จัดว่าเป็น Gaming Notebook ไฮไลท์ในงาน CES 2020 จากทาง MSI เลยก็ว่าได้ กับการมาของ MSI Bravo 15 ได้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด เน้นประสิทธิภาพจากทาง AMD ที่แรงขึ้นเป็นเท่าตัวพร้อมประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิม จากเทคโนโลยีการผลิตชิป CPU ที่ 7 นาโนเมตร
สำหรับ MSI Bravo 15 ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นถัดมาจาก MSI Alpha 15 ที่เป็น AMD Notebook ที่ใช้ทั้งชิปประมวลผล Ryzen 7 3750H และการ์ดจอเป็น AMD Radeon RX5500M โดยในความพรีเมียม แตกต่างจาก MSI Bravo 15 จะให้ความคุ้มค่าที่มากกว่า เพราะถูกจัดว่าให้เป็นรุ่นที่รองกว่า MSI Alpha 15 นั่นเอง (แต่ได้สเปกใหม่กว่านะ) โดยเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 15.6″ Full HD พาเนล IPS มี Refesh Rate ที่ 144Hz แน่นอนว่ารองรับ FreeSync ให้ภาพไม่ฉีกขาด โดดเด่นด้วยน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัม ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัด
รายละเอียดของชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 4800H เป็น CPU ที่ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธรด มีความเร็วอยู่ที่ 2.9 – 4.2GHz โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร เช่นเดียวกับการ์ดจอ Radeon RX5500M ส่งผลให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่ง พร้อมด้วยความร้อนที่น้อยลงไปอีก และประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิมด้วย เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับการมาของ AMD Ryzen รุ่นใหม่ตระกูล 4000 H Series ซึ่งได้เห็นตัวจริงๆ ครั้งแรกบน MSI Bravo 15 นั่นเอง
มีที่เก็บข้อมูลเป็นมาตรฐาน SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB – 1TB ที่ทั้งแรงและลื่นไหล ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 จำนวน 1 แถว อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB (ใส่ Ram ได้ 2 แถว) นับได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง สวยงาม ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 1 x USB 3.1 Type-A, 2x USB 3.1 Type C, Kensington lock slot, Lan RJ-45 , รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth 5.0 พร้อม Windows 10 แท้ ซึ่งดูจากราคาที่คาดดารณ์แล้วถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
หน้าตาการออกแบบเอง MSI Bravo 15 ต้องบอกว่ามีลักษณะรูปทรงใกล้เคียงกับ MSI GF63 / GF65 ทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้แตกต่างชัดเจนคือส่วนของโลโก้ฝาหลังด้วยนกธันเดอร์เบิร์ดสยายปีกสีเงินมันวาว สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน โดย MSI Bravo 15 ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม ซึ่งต้องยอมรับว่าโดยรวมนั้นดีอยู่แล้ว มีน้ำหนักที่คาว่าใกล้เคียงกับ MSI GF63 / GF65 ที่เบาเพียง 1.86 กิโลกรัม
แม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6 นิ้วบอดี้ 14 นิ้ว ซึ่งขอบจอบางมากเพียง 4.9 มม เท่านั้น บางมากๆ จนคิดว่าจอ 14 นิ้วด้วยซ้ำ ใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานคือไม่มี Numpad แต่ปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือขึ้น วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง เงาบรัชเป็นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย ในส่วนของช่องระบายความร้อน มีด้วยกัน 3 ช่องคือด้านหลังฝั่งซ้ายมือตัวเครื่อง และด้านข้างซ้าย โดยใช้พัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 6 – 7 เส้น ตามมาตรฐานของ Cooler Boots
คีย์บอร์ดของ MSI Bravo 15 ถูกออกแบบตัดปุ่ม Numpad ออก การใช้งานถือว่าทำได้ดีทีเดียว เพราะทั้งการตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อม กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้ตัวคีย์บอร์ด SteelSeries รุ่นอื่น และที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟคีย์บอร์ดตัวเครื่องให้มาเป็นสีแดงสีเดียว ปรับสีไม่ได้ ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ พร้อมทำการไฮท์ไลท์ขอบแดงทุกปุ่มให้ดูเป็น Gaming Notebook พันธ์ุแท้
ส่วนของทัชแพดก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ขนาดเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน ผิวสัมผัสไม่ลื่นจนเกินไป ตัวปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ทั้งการคลิกซ้ายคลิกขวาไม่มีอาการยวบยาบให้เห็น ปุ่มเปิดปิดของตัวเครื่องได้ติดตั้งอยู่มุมซ้ายของคีย์บอร์ดดีไซน์ได้เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องเป็นอย่างดี
แม้ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับว่าตลาดของ Gaming Notebook นั้นเต็มไปด้วยการ์ดจอจากทาง NVIDIA จากการที่ได้ทั้งความแรงประสิทธิภาพ แต่ที่สำคัญที่สุดคือทาง AMD ไม่มีการ์ดจอ Gaming Notebook รุ่นใหม่ออกมาสู่ตลาดเลย ส่งผลให้ผู้ผลิต Gaming Notebook จำเป็นต้องใช้ของ NVIDIA เพียงอย่างเดียว โดยจับคู่มากับชิปประมวลผลทั้ง Intel Core i และ AMD Ryzen ตระกูล H ที่เน้นความแรงเป็นหลัก ตามแต่ช่วงราคาที่มีให้เราเลือกหลากหลาย
แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าตลาด Gaming Notebook จะสนุกสนานไปอีกขั้น จากการมาของ MSI Alpha 15 ก่อนหน้านี้ ที่ได้การ์ดจอเป็น AMD Radeon RX 5500M รุ่นแรกของโลก ที่มีความแรงท้าชนการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 / GTX 1660 Ti เลยล่ะ ซึ่งจุดเด่นของ AMD นอกจากความแรงและความร้อนที่น้อยกว่าเพราะใช้สถาปัตยกรรม RDNA ที่ 7 nm แล้วก็คือ ราคา Gaming Notebook ที่ออกมานั้นถูกกว่าแต่ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน ซึ่ง MSI Bravo 15 ยอดเยี่ยมยิ่งกว่า เพราะได้ชิปประมวลผลใหม่เป็น 7 nm แล้วเช่นกัน ในราคาที่คาดว่าถูกกว่าด้วย
ไว้รอติดตามรีวิวตัวเต็มของ MSI Bravo 15 ทั้งสเปกและราคาขายจริง รวมไปถึงประสิทธิภาพการใช้งานจริงและการเล่นเกม คาดคงได้เห็นตัวจริงในอีกไม่กี่เดือนนี้แน่นอน แฟนๆ ของ MSI และ AMD รอติดตามชมไว้กันได้เลย