ถึงแม้เราจะได้ยินว่าการตัดสินใจต่างๆ ที่มาจากมนุษย์นั้นดีมากน้อยเพียงใด ทว่าก็ไม่สามารถที่จะปฎิเสธได้เลยครับว่าการตัดสินใจหลายๆ อย่างของมนุษย์เรานั้นมันมักจะมาพร้อมกับความลำเอียงเล็กๆ น้อยๆ เสมอ ซึ่งในการตัดสินใจสำหรับชีวิตประจำวันของเรานั้นอาจจะไม่ส่งผลอะไรมากมายต่อมนุษย์ร่วมโลกคนอื่นมากนัก ทว่าในวงการการตัดสินคดีต่างๆ ที่มีบุคคลมากมายเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วนั้นปฎิเสธไม่ได้เลยครับว่าการตัดสินใจหรือตัดสินคดีบางอย่างก็มีผลมาจากความลำเอียงหรือปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อด้วย
เพื่อหลีกเลี่ยงการที่ต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างแล้วมีความลำเอียงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้นได้มีนักวิจัยกลุ่มหนึ่งครับที่พยายามจะพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาสำหรับใช้ในการตัดสินใจเฉพาะทางอย่างการตัดสินคดีในศาลโดยเฉพาะ ส่วนหนึ่งนั้นทางทีมวิจัยเชื่อว่าเมื่อใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ในการตัดสินใจแทนมนุษย์แล้วนั้น การตัดสินถูกผิดที่ออกมานั้นจะไม่มีความลำเอียงเกิดขึ้นโดยเด็ดขาดเนื่องจาก AI นั้นจะทำการประมวลผลตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
จริงๆ แล้วในต่างประเทศนั้นได้มีการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์เข้าไปช่วยในการพิจารณาคดีมาแล้วครับ ทว่าสิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์ทำในปัจจุบันเพื่อช่วยในการตัดสินคดีนั้นจะเป็นเรื่องของการรวบรวมคำตัดสินในอดีตที่เกี่ยวข้องกับคดีนั้นๆ เพื่อทำเป็นข้อมูลสำหรับส่งให้ผู้พิพากษาและลูกขุนเพื่อที่จะได้นำไปใช้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับช่วยในการตัดสินคดี ทว่าแม้จะมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยแล้วก็ตามแต่สุดท้ายในที่สุดนั้นก่อนที่ข้อมูลต่างๆ จะถึงผู้พิพากษาและลูกขุนก็จะมีผู้ดูแลข้อมูลดังกล่าวซึ่งเป็นมนุษย์ทำการคัดเลือกข้อมูลต่างๆ เหล่านั้นอีกครั้งก่อนที่จะส่งให้กับทางผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปครับ
ผู้ที่นำเรื่องดังกล่าวนี้ให้เป็นประเด็นขึ้นมานั้นมีชื่อว่า Rossalyn Warren ครับ เธอผู้นี้นั้นได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่าด้วยความที่ผู้พิพากษาและคณะลูกขุนนั้นเป็นมนุษย์ปุถุชนทั่วไปซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตามแล้วการตัดสินคดีในเรื่องต่างๆ นั้นก็จะมาพร้อมกับความเห็นส่วนตัวด้วยเป็นหลักทำให้บางทีแล้วนั้นอาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้บ้างดังนั้นแล้วการใช้หุ่นยนต์ที่มาพร้อมกับระบบปัญญาประดิษฐ์มาเป็นลูกขุนที่มีอำนาจในการตัดสินใจชี้ผิดชี้ถูกแทนมนุษย์นั้นจะช่วยทำให้ปัญหาเรื่องการตัดสินที่ไม่ยุติธรรมนั้นหมดไป
เธอผู้นี้ยังได้บอกข้อดีเอาไว้อีกหลายอย่างในการใช้หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในการตัดสินครับ ไม่ว่าจะเป็นการตัดซึ่งอารมณ์ความรู้สึกส่วนบุคคล, ความเป็นธรรมหรือกระทั่งการมีความรู้ในเรื่องของลักษณะคดีที่จะต้องทำการตัดสินจริงๆ นั้นอยู่ภายในซึ่งในการประมวลผลการตัดสินที่ได้นั้นก็จะมาพร้อมกับการนำเอาข้อมูลที่เคยมีตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านั้นก็จะเกี่ยวข้องเฉพาะกับเรื่องที่จะตัดสินเท่านั้นมาทำการตัดสินน่าจะดีกว่าวิธีการใช้ลูกขุนซึ่งบางทีแล้วนั้นอาจจะไม่มีความเข้าใจในเรื่องที่จะต้องตัดสินมากพอครับ
นักวิจัยที่ตอบรับแนวคิดดังกล่าวนี้นั้นมีชื่อว่าคุณ Jonathan Gratch จาก Institute for Creative Technologies ก็ได้ทำการพัฒนาหุ่นบนต์ที่มาพร้อมกับระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับการเป็นลูกขุนขึ้นมาครับ ซึ่งหุ่นยนต์ดังกล่าวนี้นั้นมีชื่อว่า Ellie และได้เคยถูกนำไปใช้ในการทดลองกับมนุษย์จำนวน 2 กลุ่มมาแล้ว โดยในการฝึกฝนตัวปัญญาประดิษฐ์นั้นจะพบว่า Ellie ได้มีการเลือกคำถามที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะต้องทำการตัดสินนั้นๆ อย่างละเอียดเอามากๆ นอกจากนั้นแล้ว Ellie ยังมาพร้อมกับกล้อง 3 มิติที่จะเอาไว้ใช้ในการตรวจสอบอารมณ์ของผู้ตอบ ณ เวลาที่ทำการตอบคำถามเหล่านั้นเพื่อเก็บเป็นข้อมูลไว้ด้วยอีกต่างหากครับ
อย่างไรก็ตามแต่ครับมีกลุ่มคนที่ยอมรับและอยากศึกษาเรื่องนี้แล้วนั้นย่อมมีผู้ที่เห็นต่างไปจากที่ทัมวิจัยคิดอยู่ตัวอย่างเช่น Tom Girardi ซึ่งเป็นทนายความนั้นก็ให้ความเห็นเอาไว้ครับว่าธรรมชาติของมนุษย์เรานั้นหากได้เลือกลูกขุนที่ตัดสินคดีเป็นไปอย่างที่ทางทนายอยากให้เป็นแล้ว ในครั้งต่อๆ ไปนั้นทนายคนดังกล่าวเองก็ต้องอยากให้ใช้คณะลูกขุนที่จะช่วยตัดสินคดีให้ตรงตามความต้องการของทนายมากกว่าคณะลูกขุนใหม่ซึ่งในที่นี้นั้นก็คือเจ้าหุ่นยนต์ที่มาพร้อมกับ AI นี่เองครับ
ยังไม่หมดนะครับนอกไปจากนั้นแล้วยังมีคุณ Theresa May ซึ่งเป็นอดีนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นเอาไว้ว่าเจ้าหุ่น AI ที่ช่วยในการตัดสินใจนั้นอาจจะมีข้อดีอยู่ก็จริง แต่การพัฒนามันขึ้นมานั้นผู้ที่ทำการพัฒนาอัลกอริทึมให้กับ AI ดังกล่าวนั้นก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าระบบ AI ที่ใช้ในการตัดสินคดีนั้นจะไม่มีอัลกอริทึมที่ถูกเขียนขึ้นมาด้วยความลำเอียง รวมทั้งหากมีการนำไปใช้งานจริงๆ แล้วนั้นเราก็ไม่สามารถที่จะรับรู้ได้เลยครับว่า AI นั้นได้มีการถูกปรับเปลี่ยนมาก่อนหน้าที่จะตัดสินคดีความนั้นๆ หรือไม่เพราะในท้ายที่สุดแล้วผู้ที่ต้องดูแล AI ดังกล่าวนั้นก็๋หนีไม่พ้นมนุษย์ปุถุชนอย่างเราๆ ท่านๆ นี่ล่ะครับ
แน่นอนครับว่าเรื่องการใช้หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์สำหรับการตัดสินคดีความนี้นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนเอามากๆ ดังนั้นแล้วเราจึงจะยังคงไม่ได้เห็นการใช้งานระบบดังกล่าวนี้จริงๆ ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน แถมเมื่อถึงช่วงเวลาที่อาจจะได้ลองใช้ในศาลจริงๆ นั้นก็อาจจะมีการตั้งคำถามอีกมากมายที่ไม่รู้จบ งานนี้นั้นบอกได้คำเดียวเลยครับว่ากว่าจะถึงวันที่เราได้เห็นระบบนี้เป็นเรื่องจริงขึ้นมานั้นน่าจะอีกยาวไกลหลายปี ทว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ
ที่มา : dailystar