ผมเชื่อว่าหลายท่านมักจะมีคำถามในใจกันว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะรุ่นที่เน้นเรื่องความบางเบาประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่าที่เป็น Intel Gen 8 หรือกระทั่งรุ่นใหม่ที่เป็น Intel Gen 10 หลายรุ่นยังใช้แรมแบบ DDR3L วันนี้ทีมงานมีคำตอบมาให้ครับ
ต้องบอกก่อนว่าแรมในโน๊ตบุ๊คหรือในพีซีเป็นเทคโนโลยีที่เหมือนกันเกือบทุกประการไม่ว่าจะเป็น DDR3L หรือ DDR4 แต่นอกจากรูปร่างหน้าตาหรือซ๊อคเก็ตที่ต่างกัน การใช้งานจริงระหว่างพีซีและโน๊ตบุ๊คก็ค่อนข้างต่างกัน กล่าวคือบนพีซีต้องการแรมที่ประสิทธิภาพสูงกว่า บัสสูงกว่า ออปชั่นที่มากกว่า ทั้งเพื่อให้รองรับกับซีพียูที่มีประสิทธิภาพสูงและการโอเวอร์คล๊อคได้แม้จะเป็นแรมที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการโอเวอร์คล๊อคก็ตาม
อีกส่วนที่แรมโน๊ตบุ๊คต่างจากแรมพีซีเลยคือแรมโน๊ตบุ๊คจะเป็นรูปแบบ LPDDR3 ที่ย่อมาจาก Low Power Double Data Rate 3 จากชื่อก็บอกแล้วว่าใช้พลังงานน้อยกว่า DDR3 และความเร็วสูงสุดเพียง 2133 MHz
แต่สำหรับผู้ใช้งานโน๊ตบุ๊ค โดยเฉพาะผู้ใช้งานโน๊ตบุ๊คบางเบา หรือเน้นใช้งานทั่วไปเกือบทุกคนแทบไม่ได้สนใจเรื่องของชนิดหรือความเร็วแรมเลย เพราะผู้ผลิตจะเป็นผู้ใส่ให้มา โดยที่ผู้ใช้ไม่สามารถเลือกได้ ยิ่งกลุ่มโน๊ตบุ๊คบางเบาจะเป็นแรมฝังบอร์ดไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้เองซึ่งส่วนใหญ่แรมที่ติดตั้งมาไม่ได้มีความเร็วบัสสูงเท่าไร 2,400 – 2,666 MHz ซึ่งทำให้แม้เป็น DDR4 ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพที่ต่างจาก DDR3L อย่างเห็นได้ชัดมากเท่าไรนัก สรุปง่ายๆคือโน๊ตบุ๊คบางเบาประสิทธิภาพไม่สูงมาก จะ LPDDR3 ,DDR3L หรือ DDR4 ก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างกัน
เรื่องราคาต้องบอกว่าไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่ใส่กันมาเพราะโน๊ตบุ๊คบางเบาบางรุ่นเป็นรุ่นราคาแพงแต่ก็ยังใส่ DDR3 เข้ามาและปัจจุบัน DDR3L เผลอๆจะแพงกว่า DDR4 ด้วยซ้ำไป
แต่สาเหตุที่แท้จริงที่ผู้ผลิตยังใส่แรมแบบ DDR3L หรือ LPDDR3 ไว้ในโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่คือ LPDDR3 ใช้พลังงานน้อยลงระหว่างสแตนด์บายหรือ Sleep Mode ต่ำกว่ามาตรฐานหรือสเปคของแรมปรกติ แม้กระทั่ง DDR4 รุ่นที่ใช้พลังงานต่ำก็ยังสูงกว่า DDR3 อยู่ เมื่อโน๊ตบุ๊คอยู่ในโหมดสแตนด์บายการใช้พลังงานหน่วยความจำจะเหลือเพียงหนึ่งในสามของพลังงานทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นข้อได้เปรียบของหน่วยความจำแบบ DDR3 แต่เฉพาะในโหมดสแตนบายนะครับ เพราะสเปคปรกติ DDR3 จะใช้ไฟอยู่ที่ 1.5V ส่วน DDR3L ใช้พลังงานอยู่ที่ 1.35V และ DDR4 ใช้พลังงานอยู่ที่ 1.2V ซึ่งถ้าใช้งานทั่วไป DDR4 จะประหยัดพลังงานากกว่าเล็กน้อย
แม้ DDR4 จะดีกว่าทั้งความจุที่มากขึ้น ความเร็วบัสที่สูงกว่าทำงานหนักได้ดีกว่า แต่เมื่อใช้งานในโน๊ตบุ๊คก็ไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างโดยเฉพาะในตลาดโน๊ตบุ๊คบางเบาที่ไม่ได้แรงมาก แต่เน้นการประหยัดพลังงานที่มากที่สุดเพราะฉะนั้นคงไม่ต้องคิดเยอะว่าประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจะดีกว่า หรือยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่จะดีกว่า
สุดท้ายคงไม่ต้องมานั่งเถียงกันละนะครับว่าที่ใส่ DDR3L ไม่ใช่เพราะขี้เหนียว หรือประหยัดต้นทุน แต่เพื่อการใช้งานงานแบตเตอรี่ที่ประหยัดและคุ้มค่ามากกว่า ขณะที่ประสิทธิภาพของ DDR3L หรือ DDR4 บนโน๊ตบุ๊คก็แทบไม่ต่างกัน ยกเว้นโน๊ตบุ๊คฝั่ง AMD หรือ Intel ตัวแรงที่เป็นรหัส H ที่จะเป็น DDR4 ทั้งหมดแล้ว