Lenovo YOGA C940 เป็น 2-in-1 Notebook ระดับสูง ที่สามารถพับจอได้ 360 องศา ด้วยจอสัมผัสคุณภาพสูงขนาด 14″ ที่ดีที่สุดด้วยความละเอียด 4K Ultra HD (3840 x 2160 ความสว่าง 500 nits) แบบ IPS พร้อมเทคโนโลยี HDR VESA400 ที่ให้สีสันสดใสสมจริงยิ่งกว่า และนอกจากรองรับการสัมผัสจอภาพ ยังมาพร้อมช่อง Garaged Digital Pen ซ่อนอยู่ตรงขอบจอภาพ อีกทั้งด้านเสียงก็ยังมีลำโพงที่มาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos Speaker System ระบบ 3D ที่ปรับทิศทางเสียงให้เหมาะกับแต่ละโหมดการใช้งาน
นอกจากนั้น Lenovo YOGA C940 ยังมากับตัวเครื่องที่ผลิตจากอลูมิเนียมชั้นดี สวยงามแต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน และบางเบาด้วยความหนาแค่ 14.5 มิลลิเมตร หนักเพียง 1.35 กิโลกรัมเท่านั้น ในส่วนของพอร์ตเชื่อมมีทั้ง Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต ที่รองรับการชาร์จไฟ พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 15 – 16 ชั่วโมง และยังชาร์ตไวด้วยเทคโนโลยี RapidCharge สเปกจัดเต็มด้วย Core i7-1065G7 แรม 16GB พร้อม SSD 1TB ในราคา 56,900 บาท ที่สำคัญได้ประกันเทพๆ แบบ 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านด้วย
VDO Review
Specification
สเปกของ Lenovo YOGA C940 ตัวที่เราได้รับมารีวิวเป็นตัวเดโม ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-1065G7 (Ice Lake) ที่เป็นการทำงานแบบ 4 Core 8 Thread ความเร็ว 1.30 GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 3.90 GHz) เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 25Watt ส่วนกราฟิกภายในชิปเป็น Intel Iris Plus G7 ที่เป็นรุ่นระดับสูง ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB ที่ทั้งมีพื้นที่เยอะและลื่นไหล เพียงพอกับการใช้งาน
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย Lenovo YOGA C940 ใช้หน้าจอขนาด 14″ รองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วมือและปากกา ความละเอียดระดับ4K Ultra HD (3840 x 2160) อัตราส่วน 16:9 ขอบจอบางเฉียบ พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งจัดว่าเป็นสเปคจอที่เหมาะสำหรับการใช้งานแทบทุกรูปแบบ แน่นอนว่ามีปากกาที่รองรับแรงกดหลายระดับมาด้วย มาพร้อม Windows 10 Home Single Language และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง
พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 ที่เป็นมาตรฐาน จำนวน 2 พอร์ต ส่วนอีกพอร์ตจะเป็น USB Type-A 3.1 ส่วนช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. นอกจากนี้ยังมี Fingerprint สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Windows Hello ของ Windows 10 เพื่อล็อกอินโดยใช้การสแกนนิ้วอีกด้วย สำหรับประกันเป็น 3 ปี แบบ On-site Service ตามมาตรฐาน Lenovo ที่เป็นโน๊ตบุ๊คระดับสูง
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo YOGA C940 จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ระดับสูงในขนาดหน้าจอ 14″ ที่เน้นความหรูหราบางเบา เนื่องด้วยขอบจอที่บางกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กพอๆ กับโน๊ตบุ๊คจอ 13.3″ ส่งผลให้ Lenovo YOGA C940 เป็นอีกหนึ่ง 2-in-1 Notebook ปี 2020 ที่ดูเล็กกระทัดที่สุด เหมาะกับคนที่ต้องการสุดยอดโน๊ตบุ๊คเน้นเดินทางบ่อยๆ
ด้วยดีไซน์ออกมาได้ขอบหน้าจอบางเฉียบทั้ง 2 ด้าน ส่วนของตัวเครื่องทั้งหมดจะใช้เป็นอลูมิเนียมคุณภาพเป็นวัสดุหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา พร้อมสีสันที่โดดเด่นด้วยสีทองไมก้า (Mica) ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหราให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ เรียกได้ว่าคนไทยหรือคนเอเซียนต้องชื่นชอบกันแน่นอน ซึ่งที่ดูเจ๋งและโดดเด่นที่สุดคือแกนบานพับได้มีการติดตั้งเป็นลำโพง Soundbar ที่เพิ่มความหรูหราไปด้วยในตัว นอกจากนี้ยังมีที่เก็บปากากาสไตลัสในตัวเครื่องอีกด้วย
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ YOGA จะมีอยู่ 1 จุดเท่านั้น คือ มุมบนฝาหลังด้านซ้าย ส่วนโลโก้ Lenovo จะอยู่บริเวณบานพับด้านนอกและด้านในใต้หน้าจออย่างละจุด ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะงานประกอบทั้งหมดแทบจะเป็นชิ้นเดียวกัน แบบ Unibody ส่งให้เวลาที่เราจับถือหรือใช้งานจะรู้สึกว่าแน่นหนา ซึ่งจากการใช้งานจริงพื้นผิวบางนี้เป็บรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความสะอาดได้เลย หรือถ้าจะเช็ดก็ง่ายดาย
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lenovo YOGA C940 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ทรงประสิทธิภาพในการทำงานทั่วไปเน้นการพกพา เพราะมีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.35 กิโลกรัมเท่านั้น มาพร้อมความบางเพียง 14.5 มิลลิเมตรเท่านั้น บอกได้เลยว่าบางสุดๆ แบบที่หารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก ซึ่งการที่จะบางขนาดนี้ได้ ฮาร์ดแวร์ภายในจำเป็นต้องฝังบอร์ดเกือบทั้งหมด จะมีเพียง SSD M.2 ที่สามารถอัพเกรดได้ (จริงๆ 1TB ก็ไม่อัพแล้วก็ได้)
นอกเหนือจากนี้ Lenovo YOGA C940 ยังมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนแบบ 1 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ โดยดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องพร้อมทั้งช่องคีย์บอร์ด ทำให้การทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ในการใช้งานไปแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนภายใน ส่วนใต้ตัวเครื่องก็มาพร้อมงานประกอบเรียบร้อยมาตรฐานโน๊ตบุ๊ค Lenovo ระดับสูง
สำหรับ Lenovo YOGA C940 ถือว่าเป็นการต่อยอดซีรีส์ YOGA จากที่ผ่านมา 2-in-1 ของทาง Lenovo นั้นก็จะใช้เป็น YOGA อยู่แล้ว อย่างรุ่นก่อนหน้านี้จะเป็น Lenovo YOGA … แต่ในปี 2019 ที่ผ่านมา ได้ปรับเป็นซีรีส์ YOGA คือเป็นโน๊ตบุ๊คระดับบนของ Lenovo โดยถ้าเป็น YOGA S (Slim) ก็คือจะเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นความบางเบา ส่วนถ้าเป็น YOGA C (Convertible) ก็จะเป็น 2-in-1 Notebook ที่พับหน้าจอได้ 360 องศานั่นเอง แน่นอนว่าทำให้ Lenovo YOGA C940 เป็น 2-in-1 Notebook ระดับสูงนั่นเอง
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องคือสีทองไมก้า (Mica) พร้อมตัวอักษรโปร่งแสง มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดีสไตล์ Lenovo ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังเด้งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกดในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบนพร้อมไฟส่องสว่างแสดงสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นเป็นแบบซ่อนปุ่มเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ที่สำคัญการเข้าใช้งานผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10 ยังสามารถทำได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งอยู่มุมขวาล่างของคีย์บอร์ด แน่นอนว่าทำให้เราไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป แถมยังปลอดภัยและรวดเร็วด้วย ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว ทำได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนในตลาดปัจจุบันเลย
Screen / Speaker
จอของ Lenovo YOGA C940 ถือว่าดีที่สุดในตลาดด้วยความละเอียด 4K Ultra HD (3840 x 2160 พิกเซล) เป็นจอกระจกพาเนล IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ที่ให้ภาพคมชัด สวยงามทุกมุมมอง เมื่อประกอบกับขอบจอที่บางเฉียบ กว่า 95% เป็นหน้าจอแสดงผล ทำให้ไม่ว่าจะการใช้งานทั่วไป การเปิดหน้าเว็บ การชมภาพยนตร์ ซีรีส์ ดูเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยความเรียบเนียนของหน้าจอที่เหนือชั้นกว่า Full HD เดิมๆ ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องไว้ VDO Call และไมโครโฟน 2 ตัวที่ซอนเอาไว้อย่างเรียบเนียน ที่สำคัญได้ฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter ทำให้เราเลือกเปิดปิดเว็บแคมได้อย่างปลอดภัยที่สุด
อย่างไรก็ตามจอกระจกของ Lenovo YOGA C940 เองก็ยังมีเงาสะท้อนที่เกิดขึ้นอยู่พอสมควร โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกลางแจ้ง หรือเมื่อมีแสงอยู่ในมุมตรงกับจอภาพ ซึ่งอาจทำให้ไม่สะดวกกับการใช้งานอยู่บ้างเหมือนกัน ทางแก้ก็คืออาจจะต้องพยายามเลี่ยงมุมที่อาจเกิดแสงสะท้อนกับจอได้ก็จะเป็นการดีที่สุด อย่างเช่นในร้านกาแฟก็จะไฟประดับเยอะ ก็ต้องเลือกมุมดีๆ หน่อย แต่ก็ไม่ลำบากอะไรมากมาย
ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 94% ส่วน AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 500 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องบนมุมซ้ายของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องกลางซ้ายจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 11% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ด้านของลำโพงแบบ Soundbar ของ Lenovo YOGA C940 มีเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก และสามารถจำลองเสียง 360 องศาได้ โดยมีลำโพงติดตั้งบริเวณด้านล่างซ้ายขวาขอบตัวเครื่องอีกด้วย ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานดูหนังฟังเพลงแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Lenovo YOGA C940 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีการกระชับพื้นที่มากๆ เพราะทั้งตัวเครื่องตัดพอร์ตเกือบทั้งหมดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น HDMI / LAN แต่เลือกที่จะติดตั้งพอร์ตที่ยังมีความจำเป็นอยู่ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 1 พอร์ต (รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั่วไป) ซึ่งอยู่ทางด้านซ้าย พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ที่สำคัญได้ Thunderbolt 3 สุดล้ำจำนวน 2 พอร์ต ซึ่งนอกเหนือจากโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง รองรับการชาร์จไฟผ่านทางอแดปเตอร์ที่เป็น USB-C พร้อมต่อหน้าจอภายนอก 4K และการชาร์จไฟผ่านทาง Power Bank ที่เป็น PD ด้วย
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 14″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.35 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Lenovo YOGA C940 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ Lenovo YOGA C940 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน ตามสไตล์และฟีเจอร์ของ Lenovo ที่มีการต่อยอดตระกูล YOGA มาอย่างยาวนานหลายปี ส่วน Garaged Digital Pen ก็เป็นที่เก็บปากกา ที่ตัวปากกาเองสามารถชาร์จไฟได้ในตัว โดยไม่ต้องไปอาศัยถ่าน AAAA แบเดิมๆ
บอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหา 2-in-1 Notebook ซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาพรีเมียมไฮเอนด์ มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าแรงพอตัวด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core i7 Gen 10 ซึ่งใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก Lenovo YOGA C940 เป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่จะตัดสินใจได้เลย
Performance / Software
Lenovo YOGA C940 ที่ได้รับมารีวิวเป็นสเปกขายจริง ได้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับสูงในซีรีส์ที่เน้นการประหยัดพลังงาน อย่าง Intel Core i7-1065G7 สถาปัตยกรรม Ice Lakeใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.0 – 3.6GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 25Wattโดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel UHD Graphics G7 ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel Iris Plus G7 ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดของกราฟิกชิปในทุกรุ่น ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ดีเยี่ยม รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหาระดับ Ultra HD บนหน้าจอของ Lenovo YOGA C940 แบบสบายๆ ลื่นไหล อย่างที่สเปกรุ่นก่อนๆ ทำไม่ได้
ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 16GB DDR4 LPDDR4 Bus 3733 MHz ที่เหลือเฟือต่อการใช้งาน อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ และเป็นรุ่นเกรดสูงความเร็วสูง โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
ส่วนการทดสอบพลังประมวลผลด้วยโปรแกรม Cinebench ก็ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดีตามระดับของ Core i7 สถาปัตยกรรม Ice Lake ส่วนด้านของ OpenGL ก็คะแนนพุ่งกว่าเครื่องที่ใช้ชิปออนบอร์ดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นประหยัดพลังงาน ที่ใกล้เคียงกับตระกูล H ทีเดียว โดยดีขึ้นกว่า Core i7 Gen 8 รุ่นก่อนหน้าประมาณนึง
ด้านของ Storage เป็น SSD มาตรฐาน NVMe ระดับบน ความจุ 1TB ของ Samsung ที่ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ก็พบว่าความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 3514 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนก็อยู่ที่ 2346 MB/s ด้านของความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ สามารถใช้งานทั่วไปได้เหลือเฟือ ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ เร็วกว่ามาตรฐาน SATA 3 หลายเท่าตัว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4337 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คทีมีชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 10 และสเปกจัดเต็ม ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาในสเปกที่เป็น Intel Core i Gen 10 รุ่นอื่นๆ
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง และ Fingerprint ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Lenovo YOGA C940 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่จากการทดสอบด้วยการเปิด Wi-Fi และปรับเป็น Power Saver Mode ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ 15 – 16 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานอย่างการดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต ซึ่งเวลาอาจจะปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับการชาร์จผ่านทาง Power Bank ที่เป็นมาตรฐาน PD (Power Delivery ) อีกด้วย
อุณหภูมิปกติของชิปประมวลผลจะอยู่ที่ 30 – 40 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดไม่เกิน 96 องศาเซลเซียส (ร้อนกว่านี้ตัวเครื่องจะลดความเร็วการทำงานลง) ถือว่าทำได้ดีไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ แต่ด้วยการที่ระบบระบายความร้อนของ Lenovo YOGA C940 ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานหนักๆ ตลอดเวลา เหมือน Gaming Notebook ที่เป็นตัวหนาๆ หนักๆ
อย่างไรก็ตามตัวเครื่องไม่ได้เกิดอาการค้าง หน่วง หรือมีปัญหาแต่อย่างใด แม้ว่าชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดจะแรงขึ้น ระบบระบายความร้อนสามารถจัดการได้ดีตามมาตรฐานเวลาใช้งานหนักๆ ประสิทธิภาพทำได้ดีอย่างต่อเนี่อง แต่ถ้าใช้งานเบาๆ คือพัดลมแทบไม่หมุนเลย ทำงานได้เงียบมากๆ
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง Lenovo YOGA C940 ที่ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่น Lenovo YOGA Series รุ่นก่อนๆ ได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบพร้อมซีรีส์เป็น YOGA ที่จัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์โน๊ตบุ๊คระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็น 2-in-1 Notebook ระดับสูงของทาง Lenovo ที่ทุกคนต่างให้ความนิยม แน่นอนว่าด้วยสเปกแรงลื่นสุดๆ ด้วย Core i Gen 10 และสเปกอื่นๆ จัดเต็ม
Lenovo YOGA C940 เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานได้หลากหลายโหมดอีกรุ่นที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านของความกะทัดรัดของตัวเครื่อง วัสดุแข็งแรงทนทานตลอดทั้งตัวเครื่องทั้งภายนอกภายใน โดยมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมนิด ๆ ขอบจอบางเฉียบที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งการใช้งานคีย์บอร์ดก็ยังคงยอดเยี่ยม
นับได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Lenovo ที่ทำมาได้ดีโดยตลอด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ล้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ ความละเอียด 4K Ultra HD ระบบเสียงเป็น Dolby Atmos Speaker มีที่เก็บปากกา Garaged Digital Pen และได้ฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter อีกด้วย ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ตอบโจทย์ทั้งการทำงานทั่วไป การใช้งานเพื่อความบันเทิง ตอบโจทย์ได้หมด
อย่างไรก็ตาม Lenovo YOGA C940 อาจจะยังไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่ออกแบบและผลิตขึ้นมาสำหรับทุกคน ด้วยราคา 56,990 บาท ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสเปกอย่างเดียว แต่ความจริงคือเน้นประสบการณ์ใช้งานเรื่องความบางเบาและพกพา พร้อมความพรีเมียมมากกว่า อีกทั้งได้พอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต แต่ก็ยังมี USB 3.1 Type-A อีก 1 พอร์ต กับประกันแบบ 3 ปี On-site Service ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชูเรื่องของนวัตกรรมของทาง Lenovo ที่คุ้มค่าอีกหนึ่งรุ่น ส่วนตัวเองก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้สัมผัสและรีวิวโน๊ตบุ๊คแบบนี้เหมือนกัน
จุดเด่น
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Lenovo Yoga มีความหรูหรา พรีเมียม
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ขอบจอบาง พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- ฮาร์ดดิสก์ SSD M.2 NVMe มีความรวดเร็วในการใช้งาน
- หน้าจอความละเอียด 4K Ultra HD พาเนล IPS รองรับ HDR พร้อมทัชสกรีนมีปากกา
- ช่อง Garaged Digital Pen ซ่อนอยู่ตรงขอบจอภาพ
- ติดตั้ง Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต รองรับทุกๆ การเชื่อมต่อ
- มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือ ใช้งานผ่านทาง Windows Hello
- รองรับ Rapid Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายใน 1 ชั่วโมง
- ลำโพงทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก จำลอง 3D ได้
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งมาให้ทันที
- ประกัน 3 ปี แบบ On-site Service
ข้อสังเกต
- ตัดพอร์ต HDMI, SD Card Reader ออกทั้งหมด
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มเครื่องบางเบา ขนาดหน้าจอ 14″ ซึ่ง Lenovo Yoga C940 ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ด้วยสเปก Lenovo YOGA C940 ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ตัวล่าสุด อย่าง Intel Core i7-1065G7 ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB LPDDR4 Bus 3733 MHz รวมไปถึง SSD ความเร็วสูง PCIe ความจุ 1TB ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ Lenovo YOGA C940 มีความโดดเด่นเรื่องสีสัน รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 14 นิ้ว ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Lenovo ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Thin & Light
ความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ บางแค่ 14.5 มิลลิเมตร เบาเพียง 1.35 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่อง ทำให้เป็น 2-in-1 Notebook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง
Best Mobility
ปัจจัยสำคัญของด้าน Mobility ก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง Lenovo Yoga C940 ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 6 AX รวมถึง Bluetooth 5.0 ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 16 ชั่วโมง แทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพกพาสะดวกเน้นเอาไปทำงานนอกสถานที่ได้สบายๆ
VDO Review
Specification
สเปกของ Lenovo YOGA C940 ตัวที่เราได้รับมารีวิวเป็นตัวเดโม ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-1065G7 (Ice Lake) ที่เป็นการทำงานแบบ 4 Core 8 Thread ความเร็ว 1.30 GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 3.90 GHz) เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 25Watt ส่วนกราฟิกภายในชิปเป็น Intel Iris Plus G7 ที่เป็นรุ่นระดับสูง ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 16GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB ที่ทั้งมีพื้นที่เยอะและลื่นไหล เพียงพอกับการใช้งาน
อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ โดย Lenovo YOGA C940 ใช้หน้าจอขนาด 14″ รองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วมือและปากกา ความละเอียดระดับ4K Ultra HD (3840 x 2160) อัตราส่วน 16:9 ขอบจอบางเฉียบ พาเนลจอแบบ IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งจัดว่าเป็นสเปคจอที่เหมาะสำหรับการใช้งานแทบทุกรูปแบบ แน่นอนว่ามีปากกาที่รองรับแรงกดหลายระดับมาด้วย มาพร้อม Windows 10 Home Single Language และซอฟต์แวร์จากทาง Lenovo Vantage ที่ช่วยในการจัดการปรับแต่ง
พอร์ตเชื่อมต่อก็มาพร้อมพอร์ตจำเป็นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 ที่เป็นมาตรฐาน จำนวน 2 พอร์ต ส่วนอีกพอร์ตจะเป็น USB Type-A 3.1 ส่วนช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. นอกจากนี้ยังมี Fingerprint สำหรับใช้งานร่วมกับฟังก์ชัน Windows Hello ของ Windows 10 เพื่อล็อกอินโดยใช้การสแกนนิ้วอีกด้วย สำหรับประกันเป็น 3 ปี แบบ On-site Service ตามมาตรฐาน Lenovo ที่เป็นโน๊ตบุ๊คระดับสูง
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Lenovo YOGA C940 จัดว่าเป็น 2-in-1 Notebook ระดับสูงในขนาดหน้าจอ 14″ ที่เน้นความหรูหราบางเบา เนื่องด้วยขอบจอที่บางกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กพอๆ กับโน๊ตบุ๊คจอ 13.3″ ส่งผลให้ Lenovo YOGA C940 เป็นอีกหนึ่ง 2-in-1 Notebook ปี 2020 ที่ดูเล็กกระทัดที่สุด เหมาะกับคนที่ต้องการสุดยอดโน๊ตบุ๊คเน้นเดินทางบ่อยๆ
ด้วยดีไซน์ออกมาได้ขอบหน้าจอบางเฉียบทั้ง 2 ด้าน ส่วนของตัวเครื่องทั้งหมดจะใช้เป็นอลูมิเนียมคุณภาพเป็นวัสดุหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา พร้อมสีสันที่โดดเด่นด้วยสีทองไมก้า (Mica) ส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเครื่องดูหรูหราให้อารมณ์พรีเมียมสุดๆ เรียกได้ว่าคนไทยหรือคนเอเซียนต้องชื่นชอบกันแน่นอน ซึ่งที่ดูเจ๋งและโดดเด่นที่สุดคือแกนบานพับได้มีการติดตั้งเป็นลำโพง Soundbar ที่เพิ่มความหรูหราไปด้วยในตัว นอกจากนี้ยังมีที่เก็บปากากาสไตลัสในตัวเครื่องอีกด้วย
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย โลโก้ YOGA จะมีอยู่ 1 จุดเท่านั้น คือ มุมบนฝาหลังด้านซ้าย ส่วนโลโก้ Lenovo จะอยู่บริเวณบานพับด้านนอกและด้านในใต้หน้าจออย่างละจุด ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะงานประกอบทั้งหมดแทบจะเป็นชิ้นเดียวกัน แบบ Unibody ส่งให้เวลาที่เราจับถือหรือใช้งานจะรู้สึกว่าแน่นหนา ซึ่งจากการใช้งานจริงพื้นผิวบางนี้เป็บรอยนิ้วมือค่อนข้างยาก ฉะนั้นหายห่วงเรื่องความสะอาดได้เลย หรือถ้าจะเช็ดก็ง่ายดาย
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Lenovo YOGA C940 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ทรงประสิทธิภาพในการทำงานทั่วไปเน้นการพกพา เพราะมีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.35 กิโลกรัมเท่านั้น มาพร้อมความบางเพียง 14.5 มิลลิเมตรเท่านั้น บอกได้เลยว่าบางสุดๆ แบบที่หารุ่นเปรียบเทียบได้ยาก ซึ่งการที่จะบางขนาดนี้ได้ ฮาร์ดแวร์ภายในจำเป็นต้องฝังบอร์ดเกือบทั้งหมด จะมีเพียง SSD M.2 ที่สามารถอัพเกรดได้ (จริงๆ 1TB ก็ไม่อัพแล้วก็ได้)
นอกเหนือจากนี้ Lenovo YOGA C940 ยังมีการออกแบบภายในโดยใช้พัดลมระบายความร้อนแบบ 1 ตัว ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ โดยดูดลมเย็นจากใต้ตัวเครื่องพร้อมทั้งช่องคีย์บอร์ด ทำให้การทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ในการใช้งานไปแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนภายใน ส่วนใต้ตัวเครื่องก็มาพร้อมงานประกอบเรียบร้อยมาตรฐานโน๊ตบุ๊ค Lenovo ระดับสูง
สำหรับ Lenovo YOGA C940 ถือว่าเป็นการต่อยอดซีรีส์ YOGA จากที่ผ่านมา 2-in-1 ของทาง Lenovo นั้นก็จะใช้เป็น YOGA อยู่แล้ว อย่างรุ่นก่อนหน้านี้จะเป็น Lenovo YOGA … แต่ในปี 2019 ที่ผ่านมา ได้ปรับเป็นซีรีส์ YOGA คือเป็นโน๊ตบุ๊คระดับบนของ Lenovo โดยถ้าเป็น YOGA S (Slim) ก็คือจะเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นความบางเบา ส่วนถ้าเป็น YOGA C (Convertible) ก็จะเป็น 2-in-1 Notebook ที่พับหน้าจอได้ 360 องศานั่นเอง แน่นอนว่าทำให้ Lenovo YOGA C940 เป็น 2-in-1 Notebook ระดับสูงนั่นเอง
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องคือสีทองไมก้า (Mica) พร้อมตัวอักษรโปร่งแสง มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดีสไตล์ Lenovo ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังเด้งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกดในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบนพร้อมไฟส่องสว่างแสดงสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นเป็นแบบซ่อนปุ่มเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ที่สำคัญการเข้าใช้งานผ่านทาง Windows Hello ของ Windows 10 ยังสามารถทำได้ด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งอยู่มุมขวาล่างของคีย์บอร์ด แน่นอนว่าทำให้เราไม่ต้องกรอกรหัสแบบเดิมๆ อีกต่อไป แถมยังปลอดภัยและรวดเร็วด้วย ซึ่งจากการใช้งานจริงแล้ว ทำได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนในตลาดปัจจุบันเลย
Screen / Speaker
จอของ Lenovo YOGA C940 ถือว่าดีที่สุดในตลาดด้วยความละเอียด 4K Ultra HD (3840 x 2160 พิกเซล) เป็นจอกระจกพาเนล IPS ที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา ที่ให้ภาพคมชัด สวยงามทุกมุมมอง เมื่อประกอบกับขอบจอที่บางเฉียบ กว่า 95% เป็นหน้าจอแสดงผล ทำให้ไม่ว่าจะการใช้งานทั่วไป การเปิดหน้าเว็บ การชมภาพยนตร์ ซีรีส์ ดูเต็มอารมณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยความเรียบเนียนของหน้าจอที่เหนือชั้นกว่า Full HD เดิมๆ ส่วนขอบจอด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องไว้ VDO Call และไมโครโฟน 2 ตัวที่ซอนเอาไว้อย่างเรียบเนียน ที่สำคัญได้ฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter ทำให้เราเลือกเปิดปิดเว็บแคมได้อย่างปลอดภัยที่สุด
อย่างไรก็ตามจอกระจกของ Lenovo YOGA C940 เองก็ยังมีเงาสะท้อนที่เกิดขึ้นอยู่พอสมควร โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกลางแจ้ง หรือเมื่อมีแสงอยู่ในมุมตรงกับจอภาพ ซึ่งอาจทำให้ไม่สะดวกกับการใช้งานอยู่บ้างเหมือนกัน ทางแก้ก็คืออาจจะต้องพยายามเลี่ยงมุมที่อาจเกิดแสงสะท้อนกับจอได้ก็จะเป็นการดีที่สุด อย่างเช่นในร้านกาแฟก็จะไฟประดับเยอะ ก็ต้องเลือกมุมดีๆ หน่อย แต่ก็ไม่ลำบากอะไรมากมาย
ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 94% ส่วน AdobeRGB ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่น่าประทับใจ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 500 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คทั่วไป คือ พอสู้แสงกลางแจ้งได้ รวมไปถึงการทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ทำได้ดีเช่นกัน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องบนมุมซ้ายของจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่สุด แต่สำหรับช่องกลางซ้ายจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 11% เท่านั้น ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ด้านของลำโพงแบบ Soundbar ของ Lenovo YOGA C940 มีเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก และสามารถจำลองเสียง 360 องศาได้ โดยมีลำโพงติดตั้งบริเวณด้านล่างซ้ายขวาขอบตัวเครื่องอีกด้วย ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น ถือว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแบบรู้สึกได้ ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานดูหนังฟังเพลงแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Lenovo YOGA C940 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาที่มีการกระชับพื้นที่มากๆ เพราะทั้งตัวเครื่องตัดพอร์ตเกือบทั้งหมดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น HDMI / LAN แต่เลือกที่จะติดตั้งพอร์ตที่ยังมีความจำเป็นอยู่ไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-A จำนวน 1 พอร์ต (รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั่วไป) ซึ่งอยู่ทางด้านซ้าย พร้อมช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ที่สำคัญได้ Thunderbolt 3 สุดล้ำจำนวน 2 พอร์ต ซึ่งนอกเหนือจากโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง รองรับการชาร์จไฟผ่านทางอแดปเตอร์ที่เป็น USB-C พร้อมต่อหน้าจอภายนอก 4K และการชาร์จไฟผ่านทาง Power Bank ที่เป็น PD ด้วย
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 14″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.35 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Lenovo YOGA C940 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู YouTube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ Lenovo YOGA C940 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง แข็งแรงสามารถหมุนเปิดปิดได้เป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน ตามสไตล์และฟีเจอร์ของ Lenovo ที่มีการต่อยอดตระกูล YOGA มาอย่างยาวนานหลายปี ส่วน Garaged Digital Pen ก็เป็นที่เก็บปากกา ที่ตัวปากกาเองสามารถชาร์จไฟได้ในตัว โดยไม่ต้องไปอาศัยถ่าน AAAA แบเดิมๆ
บอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหา 2-in-1 Notebook ซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาพรีเมียมไฮเอนด์ มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าแรงพอตัวด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core i7 Gen 10 ซึ่งใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก Lenovo YOGA C940 เป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่จะตัดสินใจได้เลย
Performance / Software
Lenovo YOGA C940 ที่ได้รับมารีวิวเป็นสเปกขายจริง ได้ชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับสูงในซีรีส์ที่เน้นการประหยัดพลังงาน อย่าง Intel Core i7-1065G7 สถาปัตยกรรม Ice Lakeใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 4 Core / 8 Thread ความเร็ว 1.0 – 3.6GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 10 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 25Wattโดยมีการ์ดจอบนชิปเป็น Intel UHD Graphics G7 ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel Iris Plus G7 ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดของกราฟิกชิปในทุกรุ่น ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ดีเยี่ยม รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหาระดับ Ultra HD บนหน้าจอของ Lenovo YOGA C940 แบบสบายๆ ลื่นไหล อย่างที่สเปกรุ่นก่อนๆ ทำไม่ได้
ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 16GB DDR4 LPDDR4 Bus 3733 MHz ที่เหลือเฟือต่อการใช้งาน อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ และเป็นรุ่นเกรดสูงความเร็วสูง โดยมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
ส่วนการทดสอบพลังประมวลผลด้วยโปรแกรม Cinebench ก็ให้ผลคะแนนในส่วนของ CPU ได้ดีตามระดับของ Core i7 สถาปัตยกรรม Ice Lake ส่วนด้านของ OpenGL ก็คะแนนพุ่งกว่าเครื่องที่ใช้ชิปออนบอร์ดทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นประหยัดพลังงาน ที่ใกล้เคียงกับตระกูล H ทีเดียว โดยดีขึ้นกว่า Core i7 Gen 8 รุ่นก่อนหน้าประมาณนึง
ด้านของ Storage เป็น SSD มาตรฐาน NVMe ระดับบน ความจุ 1TB ของ Samsung ที่ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ก็พบว่าความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 3514 MB/s ส่วนความเร็วในการเขียนก็อยู่ที่ 2346 MB/s ด้านของความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ สามารถใช้งานทั่วไปได้เหลือเฟือ ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ เร็วกว่ามาตรฐาน SATA 3 หลายเท่าตัว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4337 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คทีมีชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 10 และสเปกจัดเต็ม ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาในสเปกที่เป็น Intel Core i Gen 10 รุ่นอื่นๆ
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง และ Fingerprint ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Lenovo YOGA C940 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่จากการทดสอบด้วยการเปิด Wi-Fi และปรับเป็น Power Saver Mode ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ 15 – 16 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานอย่างการดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต ซึ่งเวลาอาจจะปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับการชาร์จผ่านทาง Power Bank ที่เป็นมาตรฐาน PD (Power Delivery ) อีกด้วย
อุณหภูมิปกติของชิปประมวลผลจะอยู่ที่ 30 – 40 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดไม่เกิน 96 องศาเซลเซียส (ร้อนกว่านี้ตัวเครื่องจะลดความเร็วการทำงานลง) ถือว่าทำได้ดีไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ แต่ด้วยการที่ระบบระบายความร้อนของ Lenovo YOGA C940 ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานหนักๆ ตลอดเวลา เหมือน Gaming Notebook ที่เป็นตัวหนาๆ หนักๆ
อย่างไรก็ตามตัวเครื่องไม่ได้เกิดอาการค้าง หน่วง หรือมีปัญหาแต่อย่างใด แม้ว่าชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดจะแรงขึ้น ระบบระบายความร้อนสามารถจัดการได้ดีตามมาตรฐานเวลาใช้งานหนักๆ ประสิทธิภาพทำได้ดีอย่างต่อเนี่อง แต่ถ้าใช้งานเบาๆ คือพัดลมแทบไม่หมุนเลย ทำงานได้เงียบมากๆ
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง Lenovo YOGA C940 ที่ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่น Lenovo YOGA Series รุ่นก่อนๆ ได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบพร้อมซีรีส์เป็น YOGA ที่จัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์โน๊ตบุ๊คระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็น 2-in-1 Notebook ระดับสูงของทาง Lenovo ที่ทุกคนต่างให้ความนิยม แน่นอนว่าด้วยสเปกแรงลื่นสุดๆ ด้วย Core i Gen 10 และสเปกอื่นๆ จัดเต็ม
Lenovo YOGA C940 เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานได้หลากหลายโหมดอีกรุ่นที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านของความกะทัดรัดของตัวเครื่อง วัสดุแข็งแรงทนทานตลอดทั้งตัวเครื่องทั้งภายนอกภายใน โดยมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมนิด ๆ ขอบจอบางเฉียบที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งการใช้งานคีย์บอร์ดก็ยังคงยอดเยี่ยม
นับได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Lenovo ที่ทำมาได้ดีโดยตลอด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ล้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ ความละเอียด 4K Ultra HD ระบบเสียงเป็น Dolby Atmos Speaker มีที่เก็บปากกา Garaged Digital Pen และได้ฟีเจอร์ TrueBlock Privacy Shutter อีกด้วย ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ตอบโจทย์ทั้งการทำงานทั่วไป การใช้งานเพื่อความบันเทิง ตอบโจทย์ได้หมด
อย่างไรก็ตาม Lenovo YOGA C940 อาจจะยังไม่ใช่โน๊ตบุ๊คที่ออกแบบและผลิตขึ้นมาสำหรับทุกคน ด้วยราคา 56,990 บาท ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสเปกอย่างเดียว แต่ความจริงคือเน้นประสบการณ์ใช้งานเรื่องความบางเบาและพกพา พร้อมความพรีเมียมมากกว่า อีกทั้งได้พอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต แต่ก็ยังมี USB 3.1 Type-A อีก 1 พอร์ต กับประกันแบบ 3 ปี On-site Service ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชูเรื่องของนวัตกรรมของทาง Lenovo ที่คุ้มค่าอีกหนึ่งรุ่น ส่วนตัวเองก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้สัมผัสและรีวิวโน๊ตบุ๊คแบบนี้เหมือนกัน
จุดเด่น
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ Lenovo Yoga มีความหรูหรา พรีเมียม
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมอัลลอยด์ตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความแข็งแรง งานประกอบแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ขอบจอบาง พกพาสะดวกเหมาะสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อยๆ
- ฮาร์ดดิสก์ SSD M.2 NVMe มีความรวดเร็วในการใช้งาน
- หน้าจอความละเอียด 4K Ultra HD พาเนล IPS รองรับ HDR พร้อมทัชสกรีนมีปากกา
- ช่อง Garaged Digital Pen ซ่อนอยู่ตรงขอบจอภาพ
- ติดตั้ง Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต รองรับทุกๆ การเชื่อมต่อ
- มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือ ใช้งานผ่านทาง Windows Hello
- รองรับ Rapid Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายใน 1 ชั่วโมง
- ลำโพงทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dolby Atmos ให้เสียงที่ดีมาก จำลอง 3D ได้
- มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 ติดตั้งมาให้ทันที
- ประกัน 3 ปี แบบ On-site Service
ข้อสังเกต
- ตัดพอร์ต HDMI, SD Card Reader ออกทั้งหมด
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มเครื่องบางเบา ขนาดหน้าจอ 14″ ซึ่ง Lenovo Yoga C940 ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ด้วยสเปก Lenovo YOGA C940 ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 ตัวล่าสุด อย่าง Intel Core i7-1065G7 ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB LPDDR4 Bus 3733 MHz รวมไปถึง SSD ความเร็วสูง PCIe ความจุ 1TB ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ Lenovo YOGA C940 มีความโดดเด่นเรื่องสีสัน รวมถึงหน้าจอขอบบางแบบบางพิเศษ ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 14 นิ้ว ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Lenovo ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
Best Thin & Light
ความบางเบาคือจุดเด่น ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดมากๆ บางแค่ 14.5 มิลลิเมตร เบาเพียง 1.35 กิโลกรัม ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ และนอกจากความบางเบา ยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย จากการใช้วัสดุคุณภาพดีตลอดทั้งตัวเครื่อง ทำให้เป็น 2-in-1 Notebook ที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับผู้ที่มองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักเครื่องมาใช้งานในระดับจริงจัง
Best Mobility
ปัจจัยสำคัญของด้าน Mobility ก็คือขนาดที่กะทัดรัด แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ครอบคลุม ซึ่ง Lenovo Yoga C940 ตอบโจทย์ทั้งสามด้านได้อย่างครบถ้วนครับ กับตัวเครื่องบางเบา และการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับทั้ง WiFi 6 AX รวมถึง Bluetooth 5.0 ส่วนแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 16 ชั่วโมง แทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพกพาสะดวกเน้นเอาไปทำงานนอกสถานที่ได้สบายๆ