MSI WP65 เป็น Mobile Workstation อีกหนึ่งรุ่นจากทาง MSI ที่เน้นความบางเบา ตลอดที่ผ่านมาทาง MSI จริงจังกับเกมโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมส์รวมไปถึงต่อยอดพัฒนาในส่วนของโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับมืออาชีพด้วย โดยการแบ่งซีรีส์ออกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น WT / WS / WE และ WP ที่เป็นรุ่นเล็กสุด ได้ขอบจอบางมาพร้อมประสิทธิภาพสูง คุณภาพเยี่ยม โดดเด่นความความบางของตัวเครื่อง และมีน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น เน้นพกพาสะดวก แต่ยังได้สเปกที่แรงไม่แพ้โน๊ตบุ๊คตัวหนักๆ หนาๆ เลย
สำหรับ MSI WP65 ได้สเปกใหม่ออกมาเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ส่วนการ์ดจอก็เป็นสายประมวลผล 3 มิติอย่าง NVIDIA Quadro P620 จัดเต็มด้วยแรมขนาด 16GB และ SSD 256GB + HDD 1TB จอเป็นขนาด 15.6″ Full HD IPS-level ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่นออกแบบโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวยงาม ทันสมัยให้ความแข็งแรงทนทาน พกพาสะดวก ทำให้ MSI WP65 เป็น Mobile Workstation ที่น่าใช้งานอีกรุ่นนึง ในราคาเพียง 41,900 บาทเท่านั้น
Specification
MSI WP65 เครื่องที่ได้รับมารีวิว คือรุ่นราคา 41,900 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพแรงเหลือๆ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA Quadro P620 (4GB GDDR5) ที่มาพร้อมประสิทธิภาพที่แรงกว่า MX250 แต่เน้นงานที่เกี่ยวกับการประมวลผล 3 มิติมากกว่า
มีที่เก็บข้อมูลเป็นมาตรฐาน SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 256GB + HDD 2.5″ ความจุ 1TB ที่ทั้งลื่นไหลและมีพื้นที่เยอะ ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 จำนวน 1 แถว อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB (ใส่ Ram ได้ 2 แถว) นับได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD IPS-level ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้างประมาณนึง ไม่ว่าจะการทำงานหรือบันเทิงก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.1, USB 3.1 Type C, Kensington lock slot, 2-in-1 SD, Lan RJ-45 , รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth v5 น้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม พร้อม Windows 10 แท้ ซึ่งดูจากราคาที่จำหน่ายแล้วถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
- i7-9750H / Quadro P620/ RAM 16GB / SSD 256GB + HDD 1TB / Windows 10 ราคา 41,900 บาท
Hardware / Design
หน้าตาการออกแบบเอง MSI WP65 ต้องบอกว่ามีลักษณะรูปทรงคล้ายคล้ายกับ MSI GF63 ที่เป็น Gaming Notebook ทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งทำได้ดีในส่วนของที่เป็น Mobile Workstation ที่เน้นความบางเบา ด้วยความโดดเด่นที่ให้ความเรียบง่ายสวยงามดูเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจัง โดย MSI WP65 ใช้สีสันเป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมโลโก้ที่เป็นสัญลักษณ์ของ W Series ส่วนของฝาหลังเท่านั้น เชื่อได้ว่าน่าจะถูกใจคนทำงานสวย Workstation ทีเดียว
แม้เป็น Mobile Workstation หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แต่บอดี้เทียบเท่าขนาดรุ่น 14 นิ้วแบบรุ่นก่อนๆ ซึ่งมาจากการที่ได้ขอบจอบางมากเพียง 4.9 มม เท่านั้น บางมากๆ จนคิดว่าจอ 14 นิ้วด้วยซ้ำ ใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิม ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานคือไม่มี Numpad แต่ปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือขึ้น โดยวัสดุตัวเครื่องทั้งหมดใช้เป็นอลูมิเนียมที่มีความหรูหราและความทนทานไปพร้อมๆ กัน
ในเรื่องความบางเบาและเน้นการพกพาก็สะดวกกว่า Mobile Workstation ปกติ โดยยังคงรักษาความเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ไม่มีอะไรเยอะแยะเหมือน Gaming Notebook แต่ก็มีความดุดันให้พลังอยู่ ด้วยวัสดุอลูมิเนียมทั้งด้านนอกด้านใน แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมแบบด้านสนิทให้สัมผัสราบเรียบพร้อม พร้อมด้วยโลโก้ W ที่ดูแล้วมีความมินิมอลสุดๆ
ด้านฐานล่างออกแบบมาใหม่ดีไซน์เป็นแนวตัว X วัสดุเป็นพลาสติกด้าน พร้อมกับทำการเซาะร่องระบายอากาศหลายตำแหน่งด้วยกัน ลำโพงก็อยู่ที่ด้านล่าง 2 ตัวทำให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงได้ดี การแกะอัปเกรดบอกเลยว่าค่อนข้างยาก เพราะต้องแกะน็อตออกหมดทุกตัวแล้วค่อยใช้บัตรแข็งๆ แงะที่ละส่วน แนะว่าให้ทางช่าง MSI จัดการให้จะดีที่สุด โดยเราเองสามารถแกะอัปเกรดได้ไม่หลุดประกัน แต่ MSI จะไม่รับผิดชอบอุปกรณ์ที่ใส่เพิ่ม
ในส่วนของช่องระบายความร้อนของ MSI WP65 มีด้วยกัน 2 ช่องคือด้านหลังฝั่งซ้ายมือตัวเครื่อง และด้านข้างซ้าย โดยใช้พัดลม 1 ตัว ฮีทไปป์ 3 เส้น เพียงพอต่อการใช้งาน วัสดุบอดี้ตรงคีย์บอร์ดจะเป็นอลูมิเนียมสีดำหมือนฝาหลัง สวยงาม แข็งแรง ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านมุมบนขวามือแยกจากคีย์บอร์ด นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมีไฟสีขาวที่ตัดกับตัวเครื่องสีดำ สามารถเปิดปิดได้ 3 ระดับ
อีกทั้งตัวเครื่อง MSI WP65 เอง ก็ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีการทดสอบในหลากหลายด้าน เช่น ทดสอบการตกหล่น ทดสอบการสั่นสะเทือน ทดสอบการทำงานในสภาวะอุณหภูมิต่าง ๆ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถใช้งาน MSI WP65 เครื่องนี้ได้ในแทบทุกสภาพแวดล้อมอย่างแน่นอน เรียกได้ว่า MSI WP65 ตัวนี้ยังคงรักษามาตรฐานเหมือนรุ่นพี่ก่อนหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สัมผัสได้ถึงความเป็น Mobile Workstation บางเบาสายพันธุ์แท้ ที่ไม่ใช่แค่เครื่องแรงอย่างเดียวแต่ในประสบการณ์ใช้งานก็ดีเยี่ยมด้วย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI WP65 ถูกออกแบบมาใหม่โดยตัดปุ่ม Numpad ออก และก็ไม่ใช้คีย์บอร์ดของ SteelSeries เหมือน MSI รุ่นอื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ SteelSeries แต่การออกแบบและการใช้งานถือว่าทำได้ดีกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นแบบรู้สึกได้เลย เพราะทั้งการตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อม กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้ตัวคีย์บอร์ด SteelSeries รุ่นอื่น และที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟคีย์บอร์ดตัวเครื่องให้มาเป็นสีขาวสีเดียว ปรับสีไม่ได้ ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ พร้อมทำการไฮท์ไลท์ขอบขาวทุกปุ่มให้ดูเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจัง
ส่วนของทัชแพดก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ขนาดเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน มีการเซาะร่องตัดขอบอะลูมิเนียมสวยงาม ผิวสัมผัสไม่ลื่นจนเกินไป ตัวปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ทั้งการคลิกซ้ายคลิกขวาไม่มีอาการยวบยาบให้เห็น รวมถึงการใช้งานมัลติทัชก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล โดยรวมการใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี ส่วนปุ่มเปิดปิดของตัวเครื่องได้ติดตั้งอยู่มุมซ้ายของคีย์บอร์ดดีไซน์ได้เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องเป็นอย่างดี
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ MSI WP65 นั้น มีขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD IPS-level มุมมองกว้างประมาณนึง ทำให้แสดงผลภาพออกมาได้อย่างสวยงามคมชัด ลดปัญหาเรื่องแสงสะท้อนจากแสงไฟรอบๆ ตัวได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งแสงสว่างของหน้าจอสามารถปรับได้หลายระดับให้พอดีกับสายตา สามารถสู้แสงจ้าจากภายนอกได้ในระดับหนึ่ง แถมขอบจอบางเพียง 4.9 มม. ทำให้ภาพที่ได้เต็มตาสุดๆ ส่วนเรื่องของสีดูสวยงามกว่า Panel TN ทั่วไปพอสมควรทั้งสีสด ไม่จืด และไม่เพี้ยนมาก
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ MSI WP65 เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 63% และ Adobe RGB ที่ 47% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสัน ความเที่ยงตรงของสี ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติไม่ได้สว่างมาก คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปแน่นอน โดยถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพพอได้เลย แต่ถ้าในระดับมืออาชีพต้องระวังนิดนึงควรคาลิเบรทก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านล่างขวาจะมีแสงสว่างลดลงไปที่ 15% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง Nahimic 3 ทำให้มีเสียงดังฟังชัด มีน้ำหนัก ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีในระดับหนึ่งตามสไลต์เสียงจากลำโพงโน๊ตบุ๊ค ช่องลำโพงถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง ช่วยให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงให้มีมิติ แยกเสียงซ้ายขวาให้ชัดเจนได้มากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วเลือกลำโพงถือว่าทำได้ดีเลยครับ
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง MSI WP65 กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมขนาดหน้า 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว แม้ว่าตัวเครื่องจะมีมิติเล็กและบางเบาก็ตามที่ได้ทั้ง USB 3.1 Type A จำนวน 3 พอร์ต, USB 3.1 Type C จำนวน 1 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน 2 ช่อง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร , Lan, SD Card Reader, Kensington และส่วน HDMI จะพิเศษหน่อย โดยจะอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่องเพียงพอร์ตเดียวเท่านั้น
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wireless Dual Band แบบ 802.11b/g/n/ac มาตราฐานใหม่ล่าสุด ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น และรองรับสัญญาณความที่ถี่ 5 Ghz ได้ ขนาดของตัวเครื่อง 359 x 254 x 21.7 มิลลิเมตร โดยมีน้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม ถือว่าไม่หนักเลยถ้ามองในมุมของ Gaming Notebook ซึ่งเมื่อรวมกับอะแดปเตอร์ชาร์จเข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.10 กิโลกรัม สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายเอามากๆ
Performance / Software
โดย MSI WP65 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Intel Core i7-9750HQ โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 16GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม MSI WP65 มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน พร้อมรองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กสายทำงานอย่าง NVIDIA Quadro P620 (4GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพดีเพียงพอสำหรับการทำงานประมวลผล 3 มิติ และการเล่นเกมในปัจจุบันระดับหนึ่ง
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานหนักๆ เป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1520MB/s และเขียนที่ 852MB/s ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ แต่ถ้าเร็วได้กว่านี้ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้ง Flash Memory มาให้ด้วย ทำการเทสกับโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 87.1 MB/s และสูงสุดที่ 205 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 175.3 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 0.959 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว ยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับ SSD M.2 NVMe แล้ว การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,352 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Mobile Workstation มีการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA Quadro P620 ร่วมกับชิปประมวลผลตัวแรงจัดกับ Core i7-9750H ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากพอสมควร ระดับเทียบเท่า Desktop สบายๆ
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลในบางเกม จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA Quadro P620 ออกมาได้ประมาณนึง (จริงการ์ดจอตัวนี้ไม่ได้ออกแบบมาเล่นเกมอยู่แล้ว) ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วย
อย่างไรก็ตามแม้ MSI WP65 จะไม่ใช่ Gaming Notebook โดยตรง แต่เราก็ลองทดสอบเกมกัน โดยมีทั้งแบบกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V รวมไปถึง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมดสำหรับ 5 เกม ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเฟรมเหลือๆ ถ้าอยากให้ลื่นกว่านี้ก็อาจจะต้องปรับลงมาหน่อย อาจจะเว้นแต่ในส่วนของเกม Battlefield V ที่ต้องยอมรับว่ากินสเปกจริงๆ ปรับกลางๆ แล้วยังไม่ลื่นเลย
ที่สำคัญยังมี Creator Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งคล้ายกับ Dragon Center เป็นโปรแกรมที่เป็นจุดเด่นของ Gaming MSI ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI WP65 นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- Creator Mode : ศูนย์รวมโปรแกรม ที่ใช้งานในงานสร้างสรรค์ต่างๆ ที่เรามี
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Battery Master : ปรับแต่งการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะกับการใช้งาน
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI WP65 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว พร้อมปรับเป็น Power Saver Mode และ Super Battery โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 7 ชั่วโมงโดยประมาณ ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานอย่างที่เคลมเอาไว้ว่าที่ 7 ชั่วโมง แต่โดยส่วนตัวก็ถือว่าดีเยี่ยม คราวนี้จะพกพาอแดปเตอร์ไปด้วยก็แล้วแต่การใช้งานของเราเลย
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 35 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ไม่เกิน 80 องศาเซลเซียส (MSI ควบคุมเอาไว้ โดยจะลดความเร็วของ CPU เอง) แต่สำหรับการ์ดจอ GPU นั้นร้อนสุดๆ เพียง 67 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่มีฟีเจอร์ Cooler Boots กรณีที่ใช้งานหนักๆ แต่ถ้าใช้งานทั่วไป พัดลมแทบไม่มีเสียงเลย
Conclusion / Award
Mobile Workstation น้ำหนักเบาถือเป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่ใช้งานจริงจังที่หลายคนต้องการกัน ซึ่งปกติแล้วโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพแรงๆ แต่ละรุ่นมักจะมีน้ำหนักที่เยอะ พกพาลำบาก เวลาใส่กระเป๋าแบกไปไหนมาไหนปวดหลังปวดไหล่กันสุดๆ แต่ว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ MSI WP65 แน่นอน เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น โดยเป็นรุ่นหน้าจอ 15.6″ ก็จริง ได้มิติตัวเครื่องที่เล็กกระชับใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊ตหน้าจอ 14″ แบบเมื่อก่อน
MSI WP65 เป็นโน๊ตบุ๊คประเภท Mobile Workstation ได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 9 รุ่นล่าสุด อย่าง i7-9750H ส่วนการ์ดจอเป็นรุ่นเฉพาะที่เน้นการทำงานเป็นหลักอย่าง NVIDIA Quadro P620 บอกเลยสวยงามตามท้องเรื่อง ที่ได้ทั้งความบางเบา ประสิทธิภาพ และความสวยงามในเครื่องเดียว ในราคาเพียง 41,900 บาทเท่านั้น โดยรายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กันทั้งแรมขนาด 16GB และได้ SSD 256GB + HDD 1TB ไปด้วยเลย
ดีไซน์ตัวเครื่อง MSI WP65 วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยสีดำพร้อมแซมด้วยสีแดง ส่วนคีย์บอร์ดมีปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเองที่สำคัญเหนือกว่า Gaming Notebook ทั่วไปด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 ชั่วโมง ในการทดสอบจริงๆ เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ใช้ทำงานประเภทประมวลผล 3 มิติ ที่เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่จบครบในเครื่องเดียว ไม่ต้องพกพา Mobile Workstation ที่หนักๆ ใหญ่เหมือนเมื่อก่อน
ส่วนการระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost 3 ฮีทไปป์ 4 เส้น ขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 2 ช่อง พัดลมตัวเดียว ก็พอที่จะเอาอยู่สำหรับสเปกนี้ โดย CPU / GPU ไม่ร้อนเลย ไม่มีผลต่อการใช้งานแน่นอน รวมไปถึงยังมีความทนทานพิเศษด้วยการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีความทนทานมากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งยังผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ISV เกี่ยวกับโปรแกรมทำงานระดับมืออาชีพต่างๆ อาทิ SolidWorks, CATIA, AutoCAD, ANSYS อีกด้วย
นับได้ว่า MSI WP65 เป็น Mobile Workstation ที่ดีรุ่นหนึ่ง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ในราคาที่จับต้องได้ง่าย โดยรวมแล้วได้ฟีเจอร์ที่ครบครัน รวมไปถึงสเปกก็แรงพอตัว ตัวเครื่องก็น้ำหนักเบาพกพาได้สะดวก แต่อย่างไรก็ตามถ้าให้กล่าวถึงข้อสังเกตก็มีบ้าง ในเรื่องของการ์ดจอแยกที่อาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงมากเมื่อเทียบกับซีรีส์ Quadro รุ่นบนๆ รวมไปถึงหน้าจอก็ไม่ใช่พาเนล IPS คุณภาพที่สูง ในการใช้งานเรื่องสีที่แม่นยำคงต้องระวังกันนิดนึง และสุดท้ายคือไม่มีช่อง SD Card Reader ครับ
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- หน้าจอ 15.6″ เล็กกระชับกว่าเดิมเทียบ 14″ พกพาสะดวก
- เป็น Gaming Notebook มีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคแรงด้วยชิป Core i7-9750H และการ์ดจอ Quadro P620
- ได้แรมมาขนาด 16GB และ SSD ความจุ 512GB ใช้งานได้ลื่นไหลทันที
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ให้สนุกยิ่งขึ้น
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานตามจริงที่ 7 ชั่วโมง
- มาพร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ที่ช่วยจัดการเครื่องสำหรับการทำงานเอาไว้ในที่เดียว
- ผ่านการรับรองมาตรฐานความทนทานระดับกองทัพ (MIL-STD-810G)
- ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก ISV
- ระบบระบายความร้อน MSI Cooler Boost Technology
- มี Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันที
- เป็น Mobile Workstation ที่ราคาไม่แพง
ข้อสังเกต
- พอร์ตการเชื่อมต่อ SD Card Reader ถูกตัดออกไป
- การ์ดจอ Quadro P620 ประสิทธิภาพไม่สูงมาก
- หน้าจอไม่ใช่พาเนล IPS เกรดสูง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI WP65 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 9750HQ (2.6 – 4.6 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA NVIDIA Quadro P620 ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 256GB และใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ที่ 1TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน ได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI WP65 เป็น Mobile Workstation ที่เหนือชั้นในเรื่องความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 1.86 กิโลกรัม ขอบหน้าจอบาง มิติตัวเครื่องเล็ก ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ รวมถึงแบตอาจจะใช้งานได้ 7 ชั่วโมงจริงๆ รวมถึงทนทานด้วยมาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ
Specification
MSI WP65 เครื่องที่ได้รับมารีวิว คือรุ่นราคา 41,900 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพแรงเหลือๆ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA Quadro P620 (4GB GDDR5) ที่มาพร้อมประสิทธิภาพที่แรงกว่า MX250 แต่เน้นงานที่เกี่ยวกับการประมวลผล 3 มิติมากกว่า
มีที่เก็บข้อมูลเป็นมาตรฐาน SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 256GB + HDD 2.5″ ความจุ 1TB ที่ทั้งลื่นไหลและมีพื้นที่เยอะ ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 จำนวน 1 แถว อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB (ใส่ Ram ได้ 2 แถว) นับได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD IPS-level ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้างประมาณนึง ไม่ว่าจะการทำงานหรือบันเทิงก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว
ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.1, USB 3.1 Type C, Kensington lock slot, 2-in-1 SD, Lan RJ-45 , รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth v5 น้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม พร้อม Windows 10 แท้ ซึ่งดูจากราคาที่จำหน่ายแล้วถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
- i7-9750H / Quadro P620/ RAM 16GB / SSD 256GB + HDD 1TB / Windows 10 ราคา 41,900 บาท
Hardware / Design
หน้าตาการออกแบบเอง MSI WP65 ต้องบอกว่ามีลักษณะรูปทรงคล้ายคล้ายกับ MSI GF63 ที่เป็น Gaming Notebook ทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งทำได้ดีในส่วนของที่เป็น Mobile Workstation ที่เน้นความบางเบา ด้วยความโดดเด่นที่ให้ความเรียบง่ายสวยงามดูเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจัง โดย MSI WP65 ใช้สีสันเป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่อง พร้อมโลโก้ที่เป็นสัญลักษณ์ของ W Series ส่วนของฝาหลังเท่านั้น เชื่อได้ว่าน่าจะถูกใจคนทำงานสวย Workstation ทีเดียว
แม้เป็น Mobile Workstation หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว แต่บอดี้เทียบเท่าขนาดรุ่น 14 นิ้วแบบรุ่นก่อนๆ ซึ่งมาจากการที่ได้ขอบจอบางมากเพียง 4.9 มม เท่านั้น บางมากๆ จนคิดว่าจอ 14 นิ้วด้วยซ้ำ ใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิม ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานคือไม่มี Numpad แต่ปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือขึ้น โดยวัสดุตัวเครื่องทั้งหมดใช้เป็นอลูมิเนียมที่มีความหรูหราและความทนทานไปพร้อมๆ กัน
ในเรื่องความบางเบาและเน้นการพกพาก็สะดวกกว่า Mobile Workstation ปกติ โดยยังคงรักษาความเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ไม่มีอะไรเยอะแยะเหมือน Gaming Notebook แต่ก็มีความดุดันให้พลังอยู่ ด้วยวัสดุอลูมิเนียมทั้งด้านนอกด้านใน แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมแบบด้านสนิทให้สัมผัสราบเรียบพร้อม พร้อมด้วยโลโก้ W ที่ดูแล้วมีความมินิมอลสุดๆ
ด้านฐานล่างออกแบบมาใหม่ดีไซน์เป็นแนวตัว X วัสดุเป็นพลาสติกด้าน พร้อมกับทำการเซาะร่องระบายอากาศหลายตำแหน่งด้วยกัน ลำโพงก็อยู่ที่ด้านล่าง 2 ตัวทำให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงได้ดี การแกะอัปเกรดบอกเลยว่าค่อนข้างยาก เพราะต้องแกะน็อตออกหมดทุกตัวแล้วค่อยใช้บัตรแข็งๆ แงะที่ละส่วน แนะว่าให้ทางช่าง MSI จัดการให้จะดีที่สุด โดยเราเองสามารถแกะอัปเกรดได้ไม่หลุดประกัน แต่ MSI จะไม่รับผิดชอบอุปกรณ์ที่ใส่เพิ่ม
ในส่วนของช่องระบายความร้อนของ MSI WP65 มีด้วยกัน 2 ช่องคือด้านหลังฝั่งซ้ายมือตัวเครื่อง และด้านข้างซ้าย โดยใช้พัดลม 1 ตัว ฮีทไปป์ 3 เส้น เพียงพอต่อการใช้งาน วัสดุบอดี้ตรงคีย์บอร์ดจะเป็นอลูมิเนียมสีดำหมือนฝาหลัง สวยงาม แข็งแรง ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านมุมบนขวามือแยกจากคีย์บอร์ด นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมีไฟสีขาวที่ตัดกับตัวเครื่องสีดำ สามารถเปิดปิดได้ 3 ระดับ
อีกทั้งตัวเครื่อง MSI WP65 เอง ก็ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีการทดสอบในหลากหลายด้าน เช่น ทดสอบการตกหล่น ทดสอบการสั่นสะเทือน ทดสอบการทำงานในสภาวะอุณหภูมิต่าง ๆ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถใช้งาน MSI WP65 เครื่องนี้ได้ในแทบทุกสภาพแวดล้อมอย่างแน่นอน เรียกได้ว่า MSI WP65 ตัวนี้ยังคงรักษามาตรฐานเหมือนรุ่นพี่ก่อนหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สัมผัสได้ถึงความเป็น Mobile Workstation บางเบาสายพันธุ์แท้ ที่ไม่ใช่แค่เครื่องแรงอย่างเดียวแต่ในประสบการณ์ใช้งานก็ดีเยี่ยมด้วย
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI WP65 ถูกออกแบบมาใหม่โดยตัดปุ่ม Numpad ออก และก็ไม่ใช้คีย์บอร์ดของ SteelSeries เหมือน MSI รุ่นอื่นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ SteelSeries แต่การออกแบบและการใช้งานถือว่าทำได้ดีกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นแบบรู้สึกได้เลย เพราะทั้งการตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อม กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้ตัวคีย์บอร์ด SteelSeries รุ่นอื่น และที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟคีย์บอร์ดตัวเครื่องให้มาเป็นสีขาวสีเดียว ปรับสีไม่ได้ ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ พร้อมทำการไฮท์ไลท์ขอบขาวทุกปุ่มให้ดูเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจัง
ส่วนของทัชแพดก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ขนาดเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน มีการเซาะร่องตัดขอบอะลูมิเนียมสวยงาม ผิวสัมผัสไม่ลื่นจนเกินไป ตัวปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ทั้งการคลิกซ้ายคลิกขวาไม่มีอาการยวบยาบให้เห็น รวมถึงการใช้งานมัลติทัชก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล โดยรวมการใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี ส่วนปุ่มเปิดปิดของตัวเครื่องได้ติดตั้งอยู่มุมซ้ายของคีย์บอร์ดดีไซน์ได้เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องเป็นอย่างดี
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ MSI WP65 นั้น มีขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD IPS-level มุมมองกว้างประมาณนึง ทำให้แสดงผลภาพออกมาได้อย่างสวยงามคมชัด ลดปัญหาเรื่องแสงสะท้อนจากแสงไฟรอบๆ ตัวได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งแสงสว่างของหน้าจอสามารถปรับได้หลายระดับให้พอดีกับสายตา สามารถสู้แสงจ้าจากภายนอกได้ในระดับหนึ่ง แถมขอบจอบางเพียง 4.9 มม. ทำให้ภาพที่ได้เต็มตาสุดๆ ส่วนเรื่องของสีดูสวยงามกว่า Panel TN ทั่วไปพอสมควรทั้งสีสด ไม่จืด และไม่เพี้ยนมาก
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ MSI WP65 เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 63% และ Adobe RGB ที่ 47% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสัน ความเที่ยงตรงของสี ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติไม่ได้สว่างมาก คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปแน่นอน โดยถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพพอได้เลย แต่ถ้าในระดับมืออาชีพต้องระวังนิดนึงควรคาลิเบรทก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านล่างขวาจะมีแสงสว่างลดลงไปที่ 15% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง Nahimic 3 ทำให้มีเสียงดังฟังชัด มีน้ำหนัก ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีในระดับหนึ่งตามสไลต์เสียงจากลำโพงโน๊ตบุ๊ค ช่องลำโพงถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง ช่วยให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงให้มีมิติ แยกเสียงซ้ายขวาให้ชัดเจนได้มากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วเลือกลำโพงถือว่าทำได้ดีเลยครับ
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง MSI WP65 กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมขนาดหน้า 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว แม้ว่าตัวเครื่องจะมีมิติเล็กและบางเบาก็ตามที่ได้ทั้ง USB 3.1 Type A จำนวน 3 พอร์ต, USB 3.1 Type C จำนวน 1 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน 2 ช่อง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร , Lan, SD Card Reader, Kensington และส่วน HDMI จะพิเศษหน่อย โดยจะอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่องเพียงพอร์ตเดียวเท่านั้น
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wireless Dual Band แบบ 802.11b/g/n/ac มาตราฐานใหม่ล่าสุด ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น และรองรับสัญญาณความที่ถี่ 5 Ghz ได้ ขนาดของตัวเครื่อง 359 x 254 x 21.7 มิลลิเมตร โดยมีน้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม ถือว่าไม่หนักเลยถ้ามองในมุมของ Gaming Notebook ซึ่งเมื่อรวมกับอะแดปเตอร์ชาร์จเข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.10 กิโลกรัม สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายเอามากๆ
Performance / Software
โดย MSI WP65 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Intel Core i7-9750HQ โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.5 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Buss 2666MHz แบบ 16GB x 1 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม MSI WP65 มีการนำชิปประมวลผล หรือ CPU รุ่นล่าสุดจาก Intel Core i Gen 9 มาใส่ไว้ใน Gaming Notebook ตัวใหม่นี้ด้วย ทำให้การประมวลผลการทำงานหรือการเล่นเกมของ Gaming Notebook รุ่นใหม่นี้ ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ได้อย่างที่ไม่เคยมี Gaming Notebook รุ่นไหนเคยทำได้มาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 45% มีผลอย่างมากต่อการทำงานที่ต้องใช้การประมวลผลของ CPU หนักๆ เช่น การต่อต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์งาน 3D เป็นต้น
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน พร้อมรองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กสายทำงานอย่าง NVIDIA Quadro P620 (4GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพดีเพียงพอสำหรับการทำงานประมวลผล 3 มิติ และการเล่นเกมในปัจจุบันระดับหนึ่ง
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานหนักๆ เป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1520MB/s และเขียนที่ 852MB/s ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะ แต่ถ้าเร็วได้กว่านี้ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 5400 ที่ติดตั้ง Flash Memory มาให้ด้วย ทำการเทสกับโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่เป็น 87.1 MB/s และสูงสุดที่ 205 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 175.3 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 0.959 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว ยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับ SSD M.2 NVMe แล้ว การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4,352 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Mobile Workstation มีการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA Quadro P620 ร่วมกับชิปประมวลผลตัวแรงจัดกับ Core i7-9750H ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมากพอสมควร ระดับเทียบเท่า Desktop สบายๆ
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลในบางเกม จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA Quadro P620 ออกมาได้ประมาณนึง (จริงการ์ดจอตัวนี้ไม่ได้ออกแบบมาเล่นเกมอยู่แล้ว) ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วย
อย่างไรก็ตามแม้ MSI WP65 จะไม่ใช่ Gaming Notebook โดยตรง แต่เราก็ลองทดสอบเกมกัน โดยมีทั้งแบบกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield V/ FarCry 5 / GTA V รวมไปถึง PUBG / DOTA 2 / Overwatch ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมดสำหรับ 5 เกม ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเฟรมเหลือๆ ถ้าอยากให้ลื่นกว่านี้ก็อาจจะต้องปรับลงมาหน่อย อาจจะเว้นแต่ในส่วนของเกม Battlefield V ที่ต้องยอมรับว่ากินสเปกจริงๆ ปรับกลางๆ แล้วยังไม่ลื่นเลย
ที่สำคัญยังมี Creator Center เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งคล้ายกับ Dragon Center เป็นโปรแกรมที่เป็นจุดเด่นของ Gaming MSI ก็ถูกมาปรับใช้ใน MSI WP65 นี้ด้วย จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- Creator Mode : ศูนย์รวมโปรแกรม ที่ใช้งานในงานสร้างสรรค์ต่างๆ ที่เรามี
- System Monitoring : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Notebook
- Battery Master : ปรับแต่งการชาร์จแบตเตอรี่ให้เหมาะกับการใช้งาน
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI WP65 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว พร้อมปรับเป็น Power Saver Mode และ Super Battery โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 7 ชั่วโมงโดยประมาณ ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานอย่างที่เคลมเอาไว้ว่าที่ 7 ชั่วโมง แต่โดยส่วนตัวก็ถือว่าดีเยี่ยม คราวนี้จะพกพาอแดปเตอร์ไปด้วยก็แล้วแต่การใช้งานของเราเลย
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 35 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ไม่เกิน 80 องศาเซลเซียส (MSI ควบคุมเอาไว้ โดยจะลดความเร็วของ CPU เอง) แต่สำหรับการ์ดจอ GPU นั้นร้อนสุดๆ เพียง 67 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่มีฟีเจอร์ Cooler Boots กรณีที่ใช้งานหนักๆ แต่ถ้าใช้งานทั่วไป พัดลมแทบไม่มีเสียงเลย
Conclusion / Award
Mobile Workstation น้ำหนักเบาถือเป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่ใช้งานจริงจังที่หลายคนต้องการกัน ซึ่งปกติแล้วโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพแรงๆ แต่ละรุ่นมักจะมีน้ำหนักที่เยอะ พกพาลำบาก เวลาใส่กระเป๋าแบกไปไหนมาไหนปวดหลังปวดไหล่กันสุดๆ แต่ว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ MSI WP65 แน่นอน เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น โดยเป็นรุ่นหน้าจอ 15.6″ ก็จริง ได้มิติตัวเครื่องที่เล็กกระชับใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊ตหน้าจอ 14″ แบบเมื่อก่อน
MSI WP65 เป็นโน๊ตบุ๊คประเภท Mobile Workstation ได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 9 รุ่นล่าสุด อย่าง i7-9750H ส่วนการ์ดจอเป็นรุ่นเฉพาะที่เน้นการทำงานเป็นหลักอย่าง NVIDIA Quadro P620 บอกเลยสวยงามตามท้องเรื่อง ที่ได้ทั้งความบางเบา ประสิทธิภาพ และความสวยงามในเครื่องเดียว ในราคาเพียง 41,900 บาทเท่านั้น โดยรายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กันทั้งแรมขนาด 16GB และได้ SSD 256GB + HDD 1TB ไปด้วยเลย
ดีไซน์ตัวเครื่อง MSI WP65 วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยสีดำพร้อมแซมด้วยสีแดง ส่วนคีย์บอร์ดมีปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเองที่สำคัญเหนือกว่า Gaming Notebook ทั่วไปด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 ชั่วโมง ในการทดสอบจริงๆ เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไว้ใช้ทำงานประเภทประมวลผล 3 มิติ ที่เน้นพกพาไปใช้งานนอกสถานที่จบครบในเครื่องเดียว ไม่ต้องพกพา Mobile Workstation ที่หนักๆ ใหญ่เหมือนเมื่อก่อน
ส่วนการระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost 3 ฮีทไปป์ 4 เส้น ขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 2 ช่อง พัดลมตัวเดียว ก็พอที่จะเอาอยู่สำหรับสเปกนี้ โดย CPU / GPU ไม่ร้อนเลย ไม่มีผลต่อการใช้งานแน่นอน รวมไปถึงยังมีความทนทานพิเศษด้วยการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีความทนทานมากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งยังผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ISV เกี่ยวกับโปรแกรมทำงานระดับมืออาชีพต่างๆ อาทิ SolidWorks, CATIA, AutoCAD, ANSYS อีกด้วย
นับได้ว่า MSI WP65 เป็น Mobile Workstation ที่ดีรุ่นหนึ่ง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ในราคาที่จับต้องได้ง่าย โดยรวมแล้วได้ฟีเจอร์ที่ครบครัน รวมไปถึงสเปกก็แรงพอตัว ตัวเครื่องก็น้ำหนักเบาพกพาได้สะดวก แต่อย่างไรก็ตามถ้าให้กล่าวถึงข้อสังเกตก็มีบ้าง ในเรื่องของการ์ดจอแยกที่อาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงมากเมื่อเทียบกับซีรีส์ Quadro รุ่นบนๆ รวมไปถึงหน้าจอก็ไม่ใช่พาเนล IPS คุณภาพที่สูง ในการใช้งานเรื่องสีที่แม่นยำคงต้องระวังกันนิดนึง และสุดท้ายคือไม่มีช่อง SD Card Reader ครับ
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- หน้าจอ 15.6″ เล็กกระชับกว่าเดิมเทียบ 14″ พกพาสะดวก
- เป็น Gaming Notebook มีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคแรงด้วยชิป Core i7-9750H และการ์ดจอ Quadro P620
- ได้แรมมาขนาด 16GB และ SSD ความจุ 512GB ใช้งานได้ลื่นไหลทันที
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ให้สนุกยิ่งขึ้น
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานตามจริงที่ 7 ชั่วโมง
- มาพร้อมซอฟต์แวร์ Creator Center ที่ช่วยจัดการเครื่องสำหรับการทำงานเอาไว้ในที่เดียว
- ผ่านการรับรองมาตรฐานความทนทานระดับกองทัพ (MIL-STD-810G)
- ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก ISV
- ระบบระบายความร้อน MSI Cooler Boost Technology
- มี Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันที
- เป็น Mobile Workstation ที่ราคาไม่แพง
ข้อสังเกต
- พอร์ตการเชื่อมต่อ SD Card Reader ถูกตัดออกไป
- การ์ดจอ Quadro P620 ประสิทธิภาพไม่สูงมาก
- หน้าจอไม่ใช่พาเนล IPS เกรดสูง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI WP65 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 9750HQ (2.6 – 4.6 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA NVIDIA Quadro P620 ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 256GB และใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ที่ 1TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน ได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI WP65 เป็น Mobile Workstation ที่เหนือชั้นในเรื่องความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 1.86 กิโลกรัม ขอบหน้าจอบาง มิติตัวเครื่องเล็ก ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ รวมถึงแบตอาจจะใช้งานได้ 7 ชั่วโมงจริงๆ รวมถึงทนทานด้วยมาตรฐาน MIL-STD-810G ระดับกองทัพสหรัฐฯ