เป็นอีกหนึ่ง Award จากทาง NotebookSPEC ที่น่าสนใจ กับในส่วนของ Best Gaming Notebook Hi-end 2019 ซึ่งในส่วนของ MSI GE65 Raider จากการที่เราคัดเลือกจาก Gaming Notebook ระดับสูงทั้งหมดในตลาด โดย MSI GE65 Raider เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ ที่เน้นความเป็นที่สุดในเกือบทุกด้าน โดยเป็นรองเพียง MSI GT76 Titan เท่านั้น ที่ติดตั้งการ์ดจอตัวแรงรุ่นใหม่ล่าสุดระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 20 Series ด้วยความสมบูรณ์แบบในความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจากประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทำได้ดี
ให้ความร้อนที่น้อยลงแต่ความแรงเพิ่มขึ้น พร้อมให้หน้าจอ Refresh Rate ที่ 240Hz เป็นพาเนล IPS คุณภาพสูงซึ่งฟินมากๆ เพราะ RTX 2060 – RTX 2070 สามารถขับได้สบายๆ กับราคาเปิดตัวที่ 62,900 – 72,900 บาทถือว่าคุ้มค่าน่าซื้อ (ถูกสุดตอนนี้แค่ 49,990 บาทเท่านั้น) สำหรับในช่วงราคา Gaming Notebook ระดับนี้ ยิ่งช่วงนี้ราคาถูกลงกว่าเดิมอีก ทำให้เราสามารถตัดสินใจซื้อได้ไม่ยากเลย สำหรับคนที่ต้องการ Gaming Notebook แบบจัดเต็ม โดยในบทความนี้เราจะมาขยายความและสรุป Best Gaming Notebook Hi-end 2019 ที่ทาง MSI GE65 Raider ได้ไป ลองมาดูกันได้เลย
MSI GE65 Raider สเปกแรง i7-9750H + RTX 2060/2070 ฟีเจอร์เทพ
MSI GE65 Raider เป็น Gaming Notebook ระดับสูงที่มาพร้อมกับชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i7-9750H การ์ดจอรองรับได้สูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2060 6GB GDDR6 / RTX 2070 8GB GDDR6 มีช่องใส่แรม 2 ช่อง โดยใส่มาแล้ว 16GB DDR4-2666 หนึ่งแถว หน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS ได้มาตรฐาน sRGB ที่ 90% AdobeRGB ที่ 71% พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง 240 Hz ลื่นไหล มีทั้งช่อง 2.5″ และ NVMe M.2 PCIe Gen 3 จำนวน 2 ช่อง ใส่มาแล้ว 1TB ที่หนึ่งช่อง มาพร้อม Windows 10 และซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
พอร์ตการเชื่อมต่อเป็น USB-C 3.2 Gen 2 ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ระบบเสียงจาก Dynaudio พร้อมซับวูฟเฟอร์ คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ Per-key RGB แบบปรับแต่งแยกได้รายปุ่ม มี Killer Gigabit Ethernet และ Killer Wi-Fi 6 (AX) ที่ทำงานร่วมกันเป็น Killer Doubleshot Pro น้ำหนักของ MSI GE65 Raider อยู่ที่ 2.27 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อดูจากสเปคแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าทำมาได้เบาเกินคาดมาก ๆ ประกอบกับการใช้หน้าจอที่ขอบบาง ทำให้ตัวเครื่องไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป สะดวกต่อการพกพามากยิ่งขึ้น พกไปเล่นเกมนอกสถานที่ได้สบาย
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 – 80 – 100+ FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 2060 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ระดับสูงก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว พร้อมรองรับฟีเจอร์ DLSS / Ray Tracing อย่าง RTX Series ก็ให้ภาพสวยงาม แต่ก็ต้องแลกกับการกินทรัพยากรเครื่องเพิ่มเติมด้วย
เกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / Overwatch รวมไปถึง PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 ขึ้นไปตลอด ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล
ทางด้านช่องระบายความร้อนของ MSI GE65 Raider จะมีมาให้ด้วยกันถึง 3 ช่อง ด้านหลังสอง และด้านซ้ายอีกหนึ่ง โดยใช้พัดลม 2 ตัว ฮีทไปป์ 7 เส้นดีกว่าเดิม ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Cooler Boost 5 ที่ช่วยนำพาความร้อนออกไปอย่างรวดเร็ว เน้นในเรื่องของทิศทางการไหลเวียนเข้าออกของลมที่ดีขึ้นจากเดิมพอสมควร
โดยจะมีช่องระบายความร้อนรวมทั้งหมดถึง 3 ช่อง เป็นด้านหลัง 2 ด้านข้างอีกอย่างละ 1 มีครีบระบายความร้อนเป็นสีดำซึ่งดูแล้วเรียบเนียนจากตัวเครื่องในส่วนของ Heat Pipe ก็ให้มามากถึง 7 เส้น โดยจัดเต็มกว่าแบรนด์อื่นๆ เหมือนเคย วางตัวยาวตั้งแต่ส่วนของชิปประมวลเรื่อยมาจนถึงส่วนที่เป็นครีบระบายความร้อนทองแดงที่มีการชุบด้วยสีดำอย่างอลังกาลงานสร้างไม่มีกั๊กใส่เต็มทุกเม็ดจริงๆ
จากการที่สเปกจะแรงด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ทำให้ความร้อนสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าสูงอยู่ไม่น้อยเลย เรียกได้ว่าเกือบๆ 100 องศาเซลเซียส เรียกได้ชุดระบายความร้อนจาก MSI ที่ว่าดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไป ถึงกระนั้นก็ยังทำได้ปกติ ไม่มีผลต่อการใช้งานใดๆ (แต่มีผลกับจิตใจแน่นอน ฮา) ซึ่งในส่วนของการ์ดจออย่าง RTX 2060 / RTX 2070 นับว่าควบคุมความร้อนได้ดีมาก ร้อนสุดที่ 69 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นรับรู้สัมผัสได้ถึงความร้อนเล็กน้อย ในส่วนนี้ถือว่าให้ประสบการณ์ที่น่าพอใจทีเดียว
คีย์บอร์ดของเป็นฟีเจอร์เทพๆ ของ MSI GE65 Raider โดดเด่นมากๆ จากการที่ใช้ Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Gaming Notebook จาก MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่สำคัญในคราวนี้ไฟ LED ที่เป็น RGB สามารถเปลี่ยนสีทีละปุ่ม ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ พร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง Silver Lining Print ขอบโปร่งแสงสวยงาม สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้ผ่าน Steelseries Engine 3
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง Giant Speakers แบรนด์ DYNAUDIO 2.2 ชาแนล โดยลำโพงปกติก็ใหญ่ขึ้นขนาด 2W + 2W พร้อมมีซัพวูฟเฟอร์ในตัว 2 ตัวขนาด 3W + 3W โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic 3 จำลองการเสียงได้สมบูรณ์แบบ ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าทั้งความดังและคุณภาพเสียงอย่างชัดเจน ใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ แถมซัพพอร์ทไฟล์ Hi-res 24bit/192kHz ที่ใช้ ESS Sabre Hi-Fi DAC ในการขับได้อีกด้วยสมกับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับบนจริงๆ
MSI DRAGON CENTER Version 2 เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูต่างๆ สามารถใช้งานได้จริงๆ มีประโยชน์ทั้งนั้น อย่างที่หาได้ยากใน Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ
สรุป Best Gaming Notebook Hi-end 2019 : MSI GE65 Raider
- สเปกแรงลื่นด้วย Core i7-9750H + RTX 2060/2070 + RAM 16GB + SSD 1TB
- หน้าจอเทพด้วยพาเนล IPS ได้ sRGB ที่ 90% รองรับ Refresh Rate ที่ 240Hz
- ประสิทธิภาพสูง สมกับเป็น Gaming Notebook Hi-end
- ดีไซน์ Gaming ตัวจริง มีเอกลักษณ์ชัดเจน ตามสไตล์ MSI
- Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับ SteelSeries
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ทำได้ดีเยี่ยม
- ลำโพง Giant Speakers แบรนด์ DYNAUDIO 2.2 ชาแนล
- มี Killer Gigabit Ethernet และ Killer Wi-Fi 6 (AX)
- มีซอฟต์แวร์ MSI DRAGON CENTER ช่วยปรับแต่ง
- ราคาไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook ระดับเดียวกัน