สิ่งหนึ่งที่โน๊ตบุ๊คแตกต่างไปจากคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะเลยนั้นก็คือโน๊ตบุ๊คทั้งหลายจะต้องมาพร้อมกับลำโพงในตัวครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วหากเป็น Gaming Notebook โน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมล่ะก็ระบบเสียงลำโพงต่างๆ บนตัวเครื่องนั้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากทีเดียวครับ หลายๆ ท่านอาจจะบอกว่าให้ใช้หูฟังหรือลำโพงภายนอกเชื่อมต่อเอาแทนทว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นมันก็ไม่สามารถที่จะใช้งานแทนกันอยู่ตลอดเวลาเพราะเชื่อว่าหลายๆ คนที่ต้องพกโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนนั้นก็คงจะไม่พกหูฟังสำหรับการเล่นเกมไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลาแน่ๆ ครับ
ตามที่ได้กล่าวไปแล้วนั้นทางผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คเพื่อโน๊ตบุ๊คที่ดีรวมถึงโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมนั้นก็มีความจำเป็นที่จะต้องทำการออกแบบระบบเสียงต่างๆ ของตัวโน๊ตบุ๊คให้ดีด้วยครับ เรามาลองดูโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมดีกว่าครับว่าเวลาที่ผู้ผลิตจำทำการออกแบบลำโพงนั้นเขาจะต้องทำกระบวนการอะไรบ้างซึ่งเช่นเดิมครับในการเรียนรู้นี้เราจะขอใช้โน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมจากทาง MSI มาเป็นต้นแบบให้ทุกท่านได้ร่วมศึกษากันครับ
การวางตัวของระบบเสียงของ MSI GE75 Raider 9SG
สำหรับโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะนั้นเชื่อว่าหลายๆ ท่านอาจจะมองผ่านในส่วนของระบบเสียงว่าเป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีความสำคัญไปครับ ถามว่าผู้ผลิตเองแล้วคิดเช่นนั้นไหมคำตอบก็คือเป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วยเหมือนกันครับ สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืมไปเลยนั้นก็คือโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมนั้นมีต้นทุนที่สูงอยู่แล้วในส่วนของฮาร์ดแวร์อื่นๆ ที่จะต้องเลือกใช้ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล, หน่วยความจำ, กราฟิกชิปและแหล่งเก็บข้อมูลครับ ดังนั้นแล้วเพื่อที่จะเป็นการลดต้นทุนแล้วนั้นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดก็หนีไม่พ้นในเรื่องของการใช้ระบบเสียงที่หลายๆ ผู้ผลิตมักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมันนักสักเท่าไรครับ
ทว่าทาง MSI นั้นไม่ได้คิดเช่นนั้นครับ ด้วยความที่การดีไซน์ของทาง MSI นั้นต้องการที่จะให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นแล้วในการออกแบบและพัฒนานั้นแทนที่ทาง MSI จะทำการตัดเอาในส่วนของลำโพงที่มีคุณภาพดีๆ ไป ทว่าทาง MSI ก็หาจุดที่เหมาะสมที่สุดจนทำให้ระบบเสียงของโน๊ตบุ๊คจากทาง MSI นั้นยังคงมีคุณภาพดีอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของ driver หรือ woofer ที่ทาง MSI เลือกใช้ลำโพงดังกล่าวที่มีราคาอยู่ในระดับกลางค่อนไปจนถึงระดับสูงครับ
การตัดสินใจสำหรับการเลือกขนาดของลำโพงและจุดที่จะทำการวางลำโพง
ส่วนที่สำคัญมากที่สุดในการออกแบบระบบเสียงของโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมนั้นก็คือการเลือกลำโพงที่จะนำมาใช้รวมทั้งการหาตำแหน่งที่เหมาะสมมากที่สุดในการวางตัวลำโพงไว้ที่ตัวเครื่องครับ สำหรับทาง MSI แล้วนั้นการเลือกและออกแบบจุดวางลำโพงบนเครื่องโน๊ตบุ๊คนั้นจะได้มีการร่วมพัฒนากับบริษัท Dynaudio ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านการออกแบบระบบเสียงมาอย่างยาวนาน โดยที่ทาง MSI กับ Dynaudio นั้นได้ร่วมงานในการพัฒนาระบบเสียงของตัวโน๊ตบุ๊คมาตั้งแต่ในปี 2009 แล้วครับ
สำหรับการเลือกและวางตำแหน่งลำโพงของทาง MSI นั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องเลยครับ โดยทาง Dynaudio นั้นจะเข้ามามีส่วนร่วมเลยตั้งแต่แลกในการออกแบบพิมพ์เขียวของตัวเครื่องก่อนที่จะมีการผลิตตัวเครื่องรุ่นต้นแบบออกมาซะอีก โดยทาง Dynaudio นั้นจะใส่ใจทั้งในส่วนของจุดวาง, ขนาดตัวเครื่อง, การจัดวางตำแหน่งของการส่งเสียงให้มีความสมดุลรวมไปถึงแผงวงจรเลยทีเดียวครับ โดยส่วนที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดในการออกแบบนั้นก็คือส่วนของช่องว่างในตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คที่มีนอันน้อยนิดครับเนื่องจากว่าเสียงจะต้องเดินทางผ่านอากาศออกมาดังนั้นจึงถือว่าการวางตำแหน่งให้ถูกจุดนั้นสำคัญมากๆ เลยทีเดียวครับ
สำหรับโน๊ตบุ๊คทั่วไปนั้นส่วนมากแล้วจะมาพร้อมกับลำโพงในตัวเครื่องเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้นครับ ถึงแม้ว่าเสียงที่ได้นั้นจะมีคุณภาพพอใช้ได้ทว่ามันก็ยังคงมีปัญหาอยู่ส่วนหนึ่งนั่นก็คือเรื่องของความถี่เสียงที่จะออกมาจากตัวลำโพงนั้นจะทำได้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับลำโพงในรูปแบบทั่วไปครับ ปัญหานี้เกิดขึ้นก็เนื่องมาจากการที่ภายในตัวเครื่องนั้นมีพื้นที่การไหลเวียนของอากาศน้อยนั่นเองครับ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้วนั้นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดก็คือการเลือกใช้ลำโพงจำนวนมากกว่า 1 ตัวรวมทั้งการหาจุดที่จะทำให้เสียงจากลำโพงนั้นผ่านอากาศภายในตัวเครื่องออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ
ในส่วนของทาง MSI เองแล้วนั้นจะเห็นได้จากการออกแบบ(อย่างเช่นรูปภาพด้านบน) ที่ตัวลำโพงทั้งหมดนั้นจะใช้ลำโพงขนาดใหญ่โดยที่มีพื้นที่ภายในตัวเครื่องถึง 1 ใน 4 ของขนาดตัวเครื่องครับ จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยครับว่าทั้งในส่วนของลำโพงที่เป็น woofer-speaker นั้นทาง MSI เองก็เลือกใช้จำนวนลำโพงดังกล่าวมากถึง 2 ตัวบนโน๊ตบุ๊คครับ แน่นอนว่าด้วยความที่ส่วนของการจัดวางลำโพงทั้งหมดนั้นคิดได้เป็น 1 ใน 4 ของพื้นที่ว่างบนตัวเครื่องอีกทั้งยังมีลำโพงรวมทั้งหมดแล้วถึง 4 ตัวทำให้เสียงที่ได้รับนั้นคุณภาพดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเป็นอย่างมากครับ
การดูดซับเสียงสะท้อน
เมื่อเลือกจุดที่จะติดตั้งลำโพงให้ดีที่สุดแล้วนั้นอีกส่วนหนึ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากก็คือเรื่องของการดูดซับเสียงสะท้อนภายในตัวเครื่องครับ ด้วยความที่เสียงนั้นเป็นคลื่นชนิดหนึ่งทำให้เสียงนั้นมีคุณสมบัติการสะท้อนอยู่ซึ่งการสะท้อนนี่ล่ะครับเป็นจุดที่หากเกิดขึ้นหลายๆ ครั้งแล้วจะเป็นการลดทอนคุณภาพของเสียงที่เราจะได้ยินเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ
ทาง MSI ให้ความสำคัญกับรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดีครับดังนั้นแล้วในส่วนของการติดตั้งลำโพงนั้นทาง MSI จึงได้มีการเพิ่มวัสดุสำหรับการดูดซับเสียงสะท้อนเอาไว้ที่ตัวลำโพงด้วยซึ่งนั่นทำให้คุณภาพของเสียงไม่ได้หายไปกับการสะท้อนในตัวเครื่องมากนัก ในท้ายที่สุดแล้วจึงทำให้คุณภาพของเสียงที่ออกมาจากลำโพงตัวเครื่องนั้นมีคุณภาพดีมากที่สุดอย่างที่ควรจะเป็นครับ
การออกแบบวงจรแอมป์อัจฉริยะ
ย้อนกลับไปในงาน CES 2015 ที่ผ่านมานั้นทางบริษัท Texas Instruments ได้มีการเผยเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า Smart Amp หรือแอมป์อัจฉริยะเอาไว้ครับ โดยเทคโนโลยีดังกล่าวนี้นั้นจะช่วยทำให้ลำโพงสามารถที่จะนำเอาเสียงออกมาได้มีกำลังเสียงสูงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยที่ไม่ทำให้ตัวลำโพงนั้นเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็นครับ
หากจะลองมองกันให้ชัดๆ แล้วนั้นก็ขอยกตัวอย่างสำหรับโน๊ตบุ๊คทั่วไปครับที่ท่านจะเห็นได้ว่าโดยส่วนใหญ่แล้วนั้นโน๊ตบุ๊คโดยทั่วๆ ไปจะมาพร้อมกับลำโพงที่สามารถส่งกำลังเสียงออกมาได้ประมาณ 2W ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วทางทฤษฎีและสเปคของตัวลำโพงนั้นๆ จะสามารถขับกำลังเสียงออกมาได้มากกว่า 10 W – 30 W เลยก็ตามครับ
เทคโนโลยีแอมป์อัจฉริยะนี้จะเข้ามาช่วยทำให้กำลังเสียงของลำโพงนั้นสามารถขับออกมามารกเท่าที่สเปคของตัวลำโพงจะทำได้โดยที่ไม่ทำให้ลำโพงนั้นอยู่ในสภาวะที่ต้องทำงานมาจนเกินไปจนทำให้ลำโพงเสียหายจากกำลังเสียงที่ออกมามากเกินควรครับ ด้วยการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้มาประยุกต์กับลำโพงของทาง MSI เองทำให้ในโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมบางรุ่นของทาง MSI สามารถที่จะส่งกำลังเสียงออกมาได้เต็มสเปคคือมากถึง 30 W โดยที่ไม่ทำให้ตัวลำโพงนั้นเสื่มสภาพเร็วกว่าปกติหรือกระทั่งทำให้เกิดอาการเสียงแตกครับ
การปรับปรุงการตอบสนองความถี่ต่ำ
ในตอนต้นนั้นได้มีการบอกเอาไปแล้วครับว่าปัญหาหนึ่งของลำโพงในโน๊ตบุ๊คนั้นก็คือการที่มันจะมีการตอบสนองต่อเสียงความถี่ต่ำค่อนข้างที่จะน้อยมากอันเนื่องมาจากสาเหตุในส่วนของขีดจำกัดของพื้นที่ในตัวเคสของโน๊ตบุ๊คเอง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้นทาง MSI ได้เลือกใช้วิธีการนำเอา passive radiator หรือการใข้งานลำโพงที่ภายในมีพื้นที่อากาศสำหรับหารเดินทางของเสียงเฉพาะมาใช้งานครับ
อธิบายง่ายๆ เลยครับว่าเพื่อที่จะทำให้เสียงคลื่นความถี่ต่ำสามารถที่จะออกมาทางลำโพงให้มากที่สุดนั้นการนำเอง passive radiator มาใช้งานเพื่อทำหน้าที่ในการสะท้อนเสียงความถี่ต่ำกลับไปที่ตัว driver นั้นจะช่วยทำให้เสียงความถี่ต่ำไม่หลุดออกไปจากตัวลำโพง(หรือหากหลุดก็หลุดน้อยกว่าทำโพงทั่วไปที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีร passive radiator) ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะทำให้เสียง Bass ออกมาได้ดีมากขึ้นมากกว่าเดิมครับ
ภาพด้านหลังของลำโพงที่มาพร้อมกับ passive radiator
ภาพด้านหน้าของลำโพงที่มาพร้อมกับ passive radiator
ทาง MSI นั้นไม่ได้นำเอาเทคโนโลยี passive radiator มาใช้กับส่วนของ woofer เท่านั้นทว่ายังคงนำมาใช้งานกับลำโพงสำหรับเสียงปกติด้วยเช่นเดียวกันครับ ตรงจุดนี้นั้นเลยทำให้ลำโพงของทาง MSI นั้นสามารถที่จะเปล่งเสียงที่มีความถี่ต่ำได้มากกว่าลำโพงโน๊ตบุ๊คทั่วไปคือต่ำสุดที่ 100 Hz เลยทีเดียว นอกไปจากนั้นแล้วในส่วนของเสียงความถี่ต่ำสูงสุดนั้นยังสามารถที่จะเปล่งออกมาได้สูงถึง 1000 Hz ซึ่งผลที่ได้ในการฟังนั้นจะทำให้เราเห็นถึงความแตกต่างของเสียงความถี่สูงและความถี่ต่ำอย่างชัดเจนมากขึ้นนั่นเองครับ
การออกแบบเสียงสำหรับชุดหูฟัง
เอาล่ะครับนอกเหนือไปจากการออกแบบในส่วนของเสียงที่ออกมาจากทางลำโพงจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทาง MSI ใส่ใจแล้วนั้น อีกส่วนหนึ่งที่ทาง MSI ใส่ใจมากไม่แพ้กันก็คือการออกแบบระบบเสียงสำหรับชุดหูฟังครับ สิ่งที่ทาง MSI ให้ความใส่ใจมากที่สุดในการออกแบบนี้นั้นก็คือส่วนของการทำให้ชุดหูฟังมี signal-to-noise ratio (SNR) มากที่สุด นอกไปจากนั้นยังคำนึงถึงเสียงผู้ใช้ที่จะถ่ายเข้าไปในส่วนของไมค์เมื่อทำการเล่นเกมแบบ co-op ด้วยครับ
เพื่อที่จะทำให้ SNR สูงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั้นทาง MSI ได้บอกเอาไว้ว่าจุดนี้นั้นจะต้องพิถีพิถันตั้งแต่ในส่วนของการออกแบบของตัวแผงวงจรเลยทีเดียวครับ การออกแบบแผงวงจรสำหรับชุดหูฟังที่จะให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดตามที่ทาง MSI ได้บอกเอาไว้นั้นก็คือการออกแบบเผงวงจรให้มีการไหลเวียนของกระแสไฟที่ดีให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมทั้งตัวแผงวงจรนั้นจะต้องลดในส่วนของการถูกรบกวนจากกระแสหรือปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่จะเข้ามากวนการทำงานของตัวแผงวงจรครับ การออกแบบแผงวงจรที่ดีนั้นจะมีหลักการดังต่อไปนี้ครับ
- จะต้องมีการเชื่อมต่อกราวด์สั้น ๆ โดยไม่มีจุดแวะที่ใช้ร่วมกัน(ดังจะเห็นได้จากแผนผังว่าทั้งในส่วนของช่องเสียบหูฟังและไมค์จะมีการแยกแผงวงจรเป็นของตัวเองโดยเฉพาะ)
- รักษาเส้นทางของการตอบกลับของ op-amp ให้ใกล้เคียงกับ op-amp ให้มากที่สุด
- ต้องมั่นใจได้ว่าชิปแอมป์และออดิโอทุกตัวมีการแยกความจุของแหล่งจ่ายไฟติดกับหมุดแหล่งจ่ายไฟ
- ส้นทางการเดินทางของเสียงต้องสั้นและโล่ง(ระหว่างชิปเสียงและเวที op-amp)
- การแยกวงจรดิจิตอลออกจากวงจรแอนะล็อก
- การใช้ตัวเชื่อมต่อเสียงทองเพื่อลดการสูญเสียสัญญาณ
การปรับปรุงซอฟต์แวร์
นอกเหนือไปจากในส่วนของการออกแบบฮาร์ดแวร์แล้วนั้น อีกส่วนหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือการออกแบบซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษต่างๆ เพื่อที่จะทำให้คุณภาพของเสียงที่ได้นั้นดีมากขึ้นกว่าเดิมครับ โดยในซอฟต์แวร์สำหรับเสียงของทาง MSI นั้นจะใส่ใจในการมาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ดังต่อไปนี้ครับ
Noise cancellation
เริ่มต้นที่ฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนนั้นเรียกได้ว่าทาง MSI นั้นเขาเอาจริงครับเพราะในการพัฒนานั้นทาง MSI ได้ทำการจำลองห้องสำหรับการเล่นเกมที่มาพร้อมกับระบบเสียงแบบ 7.1 โดยเฉพาะเพื่อที่จะได้เอามาใช้ในการปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ
ด้วยวิธีการดังกล่าวนี้เองครับจะทำให้เราเห็นได้ว่าในซอฟต์แวร์จัดการทางด้านเสียงของทาง MSI นั้นมาพร้อมกับตัวเลือกการจัดการเสียงต่างๆ มากมายเพื่อที่จะให้รองรับกับรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนให้มากที่สุดนั่นเองครับ
N-Force 7.1-channel virtual surround
ในการใช้งานโน๊ตบุ๊ค(รวมถึงคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ) ทั่วไปนั้นการแสดงผลเสียงของเกมมักจะใช้การตั้งค่ามาจากตัวระบบปฎิบัติการ Windows เองครับ ดังนั้นหากเครื่องของคุณตั้งค่าเอาไว้ว่าตัวลำโพงที่ใช้นั้นเป็นแบบ 2.1 เสียงของเกมที่แสดงออกมานั้นก็จะถูกลดระดับออกมาให้อยู่ในลำโพงรูปแบบ 2.1 เท่านั้น ทว่าทาง MSI ได้ใช้เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า N-Force เข้ามาช่วยครับ ตรงจุดนี้นั้นเทคโนโลยี N-Force จะทำหน้าที่ในการหลอกตัวเกมว่าจริงๆ แล้วเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั้นใช้ระบบเสียงแบบ 7.1 อยู่ดังนั้นแล้วตัวเกมที่รองรับระบบเสียงแบบหลายทิศทางก็จะยังคงแสดงผลเสียงแบบรอบทิศทางให้เราได้ยินอยู่ครับ
การขยายเสียงสเตอริโอ
ซอฟต์แวร์จัดการด้านเสียงของทาง MSI นั้นยังมาพร้อมกับระบบการขยายเสียงสเตอริโอให้มีความกว้างมากขึ้นครับ ตรงจุดนี้นั้นจะช่วยให้ผู้ใช้ที่ใช้งานหูฟังนั้นแทนที่จะได้รับการได้ยินเสียงแบบยิงเข้ามาทางหูโดยตรงแบบ 180 องศา สามารถที่จะปรับการได้ยินเสียงให้เหมือนกับลำโพงจริงตามต้องการ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็จะทำให้การใช้หูฟังนั้นยังคงสามารถที่จะรับรู้ถึงความแตกต่างในส่วนของเสียงได้เหมือนกับการใช้งานลำโพงปกตินั่นเองครับ
Stereo up-mix
ท้ายสุดแล้วนั้นกับฟีเจอร์ที่น่าจะถูกใจนักเล่นเกมได้ไม่ยากนั่นก็คือการแปลงเสียงเสมือนจริงจากรูปแบบปกติที่ตัวสื่อหรือเกมนั้นอาจจะมีการพัฒนาหรือมาพร้อมกับรูปแบบของเสียงเพียงแค่ 2.1 ช่องทาง ทว่าซอฟต์แวร์ของทาง MSI นั้นก็สามารถที่จะทำการปรับแต่งเสียบงให้ออกมาเป็นรูปแบบรอบทิศทางซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มอรรถรสในการรับฟังได้เป็นอย่างดีมากเลยทีเดียวครับ
สรุป
เอาล่ะครับจากทุกอย่างที่ผ่านมานั้นเราจะเห็นได้ครับว่าทาง MSI นั้นไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของประสบการณ์การเล่นเกมที่เน้นเฉพาะด้านภาพเท่านั้น แต่กับในส่วนของเสียงแล้วนั้นทาง MSI เองก็ใส่ใจด้วยเช่นเดียวกันครับ อย่างไรก็ตามแล้วนั้นใช่ว่าผู้ผลิตโน๊ตบุ๊ครายอื่นๆ จะไม่ใส่ใจกับเรื่องดังกล่าวนะครับเพราะผู้ผลิตแต่าละรายเองนั้นก็มีการใส่ใจในเรื่องดังกล่าวนี้ด้วยเช่นเดียวกัน เชื่อว่าสำหรับนักเล่นเกมตัวจริงแล้วนั้นเรื่องของเสียงเองก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นเดียวกันครับ
ที่มา : notebookcheck