งานนี้นั้น Intel เองคงจะนิ่งอยู่เฉยไม่ได้แล้วครับเพราะล่าสุดนั้นบริษัทวิจัยการตลาดอย่าง Danawa Research ได้มีการเผยข้อมูลออกมาครับว่าตั้งแต่วันที่ Ryzen 3000 ซีรีย์ออกวางจำหน่ายมานั้น ยอดการจำหน่ายหน่วยประมวลผลของทาง AMD เพิ่มขึ้นจาก 28.24% มาเป็น 48.72% ภายในวันเดียวเท่านั้น ซึ่งกลับกันแล้วนั้นยอดจำหน่ายของทาง Intel ในวันเดียวกันนั้นลดลงจาก 53.36% มาอยู่ที่ 46.64% แถมที่หนักไปกว่านั้นก็คือผลการสำรวจความต้องการหน่วยประมวลผลนั้นพบว่าผู้ใช้ต้องการหน่วยประมวลผล Ryzen 3000 มากถึง 76.95% ขณะที่มีผู้ต้องการหน่วยประมวลผลของทาง Intel อยู่ที่ 23.05% เท่านั้นครับ
ตามข้อมูลนั้นพบว่าตั้งแต่ทาง AMD เริ่มวางจำหน่ายหน่วยประมวลผลซีรีย์ Ryzen 3000 ออกมานั้น หน่วยประมวลผล Ryzen 7 3700X สามารถที่จะจำหน่ายได้ถึง 10.34% ตามมาด้วย Ryzen 5 3600 ที่ 8.23% และ Ryzen 5 2600 ที่ 7.5% ทางด้าน Intel นั้นยอดจำหน่ายของหน่วยประมวลผลรุ่นที่มีส่วนแบ่งมากที่สุดจะเป็น Core i5-9400 ที่ 14.55% ตามมาด้วย Core i7-9700K ที่ 9.08% ครับ
ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือในช่วงที่ผ่านมานั้นทาง AMD เองสามารถที่จะทำยอดส่วนแบ่งในตลาดหน่วยประมวลผลได้สูงที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาครับ
ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าการเลื่อนการเปิดตัวหน่วยประมวลผลที่มาพร้อมกับกระบวนการผลิต 10 nm ของทาง Intel นั้นทำให้ยอดความต้องการลดลงรึเปล่า ทว่าสิ่งหนึ่งที่เราสามารถรู้ได้จากยอดส่วนแบ่งในตลาดที่ทาง AMD สูงขึ้นมากขนาดนี้นั้นน่าจะเป็นเพราะตัวหน่วยประมวลผล Ryzen 3000 ซีรีย์ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 2 สามารถที่จะทำให้ผู้บริโภคหันไปมองมากกว่า ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากที่สุดเลยนั้นน่าจะเป็นเรื่องของราคาที่เมื่อเทียบกันแบบรุ่นต่อรุ่นแล้วนั้นดูเหมือนว่า AMD จะได้เปรียบมากกว่าพอดูเลยครับ
ที่มา : wccftech