Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

Review – Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ใช้งานได้หลากหลาย พับจอได้มีปากกา สเปก Core i Gen 10 ราคา 28,900 บาท

แบรนด์ Dell ได้นำเสนอ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ได้สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ใหม่ล่าสุด และการ์ดจอแยก GeForce MX230 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สไตล์ 2-in-1 ประจำปี 2020 หน้าจอ 14 นิ้ว รองรับทัชสกรีนและปากกาที่ตอบโจทย์ ดีไซน์ดูหรูหรา มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่บางเบาเล็กกระทัดรัด

แบรนด์ Dell ได้นำเสนอ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ได้สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ใหม่ล่าสุด และการ์ดจอแยก GeForce MX230 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สไตล์ 2-in-1 ประจำปี 2020 หน้าจอ 14 นิ้ว รองรับทัชสกรีนและปากกาที่ตอบโจทย์ ดีไซน์ดูหรูหรา มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่บางเบาเล็กกระทัดรัด ขอบจอก็บางเฉียบ แรมขนาด 8GB DDR4 พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB สำหรับความละเอียดหน้าจอก็เป็นพาเนล IPS ระดับ Full HD ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง พร้อมใช้งานด้วย Windows 10 และมีซอฟต์แวร์ต่างๆ มากมาย

สำหรับคอมพิวเตอร์แบรนด์ Dell ได้รับความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนานและเป็นที่นิยมในการใช้งานกับองค์กรและภาคธุรกิจอย่างมากมาย ทั้งมาตรฐานการบริการ Dell Premium Support และ On-site Service “บริการซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก 1 วันทำการ” ถึง 2 ปีด้วยกัน มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบๆ แต่แฝงความหรูหรา สนนราคา Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ถูกกว่ารุ่นเดิมอยู่ที่ 31,990 บาท กับรุ่น Core i7-10510U ส่วนถ้าเป็นรุ่น Core i5-10210U จะอยู่ที่ 28,990 บาท ส่วนสเปกอื่นๆ เหมือนกันทั้งหมด

Advertisement

NBS Verdict

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 33

Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 เป็น 2-in-1 Notebook ที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงทั้งในส่วนของเกมและมัลติมีเดีย ด้วยฟีเจอร์มีสแกนลายนิ้ว Fingerprint และสเปคภายในที่ครบครัน ตัวเครื่องบางเบาลงไปอีกจากรุ่นก่อน แต่ก็ยังได้ชิปประมวลผล Core i Gen 10 U สถาปัตยกรรม Comet Lake ที่เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร และการ์ดจอแยก​ NVIDIA GeForce MX230 อีกทั้งได้แรมขนาด 8GB พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ใช้งานทันที

อย่างไรก็ตามด้วยหน้าจอพาเนล IPS ความละเอียด Full HD แต่ก็อยู่ในคุณภาพมาตรฐานของขอบเขตสีอยู่ในระดับกลางๆ และความร้อนที่เกิดขึ้นสูงในระดับนึง อันนี้อยู่ที่ว่าเพื่อนๆ รับกันได้ไหม ซึ่งถ้าข้าม 2 ข้อนี้ไปได้ ก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการเป็นโน๊ตบุ๊คเกณฑ์คุ้มค่าจากทาง Dell ที่เน้นเรื่องของความลงตัวโดยรวมด้วยสเปก ดีไซน์ ฟีเจอร์ และราคาที่ลงตัว แถมยังมีการรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย แบบ On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย นอกจากนี้ยังมี Call Center ช่วยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหา 2-in-1 Notebook สเปก Core i Gen 10 ที่เน้นประสบการณ์ใช้งานกับแบรนด์ Dell โดยไม่กังวลในเรื่องของราคาค่าตัวเมื่อเทียบกับสเปกความแรงล่ะก็ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว เพราะถ้าเน้นเล่นเกมก็คงแนะนำไปดูรุ่น Gaming Notebook อย่าง Dell G3 15 3590 น่าจะเหมาะสมกว่าครับ

จุดเด่น

  • ดีไซน์สวยงามสไตล์ Dell พร้อมมีสีสัน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา เน้นภาพลักษณ์
  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ขอบขอบาง แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นจอ 13.3″
  • น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง วัสดุเป็นอลูมิเนียมและพลาสติกคุณภาพสูง
  • ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 และสเปกอื่นๆ ดีเยี่ยม
  • ใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล พอเล่นเกมออนไลน์ได้ด้วย
  • มีพอร์ตการเชื่อมต่อและการเชื่อมต่อไร้สายครบครัน
  • มีสแกนลายนิ้ว Fingerprint ใช้งาน Windows Hello ได้ดีเยี่ยม
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า 11 ชั่วโมง
  • ด้วยความเป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอทัชสกรีนได้ มีปากกาในตัว
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 และซอฟต์แวร์ต่างๆ
  • ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม On-site Service มาตรฐาน Dell

ข้อสังเกตุ

  • หน้าจอพาเนล IPS ได้ sRGB ที่ 60% ถ้าให้มาเป็นเกรดสูงน่าจะดีกว่านี้
  • ถ้าได้เป็นการ์ดจอ MX250 น่าจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่านี้
  • เมื่อใช้งานหนักๆ ต่อเนื่องอุณหภูมิชิปประมวลค่อนข้างสูง
  • ไม่มีที่เก็บปากกาเฉพาะ ฉะนั้นต้องเก็บให้ดี

Specification

DELL Inspiron 14 5491 2 in 1 W566055024THW10

สเปกของ Dell Inspiron 14 5490 2-in-1 จะถูกแบ่งด้วยกันเป็น 2 รุ่นหลักๆ คือ Core i5-10210U / Core i7-10510U  ซึ่งในครั้งนี้แอดมินโป้งได้มาเป็นสเปก Core i5 ซึ่งด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-10210U ความเร็ว 1.60 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.20 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 10 (Comet Lake) รุ่นล่าสุด ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร

ส่วนสเปกอื่นๆ เหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14″ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพดีอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง รองรับทัชสกรีน มีปากกาในชุดจัดจำหน่าย แรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX230 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์พอได้ สำหรับฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC และ Bluetooth 5.0 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.65 กิโลกรัมเท่านั้น

นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และ Fingerprint ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello สนนราคาDell Inspiron 14 5490 2-in-1 รุ่นที่ทางทีมงานนำมารีวิวมีราคากลางอยู่ที่ 28,990 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี แบบ Dell Premium Support และ On-Site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ตามมาตรฐานของ Dell รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้

Hardware / Design

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 1

ดีไซน์การออกแบบของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว สมัยก่อนพอสมควร เนื่องด้วยมีการใช้ตัวเครื่องขนาด 13.3 นิ้วเท่านั้น ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก แต่ก็ยังใส่จอขนาด 14 นิ้วเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คมาตรฐานเดิม ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ ที่สำคัญขอบจอยังบางลง ในปัจจุบันถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของโน๊ตบุ๊คปี 2020 ไปแล้ว คือมีน้ำหนักตัวที่เบาลง และตัวเครื่องยังบางกว่าปกติ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.65 กิโลกรัม ส่วนความบางเครื่องก็เพียง 19.74 มิลลิเมตร

แนวคิดโดยรวม Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ถอดแบบมาจากรุ่นที่เป็นโน๊ตบุ๊คปกติอย่าง Dell Inspiron 14 5490 ทำให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน รับกับมือเวลาจับถือพกพา ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย พร้อมด้วยสีที่ดูสะอาดตา โดยมีให้เลือกทั้งสีสันสีเงิน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา สง่างาม เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นภาพลักษณ์ไว้ใช้งาน พร้อมปุ่ม Power มุมขวาบนของคีย์บอร์ดสีดำที่เป็น Fingerprint ในตัว ซึ่งดูสวยงามลงตัวมากๆ

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 16

ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ แล้วจะใช้เป็นอลูมิเนียมสำหรับฝาหลัง และพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบอื่นๆ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป ที่สำคัญคือพื้นผิววัสดุทั้งหมดเป็นแบบด้านส่งผลให้เป็นรอยนิ้วมือได้ยากอีกด้ว

การออกแบบมาอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คงเป็นส่วนของโลโก้ Dell ฝาหลังที่สวยงามเป็นสีเงิน ส่วนตัวเครื่องด้านล่างก็จะมีคำว่า Inspiron ปั๊มเอาไว้ นอกจากนี้การออกแบบยางรองใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่เหมือนใคร โดยใช้เป็นแถบยางยาวขนานไปกับแนวยาวของตัวเครื่อง พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวอีก รวมถึงมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนข้างในเครื่องจำนวน 1 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 29

ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ที่สำคัญยังมีการในส่วนของเชื่อมต่อของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ก็รองรับเพราะมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน เรียกได้ว่าเรื่องของดีไซน์นั้นตอบโจทย์กับคนที่ต้องการ 2-in-1 Notebook หน้าจอ 14 นิ้วเครื่องเดียวจบแน่นอน ทำให้ไม่ว่าเราจะเอาไปทำงาน หรือเพื่อความบันเทิง ก็ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้หมด โดยมีปากกาสไตลัสในชุดจัดจำหน่าย ทำให้รองรับการขีดเขียน หรือวาดภาพได้ทันที

อย่างไรก็ตามสำหรับ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 จัดว่าเป็นรุ่นระดับกลางของ Dell ซึ่งเทียบแล้วยังมีความหนาและหนักกว่า 2-in-1 Notebook รุ่นระดับกว่าพอสมควร แต่ด้วยราคาก็มีความคุ้มค่าไม่แพง เหมาะกับคนที่ต้องการ 2-in-1 Notebook ในช่วงราคา 30,000 บาท ตอบโจทย์ใช้งานเป็นแท็บเล็ตซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มากกว่าโน๊ตบุ๊คมาตรฐานทั่วไป

Keyboard / Touchpad

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 11

Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 มีชุดคีย์บอร์ดตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีเทา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่าย ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งการเด้งรับและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องเป็นทรงกลมแยกออกจากชุดคีย์บอร์ดชัดเจน โดยติดตั้งอยู่ที่มุมขวาบน พร้อมมี Fingerprint ในตัวเดียว ใช้งานผ่านทาง Windows Hello เพื่อเข้าใช้งาน Windows 10 ก็มีความลื่นไหลและปลอดภัยเป็นอย่างดี

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 44

Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้วแบบกระจก ขอบหน้าจอบางเฉียบทั้ง 3 ด้าน ซึ่งมีกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนแบบคู่ติดตั้งไว้ขอบจอบนเช่นเดิม พาเนลใช้เป็น IPS คุณภาพดี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD เทคโนโลยี CinemaColor ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจทั้งการใช้งานและความบันเทิง โดยการใช้หน้า Desktop ที่สเกลเป็น 125% การแสดงตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว แน่นอนว่สรองรับการทัชสกรีนทั้งจากนิ้วมือ 10 จุดพร้อมๆ กัน หรือจะใช้งานร่วมปากกาไสตลัสก็สามารถทำได้

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุดโดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ระดับ 60% และ AdobeRGB ที่ 44% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันธรรมดาในเกณฑ์ทั่วไปในระดับมาตรฐานของพาเนล IPS เกรดระดับกลางๆ

ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ แต่ทำอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลักมากนักเช่นงานระดับมืออาชีพ แต่ถ้าไม่จริงจังมากอันนี้ก็ถือว่าใช้ได้เลย เพราะก็ให้สีสันที่สดใสไม่ต่างจากจอรุ่นอื่นๆ

s3 7

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวกลางและช่องกลางแถวล่างของหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านขอบมุมซ้ายบนที่ลดลงไปที่ระดับ 9% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 3.5 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ มาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม พอได้อยู่

ลำโพงของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 เป็นมาตรฐานสเตอริโอเทคโนโลยี Waves MaxxAudio Pro ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ให้เสียงที่ค่อนข้างดี แยกรายละเอียดได้ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ถือได้ว่ามีเสียงดังชัดเจนออกแนวใสๆ เน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 14

การเชื่อมต่อกันของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต (รองรับการชาร์จไฟ 1 พอร์ต) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูล รวมไปถึงชาร์จสมาร์ทโฟน และพอร์ต USB 2.0 อีก 1 พอร์ต อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI หรือ USB 3.1 Type-C ที่เป็น DisplayPort รวมไปถึงยังมีช่องเชื่อมต่อไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องอ่าน micro-SD Card Carder ตามสมัยนิยมอีกด้วย โดยรุ่นนี้เลือกที่จะตัด LAN RJ45 ออกไปแล้ว

เมื่อเทียบกับขนาดของ 2-in-1 Notebook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่ใกล้เคียง ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.65 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ที่ชาร์จเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีน้ำหนักมากกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วปกติ จากการที่หน้าจอรองรับทัชสกรีนและจอค่อนข้างหนากว่าด้วย

Using Experience

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 2

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook พร้อมปากกา Dell Active Pen ที่รองรับแรงกดถึง 2,048 ระดับ ซึ่งถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี พร้อมฟีเจอร์การพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร

Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ

Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน

Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้

Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้

อย่างไรก็ตามสำหรับ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับใหม่ที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง บานพับนี้ยังผ่านบททดสอบสุดทรหดด้วยการเปิดปิดกว่าหมื่นๆ ครั้ง และการหมุนรอบ 360 องศาอย่างต่อเนื่อง รับประกันเรื่องความทนทานต่อการสึกหรอเมื่อใช้งานจริงๆ ได้เลย

จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook พกพาสะดวกระดับสูง ที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานที่หลากหลายร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าแรงพอตัวด้วยชิประมวลผล Intel Core i Gen 10 U ซึ่งใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 เป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่จะตัดสินใจได้เลย

Performance / Software

c1 7  c2 7

Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ที่ได้รับมารีวิวเป็นสเปกขายจริง ได้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับกลางอย่าง Intel Core i5-10210U สถาปัตยกรรม Comet Lakeใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.60 – 4.20 GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 10 – 15 – 25Watt ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 8 GB DDR4 Bus 2666 MHz จำนวน 1 แถว ที่เพียงพอต่อการใช้งานทันที อีกทั้งได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ

โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่

g1 7  g2 6

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ไม่ต่างจาก Core i Gen 8 U ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX230 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าเป็นรอง GTX 950m แต่ก็พอเล่นเกมออนไลน์ได้บ้าง ซึ่งเดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที

cine 6

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานพื้นฐานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์งาน งานเอกสาร ดูหนังฟังเพลง หรือใช้งานอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก แต่ก็ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้งานหนักๆ เป็นหลักตลอดเวลา

ssd 7

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2015 MB/s และเขียนที่ 1111 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe ระดับกลางค่อนบน

pc 6

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 2993 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ  จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 มีการ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce MX230 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกใกล้เคียงกันที่ไม่มีการ์ดจอแยกนั่นเอง

dell 5491 game

ทดสอบเกมสำหรับ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 ออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-10210U ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce MX230 ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD ก็ส่งผลช่วยด้วย

เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2  ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ใกล้เคียง 30 ขึ้นไปตลอด (อยากลื่นกว่านี้ก็ปรับกลางๆ ได้) แต่ในส่วนของเกมอื่นๆ อย่าง Overwatch / PUBG ที่ปรับ Low อาจจะมีเฟรมเรทตกไม่ต่ำกว่า 60 / 30 ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่

dell

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

d2 2

ปิดท้ายด้วย Dell Mobile Connect ซอฟต์แวร์ที่คอยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องแยกการใช้งานระหว่างพีซีและสมาร์ทโฟน  โดยเชื่อมต่อกันผ่านสัญญาณ Bluetooth ซึ่งทำให้การแจ้งเตือนต่างๆ ข้อมความ เบอร์โทร รวมไปถึงการโทรศัพท์ติดต่อ สามารถทำผ่านโน๊ตบุ๊คของ Dell ได้เลย สำหรับ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ก็มีซอฟต์แวร์ตัวนี้ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน เรียกได้ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากทีเดียว

Battery / Heat / Noise

batt 4

แบตเตอรี่ของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่จากการทดสอบด้วยการเปิด Wi-Fi และปรับเป็น Power Saver Mode ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 11 ชั่วโมงต่อเนื่อง ในการใช้งานอย่างการดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต ดูแล้วอาจให้ระยะเวลาการทำงานที่ค่อนข้างยาวนานกว่าปกติ คาดว่าจะทำได้สั้นกว่านั้นถ้าปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ส่วนช่องระบายความร้อนของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 จะอยู่ด้านบนบริเวณข้อพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย

temp2 2

อุณหภูมิปกติของชิปประมวลผลจะอยู่ที่ 40 – 50 – 60 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 98 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอร้อนสุดจะอยู่ที่ 72 องศาเซลเซียส ถือว่าทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ด้วยการที่ระบบระบายความร้อนของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1  ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานหนักๆ ตลอดเวลา เหมือน Gaming Notebook เครื่องอื่นๆ ซึ่งจากการทดสอบเป็นการนำไปเล่นเกมหลายชั่วโมง อย่างไรก็ตามตัวเครื่องไม่ได้เกิดอาการค้าง หน่วง หรือมีปัญหาแต่อย่างใด แม้ว่าชิปประมวลผล Intel และ NVDIA รุ่นล่าสุดจะแรงขึ้น เรียกได้ว่าชุดระบายความร้อนของ Dell สามารถจัดการได้ดีเวลาใช้งานหนักๆ

Conclusion / Award

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 13

เป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจ ด้วยความเป็นแบรนด์ Dell อย่าง Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล Inspiron ได้เป็นอย่างดี สำหรับรูปแบบการใช้งานที่มากกว่าตามสไตล์ 2-in-1 Notebook เพราะมาพร้อมความสมบูรณ์แบบที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน

โดยสนนเริ่มต้นที่ 28,900 บาท สำหรับรุ่น Core i5 ส่วนรุ่น Core i7  ก็สนนราคาที่ 31,900 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องชิปประมวลผล โดยเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 U ที่ได้การ์ดจอแยก GeForce MX230 แรม 8GB และ SSD M.2 ความจุ 512GB หน้าจอ 14 นิ้ว Full HD พาเนล IPS ที่ต้องบอกว่าส่วนอื่นๆ ก็เหมือนกันหมด โดยส่วนตัวแล้วแนะนำว่าถ้างบตัวไหนก็ซื้อนั้นได้เลย

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 43

โดดเด่นเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3 นิ้ว ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอ 14 นิ้ว ทำให้แน่นอนว่าขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วทั่วไป รวมไปถึงก็มีน้ำหนักเบากว่าด้วย เพียง 1.65 กิโลกรัมและบางเพียง 19.74 มิลลิเมตร ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้เบามากๆ หรือบางสุดๆ แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณ์ที่ดี และแม้จะมีปากกาแต่ไม่มีที่เก็บ ฉะนั้นเราเองก็ต้องเก็บใส่กระเป๋าให้ดีด้วย

พร้อมมีดีไซน์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนๆ ซึ่งมีความเรียบง่ายยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Dell ไว้เต็มเปี่ยม เรียกได้ยกมาจากรุ่นพี่ระดับสูงเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญด้วยความที่เป็นสีสันสีเงิน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา สง่างาม เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นภาพลักษณ์ไว้ใช้งาน นับว่าเป็นส่วนที่มีผลต่อการซื้อเหมือนกัน

โดยมีการรับประกันถึง 2 ปี Dell Premium Support แบบ  On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านหรือที่ทำงานเลย นอกจากนี้ยังมี Call Center ช่วยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย เอาเป็นว่าใครกำลังมองหา 2-in-1 Notebook ที่เชื่อมั่นไว้ใจได้ ตอบสนองความต้องการพร้อมเน้นประสบการณ์ใช้งานที่เหนือระดับโดยไม่กังวลในเรื่องของความหนักซักนิดหนาซักหน่อย

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของ 2-in-1 Notebook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง 2-in-1 Notebook  ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Inspiron มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ แถมยังบางเบาสุดๆ ด้วย ได้สีสันสีเงิน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา สง่างาม เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นภาพลักษณ์ไว้ใช้งาน ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

award new Design

Best Mobility

ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา ทั้งในความบางเพียง 19.74 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.65 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมไปถึงแบตเตอรี่ยังใช้งานได้ยาวนานกว่า 11 ชั่วโมงด้วยกัน เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ

award new mobility

NBS Verdict

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 33

Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 เป็น 2-in-1 Notebook ที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงทั้งในส่วนของเกมและมัลติมีเดีย ด้วยฟีเจอร์มีสแกนลายนิ้ว Fingerprint และสเปคภายในที่ครบครัน ตัวเครื่องบางเบาลงไปอีกจากรุ่นก่อน แต่ก็ยังได้ชิปประมวลผล Core i Gen 10 U สถาปัตยกรรม Comet Lake ที่เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร และการ์ดจอแยก​ NVIDIA GeForce MX230 อีกทั้งได้แรมขนาด 8GB พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ใช้งานทันที

อย่างไรก็ตามด้วยหน้าจอพาเนล IPS ความละเอียด Full HD แต่ก็อยู่ในคุณภาพมาตรฐานของขอบเขตสีอยู่ในระดับกลางๆ และความร้อนที่เกิดขึ้นสูงในระดับนึง อันนี้อยู่ที่ว่าเพื่อนๆ รับกันได้ไหม ซึ่งถ้าข้าม 2 ข้อนี้ไปได้ ก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการเป็นโน๊ตบุ๊คเกณฑ์คุ้มค่าจากทาง Dell ที่เน้นเรื่องของความลงตัวโดยรวมด้วยสเปก ดีไซน์ ฟีเจอร์ และราคาที่ลงตัว แถมยังมีการรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย แบบ On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย นอกจากนี้ยังมี Call Center ช่วยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหา 2-in-1 Notebook สเปก Core i Gen 10 ที่เน้นประสบการณ์ใช้งานกับแบรนด์ Dell โดยไม่กังวลในเรื่องของราคาค่าตัวเมื่อเทียบกับสเปกความแรงล่ะก็ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว เพราะถ้าเน้นเล่นเกมก็คงแนะนำไปดูรุ่น Gaming Notebook อย่าง Dell G3 15 3590 น่าจะเหมาะสมกว่าครับ

จุดเด่น

  • ดีไซน์สวยงามสไตล์ Dell พร้อมมีสีสัน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา เน้นภาพลักษณ์
  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ขอบขอบาง แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นจอ 13.3″
  • น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง วัสดุเป็นอลูมิเนียมและพลาสติกคุณภาพสูง
  • ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 และสเปกอื่นๆ ดีเยี่ยม
  • ใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล พอเล่นเกมออนไลน์ได้ด้วย
  • มีพอร์ตการเชื่อมต่อและการเชื่อมต่อไร้สายครบครัน
  • มีสแกนลายนิ้ว Fingerprint ใช้งาน Windows Hello ได้ดีเยี่ยม
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า 11 ชั่วโมง
  • ด้วยความเป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอทัชสกรีนได้ มีปากกาในตัว
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 และซอฟต์แวร์ต่างๆ
  • ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม On-site Service มาตรฐาน Dell

ข้อสังเกตุ

  • หน้าจอพาเนล IPS ได้ sRGB ที่ 60% ถ้าให้มาเป็นเกรดสูงน่าจะดีกว่านี้
  • ถ้าได้เป็นการ์ดจอ MX250 น่าจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่านี้
  • เมื่อใช้งานหนักๆ ต่อเนื่องอุณหภูมิชิปประมวลค่อนข้างสูง
  • ไม่มีที่เก็บปากกาเฉพาะ ฉะนั้นต้องเก็บให้ดี

Specification

DELL Inspiron 14 5491 2 in 1 W566055024THW10

สเปกของ Dell Inspiron 14 5490 2-in-1 จะถูกแบ่งด้วยกันเป็น 2 รุ่นหลักๆ คือ Core i5-10210U / Core i7-10510U  ซึ่งในครั้งนี้แอดมินโป้งได้มาเป็นสเปก Core i5 ซึ่งด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i5-10210U ความเร็ว 1.60 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.20 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 10 (Comet Lake) รุ่นล่าสุด ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร

ส่วนสเปกอื่นๆ เหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14″ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพดีอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง รองรับทัชสกรีน มีปากกาในชุดจัดจำหน่าย แรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX230 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์พอได้ สำหรับฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC และ Bluetooth 5.0 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.65 กิโลกรัมเท่านั้น

นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และ Fingerprint ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello สนนราคาDell Inspiron 14 5490 2-in-1 รุ่นที่ทางทีมงานนำมารีวิวมีราคากลางอยู่ที่ 28,990 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี แบบ Dell Premium Support และ On-Site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ตามมาตรฐานของ Dell รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้

Hardware / Design

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 1

ดีไซน์การออกแบบของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว สมัยก่อนพอสมควร เนื่องด้วยมีการใช้ตัวเครื่องขนาด 13.3 นิ้วเท่านั้น ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก แต่ก็ยังใส่จอขนาด 14 นิ้วเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คมาตรฐานเดิม ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ ที่สำคัญขอบจอยังบางลง ในปัจจุบันถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของโน๊ตบุ๊คปี 2020 ไปแล้ว คือมีน้ำหนักตัวที่เบาลง และตัวเครื่องยังบางกว่าปกติ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.65 กิโลกรัม ส่วนความบางเครื่องก็เพียง 19.74 มิลลิเมตร

แนวคิดโดยรวม Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ถอดแบบมาจากรุ่นที่เป็นโน๊ตบุ๊คปกติอย่าง Dell Inspiron 14 5490 ทำให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน รับกับมือเวลาจับถือพกพา ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย พร้อมด้วยสีที่ดูสะอาดตา โดยมีให้เลือกทั้งสีสันสีเงิน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา สง่างาม เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นภาพลักษณ์ไว้ใช้งาน พร้อมปุ่ม Power มุมขวาบนของคีย์บอร์ดสีดำที่เป็น Fingerprint ในตัว ซึ่งดูสวยงามลงตัวมากๆ

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 16

ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ แล้วจะใช้เป็นอลูมิเนียมสำหรับฝาหลัง และพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบอื่นๆ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป ที่สำคัญคือพื้นผิววัสดุทั้งหมดเป็นแบบด้านส่งผลให้เป็นรอยนิ้วมือได้ยากอีกด้ว

การออกแบบมาอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คงเป็นส่วนของโลโก้ Dell ฝาหลังที่สวยงามเป็นสีเงิน ส่วนตัวเครื่องด้านล่างก็จะมีคำว่า Inspiron ปั๊มเอาไว้ นอกจากนี้การออกแบบยางรองใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่เหมือนใคร โดยใช้เป็นแถบยางยาวขนานไปกับแนวยาวของตัวเครื่อง พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวอีก รวมถึงมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนข้างในเครื่องจำนวน 1 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 29

ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ที่สำคัญยังมีการในส่วนของเชื่อมต่อของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ก็รองรับเพราะมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน เรียกได้ว่าเรื่องของดีไซน์นั้นตอบโจทย์กับคนที่ต้องการ 2-in-1 Notebook หน้าจอ 14 นิ้วเครื่องเดียวจบแน่นอน ทำให้ไม่ว่าเราจะเอาไปทำงาน หรือเพื่อความบันเทิง ก็ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้หมด โดยมีปากกาสไตลัสในชุดจัดจำหน่าย ทำให้รองรับการขีดเขียน หรือวาดภาพได้ทันที

อย่างไรก็ตามสำหรับ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 จัดว่าเป็นรุ่นระดับกลางของ Dell ซึ่งเทียบแล้วยังมีความหนาและหนักกว่า 2-in-1 Notebook รุ่นระดับกว่าพอสมควร แต่ด้วยราคาก็มีความคุ้มค่าไม่แพง เหมาะกับคนที่ต้องการ 2-in-1 Notebook ในช่วงราคา 30,000 บาท ตอบโจทย์ใช้งานเป็นแท็บเล็ตซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มากกว่าโน๊ตบุ๊คมาตรฐานทั่วไป

Keyboard / Touchpad

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 11

Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 มีชุดคีย์บอร์ดตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีเทา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่าย ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งการเด้งรับและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องเป็นทรงกลมแยกออกจากชุดคีย์บอร์ดชัดเจน โดยติดตั้งอยู่ที่มุมขวาบน พร้อมมี Fingerprint ในตัวเดียว ใช้งานผ่านทาง Windows Hello เพื่อเข้าใช้งาน Windows 10 ก็มีความลื่นไหลและปลอดภัยเป็นอย่างดี

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 44

Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้วแบบกระจก ขอบหน้าจอบางเฉียบทั้ง 3 ด้าน ซึ่งมีกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนแบบคู่ติดตั้งไว้ขอบจอบนเช่นเดิม พาเนลใช้เป็น IPS คุณภาพดี ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD เทคโนโลยี CinemaColor ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจทั้งการใช้งานและความบันเทิง โดยการใช้หน้า Desktop ที่สเกลเป็น 125% การแสดงตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว แน่นอนว่สรองรับการทัชสกรีนทั้งจากนิ้วมือ 10 จุดพร้อมๆ กัน หรือจะใช้งานร่วมปากกาไสตลัสก็สามารถทำได้

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุดโดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ระดับ 60% และ AdobeRGB ที่ 44% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันธรรมดาในเกณฑ์ทั่วไปในระดับมาตรฐานของพาเนล IPS เกรดระดับกลางๆ

ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ แต่ทำอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลักมากนักเช่นงานระดับมืออาชีพ แต่ถ้าไม่จริงจังมากอันนี้ก็ถือว่าใช้ได้เลย เพราะก็ให้สีสันที่สดใสไม่ต่างจากจอรุ่นอื่นๆ

s3 7

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางแถวกลางและช่องกลางแถวล่างของหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านขอบมุมซ้ายบนที่ลดลงไปที่ระดับ 9% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 3.5 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ มาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม พอได้อยู่

ลำโพงของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 เป็นมาตรฐานสเตอริโอเทคโนโลยี Waves MaxxAudio Pro ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ให้เสียงที่ค่อนข้างดี แยกรายละเอียดได้ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ถือได้ว่ามีเสียงดังชัดเจนออกแนวใสๆ เน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 14

การเชื่อมต่อกันของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Type-A จำนวน 2 พอร์ต (รองรับการชาร์จไฟ 1 พอร์ต) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูล รวมไปถึงชาร์จสมาร์ทโฟน และพอร์ต USB 2.0 อีก 1 พอร์ต อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI หรือ USB 3.1 Type-C ที่เป็น DisplayPort รวมไปถึงยังมีช่องเชื่อมต่อไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องอ่าน micro-SD Card Carder ตามสมัยนิยมอีกด้วย โดยรุ่นนี้เลือกที่จะตัด LAN RJ45 ออกไปแล้ว

เมื่อเทียบกับขนาดของ 2-in-1 Notebook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่ใกล้เคียง ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.65 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ที่ชาร์จเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีน้ำหนักมากกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วปกติ จากการที่หน้าจอรองรับทัชสกรีนและจอค่อนข้างหนากว่าด้วย

Using Experience

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 2

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook พร้อมปากกา Dell Active Pen ที่รองรับแรงกดถึง 2,048 ระดับ ซึ่งถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี พร้อมฟีเจอร์การพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร

Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ

Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน

Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้

Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้

อย่างไรก็ตามสำหรับ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับใหม่ที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง บานพับนี้ยังผ่านบททดสอบสุดทรหดด้วยการเปิดปิดกว่าหมื่นๆ ครั้ง และการหมุนรอบ 360 องศาอย่างต่อเนื่อง รับประกันเรื่องความทนทานต่อการสึกหรอเมื่อใช้งานจริงๆ ได้เลย

จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook พกพาสะดวกระดับสูง ที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานที่หลากหลายร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าแรงพอตัวด้วยชิประมวลผล Intel Core i Gen 10 U ซึ่งใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 เป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่จะตัดสินใจได้เลย

Performance / Software

c1 7  c2 7

Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ที่ได้รับมารีวิวเป็นสเปกขายจริง ได้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับกลางอย่าง Intel Core i5-10210U สถาปัตยกรรม Comet Lakeใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.60 – 4.20 GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 10 – 15 – 25Watt ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 8 GB DDR4 Bus 2666 MHz จำนวน 1 แถว ที่เพียงพอต่อการใช้งานทันที อีกทั้งได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ

โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่

g1 7  g2 6

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ไม่ต่างจาก Core i Gen 8 U ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX230 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าเป็นรอง GTX 950m แต่ก็พอเล่นเกมออนไลน์ได้บ้าง ซึ่งเดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที

cine 6

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานพื้นฐานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์งาน งานเอกสาร ดูหนังฟังเพลง หรือใช้งานอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก แต่ก็ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้งานหนักๆ เป็นหลักตลอดเวลา

ssd 7

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ระดับกลางๆ แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2015 MB/s และเขียนที่ 1111 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe ระดับกลางค่อนบน

pc 6

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 2993 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ  จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 มีการ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce MX230 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกใกล้เคียงกันที่ไม่มีการ์ดจอแยกนั่นเอง

dell 5491 game

ทดสอบเกมสำหรับ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 3 ออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i5-10210U ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce MX230 ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึง SSD ก็ส่งผลช่วยด้วย

เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2  ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ใกล้เคียง 30 ขึ้นไปตลอด (อยากลื่นกว่านี้ก็ปรับกลางๆ ได้) แต่ในส่วนของเกมอื่นๆ อย่าง Overwatch / PUBG ที่ปรับ Low อาจจะมีเฟรมเรทตกไม่ต่ำกว่า 60 / 30 ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่

dell

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

d2 2

ปิดท้ายด้วย Dell Mobile Connect ซอฟต์แวร์ที่คอยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องแยกการใช้งานระหว่างพีซีและสมาร์ทโฟน  โดยเชื่อมต่อกันผ่านสัญญาณ Bluetooth ซึ่งทำให้การแจ้งเตือนต่างๆ ข้อมความ เบอร์โทร รวมไปถึงการโทรศัพท์ติดต่อ สามารถทำผ่านโน๊ตบุ๊คของ Dell ได้เลย สำหรับ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ก็มีซอฟต์แวร์ตัวนี้ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน เรียกได้ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากทีเดียว

Battery / Heat / Noise

batt 4

แบตเตอรี่ของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่จากการทดสอบด้วยการเปิด Wi-Fi และปรับเป็น Power Saver Mode ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราวๆ 11 ชั่วโมงต่อเนื่อง ในการใช้งานอย่างการดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต ดูแล้วอาจให้ระยะเวลาการทำงานที่ค่อนข้างยาวนานกว่าปกติ คาดว่าจะทำได้สั้นกว่านั้นถ้าปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ส่วนช่องระบายความร้อนของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 จะอยู่ด้านบนบริเวณข้อพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย

temp2 2

อุณหภูมิปกติของชิปประมวลผลจะอยู่ที่ 40 – 50 – 60 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 98 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอร้อนสุดจะอยู่ที่ 72 องศาเซลเซียส ถือว่าทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ด้วยการที่ระบบระบายความร้อนของ Dell Inspiron 14 5491 2-in-1  ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานหนักๆ ตลอดเวลา เหมือน Gaming Notebook เครื่องอื่นๆ ซึ่งจากการทดสอบเป็นการนำไปเล่นเกมหลายชั่วโมง อย่างไรก็ตามตัวเครื่องไม่ได้เกิดอาการค้าง หน่วง หรือมีปัญหาแต่อย่างใด แม้ว่าชิปประมวลผล Intel และ NVDIA รุ่นล่าสุดจะแรงขึ้น เรียกได้ว่าชุดระบายความร้อนของ Dell สามารถจัดการได้ดีเวลาใช้งานหนักๆ

Conclusion / Award

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 13

เป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจ ด้วยความเป็นแบรนด์ Dell อย่าง Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล Inspiron ได้เป็นอย่างดี สำหรับรูปแบบการใช้งานที่มากกว่าตามสไตล์ 2-in-1 Notebook เพราะมาพร้อมความสมบูรณ์แบบที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน

โดยสนนเริ่มต้นที่ 28,900 บาท สำหรับรุ่น Core i5 ส่วนรุ่น Core i7  ก็สนนราคาที่ 31,900 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องชิปประมวลผล โดยเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 U ที่ได้การ์ดจอแยก GeForce MX230 แรม 8GB และ SSD M.2 ความจุ 512GB หน้าจอ 14 นิ้ว Full HD พาเนล IPS ที่ต้องบอกว่าส่วนอื่นๆ ก็เหมือนกันหมด โดยส่วนตัวแล้วแนะนำว่าถ้างบตัวไหนก็ซื้อนั้นได้เลย

Dell Inspiron 14 5491 2 in 1 Review 43

โดดเด่นเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3 นิ้ว ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็น 2-in-1 Notebook หน้าจอ 14 นิ้ว ทำให้แน่นอนว่าขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วทั่วไป รวมไปถึงก็มีน้ำหนักเบากว่าด้วย เพียง 1.65 กิโลกรัมและบางเพียง 19.74 มิลลิเมตร ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้เบามากๆ หรือบางสุดๆ แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณ์ที่ดี และแม้จะมีปากกาแต่ไม่มีที่เก็บ ฉะนั้นเราเองก็ต้องเก็บใส่กระเป๋าให้ดีด้วย

พร้อมมีดีไซน์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนๆ ซึ่งมีความเรียบง่ายยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Dell ไว้เต็มเปี่ยม เรียกได้ยกมาจากรุ่นพี่ระดับสูงเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญด้วยความที่เป็นสีสันสีเงิน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา สง่างาม เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นภาพลักษณ์ไว้ใช้งาน นับว่าเป็นส่วนที่มีผลต่อการซื้อเหมือนกัน

โดยมีการรับประกันถึง 2 ปี Dell Premium Support แบบ  On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านหรือที่ทำงานเลย นอกจากนี้ยังมี Call Center ช่วยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย เอาเป็นว่าใครกำลังมองหา 2-in-1 Notebook ที่เชื่อมั่นไว้ใจได้ ตอบสนองความต้องการพร้อมเน้นประสบการณ์ใช้งานที่เหนือระดับโดยไม่กังวลในเรื่องของความหนักซักนิดหนาซักหน่อย

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของ 2-in-1 Notebook ขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง 2-in-1 Notebook  ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Inspiron มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 14 5491 2-in-1 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ แถมยังบางเบาสุดๆ ด้วย ได้สีสันสีเงิน Platinum Silver ที่ดูแล้วหรูหรา สง่างาม เหมาะกับหนุ่มๆ ที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่เน้นภาพลักษณ์ไว้ใช้งาน ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

award new Design

Best Mobility

ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา ทั้งในความบางเพียง 19.74 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.65 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมไปถึงแบตเตอรี่ยังใช้งานได้ยาวนานกว่า 11 ชั่วโมงด้วยกัน เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ

award new mobility

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

เล่นเกมด้วย Intel Core Ultra 5 245K กับ 7 เกมยอดนิยมบนการ์ดจอบนซีพียู Intel ไหวมั้ย ลื่นรึเปล่า? Intel Core Ultra 5 245K เป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งปล่อยลงสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา นอกจากเรื่องความแรงและประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งด้านการประมวลผล หรือปัจจุบันก็มีเรื่องของ...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

INTEL

โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series ใหม่ล่าสุด ส่งมอบประสิทธิภาพการเล่นเกมและการประมวลผลอันเหนือชั้นสำหรับเดสก์ท็อปพีซี พร้อมประหยัดพลังงานมากกว่าที่เคย กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 11 ตุลาคม 2567 –  ประเด็นสำคัญ: อินเทล ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series...

รีวิว Asus

ASUS ZenBook S 14 UX5406SA พร้อม Intel Core Ultra Series 2 สุดทรงพลัง แบตฯ ทนถึงใจ 18 ชม. ได้สบาย! ในงาน IFA Berlin เมื่อไม่นานนี้ Intel ก็เปิดตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Intel...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก