ในงานเปิดตัว MSI GT76 Titan และ MSI GE65 Raider ในประเทศไทย แอดมินโป้งได้มีโอกาสสัมผัสตัวจริง 2 สุดยอด Gaming Notebook รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ต้องบอกว่าเลยว่า MSI GT76 Titan เป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมของโลกที่แรงที่สุด ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i9-9900K ซึ่งเป็น CPU ของ Desktop แต่ MSI เลือกยัดลงมาใส่ ทำงานร่วมกับการ์ดจอตัวท็อปเทพสุดอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2080 ทำให้ระบบระบายความร้อนก็สุดไปอีกด้วยฮีท์ไปป์ 11 เส้นขนาดใหญ่ และพัดลม 4 ตัวจัดเต็มอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สนนราคาที่ 169,900 บาท
ส่วน MSI GE65 Raider ก็น่าสนใจไม่แพ้กันด้วยสเปก Core i7-9750H ตัวแรง และการ์ดจอ GeForce RTX 2070 ที่เล่นเกมได้ลื่นไหลทุกเกมแน่นอน ดีไซน์การออกแบบเรียบหรูดุดัน แต่ก็ยังบางเบาเพียง 2.27 กิโลกรัม ขอบหน้าจอบางเฉียบ พร้อมฟีเจอร์ระบบภาพระบบเสียงจัดเต็มไม่แพ้กัน สนนราคาที่ 72,900 / 62,900 บาท โดยในบทความนี้เราจะมาพรีวิวทั้ง 2 รุ่นหน้างานกันก่อน ก่อนที่ตัวขายจริงจะมา แล้วจึงจะมารีวิวอีกที
Preview – MSI GT76 Titan ราคา 169,900 บาท
MSI GT76 Titan ที่เป็นรุ่นใหญ่สุดประจำ Gaming Notebook ปี 2019 สำหรับสเปกเป็นชิปประมวลผลสูงสุดที่ Intel Core i9-9900K ที่ยกมาจาก Desktop การ์ดจอสูงสุดที่ NVIDIA GeForce RTX 2080 แรมการ์ดจอ GDDR6 8 GB รองรับแรมได้ 4 ช่อง โดยในเครื่องที่โชว์จะใส่เอาไว้ที่ 64 GB หน้าจอขนาด 17.3″ มีให้เลือกทั้งรุ่นจอ FHD 144Hz IPS และ 4K 100% AdobeRGB IPS มาพร้อม Windows 10 ใช้งานได้ทันทีและ ซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
ระบบระบายความร้อนแบบใหม่ MSI Cooler Boost Titan ที่มีพัดลมถึง 4 ตัว และฮีตไปป์ 11 เส้น เอาอยู่แน่นอนกับชิปประมวลผลระดับ Desktop คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมระบบปรับไฟ RGB ได้รายปุ่ม และไฟ Mystic Light ที่ตัวเครื่อง ระบบเสียง Dynaaudio รองรับ Hi-Res มี Killer Wi-Fi 6 ระบบแลน Killer DoubleShot Pro มีช่อง Thunderbolt 3 เรียกว่าสเปคนี้จัดเต็มสุด ๆ เลยสำหรับ MSI GT76 Titan กับน้ำหนักตัวเครื่อง 4.5 กิโลกรัม
MSI GT76 Titan ถูกออกแบบโดดเน้นความเป็นเกมมิ่งด้วย Design ที่ดุดัน โฉบเฉี่ยว เน้นโทนสีเทาสว่างตัดด้วยดำ แตกต่างจากตาม Gaming Notebook ทั่วไปของ MSI ดูแล้วคล้ายคลึงกับรถยนต์สปอร์ตหรูหรา โดยจะเน้นความสวยงามทั้งด้านการออกแบบ และวัสดุ เริ่มจากบานฝาพับถูกออกแบบโดยใช้วัสดุ Aluminum เรียบเน้นความโดดเด่นให้เห็นพื้นผิวของอลูมิเนียม ซึ่งจะให้ความหรูหราน่าสัมผัส พร้อมทั้งมีการเล่นเส้นสายรอยนูนของอลูมิเนียมและไฮไลท์แถบสีแดงเสริมความโดดเด่นให้เข้า
สัญลักษณ์ของตัวเครื่องที่โดยปกติแล้วนั้นรถยนต์สปอร์ตสุดหรูจะมีการแสดงตราสัญลักษณ์ตัวเครื่องที่กระโปรงฝาหน้ารถ ซึ่งในทำนองเดียวกันเองนั้นทาง MSI เองก็มีการแสดงในส่วนนี้เช่นเดียวกันทำให้ทั้งหมดนั้น MSI GT76 Titan สื่อถึงความหรูหรามีระดับพร้อมทั้งยังมากับประสิทธิภาพที่เราต้องประทับใจมากๆ
จุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนมากๆ ว่า MSI GT76 Titan ดีไซน์โดยมีรถยนต์สปอร์ตสุดหรูมาเป็นต้นแบบนั้นคงหนีไม่พ้นในส่วนของช่องระบายอากาศทางด้านหลังของตัวเครื่องครับ โดยระบบระบายความร้อนทางด้านหลังตัวเครื่องที่มาพร้อมกับตะแกรงคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับถ่ายเทความร้อนสุดเท่ห์นั้นจริงๆ แล้วทาง MSI เองมีจุดประสงค์อยู่ 2 อย่าง
อย่างแรกนั้นก็คือการระบายความร้อนออกจากตัวเครื่องที่สามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น ส่วนอีกจุดประสงค์หนึ่งนั้นก็คือการทำให้ตัวเครื่องนั้นเป็นที่สะดุดตาจนไม่สามารถละสายตาไปได้ โดยไฟส่องสว่างสีแดงที่ได้มีการติดตั้งเพิ่มเข้ามานั้นก็จะทำให้ตัวเครื่องทางด้านหลังนั้นเหมือนส่วนหลังของรถยนต์ที่มาพร้อมกับไฟท้ายนั่นเอง MSI ระบุว่าระบบระบายความร้อน Cooler Boost Titan นี้ จะมีการระบายลมที่ดีขึ้นกว่าระบบระบายความร้อนแบบอื่น ๆ ถึง 2.5 เท่า
นอกเหนือจากพัดลมและฮีตไปป์ที่เยอะกว่าปกติแล้ว ส่วนของทองแดงที่เป็นหน้าสัมผัสกับ CPU และ GPU ก็ได้รับการปรับปรุงด้วยเช่นกัน โดยจะเลือกใช้แผ่นทองแดงที่ผ่านกระบวนการขัดผิวแบบ CNC (ซ้าย) ที่ทำให้พื้นผิวเรียบกว่าแผ่นหน้าสัมผัสทองแดงทั่วไป (ขวา) ซึ่งถ้าดูจากในภาพอาจจะดูเหมือนมันสลับกัน แต่ถ้าลองใช้นิ้วลูบดูจริง ๆ ก็จะสัมผัสถึงความแตกต่างได้เลยว่าแผ่นซ้ายมันผิวเรียบกว่าจริง ซึ่งการที่ผิวทองแดงเรียบเนียนกว่า ก็จะช่วยให้การถ่ายเทความร้อนจากตัวชิปมายังระบบระบายความร้อนเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
MSI ดีไซน์ตัวเครื่องให้คล้ายคลึงกับรถยนต์สปอร์ตสุดหรูนี้นั้นไม่ใช่แค่เพียงต้องการให้มันดูสวยงามเท่านั้น แต่ในความสวยงามนั้นยังแฝงไปด้วยประสิทธิภาพที่อัดแน่นมาแบบเต็มเปี่ยมเหมือนกับที่รถยนต์สปอร์ตสุดหรูมี โดยที่ผู้ใช้สามารถที่จะรับรู้ถึงความแรงของตัวเครื่องได้ตั้งแต่เพียงแรกเห็น อีกทั้งสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยนั้นก็คือในส่วนของความแข็งเกร่งที่ในครั้งนี้นั้นทาง MSI ได้เลือกเอาอลูมิเนียมคุณภาพสูงมาใช้ทำเคสของตัวเครื่องด้วยอีกต่างหาก
ตามภาพนั้นจะเห็นได้ว่า MSI GT76 Titan รุ่นใหม่นี้นั้นจะมาพร้อมกับการใช้ไฟ Mystic Light ส่องสว่าง RGB เกือบเต็มรูปแบบ โดยติดตั้งอยู่บริเวณของตัวเครื่องด้านหน้าเป็นแถบยาวและส่วนของขอบซ้านและขวาที่ดูแล้วสวนงามโดดเด่น แน่นอนว่าสามารถปรับแต่งได้เพิ่มเติมผ่านทางซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ ด้วยลำโพง DYNAUDIO 2.1 Ch มีซัพวูฟเฟอร์ในตัว พลังเสียงดังกระหึ่ม และ MSI ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ด้านคุณภาพเสียงด้วยเทคโนโลยี ESS SABRE HiFi มีคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio โดยที่ขับผ่าน SABRE HiFi DAC เพื่อส่งต่อไปยัง Headset ที่ขับเสียงได้อย่างเครื่องเสียงระดับสูง
MSI GT76 Titan เลือกใช้หน้าจอแสดงผลขนาด 17.3 นิ้วแบบด้านลดแสงสะท้อน ดีไซน์ขอบหน้าจอบางเฉียบ มีให้เลือกทั้งรุ่นจอ FHD 144Hz IPS และ 4K 100% AdobeRGB IPS ที่ต้องบอกว่าเป็นจอที่เทพมากๆ ซึ่งติดตั้งมาเพื่อใช้เล่นเกมโดยเฉพาะ มีมุมมองที่กว้างและสีค่อนข้างสดใส การเล่นเกมก็ทำได้สุดยอด หรือแม้กระทั่งดูหนังก็มีความสมูท ลื่นไหล พร้อมยังติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้ขอบจอด้านบนตามปกติอยู่
ตรงแถบปุ่มเปิดเครื่องด้านบน จะมีปุ่มที่น่าสนใจอยู่ก็คือปุ่มทางซ้ายที่ใช้สำหรับเปิดโหมด Turbo ของฟังก์ชัน Cooler Boost ให้พัดลมทำงานด้วยรอบสูงขึ้น เพื่อการระบายความร้อนได้ดีที่สุด คีย์บอร์ดของ MSI GT76 Titan ใช้คีย์บอร์ดเกมมิ่งจาก SteelSeries ที่มั่นใจได้ในปรับสิทธิภาพ ฟีเจอร์ และการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุด โดยตัวคีย์บอร์เป็นแบบ Per-Key RGB Backlight ซึ่งสามารถปรับสีสันต่างๆ ของไฟคีย์บอร์ดด้วยโปรแกรม SteelSeries Engine 3 โดยช่วยให้สามารถใช้งานต่างๆ รวมถึงการเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพรองรับการใช้งานที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีความสวยงามโดดเด่นที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ
MSI GT76 Titan มาพร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งมีทั้ง Thunderbolt 3, HDMI, Mini DisplayPort, Killer MultiGiG 10Gbps LAN, 5 x USB 3.1, Kensington lock slot, micro-SD Card Reader,และรูหูฟังแบบ 5.1 Ch พร้อมรูไมค์โครโฟน 3.5 mm และการเชื่อมต่อแบบไร้สายแบบ Killer ac Wi-Fi 6 (AX)+ Bluetooth v5 ซึ่งตัวเครื่องจัดลำดับความสำคัญให้กับการเชื่อมต่อของเกมมาเป็นอันดับแรก ทำให้มีความเสถียรของอินเตอร์เน็ตมากกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นพอสมควร
ด้านหน้าของ MSI GT76 Titan 9sG ก็จะมีเพียงไฟ LED สำหรับแสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่อง การชาร์จแบต และในส่วนของน้ำหนัก MSI GT75VR 7RE Titan จะอยู่ที่ 4.5 กิโลกรัม ขนาดตัวเครื่อง 397(W) x 330(D) x 33~42(H)mm บวกกับอแดปเตอร์จ่ายไฟแบบพิเศษที่เป็น 230Watt x 2 เชื่อมกันผ่านทางตัวแปลงพิเศษ อีกราว 1 กิโลกรัม รวมแล้วก็ 5.5 กิโลกรัม จัดว่าค่อนข้างหนักเลยทีเดียว ไม่ค่อยสะดวกในการเคลื่อนย้ายเท่าใดนัก แต่ก็แลกมาด้วยประสิทธิภาพระดับท๊อปสุดทางถือว่าสมเหตุสมผล
Preview MSI GE65 Raider ราคา 72,900 / 62,900 บาท
MSI GE65 Raider เป็น Gaming Notebook ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผลสูงสุด Intel Core i7-9750H การ์ดจอรองรับได้สูงสุด NVIDIA GeForce RTX 2070 8GB GDDR6 (หรือ RTX 2060 6GB GDDR6) มีช่องใส่แรม 2 ช่อง รองรับได้สูงสุด 64 GB DDR4-2666 หน้าจอ 15.6″ FHD IPS พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง 240 Hz มีทั้งช่อง 2.5″ และ NVMe M.2 PCIe Gen 3 มาพร้อม Windows 10 และซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชันใหม่
พอร์ตการเชื่อมต่อเป็น USB-C 3.2 Gen 2 ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ระบบเสียงจาก Dynaudio พร้อมซับวูฟเฟอร์ คีย์บอร์ด SteelSeries พร้อมไฟ Per-key RGB แบบปรับแต่งแยกได้รายปุ่ม มี Killer Gigabit Ethernet และ Killer Wi-Fi 6 (AX) น้ำหนักของ MSI GE65 Raider อยู่ที่ 2.27 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อดูจากสเปคแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าทำมาได้เบาเกินคาดมาก ๆ ประกอบกับการใช้หน้าจอที่ขอบบาง ทำให้ตัวเครื่องไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป สะดวกต่อการพกพามากยิ่งขึ้น พกไปเล่นเกมนอกสถานที่ได้สบาย
สำหรับ MSI GE65 Raider ถือว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ จัดว่าเป็นซีรีส์รองมาจากตระกูล GT โดยตัวล่าสุดนี้ MSI GE65 Raider มาพร้อมกับการดีไซน์ที่เน้นเรื่องจอใหญ่บางเบาพร้อมกับพกพาได้สะดวกเป็นหลัก สีสันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สีโทนดำแดงเริ่มจากวัสดุบอดี้ตัวเครื่องฝาหลังจะเป็นอะลูมิเนียมสีดำ ผิวเรียบหรูสวยงาม พร้อมขีดเส้นซ้ายขวาสีแดงออกทองสะท้อนแสง ผสานกับโลโก้มังกร MSI มีไฟสว่างสีขาวเมื่อเปิดเครื่อง ดูโดยรวมแล้วเรียบง่ายกว่ดุดันสไตล์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Hi-End
MSI GE65 Raider มีหน้าจอจอแสดงผลขนาด 15.6″ ขอบบาง พาเนล IPS ชัดเจนทุกมุมมอง พร้อมมีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 240 Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ ดีกว่าพวกจอ IPS 60/ 144 Hz แบบรู้สึกได้ ทั้งการดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกม สบายตาสมจริงกว่าอย่างเห็นได้ชัด สมกับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นท็อปจริงๆ แถมยังสามารถโปรไฟล์สีผ่านซอฟแวร์ MSI True Color ได้อีก 6 แบบ ไม่ว่าจะเป็น ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER ซึ่งทุกโปรไฟล์สามารถใช้งานได้จริงเห็นความแตกต่างชัดเจน
คีย์บอร์ดของ MSI GE65 Raider เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ แบบสิ้นเชิง จากการที่ใช้ Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Gaming Notebook จาก MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่สำคัญในคราวนี้ไฟ LED ที่เป็น RGB สามารถเปลี่ยนสีทีละปุ่ม ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ พร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง Silver Lining Print ขอบโปร่งแสงสวยงาม สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้ผ่าน Steelseries Engine 3
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง Giant Speakers แบรนด์ DYNAUDIO 2.2 ชาแนล โดยลำโพงปกติก็ใหญ่ขึ้นขนาด 3W + 3W พร้อมมีซัพวูฟเฟอร์ในตัว 2 ตัวขนาด 3W + 3W โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic 3 จำลองการเสียงได้สมบูรณ์แบบ ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าทั้งความดังและคุณภาพเสียงอย่างชัดเจน ใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ แถมซัพพอร์ทไฟล์ Hi-res 24bit/192kHz ที่ใช้ ESS Sabre Hi-Fi DAC ในการขับได้อีกด้วยสมกับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับบนจริงๆ
ด้านฐานล่างออกแบบมาใหม่ดีไซน์วัสดุเป็นพลาสติก ABS สีดำเกรดดี พร้อมลวดลายกราฟิคเป็นเอกลักษณ์ และการเซาะร่องระบายอากาศที่หลากหลายตำแหน่ง ลำโพงก็อยู่ที่ด้านล่าง 4 ตัวที่เป็น 2 Speakers + 2 Woofers ทำให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงได้ดี การแกะอัปเกรดบอกเลยว่าค่อนข้างยาก เพราะต้องแกะน็อตออกหมดทุกตัวซึ่งเยอะพอสมควร แล้วค่อยใช้บัตรแข็งๆ แงะที่ละส่วนออกแต่ก็คงไม่ต้องแกะอัพอะไรเพราะตัวเครื่องก็ให้สเปคแบบแน่นสุดๆ แล้วนั่นเอง
ทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อก็จัดได้ว่า MSI GE65 Raider จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่มิติเล็กกว่าปกติ แต่ก็มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น HDMI, mini Display Port, 1x USB3.1 Gen2 Type-C , 2x USB 3.1 Gen1 Type-A , 1x USB3.1 Gen2 Type-A , Kensington lock slot, 2-in-1 SD, Lan RJ-45, รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน ซึ่งในรู USB Type A จะมีไฟสีแดงแสดงตำแหน่งเผื่อเวลาเสียบ USB ในตอนกลางคืนห้องมืดๆ อีกด้วย แต่ก็แอบเสียดายนิดหนึ่งที่ตัวเครื่องไม่ได้มีพอร์ตสมัยใหม่อย่าง Thunderbolt 3 มาให้
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายนั้นรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 (AX) ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ ลดค่าปิงต่ำได้เป็นอย่างดี ขนาดตัวเครื่องของ MSI GE75 Raider 8SG จะอยู่ที่ 357.7mm (W) x 248mm(D) x 26.9mm (H) มีน้ำหนัก 2.27 กิโลกรัม เรียกได้ว่าเบากว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″ รุ่นอื่นพอสมควร พอพกพาได้สบายๆ และเมื่อรวมกับที่สำคัญอะแดปเตอร์จ่ายแล้วก็จะมีน้ำหนักเราไม่เกิน 3.0 กิโลกรัม
ไว้มีโอกาสยังไงแอดมินโป้งจะมารีวิวตัวเต็มตัวขายจริงของ MSI GT76 Titan และ MSI GE65 Raider ตัวจริงกันอีกทีก็แล้วกันนะครับ บอกเลยว่าเด็ดแบบนี้ห้ามพลาดกับความบ้างพลังของทาง MSI อย่างที่หาได้ยากในแบรนด์ Gaming Notebook อื่นๆ