ASUS ROG Zephyrus G GA502 รุ่นใหม่ล่าสุด เป็น Gaming Notebook บางเบา ราคาคุ้มค่าแต่ได้สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่มีประสิทธิภาพความแรงจัดเต็มเรื่องของการทำงานและการเล่นเกม จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คระดับบนของ ASUS สาย Gaming จากที่ก่อนหน้านี้ได้เห็นกันมาบ้างกับ ASUS A570 และ ASUS TUF Gaming FX505 Series แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ ROG Zephyrus Series ที่เน้นความพรีเมียม การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ แบตยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง ทำงานก็ดีเล่นเกมก็ได้
รุ่นนี้ที่เรานำมารีวิวจะเป็น ASUS ROG Zephyrus G GA502รุ่นราคาอยู่ที่ 35,990 บาท ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB (ออนบอร์ด 8GB + แรมปกติอีก 8GB หนึ่งแถว) อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 PCIe NVMe ความจุ 512GB โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนคือได้หน้าจอคุณภาพดีเยี่ยม พาเนล IPS Refresh Rate ที่ 240 Hz พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้ได้ทันที ที่สำคัญประกันก็เป็น 2 ปีตามาตรฐาน ASUS ที่สามารถเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้ และประกันอุบัติเหตุในปีแรกด้วย นับได้ว่าเป็น Gaming Notebook ปี 2020 ที่น่าสนใจมากๆ รุ่นนึง
VDO Review
Specification
ASUS ROG Zephyrus G GA502 มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H สถาปัตยกรรม Zen+ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 12 nm ความเร็ว 2.3 – 4.0 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 10 ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ใช้สถาปัตยกรรมกับ RTX ที่เย็นกว่า GTX 10 Series พร้อมตัดพวกฟีเจอร์อื่นๆ ออกไปเน้นความแรงเป็นหลัก เน้นเย็นและประหยัดพลังงานเข้ากับตัวเครื่องที่บางเบา
ในส่วนของแรมได้มาขนาด 16GB Bus 2400 MHz แบบ Dual Channel (8GB x 2 โดยออนบอร์ดมาแล้ว 1 แถว) มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่มีความลื่นไหล อีกทั้งยังรองรับการติดตั้งอัพเกรดเพิ่ม SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดสูงคุณภาพเยี่ยม รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย (รุ่นก่อนเป็น IPS เกรดกลางๆ Refresh Rate ที่ 120Hz)
นอกจากนี้รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ก็จะมีระบบเสียง Hi-Res audio แบบ 7.1 Virtual surround พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3x USB 3.1 Gen1 Type-A และ 1x USB 3.1 Gen2 Type-C with charging and DisplayPort 1.4 ส่วน Thunderbolt 3 นั่นไม่มีนะ แต่คิดว่าไม่จำเป็นแล้วล่ะ ระบการเชื่อมต่อเป็น Wi-Fi AC และ Bluetooth 5.0 ตามมาตรฐาน พร้อมระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้มาให้ในตัว โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือไม่ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมมา ถ้าใครจะใช้ต้องหามาติดตั้งเอง
การรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็มครับ
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti Max-Q / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 120Hz ราคา 28,900 บาท
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 120Hz ราคา 30,400 บาท
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 240Hz ราคา 35,900 บาท
Hardware / Design
ASUS ROG Zephyrus G GA502 เป็นซีรีส์ ROG ที่เน้นความบางเบามากกว่า Gaming Notebook ทั่วไป โดยมีความบางสุดที่ 19.9 มิลลิเมตร มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 2.1 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางmที่ 6.2 มิลลิเมตร ขนาด 15.6″ สัดส่วนเป็น 81% ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ดีไซน์โดยรวมเน้นความดุดัน แข็งแกร่งสไตล์ ROG ด้วยวัสดุเป็นโลหะพร้อมลวดลายแบบปัดเสี้ยนคล้ายกับ ROG ในหลายๆ รุ่น เรียกได้ว่าดูเป็น Gamer สายจริงจังยิ่งขึ้นไปอีกกว่าพวก TUF Gaming Series
ASUS ROG Zephyrus G GA502 เลือกใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะส่วนของชิ้นฝาหลัง ส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทานประมาณนึง โดยยังคงไว้ซึ่งการออกแบบที่สวยงาม ด้วยเส้นสายที่ทันสมัยและการตกแต่งเสริมความพรีเมียม ระบบระบายความร้อนที่มีความล้ำหน้าทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของทุกชิ้นส่วน ด้วยการออกแบบและวิศวกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของ Zephyrus series
ตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G GA502 นั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง เรียกได้ว่าแทบไม่มีความโค้งเว้าใดๆ ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว มาพร้อมกับวัสดุโลหะผสมระหว่างอลูมิเนียมและแมกนีเซียม มาในโทนดำตัดกับสีเทาเข้ม (Armor Titanium) ขอบของตัวเครื่องรวมไปถึงขอบด้านหลังนั้นถูกออกแบบมุมมาเป็นอย่างดีมีคำว่า ZEPHYRUS
จุดเด่นที่สุดซึ่งนั่นเป็นความภูมิใจของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ที่เป็น Gaming Notebook ตัวบางเบาแต่แรงก็คือ จากการติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่โดยทั่วไปแล้วเราจะเห็นใน Gaming Notebook ตัวหนาๆ หน่อย จะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti อย่าง ASUS TUF Gaming FX505DU เพราะมันจะปล่อยความร้อนค่อนข้างสูง แต่ Max-Q คือจะควบคุมความร้อนที่เกิดขึ้นได้ดีกว่า
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงงานประกอบเรียบร้อย พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 3 ช่องด้านล่างใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ติดตั้งด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 3 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่ พร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต พัดลมคู่ n-Blade หมุนใบพัดมากถึง 83 ใบ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ ASUS ROG Zephyrus G GA502 จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล ROG ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลักด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1660Ti Max-Q ที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ รวมไปถึงพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ ดีไซน์และสเปกแรงล้ำกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงหน้าจอก็ใหญ่ที่ 15.6″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่า 14″ ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ มีสติ๊กเกอร์ในส่วนของ AMD Ryzen และ NVIDIA GeForce ติดมาคู่กันในตำแหน่งใต้คีย์บอร์ดด้านขวาด้วย นับว่าค่อนข้างแปลกตาทีเดัยว
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ต้องบอกว่า ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จากแต่ก่อนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ความแรงระดับนี้ จะอยู่บนตัวเครื่องที่บางและเบาแบบนี้ แต่ตอนนี้ทาง ASUS ทำออกมาได้แล้ว ในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
Keyboard / Touchpad
ASUS ROG Zephyrus G GA502 เป็นคีย์บอร์ดมีไฟ LED สีขาวสีเดียว ให้ความสะดวกด้วยปุ่ม Spacebar ด้านมุมล่างซ้ายก็ทำแหว่งออกมานิดหนึ่งเพื่อให้ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดง่ายขึ้น แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง รวมถึงสามารถมีฟังก์ชั่นเพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมค์ และ ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์
ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบซ้อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี ฟีเจอร์ Multi-touch หรือ Smart Gesture ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมีในส่วนของปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดอย่าง F5 ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Turbo mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด, Silent mode สำหรับเสียงรบกวนที่น้อยที่สุด, และ Balanced mode เพื่อความสมดุลในการใช้งาน
Screen / Speaker
ASUS ROG Zephyrus G GA502 มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.2 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบนทำให้ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 240Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2020 ทั่วไปมากทีเดียว
ทดสอบหน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ที่แม้จะเป็นพาเนล IPS แต่ก็มีหลายเกณฑ์ โดยการดูประสิทธิภาพต่างๆ นแต่ละด้าน ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสัน Gamut เทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 92% และ AdobeRGB 71% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับสูงซึ่งใกล้เคียงกับ sRGB 100% แน่นอนว่าเทียบกับ ASUS ROG Zephyrus G GA502 รุ่นก่อนหน้า ก็ถือว่าดีกว่ามากๆ ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพหน่อยก็ทำได้อย่างน่าประทับใจและไว้ใจได้
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 250 cd/m2 แต่สำหรับช่องบนมุมดซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 9% ที่ถือว่ารับได้ ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว สรุปคือเล่นเกมได้ดีด้วย 240Hz และเป็นจอทำงานที่คุณภาพสูงด้วย
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง พร้อม Smart Amp เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G GA502 กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง โดยมีทั้ง USB 3.1 Type-A (Gen 1) จำนวน 3 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย, USB 3.1 Gen2 Type-C with DisplayPort 1.4 พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, LAN RJ45 และ HDMI ไว้เชื่อมต่อหน้าจอภานอก ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวาไว้ล็อคตัวเครื่องกับโต๊ะ
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 5 AC ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 36 x 25.2 x 1.99 เซนจิเมตร น้ำหนัก 2.1 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 180 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น พอแบกพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ไม่หนักมาก ถือมือเดียวก็สบายๆ หยิบจับไปไหนก็สะดวกทีเดียว
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G GA502 เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลังและแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่ HyperCool พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีแดง หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 3 เส้น เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว
ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดยเดิมๆ ให้มาแล้ว 1 สล็อตอยู่แล้ว (รวมเป็น 2) ส่วนหน่วยความจำแรมขนาด 8GB แถวแรกเป็นแบบฝังบอร์ด และรองรับการใส่ 1 แถว ซึ่งใส่มาแล้ว 8GB อีกหนึ่งแถว รวมเป็น 16GB โดยใส่ได้รวมกันสูงสุด 24 GB (คือใส่ไปอีก 16GB) จากที่เป็น Gaming Notebook บางเบานั่นเอง อีกทั้งไม่รองรับการใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ เหมือนกับตัว FX505 อีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าปกติ
Performance / Software
ASUS ROG Zephyrus G GA502 ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H ที่แรงกว่า Ryzen 5 3550H สถาปัตยกรรม Zen+ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 12 nm ความเร็ว 2.3 – 4.0 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ร้อนน้อยกว่า ราคาต้นทุนถูกกว่า พร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น SenseMI คอยจัดการให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างที่ไม่มีใน Intel ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 10 ส่วนการ์ดจอก็อย่างที่รู้กันดีคือ GTX 1660 Ti Max-Q (6GB GDDR6)
สำหรับ AMD Ryzen 7 3750H แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen ตระกูล U พอตัว ส่วนแรมได้ขนาด 8GB 1 แถวแบบฝั่ง และ 8GB แบบใส่เป็นช่องสล๊อตอีก 1 แถว รวมเป็น 16GB เป็นมาตรฐาน Bus 2400 MHz รองรับการอัพได้สูงสุดที่ 24 GB (8GB + 16GB) พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ซึ่งมีช่องว่างใส่ SSD M.2 NVMe อีก 1 ตัวไว้อัพเกรดภายหลังได้ ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon RX Vega 10 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงกว่า GTX 1050Ti ใกล้เคียง GTX 1060 รุ่นก่อนหน้า แต่ก็ร้อนน้อยกว่า GTX 1660 Ti รุ่นปกติ เพราะเป็นรุ่น Max-Q เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา แต่ก็แรงไม่แพ้กัน เพราะทาง ASUS เค้า Overclock มาให้จากโรงงานแล้ว เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ก็ทำได้ดีใกล้เคียงกัน รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ของ Intel ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1389 MB/s และเขียนที่ 965 MB/s แม้อาจจะไม่ได้เร็วมาก แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,986 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ พร้อม OC มาจาก ASUS ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 80 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 240Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 120 – 240Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่
นอกเหนือจากนี้ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆ ของระบบร อาทิ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลายโปรไฟล์ ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG Zephyrus G GA502 ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 4800mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 8 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS ROG Zephyrus G GA502 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมด Turbo
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU ชิปประมวลผลอยู่ที่ไม่เกิน 95 องศาเซลเซียส ส่วน GPU การ์ดจอจะอยู่ที่ 72 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Balance ก็สามารถทำได้
ที่สำคัญคือ แม้อุณหภูมิในการประมวลผลหนักๆ จะได้ตัวเลขอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูง แต่ประสิทธิภาพ (Performance) มีความเสถียรไม่มีอาการแกว่ง นอกจากนี้ในการทำงานอุณหภูมิผิวสัมผัสบริเวณที่ใช้งานจริง ไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส ทำให้การใช้งานจริงไม่รู้สึกร้อนมือหรือรบกวนการใช้งานเลย ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม
Conclusion / Award
แม้ว่า Gaming Notebook รุ่นใหม่สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 H ที่จะเข้ามาแทนที่ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่เอาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร ใครก็ตามที่กำลังมองหา Gaming Notebook ที่มีความแรงและราคาคุ้มค่าสุดๆ สเปกนี้รุ่นนี้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในตลาดขณะนี้อยู่ จากการที่มีประสิทธิภาพในการทำงานหรือเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล พร้อมหน้าจอเทพๆ IPS 240Hz คุณภาพสูง ที่ปกติแล้วจะอยู่ในโน๊ตบุ๊คราคาสูงๆ
โดยทาง ASUS ได้เลือก AMD Ryzen 7 3750H จากการที่ชิปประมวลผลมีประสิทธิภาพดีเทียบเคียงกับ Intel Core i ตระกูล H ได้สบายในราคาที่ถูกกว่า ในส่วนของการ์ดจอก็ยังเลือกใช้ทาง NVIDIA อย่าง GeForce GTX 1660 Ti ที่ให้ทั้งความแรงระดับ RTX แต่คุ้มค่ากว่า พร้อมให้การกินไฟที่น้อย ส่งผลให้ร้อนน้อยลงไปอีกด้วย เรียกได้ว่าทำให้แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงกว่านั่นเอง
สำหรับ ASUS ROG Zephyrus G GA502 รุ่นล่าสุด มีความคุ้มค่าไม่แพ้ ASUS ROG Zephyrus G GA502 รุ่นก่อนหน้าที่เป็นหน้าจอ IPS 120Hz พร้อมแรม 8GB ในส่วนของ Gaming Notebook ของ ASUS ตระกูล ROG ที่มีราคาคุ้ม จากการรวมตัวของ AMD และ NVIDIA ผ่านทาง ASUS ที่แบรนด์อื่นสามารถทำตามได้ยาก หรือพูดง่ายๆ ตอนนี้ Gaming Notebook ในตลาดที่เป็น AMD + NVIDIA มีเพียง ASUS แบรนด์เดียวเท่านั้น (ส่วนว่าทำไมรุ่นนี้ยังไม่มาพร้อมการ์ดจอ AMD แรงๆ ของตนเอง เพราะรุ่นใหม่ยังไม่มาและ ASUS เลือกใส่ NVIDIA ไปก่อนไม่รอแล้วน้าาา)
จุดเด่นของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ก็คือ ได้ความเป็น ROG ที่พรีเมียม ตัวเครื่องบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ประสิทธิภาพดีลื่นไหล พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่างที่หาใน Gaming Notebook ราคาถูกอย่าง TUF Gaming ไม่ได้ ในส่วนของประสิทธิภาพการเล่นเกมก็ดีเยี่ยมถึงแม้จะไม่ใช่การ์ดจอ GTX 1660 Ti ตัวปกติ แต่ทาง ASUS ก็ทำการ Overclock มาให้แล้ว ทำให้ความแรงใกล้เคียงทีเดียว รวมไปถึงไม่มี SD Card Reader แต่ถ้าเทียบกับราคาที่จ่ายแล้วถือว่ารับได้สบายมากๆ
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจตามสไตล์ ROG งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบหน้าจอบางพิเศษ มิติเทียบเท่ารุ่น 14″ ตัวเครื่องเบา 2.1 กิโลกรัม
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H แรง ร้อนน้อย
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ร้อนน้อย พร้อม OC มาจาก ASUS
- แรมขนาด 16GB Dual Channel เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 24 GB
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการอัพเกรดอีก 1 สล็อต
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง พร้อมรองรับ 240 Hz
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป มีระบบไล่ฝุ่น
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง
- มีซอฟต์แวร์ Armory Crate มาช่วยปรับแต่งการใช้งาน
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบัติเหตุ 1 ปี
ข้อสังเกต
- ไม่มี SD Card Reader
- เน้นคุ้มค่าต่อราคา ASUS TUF Gaming FX505DU จ่ายถูกกว่า แต่แรงกว่า
- ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus G GA502 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ROG โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ROG Zephyrus G GA502 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.1 กิโลกรัมเท่านั้น วัสดุคุณภาพประกอบทั้งอลูมิเนียมอัลลอยด์และพลาสติกเกรดดี
Best Value
ASUS ROG Zephyrus G GA502 สเปคเป็น AMD Ryzen 7 3750H + NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q + จอ IPS 240Hz ขอบหน้าจอบาง + Ram 16GB + SSD M.2 NVMe 512GB + มี Windows 10 แท้ แถมได้การรับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกอีกด้วย ในราคาเพียง 35,990 บาท ที่สำคัญได้ความเป็น ROG Zephyrus ที่พรีเมียม บางเบา เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้
Best Mobility
ปัจจัยสำคัญของด้านการพกพาบางเบาก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 8 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus G GA502 ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 5 AC รวมถึง Bluetooth 5.0 หรือหากต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ตัวเครื่องก็ยังมีพอร์ตที่ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไปด้วยเช่นกัน
VDO Review
Specification
ASUS ROG Zephyrus G GA502 มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H สถาปัตยกรรม Zen+ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 12 nm ความเร็ว 2.3 – 4.0 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 10 ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ใช้สถาปัตยกรรมกับ RTX ที่เย็นกว่า GTX 10 Series พร้อมตัดพวกฟีเจอร์อื่นๆ ออกไปเน้นความแรงเป็นหลัก เน้นเย็นและประหยัดพลังงานเข้ากับตัวเครื่องที่บางเบา
ในส่วนของแรมได้มาขนาด 16GB Bus 2400 MHz แบบ Dual Channel (8GB x 2 โดยออนบอร์ดมาแล้ว 1 แถว) มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ที่มีความลื่นไหล อีกทั้งยังรองรับการติดตั้งอัพเกรดเพิ่ม SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้าคือได้หน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD ที่ 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS เกรดสูงคุณภาพเยี่ยม รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ให้ความลื่นไหลอย่างที่สุดด้วย (รุ่นก่อนเป็น IPS เกรดกลางๆ Refresh Rate ที่ 120Hz)
นอกจากนี้รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ก็จะมีระบบเสียง Hi-Res audio แบบ 7.1 Virtual surround พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3x USB 3.1 Gen1 Type-A และ 1x USB 3.1 Gen2 Type-C with charging and DisplayPort 1.4 ส่วน Thunderbolt 3 นั่นไม่มีนะ แต่คิดว่าไม่จำเป็นแล้วล่ะ ระบการเชื่อมต่อเป็น Wi-Fi AC และ Bluetooth 5.0 ตามมาตรฐาน พร้อมระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้มาให้ในตัว โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือไม่ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมมา ถ้าใครจะใช้ต้องหามาติดตั้งเอง
การรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วย อุ่นใจจัดเต็มครับ
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti Max-Q / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ IPS 120Hz ราคา 28,900 บาท
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 120Hz ราคา 30,400 บาท
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ IPS 240Hz ราคา 35,900 บาท
Hardware / Design
ASUS ROG Zephyrus G GA502 เป็นซีรีส์ ROG ที่เน้นความบางเบามากกว่า Gaming Notebook ทั่วไป โดยมีความบางสุดที่ 19.9 มิลลิเมตร มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 2.1 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางmที่ 6.2 มิลลิเมตร ขนาด 15.6″ สัดส่วนเป็น 81% ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz ดีไซน์โดยรวมเน้นความดุดัน แข็งแกร่งสไตล์ ROG ด้วยวัสดุเป็นโลหะพร้อมลวดลายแบบปัดเสี้ยนคล้ายกับ ROG ในหลายๆ รุ่น เรียกได้ว่าดูเป็น Gamer สายจริงจังยิ่งขึ้นไปอีกกว่าพวก TUF Gaming Series
ASUS ROG Zephyrus G GA502 เลือกใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะส่วนของชิ้นฝาหลัง ส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทานประมาณนึง โดยยังคงไว้ซึ่งการออกแบบที่สวยงาม ด้วยเส้นสายที่ทันสมัยและการตกแต่งเสริมความพรีเมียม ระบบระบายความร้อนที่มีความล้ำหน้าทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของทุกชิ้นส่วน ด้วยการออกแบบและวิศวกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของ Zephyrus series
ตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G GA502 นั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง เรียกได้ว่าแทบไม่มีความโค้งเว้าใดๆ ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว มาพร้อมกับวัสดุโลหะผสมระหว่างอลูมิเนียมและแมกนีเซียม มาในโทนดำตัดกับสีเทาเข้ม (Armor Titanium) ขอบของตัวเครื่องรวมไปถึงขอบด้านหลังนั้นถูกออกแบบมุมมาเป็นอย่างดีมีคำว่า ZEPHYRUS
จุดเด่นที่สุดซึ่งนั่นเป็นความภูมิใจของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ที่เป็น Gaming Notebook ตัวบางเบาแต่แรงก็คือ จากการติดตั้งการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่โดยทั่วไปแล้วเราจะเห็นใน Gaming Notebook ตัวหนาๆ หน่อย จะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti อย่าง ASUS TUF Gaming FX505DU เพราะมันจะปล่อยความร้อนค่อนข้างสูง แต่ Max-Q คือจะควบคุมความร้อนที่เกิดขึ้นได้ดีกว่า
ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องวัสดุพลาสติกที่แข็งแรงงานประกอบเรียบร้อย พร้อมอากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 3 ช่องด้านล่างใต้เครื่อง อีกทั้งยังมีช่องด้านบนเหนือคีย์บอร์ดมีช่องดูดลมอีกช่องช่วยนำพาอากาศเย็นเข้าไปอีก ติดตั้งด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ 3 ช่อง 2 สองพัดลมขนาดใหญ่ พร้อมช่องไล่ฝุ่น Anti-Dust Cooling ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสมขึ้นในอนาคต พัดลมคู่ n-Blade หมุนใบพัดมากถึง 83 ใบ เพียงแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวจากนั้นค่อยๆ ดึงขึ้น รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง ASUS นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ ASUS ROG Zephyrus G GA502 จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของตระกูล ROG ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลักด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1660Ti Max-Q ที่ทรงประสิทธิภาพ แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ รวมไปถึงพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด ทั้งจากฟีเจอร์ ดีไซน์และสเปกแรงล้ำกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงหน้าจอก็ใหญ่ที่ 15.6″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่า 14″ ทำให้ใช้งานได้เต็มตามากขึ้น ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ มีสติ๊กเกอร์ในส่วนของ AMD Ryzen และ NVIDIA GeForce ติดมาคู่กันในตำแหน่งใต้คีย์บอร์ดด้านขวาด้วย นับว่าค่อนข้างแปลกตาทีเดัยว
สรุปสั้นๆ สำหรับการดีไซน์และออกแบบตัวเครื่องของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ต้องบอกว่า ASUS ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและสวยงามน่าประทับใจ ประกอบกับการดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ที่ต้องการ Gaming Notebook บางเบาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้เสริมประสบการณ์ใช้งานยิ่งขึ้นไปอีก จากแต่ก่อนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ความแรงระดับนี้ จะอยู่บนตัวเครื่องที่บางและเบาแบบนี้ แต่ตอนนี้ทาง ASUS ทำออกมาได้แล้ว ในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
Keyboard / Touchpad
ASUS ROG Zephyrus G GA502 เป็นคีย์บอร์ดมีไฟ LED สีขาวสีเดียว ให้ความสะดวกด้วยปุ่ม Spacebar ด้านมุมล่างซ้ายก็ทำแหว่งออกมานิดหนึ่งเพื่อให้ใช้นิ้วโป้งซ้ายกดง่ายขึ้น แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยี OverStroke เพื่อการกดรัวที่ดียิ่งขึ้นด้วยปุ่ม N-key rollover & anti-ghosting และอายุคีย์บอร์ดที่สามารถกดได้ 20 ล้านครั้ง รวมถึงสามารถมีฟังก์ชั่นเพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมค์ และ ซึ่งตัวปุ่มต่างๆ ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์
ทัชแพดเองขนาดใหญ่แบบซ้อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย ปุ่มนุ่มกดง่าย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจมาก ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี ฟีเจอร์ Multi-touch หรือ Smart Gesture ที่สามารถใช้งานควบคู่กับ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมีในส่วนของปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดอย่าง F5 ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับเปลี่ยนโหมดการใช้งานระหว่าง Turbo mode สำหรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงสุด, Silent mode สำหรับเสียงรบกวนที่น้อยที่สุด, และ Balanced mode เพื่อความสมดุลในการใช้งาน
Screen / Speaker
ASUS ROG Zephyrus G GA502 มีหน้าจอขอบจอบางเฉียบเพียง 6.2 มิลลิเมตรทั้งขอบด้านข้างและด้านบนทำให้ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ รวมไปถึงยังเป็นหน้าจอ 240Hz ทำให้ใช้งานเล่นเกม FPS ฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้อย่างลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไปที่แค่ 60Hz รวมๆ แล้ว ถือว่าดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2020 ทั่วไปมากทีเดียว
ทดสอบหน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ที่แม้จะเป็นพาเนล IPS แต่ก็มีหลายเกณฑ์ โดยการดูประสิทธิภาพต่างๆ นแต่ละด้าน ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสัน Gamut เทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 92% และ AdobeRGB 71% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันระดับสูงซึ่งใกล้เคียงกับ sRGB 100% แน่นอนว่าเทียบกับ ASUS ROG Zephyrus G GA502 รุ่นก่อนหน้า ก็ถือว่าดีกว่ามากๆ ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 250 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพหน่อยก็ทำได้อย่างน่าประทับใจและไว้ใจได้
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 250 cd/m2 แต่สำหรับช่องบนมุมดซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงระดับ 9% ที่ถือว่ารับได้ ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว สรุปคือเล่นเกมได้ดีด้วย 240Hz และเป็นจอทำงานที่คุณภาพสูงด้วย
ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่อยู่ขอบตัวเครื่องข้างๆ ซ้ายขวา คุณภาพสูง พร้อม Smart Amp เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ระบบเสียงชั้นยอดอีกด้วย ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ให้ขอบเขตเสียงที่กว้าง จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ก็ตาม ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง ซึ่งหากว่าเพื่อนๆ เป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G GA502 กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว โดยตัวพอร์ตจะอยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง โดยมีทั้ง USB 3.1 Type-A (Gen 1) จำนวน 3 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย, USB 3.1 Gen2 Type-C with DisplayPort 1.4 พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, LAN RJ45 และ HDMI ไว้เชื่อมต่อหน้าจอภานอก ส่วน Kensington จะอยู่ที่ด้านขวาไว้ล็อคตัวเครื่องกับโต๊ะ
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 5 AC ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น ส่วนขนาดของตัวเครื่อง 36 x 25.2 x 1.99 เซนจิเมตร น้ำหนัก 2.1 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 180 W เข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น พอแบกพกพาไปไหนมาไหนได้อยู่ไม่หนักมาก ถือมือเดียวก็สบายๆ หยิบจับไปไหนก็สะดวกทีเดียว
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G GA502 เพื่อทำการอัพเกรดนั้นทำง่ายมากเพียงแกะน็อตออกทุกตัวแล้วใช้บัตรแข็งๆ ค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรงแกนฝาพับตัวเครื่องแล้วค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลังและแกะแผ่นออกมาทั้งหมด เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีพัดลมขนาดใหญ่ HyperCool พร้อมระบายความร้อนที่มี Anti-Dust Tunnels ที่อยู่ในชุดฟินสีแดง หมดกังวลเรื่องฝุ่นที่ติดตรงครีบระบายความร้อนจุดสังเกตที่เปลี่ยนไปคือตัวเครื่องเลือกใช้ฮีทไปป์ 3 เส้น เรียกได้ว่าเอาอยู่กับสเปกแบบนี้แล้ว
ซึ่งหลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดคือมีช่องใส่ SSD M.2 NVMe มาให้อีก 1 ช่อง โดยเดิมๆ ให้มาแล้ว 1 สล็อตอยู่แล้ว (รวมเป็น 2) ส่วนหน่วยความจำแรมขนาด 8GB แถวแรกเป็นแบบฝังบอร์ด และรองรับการใส่ 1 แถว ซึ่งใส่มาแล้ว 8GB อีกหนึ่งแถว รวมเป็น 16GB โดยใส่ได้รวมกันสูงสุด 24 GB (คือใส่ไปอีก 16GB) จากที่เป็น Gaming Notebook บางเบานั่นเอง อีกทั้งไม่รองรับการใส่ฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5″ เหมือนกับตัว FX505 อีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าปกติ
Performance / Software
ASUS ROG Zephyrus G GA502 ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H ที่แรงกว่า Ryzen 5 3550H สถาปัตยกรรม Zen+ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 12 nm ความเร็ว 2.3 – 4.0 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ร้อนน้อยกว่า ราคาต้นทุนถูกกว่า พร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น SenseMI คอยจัดการให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างที่ไม่มีใน Intel ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 10 ส่วนการ์ดจอก็อย่างที่รู้กันดีคือ GTX 1660 Ti Max-Q (6GB GDDR6)
สำหรับ AMD Ryzen 7 3750H แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าชิปประมวลผลที่เป็น AMD Ryzen ตระกูล U พอตัว ส่วนแรมได้ขนาด 8GB 1 แถวแบบฝั่ง และ 8GB แบบใส่เป็นช่องสล๊อตอีก 1 แถว รวมเป็น 16GB เป็นมาตรฐาน Bus 2400 MHz รองรับการอัพได้สูงสุดที่ 24 GB (8GB + 16GB) พร้อมให้ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ซึ่งมีช่องว่างใส่ SSD M.2 NVMe อีก 1 ตัวไว้อัพเกรดภายหลังได้ ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง AMD Radeon RX Vega 10 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ซึ่งโดดเด่นจริงๆ จะเป็นเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้งานเบาๆ
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงกว่า GTX 1050Ti ใกล้เคียง GTX 1060 รุ่นก่อนหน้า แต่ก็ร้อนน้อยกว่า GTX 1660 Ti รุ่นปกติ เพราะเป็นรุ่น Max-Q เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook บางเบา แต่ก็แรงไม่แพ้กัน เพราะทาง ASUS เค้า Overclock มาให้จากโรงงานแล้ว เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i5 ก็ทำได้ดีใกล้เคียงกัน รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ของ Intel ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1389 MB/s และเขียนที่ 965 MB/s แม้อาจจะไม่ได้เร็วมาก แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,986 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ พร้อม OC มาจาก ASUS ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง BF V / GTA V / FarCry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ซึ่งถ้าอยากให้เฟรมเรทลื่นไหลกว่านี้ก็สามารถเลือกปรับกราฟิกระดับกลางๆ ก็ได้
เกมออนไลน์อย่าง PUBG / Overwatch / DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 80 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ พาเนล IPS แบบ 240Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 120 – 240Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่
นอกเหนือจากนี้ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ยังมี Armory Crate ซอฟต์แวร์ Utility ที่ยกมาจาก ROG รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวบรวมเอาฮาร์ดแวร์ต่างๆของ ROG มาไว้บนยูทิลิตี้เดียว ทำให้สามารถเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่าต่างๆ ของระบบร อาทิ ผู้ใช้สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆตามความชอบเป็นรูปแบบได้หลายโปรไฟล์ ซึ่งการตั้งค่าต่างๆ จะถูกเรียกใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดเกมที่ได้เลือกไว้ Armoury Crate ยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริม Mobile Dashboard สำหรับ Android และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG Zephyrus G GA502 ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 4800mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 8 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ASUS ROG Zephyrus G GA502 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ส่วนกราฟิกการ์ดจะอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด ด้วยการเปิดโหมด Turbo
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU ชิปประมวลผลอยู่ที่ไม่เกิน 95 องศาเซลเซียส ส่วน GPU การ์ดจอจะอยู่ที่ 72 องศาเซลเซียสโดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดีมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมา แน่นอนว่ามากกว่า Gaming Notebook ในสเปกเดียวกัน สำหรับเสียงรบกวนในเวลาทำงานนั้นถือว่าดังประมาณนึง จากการที่เราสามารถเพิ่มรอบสูงสุดได้ด้วยซอฟต์แวร์จากปกติที่จะเป็นแบบ Balance ก็สามารถทำได้
ที่สำคัญคือ แม้อุณหภูมิในการประมวลผลหนักๆ จะได้ตัวเลขอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูง แต่ประสิทธิภาพ (Performance) มีความเสถียรไม่มีอาการแกว่ง นอกจากนี้ในการทำงานอุณหภูมิผิวสัมผัสบริเวณที่ใช้งานจริง ไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส ทำให้การใช้งานจริงไม่รู้สึกร้อนมือหรือรบกวนการใช้งานเลย ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม
Conclusion / Award
แม้ว่า Gaming Notebook รุ่นใหม่สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 H ที่จะเข้ามาแทนที่ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่เอาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร ใครก็ตามที่กำลังมองหา Gaming Notebook ที่มีความแรงและราคาคุ้มค่าสุดๆ สเปกนี้รุ่นนี้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในตลาดขณะนี้อยู่ จากการที่มีประสิทธิภาพในการทำงานหรือเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล พร้อมหน้าจอเทพๆ IPS 240Hz คุณภาพสูง ที่ปกติแล้วจะอยู่ในโน๊ตบุ๊คราคาสูงๆ
โดยทาง ASUS ได้เลือก AMD Ryzen 7 3750H จากการที่ชิปประมวลผลมีประสิทธิภาพดีเทียบเคียงกับ Intel Core i ตระกูล H ได้สบายในราคาที่ถูกกว่า ในส่วนของการ์ดจอก็ยังเลือกใช้ทาง NVIDIA อย่าง GeForce GTX 1660 Ti ที่ให้ทั้งความแรงระดับ RTX แต่คุ้มค่ากว่า พร้อมให้การกินไฟที่น้อย ส่งผลให้ร้อนน้อยลงไปอีกด้วย เรียกได้ว่าทำให้แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 8 ชั่วโมงกว่านั่นเอง
สำหรับ ASUS ROG Zephyrus G GA502 รุ่นล่าสุด มีความคุ้มค่าไม่แพ้ ASUS ROG Zephyrus G GA502 รุ่นก่อนหน้าที่เป็นหน้าจอ IPS 120Hz พร้อมแรม 8GB ในส่วนของ Gaming Notebook ของ ASUS ตระกูล ROG ที่มีราคาคุ้ม จากการรวมตัวของ AMD และ NVIDIA ผ่านทาง ASUS ที่แบรนด์อื่นสามารถทำตามได้ยาก หรือพูดง่ายๆ ตอนนี้ Gaming Notebook ในตลาดที่เป็น AMD + NVIDIA มีเพียง ASUS แบรนด์เดียวเท่านั้น (ส่วนว่าทำไมรุ่นนี้ยังไม่มาพร้อมการ์ดจอ AMD แรงๆ ของตนเอง เพราะรุ่นใหม่ยังไม่มาและ ASUS เลือกใส่ NVIDIA ไปก่อนไม่รอแล้วน้าาา)
จุดเด่นของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ก็คือ ได้ความเป็น ROG ที่พรีเมียม ตัวเครื่องบางเบา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ประสิทธิภาพดีลื่นไหล พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่างที่หาใน Gaming Notebook ราคาถูกอย่าง TUF Gaming ไม่ได้ ในส่วนของประสิทธิภาพการเล่นเกมก็ดีเยี่ยมถึงแม้จะไม่ใช่การ์ดจอ GTX 1660 Ti ตัวปกติ แต่ทาง ASUS ก็ทำการ Overclock มาให้แล้ว ทำให้ความแรงใกล้เคียงทีเดียว รวมไปถึงไม่มี SD Card Reader แต่ถ้าเทียบกับราคาที่จ่ายแล้วถือว่ารับได้สบายมากๆ
จุดเด่น
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจตามสไตล์ ROG งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ขอบหน้าจอบางพิเศษ มิติเทียบเท่ารุ่น 14″ ตัวเครื่องเบา 2.1 กิโลกรัม
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H แรง ร้อนน้อย
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ร้อนน้อย พร้อม OC มาจาก ASUS
- แรมขนาด 16GB Dual Channel เพียงพอต่อการใช้งาน อัพได้สูงสุด 24 GB
- ติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB รองรับการอัพเกรดอีก 1 สล็อต
- ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง พร้อมรองรับ 240 Hz
- อุณหภูมิในการใช้งานถือว่าเย็น ไม่ร้อนจนเกินไป มีระบบไล่ฝุ่น
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง
- มีซอฟต์แวร์ Armory Crate มาช่วยปรับแต่งการใช้งาน
- มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันที
- ประสบการณ์ใช้งานดีเยี่ยม ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับราคา
- ประกัน 2 ปี ส่งศูนย์ พร้อมฝากส่งเคลม 7-11 และมีประกันอุบัติเหตุ 1 ปี
ข้อสังเกต
- ไม่มี SD Card Reader
- เน้นคุ้มค่าต่อราคา ASUS TUF Gaming FX505DU จ่ายถูกกว่า แต่แรงกว่า
- ไม่มีกล้องเว็บแคม ถ้าใช้งานต้องหามาติดตั้งเอง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus G GA502 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ROG โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS ROG Zephyrus G GA502 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ แถมน้ำหนักเบาแค่ 2.1 กิโลกรัมเท่านั้น วัสดุคุณภาพประกอบทั้งอลูมิเนียมอัลลอยด์และพลาสติกเกรดดี
Best Value
ASUS ROG Zephyrus G GA502 สเปคเป็น AMD Ryzen 7 3750H + NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q + จอ IPS 240Hz ขอบหน้าจอบาง + Ram 16GB + SSD M.2 NVMe 512GB + มี Windows 10 แท้ แถมได้การรับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกอีกด้วย ในราคาเพียง 35,990 บาท ที่สำคัญได้ความเป็น ROG Zephyrus ที่พรีเมียม บางเบา เรียกได้ว่าคุ้มค่าจนหาตัวจับได้อยากทีเดียว สำหรับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แบบนี้
Best Mobility
ปัจจัยสำคัญของด้านการพกพาบางเบาก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า 8 ชั่วโมง และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง ASUS ROG Zephyrus G GA502 ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 5 AC รวมถึง Bluetooth 5.0 หรือหากต้องการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ตัวเครื่องก็ยังมีพอร์ตที่ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไปด้วยเช่นกัน