จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่เริ่มต้นจากประเทศจีนจนทำให้ในที่สุดทางรัฐบาลจีนต้องสั่งปิดประเทศตั้งแต่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ผลกระทบดังกล่าวได้ทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนของตัวเองในประเทศจีนต่างก็มียอดจำหน่ายของสมาร์ทโฟนที่ลดลงเอามากเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทางการของทางจีนสามารถที่จะควบคุมสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ได้และเริ่มมีการยุติการให้ประชาชนกักตัวอยู่แต่ในบ้านเพื่อลดการระบาดของเชื้อไวรัสแล้วนั้นทำให้ในช่วงเดือนที่ผ่านมายอดจำหน่ายของสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้นจนเกือบจะเข้าสู่ระดับปกติแล้ว
จากรายงานล่าสุดของทาง China Information and Communications Technology Institute (CAIST) เผยออกมานั้นได้มีการแสดงให้เห็นว่าในไตรมาสที่ 1 ของปี 2020 ที่ผ่านมานั้นยอดจำหน่ายของสมาร์ทโฟนลดลงเป็นจำนวมมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ที่ผ่านมาซึ่งมีการระบาดของไวรัส COVID-19 อย่างหนักในเมืองจีนนั้นยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนลดลงอย่างน่าใจหาย
อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นหลังจากที่ในเดือนเมษายนทางการของจีนเริ่มมีการผ่อนปรนนโยบายการกักตัวบางส่วนออกไปทำให้ยอดจำหน่ายของสมาร์ทโฟนในประเทศจีนนั้นเพิ่มสูงมากขึ้นจนเรียกได้ว่าแทบจะกลับเข้ามาสู่สภาวะที่ดีกว่าปกติ เนื่องจากว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนรวมในประเทศจีนของเดือนเมษายน 2020 นั้นเพิ่มมากกว่าในเดือนเดียวกันของปี 2019 ถึง 14.2% เลยทีเดียว ซึ่งทาง CAIST เองนั้นก็ได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่าที่ยอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นขนาดนี้นั้นก็น่าจะเนื่องมาจากการที่ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่มีการกักตัวจนผ่อนปรนนั้นมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เปิดตัวและพร้อมวางจำหน่ายมากถึง 48 รุ่นเลยทีเดียว
สำหรับสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมากในประเทศจีนช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้นพบว่าประกอบไปด้วย iQOO Neo3, Honor 30 series, OnePlus 8 และ 8 Pro ทั้งนี้เชื่อว่าหากสถานการณ์การระบาดในหลายๆ ประเทศเริ่มดีขึ้นจนสามารถผ่อนปรนการกักตัวได้แล้วนั้นยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนทั่วโลกน่าจะดีตามขึ้นมาเช่นเดียวกันในประเทศจีนด้วยเช่นเดียวกัน
ที่มา : notebookcheck