ConceptD 7 Ezel นี้เป็นการต่อยอดมาจาก ConceptD 7 ซึ่งเป็น Notebook สายทำงาน Digital Content Creator จากทาง Acer มาในรูปแบบ 2-in-1 Notebook พลิกหน้าจอไปมาได้ด้วยบานพับของ Ezel ที่ได้จดสิทธิบัตร (คล้ายกับรุ่นพี่อย่าง ConceptD 9 แต่คนละแบบ) จัดเต็มด้วยสเปกประสิทธิภาพสูงอย่างชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 H และการ์ดจอรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce RTX (รอเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกที) ส่งผลให้มีความแรงเทียบกับ Deskto PC สบายๆ ภายใต้ตัวเครื่องที่เบา 2.1 กิโลกรัม และบางเฉียบเพียง 17.9 มิลลิเมตร โดดเด่นสุดๆ ด้วยการที่มีปากกา Wacom EMR ในตัวพร้อมที่เก็บเนียนไปกับตัวเครื่อง
ConceptD 7 Ezel มีหน้าจอขนาดใหญ่ 15.6″ แต่กลับมีความเล็กลงจากมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดจากการที่ขอบจอบาง (ใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ยุคก่อนๆ) ผนวกกับหน้าจอ IPS เกรดสูง มีความละเอียดหน้าจอ 4K UHD (3840 x 2160 พิกเซล) พร้อมได้ PANTONE® Validated มาตรฐาน Adobe RGB ได้ 100% มีค่าความผิดเพี้ยนของสี delta-E น้อยกว่า 2 ส่วนกระจกเป็น Gorilla Glass 6 ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการมอบประสบการณ์ใหม่ๆในการทำงาน Digital Content Creator เต็มประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน ในส่วนของดีไซน์ภายนอกก็ดูเรียบหรู วัสดุเป็นอลูมิเนียมสีขาวตลอดทั้งตัวเครื่องแซมด้วยไฟสีส้มตามสไตล์ ConceptD สนนราคาที่ 2,699 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 80,000 บาท
ซึ่งหลักๆ แล้ว ConceptD 7 Ezel จะแบ่งออกเป็นรุ่นปกติ ใช้สเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 H และการ์ดจอรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce RTX Series ส่วนอีกรุ่นอีกสเปกจะเป็นชิปประมวลผล Intel Xeon ผสานการทำงานร่วมกับการ์ดจอระดับสตูดิโออย่าง NVIDIA Quadro RTX Series โดยชื่อจะตอกย้ำความเป็นมืออาชีพยิ่งกว่าในชื่อ ConceptD 7 Ezel Pro
ส่วนรายละเอียดต่างๆ ก็จะเหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแรมเป็นแบบ ECC ขนาด 32GB และ SSD M.2 NVMe ความจุ 2TB และติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro นับได้ว่าทาง Acer มีความตั้งใจเป็นอย่างมากในการนำเสนอ Notebook ที่เน้นการใช้งานเรื่องงานสร้างสรรค์ที่ปัจจุบันมีการขยายตัวเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีความหลากหลายกว่าเดิม ทำให้ในส่วนของ ConceptD มีให้เลือกมากมายนั่นเอง
ที่สำคัญนอกจากความเป็นที่สุดยอด 2-in-1 Notebook ตัวแรงระดับมืออาชีพแล้วก็คือ ConceptD 7 Ezel มีโหมดหน้าจอให้เลือกถึง 5 โหมด จากการที่บานพับมีคสามพิเศษที่สามารถพับพลิกไปมาได้อิสระ ซึ่งแบ่งออกเป็นโหมดต่างๆ ได้แก่ Sharing Mode, Floating Mode, Stand Mode, 2 Pad Mode และ Display Mode ที่ต้องยอมรับว่ามันดีจริงๆ ในเรื่องของมุมมองการใช้งานต่างๆ นับได้เหนือชั้นกว่า Notebook ทั่วไปแน่นอน แม้ราคาดูสูงแต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ อย่างที่โน๊ตบุ๊คปกติทั่วไปไม่สามารถให้ได้ง่ายๆ
ConceptD 7 Ezelใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยพัดลมแบบพิเศษ AeroBlade 3D Gen 4 ใช้พัดลม 2 ตัว ตัวละ 59 ใบพัดขนาด 0.1 มิลลิเมตร ออกแบบพิเศษได้รับแรงบันดาลใจจากกลไกการบินที่เงียบสนิทและทรงพลังของนกฮูก ปลายใบพัดลมของเราจึงมีรอยหยักเพื่อให้อากาศผ่านได้มากขึ้น ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 4 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผลและการ์ดจอด้วยฮีทไปป์รวมกันถึงหลายเส้น ที่ใหญ่กว่าทุกๆ รุ่นหายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
เรื่องของการดีไซน์ออกแบบ หลักๆ ConceptD 7 Ezel ยังมีทรงคล้ายๆ กับ ConceptD 7 เรียกได้ว่าถอดแบบกันมาเลยดีกว่า ซึ่งจากการที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมตลอทั้งตัวเครื่องทำให้ดูแข็งแรงทนทานและหรูหรา รวมไปถึงการพกพาก็สะดวก ด้วยหน้าจอขอบบางทำให้แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ แต่ขอบหน้าจอบางเฉียบให้มิติโดยรวมตัวเครื่องทั้งหมดมีขนาดที่เล็กกระชับ มีความบางที่ 17.9 มิลลิเมตรเท่านั้น นับว่ามีความบางเบากว่ารุ่นก่อนมาก รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น กับน้ำหนักเบาเพียง 2.1 กิโลกรัม
สีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีขาวสว่างทั้งตัวเครื่อง ทำให้ดูเรียบง่ายเรียบเนียนสวยงาม พร้อมความพิเศษจากการที่ การใช้เทคโนโลยี Micro-Arc Oxidation เป็นการใช้ไฟฟ้าแรงสูงเผาวัสดุอลูมิเนียมก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีถึงระดับจุลภาค กำเนิดเป็น Magnesium-Lithium พื้นผิวเซรามิคเคลือบทับวัสดุอีกที ทำให้ตัวเครื่องทนทานต่อรอยขีดข่วนเรียบหรูคงทน พร้อมความหรูหราและสวยงาม
โดยฝาหลังของ ConceptD 7 Ezel เป็นอลูมิเนียมดูสวยงามดุดันซึ่งไม่มีสัญลักษณ์อะไรเลย นอกจากขอบฝาด้านบนจะเป็นคำว่า ConceptD ส่วนด้านในเหนือคีย์บอร์ดก็เป็นอีกจุกที่มีความว่า ConceptD เรียกได้ว่าไม่มีคำว่า Acer อยู่เป็นตัวเครื่องเลย ทำให้แตกต่างจากโน๊ตบุ๊คของทาง Acer ที่เป็นรุ่นอื่นๆ ชัดเจนทีเดียว
ConceptD 7 Ezel มีตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6”ขอบหน้าจอบางก็จริง แต่ก็ยังสามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ โดยเลือกตัดคีย์ตัวเลข (Numpad) ออกไป โดยตัวปุ่มจะเป็นสีขาวเข้ากับตัวเครื่อง มีฟอนต์เป็นสีเทารวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ Backlit สีส้มที่ดูแล้วโดดเด่นและแตต่าง (ปรับแสงได้ 5 ระดับ) ที่ให้ความสว่างพอสมควร ใช้งานในที่แสงน้อยหรือกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มติดมือ รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา มีขอบเป็นสีเงินสวยงาม ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
หน้าจอของ ConceptD 7 Ezel มีขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 81% ด้วยขอบจอบางเฉียบบนความละเอียด 4K UHD ที่ 3840 x 2160 พิกเซล ให้ทั้งความเรียบเนียนตาหรือพื้นที่ในการใช้งานมากกว่า Full HD หลายเท่าตัว กับพาเนล IPS แบบ 60Hz เกรดสูง มาตรฐาน PANTONE® Validated ให้ค่าความสีคลาดเคลื่อนเพียง Delta E < 2 พร้อมขอบเขตสีระดับ 100% Adobe RGB ให้สีสันที่สวยงามเที่ยงตรงแบบสุดๆ เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป ที่สำคัญมีความสว่างมากๆ ที่ 400-nit ทำให้ใช้งานนอกสถานที่หรือตามสตูดิโอได้สบายๆ อีกทั้งยังปรับโปรไฟล์สีและมอนิเตอร์โหลดของระบบได้ผ่านโปรแกรม ConceptD Palette ได้ด้วย
ซึ่งตรงนี้ทำให้รองรับการทำงานระดับมืออาชีพได้สมบูรณ์แบบทีเดียว เหมาะกับงานที่จริงจังเรื่องสีสันและความละเอียดของหน้าจอ รวมไปถึงเมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานแบบจริงจัง ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่าอื่นๆ พร้อมกางได้ถึง 145 องศา ซึ่งมียางรองพิเศษที่ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงยิ่งขึ้น ทำให้ระบายความร้อนดียิ่งกว่า พร้อมติดตั้งกล้องเว็บแคมแบบ 720p และไมโครโฟนไว้ขอบตัวเเครื่องด้านบน ให้ความแตกต่างจากมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คทั่วไป
สำหรับปากกาสไตลัสที่ติดตั้งบนตัวเครื่องของ ConceptD 7 Ezel เป็นของแบรนด์ Wacom ที่ทุกคนมั่นใจได้ กับการใช้งานระดับมืออาชีพ คือความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยเทคโนโลยี EMR (Electro-Magnetic Resonance) ปากกาที่ไร้แบตเตอรี่พร้อมความไวต่อแรงกด 4,096 ระดับจึงมอบประสบการณ์การวาดภาพที่เป็นธรรมชาติอย่างต่อเนื่องตลอดการใช้งาน นอกจากนั้นยังมอบความสะดวกสบายด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และน้ำหนักที่เบาเพื่อนำเสนอความแม่นยำและการควบคุมให้แก่เรา โดยปากกาถูกติดั้งไว้ที่ขอบหน้าจอด้านขวาของตัวเครื่อง
ConceptD 7 Ezel จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A, 2 x Thunderbolt 3 (USB 3.1 Type-C, mini DisplayPort, USB-PD), HDMI, RJ45 และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังเลือกติดตั้งช่อง SD(XC/HC) Card reader ไว้ที่ขอบของด้านหน้าตัวเครื่องด้วย ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดดีที่สุด พร้อมมีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน
สำหรับแนวคิดของ ConceptD 7 Ezel จะถูกว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เน้นการใช้งานประมวลผลสูง ๆ เป็นเวลานาน สเปคภายในใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 H หรือ Intel Xeon รุ่นล่าสุด โดยทำงานร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX / Quadro RTX รุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมใช้งานโปรแกรมต่างๆ ประเภท VR, AI และการประมวลผล Big Data รวมไปถึงงานสร้างสรรค์ต่างๆ อย่างตระกูลของ Adobe
สนับสนุน Ray-Tracing รองรับงานประมวลผลหนักๆ ไม่ว่าจะเป็น AI/deep learning, การจำลองทางวิศวกรรม และสตูดิโออนิเมชั่น ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม Nvidia Studio ซึ่งจะมาพร้อมกับ SDKs และ APIs ที่ถูกเพิ่มเข้ามาช่วยให้ผู้ที่ทำงานทางด้านกราฟิกซึ่งใช้ฮาร์ดแวร์ของทาง NVIDIA สามารถใช้งานในการสร้างสรรค์งานได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งจัดเต็มด้วยแรม ECC ขนาด 32GB และ SSD M.2 NVMe ที่ 2TB
สำหรับ ConceptD 7 Ezel มาในรูปแบบของ 2-in-1 Notebook ซึ่งมีดีไซน์ตัวเครื่องมาในทิศทางของ ConceptD 7 รุ่นปกติ โดยตัวเครื่องนั้นจะมาพร้อมกับแกนยึดหน้าจอที่สามารถปรับแต่งรูปแบบสำหรับการใช้งานได้ พร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาด 15.6″ 4K ด้วยมาตรฐาน AdobeRGB ที่ 100% (Delta E น้อยกว่า 2) ใช้กระจก Gorilla Glass 6 เรียกได้เป็นหน้าจอที่เทพมากๆ ทั้งความละเอียด คุณภาพ ค่าสี และขอบเขตสี ที่หาได้ยากในโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป
สำหรับตัวหน้าจอยังรองรับการทำงานร่วมกับปากกาสไตลัสที่ทาง Acer ได้ร่วมกันพัฒนาขึ้นมากับทาง Wacom EMR ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่และมีที่เก็บในตัวที่เรียบเนียน โดยตัวสไตลัสสามารถรองรับแรงกดได้ต่างกันถึง 4,096 ระดับ ใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่การจดโน้ตหรือไฮไลต์ ไปจนถึงการวาดภาพ เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการใช้ปากกาจริงๆ อย่างที่สุด เมื่อใช้งานร่วมกับหน้าจอที่ปรับหมุนไปมาได้ ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายอย่างที่สุด ไว้มีโอกาสแอดมินโป้งจะมารีวิวตัวจริงกันอีกทีของ ConceptD 7 Ezel นะครับ