นโอเพ่นซอร์สที่อิงการทำงานร่วมกันของฮาร์ดดิสก์แบบ SMR และโซลิดสเตตไดร์ฟ ZNS ที่ช่วยให้ดาต้าเซ็นเตอร์สามารถขยายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ