Connect with us

Hi, what are you looking for?

PR-News

Best Creator Notebook 2019 : MSI Prestige 14 / 15 ที่สุดของโน๊ตบุ๊คสายทำงานสร้างสรรค์ แรงจบครบในเครื่องเดียว

ยอมรับเลยว่า MSI สามารถนำเสนอ Gaming Notebook ที่ดีและจัดเต็มได้ดีตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ 2019 ในส่วนของโน๊ตบุ๊คสาย Creator สายทำงานสร้างสรรค์

MSI สามารถนำเสนอ Gaming Notebook ที่ดีและจัดเต็มได้ดีตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ 2019 ในส่วนของโน๊ตบุ๊คสาย Creator สายทำงานสร้างสรรค์ อาทิ ยูทูปเบอร์, ช่างภาพ, อนิเมเตอร์ และนักดนตรี อย่างในรุ่น MSI Prestige 14 / 15 ก็จัดเต็ม เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุด สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10 รุ่น Core i7-10710U ที่แรงสุดในรุ่น ได้การ์ดจอแยกตัวแรงระดับ Gaming อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q โดดเด่นด้วยหน้าจอพาเนล IPS ความละเอียด 4K Ultra HD ระดับมืออาชีพ  และด้วยความเบาสุดเพียง 1.2 – 1.6 กิโลกรัม ทำให้พกพาได้สะดวกสุดๆ อีกด้วย

MSI Prestige 15 UHD Review 19

Advertisement

กับราคาเปิดตัวที่ 43,900 – 59,900 บาทถือว่าสมราคาต่อสเปกต่อฟีเจอร์ สำหรับในช่วงราคาโน๊ตบุ๊คระดับมืออาชีพ ส่วนสเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มมากๆ ด้วยหน่วยความจำแรมขนาด 16 – 32GB พร้อม SSD NVMe ความจุ 512GB – 1TB พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็ครบครันด้วย Wi-Fi 6 AX (แรงกว่า AC สามเท่า) และ Bluetooth 5.0 ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็มีทุกรูปแบบรวมไปถึงได้ Thunderbolt 3 เป็นมาตรฐานอีกด้วย โดยในบทความนี้เราจะมาขยายความและสรุป Best Creator Notebook 2019 ที่ทาง MSI Prestige 14 / 15ได้ไป ลองมาดูกันได้เลย

MSI Prestige 14 Core i Gen 10 NBS Review 30

สเปก i7-10710U + GTX 1650 Max-Q ทำงานเล่นเกมแรงลื่น ฟีเจอร์ได้

MSI Prestige 14 / 15 เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความโดดเด่นออกมาจากผลิตภัณฑ์ Gaming Notebook แบบปกติของ MSI ด้วยความบางเบา รูปแบบโน๊ตบุ๊คบางเบาเรียกได้ว่าถือมือเดียวได้สบายๆ พกพาไปใช้งานนอกบ้านได้อย่างสะดวก มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดระดับสูงอย่าง Intel Core i7-10710U สถาปัตยกรรม Comet Lakeใหม่ล่าสุด ทำงานแบบ 6 Core / 12 Thread ความเร็ว 1.10 – 4.70 GHz เทคโนโลยีการผลิตที่ 14 นาโนเมตร มีค่า TDP ที่ 10 – 15 – 25Watt ที่เน้นความแรงกว่า Ice Lake 10 นาโนเมตร รองรับการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ส่วนแรมก็ให้มาเป็นแบบ 16 GB DDR4 Bus 2666 MHz  ที่เพียงพอต่อการใช้งานทันที อีกทั้งได้ SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB ที่ได้ทั้งขนาดที่ใหญ่ใส่ไฟล์ได้เยอะ

MSI Prestige 14 Core i Gen 10 NBS Review 71

อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกตัวแรงที่เน้นความคุ้มค่าอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 1050 Ti แบบรู้สึกได้จากการที่สามารถขับเฟรมเรทได้ลื่นไหล โดยเป็นรอง GTX 1650 รุ่นปกติเล็กน้อย เพราะเน้นประหยัดพลังงานและปลดปล่อยความร้อนที่น้อยกว่า และแม้ไม่มีฟีเจอร์อย่างที่ใน RTX Series มี แต่ก็ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ตอบโจทย์การใช้งานแบบสุดๆ แทบไม่ต้องอัพเกรดอะไรเลย ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็ครบครันด้วย Wi-Fi 6 AX แบบ 2×2 (แรงกว่า AC สามเท่า) และ Bluetooth 5.0 ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็มีทุกรูปแบบรวมไปถึงได้ Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต เป็นมาตรฐานอีกด้วย รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้มาใช้งานได้ทันทีในการเปิดเครื่องครั้งแรก พร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ช่วยปรับแต่งการทำงาน พร้อมการรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ MSI

MSI Prestige 15 UHD Review 20

คีย์บอร์ดมีระยะกดที่ 1.5 มิลลิเมตร ด้วยการที่รูปแบบปุ่มมีขนาดที่ใหญ่โตกว่าคีย์บอร์ด MSI แบบเดิมๆ ที่สำคัญด้วยไฟ LED สีขาวสวยงาม เข้ากับตัวปุ่มสีเงินเทาเป็นอย่างดี ดูแล้วสะอาดตา พรีเมียมสุดๆ จากการใช้งานจริงถือว่าปุ่มเด้งรับกับนิ้วดีมากๆ รวมไปถึงมี Hotkey แถวบน พร้อมมีปุ่มเรียก Creator Center ไว้ปรับโหมดการใช้งานได้สะดวกที่สุด และพิเศษที่ปุ่ม F12 ที่ช่วยให้พลิกหน้าจอไปฝั่งตรงข้ามได้ กรณีไว้นำเสนองานกับลูกค้า

ทัชแพดมีขนาดใหญ่และกว้างเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป ลักษณะเป็นผืนผ้ายาวดูเป็นเนื้อแบบกระจก ซึ่งมีตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด ให้สัมผัสที่ลื่นติดมือมากๆ โดยมีการตัดขอบด้านบนดูโค้งมน เข้ากับตัวเครื่องสวยงามลงตัว จากการใช้งานจริงๆ ถือว่าเป็นทัชแพดที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่างสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย

MSI Prestige 15 UHD Review 42

ที่สำคัญใช้เทคโนโลยี Cooler Boost 3 แบบพัดลม 2 ตัวอยู่ทางด้านหลังของตัวเครื่อง ยิงเป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ด ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 3 เส้น โดยแยกฝั่ง CPU และ GPU ออกจากกัน ในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานระยะยาวไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม ซึ่งถ้าเป็น MSI Prestige 14 จะเป็นพัดลม 1 ตัว แต่ก็ถือว่าจัดการความร้อนได้ดีอยู่ แต่ได้ ประสิทธิภาพโดยรวมยังลื่นไหลอยู่ ซึ่งในส่วนของการ์ดจอจะร้อนสุดอยู่ที่ 70 – 74 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร แต่ถ้าใช้งานทั่วไปคือแทบไม่มีเสียงเรียกว่าเงียบจริงจัง เพราะพัดลมไม่หมุนเลย

บางเฉียบ 15.9 ม.ม. เบาสุด 1.29 กิโลกรัม แบตยาวนาน 12 ชั่วโมง

สำหรับ MSI Prestige 14 / 15 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงแต่บางเบาขนาดหน้าจอ 14″ /  15.6″ ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด เพราะได้ความละเอียดรุ่นท็อปเป็น 4K Ultra HD ถูกต่อยอดมาจาก MSI Prestige รุ่นเล็กรุ่นรองท็อปที่เป็น Full HD เรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.29 / 1.6 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันพรีเมียมด้วยวัสดุอะลูมิเนียม ตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมตัดขอบเพชรเพิ่มความหรูหรา

MSI Prestige 15 UHD Review 48

โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการเลือกใช้ให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องเป็นลักษณะแบบด้าน พร้อมกับใช้สี Carbon Gray กับตัวเครื่องด้านนอกและสีเทากับตัวเครื่องด้านใน พร้อมตกแต่งรายละเอียดบริเวณขอบด้วยเทคโนโลยี diamond-cutting สีฟ้าสดใสตลอดทั้งตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่โน๊ตบุ๊คสายทำงานมืออาชีพต้องดูดำๆ ดีไซน์ไม่ทันสมัย ให้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูน้อยแต่เรียบหรูแทนนั่นเอง

ที่สำคัญกับแนวคิดที่ได้ขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งบางเฉียบเพียง 5.6 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ซึ่งการใช้งานจริงมุมมองมันก็จะดู เป็นปกติกว่าโน๊ตบุ๊คบางรุ่นที่ย้ายไปติดตั้งที่อื่น ส่วนความบางสุดๆ ของตัวเครื่องอยู่ที่ 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่า MSI นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ เลยครับ สำหรับการเปิดปิดฝาของหน้าจอก็ทำได้ง่ายเพราะขอบตัวเครื่องด้านหน้าได้มีการเว้นร่องเว้าเอาไว้สวยงาม

MSI Prestige 15 UHD Review 56

ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 14″ / 15.6″ ทั่วไปอย่างชัดเจน ซึ่งโดยรวมแล้วไม่ใช่แค่บางเบาและสเปกดีแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายบางเบาเน้นพกพา แต่มาพร้อมการ์ดจอระดับ GTX 1650 Max-Q สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็ม ที่แม้ราคาอาจจะสูงกว่าพวก Gaming Notebook แต่ได้น้ำหนักที่เบาและตัวเครื่องที่ดูหรูมาแทน ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจะอยู่มุมขวาบนของชุดคีย์บอร์ด พร้อมบริเวณบานพับก็เป็นช่องระบายความร้อน 2 ช่อง ที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างเรียบเนียน

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI Prestige 14 / 15 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ เกือบ 12 ชั่วโมงโดยประมาณ หรือถ้ารุ่น MSI Prestige 15 จะได้ประมาณ 8 ชั่วโมง แต่โดยส่วนตัวก็ถือว่ายอมรับได้ (ใช้ได้นานมากแล้ว) ​จากการที่น้ำหนักเบาตัวเครื่องบาง พกพาอแดปเตอร์ไปอีกตัวก็พอไหวอยู่ พร้อมความสามารถ PD ที่ชาร์จไฟกลับเข้าไป 15 นาที เครื่องก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน 2 ชั่งโมงแล้ว

MSI Prestige 14 Core i Gen 10 NBS Review 47

หน้าจอเทพสุด True Pixel Display สูงสุดได้ 4K Ultra HD

MSI Prestige 15 รุ่นท็อปสุดได้หน้าจอขนาด 15.6″ มีเทคโนโลยี True Pixel Display ที่ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล Ultra HD ซึ่งส่งผลให้มีความหนาแน่นของพิกเซลสูงมากที่ 220 PPI เลย พร้อมได้พาเนล IPS คุณภาพสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากๆ ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจอย่างที่สุด ทั้งเรื่องสีสันและมุมมองที่กว้างพิเศษ โดยการสเกลเพิ่มมาเป็นที่ 250% ให้ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว และด้วยความที่จอเป็นแบบด้านแต่ก็ยังให้เรื่องสีสันสดใส ตอนสนองการทำงานของเราได้เป็นอย่างดี เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกม

MSI Prestige 15 UHD Review 15

ขอบจอจะเป็นพลาสติกสีดำบางฉียบเพียง 5.6 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งให้พื้นที่แสดงผลทั้งหมดกว่า 90% เลยทีเดียว แต่ก็ยังสามารถติดตั้งกล้องเว็บแคมพร้อมไมโครโฟนแบบคู่ไว้ที่ขอบจอด้านบนได้ปกติอยู่ ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมกางได้ถึง 180 องศา ช่วยให้การนำเสนองานกับคนที่นั่งตรงข้ามกันง่ายยิ่งขึ้นด้วย

MSI Prestige 15 UHD Review 64

ที่สำคัญจากการที่ MSI Prestige 15 ยังเคลมเรื่องของคุณภาพหน้าจออีกว่าได้ค่ามาตรฐานสีสันที่ AdobeRGB ใกล้เคียง 100% ซึ่งนับว่าสูงมากๆ เหมาะกับงานทุกๆ ประเภทการทำงาน ที่จริงจังเรื่องสีสัน พร้อมยังแสดงค่าสีที่แม่นยำและเที่ยงตรงจากการที่ ∆E* (delta E) น้อยกว่า 2 นอกจากนี้ด้วยการที่ MSI Prestige 15 ผ่านการ Calibrate สีจากโรงงานทุกเครื่องทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าพร้อมใช้งานสุดๆ ปิดท้ายด้วยการได้รับการรับรองโดยมาตรฐานระดับโลกในด้านความแม่นยำของค่าสีจาก CalMAN Color Calibration อีกด้วย

ทดสอบแล้วพบว่าให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 97% และค่า AdobeRGB อยู่ที่ 93% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีมากๆ เหมาะกับงานระดับมืออาชีพแบบสุดๆ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 400 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอที่ดีกว่าในโน๊ตบุ๊คราคาระดับเดียวกัน

MSI Prestige 14 Core i Gen 10 NBS Review 47

ส่วน MSI Prestige 14 รุ่นเล็กได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14″ และ MSI Prestige 15 รุ่นรอง ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD ได้พาเนล IPS คุณภาพสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ค่อนข้างน่าประทับใจ ทั้งเรื่องสีสันและมุมมองที่กว้างพิเศษ โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% และค่า AdobeRGB อยู่ที่ 71% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีมากๆ เหมาะกับงานระดับมืออาชีพแบบสุดๆ ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปแน่นอน หรือถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็เหมาะสมไม่แพ้กับรุ่นหน้าจอ 4K Ultra HD

สรุป Best Creator Notebook 2019 : MSI Prestige 14 / 15

  • ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
  • ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับกว่าเดิม โดยมีน้ำหนักเพียง 1.29 – 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น
  • สเปคแรง Core i7-10710U และการ์ดจอ GTX 1650 Max-Q เทียบเท่า Gaming Notebook
  • หน้าจอแสดงผลกางได้ 180 องศา ขอบจอบางเฉียบขนาด 14 ” / 15.6″
  • จอคุณภาพสูงความละเอียดสูงสุด 4K Ultra HD ขอบเขตสี sRGB ใกล้เคียง 100%
  • จัดเต็มเรื่องแรมที่ 16 – 32GB และ SSD M.2 NVMe ที่ 512GB – 1TB
  • มี Windows 10 แท้ พร้อมซอฟ์ตแวร์ Creator Center ที่ดี ใช้งานได้ทันที
  • ประสิทธิภาพดีทั้งการทำงานและการเล่นเกม ให้ความลื่นไหล
  • คีย์บอร์ดใช้งานได้ดี มีไฟส่องสว่างใช้งานได้จริง
  • มีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6 AX ใหม่ล่าสุด
  • การจัดการความร้อนในส่วนของการ์ดจอทำได้ดี
  • ให้พอร์ต Thunderbolt 3 มา 2 พอร์ต รองรับการชาร์จไฟ
  • อแดปเตอร์มีขนาดที่เล็กและเบา พอร์ตเป็น USB-C PD ชาร์จมือถือก็ได้
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 8 – 12 ชั่วโมง
  • ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสเปกและฟีเจอร์ รวมถึงประสบการณ์ใช้งาน
  • รุ่น 14″ มี Ergonomics View Design ที่ช่วยยกตัวให้สูงขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

REVIEW

MSI Prestige 16 AI Studio ทำงานต้องรุ่นนี้ จอใหญ่ OLED พลัง Intel Core Ultra มาพร้อม RTX4060 เพื่องาน เกม และครีเอเตอร์ MSI Prestige 16 AI Studio โน๊ตบุ๊คสำหรับกลุ่มคนทำงานและยกระดับความสามารถในหลายด้านเพื่อเหล่าครีเอเตอร์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขุมพลัง...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

Buyer's Guide

ไม่ว่าจะคอมทำงานหรือเกมมิ่ง จอคอม 24 นิ้ว เป็นขนาดที่หลายคนเลือกซื้อมาใช้ เพราะได้ภาพคมชัดดีและมีความละเอียด 1080p ยืนพื้นมาให้ จึงได้ภาพคมชัดพอใช้ทำงานได้ดีไม่มัวหรือแตกแถมใช้สเปคคอมไม่เยอะมาก ถ้าอิงกับการสำรวจสเปคคอมของ Steam แล้ว เกมเมอร์ก็ยังนิยมหน้าจอ Full HD อยู่ไม่เสื่อมคลายเพราะกินสเปคเครื่องไม่มาก ขอแค่การ์ดจออยู่ในระดับกลางราคาหลักหมื่นบาทไม่เกี่ยงจะค่ายแดงหรือเขียวก็ตั้งค่ากราฟิคเอาไว้ระดับสูงสุดแล้วเล่นเกมได้สบายๆ ไม่ต้องเปลืองเงินเกินจำเป็นนัก หากจำกันได้เมื่อ 3~4 ปีก่อน จอคอม 24 นิ้วจะมีราคายืนพื้นอยู่ช่วง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก