ดูเหมือนว่าความเสียหายจากการที่ต้องเสียตลาดในสหรัฐอเมริกาของทาง Huawei นั้นจะยังไม่จบเพราะล่าสุดนั้นดูเหมือนว่าทาง Huawei จะต้องเสียตลาดในประเทศอังกฤษไปด้วยอีกหนึ่งตลาด โดยถึงแม้ว่าทางกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาจะมีการตัดสินใจยืดเวลาในการแบนสินค้าของทาง Huawei ออกไปอีกระยะหนึ่งทว่านั่นก็เพื่อที่จะให้ทางบริษัทในสหรัฐอเมริกาสามารถที่จะเปลี่ยนตัวอุปกรณ์จาก Huawei เป็นยี่ห้ออื่นๆ ให้หมดเท่านั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุปกรณ์โครงข่าย 5G ที่พบว่าในปัจจุบันนั้นทางบริษัทผู้ให้บริการโครงข่ายในสหรัฐอเมริกายังมีบางรายที่ไม่สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ทัน
แน่นอนว่าเมื่อไม่มีทางที่จะเลี่ยงเหตุการณ์ดังกล่าวได้นั้นทาง Huawei เองก็ต้องเพิ่มความพยายามมากขึ้นในการที่จะทำตลาดในโซนยุโรป อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นด้วยความที่ทาง Huawei โดนกล่าวหาเอาไว้ว่ามีความใกล้ชิดกับรัฐบาลของประเทศจีนเป็นอย่างมากทำให้เรื่องปัญหาของความปลอดภัยในข้อมูลกลายเป็นเรื่องสำคัญขึ้นมาจนทำให้แม้กระทั่งในโซนยุโรปเองนั้นทาง Huawei เองก็ไม่สามารถที่จะวางจำหน่าอุปกรณ์ของตัวเองได้ดีอีกด้วย(แต่ก็ยังถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอยู่ดีหากเทียบกับบริษัทอื่นๆ อันเนื่องมาจากประสิทธิภาพของตัวอุปกรณ์ของทาง Huawei เอง)
ล่าสุดนั้นสถานการณ์ต่างๆ ของทาง Huawei น่าจะแย่ลงกว่าเดิมเป็นอย่างมากโดยหากอ้างอิงจากรายงานล่าสุดของทาง The Daily Telegraph นั้นพบว่า Huawei เองอาจจะต้องสูญเสียตลาดอังกฤษตามสหรัฐอเมริกาไปด้วย โดยสาเหตุนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากความสนิทสนมของทางอังกฤษและสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใดเพราะในช่วงก่อนหน้านี้ที่ทางสหรัฐอเมริกาเริ่มออกมาแบน Huawei นั้นทางอังกฤษเองก็ไม่ได้ออกมาแบน Huawei ตามไปด้วยแถมทาง Huawei เองนั้นยังถือได้ว่ามีบทบาทที่ดีเป็นอย่างมากในการวางโครงข่าย 5G ในอังกฤษ
แน่นอนว่าการปฏิเสธนี้ส่งผลให้ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นฝ่ายรุกกลับอังกฤษอย่างรุนแรง ซึ่งตามรายงานของทาง The Daily Telegraph นั้นได้เผยเอาไว้ว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษจอห์นสันได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานร่างแผนสำหรับการเปิดใช้งานในสหราชอาณาจักรเพื่อแยกตัวเองจากการพึ่งพา Huawei สำหรับอุปกรณ์เครือข่าย 5G และนำการพึ่งพานี้ลงไปที่ศูนย์ภายในสิ้นปี 2023 การตัดสินใจมาพร้อมกับการที่นายจอห์นสันจะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G7 ที่อาจเกิดขึ้นใน American presidential retreat Camp ในเดือนมิถุนายนปีนี้
ภาพไฟไหม้อุปกรณ์กระจายเครือข่าย 5G ของ Huawei ในอังกฤษที่ถูกจุดขึ้นโดยกลุ่มผู้ประท้วงที่คิดว่า COVID-19 มาจากรัฐบาลจีนในช่วงเดือนเมษายน
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลังจากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความไม่สบายใจในหมู่สมาชิกรัฐสภาซึ่งเป็นสมาชิกของพรรค British Tory Tories ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่ออนุรักษ์นิยมเชื่อว่าจีนกำลังพยายามขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้าในพื้นที่เศรษฐกิจโลกขณะที่เศรษฐกิจของตะวันตกหันหลังให้หลังการหยุดชะงักของไวรัส นอกจากนี้สมาชิกยังเชื่อว่าข้อตกลง 5G ของสหราชอาณาจักรกับจีนซึ่งลงนามโดย Theresa May ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของนายจอห์นสันได้แยกประเทศออกจากเครือข่ายหน่วยสืบราชการลับ Five Eyes ที่นำโดยสหรัฐอเมริกา
แหล่งข่าวของ The Telegraph ซึ่งอ้างว่าเป็นคนวงในยังรายงานว่าในขณะที่นายจอห์นสันต้องการที่จะติดต่อกับประเทศจีนต่อไปถึงแม้ว่าเขาต้องลดระดับความสัมพันธ์ปัจจุบันระหว่างสองประเทศ เขาได้ปรึกษากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นพรรคของตัวเองเพื่อขอคำแนะนำเนื่องจากเขาหวังที่จะนิยามความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการทำงานทั่วโลกหลังจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ทว่ากว่าที่ทางอังกฤษนั้นจะสามารถดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้จริงก็จะต้องเป็นช่วงหลังปี 2023 เป็นต้นไปอันเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักทั้งในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ(รวมถึงที่อื่นๆ) ทำให้ ณ ปัจจุบันนี้ไม่มีบริษัทสัญชาติอเมริกาและอังกฤษรวมถึงในโซนยุโรปสามารถที่จะเปิดทำการผลิตตัวอุปกรณ์ได้
หมายเหตุ – ข้อมูลดังกล่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางรัฐบางองกฤษดังนั้นคงต้องคอยดูกันต่อไปว่าจะเป็นจริงดังที่ The Daily Telegraph อ้างเอาไว้หรือไม่
ที่มา : wccftech