ASUS เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ Notebook ที่ได้รับความน่าสนใจมาโดยตลอด เพราะมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์มากมายทั้งในส่วนของ Notebook เน้นคุ้มค่าใช้งานพื้นฐานอย่าง VivoBook หรือหรูหราบางเบาก็จะเป็น ZenBook รวมไปถึง Gaming Notebook คุ้มๆ อย่าง ASUS TUF Gaming FX505 Series ขยับขึ้นไปก็จะเป็นตระกูล ROG ที่มีให้เลือกมากมายตั้งแต่เริ่มต้นจนสุดทาง ทั้งหมดนี้พร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุด ใครสนใจจะซื้อ Notebook รุ่นใหม่ๆ ต้องมี ASUS เป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน สนนราคามีให้เลือกตั้งแต่หมื่นบาทกลางๆ ทุกรุ่นได้ประกัน 2 ปี ส่งเคลมร้าน 7-11 ได้ พร้อมปีแรกมีประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty ให้ด้วย
โดยในบทความนี้เราจะมาจัดอันดับ ASUS Notebook รุ่นใหม่ปี 2020 น่าซื้อสุดๆ ทั้งเล่นเกม ทั้งทำงาน บางเบา แรงลื่น สเปกหลักๆ มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 รหัส U / Gen 9 รหัส H หรือ AMD Ryzen 3000 รหัส U / รหัส H แน่นอนว่ามีรุ่นการ์ดจอแยก Gaming อย่าง NVIDIA GeForce ได้แรมพื้นฐานมาขนาด 8 – 16GB ได้ ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 256 – 512GB (บางรุ่นติดตั้ง HDD 2.5″) ได้หน้าจอที่ใหญ่เหมาะสมกับการใช้งานด้วยขนาด 14″ – 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนลเป็น IPS 60 / 120 / 144Hz หรือ TN ให้สีสันที่สวยงาม ทุกรุ่นมี Windows 10 แท้ ซึ่งจะมีรุ่นไหนบ้าง ไปชมกันต่อเลยครับ
ASUS VivoBook 14 X412DA ราคา 14,490 – 16,990 บาท
ASUS VivoBook 14 X412DA ได้ดีไซน์บางเบา Thin & Light ขอบจอบางเฉียบ NanoEdge ทั้ง 4 ด้าน สัดส่วนจอแสดงผล 88% แถมมีฟีเจอร์บานพับ ErgoLift เหมือนในรุ่นพี่ ZenBook เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง แต่ได้ความสวยงามคุ้มค่า มาพร้อมสีสัน 4 เฉดสีที่แตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น สีเงิน (Transparent Silver), สีเทา (Slate Grey), สีแดงแสด (Coral Crush) และ สีน้ำเงิน (Peacock Blue) ซึ่งขอบจอด้านในจะตัดเป็นสีดำดูแล้วมีความสวยงามลงตัว โดยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 10 ชั่วโมง
จัดได้ว่า ASUS VivoBook 14 X412DA เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่ทำมาได้สวยมาก มีความบางเบาเน้นพกพา ด้วยน้ำหนักเพียง 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น รวมไปถึงมิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3″ เท่านั้น ฝาหลังจะเป็นไปตามสีของตัวเครื่อง ประกอบกับวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ซึ่งอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift Hinge พร้อมกับเวลากางหน้าจอ ตัวเครื่องจะยกสูงขึ้น 2 องศา
สเปกภายในใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด AMD Ryzen 5 3500U / Ryzen 7 3700U เป็นสถาปัตยกรรม 12 nm Zen+ รุ่นใหม่ ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด การ์ดจอออนบอร์ด VEGA 8 / VEGA 10 ประสิทธิภาพดี รองรับการเล่นเกมออนไลน์พอได้ แรมให้มาขนาด 4GB DDR4 แบบฝังบอร์ด และ 4GB ติดมาอีกแถว รวมเป็น 8GB (ติดตั้งได้สูงสุดที่ 20GB) สำหรับฮาร์ดดิสก์ให้มาทั้ง SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ความจุ 512GB ส่วนหน้าจอเป็นขนาด 14″ ที่ได้ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพดี
มีลำโพงคุณภาพทำงานร่วมกับระบบเสียง ASUS SonicMaster ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A , USB 2.0 Type-A, HDMI, และ microSD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Dual-band Wi-Fi 5 AC และ Bluetooth 4.2 ด้วย รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานได้ทันที
- Ryzen 5 3500U / VEGA 8 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ TN ราคา 14,490 บาท
- Ryzen 7 3700U / VEGA 10 / RAM 8GB / SSD 512GB ราคา 16,990 บาท
ASUS VivoBook S15 S531 ราคา 24,900 – 29,990 บาท
SUS VivoBook S15 S531 รุ่นปี 2020 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานหรือความบันเทิงรูปแบบ Thin & Light อย่างแท้จริง ที่จะเน้นเรื่องของความบางเบาและสวยงามเป็นหลัก พร้อมความหรูหราที่ดูดียิ่งกว่ารุ่นราคาใกล้เคียงกัน โดยเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ให้ความไลฟ์สไตล์เหมาะทั้งนักเรียนนักศึกษาและคนทำงาน สเปคคุ้มๆ ที่จะมาพร้อมกับสีสันทั้ง 5 สีสัน โดยมีราคาที่ 24,990 – 29,990 บาท สำหรับรุ่นสเปก Core i5-10210U และ Core i7-10510U เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 10 (Comet Lake) รุ่นล่าสุด ส่วนสเปกอื่นๆ เหมือนกันทั้งหมด
ได้การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce MX250 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆมาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 178 องศา ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 2400Hz ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน สำหรับที่เก็บข้อมูลหลักเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB (รองรับการอัพเกรด HDD 2.5″ SATA 3) ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 AC ด้วย นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และมี 3D IR Camera ไว้ใช้งาน Login ผ่านทาง Windows Hello บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ที่มีมาให้อยู่แล้ว
ASUS VivoBook S15 S531 ปี 2020 โดดเด่นด้วยสีสันสดใสโดดเด่นรวมถึงการออกแบบทำมาได้สวยมาก ตัวเครื่องฝาหลังและตัวเครื่องด้านในจะเป็นอะลูมิเนียมตามสีของตัวเครื่อง ซึ่งพิเศษตรงที่ ASUS VivoBook S15 S531 จะได้ขอบหน้าจอด้านข้างที่มีการซ้อนสีกันอย่างลงตัวประกอบกับชิ้นส่วนใต้ตัวเครื่องเป็นวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา มาพร้อมสีสัน 5 เฉดสีที่แตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นสีเงิน (Transparent Silver) ที่นำมารีวิว, สีชมพู (Punk Pink), สีดำ (Gun Metal), สีเขียว (Moss Green) และ สีน้ำเงิน (Cobalt Blue) ซึ่งขอบจอด้านในจะตัดเป็นสีดำดูแล้วมีความสวยงามลงตัว
ตัวเครื่อง ASUS VivoBook S15 S531 มีเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift Hinge พร้อมกับเวลากางหน้าจอ ตัวเครื่องจะยกสูงขึ้นที่ 3.5 องศา เพื่อให้เราสามารถวางข้อมือพิมพ์งานได้ถนัดรวมถึงช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนอีกด้วย พร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 145 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้นจากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง ขอบจอตัวเครื่องก็บางมากๆ ดูแล้วลดขนาดตัวเครื่องลงไปได้เยอะเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้อยู่ในน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.8 กิโลกรัม พร้อมความบางเพียง 1.85 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดีมากๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ปี 2020
- Core i5-10210U / MX250 / RAM 8GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS ราคา 24,990 บาท
- Core i7-10510U / MX250 / RAM 8GB / SSD 1TB / จอ 15.6″ IPS ราคา 29,990 บาท
ASUS TUF Gaming FX 505 Series ราคา 18,790 – 30,490 บาท
เป็นกระแสเสมอมาสำหรับ ASUS TUF Gaming FX505DT / FX505DU / FX505DV (ขอตัดรุ่น FX505DD ออก ที่เป็นการ์ดจอ GTX 1050) ที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสุดคุ้มสเปก AMD + NVIDIA เป็น Gaming Notebook ยอดนิยมประจำปี 2019 ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง ASUS และ AMD รวมถึง NVIDIA นำเสนอโน๊ตบุ๊คสเปกเล่นเกมลื่นราคาถูกคุ้มที่สุด เรียกได้ว่าความแรงและฟีเจอร์อื่นๆ เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook สเปกที่เป็น Intel + NVIDIA ที่ผ่านมาเสียอีก ที่สำคัญล่าสุดก็คือ ราคาในตอนนี้ได้มีการปรับให้ถูกคุ้มลงมายิ่งกว่าเดิมเสียอีก
ASUS TUF Gaming FX505 Series ต่อยอดมาจาก ASUS TUF Gaming FX505 รุ่นก่อนๆ รวมไปถึง FX505DY ที่เป็น AMD ทั้งชิปประมวลผล Ryzen และการ์ดจอ Radeon RX560X ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยไปทำการตีบวกยัดสเปคจัดเต็มแน่นเอียดในราคาสุดคุ้มเหมือนเดิม ราคาเริ่มต้นที่ 18,790 บาท จนไปถึง 30,490 บาท นับว่าเป็น Gaming Notebook จอ 15.6″ ที่คุ้มค่ามากๆ ใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 5 3550H / AMD Ryzen 7 3750H ที่แรงลื่นไม่ร้อน การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1660Ti / RTX 2060 รุ่นใหม่ล่าสุด
สเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้หน้าจอที่ 120Hz แบบ NanoEdge ขอบจอบาง ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขนาด 15.6″ ส่วนแรมขนาด 8 – 16GB DDR4 2666MHz (สูงสุดที่ 32GB) รวมไปถึงที่เก็บข้อมูลให้มาเลยคือ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐานพร้อมรองรับการอัพเกรด HDD 2.5″ ได้อีก 1 ตัว อีกทั้งการเชื่อมต่อก็ครบถ้วนด้วยมาตรฐาน Wi-Fi AC และ Bluetooth 5.0 พร้อมกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว พร้อมระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้มาให้ในตัว แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 6 – 7 ชั่วโมงโดยประมาณ
ASUS TUF Gaming FX505 มีความน่าสนใจไม่แพ้ Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ อย่างในเรื่องของขอบหน้าจอบาง นั่นก็ทำให้ตัวเครื่องมิติโดยรวมมีความเล็กกระทัดรัดลง แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ แต่ก็มีความใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14″ แบบสมัยก่อนๆ มาก ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรงมากๆ แต่น้ำหนักเบาๆ พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook น้อยรุ่นนักที่มาพร้อมคุณสมบัติแบบนี้
- Ryzen 5 3550H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 18,790 บาท
- Ryzen 7 3750H / GTX 1650 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 21,900 บาท
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 24,900 บาท
- Ryzen 5 3550H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 29,900 บาท
- Ryzen 7 3750H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 30,490 บาท
ASUS ZenBook 14 UX434 ราคา 26,990 – 35,990 บาท
ASUS ZenBook 14 UX434 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาสเปก Intel Core i Gen 10 ที่เน้นความกะทัดรัด พกพาสะดวก ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค 2 จอสุดล้ำ ได้ดีไซน์ตัวเครื่องขอบจอบางเป็นมาตรฐาน จากการใช้หน้าจอแสดงผล 14″ ขอบบางแบบ NanoEdge ความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูงซึ่งทำให้ ZenBook รุ่นนี้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คมิติตัวเครื่องเทียบเท่าขนาด 13.3″ เท่านั้น เบาสุดเพียงแค่ 1.26 กิโลกรัม ส่วนตัวเครื่องก็บางเพียง 16.9 มิลลิเมตรเท่านั้นได้สเปก Core i Gen 10 ที่สดใหม่ นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call และ 3D IR Camera ที่ใช้งานร่วมกับ Windows Hello
โดดเด่นด้วย ScreenPad 2.0 กับหน้าจอที่สอง ต่อยอดมาจากปีก่อน ติดตั้งแทนที่ทัชแพดแบบเดิมๆ เป็นหน้าจอที่สอง แบ่งเป็นสองสเปกคือ Intel Core i5-10210U / Core i7-10510U ที่เป็น Core i Gen 10 + GeForce MX250 สำหรับ ASUS ZenBook 14 UX434 สนนราคาเริ่มแค่ 26,990 บาท ถึง 35,990 บาท สเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจด้วยแรม 8GB พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB มี Windows 10 แท้ในตัว ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 AX 2×2 และ Bluetooth 5.0 ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.26 กิโลกรัมเท่านั้น นับว่าถูกคุ้มมากๆ เมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้ ส่งผลให้เป็นสุดยอดโน๊ตบุ๊คยุคใหม่เลยก็ว่าได้
ด้วยการออกแบบตัวเครื่องที่เน้นเป็นสุดยอดโน๊ตบุ๊คที่หรูหรา ทำให้ ASUS ZenBook 14 UX434 มีความบางเบาที่สุด โดยบางเพียง 16.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักแค่ 1.26 กิโลกรัม สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ โดยเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ต้องการที่สุดของโน๊ตบุ๊คในเกรดระดับสูง หรือคนทำงานพนักงานออฟฟิศที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ที่สำคัญคือได้ภาพลักษณ์ด้วย ทัชแพดก็พิเศษสุดๆ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเป็น ScreenPad 2.0 ที่พัฒนาต่อจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งเป็นหน้าจอที่ 2 มีขนาดที่ 5.65″ ความละเอียด 2160 x 1080 พิกเซล พาเนลเป็น IPS คุณภาพสูง
โดย ASUS ZenBook 14 UX434 วัสดุหลักเป็นอะลูมิเมียมเกรดสูงแบบ Unibody ที่ไร้รอยต่อ ผสานกับลวดลายการออกแบบอันเป็นแบบฉบับของ ZenBook รอบนอกเครื่องแบบโค้งมน รวมไปถึงด้านในอย่างตัวอักษรคีย์บอร์ด มีความโดดเด่นขึ้นมาอีกขั้น สำหรับบานพับ ErgoLift Hinge นั้นเวลาที่กางออกมาใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คจะทำให้คีย์บอร์ดทำมุม 3 องศากับฐานตั้ง พร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 145 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้จากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง
- Core i5-10210U / UHD 620 / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 26,990 บาท
- Core i5-10210U / MX250/ RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 29,990 บาท
- Core i7-10510U / MX250/ RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 14″ IPS ราคา 35,990 บาท
ASUS ROG Zephyrus G GA502DU ราคา 28,900 – 35,900 บาท
ASUS ROG Zephyrus G มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H ที่แรงกว่า Ryzen 5 3550H สถาปัตยกรรม Zen+ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม 12 nm ความเร็ว 2.3 – 4.0 GHz แบบ 4 Core/ 8 Thread ผสานกับการ์ดจอออนบอร์ดที่เป็น Radeon RX Vega 10 ส่วนการ์ดจอแยกจะเป็น NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ที่ใช้สถาปัตยกรรมกับ RTX ที่เย็นกว่า GTX 10 Series พร้อมตัดพวกฟีเจอร์อื่นๆ ออกไปเน้นความแรงเป็นหลัก เน้นเย็นและประหยัดพลังงานเข้ากับตัวเครื่องที่บางเบา
นอกจากนี้รายละเอียดอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G GA502 ได้แรมขนาด 8 – 16GB DDR4 Bus 2666MHz มีที่เก็บข้อมูลแบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB มีระบบเสียง Hi-Res audio แบบ 7.1 Virtual surround พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 3x USB 3.1 Gen1 Type-A และ 1x USB 3.1 Gen2 Type-C with charging and DisplayPort 1.4 ส่วน Thunderbolt 3 นั่นไม่มีนะ แต่คิดว่าไม่จำเป็นแล้วล่ะ ระบการเชื่อมต่อเป็น Wi-Fi AC และ Bluetooth 5.0 ตามมาตรฐาน พร้อมระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้มาให้ในตัว โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือไม่ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมมา ถ้าใครจะใช้ต้องหามาติดตั้งเอง
SUS ROG Zephyrus G GA502 เป็นซีรีส์ ROG ที่เน้นความบาง ที่ 19.9 – 2.04 มิลลิเมตร มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 2.1 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางmที่ 6.2 มิลลิเมตร ขนาด 15.6″ สัดส่วนเป็น 81% ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 120Hz – 240Hz ดีไซน์โดยรวมเน้นความดุดัน แข็งแกร่งสไตล์ ROG ด้วยวัสดุเป็นโลหะพร้อมลวดลายแบบปัดเสี้ยนคล้ายกับ ROG ในหลายๆ รุ่น แต่ดูแล้วมีความสดใหม่กว่า เรียกได้ว่าดูเป็น Gamer สายจริงจังยิ่งขึ้นไปอีกกว่าพวก TUF Gaming Series
ASUS ROG Zephyrus G GA502 เลือกใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะส่วนของชิ้นฝาหลัง ส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทานประมาณนึง โดยยังคงไว้ซึ่งการออกแบบที่สวยงาม ด้วยเส้นสายที่ทันสมัยและการตกแต่งเสริมความพรีเมียม ระบบระบายความร้อนที่มีความล้ำหน้าทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของทุกชิ้นส่วน ด้วยการออกแบบและวิศวกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของ Zephyrus series
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti Max-Q / RAM 8GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ 120Hz ราคา 28,900 บาท
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ 120Hz ราคา 32,900 บาท
- Ryzen 7 3750H / GTX 1660 Ti Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ 240Hz ราคา 35,900 บาท
ASUS ROG Strix G531 ราคา 25,900 – 55,900 บาท
ASUS ROG Strix G531 จะมีจำหน่ายอยู่หลากหลายสเปก รุ่นที่ได้มาเป็นสเปกท็อปสุดของการ์ดจอ GTX คือ ได้ชิปประมวลผลตัวแรงเป็น Intel Core i5-9300H / Core i7-9750H ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1660 Ti / RTX 2060 พร้อมฮาร์ดดิสก์แบบ SSD แบบ NVMe ความจุ 512GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 หนึ่งแถว (อัพได้สูงสุด 32GB) ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก
หน้าจอที่นำมาติดตั้งเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ กับความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz – 240Hz แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, mini DisplayPort, HDMI, 3 x USB 3.0, Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45 , Headset
โดดเด่นด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB พร้อม Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง พร้อมมีระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ทำงานร่วมกับดีไซน์ช่องระบายความร้อนแบบ 3D Flow Zone ด้วยพัดลมคู่ความเร็วรอบสูงแบบ 12V 83 ใบพัด การเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 ac พร้อมเทคโนโลยี RangeBoost ใช้ตัวรับสัญญาน Wifi แบบ Multi-antenna บนมาตรฐาน Wave 2 (2×2 + 2×2) ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ROG Strix G531 เป็น Gaming Notebook ขอบจอบางตัวเครื่องมิติเล็กกระชับทั้ง 3 ด้าน คือ บน ซ้ายและขวา พร้อมตัดกล้องเว็บแคมออกไป มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม คาดว่าจะมาแบบแยกแนวเดียวกับ ASUS Zephyrus S GX701 ส่วนบานพับเป็นแบบ ASUS Zephyrus S GX531 แบบ 2 แกนยกตัวขึ้นมา ที่ทั้ง ASUS ROG Strix Hero III ได้ทาง BMW Designworks Group มาร่วมออกแบบด้วย เห็นได้ชัดจากชุดระบายความร้อนด้านหลังที่เป็นครีบคล้ายกับเสื้อสูมมอเตอร์ไซต์จาก BMW เรียกได้ว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น
- i5-9300H / GTX 1650 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 25,900 บาท
- i7-9750H / GTX 1650 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 30,490 บาท
- i5-9300H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 32,900 บาท
- i7-9750H / GTX 1660 Ti / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 35,900 บาท
- i5-9300H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 120Hz ราคา 34,490 บาท
- i7-9750H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 240Hz ราคา 45,490 บาท
- i7-9750H / RTX 2070 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 240Hz ราคา 55,900 บาท