โปรแกรมเกี่ยวกับงานเอกสารอย่าง Microsoft Office มักจะเป็นโปรแกรมแรกๆ ที่เพื่อนๆ จะหามาติดตั้งกัน ซึ่งบอกตรงนี้ก่อนเลยว่าทีมงานไม่สนับสนุนโปรแกรมเถื่อนแน่นอน โดยกรณีที่เราจำเป็นจะต้องใช้งานก็ต้องซื้อหาโปรแกรม Microsoft Office แบบถูกลิขสิทธิ์มาใช้ก็คงต้องเสียเงินเพิ่มกันกัน โดยมีทั้งแบบเช่ารายเดือนหรือซื้อขาดนั่นเอง ที่ล่าสุดในตอนนี้เราจะเห็นว่ามี Notebook หลายรุ่นในตลาด เริ่มมีความพิเศษตรงที่ติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office เวอร์ชั่น Office Home & Student 2019 เพื่อให้เราใช้งานได้เลย
ซึ่ง Office Home & Student 2019 ที่จะประกอบไปด้วยโปรแกรมเอกสารที่เราต้องใช้งานหลักๆ อย่าง Word ที่ไว้ใช้พิมพ์งานทั่วไป / Excel งานเอกสารที่เป็นตาราง รวมไปถึงการคำนวณสูตรต่างๆ / Power Point โปรแกรมนำเสนองานที่เราคุ้นเคย ที่ต้องบอกเลยว่าหากเราเป็นนักเรียนนักศึกษา หรือแม้แต่คนทำงานที่ทั้ง 3 โปรแกรมนี้ตอบโจทย์อยู่แล้ว ที่ปกติแล้าเราสามารถซื้อมาติดตั้งได้ ด้วยการซื้อในราคา 4,299 บาท แต่คงจะดีกว่าถ้าเราซื้อ Notebook ที่มีโปรแกรม Microsoft Office จะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีกต่อ
ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Notebook ว่ามีรุ่นไหนบ้าง ? ราคาเท่าไรบ้าง ? ที่ซื้อแล้วได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 แบบฟรีๆ โดยนอกจากประหยัดเงินแล้วยังประหยัดเวลาด้วย ที่ต้องบอกเลยว่าหลักๆ แล้วจะเป็นรุ่นที่เน้นการทำงาน เน้นความบางเบา พกพาง่าย หรือแม้แต่ Gaming Notebook รวมไปถึงรุ่นที่มีฟีเจอร์การเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ในราคาที่คุ้มค่าสุดๆ สนนราคาเริ่มต้นที่ 15,490 บาทเท่านั้น ซึ่งจะมี Notebook รุ่นไหนบ้าง เราไปชมกันต่อเลย
Lenovo IdeaPad L340 Gaming ราคา 18,990 – 19,990 บาท
Lenovo IdeaPad L340 Gaming เป็น Gaming Notebook เน้นความคุ้มค่า เป็นโน๊ตบุ๊คสเปกแรงราคาคุ้มค่าที่สามารถเอาไปเล่นเกมได้สบายๆ โดดเด่นด้วยชิปประมวลผล Intel Core i5-9300HF ที่ตัดการ์ดจอออนชิปออกไป พร้อมด้วยการ์ดจอระดับ Gaming อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 / GTX 1650 อีกทั้งได้ดีไซน์ขอบจอที่บางและน้ำหนักเครื่องที่ไม่หนักจนเกินไป รวมๆ มีความเรียบง่าย โดยมาพร้อมกับโทนสีฟ้าที่ดูแล้วสวยงามและแตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน
สำหรับ Lenovo IdeaPad L340 Gaming นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่องเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอ ขนาดหน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS ที่ครบครัน ด้วยแรมขนาด 8GB และได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB มี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที สร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมหรือทำงานกับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ ที่เด็ดที่สุด ความคุ้มค่าราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 18,900 บาท ที่สำคัญได้การรับประกัน On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน 3 ปีด้วย
Lenovo IdeaPad L340 Gaming การดีไซน์จะออกแบบมาเป็นแบบเรียบง่ายสไตล์มินิมอล โดยมีความใกล้เคียงกับ Lenovo IdeaPad L340 รุ่นปกติ ที่เน้นใช้งานทั้วไป โดดเด่นด้วยความต่างในส่วนของสีสันที่ดูแล้วมีความเป็น Gaming จากสีสันโทนฟ้าที่นำเข้ามาแซมกับสีตัวเครื่องหลักที่เป็นสีเทาเข้ม วัสดุตัวเครื่องทั้งหมดทั้งด้านนอกด้านในเป็นพลาสติกเกรดดี แต่มีการทำลวดลายให้คล้ายกับอลูมิเนียม ให้สัมผัสที่เรียบหรู ดูแล้วมีความพรีเมียมเหมือนกัน
สำหรับ Lenovo IdeaPad L340 Gaming นี้เป็นโน๊ตบุ๊คซีรีย์เริ่มต้นที่เน้นราคาคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ เหมาะกับนักเรียนนักศึกษารวมไปถึงวัยทำงาน ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คสักเครื่องที่ดูล้ำสมัยที่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย เนื้องานและงานประกอบพูดได้เลยว่าแตกต่างจากกลุ่มโน๊ตบุ๊คที่ราคาใกล้เคียงกันอย่างเห็นได้ชัด ดูสมบูรณ์แบบลงดูลงตัวสุดๆ ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น
- Core i5-9300HF / GTX 1050 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ TN / MS Office ราคา 18,990 บาท
- Core i5-9300HF / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ TN / MS Office ราคา 19,990 บาท
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 ราคา 15,490 บาท
Lenovo IdeaPad Slim 3 15 เป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ในทุกๆ วัน รองรับทุกๆ การใช้งานพื้นฐาน กับราคาเพียง 11,900 บาท ด้วยดีไซน์ที่เบาและมีสไตล์ เหมาะสำหรับการใช้งานไปนู้นมานี่ เน้นตอบโจทย์คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คบางเบาหน่อย รูปลักษณ์ดูแพงเกินกว่าค่าตัว เน้นใช้งานนอกสถานที่ ในราคาที่ไม่แพง แน่นอนว่าประสิทธิภาพการทำงานก็ไม่ได้สูงมากเช่นกัน โดยรองรับการทำงานพื้นฐานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทำงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ เป็นต้น เหมาะสำหรับคนหาคอมพิวเตอร์เครื่องสำรองงบหมื่นบาทกลางๆ โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
สำหรับ Lenovo IdeaPad Slim 3 15 นับว่าเป็นการยกเครื่องชื่อซีรีย์ใหม่ด้วยการเน้นความบางเบาในชื่อรุ่น Slim เหมือนรหัส S ที่เคยใช้ พร้อมรหัสตัวเลข 3 ที่เป็นซีรีย์สำหรับผู้ใช้งานเริ่มต้นที่เน้นราคาคุ้มค่าสุดๆ สเปกภายในมาพร้อมชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 4500U ที่ให้ประสิทธิภาพแรงขึ้นกว่าเดิม สำหรับการใช้งานที่เน้นทรัพยากรสูงขึ้น ได้หน่วยความจำแรมขนาด 8GB dDR4 Bus 3200MHz และที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 256GB แน่นอนว่าติดตั้ง Windows 10 แท้ทำให้เราสามารถใช้งานได้ทันทีตั้งแต่เปิดเครื่องในครั้งแรก
หน้าจอได้ขนาดเป็น 15.6″ ความละเอียด Full HD (1920 x 1080) พาเนล TN ป้องกันแสงสะท้อน ปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 220 nits ยิ่งไปกว่านั้นยังมี Microsoft Office Home and Student 2019เวอร์ชั่นเต็ม ประกอบไปด้วย Microsoft Word, Excel, PowerPoint และ OneDrive ที่ติดตั้งมากับเครื่อง (มูลค่ากว่า 4,299 บาท) ใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ที่เพียงต่อต่การใช้งานพื้นฐานของทุกๆ คนแน่นอน ได้ตัวเครื่องบางที่ 19.99 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 1.85 กิโลกรัม แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง ส่วนอแดปเตอร์ก็มีขนาดเล็กกระทัดรัดพกพาสะดวกด้วย พร้อมการรับประกัน 2 ปีเต็ม
นอกจากนั้น Lenovo IdeaPad Slim 3 15 ยังมาพร้อมออปชั่นเด็ดไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง Dolby Audio ที่ให้มิติการดูหนังฟังเพลงได้คมชัดมากยิ่งขึ้น เว็บแคมที่ทำให้การแชตแบบวิดีโอกับเพื่อและครอบครัวง่ายขึ้น แต่เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพียงแค่เลื่อนปิดตัวปิดกล้องเว็บแคม และปิดตายช่องทางสำหรับแฮกเกอร์ที่จะมาคอยสอดส่อง พอร์ตเชื่อมต่อของ lenovo IdeaPad Slim 3 ครบครันไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 2 พอร์ต ,USB 2.0 1 พอร์ต ,HDMI ,SD card reader ,ช่องต่อหูฟัง และไมค์ครบครบครัน เรียกได้ว่า Lenovo IdeaPad Slim 3 15 เป็นโน้ตบุ๊ตสเปก AMD Ryzen 5 4500U ที่ทั้งแรงทั้งคุ้มและถูกที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้ทีเดียว
Acer Swift 5 ราคา 30,990 – 36,990 บาท
Acer Swift 5 รุ่นใหม่ปี 2020 สเปกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 อย่าง Core i7-1065G7 ใช้การ์ดจอออนชิปอย่าง Iris Graphics G7 หรือมีรุ่นการ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce MX350 มาพร้อมหน้าจอ 14″ Full HD พาเนล IPS เกรดสูง sRGB 97% โดยมีน้ำหนักเพียง 990 กรัมเท่านั้น ส่วนสเปกอื่นๆ ก็ครบครันทั้งแรมขนาด 8GB / 16GB LPDDR4X แบบออนบอร์ด และที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการทำงานที่เต็มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร ความบันเทิง หรืองานประมวลผลหนักๆ ก็พอได้เลย เหมาะกับคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เบาที่สุด แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง
ได้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ทันที ทำงานพื้นฐานได้แบบสบายๆ สนับสนุนการทำงานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ ส่วนความบันเทิงดูหนังฟังเพลง ชม Netflix ก็สบายๆ ไปอีก และพอที่จะใช้งานหนักๆ อย่างตัดต่อวีดีโอก็พอได้บ้าง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติก็ลื่นไหล จากการที่มีสเปกที่ติดตั้งการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce MX350 (2GB GDDR5) ที่แรงพอๆ กับ GTX 960M เลยทีเดียว
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ค่อนข้างครบ เช่น Thunderbolt 3 (เป็น USB 3.1 Type-C + DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Dual-Band Intel Wi-Fi 6 (GIG+) 802.11ax ที่แรงขึ้น 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด ได้ประกันจะเป็นแบบ 3 ปี โดยปีแรกเป็นแบบ On-site Serive ซ่อมฟรีถึงบ้าน และกรณีส่งซ่อมตามศูนย์ก็จะซ่อมอย่างรวดเร็วภายใน 3 ชั่วโมงอีกด้วย ที่สำคัญได้โปรแกรม Office Home & Student 2019 (มูลค่า 4,299 บาท) มาใช้งานทันที นับว่าคุ้มค่าจริงๆ ที่เหนือกว่าหลายๆ แบรนด์
เรียกได้ว่าถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ ที่เบาที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดก็ว่าได้ ส่วนความบางอาจจะไม่มาก โดยอยู่ที่ 14.95 มิลลิเมตร แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานโน๊ตบุ๊คพกพามาตรฐานระดับสูงอยู่ดี อีกทั้งในรุ่นใหม่นี้ได้ดีไซน์พิเศษโดยมียางรองขอบเครื่องด้านหลังช่วยยกตัวเครื่องให้เอียงสูงขึ้นเมือเรากางหน้าจอ ส่งผลให้พิมพ์ง่ายขึ้นและมุมมองดีขึ้นด้วย วัสดุจากอลูมิเมียนผสมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้น้ำหนักเบาเป็นพิเศษแต่ก็ยังแข็งแรงและทนทาน กับสีสัน Charcoal Blue พร้อมแซมด้วยสีทองตามจุดต่างๆ เหมาะทั้งหนุ่มๆ หรือสาวๆ ยุคใหม่ที่ดูทันสมัยสวยงามลงตัว ส่วนสี Moonstone White นับว่าเป็นอีกสีที่ดูหรูหราไม่แพ้กัน เน้นขาวๆ สะอาดๆ
- Core i7-1065G7 / Iris Plus G7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / MS Office ราคา 30,990 บาท
- Core i7-1065G7 / MX350 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS / MS Office ราคา 36,990 บาท
ASUS VivoBook S15 D533 ราคา 20,990 – 23,990 บาท
ASUS VivoBook S15 D533 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ 15.6″ ปี 2020 ที่ได้สเปก AMD Ryzen 4000U Series ได้สถาปัตยกรรม Renoir เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร อย่าง Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ที่แรงลื่นและร้อนน้อยกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แบบพอตัว ที่แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่เน้นการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่แล้ว ยังสวยงามไม่ซ้ำใคร วัสดุเป็นโลหะอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง ให้ความพรีเมียมดูดีเกินราคา เจาะตลาดนักเรียนนักศึกษา รวมไปถึงคนวัยทำงานที่ยังหนุ่มสาวเป็นหลัก สมกับเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สายทำงานและไลฟ์สไตล์
สำหรับ ASUS VivoBook S15 D533 มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ดูทันสมัยยิ่งขึ้น สเปคคุ้มๆที่จะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่และสีสันใหม่ โดดเด่นด้วย 4 สี 4 สไตล์ และปุ่ม Enter key ไฮไลท์สีเหลือง โดยมีสเปกเป็น AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U + RAM 8GB + SSD 512GB + จอ 15.6″ IPS Full HD มี Windows 10 แท้ ในราคาเริ่มต้นที่ 20,990 บาทเท่านั้น โดดเด่นด้วยการให้โปรแกรม MS Office Home and Student 2019 (Word / Excel / Power Point) มูลค่ากว่า 4,299 บาท ไปใช้งานฟรีๆ การรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ ASUS ที่สามารถส่งเคลมผ่านทาง 7-11 ได้ รวมถึงถ้าลงทะเบียนในเว็บไซต์ ปีแรกจะมีประกันอุบัติเหตุมาให้ด้วย (Perfect Warranty)
โดดเด่นรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 16.1 มิลลิเมตรเท่านั้น ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอลูมิเนียมที่ให้ความพรีเมียมและแข็งแรงทนทาน ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS VivoBook S15 D533 จะมีฝาหลังและตัวเครื่องด้านในคนละสีกัน มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.2 Type-C, USB 3.2 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่ารุ่นก่อน 3 เท่า และการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด รวมไปถึงร้อนน้อยแบตเตอรี่ก็ยาวนานกว่า 14 ชั่วโมงด้วยกัน
สำหรับการมาของ ASUS VivoBook S15 D533 ที่เลือกใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000U นับว่าส่งผลให้มีความน่าใช้ยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ที่แรงแซงหน้าสเปกก่อน ๆ ทั้ง AMD / Intel อย่างชัดเจน ทั้งเรื่อง สเปก ดีไซน์การออกแบบ พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ นั้นก็ยังทำได้ดีเยี่ยม โดยมีสีสันให้เลือกมากมาย 4 สี แบบไม่ซ้ำใคร (ถ้าสเปก Ryzen 7 4700U จะมีเพียงสีดำ) ยอมรับว่าทาง ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับโน๊ตบุ๊คบางเบาราคาคุ้มค่า ที่ราคาไม่แพง แต่ได้สเปกแรงๆ ที่รองรับการทำงานทุกๆ อย่าง จนไปถึงตัดต่อวีดีโอ หรือจะเล่นเกมออนไลน์ก็ยังพอได้แม้ไม่มีการ์ดจอแยก
- Ryzen 5 4500U / Radeon 6 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS / MS Office ราคา 20,990 บาท
- Ryzen 7 4700U /Radeon 7 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS / MS Office ราคา 23,990 บาท
Acer Swift 3 ราคา 22,990 – 25,990 บาท
Acer Swift 3 SF314-42 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ 14″ สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมจัดเต็มเรื่องความคุ้มค่า พร้อมความทรงพลัง โดยในส่วนของ U Series ที่เน้นประหยัดพลังงานแต่ยังให้ความแรง ซึ่งเดิม AMD ก็ทำตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยราคาที่ถูก ประสิทธิภาพดี ได้ความแรงที่เหนือชั้นกว่าเดิมมากด้วยเมื่อเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นเดิมๆ ที่เป็น H Series โดย Acer Swift 3 ปี 2020 ได้สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 U Series พร้อมขายในไทยแล้ว มีราคาที่ 22,990 – 25,990 บาท ได้สถาปัตยกรรมเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร สุดล้ำหน้ากว่าที่เคยมีมาในตลาดโน๊ตบุ๊ค
ซึ่ง Acer Swift 3 สเปก Ryzen 4000 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ AMD Ryzen 5 4500U / Ryzen 7 4700U ที่แรงและดีกว่าเดิมแน่นอน มาพร้อมกับการ์ดจอออนชิปเป็น Radeon RX VEGA 6 / 7 รุ่นใหม่ ตัวเครื่องรองรับการติดตั้งแรมขนาด 8GB DDR4 โดยติดตั้งที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB แสดงผลผ่านทางหน้าจอขนาด 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แบบจอด้านลดแสงสะท้อนได้มุมมองที่กว้างและสีสันสดใส ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญยังได้ในส่วนของโปรแกรมเอกสาร Microsoft Office Home & Student 2019 มูลค่า 4,299 บาทด้วย โดยในบทความนี้จะเป็นสเปก Ryzen 7 4700U
Acer Swift 3 สเปก Ryzen 7 4700U เครื่องนี้ใช้วัสดุประกอบหลักเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์คุณภาพดีให้สัมผัสใกล้เคียงกับรุ่นปีอย่าง Acer Swift 5 มี 2 สีสัน คือ Mauve Purple ที่ออกเป็นสีม่วงแบบมังคุดไทยๆ ให้ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร หรือมีอีกสีคือสีเงินสว่างๆ Pure Silver ที่เหมาะกับทั้งหนุ่มๆ ลุคเท่แบบคลูๆ หรือสาวๆ ที่ดูน่ารักสดใส ซึ่งทั้งตัวเครื่องให้ความบางเบาแต่แข็งแรง มีพอร์ตมาตรฐานซึ่งมาให้ครบทั้ง USB 3.1 Type-C ที่รองรับ DisplayPort + Power Delivery), USB 3.1 Type-A, USB 2.0 Type-A, HDMI สำหรับเชื่อมต่อจอภายนอก มาพร้อม Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.0 ใหม่ล่าสุด
ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าราคาไปมาก โดยมาพร้อมกับบางเพียง 15.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น (รุ่นก่อน 1.35 กิโลกรัม) ถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่ตัวเครื่องเทียบเท่ากับหน้าจอ 13.3″ อย่างรุ่นก่อนๆ ที่บางเบาที่สุดรุ่นหนึ่ง พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นแบบรู้สึกได้ จนรุ่นเก่าต้องอิจฉาเลยทีเดียว กับแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 13 ชั่วโมง พร้อมยังสามารถชาร์จได้รวดเร็วด้วยการชาร์จเพียง 30 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือแบบใหม่ที่เพียงแตะเท่านั้น คล้ายๆ ใช้งานพวกสมาร์ทโฟน ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากๆ