ASUS พร้อมขายแล้วสำหรับ ASUS VivoBook 15 X512FL ที่เป็นโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6″ สายทำงานบางเบาคุ้มค่ารุ่นใหม่ ใช้สเปก Core i5-8265U การ์ดจอเป็น GeForce MX250 โดยมีราคาที่ 20,990 บาท ได้สเปกใหม่ล่าสุด มาพร้อมแรม 8GB และ SSD ความจุสูงที่ 512GB ทันที มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 พร้อมใช้งาน จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนอก โดดเด่นที่ตัวเครื่องเบาแค่ 1.75 กิโลกรัม และมิติตัวเครื่องเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ เท่านั้นเอง จากการที่มีดีไซน์ขอบจอบางตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คปี 2019
ASUS VivoBook 15 X512FL เน้นตอบโจทย์คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่มีบางเบาหน่อย เน้นใช้งานนอกสถานที่ในราคาที่ไม่สูงมาก แต่ได้ประสิทธิภาพแรงเกินคุ้มค่า รองรับการทำงานพื้นฐานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นทำงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลงดูซีรีส์สตรีมมิ่งต่างๆ หรือตัดต่อวีดีโอก็ยังได้ เหมาะสำหรับคนหาโน๊ตบุ๊คคุ้มๆ ไม่แพง โดยมีเล่นเกมออนไลน์พอได้บ้าง ซื้อมาแล้วจบไม่ต้องอัพอะไร นับได้ว่าเป็นรุ่นคู่ขนานกับ ASUS VivoBook 15 X512DA ที่ใช้ชิป AMD Ryzen 5 3500U
Specification
แอดมินโป้งได้รับ ASUS VivoBook X512FL จากทาง ASUS ประเทศไทย เป็นตัวขายจริง สเปกภายในใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Intel Core i5-8265U เป็นสถาปัตยกรรม 14 nm ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ประสิทธิภาพดีรองรับการเล่นเกม 3 มิติออนไลน์พอได้ แรมให้มาขนาด 4GB DDR4 แบบฝังบอร์ด และ 4GB ติดมาอีกแถว รวมเป็น 8GB (ติดตั้งได้สูงสุดที่ 20GB) สำหรับฮาร์ดดิสก์ให้มาทั้ง SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ความจุ 512GB ส่วนหน้าจอเป็นขนาด 15.6″ ที่ได้ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพดี
นอกจากนี้ ASUS VivoBook X512FL ยังมีลำโพงคุณภาพทำงานร่วมกับระบบเสียง ASUS SonicMaster ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A , USB 2.0 Type-A, HDMI, และ microSD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Dual-band Wi-Fi 5 (802.11ac) และ Bluetooth 4.1 ด้วย รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมการรับประกัน 2 ปี ปีแรกได้ประกันอุบัติเหตุ
โดยในตอนนี้ ASUS VivoBook X512FL มีอยู่เพียงสเปกเดียว ที่ใช้ชิปประมวลผลIntel อย่าง Core i5-8265U และการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce MX250 ส่วน ASUS VivoBook X512DA โดยรวมจะคล้ายกันหมด แต่ใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 5 3500U ราคาก็จะถูกกว่า 4,000 บาท
Hardware / Design
ASUS VivoBook 15 X512FL ได้ดีไซน์บางเบา Thin & Light ขอบจอบางเฉียบ NanoEdge ทั้ง 4 ด้าน สัดส่วนจอแสดงผล 88% แถมมีฟีเจอร์บานพับ ErgoLift เหมือนในรุ่นพี่ ZenBook เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง แต่ได้ความสวยงามคุ้มค่า ที่จะมาพร้อมกับโมเดลที่มีการปรับเปลียนดีไซน์ใหม่ทั้งหมด มาพร้อมสีสัน 4 เฉดสีที่แตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น สีเงิน (Transparent Silver) คือสีนำมารีวิว, สีเทา (Slate Grey), สีแดงแสด (Coral Crush) และ สีน้ำเงิน (Peacock Blue) ซึ่งขอบจอด้านในจะตัดเป็นสีดำดูแล้วมีความสวยงามลงตัว
จัดได้ว่า ASUS VivoBook 15 X512FL เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่ทำมาได้สวยมาก มีความบางเบาเน้นพกพา ด้วยน้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัมเท่านั้น รวมไปถึงมิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ เท่านั้น ฝาหลังจะเป็นไปตามสีของตัวเครื่อง ประกอบกับวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ซึ่งอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift Hinge พร้อมกับเวลากางหน้าจอ ตัวเครื่องจะยกสูงขึ้น 2 องศา
เพื่อให้เราสามารถวางข้อมือพิมพ์งานได้ถนัดรวมถึงช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนอีกด้วย พร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 145 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้จากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง ขอบจอตัวเครื่องก็บางมากๆ ดูแล้วลดขนาดตัวเครื่องลงไปได้เยอะเลยทีเดียว
ซึ่งมุม 2 องศาที่ว่านี้นั้นทาง ASUS ได้ทำการวิจัยออกมาเป็นอย่างดี ว่ามันจะช่วยให้เราใช้งานโน๊ตบุ๊คนั้นสามารถที่จะพิมพ์ได้อย่างสบาย แถมเวลาที่กางบานพับออกมานั้นมันจะทำให้ส่วนของฐานคีย์บอร์ดมีระยะห่างกับฐานตั้งมากกว่าโน้คบุ๊ตทั่วไปที่เป็นแนวระนาบปกติ ซึ่งทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในส่วนของตัวเครื่องนั้นมีการดูดลมเย็นเข้าไปช่วย พร้อมกันนั้นยังให้เสียงที่ดีขึ้นด้วย เรียกได้ว่าเป็นการยกฟีเจอร์เทพๆ มาจาก ASUS ZenBook S ที่เป็นพี่ใหญ่มาก็ว่าได้
ตัวเครื่อง ASUS VivoBook 15 X512FL จะเป็นพลาสติกคุณภาพดีทั้งหมด โดยเป็นสีเงิน (Transparent Silver) ดูแล้วสว่างสดใสเหมาะกับทั้งสาวๆ หรือหนุ่มๆ ให้ความแข็งแรงและสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามโลโก้ ASUS ตามปกติ ส่วนตัวด้านล่างก็จะเป็นพลาสติกเช่นกัน ทำให้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบา และแม้ตัวเครื่องด้านในจะเป็นพลาสติก แต่ก็มีการนำเสนอพื้นผิวแบบไม่เรียบเป็นลักษณะจุดๆ บริเวณรอบๆ แป้นคีย์บอร์ด ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกการสัมผัสที่ดูเหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แถมเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยากอีกด้วย
สำหรับช่องระบายความร้อนถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าจอบริเวณบานพับ โดยเป็นการใช้งานพัดลมระบาย 1 ตัว ช่วยนำพาความร้อนชิปประมวลผล (ที่ปกติก็ร้อนน้อยอยู่แล้วล่ะ) ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าเอาอยู่ มีช่องดูดลมเย็นด้านล่างตัวเครื่องร่วมกันกับยางรองที่ช่วยตัวเครื่องให้สูงขึ้นพร้อมความั่นคงทำหน้าที่เป็นอย่างดี ส่งผลให้ถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ไม่รบกวนการทำงานของเราขณะใช้งานเลย นับได้ว่า ASUS VivoBook 15 X512FL เป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงแต่ ASUS ใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียดจริงๆ
Keyboard / Touchpad
ในส่วนของคีย์บอร์ด ASUS VivoBook 15 X512FL ติดตั้งคีย์บอร์ดเป็นปุ่มพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีเมา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือตัดขอบมน ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น มีระยะกดเด้งรับที่ 1.3 มิลลิเมตร ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก พร้อมแป้นตัวเลข Numpad ก็มีให้ใช้งานปกติ
ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีกรเล่นสีสันเป็นสีทองสะดุดตา พร้อมตัวทชแพดเองจะมีสีเข้มกว่าตัวเครื่องด้วย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร
Screen / Speaker
ASUS VivoBook 15 X512FL ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 15.6″ มีขอบที่บางมากตามสไตล์ NanoEdge โดยให้พื้นที่หน้าจอถึง 88% ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล TN คุณภาพดีมีความเรียบเนียนตากว่ามาตรฐาน 1366 x 768 พิกเซล HD แบบเดิมๆ ให้มุมมองที่ค่อนข้างกว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไปอย่างชัดเจน ถ้าบอกตรงๆ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว แต่ถ้ามองมุมขึ้นลงหรือซ้ายขวาก็จะเห็นถึงความต่าง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 14″ ที่ให้สีจอที่ดีทีเดียว
แม้ขอบจอจะบางเฉียบแต่ก็ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้ด้านบนเหมือนเดิม เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบ การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS VivoBook X512FL ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS VivoBook 15 X512FL ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล TN ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 55% / AdobeRGB 41% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูงเกณฑ์กลางๆ ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับกลางๆ ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง SonicMaster ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนักบางๆ ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
ASUS VivoBook 15 X512FL ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้อีกหนึ่งพอร์ท ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน microSD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง แต่หากใครที่ต้องการใช้พอร์ท Lan คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง USB to Lan เอาเอง
ขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.75 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 2 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 15.6″ จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไปแน่นอน ซึ่ง ASUS VivoBook 15 X512FL ออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง เอาไปใช้ตามร้านกาแฟออนไลน์ชิลๆ เลยล่ะ
Performance / Software
ASUS VivoBook 15 X512FL มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดย ASUS VivoBook 15 X512FL เลือกใช้ชิป Intel Core i5-8265U ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 1.6 – 3.9 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 15W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i5 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 14 นาโนเมตร
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 950m เลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1602 MB/s – Write: 1038 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,934 คะแนน (DA ได้ 3,612) ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ ส่วนถ้าเอาไปใช้งานหนักๆ เช่นงานประมวลผล ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ภาพความละเอียดสูง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ซึ่งก็พอได้ แต่คงตอบสนองได้ไม่เท่าพวก Gaming Notebook หรือโน๊ตบุ๊คแรงๆ ที่ใช้ Core i ตระกูล H และการ์ดจอ GTX / RTX
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ ASUS VivoBook 15 X512FL เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3 Cell สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) โหมด Power Saver นับได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงที่สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ตามมาตรฐาน ต่างจาก ASUS VivoBook 15 X512DA ที่เป็นรุ่น AMD Ryzen 5 3500U ที่ใช้งานได้นานกว่าเกณฑ์มากๆ ที่ 10 ชั่วโมง ส่วนช่องระบายของโน๊ตบุ๊คตัวนี้จะอยู่ด้านบนบริเวณแกนพับหน้าจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังเวลาพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่ด้วยการเล่นเกมยาวๆ ทั้ง DOTA 2 / Overwatch / PUBG จะเห็นว่า CPU จะร้อนที่สุดที่ 82 องศาเซลเซียส และ GPU อยู่ที่ 74 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS VivoBook 15 X512FL เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีประมาณนึง ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก ASUS ที่ออกแบบมาค่อนข้างดี อีกทั้งตัวเครื่องที่ยกตัวขึ้นก็ช่วยระบายความร้อน รวมไปถึงชิปประมวลผลจาก Intel ก็ควบคุมความร้อนได้ดี ทำให้การใช้งานจริงยาวนานต่อเนื่องแทบไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนเลย
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS VivoBook 15 X512FL จัดว่าเป็นรุ่นคู่ขนานกับ ASUS VivoBook 15 X512DA (ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3500U) มาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าไม่แพงของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับ ที่สำคัญเป็นโน๊ตบุ๊คในตลาดประเทศไทยที่ที่ทั้งแรงทั้งคุ้ม ที่สำคัญด้วยความที่ใช้ชิปประมวลผล Core i5-8265U และการ์ดจอเป็น GeForce MX250 ทำให้พอที่จะเล่นเกมได้บ้าง
ทางด้านราคา ASUS VivoBook 15 X512FL ถือว่าถูกมากๆ ทำให้จับต้องจับจองได้ง่ายๆ สนนราคาที่ 20,990 บาท (สูงกว่า DA 4,000 บาท) ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องดีไซน์การออกแบบ ErgoLift ยกตัวเอียงให้สูงขึ้น เรียกว่ายกฟีเจอร์จากรุ่นพี่มาเลย และด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กขอบจอบางเทียบและมีหน้าจอขนาด 14″ แต่มีขนาดบอดี้ น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัม ที่แม้ว่าอาจจะไม่เบาสุดๆ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่นำไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบายๆ แบตใช้งานพอได้นานสูงสุดที่ประมาณ 3 ชั่วโมงด้วย แทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์เลยก็ยังได้ (หรือจะพกก็เบามากๆ)
สรุปแล้ว ASUS VivoBook 15 X512FL ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงเหมาะกับการทำงานและพกพา ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง ชิปประมวลผลเป็น Core i5-8265U พร้อมการ์ดจอแยก GeForce MX250 ที่ได้แรมมาให้ 8GB โดยสามารถอัพเกรดได้สูงสุด 20GB (ถ้าใส่ 16GB แทนที่ 4GB เดิม)
รวมไปถึงมี SSD ความเร็วสูงมาตรฐาน NVMe M.2 ความจุ 512GB พร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที เหมาะกับคนต้องการโน๊ตบุ๊คใช้งานพื้นฐานทั่วไป รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติออนไลน์บ้าง พอที่จะใช้เป็นเครื่องหลัก แบบใช้เครื่องนี้เครื่องเดียวได้อยู่ แม้ประสิทธิภาพไม่แรงเท่าพวก Gaming Notebook แต่ถ้างานเอกสาร เล่นเน็ต ดูหนังฟังเพลง สบายๆ ลื่นไหลอยู่
ASUS VivoBook 15 X512FL มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน อาทิ สีเงิน (Transparent Silver), สีเทา (Slate Grey), สีแดงแสด (Coral Crush), สีน้ำเงิน (Peacock Blue) เหมาะมากๆ กับนักเรียนนักศึกษา หรือคนทำงานออฟฟิศ ไว้ใช้งานนอกสถานที่ เอาไปทำงานทั่วไปเอกสาร เล่นอินเตอร์ ดูหนังฟังเพลง รวมถึงเอาไปทำงานหนักๆ แบบตัดต่อวีดีโอก็ยังได้ ประสิทธิภาพโดยรวมดูดีกว่า DA เพราะมีการ์ดจอแยก ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางๆ เบาๆ ที่คุ้มค่าที่สุด งบ 20,000 บาท บวกจากรุ่น DA มา 4,000 บาท จัดได้เลยไม่ต้องคิดมากถ้านำมาเล่นเกมบ้างนิดหน่อย
โดยการรับประกันก็ตามมาตรฐานของ ASUS ที่แม้ว่าจะไม่ On-site Service อย่างหลายๆ แบรนด์ แต่ก็สามารถเคลมผ่านทาง 7-11 ได้สะดวกไม่แพ้กัน รวมไปถึงในปีแรกแค่เราลงทะเบียนก็จะได้ประกันอุบัติเหตุในปีแรก อย่าง Perfect Warranty แล้ว
จุดเด่น
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14″
- น้ำหนักเบา วัสดุดี ดูแล้วหรูหราเกินราคา
- ดีไซน์พิเศษบานพับ ErgoLift Hinge ช่วยให้ใช้งานดีขึ้น
- ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
- ใช้งานจริงลื่นไหลแบบสุดๆ ด้วย Core i5-8265U + GeForce MX250 เล่นเกมพอได้
- หน่วยความจำRAM 8GB แบบ 4GB ออนบอร์ด และ 4GB อีกแถว ใช้งานได้ทันที
- ได้ที่เก็ยข้อมูลเป็น SSD ความจุสูง 512GB แถมความเร็วสูงด้วย
- รองรับการอัพเกรดแรมได้ 1 แถว สูงสุด 20GB (ถอด 4GB เดิมออก)
- มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งานทันที
- ประกัน 2 ปีเคลมผ่าน 7-11 ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก
- มีให้เลือก 4 สีสัน ตามสไตล์การใช้งาน
ข้อสังเกต
- ประสิทธิภาพเหมาะกับการใช้งานพื้นฐานทั่วไปเป็นหลัก
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 3 ชั่วโมง (DA 10 ชั่วโมง)
- ราคาสูงกว่า DA ที่ 4,000 บาท
- หน้าจอถ้าเป็นพาเนล IPS จะดีมากๆ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ด้วยกัน ซึ่ง ASUS VivoBook 15 X512FL ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Value
ASUS VivoBook 15 X512FL ที่เป็นโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6″ Full HD สายทำงานบางเบาคุ้มค่ารุ่นใหม่ โดยมีราคาที่ 20,990 บาท ได้สเปกใหม่ล่าสุด อย่างชิปประมวลผล Core i5-8265U การ์ดจอเป็น GeForce MX250 ที่ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี เล่นเกม 3 มิติก็ยังพอได้บ้าง นอกจากนี้ยังได้ RAM ขนาด 8GB อัพเกรดได้สูงสุด 20GB พร้อม SSD ความจุ 512GB มาในตัว และระบบปฏิบัติการ Windows 10 พร้อมใช้งานทันที
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ ASUS VivoBook 15 X512FL อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางและน้ำหนักเบาเพียง 1.75 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ VivoBook มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS VivoBook 15 X512FL ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโดดเด่น ให้มิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการสีสันให้เลือกถึง 4 เฉด ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนส่วนมากต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
Specification
แอดมินโป้งได้รับ ASUS VivoBook X512FL จากทาง ASUS ประเทศไทย เป็นตัวขายจริง สเปกภายในใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Intel Core i5-8265U เป็นสถาปัตยกรรม 14 nm ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ประสิทธิภาพดีรองรับการเล่นเกม 3 มิติออนไลน์พอได้ แรมให้มาขนาด 4GB DDR4 แบบฝังบอร์ด และ 4GB ติดมาอีกแถว รวมเป็น 8GB (ติดตั้งได้สูงสุดที่ 20GB) สำหรับฮาร์ดดิสก์ให้มาทั้ง SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ความจุ 512GB ส่วนหน้าจอเป็นขนาด 15.6″ ที่ได้ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพดี
นอกจากนี้ ASUS VivoBook X512FL ยังมีลำโพงคุณภาพทำงานร่วมกับระบบเสียง ASUS SonicMaster ส่วนพอร์ตที่ให้มาก็ครบครัน ได้แก่ USB 3.1 Type-C, USB 3.1 Type-A , USB 2.0 Type-A, HDMI, และ microSD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Dual-band Wi-Fi 5 (802.11ac) และ Bluetooth 4.1 ด้วย รองรับการทำงานทุกไลฟ์สไตล์ ในราคาเบาๆ รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานได้ทันที พร้อมการรับประกัน 2 ปี ปีแรกได้ประกันอุบัติเหตุ
โดยในตอนนี้ ASUS VivoBook X512FL มีอยู่เพียงสเปกเดียว ที่ใช้ชิปประมวลผลIntel อย่าง Core i5-8265U และการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce MX250 ส่วน ASUS VivoBook X512DA โดยรวมจะคล้ายกันหมด แต่ใช้ชิปประมวลผลเป็น AMD Ryzen 5 3500U ราคาก็จะถูกกว่า 4,000 บาท
Hardware / Design
ASUS VivoBook 15 X512FL ได้ดีไซน์บางเบา Thin & Light ขอบจอบางเฉียบ NanoEdge ทั้ง 4 ด้าน สัดส่วนจอแสดงผล 88% แถมมีฟีเจอร์บานพับ ErgoLift เหมือนในรุ่นพี่ ZenBook เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง แต่ได้ความสวยงามคุ้มค่า ที่จะมาพร้อมกับโมเดลที่มีการปรับเปลียนดีไซน์ใหม่ทั้งหมด มาพร้อมสีสัน 4 เฉดสีที่แตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น สีเงิน (Transparent Silver) คือสีนำมารีวิว, สีเทา (Slate Grey), สีแดงแสด (Coral Crush) และ สีน้ำเงิน (Peacock Blue) ซึ่งขอบจอด้านในจะตัดเป็นสีดำดูแล้วมีความสวยงามลงตัว
จัดได้ว่า ASUS VivoBook 15 X512FL เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ที่ทำมาได้สวยมาก มีความบางเบาเน้นพกพา ด้วยน้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัมเท่านั้น รวมไปถึงมิติตัวเครื่องมีความเล็กกระชับเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14″ เท่านั้น ฝาหลังจะเป็นไปตามสีของตัวเครื่อง ประกอบกับวัสดุพลาสติกคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดูดีเกินราคา ซึ่งอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาเสริมให้การทำงานเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็คือ บานพับ ErgoLift Hinge พร้อมกับเวลากางหน้าจอ ตัวเครื่องจะยกสูงขึ้น 2 องศา
เพื่อให้เราสามารถวางข้อมือพิมพ์งานได้ถนัดรวมถึงช่วยในเรื่องของการระบายความร้อนอีกด้วย พร้อมกางจอได้สูงสุดที่ 145 องศา จากการที่มีบานพับแบบพิเศษช่วยยกตัวเครื่องสูงขึ้จากพื้น โดยขอบตัวเครื่องด้านหลังจะมียางรองพร้อมทำหน้าที่เป็นฐานรองด้านหลัง ขอบจอตัวเครื่องก็บางมากๆ ดูแล้วลดขนาดตัวเครื่องลงไปได้เยอะเลยทีเดียว
ซึ่งมุม 2 องศาที่ว่านี้นั้นทาง ASUS ได้ทำการวิจัยออกมาเป็นอย่างดี ว่ามันจะช่วยให้เราใช้งานโน๊ตบุ๊คนั้นสามารถที่จะพิมพ์ได้อย่างสบาย แถมเวลาที่กางบานพับออกมานั้นมันจะทำให้ส่วนของฐานคีย์บอร์ดมีระยะห่างกับฐานตั้งมากกว่าโน้คบุ๊ตทั่วไปที่เป็นแนวระนาบปกติ ซึ่งทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในส่วนของตัวเครื่องนั้นมีการดูดลมเย็นเข้าไปช่วย พร้อมกันนั้นยังให้เสียงที่ดีขึ้นด้วย เรียกได้ว่าเป็นการยกฟีเจอร์เทพๆ มาจาก ASUS ZenBook S ที่เป็นพี่ใหญ่มาก็ว่าได้
ตัวเครื่อง ASUS VivoBook 15 X512FL จะเป็นพลาสติกคุณภาพดีทั้งหมด โดยเป็นสีเงิน (Transparent Silver) ดูแล้วสว่างสดใสเหมาะกับทั้งสาวๆ หรือหนุ่มๆ ให้ความแข็งแรงและสวยงามพร้อมความเรียบง่าย แน่นอนว่ามโลโก้ ASUS ตามปกติ ส่วนตัวด้านล่างก็จะเป็นพลาสติกเช่นกัน ทำให้ตัวเครื่องน้ำหนักที่เบา และแม้ตัวเครื่องด้านในจะเป็นพลาสติก แต่ก็มีการนำเสนอพื้นผิวแบบไม่เรียบเป็นลักษณะจุดๆ บริเวณรอบๆ แป้นคีย์บอร์ด ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกการสัมผัสที่ดูเหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แถมเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยากอีกด้วย
สำหรับช่องระบายความร้อนถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าจอบริเวณบานพับ โดยเป็นการใช้งานพัดลมระบาย 1 ตัว ช่วยนำพาความร้อนชิปประมวลผล (ที่ปกติก็ร้อนน้อยอยู่แล้วล่ะ) ซึ่งการใช้งานโดยรวมถือว่าเอาอยู่ มีช่องดูดลมเย็นด้านล่างตัวเครื่องร่วมกันกับยางรองที่ช่วยตัวเครื่องให้สูงขึ้นพร้อมความั่นคงทำหน้าที่เป็นอย่างดี ส่งผลให้ถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ ไม่รบกวนการทำงานของเราขณะใช้งานเลย นับได้ว่า ASUS VivoBook 15 X512FL เป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงแต่ ASUS ใส่ใจในการออกแบบทุกรายละเอียดจริงๆ
Keyboard / Touchpad
ในส่วนของคีย์บอร์ด ASUS VivoBook 15 X512FL ติดตั้งคีย์บอร์ดเป็นปุ่มพลาสติกสีเดียวกับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรสีเมา มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือตัดขอบมน ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น มีระยะกดเด้งรับที่ 1.3 มิลลิเมตร ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดี การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด ส่วนปุ่ม Fn ที่เป็นทางลัดต่างๆ ติดตั้งอยู่ชุดคีย์บอร์ดแถวบนเป็นมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวก พร้อมแป้นตัวเลข Numpad ก็มีให้ใช้งานปกติ
ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ซึ่งขอบรอบๆ มีกรเล่นสีสันเป็นสีทองสะดุดตา พร้อมตัวทชแพดเองจะมีสีเข้มกว่าตัวเครื่องด้วย การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร
Screen / Speaker
ASUS VivoBook 15 X512FL ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 15.6″ มีขอบที่บางมากตามสไตล์ NanoEdge โดยให้พื้นที่หน้าจอถึง 88% ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล TN คุณภาพดีมีความเรียบเนียนตากว่ามาตรฐาน 1366 x 768 พิกเซล HD แบบเดิมๆ ให้มุมมองที่ค่อนข้างกว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไปอย่างชัดเจน ถ้าบอกตรงๆ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทีเดียว แต่ถ้ามองมุมขึ้นลงหรือซ้ายขวาก็จะเห็นถึงความต่าง ให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 14″ ที่ให้สีจอที่ดีทีเดียว
แม้ขอบจอจะบางเฉียบแต่ก็ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้ด้านบนเหมือนเดิม เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบ การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS VivoBook X512FL ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS VivoBook 15 X512FL ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล TN ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB 55% / AdobeRGB 41% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูงเกณฑ์กลางๆ ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับกลางๆ ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง SonicMaster ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนักบางๆ ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
ASUS VivoBook 15 X512FL ในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่ามีความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 Type-A จำนวนหนึ่งพอร์ต (น่าจะให้มาสักสอง) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 Type-A อีกสองพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้อีกหนึ่งพอร์ท ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอก็จะมีพอร์ท HDMI มาให้ รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน microSD Card จะอยู่ด้านขวามือตัวเครื่อง แต่หากใครที่ต้องการใช้พอร์ท Lan คงต้องหาซื้ออแดปเตอร์แปลง USB to Lan เอาเอง
ขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.75 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 2 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 15.6″ จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไปแน่นอน ซึ่ง ASUS VivoBook 15 X512FL ออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง เอาไปใช้ตามร้านกาแฟออนไลน์ชิลๆ เลยล่ะ
Performance / Software
ASUS VivoBook 15 X512FL มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Single Language มาตั้งแต่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องลิขสิทธิ์ Windows เลยครับ ส่วนถ้าต้องการเคลียร์เครื่อง ก็สามารถใช้งานฟังก์ชัน Reset this PC ที่อยู่ใน Settings ของ Windows 10 ได้เลยโดยไม่ต้องฟอร์แมต SSD เพื่อลง Windows ใหม่
เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดย ASUS VivoBook 15 X512FL เลือกใช้ชิป Intel Core i5-8265U ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 1.6 – 3.9 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 15W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i5 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 14 นาโนเมตร
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 950m เลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD ความเร็วสูงแบบ NVMe M.2 ที่ความจุ 512GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 1602 MB/s – Write: 1038 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด การใช้งานโดยรวมก็ลื่นไหลน่าประทับใจมากๆ
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,934 คะแนน (DA ได้ 3,612) ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ ส่วนถ้าเอาไปใช้งานหนักๆ เช่นงานประมวลผล ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ภาพความละเอียดสูง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ซึ่งก็พอได้ แต่คงตอบสนองได้ไม่เท่าพวก Gaming Notebook หรือโน๊ตบุ๊คแรงๆ ที่ใช้ Core i ตระกูล H และการ์ดจอ GTX / RTX
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ ASUS VivoBook 15 X512FL เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3 Cell สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) โหมด Power Saver นับได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพงที่สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ตามมาตรฐาน ต่างจาก ASUS VivoBook 15 X512DA ที่เป็นรุ่น AMD Ryzen 5 3500U ที่ใช้งานได้นานกว่าเกณฑ์มากๆ ที่ 10 ชั่วโมง ส่วนช่องระบายของโน๊ตบุ๊คตัวนี้จะอยู่ด้านบนบริเวณแกนพับหน้าจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังเวลาพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่ด้วยการเล่นเกมยาวๆ ทั้ง DOTA 2 / Overwatch / PUBG จะเห็นว่า CPU จะร้อนที่สุดที่ 82 องศาเซลเซียส และ GPU อยู่ที่ 74 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS VivoBook 15 X512FL เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีประมาณนึง ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก ASUS ที่ออกแบบมาค่อนข้างดี อีกทั้งตัวเครื่องที่ยกตัวขึ้นก็ช่วยระบายความร้อน รวมไปถึงชิปประมวลผลจาก Intel ก็ควบคุมความร้อนได้ดี ทำให้การใช้งานจริงยาวนานต่อเนื่องแทบไม่ได้สัมผัสถึงความร้อนเลย
Conclusion / Award
เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS VivoBook 15 X512FL จัดว่าเป็นรุ่นคู่ขนานกับ ASUS VivoBook 15 X512DA (ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3500U) มาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าไม่แพงของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับ ที่สำคัญเป็นโน๊ตบุ๊คในตลาดประเทศไทยที่ที่ทั้งแรงทั้งคุ้ม ที่สำคัญด้วยความที่ใช้ชิปประมวลผล Core i5-8265U และการ์ดจอเป็น GeForce MX250 ทำให้พอที่จะเล่นเกมได้บ้าง
ทางด้านราคา ASUS VivoBook 15 X512FL ถือว่าถูกมากๆ ทำให้จับต้องจับจองได้ง่ายๆ สนนราคาที่ 20,990 บาท (สูงกว่า DA 4,000 บาท) ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องดีไซน์การออกแบบ ErgoLift ยกตัวเอียงให้สูงขึ้น เรียกว่ายกฟีเจอร์จากรุ่นพี่มาเลย และด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กขอบจอบางเทียบและมีหน้าจอขนาด 14″ แต่มีขนาดบอดี้ น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.75 กิโลกรัม ที่แม้ว่าอาจจะไม่เบาสุดๆ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่นำไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบายๆ แบตใช้งานพอได้นานสูงสุดที่ประมาณ 3 ชั่วโมงด้วย แทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์เลยก็ยังได้ (หรือจะพกก็เบามากๆ)
สรุปแล้ว ASUS VivoBook 15 X512FL ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ในช่วงราคานี้ เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงเหมาะกับการทำงานและพกพา ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง ชิปประมวลผลเป็น Core i5-8265U พร้อมการ์ดจอแยก GeForce MX250 ที่ได้แรมมาให้ 8GB โดยสามารถอัพเกรดได้สูงสุด 20GB (ถ้าใส่ 16GB แทนที่ 4GB เดิม)
รวมไปถึงมี SSD ความเร็วสูงมาตรฐาน NVMe M.2 ความจุ 512GB พร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที เหมาะกับคนต้องการโน๊ตบุ๊คใช้งานพื้นฐานทั่วไป รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติออนไลน์บ้าง พอที่จะใช้เป็นเครื่องหลัก แบบใช้เครื่องนี้เครื่องเดียวได้อยู่ แม้ประสิทธิภาพไม่แรงเท่าพวก Gaming Notebook แต่ถ้างานเอกสาร เล่นเน็ต ดูหนังฟังเพลง สบายๆ ลื่นไหลอยู่
ASUS VivoBook 15 X512FL มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกัน อาทิ สีเงิน (Transparent Silver), สีเทา (Slate Grey), สีแดงแสด (Coral Crush), สีน้ำเงิน (Peacock Blue) เหมาะมากๆ กับนักเรียนนักศึกษา หรือคนทำงานออฟฟิศ ไว้ใช้งานนอกสถานที่ เอาไปทำงานทั่วไปเอกสาร เล่นอินเตอร์ ดูหนังฟังเพลง รวมถึงเอาไปทำงานหนักๆ แบบตัดต่อวีดีโอก็ยังได้ ประสิทธิภาพโดยรวมดูดีกว่า DA เพราะมีการ์ดจอแยก ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คบางๆ เบาๆ ที่คุ้มค่าที่สุด งบ 20,000 บาท บวกจากรุ่น DA มา 4,000 บาท จัดได้เลยไม่ต้องคิดมากถ้านำมาเล่นเกมบ้างนิดหน่อย
โดยการรับประกันก็ตามมาตรฐานของ ASUS ที่แม้ว่าจะไม่ On-site Service อย่างหลายๆ แบรนด์ แต่ก็สามารถเคลมผ่านทาง 7-11 ได้สะดวกไม่แพ้กัน รวมไปถึงในปีแรกแค่เราลงทะเบียนก็จะได้ประกันอุบัติเหตุในปีแรก อย่าง Perfect Warranty แล้ว
จุดเด่น
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 14″
- น้ำหนักเบา วัสดุดี ดูแล้วหรูหราเกินราคา
- ดีไซน์พิเศษบานพับ ErgoLift Hinge ช่วยให้ใช้งานดีขึ้น
- ขอบจอบางเฉียบด้วย เทคโนโลยี Nano Edge บางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
- ใช้งานจริงลื่นไหลแบบสุดๆ ด้วย Core i5-8265U + GeForce MX250 เล่นเกมพอได้
- หน่วยความจำRAM 8GB แบบ 4GB ออนบอร์ด และ 4GB อีกแถว ใช้งานได้ทันที
- ได้ที่เก็ยข้อมูลเป็น SSD ความจุสูง 512GB แถมความเร็วสูงด้วย
- รองรับการอัพเกรดแรมได้ 1 แถว สูงสุด 20GB (ถอด 4GB เดิมออก)
- มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งานทันที
- ประกัน 2 ปีเคลมผ่าน 7-11 ได้ พร้อมประกันอุบัติเหตุ 1 ปีแรก
- มีให้เลือก 4 สีสัน ตามสไตล์การใช้งาน
ข้อสังเกต
- ประสิทธิภาพเหมาะกับการใช้งานพื้นฐานทั่วไปเป็นหลัก
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 3 ชั่วโมง (DA 10 ชั่วโมง)
- ราคาสูงกว่า DA ที่ 4,000 บาท
- หน้าจอถ้าเป็นพาเนล IPS จะดีมากๆ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ด้วยกัน ซึ่ง ASUS VivoBook 15 X512FL ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Value
ASUS VivoBook 15 X512FL ที่เป็นโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6″ Full HD สายทำงานบางเบาคุ้มค่ารุ่นใหม่ โดยมีราคาที่ 20,990 บาท ได้สเปกใหม่ล่าสุด อย่างชิปประมวลผล Core i5-8265U การ์ดจอเป็น GeForce MX250 ที่ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดี เล่นเกม 3 มิติก็ยังพอได้บ้าง นอกจากนี้ยังได้ RAM ขนาด 8GB อัพเกรดได้สูงสุด 20GB พร้อม SSD ความจุ 512GB มาในตัว และระบบปฏิบัติการ Windows 10 พร้อมใช้งานทันที
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ ASUS VivoBook 15 X512FL อยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางและน้ำหนักเบาเพียง 1.75 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ VivoBook มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน ASUS VivoBook 15 X512FL ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโดดเด่น ให้มิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการสีสันให้เลือกถึง 4 เฉด ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนส่วนมากต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน