Gaming Notebook จัดว่าเป็น Notebook ประเภทนึงที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด จากการที่ได้สเปกต่อราคาที่คุ้มค่า แน่นอนว่าทำให้สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหล รวมไปถึงใช้งานอื่นๆ ก็รองรับได้สบายๆ เช่นกัน แต่ก็ต้องมีพื้นฐานสเปกที่แรงพอตัวกว่า Notebook ทั่วไป อีกทั้งถ้างบประมาณสูงหน่อยก็ได้เรื่องของฟีเจอร์อื่นๆ ด้วย อาทิ ไฟ RGB ระบบระบายความร้อนที่ดีกว่า เป็นต้น อย่างในงบประมาณช่วง 40,000 บาท สเปก Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ หรือ 17.3″ ที่ควรจะเป็นก็คือ
ใช้ชิปประมวลผล CPU อย่าง Intel Core i7-9750H ที่เป็นรุ่นแรงยอดนิยมทำงาน ความเร็ว 2.60 – 4.50 GHz ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ ประสิทธิภาพที่สามารถขับการ์ดจอแรงๆ ได้ สำหรับการ์ดจอที่แนะนำเลยก็ควรเป็น NVIDIA GeForce GTX1650 / GTX 1660 Ti หรือ RTX 2060 อย่างแรมก็ต้องเป็น 8 – 16GB ส่วนแหล่งเก็บข้อมูลต้องเป็น SSD NVMe ความจุ 256GB – 512GB เป็นมาตรฐาน แทนที่ฮาร์ดดิสก์เดิมๆ หรือถ้ามีทั้งคู่ก็จะดีไปอีก ที่สำคัญในส่วนของหน้าจอ สเปกได้ คือ Full HD พาเนล IPS ที่ 120Hz หรือ 144Hz ก็จะมีความลื่นไหลกว่า 60Hz เดิมๆ แน่นอน
Acer Nitro 7 AN715-51-76SY ราคา 39,990 บาท
ดีไซน์ออกแบบ หลักๆ Acer Nitro 7 ยังมีทรงคล้ายๆ กับ Acer Nitro 5 แต่มีการปรับให้ตัวเครื่องมีความเล็กกระชับลงอีก ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบากว่าเดิมแน่นอน ซึ่งจากการที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมทำให้ดูแข็งแรงทนทานและหรูหรากว่า Acer Nitro 5 อย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 7 รุ่นใหม่ หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ก็มีขนาดตัวเครื่องพอๆ กับโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″
Acer Nitro 7 เพราะมาพร้อมกับสเปกใหม่ล่าสุดใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-9750H (2.60 – 4.50 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพไว้ใจได้ แรงกว่า i7-8750H พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) รุ่นใหม่ มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมติดตั้ง SSD แบบ M.2 PCIe จำนวน 2 ช่องอีกด้วย ใส่มาแล้ว 256GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR 4 Bus 2666 สามารถอัพเกรดได้สูงสุด 32 GB
นอกจากนี้ Acer Nitro 5 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6″ ที่ความละเอียด Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พาเนล IPS แบบ 144 Hz ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ 2.0 ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจกว่ารุ่นเดิม ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง Wave MaxxAudio ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก ส่วนน้ำหนักจะอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัมถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″
ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง โดยพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.1 Type-A, 1 x USB 3.1 Type-C, 1 x USB 2.0 Type-A , HDMI, RJ45 (Killer E2500) และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac รูปแบบมาตราฐาน Gigabit Wi-Fi 5 ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO มีประกัน On-site Service ถึง 3 ปีเต็ม ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจที่สุด ณ เวลานี้อีกรุ่นเลยทีเดียว
ASUS ROG Strix G G531GU-AL001T ราคา 40,900 บาท
สำหรับ ASUS ROG Strix G531 เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ มีน้ำหนักที่ 2.2 กิโลกรัม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Gaming Notebook สายจริงจัง ฟีเจอร์ครบครัน ในราคาที่เหมาะสม พร้อมมีให้เลือกหลากหลายสเปกและราคา ตามความต้องการของแต่ละคน สนนราคารุ่น 40,900 บาท ได้สเปกเป็น Core i7-9750H และการ์ดจอเป็น GTX 1660 Ti (6GB GDDR6) ส่วนแรมมีขนาด 8GB พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน หน้าจอเป็น IPS 120Hz ที่ลื่นไหลกว่า 60Hz แน่นอน
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจก็จะเป็นระบบระบายความร้อนอย่าง 3D Thermal Design ที่ใส่ทุกอย่างจัดเต็มกว่าทีเคยมีมา ที่แม้สเปกจะแรงขึ้นแต่ก็เย็นกว่าเดิม คีย์บอร์ดมีไฟหลากสีด้วยเทคโนโลยี AuraRGB ของทาง ROG แบ่งเป็น 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งเองได้ด้วยซอฟต์แวร์ภายใน ให้ความสะดวกด้วยคีย์หลัก QWER ตามสไตล์ MOBA โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ ที่สำคัญได้ไฟ RGB ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่องเข้ามา อย่าง Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง
การเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.1 Type-C, mini DisplayPort, HDMI, 3 x USB 3.1, SD Card Reader, RJ-45 , Headset / Gigabit Ethernet / Bluetooth 5.0 / Wi-Fi AC ASUS RangeBoost เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นแรกของโลกที่ใช้ตัวรับสัญญาน Wifi แบบ Multi-antenna บนมาตรฐาน Wave 2 (2×2 + 2×2) ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น ส่วนการรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS
MSI GF75 Thin 9SC-225TH ราคา 39,990 บาท
Gaming Notebook รุ่นใหม่ใช้สเปก Core i Gen 9 + GTX 16 Series อย่าง MSI GF75 Thin 9SC มีหน้าจอขนาด 17.3″ ดีไซน์ขอบบางพิเศษ ทำให้มิติตัวเครื่องเทียบกับรุ่นหน้าจอ 15.6″ เท่านั้น ใหม่ล่าสุดด้วยสเปกเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ที่ความเร็ว 2.6 – 4.5 GHz และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR5) ประสิทธิภาพแรงก่วารุ่นก่อนๆ แน่นอน
โดยการ์ดจอ GTX 1650 กราฟิกการ์ดตัวใหม่ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของกราฟิกการ์ดรุ่นก่อนหน้ากับสถาปัตยกรรม Pascal ซึ่ง GTX 1650 นั้นจะมาแทนที่ GTX 10 Series เดิม ที่แม้ว่าจะไม่ได้มาพร้อมกับ Tensor cores หรือรองรับกับเทคโนโลยี ray-tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากก่อน โดยประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GTX 1060 แต่ร้อนน้อยกว่า
หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนล IPS แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนลบนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type จำนวน 2 ช่อง, USB 3.1 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 และ Wireless มาตรฐาน 802.11 แบบ ac มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม ประกัน 2 ปี มี Windows 10 แท้ โดยสนนราคาอยู่ที่ 39,900 บาท
ASUS ROG Strix G G531GV-AL022T ราคา 46,900 บาท
สำหรับ ASUS ROG Strix G531 เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ มีน้ำหนักที่ 2.2 กิโลกรัม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Gaming Notebook สายจริงจัง ฟีเจอร์ครบครัน ในราคาที่เหมาะสม พร้อมมีให้เลือกหลากหลายสเปกและราคา ตามความต้องการของแต่ละคน สนนราคารุ่น 40,900 บาท ได้สเปกเป็น Core i7-9750H และการ์ดจอเป็น RTX 2060 (6GB GDDR6) ส่วนแรมมีขนาด 8GB พร้อม SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB เป็นมาตรฐาน หน้าจอเป็น IPS 120Hz ที่ลื่นไหลกว่า 60Hz แน่นอน
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจก็จะเป็นระบบระบายความร้อนอย่าง 3D Thermal Design ที่ใส่ทุกอย่างจัดเต็มกว่าทีเคยมีมา ที่แม้สเปกจะแรงขึ้นแต่ก็เย็นกว่าเดิม คีย์บอร์ดมีไฟหลากสีด้วยเทคโนโลยี AuraRGB ของทาง ROG แบ่งเป็น 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งเองได้ด้วยซอฟต์แวร์ภายใน ให้ความสะดวกด้วยคีย์หลัก QWER ตามสไตล์ MOBA โดยระยะของปุ่มที่เลื่อนลงไปเพียง 1.8 มิลลิเมตร แต่ละปุ่มมีมุมโค้งขนาด 0.25 มิลลิเมตร เข้ากับนิ้วมือเวลากดลงไปสุดๆ ที่สำคัญได้ไฟ RGB ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่องเข้ามา อย่าง Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง
การเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.1 Type-C, mini DisplayPort, HDMI, 3 x USB 3.1, SD Card Reader, RJ-45 , Headset / Gigabit Ethernet / Bluetooth 5.0 / Wi-Fi AC ASUS RangeBoost เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นแรกของโลกที่ใช้ตัวรับสัญญาน Wifi แบบ Multi-antenna บนมาตรฐาน Wave 2 (2×2 + 2×2) ให้ระยะการรับสัญญานที่ไกลขึ้นถึง 30% พร้อมอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่เร็วและเสถียรยิ่งขึ้น ส่วนการรับประกัน 2 ปี ส่งเคลม 7-11 และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS
Acer Predator Helios 300-PH315-52-74NQ ราคา 46,900 บาท
Acer Predator Helios 300 ปี 2019 รุ่นที่แนะนำเป็นชิปประมวลผล Core i7-9750H การ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce GTX 160Ti (6GB GDDR6) พร้อม Ram 8GB DDR4 Bus 2666 ที่ฮาร์ดดิสก์เป็นแบบ SSD m.2 แบบ NVMe ที่ความจุ 512GB รวมถึงยังใส่ฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ได้อยู่ จัดว่าให้สเปกมาเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไปมากๆ แต่เหมาะสำหรับการเล่นเกมแบบสุดๆ ที่ใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อนด้วยพัดลมแบบพิเศษ AeroBlade 3D Gen 4 ใช้พัดลม 2 ตัว ตัวละ 59 ใบพัดขนาด 0.1 มิลลิเมตร ออกแบบพิเศษได้รับแรงบันดาลใจจากกลไกการบินที่เงียบสนิทและทรงพลังของนกฮูก ปลายใบพัดลมของเราจึงมีรอยหยักเพื่อให้อากาศผ่านได้มากขึ้น
หน้าจอขนาด 15.6″ แบบด้าน ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพ IPS ตอบสนองที่ 144Hz 3ms แถมตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนล บนซอฟแวร์เสียง Waves Maxx Audio ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Type-C จำนวน 1 ช่อง, USB 3.1 Type-A จำนวน 3 ช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, ช่องเสียบหูฟังไมค์ขนาด 3.5 มิลลิเมตร พร้อมด้วยช่องสาย Lan RJ45 พร้อม E2500 Ethernet Controller
และการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบ Wireless-AC 1550 และ Killer Control Center 2.0 ของ Killer ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 เป็นมาตรฐาน แน่นอนว่า Acer Predator Helios 300 (2019) รุ่นที่ขายในไทยต้องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานทันที มีประกัน 3 ปี On-site Service หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมง ตามมาตรฐานของ Acer Predator ที่เป็น Gaming Notebook ระดับกลางสูงในราคาที่รับได้อยู่
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ Gaming Notebook ช่วงงบประมาณ 40,000 บาท ไม่เกิน 50,000 บาท อาจจะมีบวกไปเกินบ้าง แต่คาดว่าราคาหน้าร้านต้องถูกลงกว่านี้แน่นอน ไว้ยังไงสามารถดูเป็นแนวทางในการซื้อที่งาน Commart Joy 2019 ที่จะจัดขึ้นช่วงวันที่ 4 – 7 กรกฎาคมนี้ได้ ณ ศูนย์ประชุมไบเทคบางนา หรือใครจะเอาไปซื้อตามร้านข้างนอกหรือร้านออนไลน์ได้เช่นเดียวกัน แต่ต้องบอกก่อนว่าถ้าซื้อในงานอาจจะได้ส่วนลดพิเศษๆ หรือได้ของแถมเฉพาะในงาน Commart นี้ด้วยนะ